逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - จำไว้ให้ดี อย่าลืมว่าท่านเคยทำให้พระยาห์เวห์โกรธ ตอนที่อยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง พวกท่านไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์ตั้งแต่วันที่พวกท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์จนกระทั่งมาถึงที่นี่
- 新标点和合本 - 你当记念不忘,你在旷野怎样惹耶和华你 神发怒。自从你出了埃及地的那日,直到你们来到这地方,你们时常悖逆耶和华。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 你要记得,不要忘记,你在旷野怎样惹耶和华—你的上帝发怒。自从你出了埃及地的那日,直到你们来到这地方,你们常常悖逆耶和华。
- 和合本2010(神版-简体) - 你要记得,不要忘记,你在旷野怎样惹耶和华—你的 神发怒。自从你出了埃及地的那日,直到你们来到这地方,你们常常悖逆耶和华。
- 当代译本 - “要牢记你们在旷野怎样触怒你们的上帝耶和华。从你们离开埃及那天来到这里,你们屡屡背叛耶和华。
- 圣经新译本 - “你要记住,不可忘记,你在旷野怎样惹耶和华你的 神发怒;自从你出了埃及地的那天起,直到你们来到这地方,你们常是反抗耶和华的。
- 中文标准译本 - 你要记住,不要忘记你曾在旷野怎样惹怒耶和华你的神。从你们出埃及地的那天起,直到你们来到这地方,你们一直悖逆耶和华。
- 现代标点和合本 - 你当记念不忘,你在旷野怎样惹耶和华你神发怒。自从你出了埃及地的那日,直到你们来到这地方,你们时常悖逆耶和华。
- 和合本(拼音版) - 你当记念不忘,你在旷野怎样惹耶和华你上帝发怒。自从你出了埃及地的那日,直到你们来到这地方,你们时常悖逆耶和华。
- New International Version - Remember this and never forget how you aroused the anger of the Lord your God in the wilderness. From the day you left Egypt until you arrived here, you have been rebellious against the Lord.
- New International Reader's Version - Here is something you must remember. Never forget it. You made the Lord your God angry in the desert. You refused to obey him from the day you left Egypt until you arrived here.
- English Standard Version - Remember and do not forget how you provoked the Lord your God to wrath in the wilderness. From the day you came out of the land of Egypt until you came to this place, you have been rebellious against the Lord.
- New Living Translation - “Remember and never forget how angry you made the Lord your God out in the wilderness. From the day you left Egypt until now, you have been constantly rebelling against him.
- Christian Standard Bible - “Remember and do not forget how you provoked the Lord your God in the wilderness. You have been rebelling against the Lord from the day you left the land of Egypt until you reached this place.
- New American Standard Bible - Remember, do not forget how you provoked the Lord your God to anger in the wilderness; from the day that you left the land of Egypt until you arrived at this place, you have been rebellious against the Lord.
- New King James Version - “Remember! Do not forget how you provoked the Lord your God to wrath in the wilderness. From the day that you departed from the land of Egypt until you came to this place, you have been rebellious against the Lord.
- Amplified Bible - Remember [with remorse] and do not forget how you provoked the Lord your God to wrath in the wilderness; from the day you left the land of Egypt until you arrived in this place, you have been rebellious against the Lord.
- American Standard Version - Remember, forget thou not, how thou provokedst Jehovah thy God to wrath in the wilderness: from the day that thou wentest forth out of the land of Egypt, until ye came unto this place, ye have been rebellious against Jehovah.
- King James Version - Remember, and forget not, how thou provokedst the Lord thy God to wrath in the wilderness: from the day that thou didst depart out of the land of Egypt, until ye came unto this place, ye have been rebellious against the Lord.
- New English Translation - Remember – don’t ever forget – how you provoked the Lord your God in the desert; from the time you left the land of Egypt until you came to this place you were constantly rebelling against him.
- World English Bible - Remember, and don’t forget, how you provoked Yahweh your God to wrath in the wilderness. From the day that you left the land of Egypt until you came to this place, you have been rebellious against Yahweh.
- 新標點和合本 - 你當記念不忘,你在曠野怎樣惹耶和華-你神發怒。自從你出了埃及地的那日,直到你們來到這地方,你們時常悖逆耶和華。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 你要記得,不要忘記,你在曠野怎樣惹耶和華-你的上帝發怒。自從你出了埃及地的那日,直到你們來到這地方,你們常常悖逆耶和華。
- 和合本2010(神版-繁體) - 你要記得,不要忘記,你在曠野怎樣惹耶和華—你的 神發怒。自從你出了埃及地的那日,直到你們來到這地方,你們常常悖逆耶和華。
- 當代譯本 - 「要牢記你們在曠野怎樣觸怒你們的上帝耶和華。從你們離開埃及那天來到這裡,你們屢屢背叛耶和華。
- 聖經新譯本 - “你要記住,不可忘記,你在曠野怎樣惹耶和華你的 神發怒;自從你出了埃及地的那天起,直到你們來到這地方,你們常是反抗耶和華的。
- 呂振中譯本 - 你要記得,不可忘記:你在曠野怎樣惹了永恆主你的上帝的震怒;自從你出了 埃及 地那一天、到你們來到這地方,你們總是悖逆永恆主的。
- 中文標準譯本 - 你要記住,不要忘記你曾在曠野怎樣惹怒耶和華你的神。從你們出埃及地的那天起,直到你們來到這地方,你們一直悖逆耶和華。
- 現代標點和合本 - 你當記念不忘,你在曠野怎樣惹耶和華你神發怒。自從你出了埃及地的那日,直到你們來到這地方,你們時常悖逆耶和華。
- 文理和合譯本 - 當憶弗忘、爾在曠野、激爾上帝耶和華之怒、自出埃及至此、爾違逆耶和華、
- 文理委辦譯本 - 爾之前事、當憶弗忘、爾在曠野、干爾上帝耶和華震怒、自出埃及之日、越至於此、違逆耶和華。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 爾當記憶不忘、爾在曠野常干主爾天主震怒、自爾出 伊及 之日、迄至此時、爾常違逆主、
- Nueva Versión Internacional - »Recuerda esto, y nunca olvides cómo provocaste la ira del Señor tu Dios en el desierto. Desde el día en que saliste de Egipto hasta tu llegada aquí, has sido rebelde contra el Señor.
