逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - เราคิดอยู่ในใจเหมือนว่าเราถูกตัดสินให้ประหารชีวิตแล้ว แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นก็เพื่อเราจะได้ไม่พึ่งตนเอง แต่พึ่งพระเจ้าผู้ทำให้คนตายฟื้นขึ้นมา
- 新标点和合本 - 自己心里也断定是必死的,叫我们不靠自己,只靠叫死人复活的 神。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 自己心里也断定是必死无疑,这是要使我们不依靠自己,只依靠使死人复活的上帝。
- 和合本2010(神版-简体) - 自己心里也断定是必死无疑,这是要使我们不依靠自己,只依靠使死人复活的 神。
- 当代译本 - 我们心里觉得必死无疑,这使我们不倚靠自己,只倚靠使死人复活的上帝。
- 圣经新译本 - 而且断定自己是必死的了;然而,这正是要我们不倚靠自己,只倚靠那叫死人复活的 神。
- 中文标准译本 - 然而我们在自己里面已经承受了死亡的判决,好让我们不依靠自己,而依靠那使死人复活的神。
- 现代标点和合本 - 自己心里也断定是必死的,叫我们不靠自己,只靠叫死人复活的神。
- 和合本(拼音版) - 自己心里也断定是必死的,叫我们不靠自己,只靠叫死人复活的上帝。
- New International Version - Indeed, we felt we had received the sentence of death. But this happened that we might not rely on ourselves but on God, who raises the dead.
- New International Reader's Version - In fact, we felt as if we were under the sentence of death. But that happened so that we would not depend on ourselves but on God. He raises the dead to life.
- English Standard Version - Indeed, we felt that we had received the sentence of death. But that was to make us rely not on ourselves but on God who raises the dead.
- New Living Translation - In fact, we expected to die. But as a result, we stopped relying on ourselves and learned to rely only on God, who raises the dead.
- Christian Standard Bible - Indeed, we felt that we had received the sentence of death, so that we would not trust in ourselves but in God who raises the dead.
- New American Standard Bible - Indeed, we had the sentence of death within ourselves so that we would not trust in ourselves, but in God who raises the dead,
- New King James Version - Yes, we had the sentence of death in ourselves, that we should not trust in ourselves but in God who raises the dead,
- Amplified Bible - Indeed, we felt within ourselves that we had received the sentence of death [and were convinced that we would die, but this happened] so that we would not trust in ourselves, but in God who raises the dead.
- American Standard Version - yea, we ourselves have had the sentence of death within ourselves, that we should not trust in ourselves, but in God who raiseth the dead:
- King James Version - But we had the sentence of death in ourselves, that we should not trust in ourselves, but in God which raiseth the dead:
- New English Translation - Indeed we felt as if the sentence of death had been passed against us, so that we would not trust in ourselves but in God who raises the dead.
- World English Bible - Yes, we ourselves have had the sentence of death within ourselves, that we should not trust in ourselves, but in God who raises the dead,
- 新標點和合本 - 自己心裏也斷定是必死的,叫我們不靠自己,只靠叫死人復活的神。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 自己心裏也斷定是必死無疑,這是要使我們不依靠自己,只依靠使死人復活的上帝。
- 和合本2010(神版-繁體) - 自己心裏也斷定是必死無疑,這是要使我們不依靠自己,只依靠使死人復活的 神。
- 當代譯本 - 我們心裡覺得必死無疑,這使我們不倚靠自己,只倚靠使死人復活的上帝。
- 聖經新譯本 - 而且斷定自己是必死的了;然而,這正是要我們不倚靠自己,只倚靠那叫死人復活的 神。
- 呂振中譯本 - 自己心裏也已斷定必死。這是要使我們不倚靠自己,乃倚靠那叫死人活起來的上帝。
- 中文標準譯本 - 然而我們在自己裡面已經承受了死亡的判決,好讓我們不依靠自己,而依靠那使死人復活的神。
- 現代標點和合本 - 自己心裡也斷定是必死的,叫我們不靠自己,只靠叫死人復活的神。
- 文理和合譯本 - 自擬必死、致不自恃、惟恃起死者之上帝、
- 文理委辦譯本 - 自擬必死、所以我不恃己、惟恃甦人之上帝、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 自擬必死、致我不恃己、惟恃使死者復活之天主、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 然吾人之所以被處於絕境、以至於自分必死者、乃欲吾人勿恃本身之力量、而恃起死回生之天主耳。
- Nueva Versión Internacional - nos sentíamos como sentenciados a muerte. Pero eso sucedió para que no confiáramos en nosotros mismos, sino en Dios, que resucita a los muertos.
