逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - พระองค์พูดว่า “เจ้าลูกมนุษย์ เรากำลังจะส่งเจ้าไปหาชาวอิสราเอล ซึ่งเป็นชนชาติที่ชอบกบฏ พวกเขากบฏต่อเรา พวกเขากับบรรพบุรุษของพวกเขาได้ต่อต้านเรามาจนถึงวันนี้
- 新标点和合本 - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆的国民以色列人那里去。他们是悖逆我的,他们和他们的列祖违背我,直到今日。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆我的国家,以色列人那里去,他们是悖逆我的。他们和他们的祖先违背我,直到今日。
- 和合本2010(神版-简体) - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆我的国家,以色列人那里去,他们是悖逆我的。他们和他们的祖先违背我,直到今日。
- 当代译本 - “人子啊,我派你去那背叛我的国民以色列人那里。他们和他们的祖先至今仍背叛我。
- 圣经新译本 - 他对我说:“人子啊!我差派你到以色列人那里去,就是到那背叛我的叛逆国民那里去!他们和他们的列祖都得罪了我,直到今日。
- 现代标点和合本 - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆的国民以色列人那里去。他们是悖逆我的,他们和他们的列祖违背我直到今日。
- 和合本(拼音版) - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆的国民以色列人那里去。他们是悖逆我的,他们和他们的列祖违背我,直到今日。
- New International Version - He said: “Son of man, I am sending you to the Israelites, to a rebellious nation that has rebelled against me; they and their ancestors have been in revolt against me to this very day.
- New International Reader's Version - He said, “Son of man, I am sending you to the people of Israel. That nation has refused to obey me. They have turned against me. They and their people of long ago have been against me to this day.
- English Standard Version - And he said to me, “Son of man, I send you to the people of Israel, to nations of rebels, who have rebelled against me. They and their fathers have transgressed against me to this very day.
- New Living Translation - “Son of man,” he said, “I am sending you to the nation of Israel, a rebellious nation that has rebelled against me. They and their ancestors have been rebelling against me to this very day.
- The Message - He said, “Son of man, I’m sending you to the family of Israel, a rebellious nation if there ever was one. They and their ancestors have fomented rebellion right up to the present. They’re a hard case, these people to whom I’m sending you—hardened in their sin. Tell them, ‘This is the Message of God, the Master.’ They are a defiant bunch. Whether or not they listen, at least they’ll know that a prophet’s been here. But don’t be afraid of them, son of man, and don’t be afraid of anything they say. Don’t be afraid when living among them is like stepping on thorns or finding scorpions in your bed. Don’t be afraid of their mean words or their hard looks. They’re a bunch of rebels. Your job is to speak to them. Whether they listen is not your concern. They’re hardened rebels.
- Christian Standard Bible - He said to me, “Son of man, I am sending you to the Israelites, to the rebellious pagans who have rebelled against me. The Israelites and their ancestors have transgressed against me to this day.
- New American Standard Bible - Then He said to me, “Son of man, I am sending you to the sons of Israel, to a rebellious people who have rebelled against Me; they and their fathers have revolted against Me to this very day.
- New King James Version - And He said to me: “Son of man, I am sending you to the children of Israel, to a rebellious nation that has rebelled against Me; they and their fathers have transgressed against Me to this very day.
- Amplified Bible - And He said to me, “I am sending you, son of man, to the children of Israel, to a rebellious people [in both the north and the south] that have rebelled against Me; they and their fathers have sinned and revolted against Me to this very day.
- American Standard Version - And he said unto me, Son of man, I send thee to the children of Israel, to nations that are rebellious, which have rebelled against me: they and their fathers have transgressed against me even unto this very day.
- King James Version - And he said unto me, Son of man, I send thee to the children of Israel, to a rebellious nation that hath rebelled against me: they and their fathers have transgressed against me, even unto this very day.
- New English Translation - He said to me, “Son of man, I am sending you to the house of Israel, to rebellious nations who have rebelled against me; both they and their fathers have revolted against me to this very day.
- World English Bible - He said to me, “Son of man, I send you to the children of Israel, to a nation of rebels who have rebelled against me. They and their fathers have transgressed against me even to this very day.
- 新標點和合本 - 他對我說:「人子啊,我差你往悖逆的國民以色列人那裏去。他們是悖逆我的,他們和他們的列祖違背我,直到今日。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 他對我說:「人子啊,我差你往悖逆我的國家,以色列人那裏去,他們是悖逆我的。他們和他們的祖先違背我,直到今日。
- 和合本2010(神版-繁體) - 他對我說:「人子啊,我差你往悖逆我的國家,以色列人那裏去,他們是悖逆我的。他們和他們的祖先違背我,直到今日。
- 當代譯本 - 「人子啊,我派你去那背叛我的國民以色列人那裡。他們和他們的祖先至今仍背叛我。
- 聖經新譯本 - 他對我說:“人子啊!我差派你到以色列人那裡去,就是到那背叛我的叛逆國民那裡去!他們和他們的列祖都得罪了我,直到今日。
- 呂振中譯本 - 他對我說:『人子啊,我差遣你去找背叛之國 以色列 人,就是背叛我的:他們和他們的列祖都悖逆了我、直到今天這日子。
- 現代標點和合本 - 他對我說:「人子啊,我差你往悖逆的國民以色列人那裡去。他們是悖逆我的,他們和他們的列祖違背我直到今日。
- 文理和合譯本 - 人子歟、我遣爾詣以色列人、彼乃悖逆之邦、悖逆乎我、彼與列祖、獲罪於我、迄至今日、
- 文理委辦譯本 - 曰、人子、我遣汝至以色列族、彼所行忤逆、自列祖迄今、干犯罪戾、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 諭我曰、人子、我遣爾就 以色列 人、即悖逆之族、悖逆我者、彼與其列祖獲罪於我、迄於今日、
- Nueva Versión Internacional - Me dijo: «Hijo de hombre, te voy a enviar a los israelitas. Es una nación rebelde que se ha sublevado contra mí. Ellos y sus antepasados se han rebelado contra mí hasta el día de hoy.
- 현대인의 성경 - 그는 나에게 이렇게 말씀하셨다. “사람의 아들아, 내가 너를 이스라엘 백성, 곧 나를 배반하는 민족에게 보낸다. 그들은 그 조상들처럼 범죄하여 오늘날까지도 나를 거역하고 있다.
- Новый Русский Перевод - Он сказал: – Сын человеческий, Я посылаю тебя к израильтянам, мятежному народу, который восстал против Меня; они сами и их предки были мятежниками против Меня до этого самого дня.
- Восточный перевод - Он сказал: – Смертный, Я посылаю тебя к народу Исраила, мятежному народу, который восстал против Меня; как их предки, так и они сами бунтуют против Меня до сих пор.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Он сказал: – Смертный, Я посылаю тебя к народу Исраила, мятежному народу, который восстал против Меня; как их предки, так и они сами бунтуют против Меня до сих пор.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Он сказал: – Смертный, Я посылаю тебя к народу Исроила, мятежному народу, который восстал против Меня; как их предки, так и они сами бунтуют против Меня до сих пор.
- La Bible du Semeur 2015 - Il me dit : Fils d’homme, je t’envoie vers les Israélites, vers cette foule de rebelles qui se sont révoltés contre moi. Jusqu’à ce jour, eux et leurs ancêtres se sont soulevés contre moi.
- リビングバイブル - 「人の子よ、あなたをイスラエルの国、すなわち、わたしに反逆している国に遣わす。彼らも、彼らの先祖も、この時までわたしに罪を犯し続けてきた。
- Nova Versão Internacional - Ele disse: “Filho do homem, vou enviá-lo aos israelitas, nação rebelde que se revoltou contra mim; até hoje eles e os seus antepassados têm se revoltado contra mim.