- 현대인의 성경 - “여러분은 광야에서 여러분의 하나님 여호와를 노엽게 하던 일을 잊지 말고 기억하십시오. 여러분은 이집트를 떠나온 날부터 지금까지 줄곧 여호와를 거역하였습니다.
- Новый Русский Перевод - Помни и никогда не забывай, как в пустыне ты вызывал против себя гнев Господа, своего Бога. Со дня, когда ты покинул Египет, и до тех пор, как вы пришли сюда, вы были мятежниками против Господа.
- Восточный перевод - Помните и никогда не забывайте, как в пустыне вы вызывали гнев Вечного, вашего Бога. Со дня, когда вы покинули Египет, и до вашего прихода сюда вы были мятежниками против Вечного.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Помните и никогда не забывайте, как в пустыне вы вызывали гнев Вечного, вашего Бога. Со дня, когда вы покинули Египет, и до вашего прихода сюда вы были мятежниками против Вечного.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Помните и никогда не забывайте, как в пустыне вы вызывали гнев Вечного, вашего Бога. Со дня, когда вы покинули Египет, и до вашего прихода сюда вы были мятежниками против Вечного.
- La Bible du Semeur 2015 - Rappelle-toi – et ne l’oublie jamais – combien tu as provoqué la colère de l’Eternel ton Dieu dans le désert : depuis le jour où vous êtes sortis du pays d’Egypte jusqu’à votre arrivée en ce lieu-ci, vous n’avez cessé de lui désobéir.
- リビングバイブル - あなたがたは、エジプトを出てから今まで、主を怒らせ通しだったではありませんか。どんなに主に逆らい続けてきたか忘れてはなりません。
- Nova Versão Internacional - “Lembrem-se disto e jamais esqueçam como vocês provocaram a ira do Senhor, o seu Deus, no deserto. Desde o dia em que saíram do Egito até chegarem aqui, vocês têm sido rebeldes contra o Senhor.
- Hoffnung für alle - Denkt nur daran und vergesst nie, wie ihr in der Wüste den Zorn des Herrn, eures Gottes, herausgefordert habt. Auf dem ganzen Weg von Ägypten bis hierher habt ihr euch gegen ihn aufgelehnt. ( 2. Mose 31,18–32,10.15‒18 )
- Kinh Thánh Hiện Đại - “Anh em còn nhớ—đừng bao giờ quên điều này—anh em đã cả gan khiêu khích Chúa Hằng Hữu, Đức Chúa Trời của anh em, trong hoang mạc. Từ ngày ra khỏi Ai Cập cho đến nay, anh em vẫn thường nổi loạn chống Ngài.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - จงระลึกเสมอและอย่าลืมที่ท่านเคยยั่วยุพระพิโรธของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในถิ่นกันดาร ตั้งแต่วันที่ท่านออกจากอียิปต์จนมาถึงที่นี่ ท่านกบฏขัดขืนองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอมา
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - จงจำไว้ และอย่าลืมว่าในถิ่นทุรกันดาร ท่านยั่วโทสะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน นับจากวันที่ท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ จนกระทั่งพวกท่านมาถึงที่แห่งนี้ ท่านก็ได้ขัดขืนพระผู้เป็นเจ้าเรื่อยมา
- Thai KJV - จงจำไว้และอย่าลืมเสียว่าพวกท่านได้กระทำให้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงพระพิโรธที่ในถิ่นทุรกันดาร ตั้งแต่วันที่ท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ กระทั่งท่านมาถึงที่นี่ ท่านมักกบฏต่อพระเยโฮวาห์อยู่
交叉引用
- กันดารวิถี 16:1 - โคราห์ ดาธาน อาบีรัม และโอน ได้ต่อต้านโมเสส โคราห์เป็นลูกชายของอิสฮาร์ อิสฮาร์เป็นลูกชายของโคฮาท โคฮาทเป็นลูกชายของเลวี ส่วนดาธานและอาบีรัมเป็นลูกชายของเอลีอับ โอนเป็นลูกชายของเปเลท ดาธาน อาบีรัมและโอนเป็นลูกหลานของรูเบน พวกเขาได้พาคนหลายคน
- กันดารวิถี 16:2 - ลุกขึ้นต่อต้านโมเสส พวกเขารวบรวมคนได้สองร้อยห้าสิบคนจากประชาชนชาวอิสราเอล พวกคนสองร้อยห้าสิบคนนี้เป็นผู้นำของชุมชน ที่ประชาชนเลือกขึ้นมา เป็นพวกคนที่มีชื่อเสียง