- 현대인의 성경 - 우리 마음에는 사형 선고를 받은 것 같은 느낌이 들었지만 이런 일이 일어난 것은 우리가 우리 자신을 의지하지 않고 죽은 사람을 다시 살리시는 하나님을 의지하도록 하기 위한 것입니다.
- Новый Русский Перевод - Казалось, что мы уже получили смертный приговор, но так было для того, чтобы мы научились полагаться не на себя, а на Бога, Который воскрешает мертвых.
- Восточный перевод - Казалось, что мы уже получили смертный приговор, но так было для того, чтобы мы научились полагаться не на себя, а на Всевышнего, Который воскрешает мёртвых.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Казалось, что мы уже получили смертный приговор, но так было для того, чтобы мы научились полагаться не на себя, а на Аллаха, Который воскрешает мёртвых.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Казалось, что мы уже получили смертный приговор, но так было для того, чтобы мы научились полагаться не на себя, а на Всевышнего, Который воскрешает мёртвых.
- La Bible du Semeur 2015 - Nous avions accepté en nous-mêmes notre condamnation à mort. Cela nous a appris à ne pas mettre notre confiance en nous-mêmes, mais uniquement en Dieu qui ressuscite les morts.
- リビングバイブル - 死を覚悟し、自分の無力さを痛いほど思い知らされました。しかし、それがよかったのです。というのは、そんな状態の中で、何もかも神にお任せしたからです。死者を復活させることさえできるお方なのですから。
- Nestle Aland 28 - ἀλλ’ αὐτοὶ ἐν ἑαυτοῖς τὸ ἀπόκριμα τοῦ θανάτου ἐσχήκαμεν, ἵνα μὴ πεποιθότες ὦμεν ἐφ’ ἑαυτοῖς ἀλλ’ ἐπὶ τῷ θεῷ τῷ ἐγείροντι τοὺς νεκρούς·
- unfoldingWord® Greek New Testament - ἀλλὰ αὐτοὶ ἐν ἑαυτοῖς τὸ ἀπόκριμα τοῦ θανάτου ἐσχήκαμεν, ἵνα μὴ πεποιθότες ὦμεν ἐφ’ ἑαυτοῖς, ἀλλ’ ἐπὶ τῷ Θεῷ, τῷ ἐγείροντι τοὺς νεκρούς;
- Nova Versão Internacional - De fato, já tínhamos sobre nós a sentença de morte, para que não confiássemos em nós mesmos, mas em Deus, que ressuscita os mortos.
- Hoffnung für alle - Unser Tod schien unausweichlich. Aber Gott wollte, dass wir uns nicht auf uns selbst verlassen, sondern auf ihn, der die Toten zu neuem Leben erweckt.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chúng tôi cảm thấy như bị lên án tử hình, nên không dám cậy mình, chỉ biết ủy thác mọi việc trong tay Đức Chúa Trời, Đấng khiến người chết sống lại.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - อันที่จริงเรารู้สึกในใจประหนึ่งว่าได้ถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ที่เป็นเช่นนี้ก็เพื่อเราจะไม่พึ่งตัวเอง แต่พึ่งพระเจ้าผู้ทรงให้คนตายเป็นขึ้น
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เรารู้สึกเหมือนว่าเราต้องโทษประหารชีวิต แต่นั่นก็เป็นไปเพื่อช่วยให้เราไม่วางใจในตัวเอง แต่วางใจในพระเจ้าผู้ทำให้คนตายฟื้นคืนชีวิต
- Thai KJV - ที่จริงเราคาดว่าเราถึงที่ตายแล้ว แต่ที่เป็นเช่นนี้ก็เพื่อมิให้เราไว้ใจในตนเอง แต่ให้ไว้ใจในพระเจ้าผู้ทรงโปรดให้คนทั้งปวงฟื้นจากความตาย