- Hoffnung für alle - »Du Mensch, ich sende dich zu den Israeliten, diesem widerspenstigen Volk, das sich immer wieder gegen mich auflehnt. Schon ihre Vorfahren haben sich von mir abgewandt, und daran hat sich bis heute nichts geändert.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chúa phán: “Hỡi con người, Ta sai con đến với dân tộc Ít-ra-ên, một dân tộc phản loạn đã phản bội chống lại Ta. Chúng và tổ phụ của chúng đã phạm tội với Ta cho đến ngày nay.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระองค์ตรัสว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย เราจะส่งเจ้าไปยังชนชาติอิสราเอล ไปยังชนชาติที่ชอบกบฏซึ่งได้ทรยศเรา เขากับบรรพบุรุษกบฏต่อเราจนถึงทุกวันนี้
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระองค์กล่าวดังนี้ “บุตรมนุษย์เอ๋ย เราส่งเจ้าไปยังชาวอิสราเอล ยังบรรดาประชาชาติที่ขัดขืนซึ่งได้ขัดขืนต่อคำบัญชาของเรา ทั้งพวกเขาและบรรพบุรุษของเขาได้กระทำบาปต่อเรามาจนถึงทุกวันนี้
- Thai KJV - และพระองค์ตรัสสั่งข้าพเจ้าว่า “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย เราส่งเจ้าไปยังคนอิสราเอล ถึงประชาชาติที่มักกบฏ ผู้ซึ่งได้กบฏต่อเรา ทั้งตัวเขาและบรรพบุรุษของเขาได้ละเมิดต่อเราจนกระทั่งวันนี้
交叉引用
- เนหะมียาห์ 9:26 - แต่พวกเขากลับไม่เชื่อฟัง และกบฏต่อพระองค์ และโยนบัญญัติของพระองค์ทิ้งไป นอกจากนั้นพวกเขายังฆ่าพวกผู้พูดแทนพระองค์ที่ได้ตักเตือนพวกเขาให้กลับมาหาพระองค์ พวกเขาได้ดูหมิ่นพระองค์อย่างใหญ่หลวง
- ลูกา 24:47 - แล้วเรื่องการกลับตัวกลับใจเพื่อจะได้รับการอภัยโทษจากบาปจะต้องถูกประกาศไปในนามของเราให้คนทุกชาติรู้ เริ่มจากเมืองเยรูซาเล็มก่อน
- ลูกา 24:48 - พวกคุณจะต้องเป็นพยานเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ที่คุณเห็น
- อิสยาห์ 6:8 - และผมก็ได้ยินเสียงขององค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เราจะส่งใครไปดี ใครจะไปแทนพวกเรา” แล้วผมก็ตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่นี่ครับ ส่งข้าพเจ้าไปเถิด”
- อิสยาห์ 6:9 - แล้วพระองค์ก็พูดว่า “ไปบอกกับคนพวกนี้ว่า ‘ฟังไปเรื่อยๆแต่อย่าเข้าใจ ดูต่อไปเรื่อยๆแต่อย่ารู้เรื่อง’
- อิสยาห์ 6:10 - ไปทำให้จิตใจของคนพวกนี้ทึบไป และทำให้หูของพวกเขาตึง และทำให้ตาของพวกเขาปิดสนิท ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเห็นด้วยตาของพวกเขา และได้ยินกับหูของพวกเขา และเข้าใจด้วยจิตใจของพวกเขา และหันกลับมาหาเรา และได้รับการรักษา”
- สดุดี 106:28 - แล้วพวกเขาก็ไปร่วมนมัสการพระบาอัลที่เมืองเปโอร์ และกินเครื่องเซ่นไหว้คนตาย
- เอเสเคียล 20:1 - ในวันที่สิบของเดือนที่ห้า ปีที่เจ็ด พวกผู้นำอาวุโสบางคนของอิสราเอลได้มาขอคำปรึกษาจากพระยาห์เวห์ พวกเขามานั่งลงตรงหน้าผม
- เอเสเคียล 20:2 - แล้วคำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า
- เอเสเคียล 20:3 - “เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดกับพวกผู้นำอาวุโสของอิสราเอลอย่างนี้ว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อขอคำปรึกษากับเราหรือ เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะไม่ตอบคำถามของพวกเจ้า’” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- เอเสเคียล 20:4 - “เจ้าลูกมนุษย์ เจ้าจะดำเนินคดีต่อพวกเขาหรือ เจ้าจะดำเนินคดีต่อพวกเขาหรือ ถ้าอย่างนั้น ชี้ให้เขาเห็นการกระทำอันน่าขยะแขยงของบรรพบุรุษของพวกเขาสิ
- เอเสเคียล 20:5 - เจ้าต้องบอกกับพวกเขาว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ในวันที่เราได้เลือกอิสราเอล ตอนที่เราได้เปิดเผยตัวเองให้กับพวกเขารู้จักในแผ่นดินอียิปต์นั้น เราได้ยกมือขึ้นสาบานต่อพวกลูกหลานของยาโคบว่า “เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า”
- เอเสเคียล 20:6 - ในวันนั้นเราได้สาบานไว้กับพวกเขาว่า เราจะนำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ไปยังแผ่นดินที่เราได้ค้นหามาให้กับพวกเขา เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ และสวยงามที่สุดในบรรดาดินแดนทั้งหลาย’”
- เอเสเคียล 20:7 - และเราได้พูดกับพวกเขาว่า “พวกเจ้าทุกคน ให้กำจัดรูปปั้นที่น่าขยะแขยง ที่เจ้าชอบมองเพื่อขอความช่วยเหลือจากมันนั้น อย่าทำตัวของพวกเจ้าให้แปดเปื้อนด้วยรูปเคารพทั้งหลายของอียิปต์ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า”
- เอเสเคียล 20:8 - แต่พวกเขากลับกบฏต่อเราและไม่ยอมฟังเรา พวกเขาไม่ยอมโยนพวกรูปปั้นชั่วที่ขยะแขยงทิ้ง ที่พวกเขาจ้องมองเพื่อขอความช่วยเหลือนั้น และไม่ยอมละทิ้งพวกรูปเคารพขี้ๆของอียิปต์ ดังนั้นเราจึงพูดว่า ‘เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขาและแสดงความโกรธใส่พวกเขาในแผ่นดินอียิปต์’
- เอเสเคียล 20:9 - แต่เพื่อไม่ให้เราเสียชื่อ ต่อชนชาติทั้งหลายรอบข้าง ที่ได้เห็นเรานำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เราจึงไม่ได้ทำลายพวกเขา
- เอเสเคียล 20:10 - เราได้นำชาวอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์ไปที่ทะเลทราย
- เอเสเคียล 20:11 - เราได้ให้ข้อบังคับต่างๆของเรากับพวกเขา และให้พวกเขารู้จักกฎต่างๆของเรา เพราะคนเหล่านั้นที่เชื่อฟังกฎพวกนั้น จะมีชีวิตต่อไป
- เอเสเคียล 20:12 - เรายังให้วันหยุดพักผ่อนต่างๆกับพวกเขา เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจให้ระลึกถึงสายสัมพันธ์ที่เรามีต่อกัน พวกเขาจึงรู้ว่าเราคือยาห์เวห์ที่ทำให้พวกเขาเป็นของเราโดยเฉพาะ
- เอเสเคียล 20:13 - แต่ประชาชนชาวอิสราเอลได้กบฏต่อเราในทะเลทราย พวกเขาไม่ยอมทำตามข้อบังคับทั้งหลายของเรา พวกเขาไม่ยอมรับกฎต่างๆของเรา ทั้งๆที่การเชื่อฟังกฎเหล่านั้นทำให้มีชีวิต พวกเขาทำให้พวกวันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป เราจึงบอกว่า ‘เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขา และทำลายพวกเขาในทะเลทราย’
- เอเสเคียล 20:14 - แต่เพื่อไม่ให้เราเสียชื่อ ต่อชนชาติทั้งหลายที่ได้เห็นเรานำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เราจึงไม่ได้ทำลายพวกเขา
- เอเสเคียล 20:15 - ที่ทะเลทรายนั้น เราได้ยกมือขึ้นสาบานกับพวกเขาว่า ‘เราจะไม่นำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่เราสัญญาว่าจะให้กับพวกเขา ซึ่งเป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามที่สุดในบรรดาแผ่นดินทั้งหมด’
- เอเสเคียล 20:16 - เพราะพวกเขาไม่ยอมรับกฎต่างๆของเราและไม่ทำตามข้อบังคับของเรา และยังทำให้วันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย เพราะพวกเขาได้มอบใจของพวกเขาให้กับพวกรูปเคารพทั้งหลายเหล่านั้นไป
- เอเสเคียล 20:17 - แต่เราได้มองดูพวกเขาด้วยความสงสารและไม่ได้ทำลายพวกเขาหรือทำให้พวกเขาจบสิ้นไปที่ทะเลทรายนั้น
- เอเสเคียล 20:18 - เราได้พูดกับลูกๆของพวกเขาในทะเลทรายว่า ‘อย่าทำตามข้อบังคับต่างๆของพวกพ่อเจ้า อย่ารักษากฎทั้งหลายของพวกเขา อย่าทำตัวของพวกเจ้าให้แปดเปื้อนไปด้วยรูปเคารพของพวกเขา
- เอเสเคียล 20:19 - เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า ให้ทำตามข้อบังคับของเรา และให้รักษากฎของเราอย่างเคร่งครัด
- เอเสเคียล 20:20 - ให้รักษาพวกวันหยุดพักผ่อนที่เราให้กับเจ้าไว้ให้ศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นสิ่งเตือนใจให้ระลึกถึงสายสัมพันธ์ที่เรามีต่อกัน แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า’