- กันดารวิถี 16:3 - พวกเขารวมตัวกันต่อต้านโมเสสและอาโรน พวกเขาพูดกับโมเสสและอาโรนว่า “พวกท่านหลงตัวเองเกินไปแล้ว เพราะประชาชนทั้งหมดนี้ ทุกคนเป็นคนพิเศษของพระยาห์เวห์ และพระยาห์เวห์ก็อยู่ท่ามกลางพวกเขา ทำไมท่านถึงต้องยกตัวเองขึ้นข่มประชาชนของพระยาห์เวห์ด้วย”
- กันดารวิถี 16:4 - เมื่อโมเสสได้ยินอย่างนั้น เขาก็ทรุดตัวกราบลงกับพื้นดิน
- กันดารวิถี 16:5 - แล้วพูดกับโคราห์และพรรคพวกของเขาว่า “พรุ่งนี้เช้าพระยาห์เวห์จะทำให้ท่านรู้ว่าใครเป็นของพระองค์และใครเป็นคนพิเศษ และพระองค์จะนำคนที่พิเศษนั้นมาอยู่ใกล้พระองค์ และคนที่พระองค์เลือก พระองค์ก็จะนำมาอยู่ใกล้พระองค์
- กันดารวิถี 16:6 - โคราห์ ทำอย่างนี้สิ ในวันพรุ่งนี้ ให้ท่านและพรรคพวกของท่านเอากระถางไฟมา
- กันดารวิถี 16:7 - และเอาไฟใส่เข้าไป แล้วใส่เครื่องหอมลงในนั้นต่อหน้าพระยาห์เวห์ในวันพรุ่งนี้ แล้วคนที่พระยาห์เวห์เลือกจะเป็นคนพิเศษของพระองค์ พวกท่านเลวีต่างหากที่หลงตัวเองไปแล้ว”
- กันดารวิถี 16:8 - โมเสสพูดกับโคราห์ว่า “ฟังให้ดีๆพวกชาวเลวีทั้งหลาย
- กันดารวิถี 16:9 - พวกท่านคิดว่ามันน้อยเกินไปใช่ไหม ที่พระเจ้าของชาวอิสราเอลได้แยกพวกท่านออกจากประชาชนชาวอิสราเอล เพื่อนำพวกท่านมาใกล้พระองค์ ให้มารับใช้ในเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์ และมายืนอยู่ต่อหน้าชุมชนเพื่อบริการพวกเขา
- กันดารวิถี 16:10 - พระยาห์เวห์ได้นำท่าน และพรรคพวกของท่าน ให้มาอยู่ใกล้พระองค์ แต่พวกท่านอยากจะเป็นนักบวชด้วย
- กันดารวิถี 16:11 - ดังนั้น ท่าน และพรรคพวกของท่าน จึงได้รวมตัวกันเพื่อต่อต้านพระยาห์เวห์ แล้วอาโรนทำผิดอะไร พวกท่านถึงได้บ่นต่อว่าเขา”
- กันดารวิถี 16:12 - โมเสสส่งคนไปเรียกดาธานและอาบีรัมลูกชายเอลีอับมา แต่พวกเขาบอกว่า “พวกเราจะไม่มา
- กันดารวิถี 16:13 - แค่นี้ยังไม่พออีกหรือ ที่ท่านนำพวกเราออกมาจากแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ เพื่อให้เรามาตายในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนี้ แล้วตอนนี้ท่านยังทำตัวเป็นเจ้านายเหนือพวกเราอีก
- กันดารวิถี 16:14 - นอกจากนั้น ท่านก็ยังไม่ยอมพาพวกเราเข้าไปในแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ แถมยังไม่ยอมให้ที่นาและไร่องุ่นกับพวกเราด้วย ท่านจะแหกตาพวกนี้ต่อไปอีกหรือ พวกเราจะไม่มา”
- กันดารวิถี 16:15 - โมเสสโกรธมาก เขาพูดกับพระยาห์เวห์ว่า “อย่าไปรับเครื่องบูชาของพวกเขาเลย ข้าพเจ้าไม่เคยทำผิดต่อพวกเขาเลย แม้แต่ลาซักตัวก็ไม่เคยเอาของเขามา”
- กันดารวิถี 16:16 - โมเสสพูดกับโคราห์ว่า “ท่านและพรรคพวกของท่านต้องมาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ในวันพรุ่งนี้ จะมีท่าน พรรคพวกของท่านและอาโรน
- กันดารวิถี 16:17 - พวกท่านแต่ละคนจะต้องเอากระถางไฟของท่านใส่เครื่องหอม แล้วแต่ละคนต้องนำกระถางไฟนั้นมาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ รวมทั้งหมดสองร้อยห้าสิบใบ ท่านและอาโรนก็ต้องนำกระถางไฟของตัวเองมาด้วย”
- กันดารวิถี 16:18 - ดังนั้นทุกคนได้นำกระถางไฟของตัวเองมา ใส่ถ่านที่ติดไฟอยู่ลงไปและใส่เครื่องหอมลงไป แล้วมายืนอยู่หน้าทางเข้าเต็นท์นัดพบพร้อมกับโมเสสและอาโรน
- กันดารวิถี 16:19 - โคราห์รวบรวมคนในชุมชนทั้งหมดให้มาต่อต้านพวกเขาที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ แล้วรัศมีของพระยาห์เวห์ ก็ปรากฏแก่คนทั้งชุมชน
- กันดารวิถี 16:20 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า
- กันดารวิถี 16:21 - “ถอยห่างจากชุมชนนี้ เราจะทำลายพวกมันทันที”
- กันดารวิถี 16:22 - โมเสสและอาโรนก้มกราบลงและพูดว่า “พระเจ้า พระองค์เป็นพระเจ้าเหนือวิญญาณของคนทั้งหมด เมื่อมีคนหนึ่งทำบาป พระองค์จะโกรธคนทั้งชุมชนหรือ”