交叉引用
- เอเสเคียล 37:1 - ฤทธิ์อำนาจ ของพระยาห์เวห์ ได้มาอยู่บนตัวผม พระองค์ได้นำตัวผมออกมาจากในเมืองด้วยพระวิญญาณ ของพระยาห์เวห์ และวางผมลงกลางหุบเขา แห่งนั้น ที่มีกระดูกคนเต็มไปหมด
- เอเสเคียล 37:2 - พระองค์พาผมเดินไปรอบๆกองกระดูกเหล่านั้น ผมได้เห็นกระดูกมากมายมหาศาลในหุบเขานั้น ล้วนแต่เป็นกระดูกที่แห้งกรัง
- เอเสเคียล 37:3 - พระองค์ถามผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ กระดูกเหล่านี้จะมีชีวิตขึ้นมาอีกได้ไหม” ผมตอบว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต มีแต่พระองค์เท่านั้นที่รู้คำตอบ”
- เอเสเคียล 37:4 - แล้วพระองค์พูดกับผมว่า “ให้พูดแทนเรากับกระดูกเหล่านั้น ให้พูดกับพวกมันว่า ‘กระดูกแห้งเอ๋ย ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ให้ดี’
- เอเสเคียล 37:5 - นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดกับกระดูกเหล่านี้ ‘เราจะระบายลมหายใจ เข้าไปในตัวเจ้า และเจ้าจะมีชีวิตขึ้น
- เอเสเคียล 37:6 - เราจะติดเส้นเอ็นเข้ากับเจ้า และเอากล้ามเนื้อมาใส่ให้กับเจ้า และเอาผิวหนังมาห่อหุ้มเจ้าไว้ เราจะใส่ลมหายใจไว้ในตัวเจ้า และเจ้าจะกลับมีชีวิตขึ้นมา แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์’”
- เอเสเคียล 37:7 - ผมจึงทำตามคำสั่งที่ผมได้รับมา ในขณะที่ผมกำลังพูดแทนพระเจ้าอยู่นั้น ก็มีเสียงดัง “กรอกแกรกกรอกแกรก” ขึ้น และกระดูกทั้งหลายก็ต่อเข้าด้วยกันทีละชิ้นๆ
- เอเสเคียล 37:8 - ผมมองดู และเห็นเส้นเอ็นกับกล้ามเนื้อเริ่มปรากฏขึ้นบนกระดูกเหล่านั้น แล้วมีผิวหนังมาห่อหุ้มพวกมัน แต่พวกมันยังไม่มีลมหายใจ
- เอเสเคียล 37:9 - แล้วพระองค์พูดกับผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดแทนเราให้กับลมว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “ลมเอ๋ย พัดมาจากทั้งสี่ทิศเถิด ลมเอ๋ย ให้ลมหายใจกับผู้ที่ถูกฆ่าตายเหล่านี้เถิด เพื่อพวกเขาจะได้มีชีวิต”’”
- เอเสเคียล 37:10 - ผมจึงพูดตามที่พระองค์สั่งผม และลมหายใจก็เข้าสู่ร่างของคนเหล่านั้น พวกเขามีชีวิตและยืนขึ้นมาเป็นกองทัพขนาดใหญ่มหึมา
- เอเสเคียล 37:11 - พระองค์พูดกับผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ กระดูกเหล่านี้คือครอบครัวของชาวอิสราเอลทั้งหมด ชาวอิสราเอลชอบพูดว่า ‘กระดูกของพวกเราแห้งกรังไปแล้ว พวกเราสิ้นหวัง พวกเราโดนตัดขาดแล้ว’
- เอเสเคียล 37:12 - ดังนั้น ให้พูดแทนเรากับพวกเขาว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “ประชาชนของเราเอ๋ย เรากำลังจะเปิดหลุมฝังศพของพวกเจ้าและนำพวกเจ้าออกมา เราจะนำพวกเจ้ากลับคืนสู่แผ่นดินอิสราเอล
- เอเสเคียล 37:13 - ประชาชนของเราเอ๋ย เมื่อเราเปิดหลุมฝังศพของพวกเจ้าและนำพวกเจ้าออกมาจากหลุมเหล่านั้น เจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
- เอเสเคียล 37:14 - เราจะใส่พระวิญญาณของเราไว้ในพวกเจ้าและพวกเจ้าจะมีชีวิต เราจะวางพวกเจ้าไว้ในแผ่นดินของพวกเจ้าเอง แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่า เรา คือ ยาห์เวห์ เราได้ลั่นคำพูดไปแล้ว และเราก็จะทำตามนั้น”’” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