- เอเสเคียล 20:21 - แต่ลูกๆพวกนั้นได้กบฏต่อเราอีก พวกเขาไม่ยอมทำตามข้อบังคับทั้งหลายของเรา พวกเขาไม่ได้รักษากฎของเราอย่างเคร่งครัด ทั้งๆที่การเชื่อฟังกฎเหล่านั้นทำให้มีชีวิต พวกเขายังทำให้วันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ด้วย ดังนั้น เราจึงบอกว่า ‘เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขา และแสดงความโกรธใส่พวกเขาในทะเลทราย’
- เอเสเคียล 20:22 - แต่เราได้ยั้งมือไว้ เพื่อไม่ให้เราเสียชื่อต่อชนชาติทั้งหลายที่ได้เห็นเรานำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
- เอเสเคียล 20:23 - ที่ทะเลทรายนั้น เราได้ยกมือขึ้นสาบานกับพวกเขาว่า ‘เราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปอยู่ตามชนชาติต่างๆและทำให้พวกเขาแตกกระเจิงไปอยู่ตามประเทศทั้งหลาย’
- เอเสเคียล 20:24 - เพราะพวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังกฎต่างๆของเรา พวกเขาไม่ยอมรับข้อบังคับต่างๆของเรา และยังทำให้วันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป สายตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่พวกรูปเคารพของบรรพบุรุษของพวกเขา
- เอเสเคียล 20:25 - ดังนั้นเราจึงให้กฎระเบียบที่ห่วยๆกับพวกเขาและให้กฎที่ไม่สามารถช่วยให้พวกเขามีชีวิตรอดได้
- เอเสเคียล 20:26 - เราทำให้พวกเขาแปดเปื้อนไป ด้วยของถวายของพวกเขาเอง คือการสังเวยลูกชายหัวปี เพื่อเราจะได้ทำลายพวกเขาและให้พวกเขารู้ว่าเราคือยาห์เวห์
- เอเสเคียล 20:27 - ดังนั้น เจ้าลูกมนุษย์ ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ‘พวกพ่อของเจ้าได้ทรยศเรา ซึ่งเป็นการลบหลู่เรา
- เอเสเคียล 20:28 - เราได้นำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่เราได้สาบานไว้ว่าจะให้กับพวกเขา แต่พอพวกเขาเห็นเนินเขาสูงลูกใดหรือต้นไม้ต้นไหนที่ให้ร่มเงา พวกเขาก็จะถวายเครื่องบูชาของพวกเขาที่นั่น พวกเขาได้ยั่วยุให้เราโกรธ ด้วยการถวายเครื่องบูชาอันมีกลิ่นหอม และเทเครื่องดื่มบูชาให้กับพระปลอมที่นั่น
- เอเสเคียล 20:29 - เราจึงถามพวกเขาว่า “ศาลเจ้าอะไรหรือที่พวกเจ้าไปกัน” มันถึงเรียกว่า บามาห์ มาจนถึงทุกวันนี้’
- เอเสเคียล 20:30 - ดังนั้นให้บอกกับครอบครัวชาวอิสราเอลว่า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
- เอเสเคียล 20:31 - การที่พวกเจ้ายังถวายเครื่องบูชา ด้วยการเอาลูกๆของพวกเจ้าใส่เข้าไปในไฟ พวกเจ้าก็ได้ทำให้ตัวเองแปดเปื้อนด้วยรูปเคารพทั้งหลายของพวกเจ้ามาจนถึงทุกวันนี้ แล้วเจ้ายังมีหน้ามาขอคำปรึกษาจากเราอีกหรือ ครอบครัวอิสราเอลเอ๋ย เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะไม่ตอบคำถามพวกเจ้าแม้แต่ข้อเดียว” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- เอเสเคียล 20:32 - พวกเจ้าพูดว่า “พวกเราอยากเป็นเหมือนชนเผ่าอื่นๆในโลกนี้ ที่นมัสการพระเจ้าที่เป็นไม้หรือหิน” แต่สิ่งที่พวกเจ้าคิดนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นหรอก
- เอเสเคียล 20:33 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะปกครองพวกเจ้าด้วยมืออันทรงพลัง ด้วยแขนที่ยื่นออกมา และด้วยการเทความเดือดดาลออกมา
- เอเสเคียล 20:34 - เราจะนำพวกเจ้ามาจากชนชาติต่างๆและรวบรวมพวกเจ้ามาจากประเทศทั้งหลายที่พวกเจ้าได้กระจัดกระจายกันไปอยู่นั้น ด้วยมืออันทรงพลังและแขนที่ยื่นออกมานี้
- เอเสเคียล 20:35 - เราจะนำพวกเจ้าเข้าไปในทะเลทรายของชาติต่างๆและที่นั่นเราจะเจอกันซึ่งๆหน้า และเราจะตัดสินโทษพวกเจ้า
- เอเสเคียล 20:36 - เหมือนกับที่เราได้ตัดสินบรรพบุรุษของพวกเจ้าในทะเลทรายใกล้แผ่นดินอียิปต์” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- เอเสเคียล 20:37 - “เราจะนับพวกเจ้าด้วยการให้เดินลอดไม้เท้าของเราไป และเราจะทำให้เจ้ายินยอมต่อข้อตกลงของเรา
- เอเสเคียล 20:38 - เราจะกำจัดพวกที่ชอบลุกฮือขึ้นต่อต้านและกบฏต่อเรา ถึงแม้ว่าเราจะนำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินที่พวกเขากำลังอาศัยอยู่อย่างคนต่างชาตินั้น แต่เราก็จะไม่ให้พวกเขาเข้าสู่แผ่นดินอิสราเอล แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์”
- เอเสเคียล 20:39 - ส่วนพวกเจ้า ครอบครัวชาวอิสราเอล พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดอย่างนี้ว่า “ไปเลย พวกเจ้าแต่ละคนไปนมัสการพวกรูปเคารพของพวกเจ้าตอนนี้เลย และต่อไป ถ้าพวกเจ้าไม่ฟังเรา (จะได้เห็นดีแน่) และพวกเจ้าจะไม่ทำให้ชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของเราต้องเสื่อมเสียอีกต่อไปแล้วด้วยของถวายและรูปเคารพทั้งหลายของพวกเจ้า”
- เอเสเคียล 20:40 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “บนภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา ซึ่งเป็นภูเขาสูงของอิสราเอลครอบครัวชาวอิสราเอลทั้งหมดจะนมัสการเราที่นี่ เราจะยอมรับพวกเขา เราจะยอมรับเครื่องบูชาทั้งหลายของพวกเจ้า และของถวายที่เป็นผลผลิตชุดแรกของพวกเจ้า รวมทั้งเครื่องบูชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของพวกเจ้าด้วย
- เอเสเคียล 20:41 - เมื่อเรานำพวกเจ้าออกมาจากชนชาติต่างๆและรวบรวมพวกเจ้ามาจากประเทศทั้งหลายที่เราได้ทำให้พวกเจ้ากระจัดกระจายกันไปอยู่นั้น เราจะยอมรับพวกเจ้าเหมือนกลิ่นหอมจากควันของเครื่องบูชาของเจ้า และเราจะแสดงความศักดิ์สิทธิ์ของเราในหมู่พวกเจ้าต่อหน้าสายตาของชนชาติทั้งหลาย
- เอเสเคียล 20:42 - แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์ เมื่อเรานำพวกเจ้าเข้าสู่แผ่นดินอิสราเอลซึ่งเป็นแผ่นดินที่เราได้ยกมือสาบานไว้ว่าจะให้กับบรรพบุรุษของพวกเจ้า
- เอเสเคียล 20:43 - ที่นั่นพวกเจ้าจะสำนึกผิดถึงการกระทำและวิถีทางที่ชั่วร้ายทั้งหลายของเจ้า ที่ทำให้เจ้าแปดเปื้อน แล้วเจ้าจะละอายใจ
- เอเสเคียล 20:44 - ครอบครัวของอิสราเอล พวกเจ้าได้ทำสิ่งที่ชั่วร้ายมากมาย พวกเจ้าสมควรที่จะถูกทำลาย แต่เพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงของเรา เราจะไม่ทำอย่างนั้น แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- เอเสเคียล 20:45 - คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า
- เอเสเคียล 20:46 - “เจ้าลูกมนุษย์หันหน้าไปทางใต้ และเทศน์ต่อว่าทิศใต้นั้นให้พูดแทนเราต่อต้านป่าแห่งดินแดนทางใต้นั้น
- เอเสเคียล 20:47 - ให้พูดกับป่าทางใต้นั้นว่า ‘ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ให้ดี พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดอย่างนี้ว่า เราจะจุดไฟเผาพวกเจ้า และมันจะเผาผลาญต้นไม้ทั้งหมดของเจ้า ทั้งต้นที่ยังเขียวสดอยู่และต้นที่เหี่ยวแห้งแล้ว เปลวไฟจะไม่ดับลงและใบหน้าทุกหน้าตั้งแต่ทางใต้ไปจนถึงทางเหนือจะร้อนผ่าวๆเพราะมัน
- เอเสเคียล 20:48 - ทุกคนจะเห็นว่า เรา ยาห์เวห์ เป็นผู้จุดไฟนั้นขึ้น และมันจะไม่ดับลง’”
- เอเสเคียล 20:49 - แล้วผมได้พูดว่า “พระยาห์เวห์เจ้าข้า พวกเขากำลังพูดถึงผมว่า ‘เขาเป็นคนชอบเล่าเรื่องเปรียบเทียบอยู่อย่างนั้นแหละ’”
- เยเรมียาห์ 44:21 - “พระยาห์เวห์จดจำได้ที่พวกท่านนำเครื่องเผาบูชามาถวายพระอื่นๆในเมืองต่างๆของยูดาห์และตามท้องถนนของเมืองเยรูซาเล็ม พระองค์จำได้ที่พวกท่าน ปู่ย่าตายายของท่าน กษัตริย์และเจ้านายของท่าน รวมทั้งทุกคนในแผ่นดินนี้ ได้ทำอย่างนั้น และมันก็ยังอยู่ในใจของพระองค์