- กันดารวิถี 16:23 - พระยาห์เวห์จึงพูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 16:24 - “ให้บอกกับคนในชุมชนว่า ‘ย้ายออกไปให้ห่างจากเต็นท์ของโคราห์ ดาธานและอาบีรัม’”
- กันดารวิถี 16:25 - โมเสสยืนขึ้นและตรงไปที่ดาธาน อาบีรัมและพวกผู้ใหญ่ของชาวอิสราเอลที่ติดตามเขา
- กันดารวิถี 16:26 - โมเสสบอกกับชุมชนว่า “ย้ายออกให้ห่างจากเต็นท์ของคนชั่วพวกนี้ และอย่าไปแตะต้องอะไรก็ตามที่เป็นของพวกเขา ไม่อย่างนั้น ท่านจะถูกทำลาย เพราะความบาปทั้งหมดของพวกเขา”
- กันดารวิถี 16:27 - ประชาชนจึงย้ายออกห่างจากเต็นท์ของโคราห์ ดาธานและอาบีรัม ตอนนี้ ดาธานและอาบีรัมได้ออกมายืนอยู่ที่ทางเข้าเต็นท์ของพวกเขา พร้อมกับลูกเมียและเด็กทารกของพวกเขา
- กันดารวิถี 16:28 - โมเสสพูดว่า “อย่างนี้พวกท่านจะได้รู้ว่า พระยาห์เวห์ได้ส่งเรามาทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ เราไม่ได้คิดพวกมันขึ้นมาเอง
- กันดารวิถี 16:29 - คือ ถ้าคนพวกนี้ตายธรรมดาๆเหมือนกับที่คนอื่นๆเขาตายกัน และถ้าเรื่องที่เกิดกับคนอื่นก็เกิดขึ้นกับพวกเขาด้วย แสดงว่าพระยาห์เวห์ไม่ได้ส่งเรามา
- กันดารวิถี 16:30 - แต่ถ้าพระยาห์เวห์ทำในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ให้พื้นดินอ้าปากกลืนพวกเขาและทุกสิ่งที่เขามีลงไป และพวกนี้ถูกฝังทั้งเป็น แล้วท่านก็จะได้รู้ว่า พวกเขาได้ดูหมิ่นพระยาห์เวห์”
- กันดารวิถี 16:31 - เมื่อโมเสสพูดจบ พื้นดินที่อยู่ใต้คนพวกนั้นก็แยกออก
- กันดารวิถี 16:32 - มันเหมือนกับพื้นดินกำลังอ้าปากของมันและกลืนเอาคนพวกนั้น ครอบครัวของพวกเขาและคนของโคราห์ รวมทั้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขา
- กันดารวิถี 16:33 - พวกเขาจึงถูกฝังทั้งเป็นพร้อมสิ่งของของพวกเขา แล้วพื้นดินก็ปิดทับพวกเขาและพวกเขาก็หายไปจากชุมชน
- กันดารวิถี 16:34 - คนอิสราเอลอื่นๆที่อยู่รอบๆต่างวิ่งหนี เมื่อได้ยินเสียงร้องของพวกเขา คนเหล่านั้นพูดว่า “เดี๋ยวแผ่นดินจะกลืนพวกเราไปด้วย”
- กันดารวิถี 16:35 - พระยาห์เวห์ได้ส่งไฟลงมาทำลายสองร้อยห้าสิบคนที่กำลังบูชาเครื่องหอมอยู่
- 1 ทิโมธี 1:13 - ถึงแม้ว่าแต่ก่อนนี้ ผมเคยพูดดูหมิ่นพระองค์ ข่มเหงคนของพระองค์ และเป็นคนโหดร้าย แต่พระเจ้าก็ยังเมตตาผม เพราะเห็นว่าผมทำไปเพราะยังไม่เชื่อ และไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
- 1 ทิโมธี 1:14 - องค์เจ้าชีวิตของเราได้มอบความเมตตาพร้อมกับความเชื่อ และความรักที่มีอยู่ในพระเยซูคริสต์ให้กับผมอย่างล้นเหลือ
- 1 ทิโมธี 1:15 - คำพูดนี้เชื่อถือได้และคุ้มค่าที่จะรับเอาไว้ ซึ่งคำพูดนี้ก็คือ พระเยซูคริสต์ได้มาในโลกนี้เพื่อช่วยให้คนบาปหลุดพ้น และผมเองก็เลวที่สุดในพวกคนบาปนั้น
- สดุดี 78:8 - พวกเขาจะได้ไม่เป็นเหมือนบรรพบุรุษของพวกเขา ซึ่งเป็นรุ่นที่กบฏและไม่เชื่อฟัง ซึ่งใจของพวกเขาไม่ได้มั่นคงในพระเจ้า และจิตวิญญาณของพวกเขาไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
- สดุดี 78:9 - เช่น คนเอฟราอิมที่มีธนู พร้อมมือ แต่กลับวิ่งหนีในวันที่การสู้รบมาถึง
- สดุดี 78:10 - พวกเขาไม่ได้รักษาข้อตกลงที่ทำไว้กับพระเจ้า พวกเขาไม่ยอมทำตามกฎต่างๆของพระองค์
- สดุดี 78:11 - พวกเขาลืมสิ่งต่างๆที่พระองค์ทำไป คือสิ่งน่าทึ่งต่างๆที่พระองค์ทำให้พวกเขาเห็น
- สดุดี 78:12 - พระเจ้าทำสิ่งน่าทึ่งต่างๆต่อหน้าต่อตาบรรพบุรุษของพวกเขา ในแคว้นโศอันในแผ่นดินอียิปต์
- สดุดี 78:13 - พระเจ้าแหวกทะเลออกและนำพวกเขาเดินทะลุไป พระองค์ทำให้น้ำตั้งขึ้นเหมือนกำแพงทั้งสองข้าง
- สดุดี 78:14 - พระองค์นำทางพวกเขาด้วยเมฆในตอนกลางวัน และนำด้วยแสงไฟตลอดคืน
- สดุดี 78:15 - พระองค์ทุบหินในทะเลทรายแยกออก และน้ำก็ไหลพุ่งออกมามากมายให้พวกเขาดื่มเหมือนกับมาจากทะเลลึก
- สดุดี 78:16 - พระองค์ทำให้พวกลำธารไหลออกมาจากหินผา พระองค์ทำให้น้ำไหลเหมือนพวกแม่น้ำ
