โยอาบห้ามดาวิด
1มีคนบอกโยอาบว่า “ดูเถิด กษัตริย์กำลังร้องไห้และร้องคร่ำครวญถึงอับซาโลม”
2ดังนั้นชัยชนะของวันนั้นกลายเป็นการร้องคร่ำครวญของทหารทั้งปวง เพราะเขาได้ยินในวันนั้นว่า “กษัตริย์กำลังเศร้าโศกถึงบุตรของท่าน”
3พวกทหารจึงแอบกลับเข้าไปในเมืองอย่างเงียบๆ ราวกับคนที่อับอายเมื่อหนีศึกและแอบกลับมา
4กษัตริย์ปิดหน้าและร้องส่งเสียงดังว่า “โอ อับซาโลมบุตรของเรา บุตรของเรา อับซาโลมเอ๋ย บุตรของเรา”
5โยอาบเข้าไปในที่พักของกษัตริย์ และพูดว่า “วันนี้ท่านทำให้ข้ารับใช้ของท่านทุกคนได้รับความอับอาย วันนี้พวกเขาช่วยชีวิตท่าน ชีวิตบุตรชายและบุตรหญิง ชีวิตภรรยาและภรรยาน้อยของท่าน
6เพราะว่าท่านรักผู้ที่เกลียดชังท่าน และเกลียดชังผู้ที่รักท่าน เพราะว่าวันนี้ท่านทำให้เห็นชัดแล้วว่า เหล่าผู้บังคับบัญชาและทหารรับใช้ไม่มีความหมายสำหรับท่าน เพราะในวันนี้ข้าพเจ้าทราบว่า ถ้าอับซาโลมยังมีชีวิตอยู่ และพวกเราทุกคนตายไปในวันนี้ ท่านก็จะพอใจ
7ฉะนั้นบัดนี้ โปรดลุกขึ้น ออกไปกล่าวให้กำลังใจพวกทหารรับใช้ของท่าน เพราะข้าพเจ้าสาบานในพระนามของพระผู้เป็นเจ้าว่า ถ้าท่านไม่ไป จะไม่มีชายสักคนเดียวที่จะอยู่กับท่านในคืนนี้ และเรื่องนี้จะทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากยิ่งกว่าความวิบัติที่ท่านเคยพบ นับจากเวลาที่ท่านเป็นหนุ่มจนถึงบัดนี้”
8แล้วกษัตริย์ก็ลุกขึ้น และไปนั่งที่ประตูเมือง และบรรดาทหารทั้งปวงได้ยินว่า “ดูเถิด กษัตริย์กำลังนั่งอยู่ที่ประตูเมือง” พวกเขาจึงมาเข้าเฝ้ากษัตริย์
ดาวิดกลับไปยังเยรูซาเล็ม
ในขณะเดียวกันชายชาวอิสราเอลทุกคนก็หนีไปยังบ้านของตน
9ประชาชนต่างก็ถกเถียงกันว่า “กษัตริย์ดาวิดช่วยพวกเราให้พ้นจากมือของศัตรู และช่วยพวกเราให้พ้นจากมือของชาวฟีลิสเตีย และบัดนี้ท่านได้หนีอับซาโลม และออกไปจากแผ่นดิน
10แต่อับซาโลมผู้ที่เราเจิมให้เป็นผู้นำพวกเรา ก็สิ้นชีวิตในสงคราม แล้วทำไมเวลานี้ พวกท่านจึงไม่พูดถึงเรื่องที่จะนำกษัตริย์กลับมาบ้างเลย”
11กษัตริย์ดาวิดให้คนไปบอกศาโดกและอาบียาธาร์ปุโรหิตว่า “จงถามบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของยูดาห์ว่า ‘ทำไมท่านจึงเป็นคนสุดท้ายที่จะเชิญกษัตริย์กลับวังของท่าน เมื่อคำพูดของชาวอิสราเอลทั้งปวงได้มาถึงกษัตริย์แล้ว
12ท่านเป็นพี่น้องร่วมชาติของเรา เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกับเรา แล้วทำไมท่านจึงเป็นคนสุดท้ายที่จะเชิญกษัตริย์กลับมา’
13และจงบอกอามาสาว่า ‘ท่านไม่ได้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเราหรือ ขอให้พระเจ้ากระทำต่อเราเช่นนั้น หรือมากกว่านั้น ถ้าหากว่าท่านไม่ได้เป็นผู้บังคับกองพันทหารของเราแทนโยอาบตั้งแต่นี้ไป’”
14และท่านได้ชนะใจชาวยูดาห์อย่างพร้อมเพรียง พวกเขาจึงไปเรียนกษัตริย์ว่า “ขอเชิญท่านและทหารรับใช้ทั้งปวงของท่านกลับมา”