- 2 พงศาวดาร 36:15 - พระยาห์เวห์ พระเจ้าของบรรพบุรุษพวกเขา ส่งคำพูดมาถึงพวกเขาผ่านทางพวกผู้ส่งข่าวของพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะพระองค์ไม่อยากทำลายประชาชนของพระองค์และสถานที่อาศัยของพระองค์
- 2 พงศาวดาร 36:16 - แต่พวกเขากลับล้อเลียนพวกผู้ส่งข่าวพระเจ้าเหล่านั้น พวกเขาดูถูกคำพูดของพระองค์ เย้ยหยันพวกผู้พูดแทนพระเจ้า จนในที่สุดพระยาห์เวห์ก็ทนไม่ไหว พระองค์โกรธประชาชนของพระองค์จนไม่มีอะไรสามารถหยุดความโกรธของพระองค์ได้
- เอเสเคียล 16:1 - แล้วถ้อยคำของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า
- เอเสเคียล 16:2 - “เจ้าลูกมนุษย์ ให้เตือนคนในเมืองเยรูซาเล็มถึงเรื่องชั่วร้ายน่ารังเกียจที่พวกเขาทำกัน
- เอเสเคียล 16:3 - ให้บอกกับพวกเขาว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พูดกับเมืองเยรูซาเล็ม ต้นกำเนิดและบ้านเกิดของเจ้าอยู่ในแผ่นดินของชาวคานาอัน พ่อของเจ้าเป็นชาวอาโมไรต์และแม่ของเจ้าเป็นชาวฮิตไทต์
- เอเสเคียล 16:4 - เจ้าเป็นเหมือนกับเด็กที่ถูกทอดทิ้ง ในวันที่เจ้าเกิดมา ไม่มีใครตัดสายสะดือให้กับเจ้า ไม่มีใครทำพิธีชำระล้างให้กับเจ้าด้วยน้ำเพื่อให้เจ้าบริสุทธิ์ตามกฎของเรา ไม่มีใครเอาเกลือมาถูฆ่าเชื้อให้กับเจ้า และไม่มีใครเอาผ้าอ้อมมาห่อหุ้มเจ้า
- เอเสเคียล 16:5 - ไม่มีใครสงสารเจ้า ไม่มีใครทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ให้กับเจ้า ไม่มีใครคอยปลอบโยนเจ้า ไม่มีใครเอาเจ้าในวันที่เจ้าเกิดมา เจ้าถูกทิ้งในทุ่งโล่ง
- เอเสเคียล 16:6 - แล้วเราเดินผ่านมา เห็นเจ้านอนดิ้นอยู่ในกองเลือด เราพูดกับเจ้าว่า “จงมีชีวิตอยู่ต่อไป” ในขณะที่เจ้านอนอยู่ในกองเลือดนั้น เราพูดกับเจ้าว่า “จงมีชีวิตอยู่ต่อไป”
- เอเสเคียล 16:7 - เราได้เลี้ยงดูเจ้า แล้วเจ้าก็เจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนพืชในท้องทุ่ง เจ้าได้เติบโตและเจริญวัย เจ้าเริ่มแตกเนื้อสาว มีประจำเดือน มีหน้าอกใหญ่ขึ้น เริ่มมีขนขึ้นตามตัว แต่เจ้ายังเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่
- เอเสเคียล 16:8 - ต่อมา เราได้สังเกตเห็นว่าเจ้าโตพอที่จะมีความรักได้แล้ว เราจึงได้กางเสื้อผ้าของเราออกคลุมตัวเจ้า และคลุมร่างที่เปลือยเปล่าของเจ้า เราได้ปฏิญาณผูกมัดตัวเองกับเจ้าและร่วมคำมั่นสัญญา กับเจ้า และเจ้าได้กลายเป็นของเรา’” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- เอเสเคียล 16:9 - “หลังจากนั้น เราได้อาบน้ำให้เจ้า ล้างเลือดของเจ้าออก เอาน้ำมันทาให้เจ้า
- เอเสเคียล 16:10 - เราเอาเสื้อผ้าสวยๆมาสวมใส่ให้เจ้า เอาร้องเท้าสานจากหนังอย่างดีมาสวมเท้าของเจ้า แล้วโพกหัวของเจ้าด้วยผ้าลินินอย่างดี และคลุมตัวเจ้าด้วยผ้าไหม
- เอเสเคียล 16:11 - แล้วเราได้ประดับประดาเจ้าด้วยเพชรพลอย เราได้สวมกำไลข้อมือไว้ที่มือทั้งสองของเจ้า และสวมสร้อยคอไว้รอบคอของเจ้า
- เอเสเคียล 16:12 - เราได้ใส่ห่วงจมูกให้กับเจ้า ใส่ตุ้มหูไว้ที่หูทั้งสองข้าง และเอามงกุฎที่สวยงามมาสวมบนหัวเจ้า
- เอเสเคียล 16:13 - เจ้าได้ประดับประดาไปด้วยทองและเงิน แต่งตัวด้วยผ้าลินินอย่างดี ผ้าไหมและผ้าปัก เจ้ากินของหวานที่ทำจากแป้งอย่างดี น้ำเชื่อมผลไม้และน้ำมันมะกอก เจ้าสวยงามมาก เหมาะที่จะเป็นราชินี
- เอเสเคียล 16:14 - ความงามของเจ้า ทำให้เจ้ามีชื่อเสียงไปทั่วท่ามกลางชนชาติต่างๆ เครื่องทรงของเราที่เราได้ให้กับเจ้า ทำให้เจ้างดงามหมดจดเสียจริงๆ” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- เอเสเคียล 16:15 - “แต่เจ้ากลับไปไว้วางใจในความงามของเจ้า และหาประโยชน์จากชื่อเสียงของเจ้า ไปขายตัวให้กับผู้ชายทุกคนที่เดินผ่านมา
- เอเสเคียล 16:16 - แล้วเจ้าก็เอาเสื้อผ้าของเจ้าที่เราให้ มาตกแต่งศาลเจ้าต่างๆของเจ้า และทำตัวเป็นโสเภณี เจ้าตกแต่งสถานที่นั้นยิ่งกว่าที่เคยมีใครตกแต่งมันมาก่อน
- เอเสเคียล 16:17 - เจ้ายังเอาเครื่องแต่งกายที่ทำด้วยทองและเงินของเรา ไปสร้างเป็นรูปปั้นผู้ชายขึ้นมาสำหรับตัวเอง และทำตัวเหมือนโสเภณีกับพวกมัน
- เอเสเคียล 16:18 - เจ้าเอาเสื้อผ้าที่สวยงามที่เราให้กับเจ้า ไปตัดเป็นเสื้อผ้าให้กับพวกรูปปั้นเหล่านั้น แล้วเจ้าก็เอาน้ำมันและเครื่องหอมของเราไปวางไว้ต่อหน้าพวกมัน
- เอเสเคียล 16:19 - แล้วเจ้ายังเอาอาหารที่เราให้กับเจ้า คือแป้งอย่างดี น้ำมันมะกอกและน้ำเชื่อมผลไม้ ที่เราเอามาเลี้ยงดูเจ้า เจ้าเอาไปวางไว้ต่อหน้าพวกมันเป็นเครื่องถวายที่มีกลิ่นหอมหวาน” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- เอเสเคียล 16:20 - “ที่เจ้าทำตัวเป็นโสเภณีนั้นยังเลวร้ายไม่พอ เจ้ายังเอาพวกลูกชายลูกสาวที่เจ้าคลอดให้กับเรา ไปสังเวยให้กับพวกรูปปั้นเหล่านั้นกินด้วย
- เอเสเคียล 16:21 - เจ้าได้ฆ่าพวกลูกๆของเราหลายคน และถวายพวกเขาในไฟให้กับพวกรูปปั้นเหล่านั้น
- เอเสเคียล 16:22 - ในช่วงที่เจ้าทำตัวเป็นโสเภณี และทำสิ่งที่เลวร้ายพวกนี้ เจ้าไม่เคยหวนคิดถึงความสัมพันธ์ที่เรามีต่อกัน ตอนที่พวกเจ้าเป็นเด็ก ตอนที่เราเจอเจ้าตัวล่อนจ้อน และดิ้นอยู่ในกองเลือดนั้น
- เอเสเคียล 16:23 - ดังนั้น เมื่อเจ้าได้ทำสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้น (น่าละอาย น่าละอายสำหรับเจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น)
- เอเสเคียล 16:24 - เจ้าได้สร้างเนินขึ้นมาให้กับตัวเอง เป็นศาลเจ้าในลานเมืองทุกแห่ง
- เอเสเคียล 16:25 - เจ้าได้สร้างศาลเจ้าไว้ตามหัวมุมถนนทุกสาย เจ้าได้ทำให้ความงามของเจ้าน่าขยะแขยง เจ้าได้อ้าขาของเจ้าให้กับคนที่เดินผ่านไปมา เจ้าทำตัวเป็นโสเภณีมากขึ้นเรื่อยๆ
- เอเสเคียล 16:26 - แล้วเจ้าก็หันไปหาชาวอียิปต์ ที่เป็นเพื่อนบ้านของเจ้า ที่มีอวัยวะเพศใหญ่โต และเจ้าทำตัวเป็นโสเภณีกับพวกเขา เพื่อยั่วยุให้เราโกรธ เจ้าทำตัวเป็นโสเภณีมากขึ้นเรื่อยๆ
- เอเสเคียล 16:27 - ดังนั้น เราจึงลงไม้ลงมือกับเจ้า เราเอาที่ดินบางส่วนของเจ้าไป เราปล่อยให้ศัตรูของเจ้าคือผู้หญิงชาวฟีลิสเตียทำกับเจ้าตามชอบใจ แม้แต่พวกเขาก็ยังตกตะลึงกับการกระทำที่ลามกของเจ้านี้
- เอเสเคียล 16:28 - เพราะเจ้ายังไม่จุใจกับความต้องการทางเพศของเจ้า เจ้าก็เลยไปมีเพศสัมพันธ์กับชาวอัสซีเรียด้วย เจ้าขายตัวให้กับพวกเขา แต่ก็ยังไม่หายอยาก
- เอเสเคียล 16:29 - เจ้าจึงสำส่อนมากขึ้น เจ้าไปยังแผ่นดินของพวกพ่อค้าคือชาวบาบิโลน แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าก็ยังไม่รู้จักพอ”
- เอเสเคียล 16:30 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เราโกรธเจ้ามาก ที่เจ้าได้ทำอย่างที่โสเภณีไม่มียางอายเขาทำกัน
- เอเสเคียล 16:31 - ในทุกหมู่บ้านของเจ้า เจ้าได้สร้างศาลเจ้าขึ้นตามหัวมุมถนนทุกสาย และได้สร้างเนินดินไว้ตามลานเมือง เจ้าต่างจากหญิงโสเภณีทั่วไป ตรงที่ว่าเจ้าไม่เอาค่าตัว
- เอเสเคียล 16:32 - เจ้า เมียที่เล่นชู้ เจ้าชอบมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า แทนที่จะมีกับสามีของเจ้า
- เอเสเคียล 16:33 - ตามปกติแล้ว ผู้ชายต้องเป็นคนจ่ายค่าตัวให้กับหญิงโสเภณี แต่นี่เจ้ากลับเป็นคนจ่ายค่าตัวให้กับชู้รักของเจ้าทุกคน เจ้าติดสินบนพวกเขาเพื่อให้พวกเขามาหาเจ้าจากทุกๆประเทศที่อยู่รายล้อมเจ้า
- เอเสเคียล 16:34 - ดังนั้น เจ้าจึงไม่เหมือนโสเภณีทั่วไป แทนที่ผู้ชายจะมาหาเจ้าและเสนอค่าตัวให้กับเจ้า แต่เจ้ากลับไปหาพวกเขา เจ้าไม่ได้รับค่าตัว แต่กลับเป็นคนจ่ายค่าตัวให้กับพวกเขา เจ้านี่ช่างแตกต่างเสียจริง”
- เอเสเคียล 16:35 - ดังนั้น อีโสเภณี ให้ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ให้ดี