- สดุดี 78:17 - แต่พวกบรรพบุรุษยังคงทำบาปต่อพระองค์ต่อไป และกบฏต่อพระองค์ผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดในแผ่นดินที่แห้งแล้งนั้น
- สดุดี 78:18 - แล้วพวกเขาตั้งใจลองดีพระเจ้า พวกเขาขออาหารเพื่อสนองความอยากของตน
- สดุดี 78:19 - พวกเขาพูดต่อว่าพระเจ้าว่า “ในที่เปล่าเปลี่ยวอย่างนี้ พระเจ้าสามารถหาอาหารให้กับพวกเราได้หรือ
- สดุดี 78:20 - ถึงแม้พระองค์ทุบหินให้น้ำไหลออกมาจนล้นหุบเหวลึกได้ แต่พระองค์จะมีปัญญาหาอาหารมาให้ได้จริงๆหรือ พระองค์จะเอาเนื้อมาให้คนของพระองค์กินด้วยได้หรือ”
- สดุดี 78:21 - เมื่อพระยาห์เวห์ได้ยินอย่างนั้น พระองค์ก็โกรธ และไฟก็ปะทุขึ้นใส่คนของยาโคบ ความโกรธของพระองค์เผาอิสราเอล
- สดุดี 78:22 - เพราะพวกเขาไม่ได้ไว้วางใจในพระเจ้า และไม่เชื่อว่า พระองค์มีฤทธิ์ที่จะช่วยพวกเขาให้รอดได้
- สดุดี 78:23 - แล้วพระเจ้าก็ประกาศสั่งเมฆบนฟ้าเบื้องบน และพระองค์เปิดประตูท้องฟ้า
- สดุดี 78:24 - แล้วพระองค์ก็เทมานาลงมาให้พวกเขากิน พระองค์ให้อาหารทิพย์จากสวรรค์กับพวกเขา
- สดุดี 78:25 - คนพวกนี้พากันกินขนมปังของพวกเทพเจ้า พระองค์ให้อาหารพวกเขากินอย่างอิ่มหมีพีมัน
- สดุดี 78:26 - แล้วพระเจ้าก็ทำให้ลมจากทิศ-ตะวันออกเฉียงใต้พัดมาตรงที่พวกเขาอยู่ และให้ฝูงนกตกลงมาจากท้องฟ้า
- สดุดี 78:27 - พระองค์เทเนื้อลงบนพวกเขาอย่างพายุฝุ่น มีนกมากมายเหมือนเม็ดทรายที่ชายทะเล
- สดุดี 78:28 - นกพวกนี้ตกลงไปในค่าย รอบๆเต็นท์ของพวกเขา
- สดุดี 78:29 - พระเจ้าให้สิ่งที่พวกเขาอยากได้ และพวกเขาก็กินจนอิ่มตื้อ
- สดุดี 78:30 - แต่ในระหว่างที่เขายังกินอาหารที่อยากกินอยู่นั้น ขณะที่มันยังคาอยู่ในปาก
- สดุดี 78:31 - จู่ๆความโกรธของพระเจ้าก็พลุ่งขึ้นใส่พวกเขา พระองค์ฆ่าคนที่แข็งแรงที่สุดของพวกเขาบางคน พระองค์โค่นพวกคนหนุ่มที่ดีที่สุดของอิสราเอล
- สดุดี 78:32 - ขนาดเกิดเรื่องอย่างนี้แล้ว พวกเขาก็ยังคงทำบาป และยังไม่ยอมเชื่อในฤทธิ์อันน่าทึ่งของพระเจ้า
- สดุดี 78:33 - พระองค์ทำให้ชีวิตของพวกเขาจบลงอย่างล้มเหลว เดือนปีของเขาจบลงด้วยความหวาดกลัวและสั่นเทิ้ม
- สดุดี 78:34 - เมื่อไหร่ก็ตามที่พระเจ้าฆ่าคนเหล่านั้น คนที่เหลือก็จะมาขอความช่วยเหลือจากพระองค์ พวกเขาจะกลับมาหาพระองค์และแสวงหาพระเจ้าด้วยใจร้อนรน
- สดุดี 78:35 - พวกเขาจะระลึกได้ว่าพระเจ้าเป็นหินกำบังของพวกเขา พระเจ้าผู้สูงสุดเป็นผู้ที่ไถ่ชีวิตของพวกเขา
- สดุดี 78:36 - พวกเขาพยายามหลอกพระองค์ด้วยปาก และโกหกพระองค์ด้วยลิ้น
- สดุดี 78:37 - พวกเขาไม่จริงใจต่อพระเจ้า และไม่สัตย์ซื่อต่อข้อตกลงที่ทำไว้กับพระองค์
- สดุดี 78:38 - แต่พระเจ้านั้นมีความเมตตา พระองค์ลบความผิดของพวกเขาออกไป พระองค์ไม่ได้ทำลายล้างพวกเขา พระองค์ระงับความโกรธของพระองค์ไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า พระองค์ไม่ยอมกวนความโกรธของพระองค์ให้พลุ่งขึ้นมา
- สดุดี 78:39 - พระเจ้าระลึกอยู่เสมอว่าพวกเขาเป็นแค่มนุษย์ พวกเขาเป็นเหมือนกับลมที่พัดผ่านไปและไม่หวนกลับมาอีก
- สดุดี 78:40 - พวกเขากบฏต่อพระองค์หลายครั้งหลายคราในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนั้น พวกเขาทำให้พระองค์เสียใจในดินแดนนั้น
- สดุดี 78:41 - พวกเขาลองดีกับพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่า และทำให้องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลต้องเจ็บปวดใจ
- สดุดี 78:42 - พวกเขาไม่เคยจดจำฤทธิ์อำนาจของพระองค์ หรือจดจำวันที่พระองค์ช่วยกู้พวกเขาให้รอดพ้นจากศัตรู
- สดุดี 78:43 - หรือเวลาที่พระองค์ได้ทำการอัศจรรย์ในประเทศอียิปต์ หรือที่พระองค์ได้แสดงสิ่งน่าทึ่งต่างๆในแคว้นโศอัน
- สดุดี 78:44 - พระองค์เปลี่ยนแม่น้ำให้กลายเป็นเลือด พวกเขาจึงไม่สามารถดื่มน้ำจากลำธารได้
- สดุดี 78:45 - พระองค์ให้เหลือบมากัดพวกเขา และส่งกบทั้งหลายมาทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