- 2 โครินธ์ 4:13 - ในพระคัมภีร์เขียนไว้ “เพราะผมเชื่อ ผมถึงพูด” เราก็เชื่อเหมือนกัน เราก็เลยพูด
- 2 โครินธ์ 4:14 - เพราะเรารู้ว่าพระเจ้าผู้ที่ทำให้พระเยซูเจ้าฟื้นขึ้นจากความตายจะทำให้เราฟื้นขึ้นจากความตายเช่นกัน และพระเจ้าก็จะนำเราและพวกคุณมาอยู่ต่อหน้าพระองค์
- โยบ 40:14 - ถ้าเจ้าทำได้ เราจะยินดีด้วยกับเจ้า ที่แขนขวาของเจ้าเองได้ให้ชัยชนะกับเจ้า
- เยเรมียาห์ 17:5 - พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้ “สิ่งเลวร้ายจะเกิดขึ้นกับคนที่ไว้วางใจในมนุษย์ด้วยกัน คนที่หวังพึ่งในกำลังของมนุษย์ คนที่ไม่ได้คิดถึงพระยาห์เวห์
- เยเรมียาห์ 17:6 - เขาจะเป็นเหมือนพุ่มไม้ในทะเลทราย ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเมื่อมีสิ่งที่ดีๆเกิดขึ้น เขาอาศัยอยู่ในที่แห้งแล้งในทะเลทราย ในแผ่นดินเค็มที่ไม่มีผู้อื่นอาศัยอยู่
- เยเรมียาห์ 17:7 - สิ่งที่ดีๆจะเกิดขึ้นกับคนที่ไว้วางใจในพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์เป็นความเชื่อมั่นของเขา
- เอเสเคียล 33:13 - ถ้าเราบอกกับคนดีว่า เขาจะมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน แต่เขาพึ่งในความดีของเขาและไปทำชั่ว เราจะไม่จดจำสิ่งดีๆที่เขาเคยทำ เขาจะตายเพราะความชั่วที่เขาได้ทำไป
- สดุดี 22:29 - คนเหล่านั้นที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง จะกินเลี้ยงกันและก้มกราบลงต่อหน้าพระองค์ ส่วนคนที่กำลังจะตายกลับไปสู่ผงธุลีดิน และแม้แต่คนเหล่านั้นที่ตายไปแล้วก็จะก้มกราบลงต่อหน้าพระเจ้าเหมือนกัน
- เยเรมียาห์ 9:23 - พระยาห์เวห์พูดว่า “อย่าให้คนฉลาด โอ้อวดสติปัญญาของตัวเอง อย่าให้คนแข็งแรง โอ้อวดความแข็งแกร่งของตัวเอง และอย่าให้คนรวย โอ้อวดความร่ำรวยของตัวเอง
- เยเรมียาห์ 9:24 - แต่ให้คนที่โอ้อวด โอ้อวดเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือ ให้เขาโอ้อวดว่าเขามีความเข้าใจและรู้จักเรา เขารู้ว่าเราคือยาห์เวห์ ผู้ที่มีความรักมั่นคง มีความยุติธรรม และมีความชอบธรรมในแผ่นดินนี้ และเขาก็รู้ว่าเราชอบใจในเรื่องพวกนี้” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้
- สุภาษิต 28:26 - คนที่ไว้วางใจในความคิดของตน คือคนโง่ แต่คนที่เดินตามสติปัญญาของครู จะปลอดภัย
- 2 โครินธ์ 12:7 - พระเจ้าได้เปิดเผยให้ผมได้เห็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหนือธรรมชาติ แต่เพื่อไม่ให้ผมหลงระเริง ผมได้รับหนามอยู่ในร่างกาย หนามนั้นคือทูตของซาตานที่มาคอยทรมานผม
- 2 โครินธ์ 12:8 - ผมก็วิงวอนต่อองค์เจ้าชีวิตถึงสามครั้งให้ช่วยเอาหนามนี้ออกไปจากผมที
- 2 โครินธ์ 12:9 - แต่พระองค์ก็บอกว่า “ความเมตตากรุณาของเรามีเพียงพอแล้วสำหรับเจ้า เมื่อเจ้าอ่อนแอฤทธิ์อำนาจของเราก็ทำงานได้อย่างเต็มที่” ดังนั้นผมจึงยินดีที่จะโอ้อวดถึงความอ่อนแอของผม เพื่อฤทธิ์เดชของพระคริสต์จะได้อยู่ในผม