- เอเสเคียล 16:36 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เพราะเจ้าได้เทความใคร่ของเจ้าออกมา และเปิดเผยอวัยวะเพศของเจ้า ด้วยการสำส่อนทางเพศกับชู้รักทั้งหลายของเจ้า และกับรูปปั้นอันสกปรกน่าขยะแขยงของเจ้า และเจ้าได้ให้เลือดของพวกลูกๆสังเวยกับพวกรูปปั้นเหล่านั้น
- เอเสเคียล 16:37 - ดังนั้น เรากำลังจะรวบรวมชู้รักทั้งหมดของเจ้า ชู้รักพวกนั้นที่เจ้าพัวพันด้วย ทั้งคนที่เจ้ารักและคนที่เจ้าเกลียด เราจะรวบรวมพวกเขามาจากทุกๆประเทศ ที่เป็นเพื่อนบ้านของเจ้า แล้วเราจะเปิดอวัยวะเพศของเจ้าให้พวกเขาดู ให้พวกเขาได้เห็นความน่าอับอายของเจ้า
- เอเสเคียล 16:38 - เราจะตัดสินลงโทษเจ้า สำหรับความผิดฐานมีชู้และฆ่าคนตาย เราจะประหารชีวิตเจ้า ด้วยความโกรธแค้นและเดือดดาลของเรา
- เอเสเคียล 16:39 - เราจะมอบเจ้าให้กับพวกเขา แล้วพวกเขาจะรื้อเนินดินของเจ้าและสับศาลเจ้าของเจ้า แล้วพวกเขาจะจับเจ้าแก้ผ้าและปลดเอาเครื่องเพชรอย่างดีของเจ้าไป และทิ้งเจ้าไว้ให้เปลือยเปล่า
- เอเสเคียล 16:40 - พวกเขาจะรวมกลุ่มกันมุ่งหน้ามาหาเจ้า ฝูงชนเหล่านั้นจะขว้างหินใส่เจ้าและสับเจ้าเป็นชิ้นๆด้วยดาบของพวกเขา
- เอเสเคียล 16:41 - พวกเขาจะเผาบ้านของเจ้าและลงโทษเจ้าต่อหน้าต่อตาของพวกผู้หญิงมากมาย ด้วยวิธีนี้ เราจะทำให้เจ้าหยุดทำตัวสำส่อน และเจ้าจะไม่จ่ายค่าตัวให้กับพวกชู้รักของเจ้าอีกต่อไป
- เอเสเคียล 16:42 - เมื่อถึงตอนนั้น เราจะระบายความเดือดดาลของเราออกมาใส่เจ้าจนหมดสิ้น แล้วเราจะหยุดหึงหวงเจ้า เราจะสงบลงและไม่โกรธอีกต่อไป
- เอเสเคียล 16:43 - สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะเจ้าลืมสายสัมพันธ์ที่เรามีต่อกันตอนที่เจ้าเพิ่งเป็นสาวนั้น เจ้าทำให้เราโกรธเพราะทำตัวอย่างนั้น เราจะให้ผลกรรมที่เจ้าก่อนั้นตกลงบนหัวเจ้า” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น “เจ้าได้ทำสิ่งต่างๆที่น่าขยะแขยงที่เราเกลียดอยู่แล้ว ซ้ำนี่ยังแถมขายตัวเข้าไปอีก ไม่ใช่หรือ
- เอเสเคียล 16:44 - ดูเอาเถอะ คำสุภาษิตที่อธิบายถึงเจ้าได้ดีก็คือคำสุภาษิตนี้ที่ว่า ‘แม่เป็นยังไง ลูกสาวก็เป็นอย่างนั้น’
- เอเสเคียล 16:45 - เจ้าเหมือนกับแม่ของเจ้าไม่มีผิด แม่ของเจ้าดูถูกสามีและลูกๆของนาง เจ้าก็เหมือนกับพี่สาวน้องสาวของเจ้าไม่มีผิด เพราะพวกเขาดูถูกสามีและลูกๆของพวกเขา แม่ของพวกเจ้าเป็นชาวฮิตไทต์ และพ่อของพวกเจ้าเป็นชาวอาโมไรต์
- เอเสเคียล 16:46 - พี่สาวของเจ้าคือสะมาเรียผู้ที่อาศัยอยู่ทางเหนือของเจ้ากับบรรดาลูกสาวของนาง และน้องสาวของเจ้าก็คือโสโดม ซึ่งอาศัยอยู่ทางใต้ของเจ้ากับบรรดาลูกสาวของนาง
- เอเสเคียล 16:47 - เจ้าทำตัวเหมือนพวกเขาไม่มีผิด เจ้าได้ทำสิ่งชั่วร้ายต่างๆที่พวกเขาทำกัน ในเวลาไม่นาน เจ้าก็แซงหน้าพวกเขาไปแล้ว”
- เอเสเคียล 16:48 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เรายาห์เวห์ เอาชีวิตเราเป็นประกันว่า แม้แต่โสโดมน้องสาวของเจ้ากับลูกสาวทั้งหลายของนาง ก็ยังไม่เคยทำสิ่งชั่วร้ายที่เจ้าและลูกสาวทั้งหลายของเจ้าทำเลย
- เอเสเคียล 16:49 - ความผิดที่โสโดมน้องสาวของเจ้าและลูกสาวทั้งหลายของนางทำ คือความเย่อหยิ่งจองหอง พวกเขาอยู่ดีกินดี สบายจนไม่สนใจคนอื่น ไม่ยื่นมือช่วยคนยากจนและคนขัดสน
- เอเสเคียล 16:50 - พวกเขายโสโอหัง และทำสิ่งต่างๆที่น่ารังเกียจต่อหน้าเรา ดังนั้นเราจึงได้กำจัดพวกเขา เหมือนกับที่เจ้าเห็นนั้น
- เอเสเคียล 16:51 - ส่วนสะมาเรียก็ยังทำบาปไม่ถึงครึ่งหนึ่งของที่เจ้าทำ เจ้าทำสิ่งที่น่ารังเกียจมากยิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก เจ้าชั่วร้ายมากจนทำให้พวกเขาดูดีขึ้นมา
- เอเสเคียล 16:52 - เจ้าจะต้องอับอายขายหน้า เพราะเจ้าทำให้คดีพวกพี่สาวน้องสาวของเจ้าเบาลง เจ้าจะต้องอับอายไปเลย เพราะบาปที่เจ้าทำนั้นน่าขยะแขยงยิ่งกว่าที่พวกเขาทำ เจ้าจะต้องอับอายขายหน้าไปเลย เพราะการกระทำของเจ้า ทำให้พวกพี่น้องของเจ้าดูเหมือนเป็นคนดีไปเลย
- เอเสเคียล 16:53 - แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ยังจะฟื้นฟูพวกเขาให้เหมือนกับที่พวกเขาควรจะเป็น เราจะฟื้นฟูโสโดมกับหมู่บ้านต่างๆที่อยู่รายล้อมนาง เราจะฟื้นฟูสะมาเรียกับหมู่บ้านต่างๆที่อยู่รายล้อมนาง และแน่นอน เราก็จะฟื้นฟูเจ้าไปพร้อมๆกับพวกเขาด้วย
- เอเสเคียล 16:54 - เราจะดีกับเจ้ามาก จนเจ้าจะรู้สึกละอายกับสิ่งทั้งหมดที่เจ้าได้ทำไป และที่ได้ช่วยทำให้คนพวกนั้นรู้สึกดีขึ้นมา
- เอเสเคียล 16:55 - โสโดมพี่สาวของเจ้ากับบรรดาลูกสาวของนาง จะคืนสู่สภาพเดิมที่เคยเป็นมาก่อน และสะมาเรียพี่สาวของเจ้าและบรรดาลูกสาวของนางจะกลับคืนสู่สภาพเดิมเหมือนกัน
- เอเสเคียล 16:56 - ในตอนที่เจ้ายังเย่อหยิ่งจองหองอยู่นั้น เจ้าหัวเราะเยาะใส่โสโดมพี่สาวของเจ้าไม่ใช่หรือ
- เอเสเคียล 16:57 - เจ้าทำอย่างนั้นก่อนที่ความชั่วร้ายของเจ้าจะถูกเปิดเผย แต่ตอนนี้ เจ้าถูกทำให้ขายหน้า ต่อหน้าพวกผู้หญิงของเอโดม และเพื่อนบ้านทั้งหมดของนาง พร้อมกับพวกผู้หญิงชาวฟีลิสเตีย คือคนเหล่านั้นที่ล้อมรอบเจ้าที่ดูถูกเจ้า
- เอเสเคียล 16:58 - ตอนนี้เจ้ากำลังรับโทษ สำหรับความชั่วลามกและการกระทำที่น่าขยะแขยงของเจ้า” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
- เอเสเคียล 16:59 - ใช่แล้ว พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เราจะทำกับเจ้าอย่างที่เจ้าสมควรจะได้รับ เจ้าได้ดูหมิ่นคำสาบานของเจ้า และหักข้อตกลงที่เรามีต่อกัน
- เอเสเคียล 16:60 - แต่ว่าเราจะยังรักษาข้อตกลงที่เราได้ทำกับเจ้า ตอนที่เจ้ายังเป็นสาวอยู่ ข้อตกลงนั้นจะยั่งยืนตลอดไป
- เอเสเคียล 16:61 - เมื่อเจ้าได้ครอบครองพวกพี่น้องเหล่านั้น ที่ใหญ่กว่าและเล็กกว่าเจ้า เจ้าจะรู้สึกอับอายเมื่อเจ้าคิดถึงสิ่งที่เจ้าได้ทำไปในอดีต ใช่แล้ว เราจะมอบพวกเขาให้กับเจ้าเพื่อจะได้เป็นลูกสาวของเจ้า สิ่งนี้ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงของเรากับเจ้า
- เอเสเคียล 16:62 - ตัวเราเองจะยืนยันข้อตกลงของเรากับเจ้าอีกครั้ง และเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
- เอเสเคียล 16:63 - เราจะทำดีกับเจ้า เพื่อเมื่อเจ้าคิดถึงสิ่งเลวร้ายต่างๆที่เจ้าได้ทำไป เจ้าจะได้อับอาย เมื่อเราลบล้างสิ่งทั้งหมดที่เจ้าได้ทำไป เจ้าจะอึ้งจนพูดไม่ออกเพราะอับอาย” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตได้พูดไว้ว่าอย่างนั้น
- เยเรมียาห์ 25:3 - “ตั้งแต่ปีที่สิบสามที่โยสิยาห์ลูกของกษัตริย์อาโมนแห่งยูดาห์ปกครองประเทศมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เป็นเวลายี่สิบสามปีแล้ว ผมได้รับพระคำของพระยาห์เวห์มา แล้วผมก็ได้พูดพระคำของพระองค์ให้กับพวกคุณฟัง ผมพูดแล้วพูดอีก แต่พวกคุณก็ไม่เคยฟัง
- เยเรมียาห์ 25:4 - พระยาห์เวห์ได้ส่งพวกผู้พูดแทนพระเจ้าซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์มาหาพวกคุณ พระองค์ส่งพวกเขามาแล้วมาอีก แต่คุณก็ไม่ยอมฟัง คุณไม่ได้เงี่ยหูฟังเลย
- เยเรมียาห์ 25:5 - พระองค์พูดอยู่เสมอว่า ‘กลับมา พวกเจ้าแต่ละคน ให้หันกลับมาจากวิถีชีวิตที่ชั่วร้าย และหันกลับมาจากการกระทำต่างๆที่ชั่วช้าของเจ้า และให้มาอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ยกให้กับเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้าตลอดไป
- เยเรมียาห์ 25:6 - อย่าได้ไปติดตามและรับใช้พระอื่นๆ อย่าได้ไปกราบไหว้พระอื่นเลย และอย่าได้ยั่วโมโหเราด้วยสิ่งที่เจ้าสร้างขึ้นมากับมือของเจ้าเองเลย แล้วเราจะไม่ทำอันตรายเจ้า