- สดุดี 78:46 - พระองค์ยกพืชผลของพวกเขาให้กับตั๊กแตนวัยคลาน และยกผลผลิตของพวกเขาให้กับตั๊กแตนวัยบิน
- สดุดี 78:47 - พระองค์ทำให้ลูกเห็บตกลงมาทำลายเถาองุ่นของชาวอียิปต์ พระองค์ทำให้ฝนตกห่าใหญ่ทำลายผลมะเดื่อของพวกเขา
- สดุดี 78:48 - พระองค์ส่งลูกเห็บลงมาฆ่าฝูงวัวของพวกเขา และให้ฟ้าผ่าฝูงสัตว์ของเขา
- สดุดี 78:49 - พระองค์แสดงความเคืองแค้นอันร้อนแรงของพระองค์ต่อชนชาวอียิปต์ พระองค์ส่ง ความเกรี้ยวโกรธ ความเดือดดาล และความอาฆาตแค้นเป็นคณะทูตมาทำลายล้างพวกเขา
- สดุดี 78:50 - พระองค์ระบายความโกรธของพระองค์ออกมาอย่างเต็มที่ พระองค์ไม่ได้ไว้ชีวิตของชาวอียิปต์แต่กลับยกพวกเขาให้ตายด้วยโรคระบาด
- สดุดี 78:51 - พระเจ้าฆ่าลูกชายหัวปีทั้งหมดในอียิปต์ พระองค์ทำลายสิ่งที่พิสูจน์ถึงความเป็นชายของครอบครัวทั้งหลายของฮาม
- สดุดี 78:52 - แต่พระเจ้านำทางคนของพระองค์ออกจากที่นั่นเหมือนนำแกะ และพระองค์นำทางพวกเขาในที่เปล่าเปลี่ยวเหมือนนำฝูงสัตว์
- สดุดี 78:53 - พระเจ้านำพวกเขาสู่ความปลอดภัย พวกเขาจึงไม่ต้องหวาดกลัว เพราะพระเจ้าทำให้ศัตรูของพวกเขาถูกน้ำทะเลซัดกลบตายหมด
- สดุดี 78:54 - แล้วพระเจ้าก็นำพวกเขาไปถึงพรมแดนของแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ คือดินแดนแห่งเนินเขาที่พระองค์ยึดมาด้วยมือขวาอันทรงฤทธิ์ของพระองค์
- สดุดี 78:55 - แล้วพระองค์ก็ขับไล่ชนชาติต่างๆออกไปต่อหน้าคนของพระองค์ พระองค์แบ่งปันดินแดนนั้นให้กับเผ่าต่างๆของอิสราเอลและให้พวกเขาตั้งถิ่นฐานอยู่ในบ้านทั้งหลายของศัตรู
- สดุดี 78:56 - แต่พวกอิสราเอลก็ยังลองดีกับพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด กบฏต่อพระองค์และไม่ได้เชื่อฟังกฎทั้งหลายของพระองค์
- สดุดี 78:57 - ชาวอิสราเอลไม่จงรักภักดีและทรยศต่อพระเจ้า เหมือนกับที่บรรพบุรุษของพวกเขาเคยทำ พวกเขาเชื่อถือไม่ได้เหมือนคันธนูที่ใช้การไม่ได้
- สดุดี 78:58 - พวกเขาทำให้พระองค์โกรธด้วยการสร้างสถานศักดิ์สิทธิ์มากมาย และทำให้พระองค์หึงหวงด้วยการสร้างรูปเคารพมากมาย
- สดุดี 78:59 - เมื่อพระเจ้าได้ยินเรื่องเหล่านี้ พระองค์โกรธ และพระองค์ทอดทิ้งอิสราเอลอย่างสิ้นเชิง
- สดุดี 78:60 - พระองค์ละทิ้งเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ในเมืองชิโลห์ไป ซึ่งเคยเป็นที่สถิตของพระองค์ท่ามกลางมนุษย์
- สดุดี 78:61 - พระองค์ยอมปล่อยให้หีบอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ถูกยึดไป พระองค์ยอมปล่อยให้ศัตรูยึดเอาสัญลักษณ์แห่งฤทธิ์อำนาจและสง่าราศีของพระองค์ไป
- สดุดี 78:62 - พระองค์เกรี้ยวโกรธคนของพระองค์ และปล่อยให้คนของพระองค์ตายด้วยคมดาบ
- สดุดี 78:63 - พวกทหารหนุ่มถูกไฟเผาตายหมด และพวกสาวบริสุทธิ์ยังคงไม่ได้แต่งงาน
- สดุดี 78:64 - พวกนักบวชล้มตายด้วยคมดาบ แต่ภรรยาหม้ายของพวกเขาไม่สามารถไว้ทุกข์ได้ตามปกติ
- สดุดี 78:65 - แล้วองค์เจ้าชีวิตก็ตื่นขึ้นมาเหมือนคนที่เพิ่งตื่นนอน เหมือนกับนักรบที่เพิ่งตื่นขึ้นจากการเมาเหล้าองุ่น
- สดุดี 78:66 - พระองค์ตีเหล่าศัตรู ขับไล่พวกเขากลับไป และทำให้พวกเขาอับอายขายหน้าตลอดไป
- สดุดี 78:67 - แล้วพระองค์ทอดทิ้งครอบครัวของโยเซฟ และไม่ได้เลือกเผ่าของเอฟราอิม
- สดุดี 78:68 - แล้วพระองค์ก็เลือกเผ่ายูดาห์ขึ้นปกครอง และเลือกภูเขาศิโยนที่พระองค์รัก เป็นที่ตั้งของวิหาร
- สดุดี 78:69 - พระองค์สร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เหมือนกับภูเขาสูงต่างๆ เหมือนโลกนี้ที่พระองค์ตั้งให้อยู่ตลอดไป
- สดุดี 78:70 - พระองค์เลือกดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ และเอาเขาออกมาจากคอกแกะทั้งหลาย
- สดุดี 78:71 - พระองค์เอาดาวิดมาจากการติดตามดูแลแม่แกะและลูกของมัน มาเป็นผู้เลี้ยงยาโคบคนของพระองค์ และเป็นผู้เลี้ยงอิสราเอลสมบัติของพระองค์