15ดังนั้นกษัตริย์จึงกลับมายังแม่น้ำจอร์แดน และชาวยูดาห์ก็ได้มาที่เมืองกิลกาลเพื่อต้อนรับกษัตริย์และเชิญท่านข้ามแม่น้ำจอร์แดน
ดาวิดให้อภัยศัตรู
16ฝ่ายชิเมอีบุตรของเก-ราชาวเบนยามินจากบาฮูริม ก็รีบลงมากับพวกผู้ชายชาวยูดาห์ เพื่อพบกับกษัตริย์ดาวิด
17พวกที่มาด้วยก็มีชายชาวเบนยามิน 1,000 คน และศิบาผู้รับใช้จากพงศ์พันธุ์ของซาอูลก็มาพร้อมกับบุตรชาย 15 คน และผู้รับใช้ 20 คน ต่างก็รีบลงมายังแม่น้ำจอร์แดนเพื่อมาหากษัตริย์
18พวกเขาได้ข้ามเขตลำน้ำที่ลุยข้ามได้ และพาทั้งครัวเรือนของกษัตริย์ข้ามมาเพื่อเป็นที่พอใจของท่าน และชิเมอีบุตรของเก-ราก้มตัวลง ณ เบื้องหน้ากษัตริย์ ขณะที่ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดน
19และพูดกับกษัตริย์ว่า “ขอเจ้านายของข้าพเจ้าอย่าถือโทษข้าพเจ้า หรือจดจำสิ่งที่ข้ารับใช้กระทำผิดในวันที่เจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ต้องจากเยรูซาเล็มไป ขอกษัตริย์อย่านึกถึงเรื่องนั้นอีก19:19 2 ซามูเอล 16:5-13
20เพราะว่าข้าพเจ้าผู้รับใช้ของท่านทราบว่า ข้าพเจ้าได้กระทำบาปแล้ว ฉะนั้น ดูเถิด ในวันนี้ข้าพเจ้าเป็นคนแรกของพงศ์พันธุ์โยเซฟที่ลงมาพบเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์”
21อาบีชัยบุตรของนางเศรุยาห์ตอบว่า “สมควรมิใช่หรือที่ชิเมอีจะถูกสังหารที่กระทำเช่นนี้ เพราะว่าเขาสาปแช่งผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าเจิม”
22แต่ดาวิดตอบว่า “ไม่ใช่เรื่องของพวกท่านทั้งสอง บุตรของเศรุยาห์เอ๋ย ที่ท่านควรจะเป็นปฏิปักษ์กับเราในวันนี้ มีใครที่ควรจะถูกสังหารในอิสราเอลวันนี้หรือ เราไม่รู้หรือว่าวันนี้เราเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล”
23และกษัตริย์กล่าวกับชิเมอีว่า “เจ้าจะไม่ตาย” กษัตริย์ได้ให้คำสัญญาแก่เขา
24เมฟีโบเชทบุตรของซาอูลก็ลงมาพบกษัตริย์ ท่านไม่ได้ดูแลรักษาเท้า หรือขลิบเครา หรือซักเสื้อผ้า นับตั้งแต่กษัตริย์จากไปจนถึงวันที่ท่านกลับมาด้วยความปลอดภัย
25เมื่อเมฟีโบเชทมายังเยรูซาเล็มเพื่อต้อนรับกษัตริย์ กษัตริย์ถามว่า “เมฟีโบเชท ทำไมท่านจึงไม่ได้ไปกับเรา”
26ท่านตอบว่า “โอ เจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ ในเมื่อข้าพเจ้าผู้รับใช้ของท่านเป็นง่อย ข้าพเจ้าสั่งว่า ‘เราจะให้จัดการผูกอานลา เพื่อจะขี่ไปกับกษัตริย์’ แต่ศิบาผู้รับใช้ของข้าพเจ้ากลับทรยศข้าพเจ้า
27เขาได้ว่าร้ายข้าพเจ้าต่อเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ แต่ว่าเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์เป็นดั่งทูตสวรรค์ของพระเจ้า ฉะนั้นขอให้ท่านกระทำตามที่เห็นสมควรเถิด
28เพราะว่าพงศ์พันธุ์ของบิดาข้าพเจ้ามีแต่คนที่สมควรจะตาย ณ เบื้องหน้าเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ แต่ท่านให้ข้าพเจ้าข้ารับใช้ของท่านนั่งร่วมโต๊ะรับประทานกับท่านด้วย ข้าพเจ้าจะมีสิทธิ์เรียกร้องสิ่งใดจากกษัตริย์เกินกว่านี้ได้เล่า”