- เยเรมียาห์ 25:7 - แต่เจ้าก็ไม่ยอมฟังเรา’” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “เจ้าก็เลยยั่วเราด้วยสิ่งที่เจ้าสร้างขึ้นมากับมือเจ้าเอง ทำให้เราต้องทำร้ายเจ้า”
- เยเรมียาห์ 26:2 - นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด “เยเรมียาห์ ให้เจ้าไปยืนอยู่ในลานของวิหารของพระยาห์เวห์ แล้วพูดต่อว่าประชาชนจากเมืองทั้งหลายของยูดาห์ที่กำลังมานมัสการที่วิหารของพระยาห์เวห์ แล้วพูดกับพวกเขาตามที่เราสั่ง ให้เจ้าพูดกับพวกเขาทุกคำห้ามตกแม้แต่คำเดียว
- เยเรมียาห์ 26:3 - บางทีพวกเขาอาจจะฟัง แล้วแต่ละคนก็หันหลังให้กับวิถีชีวิตบาปๆของพวกเขาก็ได้ ถ้าพวกเขาทำอย่างนั้น เราก็จะเปลี่ยนใจจากเรื่องความหายนะที่เราได้วางแผนจะให้เกิดขึ้นกับพวกเขา เพราะการกระทำที่ชั่วช้าต่างๆของพวกเขา
- เยเรมียาห์ 26:4 - แล้วเจ้าก็ควรพูดกับพวกเขาว่า พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า ‘ถ้าพวกเจ้าไม่ยอมฟังเรา และไม่ยอมเดินตามกฎของเราที่เราได้ให้ไว้ต่อหน้าเจ้า
- เยเรมียาห์ 26:5 - และไม่ยอมฟังถ้อยคำต่างๆของผู้พูดแทนพระเจ้าผู้รับใช้ของเรา ที่เราได้ส่งมาให้เจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกเจ้าไม่ยอมฟังเขา
- เยเรมียาห์ 26:6 - เราก็จะทำให้วิหารนี้เป็นเหมือนชิโลห์ และให้ชนชาติต่างๆทั่วโลกใช้ชื่อของเมืองนี้เป็นคำสาปแช่ง’”
- มาระโก 12:2 - เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลองุ่นเขาก็ส่งทาสคนหนึ่งมารับส่วนแบ่งจากผลองุ่นนั้น
- มาระโก 12:3 - แต่พวกคนเช่ากลับจับทาสคนนั้นทุบตีและไล่กลับไปมือเปล่า
- มาระโก 12:4 - เจ้าของสวนส่งทาสคนใหม่มาอีก แต่คราวนี้พวกคนเช่าก็ได้รุมกันทุบหัวเขาและแกล้งเขาจนอับอาย
- มาระโก 12:5 - เจ้าของสวนส่งอีกคนหนึ่งมาแต่ก็ถูกฆ่า แล้วเขาก็ยังส่งคนมาอีกเรื่อยๆ คนที่เขาส่งมาก็ถูกตีบ้าง ถูกฆ่าบ้าง
- สดุดี 106:16 - บางคนในค่ายพักอิจฉาริษยาโมเสส และอาโรนนักบวชผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์
- สดุดี 106:17 - ดังนั้นแผ่นดินได้แยกออกดูดกลืนดาธานลงไป และกลบพรรคพวกของอาบีรัม
- สดุดี 106:18 - มีไฟลุกลามใหญ่โตท่ามกลางพรรคพวกที่เหลือของเขา เปลวไฟได้เผาผลาญคนชั่วเหล่านั้น
- สดุดี 106:19 - แล้วบรรพบุรุษก็สร้างลูกวัวทองคำขึ้นมาที่ภูเขาโฮเรบ และก้มกราบนมัสการรูปที่หล่อจากโลหะนั้น
- สดุดี 106:20 - พวกเขาเอาพระเจ้าผู้เต็มไปด้วยบารมี ไปแลกกับรูปหล่อของวัวตัวผู้ที่กินหญ้า
- สดุดี 106:21 - พวกเขาลืมพระเจ้าผู้ที่ช่วยชีวิตพวกเขาให้รอด และผู้ที่ทำสิ่งยิ่งใหญ่ทั้งหลายในอียิปต์
- เอสรา 9:7 - ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษของพวกเรามาจนถึงทุกวันนี้ เรามีความผิดที่ร้ายแรงมาก และเพราะบาปของเรา พวกเรา รวมทั้งพวกกษัตริย์ของเรา และพวกนักบวชของเราต้องตกไปอยู่ในกำมือของพวกกษัตริย์ต่างชาติทั้งหลาย ถูกดาบฆ่าฟัน ถูกจับไปเป็นเชลย ถูกปล้น และได้รับความอับอายขายหน้าจนถึงทุกวันนี้
- สดุดี 106:32 - แต่แล้ว พวกอิสราเอลก็ทำให้พระองค์โกรธอีกที่ตาน้ำเมรีบาห์ และพวกเขาก่อปัญหาให้กับโมเสสด้วย
- สดุดี 106:33 - คนพวกนั้นทำให้โมเสสโกรธ เขาจึงพูดโดยไม่ได้ยั้งคิด
- สดุดี 106:34 - แล้วพวกอิสราเอลก็ไม่ได้ทำลายชนชาติอื่นๆ ตามที่พระยาห์เวห์บอกให้พวกเขาทำ
- สดุดี 106:35 - แต่พวกเขากลับไปคลุกคลีอยู่กับคนพวกนั้น และไปหัดทำตามสิ่งที่คนพวกนั้นทำ
- สดุดี 106:36 - พวกเขาเริ่มไปบูชาพวกเทวรูปทั้งหลายของคนพวกนั้น และสิ่งนี้ได้กลายเป็นกับดักที่ทำให้พวกเขาล้มไป
- สดุดี 106:37 - พวกเขายอมแม้กระทั่งเอาลูกชายลูกสาวของตัวเอง มาบูชายัญพวกปีศาจ
- สดุดี 106:38 - พวกเขาทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์ต้องหลั่งไหล คือเลือดของลูกชายลูกสาวของพวกเขาเอง ที่เอามาบูชายัญต่อพวกเทวรูปของคานาอัน และแผ่นดินของพวกเขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไปเพราะเลือดของคนเหล่านั้น
- สดุดี 106:39 - และพวกเขาเองก็เป็นมลทินเพราะการกระทำของพวกเขา พวกเขาไม่สัตย์ซื่อเหมือนกับหญิงโสเภณี
- สดุดี 106:40 - ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงโกรธคนของพระองค์ และสะอิดสะเอียนพวกเขา
- เอเสเคียล 23:1 - คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า
- เอเสเคียล 23:2 - “เจ้าลูกมนุษย์ มีพี่น้องอยู่สองคน เป็นลูกสาวจากแม่เดียวกัน
- เอเสเคียล 23:3 - พวกนางกลายเป็นโสเภณีอยู่ในอียิปต์ ไปขายตัวตอนที่พวกเขายังเป็นเด็กในแผ่นดินนั้น ที่นั่นพวกนางยอมให้ผู้ชายเคล้าคลึงเต้านม และลูบไล้หน้าอกอันแรกแย้มของพวกนาง
- เอเสเคียล 23:4 - คนพี่ชื่อโอโฮลาห์ และคนน้องชื่อโอโฮลีบาห์ พวกนางกลายเป็นเมียเรา และคลอดลูกชายและลูกสาวให้กับเรา โอโฮลาห์มีอีกชื่อหนึ่งว่าสะมาเรีย โอโฮลีบาห์มีอีกชื่อหนึ่งว่าเยรูซาเล็ม
- เอเสเคียล 23:5 - โอโฮลาห์ไปขายตัวในขณะที่ยังเป็นเมียของเรา และนางได้ลุ่มหลงพวกชู้รักของนาง คือชาวอัสซีเรียพวกนักรบ
- เอเสเคียล 23:6 - ที่ใส่ชุดสีน้ำเงิน มีทั้งนายทหารชั้นสูงและผู้บังคับบัญชา พวกเขาล้วนเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาและเป็นทหารม้า
- เอเสเคียล 23:7 - โอโฮลาห์เสนอตัวเองให้กับพวกเขา คือชายอัสซีเรียทุกคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางได้ทำตัวให้เสื่อมเสียไปกับพวกรูปเคารพของคนเหล่านั้นทั้งหมดที่นางลุ่มหลงอยู่นั้น
- เอเสเคียล 23:8 - นางไม่ยอมเลิกขายตัว ที่นางได้เริ่มทำมาตั้งแต่วัยสาวในประเทศอียิปต์ ตอนที่ชายหลายคนร่วมหลับนอนกับนาง พวกเขาลูบไล้หน้าอกที่แรกแย้มของนางและเทความใคร่ของพวกเขาไว้บนตัวนาง
- เอเสเคียล 23:9 - ดังนั้นเราได้มอบนางให้กับพวกอัสซีเรียชู้รักที่นางลุ่มหลง
- เอเสเคียล 23:10 - พวกเขาได้จับนางเปลื้องผ้าออก แล้วเอาตัวพวกลูกชายลูกสาวของนางไป และพวกเขาก็ฆ่านางด้วยดาบ และพวกผู้หญิงใช้ชื่อนางในการแช่งด่าชาวบ้าน นั่นคือโทษที่เราได้กำหนดไว้สำหรับนาง
- เอเสเคียล 23:11 - โอโฮลีบาห์น้องสาวของนางได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่นางกลับเลวทรามยิ่งกว่าพี่สาวของนางในเรื่องความใคร่และการขายตัว
- เอเสเคียล 23:12 - นางยังได้ลุ่มหลงพวกชาวอัสซีเรียที่เป็นทหารชั้นสูง ผู้บังคับบัญชา นักรบที่แต่งตัวเต็มยศและทหารม้า พวกเขาทั้งหมดล้วนแต่เป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา
- เอเสเคียล 23:13 - เราเห็นว่านางทำตัวเสื่อมเสีย พี่น้องสองคนนี้เดินในแนวทางเดียวกัน
- เอเสเคียล 23:14 - โอโฮลีบาห์ยังขายตัวหนักยิ่งขึ้น นางไปเห็นภาพของพวกชาวเคลเดีย ที่วาดด้วยสีแดงอยู่บนกำแพง
- เอเสเคียล 23:15 - พวกเขามีเข็มขัดคาดอยู่รอบเอว และมีผ้าโพกหัวอยู่ พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนนายทหารชาวบาบิโลน ที่มีบ้านเกิดมาจากเมืองเคลเดีย
- เอเสเคียล 23:16 - ทันทีที่นางเห็นพวกเขา นางก็ลุ่มหลงพวกเขาและได้ส่งคนไปตามหาพวกเขาในเคลเดีย
- เอเสเคียล 23:17 - แล้วชาวบาบิโลนก็ได้มาพบนางเพื่อร่วมรักกับนางบนเตียง และพวกเขาได้ทำให้นางเสื่อมเสียด้วยความใคร่ของพวกเขา หลังจากที่นางทำตัวเสื่อมเสียกับพวกเขาแล้ว นางก็ตีจากพวกเขาไปด้วยความขยะแขยง
- เอเสเคียล 23:18 - โอโฮลีบาห์ยังขายตัวอย่างเปิดเผย และเผยความเปลือยเปล่าของนาง เราได้ตีจากนางไปด้วยความขยะแขยงเหมือนกับที่เราเคยตีจากพี่สาวนางไป
- เอเสเคียล 23:19 - เมื่อนางหวนคิดถึงครั้งที่นางยังเป็นสาวอยู่ ตอนที่นางเป็นโสเภณีอยู่ในประเทศอียิปต์ นางกลับยิ่งสำส่อนมากขึ้น