- สดุดี 78:72 - ดาวิดดูแลพวกเขาด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ และนำพวกเขาด้วยมือที่ชำนาญยิ่ง
- เนหะมียาห์ 9:16 - แต่พวกบรรพบุรุษของพวกเราทำตัวเย่อหยิ่งจองหองและหัวแข็งดื้อรั้น พวกเขาไม่ยอมฟังคำสั่งต่างๆของพระองค์
- เนหะมียาห์ 9:17 - พวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังและพวกเขาไม่ได้จดจำ ถึงการอัศจรรย์ต่างๆของพระองค์ที่พระองค์ได้ทำไปท่ามกลางพวกเขา แต่พวกเขากลับหัวแข็งดื้อรั้นและได้แต่งตั้งหัวหน้าขึ้นมา เพื่อนำพวกเขากลับไปเป็นทาสในอียิปต์อีก แต่พระองค์เป็นพระเจ้าที่ให้อภัย มีใจเมตตาและกรุณา มีความอดทนและมีความรักอันมั่นคง ดังนั้นพระองค์จึงไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:18 - ถึงแม้พวกบรรพบุรุษของพวกเราจะหล่อโลหะรูปลูกวัวขึ้นมาสำหรับพวกเขาเอง และบอกว่า ‘นี่คือพระเจ้าของเจ้าที่นำเจ้าออกมาจากอียิปต์’ ถึงแม้การกระทำนี้จะดูหมิ่นพระองค์อย่างยิ่ง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 8:2 - ท่านต้องจดจำถึงการเดินทางในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งตลอดสี่สิบปีที่ผ่านมา ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้นำท่าน เพื่อท่านจะได้ถ่อมตัวลง พระองค์ได้ทดสอบท่าน เพื่อจะได้รู้ว่าท่านคิดอะไรอยู่ในใจ จะได้รู้ว่าท่านจะเชื่อฟังคำสั่งของพระองค์หรือไม่
- เอเสเคียล 16:61 - เมื่อเจ้าได้ครอบครองพวกพี่น้องเหล่านั้น ที่ใหญ่กว่าและเล็กกว่าเจ้า เจ้าจะรู้สึกอับอายเมื่อเจ้าคิดถึงสิ่งที่เจ้าได้ทำไปในอดีต ใช่แล้ว เราจะมอบพวกเขาให้กับเจ้าเพื่อจะได้เป็นลูกสาวของเจ้า สิ่งนี้ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงของเรากับเจ้า
- เอเสเคียล 16:62 - ตัวเราเองจะยืนยันข้อตกลงของเรากับเจ้าอีกครั้ง และเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
- เอเสเคียล 16:63 - เราจะทำดีกับเจ้า เพื่อเมื่อเจ้าคิดถึงสิ่งเลวร้ายต่างๆที่เจ้าได้ทำไป เจ้าจะได้อับอาย เมื่อเราลบล้างสิ่งทั้งหมดที่เจ้าได้ทำไป เจ้าจะอึ้งจนพูดไม่ออกเพราะอับอาย” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตได้พูดไว้ว่าอย่างนั้น
- เอเสเคียล 20:43 - ที่นั่นพวกเจ้าจะสำนึกผิดถึงการกระทำและวิถีทางที่ชั่วร้ายทั้งหลายของเจ้า ที่ทำให้เจ้าแปดเปื้อน แล้วเจ้าจะละอายใจ
- สดุดี 95:8 - “อย่าได้มีใจดื้อรั้นเหมือนกับที่บรรพบุรุษของเจ้าทำที่เมรีบาห์ และเหมือนกับในวันนั้นที่มัสสาห์ ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง
- สดุดี 95:9 - ที่นั่น พวกเขาลองดีกับเราและทดสอบเรา ทั้งๆที่พวกเขาเคยเห็นสิ่งที่เราทำไปแล้วก็ตาม
- สดุดี 95:10 - เราสะอิดสะเอียนคนรุ่นนั้นนานถึงสี่สิบปี เราว่า ‘คนพวกนั้นมีใจที่หลงผิดไป ไม่เคยเรียนรู้ทางต่างๆของเรา’
- สดุดี 95:11 - ดังนั้น ตอนที่เราโกรธ เราได้สาบานว่า ‘พวกเขาจะไม่มีวันได้เข้าไปในที่พักผ่อนของเราเลย’”
- 1 โครินธ์ 15:9 - เพราะผมต่ำต้อยที่สุดในพวกศิษย์เอกทั้งหมด ความจริงแล้วผมไม่เหมาะที่จะได้ชื่อว่าเป็นศิษย์เอกเสียด้วยซ้ำไป เพราะผมเคยข่มเหงหมู่ประชุมของพระเจ้ามาก่อน
- กันดารวิถี 20:2 - ที่นั่นไม่มีน้ำสำหรับชุมชน ดังนั้น พวกเขาจึงรวมตัวกันต่อต้านโมเสสและอาโรน
- กันดารวิถี 20:3 - ประชาชนมาถกเถียงกับโมเสสและพูดว่า “พวกเราน่าจะตายไปพร้อมๆกับพี่น้องของเรา ตอนที่พวกเขาตายไปต่อหน้าพระยาห์เวห์
- กันดารวิถี 20:4 - พวกท่านพาชุมชนของพระยาห์เวห์มาในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนี้ทำไม เพื่อเราและสัตว์ของเราจะได้ตายกันที่นี่หรือยังไง
- กันดารวิถี 20:5 - ท่านนำเราออกมาจากอียิปต์เพื่อมาอยู่ในที่ห่วยๆอย่างนี้ทำไม ที่นี่ไม่มีเมล็ดพืช มะเดื่อ องุ่นหรือทับทิม และแม้แต่น้ำจะดื่มก็ยังไม่มีเลย”
- เอเฟซัส 2:11 - คุณไม่ได้เกิดมาเป็นคนยิว พวกคนยิวที่เรียกตัวเองว่า “พวกเข้าพิธีขลิบ” ก็ได้เรียกพวกคุณว่า “พวกไม่ได้เข้าพิธีขลิบ”