29กษัตริย์กล่าวว่า “พูดถึงเรื่องของท่านอีกทำไม เราได้ตัดสินใจแล้วว่า ท่านและศิบาจะแบ่งที่ดินกัน”19:29 2 ซามูเอล 16:4
30เมฟีโบเชทพูดกับกษัตริย์ว่า “โอ ให้เขารับไปหมดเถิด ในเมื่อเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ได้กลับมาบ้านด้วยความปลอดภัยแล้ว”
31ฝ่ายบาร์ซิลลัยชาวกิเลอาดได้ลงมาจากโรเกลิม และได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปกับกษัตริย์ เพื่อส่งท่านให้เดินทางต่อไปจากที่นั่น
32บาร์ซิลลัยเป็นคนชรา มีอายุ 80 ปี ท่านจัดหาอาหารให้กษัตริย์ขณะที่ท่านพักอยู่ที่มาหะนาอิม เพราะเป็นคนมั่งมีมาก
33กษัตริย์กล่าวกับบาร์ซิลลัยว่า “มากับเราเถิด แล้วเราจะดูแลท่านในเยรูซาเล็ม”
34แต่บาร์ซิลลัยเรียนกษัตริย์ว่า “ข้าพเจ้ายังจะมีชีวิตอยู่อีกกี่ปี ที่ข้าพเจ้าควรขึ้นไปยังเยรูซาเล็มกับกษัตริย์
35เวลานี้ข้าพเจ้ามีอายุ 80 ปี ข้าพเจ้าจะทราบได้หรือว่าอะไรคือความสำราญ และอะไรไม่ใช่ ข้าพเจ้าจะลิ้มรสสิ่งที่รับประทานและดื่มได้หรือ ข้าพเจ้ายังจะฟังเสียงร้องเพลงของชายและหญิงได้หรือ แล้วทำไมข้าพเจ้าควรจะเป็นภาระเพิ่มแก่เจ้านายผู้เป็นกษัตริย์
36ข้าพเจ้าจะข้ามแม่น้ำไปกับกษัตริย์เพียงระยะสั้นๆ ไฉนกษัตริย์จึงทดแทนข้าพเจ้าด้วยรางวัลเช่นนี้
37โปรดให้ข้าพเจ้ากลับไปเถิด ให้ข้าพเจ้าตายในเมืองข้าพเจ้าเอง ใกล้ๆ กับที่ฝังศพบิดาและมารดาข้าพเจ้า นี่ก็คิมฮามให้เป็นผู้รับใช้ของท่าน ให้เขาข้ามไปกับเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์เถิด และท่านจะให้เขารับใช้สิ่งใดก็ตามที่ท่านเห็นสมควร”
38กษัตริย์ตอบว่า “คิมฮามจะข้ามไปกับเรา และเราจะให้เขารับใช้ตามที่ท่านเห็นสมควร และทุกสิ่งที่ท่านต้องการ เราก็จะกระทำเพื่อท่าน”
39ครั้นแล้วพรรคพวกของดาวิดก็ข้ามแม่น้ำจอร์แดน และกษัตริย์ข้ามไป ท่านจูบแก้มบาร์ซิลลัยและให้พร และบาร์ซิลลัยจึงกลับไปบ้านของท่าน
40กษัตริย์เดินทางต่อไปยังกิลกาล คิมฮามก็ตามท่านไปด้วย ทหารของยูดาห์ทั้งหมดและทหารจำนวนครึ่งหนึ่งของอิสราเอลด้วยที่นำกษัตริย์เดินทางต่อไป
41และทหารอิสราเอลทุกคนก็มาหากษัตริย์และพูดกับท่านว่า “เหตุใดพี่น้องร่วมชาติของพวกเราจากยูดาห์ได้ลักพากษัตริย์ไป และนำท่านกับครัวเรือนของท่านข้ามแม่น้ำจอร์แดน และพรรคพวกของท่านก็มาด้วย”
42ชาวยูดาห์ตอบชาวอิสราเอลว่า “เพราะว่ากษัตริย์เป็นญาติสนิทของพวกเรา ทำไมท่านจึงโกรธเรื่องนี้ด้วย พวกเราให้กษัตริย์เสียค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารการกินหรือ และกษัตริย์ท่านประทานสิ่งใดให้พวกเราหรือ”
43ชาวอิสราเอลตอบชาวยูดาห์ว่า “พวกเรามีสิทธิ์ในกษัตริย์มากกว่าพวกท่านถึง 10 เท่า และในดาวิดมากยิ่งกว่าพวกท่านด้วย แล้วทำไมท่านจึงดูหมิ่นเรา เราเป็นพวกแรกที่พูดถึงการนำกษัตริย์ของเรากลับมามิใช่หรือ” แต่คำพูดของชาวยูดาห์รุนแรงยิ่งกว่าคำพูดของชาวอิสราเอล
New Thai Version Foundation