- เอเสเคียล 23:20 - นางลุ่มหลงชู้รักของนางที่นั่นที่มีอวัยวะเพศเหมือนลา และมีการหลั่งน้ำกามเหมือนม้า
- เอเสเคียล 23:21 - โอโฮลีบาห์ อย่างนี้ เจ้าได้หวนหาการร่านสวาทแห่งวัยสาวของเจ้า เมื่อครั้งอยู่ในประเทศอียิปต์ ที่เต้านมของเจ้าถูกเคล้าคลึงและหน้าอกของเจ้าถูกลูบไล้
- เอเสเคียล 23:22 - ดังนั้น โอโฮลีบาห์ นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ‘เราจะปลุกปั่นพวกชู้รักของเจ้าให้ต่อต้านเจ้า
- เอเสเคียล 23:23 - ทั้งชาวบาบิโลนและชาวเคลเดียทั้งหมด พวกผู้ชายในเปโขด โชอาและโคอา รวมทั้งชาวอัสซีเรียทั้งหมด คือพวกชายหนุ่มที่หล่อเหลา ที่เป็นทหารชั้นสูง ผู้บังคับบัญชา นายทหาร และวีรบุรุษผู้กล้า ทุกคนล้วนขี่ม้า
- เอเสเคียล 23:24 - พวกเขาจะมาต่อต้านเจ้าด้วยอาวุธ รถรบ เกวียน และฝูงชนเป็นจำนวนมาก พวกเขาจะมาจากทุกๆด้าน เพื่อต่อต้านเจ้าด้วยโล่ขนาดใหญ่และเล็ก กับหมวกเหล็ก เราจะปล่อยให้พวกเขาลงโทษเจ้า ตามที่พวกเขาเห็นสมควร
- เอเสเคียล 23:25 - เราจะหันความโกรธอันหึงหวงของเราใส่เจ้า และพวกเขาจะจัดการกับเจ้าอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาจะตัดจมูกและหูของเจ้า คนของเจ้าที่ยังเหลืออยู่จะล้มลงด้วยดาบ พวกเขาจะเอาตัวพวกลูกชายและลูกสาวของเจ้าไป ส่วนพวกที่เหลือจะถูกไฟคลอกตาย
- เอเสเคียล 23:26 - พวกเขาจะเปลื้องผ้าเจ้าออกและเอาเครื่องเพชรดีๆของเจ้าไป
- เอเสเคียล 23:27 - แล้วเราทำให้การร่านสวาทและการขายตัวของเจ้าที่เจ้าได้ริเริ่มไว้ในประเทศอียิปต์นั้นจบสิ้นไป เจ้าจะได้ไม่หวนหาสิ่งเหล่านี้ หรือคิดถึงประเทศอียิปต์อีกต่อไป’”
- เอเสเคียล 23:28 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
- เอเสเคียล 23:29 - พวกเขาจะจัดการกับเจ้าด้วยความเกลียด และเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าทำงานได้มา พวกเขาจะทิ้งเจ้าให้เปลือยเปล่าล่อนจ้อน และความอับอายของการขายตัวของเจ้าจะถูกเปิดเผย การร่านสวาทและการขายตัวของเจ้า
- เอเสเคียล 23:30 - ได้นำพาสิ่งนี้มาสู่ตัวเจ้า เพราะเจ้าได้ไปขายตัวกับชนชาติต่างๆและทำให้ตัวเจ้าเสื่อมเสียกับรูปเคารพของพวกเขา
- เอเสเคียล 23:31 - เจ้าได้ทำตัวเหมือนกับพี่สาวของเจ้า ดังนั้นเราจะเอาถ้วยที่นางถูกบังคับให้ดื่มนั้นใส่ไว้ในมือของเจ้า”
- เอเสเคียล 23:32 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนี้ “เจ้าจะดื่มจากถ้วยของพี่สาวเจ้า เป็นถ้วยขนาดใหญ่และลึก มันจุได้เยอะ เจ้าจะถูกเยาะเย้ยและถากถาง
- เอเสเคียล 23:33 - เจ้าจะเต็มไปด้วยความมึนเมาและความเศร้าโศก จากถ้วยแห่งความน่าสะพรึงกลัวและน่าสยดสยองซึ่งคือถ้วยของสะมาเรียพี่สาวของเจ้า
- เอเสเคียล 23:34 - เจ้าจะดื่มมันหมดเกลี้ยง เจ้าจะทำมันแตกและดูดเศษชิ้นๆของมัน เจ้าจะฉีกอกของเจ้า เราได้ลั่นคำพูดไปแล้ว” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- เอเสเคียล 23:35 - ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เจ้าจะต้องรับผลแห่งการร่านสวาทและการขายตัวของเจ้า เพราะเจ้าได้ลืมเราและโยนเราไปไว้ข้างหลังเจ้า”
- เอเสเคียล 23:36 - พระยาห์เวห์พูดกับผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์
- เอเสเคียล 23:37 - พวกนางได้เล่นชู้ และเลือดของผู้บริสุทธิ์ก็ตกอยู่ในมือของพวกนาง พวกนางเล่นชู้กับพวกรูปเคารพ พวกนางได้เอาลูกๆที่นางได้คลอดให้กับเรา ไปสังเวยในไฟให้เป็นอาหารกับรูปเคารพพวกนั้น
- เอเสเคียล 23:38 - แล้วในวันเดียวกันนั้น พวกนางยังทำอย่างนี้กับเราด้วย คือพวกนางได้ทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราเสื่อมไป และทำให้พวกวันหยุดทางศาสนาของเราเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป
- เอเสเคียล 23:39 - ในวันที่พวกนางได้เอาลูกๆไปสังเวยรูปเคารพเหล่านั้น พวกนางได้เข้ามาในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา ซึ่งทำให้มันเสื่อมไป นี่คือสิ่งที่พวกเขาทำภายในบ้านของเรา
- เอเสเคียล 23:40 - พวกนางยังได้ส่งคนไปตามหาผู้ชายจากแดนไกล และพวกเขาก็มา เจ้าก็อาบน้ำชำระตัว เตรียมต้อนรับพวกเขา เจ้าทาตาและสวมใส่เพชรพลอย
- เอเสเคียล 23:41 - เจ้านั่งอยู่บนเก้าอี้นอนที่หรูหรา ที่มีโต๊ะวางเครื่องหอม กับน้ำมันที่เป็นของเราตั้งอยู่ข้างหน้า
- เอเสเคียล 23:42 - ที่นั่นมีเสียงฝูงชนที่ปล่อยตัวเฮฮากัน มีพวกขี้เมามาจากทะเลทราย กับฝูงชนที่วุ่นวาย พวกเขาสวมกำไลไว้ที่แขนของโสเภณีพวกนั้น และสวมมงกุฎไว้บนหัวของพวกนาง
- เอเสเคียล 23:43 - แล้วเราก็พูดขึ้นว่า ‘โถ นางเล่นชู้เสียจนหมดเรี่ยวแรงแล้ว แต่คนพวกนั้นก็ยังไม่ยอมหยุดร่วมเพศกับนางเสียที’
- เอเสเคียล 23:44 - และพวกเขาก็เข้าหานาง เหมือนกับที่เข้าหาโสเภณี คนเหล่านั้นได้เข้าไปหาโอโฮลาห์และโอโฮลีบาห์ หญิงร่านสวาทสองคนนั้น
- เอเสเคียล 23:45 - แต่พวกผู้พิพากษาที่ยุติธรรมจะตัดสินลงโทษพวกนาง พวกนางจะต้องรับโทษ ที่เล่นชู้และทำให้เกิดการนองเลือด เพราะพวกนางเป็นหญิงเล่นชู้และมือของพวกนางก็เปื้อนเลือด”
- เอเสเคียล 23:46 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “ให้นำกลุ่มคนออกมาต่อต้านพวกนาง แล้วมอบพวกนางให้กับความน่าสะพรึงกลัวและการปล้นสะดม
- เอเสเคียล 23:47 - กลุ่มคนเหล่านี้จะเอาหินขว้างพวกนาง และฆ่าพวกนางด้วยดาบ พวกเขาจะฆ่าลูกชายลูกสาวของพวกนาง และเผาบ้านของพวกนางทิ้ง
- เอเสเคียล 23:48 - ด้วยวิธีนี้ เราจะทำให้การร่านสวาทในแผ่นดินนี้สิ้นสุดลง เพื่อพวกผู้หญิงทุกคนจะได้รับบทเรียนและไม่ร่านสวาทอย่างที่เจ้าทำนั้น
- เอเสเคียล 23:49 - พวกเขาจะลงโทษเจ้า สำหรับการร่านสวาทของเจ้า และเจ้าจะต้องรับผิดสำหรับบาปของเจ้าที่ไปกราบไหว้รูปเคารพ แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต”
- เยเรมียาห์ 7:2 - “เยเรมียาห์ ให้ไปยืนอยู่ในประตูวิหารของพระยาห์เวห์ และประกาศข้อความนี้ออกไป
- กันดารวิถี 32:13 - พระยาห์เวห์จึงโกรธชาวอิสราเอล พระองค์ทำให้พวกเขาต้องรอนแรมอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งถึงสี่สิบปี จนกระทั่งคนในรุ่นที่ทำให้พระองค์ไม่พอใจตายไปจนหมดเกลี้ยง
- กันดารวิถี 32:14 - และตอนนี้พวกเจ้าคนบาปอีกรุ่นหนึ่ง กลับจะมาแทนที่พ่อของเจ้า เพื่อจะทำให้พระยาห์เวห์โกรธมากขึ้นไปอีก
- เนหะมียาห์ 9:16 - แต่พวกบรรพบุรุษของพวกเราทำตัวเย่อหยิ่งจองหองและหัวแข็งดื้อรั้น พวกเขาไม่ยอมฟังคำสั่งต่างๆของพระองค์
- เนหะมียาห์ 9:17 - พวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังและพวกเขาไม่ได้จดจำ ถึงการอัศจรรย์ต่างๆของพระองค์ที่พระองค์ได้ทำไปท่ามกลางพวกเขา แต่พวกเขากลับหัวแข็งดื้อรั้นและได้แต่งตั้งหัวหน้าขึ้นมา เพื่อนำพวกเขากลับไปเป็นทาสในอียิปต์อีก แต่พระองค์เป็นพระเจ้าที่ให้อภัย มีใจเมตตาและกรุณา มีความอดทนและมีความรักอันมั่นคง ดังนั้นพระองค์จึงไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:18 - ถึงแม้พวกบรรพบุรุษของพวกเราจะหล่อโลหะรูปลูกวัวขึ้นมาสำหรับพวกเขาเอง และบอกว่า ‘นี่คือพระเจ้าของเจ้าที่นำเจ้าออกมาจากอียิปต์’ ถึงแม้การกระทำนี้จะดูหมิ่นพระองค์อย่างยิ่ง
- ยอห์น 20:21 - แล้วพระเยซูพูดอีกว่า “ขอให้มีสันติสุข ตอนนี้เราก็จะส่งพวกคุณไปเหมือนกับที่พระบิดาได้ส่งเรามา”
- ยอห์น 20:22 - เมื่อพระองค์พูดอย่างนั้นแล้ว ก็ระบายลมหายใจรดพวกเขาและพูดว่า “รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ไป
- กิจการ 7:51 - พวกคุณหัวแข็ง ใจแข็งกระด้างและดื้อดึง พวกคุณได้แต่ต่อต้านพระวิญญาณบริสุทธิ์เหมือนกับบรรพบุรุษของคุณ