- เอเสเคียล 36:31 - แล้วเจ้าจะได้รู้สึกตัวถึงวิถีทางอันเลวทรามและการกระทำที่ชั่วร้ายของเจ้า เจ้าจะรู้สึกขยะแขยงตัวเองเพราะบาปเหล่านั้นกับการทำตัวที่น่ารังเกียจนั้น”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:5 - พวกเจ้าไม่ได้เป็นลูกหลานของพระองค์ เพราะความผิดของพวกเจ้า พวกเจ้าได้ทำผิดต่อพระองค์ พวกคนหลอกลวงและเจ้าเล่ห์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:6 - พวกเจ้าจะตอบแทนพระยาห์เวห์ด้วยวิธีนี้หรือ พวกคนโง่และไร้สาระ พระองค์ไม่ใช่พ่อของเจ้าผู้ที่สร้างเจ้ามาหรือ พระองค์ไม่ใช่ผู้ที่สร้างเจ้าและทำให้เจ้าเกิดมาเป็นชนชาติหนึ่งหรือ
- กันดารวิถี 14:1 - พวกประชาชนต่างโห่ร้องเสียงดังและในคืนนั้นพวกเขาก็ร้องห่มร้องไห้กัน
- กันดารวิถี 14:2 - ประชาชนชาวอิสราเอลทั้งหมดบ่นต่อว่าโมเสสและอาโรน พวกเขาทั้งหมดพูดกับโมเสสและอาโรนว่า “น่าจะปล่อยให้พวกเราตายในแผ่นดินอียิปต์หรือไม่ก็ทิ้งให้พวกเราตายในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนี้
- กันดารวิถี 14:3 - พระยาห์เวห์พาพวกเรามาที่แผ่นดินนี้ เพื่อมาล้มตายด้วยดาบทำไมกัน แล้วเมียและลูกๆของพวกเราก็จะถูกจับไป อย่างนี้พวกเรากลับไปอียิปต์ไม่ดีกว่าหรือ”
- กันดารวิถี 14:4 - พวกเขาพูดกันว่า “ให้พวกเราเลือกหัวหน้าคนใหม่ มานำพวกเรากลับไปอียิปต์กันดีกว่า”
- กันดารวิถี 14:5 - โมเสสและอาโรนก้มลงกับพื้น ต่อหน้าชาวอิสราเอลที่ชุมนุมกันอยู่ที่นั่น
- กันดารวิถี 14:6 - โยชูวาลูกชายของนูนและคาเลบลูกชายเยฟุนเนห์ สองคนนี้ที่ได้ไปสำรวจดินแดนแห่งนั้นด้วย ทั้งสองคนก็โกรธฉีกเสื้อผ้า ของตนออก
- กันดารวิถี 14:7 - ทั้งสองพูดกับชาวอิสราเอลที่ชุมนุมกันอยู่ว่า “แผ่นดินที่พวกเราเดินทางเข้าไปสำรวจนั้นเป็นแผ่นดินที่ดีมากจริงๆ
- กันดารวิถี 14:8 - ถ้าพระยาห์เวห์พอใจพวกเรา พระองค์จะนำพวกเราเข้าในแผ่นดินนั้น และพระองค์จะยกแผ่นดินนั้นให้กับพวกเรา เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์
- กันดารวิถี 14:9 - ดังนั้น อย่าได้กบฏต่อพระยาห์เวห์เลย และไม่ต้องกลัวคนในแผ่นดินนั้นด้วย เพราะพวกมันเป็นเหยื่อของพวกเรา และสิ่งที่ป้องกันพวกมันก็ไม่มีแล้ว แต่พระยาห์เวห์อยู่กับพวกเรา อย่ากลัวพวกมันเลย”
- กันดารวิถี 14:10 - คนที่ชุมนุมกันนั้นขู่ว่าจะเอาหินขว้างเขาทั้งสอง แล้วรัศมีของพระยาห์เวห์ ก็ปรากฏขึ้นที่เต็นท์นัดพบ ต่อหน้าชาวอิสราเอลทั้งหมด
- กันดารวิถี 25:2 - หญิงชาวโมอับได้เชิญชาวอิสราเอลร่วมพิธีบูชาพระต่างๆของพวกเขา ดังนั้น ชาวอิสราเอลจึงกินเครื่องบูชาเหล่านั้นและได้บูชาพระต่างๆของชาวโมอับ
- อพยพ 17:2 - พวกเขามาโต้เถียงกับโมเสส และพูดว่า “หาน้ำให้เราดื่มซะ” โมเสสบอกพวกเขาว่า “พวกท่านมาโต้เถียงกับเราทำไม ทำไมพวกท่านถึงได้ลองดีกับพระเจ้า”
- กันดารวิถี 11:4 - พวกที่ชอบก่อปัญหา อยากได้อาหารที่ดีกว่านี้ และชาวอิสราเอลเองร้องไห้คร่ำครวญอีกครั้ง พวกเขาพูดว่า “ใครจะให้เนื้อเรากิน
- อพยพ 14:11 - พวกเขาพูดกับโมเสสว่า “ที่อียิปต์ไม่มีที่ที่จะฝังศพแล้วหรือยังไง เจ้าถึงได้พาให้พวกเรามาตายในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนี้ ดูสิว่าเจ้าได้ทำอะไรลงไป ที่เอาเราออกมาจากอียิปต์
- อพยพ 16:2 - ที่ชุมนุมทั้งหมดของอิสราเอล บ่นต่อว่าโมเสสกับอาโรนในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง
- กันดารวิถี 21:5 - พวกเขาพูดต่อว่าพระเจ้าและโมเสสว่า “ทำไมพวกท่านถึงทำให้เราต้องออกจากอียิปต์ เพื่อมาตายในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนี้ ที่นี่ไม่มีขนมปังและน้ำ และพวกเราก็เบื่ออาหารที่ห่วยๆนี้เต็มทนแล้ว”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 31:27 - เพราะเรารู้ดีว่า พวกท่านชอบแข็งข้อและหัวแข็ง นี่ขนาดเรายังมีชีวิตอยู่กับพวกท่าน พวกท่านยังแข็งข้อพระยาห์เวห์เลย แล้วถ้าเราตายไป พวกท่านจะยิ่งกว่านี้อีกขนาดไหน