- 2 โครินธ์ 12:10 - ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมอ่อนแอ ถูกดูหมิ่น เจอกับความทุกข์ยาก ถูกข่มเหงและเจอกับความยุ่งยากต่างๆเพื่อพระคริสต์ ผมก็ยินดี เพราะผมอ่อนแอเมื่อไหร่ เมื่อนั้นผมก็กลับเข้มแข็ง
- 2 โครินธ์ 4:7 - แต่เราเป็นเหมือนโถดินที่เก็บสมบัติอันล้ำค่านี้ไว้ข้างใน เพื่อให้เห็นว่าพลังวิเศษนี้มาจากพระเจ้า ไม่ใช่เรา
- ฮีบรู 11:19 - เพราะอับราฮัมถือว่าพระเจ้าสามารถทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้ อาจจะพูดได้ว่า เขาก็ได้รับอิสอัคกลับคืนมาจากความตาย
- ลูกา 18:9 - พระเยซูเล่าเรื่องเปรียบเทียบนี้ เพื่อสอนคนที่เชื่อมั่นในตัวเองเหลือเกินว่าทำตามใจพระเจ้า และชอบดูถูกคนอื่น พระองค์เล่าว่า
- สดุดี 44:5 - เราสามารถผลักดันคนเหล่านั้นให้ถอยล่นไปโดยพึ่งในพระองค์ เราเหยียบย่ำคนเหล่านั้นที่ลุกฮือขึ้นต่อต้านเราโดยพึ่งชื่อของพระองค์
- สดุดี 44:6 - ข้าพเจ้าไม่ได้ฝากความไว้วางใจไว้กับธนูของข้าพเจ้า และมันก็ไม่ใช่ดาบของข้าพเจ้าที่นำชัยชนะมาให้กับข้าพเจ้า
- สดุดี 44:7 - ข้าแต่พระองค์ พระองค์ทำให้เรามีชัย พระองค์ทำให้คนพวกนั้นที่เกลียดพวกเราอับอายขายหน้า
- 2 โครินธ์ 3:5 - ผมไม่ได้หมายความว่า ความสามารถที่เรามีนี้มาจากตัวเราเอง แต่มาจากพระเจ้าต่างหาก
- โรม 4:17 - เหมือนกับที่พระคัมภีร์ได้เขียนไว้ว่า “เราได้ทำให้เจ้าเป็นบรรพบุรุษของคนหลายชนชาติ” อับราฮัมเป็นบรรพบุรุษของเราต่อหน้าพระเจ้าที่ท่านไว้วางใจ เป็นพระเจ้าที่ทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาใหม่ และทำให้สิ่งที่ยังไม่เคยมีมาก่อนเกิดขึ้น
- โรม 4:18 - เมื่อพระเจ้าสัญญากับอับราฮัมว่าเขาจะได้เป็นบรรพบุรุษของคนหลายชนชาติ ท่านก็ไว้วางใจและมีความหวังอย่างเต็มที่ ทั้งๆที่คำสัญญานั้นเหลือเชื่อ แต่ในที่สุดท่านก็ได้เป็นบรรพบุรุษของคนหลายชนชาติจริงตามที่พระเจ้าบอกกับท่านว่า “ลูกหลานของเจ้าจะมีมากมายเหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้า”
- โรม 4:19 - ความไว้วางใจของอับราฮัมก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย ทั้งๆที่อับราฮัมรู้ว่าร่างกายของท่านหมดสภาพเหมือนตายแล้ว (เพราะท่านมีอายุประมาณหนึ่งร้อยปี) และท่านยังรู้อีกด้วยว่าครรภ์ของนางซาราห์เมียของท่านเป็นหมันเหมือนกับตายไปแล้ว
- โรม 4:20 - แต่อับราฮัมไม่เคยสงสัยในคำสัญญาของพระเจ้าเลย กลับมีความไว้วางใจมากขึ้น ซึ่งเป็นการให้เกียรติกับพระเจ้า
- โรม 4:21 - อับราฮัมเชื่ออย่างแน่วแน่ว่า พระเจ้าสามารถทำในสิ่งที่พระองค์ได้สัญญาไว้
- โรม 4:22 - “พระเจ้าจึงนับว่าความไว้วางใจของท่านนั้นเป็นสาเหตุเพียงพอที่จะยอมรับท่าน”
- โรม 4:23 - อย่างที่พระคัมภีร์เขียนไว้นั้น คำพูดเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของอับราฮัมเท่านั้น
- โรม 4:24 - แต่เกี่ยวกับพวกเราด้วย พระเจ้าจะนับว่าความไว้วางใจของเรานั้นเป็นสาเหตุเพียงพอที่จะยอมรับเราด้วย คือพวกเราที่ไว้วางใจในพระเจ้า ผู้ทำให้พระเยซูคริสต์เจ้าของเราฟื้นขึ้นจากความตาย
- โรม 4:25 - เป็นเพราะความผิดบาปของเรา พระเจ้าถึงได้มอบพระเยซูให้คนเอาไปฆ่า และพระเจ้าทำให้พระเยซูฟื้นขึ้นจากความตาย เพื่อเราจะได้เป็นคนที่พระองค์ยอมรับ