- โรม 10:15 - แล้วจะมีใครไปประกาศได้อย่างไรถ้าไม่มีคนส่งไป เหมือนกับที่พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า “เป็นเวลาที่เหมาะจริงๆที่มีคนวิ่งมาบอกข่าวดีกับเรา”
- เยเรมียาห์ 1:7 - แต่พระยาห์เวห์พูดกับผมว่า “อย่าพูดว่า ‘ข้าพเจ้าเป็นแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น’ เพราะเจ้าจะต้องไปหาทุกคนที่เราส่งให้เจ้าไป และเจ้าจะต้องพูดทุกอย่างตามที่เราสั่งเจ้า
- เอเสเคียล 3:4 - แล้วพระองค์พูดกับผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ ตอนนี้ให้ไปหาครอบครัวของชาวอิสราเอล และเอาคำพูดต่างๆของเราไปเล่าให้กับพวกเขาฟัง
- เอเสเคียล 3:5 - เราไม่ได้ส่งเจ้าไปหาพวกที่พูดภาษาที่เจ้าฟังไม่รู้เรื่องหรือพูดภาษาที่ยากๆ แต่เราส่งเจ้าไปหาครอบครัวของชาวอิสราเอล
- เอเสเคียล 3:6 - เราไม่ได้ส่งเจ้าไปหาคนจำนวนมากมายที่พูดภาษาที่เจ้าไม่รู้เรื่อง หรือคนที่พูดภาษายากๆที่เจ้าไม่เข้าใจ อันที่จริง ถ้าเราส่งเจ้าไปหาคนพวกนั้น พวกเขาก็คงจะฟังเจ้า
- เอเสเคียล 3:7 - แต่ครอบครัวของชาวอิสราเอลจะไม่ยอมฟังเจ้า เพราะพวกเขาไม่ยอมฟังเรา คนพวกนี้หัวแข็งและดื้อดึง
- เอเสเคียล 3:8 - คอยดูนะ เราจะทำให้เจ้าหัวแข็งเพื่อชนกับคนพวกนั้น และดื้อดึงพอๆกับคนพวกนั้น
- กันดารวิถี 20:10 - โมเสสและอาโรนก็เรียกชุมนุมคนที่หน้าหินก้อนนั้น โมเสสพูดกับพวกเขาทั้งหลายว่า “ฟังให้ดี ไอ้พวกแข็งข้อ จะให้เราทำน้ำออกมาจากหินก้อนนี้หรือ”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:27 - โปรดระลึกถึงอับราฮัม อิสอัคและยาโคบ ผู้รับใช้ของพระองค์ อย่าไปสนใจกับความดื้อดึง ความชั่วร้ายและความบาปของคนพวกนี้เลย
- เนหะมียาห์ 9:33 - ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรานั้น พระองค์ทำอย่างยุติธรรมแล้ว พระองค์ทำในสิ่งที่ซื่อสัตย์ ในขณะที่พวกเราทำแต่ความผิด
- เนหะมียาห์ 9:34 - พวกกษัตริย์ พวกผู้นำ พวกนักบวช และพวกบรรพบุรุษของเรา ไม่ได้รักษากฎบัญญัติของพระองค์ พวกเขาไม่ใส่ใจกับคำสั่งต่างๆและคำตักเตือนที่พระองค์ให้กับพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:35 - แม้แต่ตอนที่พวกเขาอยู่ในอาณาจักรของพวกเขาเอง และมีความสุขกับความเจริญรุ่งเรืองอันยิ่งใหญ่ และแผ่นดินอันกว้างใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ที่พระองค์มอบให้กับพวกเขา พวกเขาก็ไม่ได้รับใช้พระองค์และไม่ได้หันไปจากการกระทำอันชั่วร้ายของพวกเขา
- เยเรมียาห์ 16:11 - เจ้าจะต้องบอกพวกนั้นว่า พระยาห์เวห์บอกว่า ‘ก็เพราะพวกบรรพบุรุษของเจ้าทอดทิ้งเราไปและหันไปติดตามพระอื่นๆ ไปรับใช้ และกราบไหว้พวกมัน พวกเขาทอดทิ้งเรา และไม่ได้รักษากฎของเรา
- เยเรมียาห์ 16:12 - แต่พวกเจ้ากลับทำชั่วร้ายยิ่งกว่าพวกบรรพบุรุษของเจ้าเสียอีก แถมพวกเจ้าแต่ละคนยังไปทำตามใจชั่วๆของเจ้าเองแทนที่จะฟังเรา
- เยเรมียาห์ 36:2 - “เยเรมียาห์ ให้เอาหนังสือม้วนมา แล้วเขียนถ้อยคำทั้งหมดที่เราได้พูดกับเจ้าต่อว่าอิสราเอล ยูดาห์ และชนชาติทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกที่เราพูดกับเจ้าคือตั้งแต่ช่วงที่โยสิยาห์เป็นกษัตริย์ มาจนถึงวันนี้
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:17 - พวกเขาเอาลูกชายลูกสาวของตัวเองมาเผาไฟเป็นเครื่องบูชายัญ พวกเขาได้ดูหมอ ใช้เวทมนตร์ และยอมขายตัวเองเพื่อทำในสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระยาห์เวห์ ซึ่งยุให้พระองค์โกรธ
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:18 - ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงโกรธอิสราเอลมาก และไล่พวกเขาให้พ้นไปจากสายตาของพระองค์ เหลือแต่คนเผ่ายูดาห์เท่านั้น
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:19 - และแม้แต่ยูดาห์เองก็ไม่ยอมรักษาคำสั่งต่างๆของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา พวกเขาได้ไปทำตามธรรมเนียมประเพณีที่อิสราเอลนำเข้ามา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:20 - พระยาห์เวห์ได้ละทิ้งชาวอิสราเอลทั้งหมด พระองค์ลงโทษพวกเขา และมอบพวกเขาไว้ในกำมือของคนที่มาปล้นพวกเขา ในที่สุดพระองค์ได้ผลักไสโยนพวกเขาออกไปจากหน้าพระองค์จนหมด
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:24 - พวกท่านได้ขัดขืนพระยาห์เวห์มาตลอด ตั้งแต่วันที่เรารู้จักพวกท่านเป็นครั้งแรก
- ดาเนียล 9:5 - พวกเราทำบาป ทำผิด และทำสิ่งที่ชั่วร้าย เราได้กบฏและเบือนหน้าหนีจากคำสั่งและกฎเกณฑ์ของพระองค์
- ดาเนียล 9:6 - เราไม่ยอมฟังพวกผู้รับใช้ของพระองค์ พวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่มาพูดตามคำสั่งของพระองค์ ที่พระองค์สั่งให้มาพูดกับกษัตริย์ของเรา พวกผู้นำ พวกพ่อของเรา และทุกคนในประเทศ
- ดาเนียล 9:7 - องค์เจ้าชีวิตเจ้าข้า พระองค์ทำถูกต้องแล้ว แต่เรานำความอับอายขายหน้ามาสู่พวกเราเองจนถึงทุกวันนี้ คือมาสู่คนยูดาห์ พลเมืองของเยรูซาเล็ม และชาวอิสราเอลทุกคน ทั้งใกล้และไกล มาสู่คนในทุกประเทศที่พระองค์ทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปนั้น หลังจากที่พวกเขาทรยศต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:8 - ใช่แล้วพระยาห์เวห์ เราได้นำความอับอายมาสู่พวกเราเอง ทั้งพวกเรา พวกกษัตริย์ พวกผู้นำ และพวกพ่อของเรา เพราะพวกเราทุกคนได้ทำบาปต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:9 - แต่องค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของเรามีความเมตตาและให้อภัยพวกเราที่ได้กบฏต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:10 - เราไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา นั่นคือเราไม่ได้ใช้ชีวิตตามคำสอนของพระองค์ ที่พระองค์ให้กับเรา ผ่านมาทางพวกผู้รับใช้ของพระองค์ คือพวกผู้พูดแทนพระเจ้านั่นเอง
- ดาเนียล 9:11 - คนอิสราเอลทุกคนละเมิดคำสั่งสอนของพระองค์ และทำผิดที่ไม่ฟังพระองค์ ดังนั้นคำสาปแช่งและคำปฏิญาณ ที่เขียนไว้ในกฎของโมเสส ผู้รับใช้ของพระเจ้า ได้ตกอยู่บนเรา เพราะเราได้ทำบาปต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:12 - พระองค์ก็เลยทำตามที่พระองค์ขู่ไว้ว่า จะให้เกิดขึ้นกับพวกเรา และกับพวกผู้นำของเรา พระองค์นำความหายนะครั้งใหญ่มาใส่เรา ความหายนะที่เกิดขึ้นกับเยรูซาเล็มนั้นร้ายแรงมาก ไม่เหมือนกับความหายนะอันไหนเลยที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทั่วใต้ฟ้านี้
- ดาเนียล 9:13 - ความทุกข์ยากที่ได้เขียนไว้ในกฎของโมเสส ก็ได้เกิดขึ้นกับเรา เหมือนกับที่ได้เขียนไว้ในกฎทุกอย่าง แต่พวกเราก็ไม่ได้พยายามที่จะทำให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราพอใจ ด้วยการหันจากการทำชั่วของเรา และเรียนรู้จากความซื่อสัตย์ของพระองค์
- 1 ซามูเอล 8:7 - พระยาห์เวห์บอกซามูเอลว่า “ให้ฟังคำพูดของประชาชนทั้งหมดที่พูดกับเจ้า พวกเขาไม่ได้ปฏิเสธเจ้า แต่ปฏิเสธเรา ไม่ให้เป็นกษัตริย์เหนือพวกเขา
- 1 ซามูเอล 8:8 - พวกเขาชอบทำอย่างนี้ตั้งแต่วันที่เราได้นำพวกเขาออกมาจากอียิปต์จนถึงวันนี้ คือพวกเขาจะละทิ้งเราและไปรับใช้พระอื่นๆ แล้วพวกเขาก็กำลังทำอย่างนั้นกับเจ้าด้วย
- เยเรมียาห์ 3:25 - ขอให้เรานอนลงในความอับอายของตัวเอง และปล่อยให้ความอับอายขายหน้าคลุมตัวเราไว้ เพราะว่าเราได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา ทั้งเราและบรรพบุรุษของเรา ตั้งแต่เรายังเป็นหนุ่มสาวจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ เราไม่ได้เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราเลย”