逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - แล้วพวกกษัตริย์เคโดร์ลาโอเมอร์ก็หันทัพกลับไปตีเมืองเอนมิสปัท (ซึ่งก็คือเมืองเคเดช) พวกเขาได้รบชนะไปทั่วทั้งเขตแดนของชาวอามาเลคและชาวอาโมไรต์ที่อาศัยอยู่ในฮาซาโซนทามาร์
- 新标点和合本 - 他们回到安密巴,就是加低斯,杀败了亚玛力全地的人,以及住在哈洗逊他玛的亚摩利人。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 他们转回,来到安‧密巴,就是加低斯,击败了亚玛力全地的人,以及住在哈洗逊‧他玛的亚摩利人。
- 和合本2010(神版-简体) - 他们转回,来到安‧密巴,就是加低斯,击败了亚玛力全地的人,以及住在哈洗逊‧他玛的亚摩利人。
- 当代译本 - 然后,他们返回安·密巴,即加低斯,征服了亚玛力全境以及住在哈洗逊·他玛的亚摩利人。
- 圣经新译本 - 然后转到安.密巴,就是加低斯,攻占了亚玛力人全部的领土,也击败了住在哈洗逊.他玛的亚摩利人。
- 中文标准译本 - 然后他们返回,来到恩米示帕,就是加低斯,征服了亚玛力人的全境,击败了住在哈洗逊-塔玛尔的亚摩利人。
- 现代标点和合本 - 他们回到安密巴,就是加低斯,杀败了亚玛力全地的人,以及住在哈洗逊他玛的亚摩利人。
- 和合本(拼音版) - 他们回到安密巴,就是加低斯,杀败了亚玛力全地的人,以及住在哈洗逊他玛的亚摩利人。
- New International Version - Then they turned back and went to En Mishpat (that is, Kadesh), and they conquered the whole territory of the Amalekites, as well as the Amorites who were living in Hazezon Tamar.
- New International Reader's Version - Then they turned back and went to En Mishpat. En Mishpat was also called Kadesh. They took over the whole territory of the Amalekites. They also won the battle against the Amorites who were living in Hazezon Tamar.
- English Standard Version - Then they turned back and came to En-mishpat (that is, Kadesh) and defeated all the country of the Amalekites, and also the Amorites who were dwelling in Hazazon-tamar.
- New Living Translation - Then they turned back and came to En-mishpat (now called Kadesh) and conquered all the territory of the Amalekites, and also the Amorites living in Hazazon-tamar.
- Christian Standard Bible - Then they came back to invade En-mishpat (that is, Kadesh ), and they defeated the whole territory of the Amalekites, as well as the Amorites who lived in Hazazon-tamar.
- New American Standard Bible - Then they turned back and came to En-mishpat (that is, Kadesh), and conquered all the country of the Amalekites, and also the Amorites, who lived in Hazazon-tamar.
- New King James Version - Then they turned back and came to En Mishpat (that is, Kadesh), and attacked all the country of the Amalekites, and also the Amorites who dwelt in Hazezon Tamar.
- Amplified Bible - Then they turned back and came to En-mishpat (that is, Kadesh), and subdued all the country of the Amalekites, and also the Amorites who lived in Hazazon-tamar.
- American Standard Version - And they returned, and came to En-mishpat (the same is Kadesh), and smote all the country of the Amalekites, and also the Amorites, that dwelt in Hazazon-tamar.
- King James Version - And they returned, and came to En–mishpat, which is Kadesh, and smote all the country of the Amalekites, and also the Amorites, that dwelt in Hazazon–tamar.
- New English Translation - Then they attacked En Mishpat (that is, Kadesh) again, and they conquered all the territory of the Amalekites, as well as the Amorites who were living in Hazazon Tamar.
- World English Bible - They returned, and came to En Mishpat (also called Kadesh), and struck all the country of the Amalekites, and also the Amorites, that lived in Hazazon Tamar.
- 新標點和合本 - 他們回到安‧密巴,就是加低斯,殺敗了亞瑪力全地的人,以及住在哈洗遜‧他瑪的亞摩利人。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 他們轉回,來到安‧密巴,就是加低斯,擊敗了亞瑪力全地的人,以及住在哈洗遜‧他瑪的亞摩利人。
- 和合本2010(神版-繁體) - 他們轉回,來到安‧密巴,就是加低斯,擊敗了亞瑪力全地的人,以及住在哈洗遜‧他瑪的亞摩利人。
- 當代譯本 - 然後,他們返回安·密巴,即加低斯,征服了亞瑪力全境以及住在哈洗遜·他瑪的亞摩利人。
- 聖經新譯本 - 然後轉到安.密巴,就是加低斯,攻佔了亞瑪力人全部的領土,也擊敗了住在哈洗遜.他瑪的亞摩利人。
- 呂振中譯本 - 然後轉到 安密巴 ,就是 加低斯 ,擊毁了 亞瑪力 人的各鄉間,又 擊敗了 住在 哈洗遜他瑪 的 亞摩利 人。
- 中文標準譯本 - 然後他們返回,來到恩米示帕,就是加低斯,征服了亞瑪力人的全境,擊敗了住在哈洗遜-塔瑪爾的亞摩利人。
- 現代標點和合本 - 他們回到安密巴,就是加低斯,殺敗了亞瑪力全地的人,以及住在哈洗遜他瑪的亞摩利人。
- 文理和合譯本 - 四王歸至安密巴、即加低斯、擊亞瑪力之全境、及居哈洗遜他瑪之亞摩利族、
- 文理委辦譯本 - 同盟列王、歸至安密八即迦鐵、擊亞馬勒地及哈洗遜大馬之亞摩哩人。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 四王歸至 安密巴 、即 加叠 、擊 亞瑪力 族之徧地、又擊居 哈洗遜他瑪 之 亞摩利 族、
- Nueva Versión Internacional - Al volver, llegaron hasta Enmispat, es decir, Cades, y conquistaron todo el territorio de los amalecitas, y también el de los amorreos que vivían en la región de Jazezón Tamar.
- 현대인의 성경 - 그런 다음 그들은 방향을 돌려 가데스로 알려진 엔 – 미스밧으로 가서 아말렉족의 온 땅과 하사손 – 다말에 사는 아모리족을 쳐서 대패시켰다.
- Новый Русский Перевод - Оттуда они повернули назад и пришли к Эн-Мишпат (то есть Кадешу) и завоевали всю землю амаликитян, а также аморреев, которые жили в Хацацон-Тамаре.
- Восточный перевод - Оттуда они повернули назад и пришли к Ен-Мишпат (то есть Кадешу), и завоевали всю землю амаликитян, а также аморреев, которые жили в Хацацон-Тамаре.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Оттуда они повернули назад и пришли к Ен-Мишпат (то есть Кадешу), и завоевали всю землю амаликитян, а также аморреев, которые жили в Хацацон-Тамаре.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Оттуда они повернули назад и пришли к Ен-Мишпат (то есть Кадешу), и завоевали всю землю амаликитян, а также аморреев, которые жили в Хацацон-Тамаре.
- La Bible du Semeur 2015 - En revenant sur leurs pas, ils arrivèrent à Eyn-Mishpath – c’est-à-dire Qadesh – , ravagèrent tout le pays des Amalécites et battirent les Amoréens qui habitaient Hatsatsôn-Tamar.
- リビングバイブル - そこから引き返し、今のカデシュに当たるエン・ミシュパテでアマレク人を破り、さらにハツァツォン・タマルのエモリ人をも破りました。
- Nova Versão Internacional - Depois, voltaram e foram para En-Mispate, que é Cades, e conquistaram todo o território dos amalequitas e dos amorreus que viviam em Hazazom-Tamar.
- Hoffnung für alle - Danach kehrten sie zurück nach En-Mischpat, dem späteren Kadesch. Sie verwüsteten das ganze Gebiet der Amalekiter und auch die Gegend um Hazezon-Tamar, die von den Amoritern bewohnt wurde.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Các vua quay lại Ên-mích-phát (tức là Ca-đe), xâm lược lãnh thổ người A-ma-léc và người A-mô-rít tại Ha-xa-xôn Tha-ma.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - แล้ววกกลับมาเอนมิชปัท (คือคาเดช) พวกเขาพิชิตดินแดนทั้งหมดของชาวอามาเลขกับชาวอาโมไรต์ที่อาศัยอยู่ในฮาซาโซนทามาร์
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ครั้นแล้วพวกเขาก็หวนกลับมายังเอนมิชปัท (คือคาเดช) และมีชัยชนะเหนือดินแดนทั้งหมดของชาวอามาเลข และชาวอาโมร์ที่มีรกรากอยู่ที่ฮาซาโซนทามาร์
- Thai KJV - กษัตริย์เหล่านี้กลับมาถึงเมืองเอนมิสปัทซึ่งคือเมืองคาเดช และยกมาตีแผ่นดินทั้งสิ้นของคนอามาเลข และคนอาโมไรต์ที่อาศัยอยู่ ณ เมืองฮาซาโซนทามาร์ด้วย
交叉引用
- กันดารวิถี 14:43 - เพราะพวกชาวอามาเลคและชาวคานาอันจะต่อสู้กับท่านที่นั่น และพวกท่านจะถูกฆ่าฟันล้มลง เพราะพวกท่านได้หันไปจากพระยาห์เวห์ และพระยาห์เวห์ก็จะไม่อยู่กับพวกท่าน”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 1:19 - พวกเราได้ทำตามคำสั่งของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเรา พวกเราจึงออกเดินทางจากภูเขาซีนาย ผ่านที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งที่ยิ่งใหญ่และน่ากลัว อย่างที่พวกท่านก็เห็นมาแล้ว ในระหว่างทางมุ่งเดินไปตามแถบเนินเขาที่ชาวอาโมไรต์อยู่ แล้วเราก็มาถึงคาเดช-บารเนีย
- เฉลยธรรมบัญญัติ 1:46 - แล้วพวกท่านก็อยู่ที่เคเดชเป็นเวลานานหลายวัน
- ปฐมกาล 36:12 - (เอลีฟัสยังมีเมียน้อยชื่อทิมนา และนางทิมนาคลอดลูกชายให้กับเอลีฟัส ชื่ออามาเลค) พวกนี้คือรายชื่อหลานๆของเอซาว ที่เกิดจากลูกชายของอาดาห์เมียของเอซาว
- กันดารวิถี 20:1 - ประชาชนชาวอิสราเอล ทั้งชุมชนมาถึงที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งศินในเดือนที่หนึ่ง ประชาชนอาศัยอยู่ที่เคเดช มิเรียมตายและถูกฝังไว้ที่นี่
- กันดารวิถี 24:20 - แล้วบาลาอัมมองเห็นชาวอามาเลคและพูดกลอนนี้ว่า “อามาเลคเคยเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดท่ามกลางชนชาติอื่น แต่จุดจบของพวกเขาคือจะถูกทำลายจนสิ้นซาก”
- อพยพ 17:8 - ชาวอามาเลคได้ยกทัพมาต่อสู้กับชาวอิสราเอลในตำบลเรฟีดิม
- อพยพ 17:9 - โมเสสพูดกับโยชูวาว่า “ไปเลือกพวกชายหนุ่มมาให้กับพวกเรา เพื่อออกไปสู้รบกับพวกอามาเลค พรุ่งนี้ข้าพเจ้าจะไปยืนอยู่บนยอดเขา และถือไม้เท้าของพระเจ้าในมือ”
- อพยพ 17:10 - โยชูวาจึงทำตามที่โมเสสสั่ง ออกไปสู้รบกับชาวอามาเลค ส่วนโมเสส อาโรน และเฮอร์ ขึ้นไปยืนอยู่บนยอดเขา
- อพยพ 17:11 - โมเสสยกแขนขึ้นเมื่อไหร่ เมื่อนั้นอิสราเอลก็มีชัยเหนือกว่า แต่เมื่อไหร่ที่โมเสสเอาแขนลง ชาวอามาเลคก็จะมีชัยเหนือกว่า
- อพยพ 17:12 - เมื่อโมเสสเมื่อยแขน พวกเขาก็เอาก้อนหินมาวางให้โมเสสนั่ง แล้วอาโรนกับเฮอร์ก็ช่วยพยุงแขนของโมเสสไว้คนละข้าง แขนของเขาจึงยังคงยกอยู่อย่างนั้นจนตะวันตกดิน
- อพยพ 17:13 - โยชูวาทำให้ชาวอามาเลคและกองทัพของมัน พ่ายแพ้ไปด้วยคมดาบของเขา
- อพยพ 17:14 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้จดบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ในสมุด เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจ และให้กรอกหูของโยชูวาว่า เราจะลบความทรงจำที่มีต่อพวกอามาเลคให้หมดไปจากทั่วใต้ฟ้า”
- อพยพ 17:15 - แล้วโมเสสก็สร้างแท่นบูชาขึ้น เขาตั้งชื่อแท่นบูชานี้ว่า “พระยาห์เวห์คือธงชัยของข้าพเจ้า”
- อพยพ 17:16 - เขาพูดว่า “ชูธงชัยของพระยาห์เวห์ไว้ พระยาห์เวห์จะทำสงครามกับพวกอามาเลคตลอดไปทุกรุ่น”
- กันดารวิถี 14:45 - ชาวอามาเลคและชาวคานาอันที่อาศัยอยู่แถบเนินเขานั้นต่างกรูกันลงมา และเข้าโจมตีพวกชาวอิสราเอลจนแตกกระเจิงไปถึงโฮรมาห์
- 1 ซามูเอล 30:1 - ดาวิดกับพวกของเขากลับมาถึงเมืองศิกลากในวันที่สาม ปรากฏว่าชาวอามาเลคได้มาปล้นเนเกบและศิกลาก พวกเขาเข้าโจมตีและเผาเมืองศิกลาก
- 1 ซามูเอล 30:2 - และจับผู้หญิงและทุกคนในเมืองไว้ ทั้งเด็กและคนแก่ ชาวอามาเลคไม่ได้ฆ่าใครเลย แต่กวาดต้อนคนทั้งหมดไปตามทางของพวกเขา
- 1 ซามูเอล 30:3 - เมื่อดาวิดและพวกมาถึงเมืองศิกลาก พวกเขาพบว่าเมืองถูกเผาทำลาย ทั้งเมีย ทั้งลูกชายลูกสาวของพวกเขา ถูกจับตัวไปหมด
- 1 ซามูเอล 30:4 - ดังนั้นดาวิดและพวกจึงร้องไห้เสียงดังจนหมดเรี่ยวแรงไม่สามารถร้องต่อไปได้อีก
- 1 ซามูเอล 30:5 - เมียทั้งสองคนของดาวิดคือนางอาหิโนอัมชาวยิสเรเอลและนางอาบีกายิล เมียม่ายของนาบาลชาวคารเมล ก็ถูกจับไปด้วย
- 1 ซามูเอล 30:6 - ดาวิดตกอยู่ในอันตรายเป็นอย่างมาก เพราะผู้คนพูดกันว่าจะเอาหินขว้างเขา แต่ละคนรู้สึกขมขื่นใจ เพราะลูกชายลูกสาวของพวกเขาถูกจับไป แต่ดาวิดก็มีความกล้าขึ้นในพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา
- 1 ซามูเอล 30:7 - ดาวิดพูดกับนักบวชอาบียาธาร์ลูกชายของอาหิเมเลคว่า “เอาเอโฟดมาให้เราหน่อย” อาบียาธาร์ก็เอามาให้เขา
- 1 ซามูเอล 30:8 - และดาวิดก็ร้องถามพระยาห์เวห์ว่า “ข้าพเจ้าควรจะตามโจรกลุ่มนี้ไปหรือไม่ และข้าพเจ้าจะไล่พวกมันทันหรือเปล่า” พระองค์ตอบว่า “ตามล่ามันไป เจ้าจะไล่พวกมันทัน และช่วยเหลือคนได้สำเร็จ”
- 1 ซามูเอล 30:9 - ดาวิดและชายหนุ่มหกร้อยคน ได้ออกติดตามโจรกลุ่มนั้นไปจนถึงลุ่มแม่น้ำเบโสร์ ที่นั่นเขาได้ทิ้งคนกลุ่มหนึ่งไว้
- 1 ซามูเอล 30:10 - เพราะมีสองร้อยคนที่เหน็ดเหนื่อยมากจนไม่สามารถข้ามลุ่มแม่น้ำไปได้ จึงหยุดพักอยู่ที่นั่น ส่วนดาวิดและคนอีกสี่ร้อยคนยังคงไล่ตามต่อไป
- 1 ซามูเอล 30:11 - พวกเขาพบคนอียิปต์คนหนึ่งในท้องทุ่ง จึงพามาพบดาวิด เขาให้น้ำกับคนอียิปต์นั้นดื่ม ให้อาหารเขากิน
- 1 ซามูเอล 30:12 - เขาให้ผลมะเดื่อแห้งและเค้กองุ่นแห้งสองชิ้น เมื่อเขากินแล้วเขาก็ดีขึ้น เพราะเขาไม่ได้กินและดื่มอะไรเลยมาสามวันสามคืนแล้ว
- 1 ซามูเอล 30:13 - ดาวิดถามคนอียิปต์นั้นว่า “เจ้าเป็นคนของใคร และเจ้ามาจากไหน”
- 1 ซามูเอล 30:14 - พวกเราได้เข้าปล้นเขตแดนเนเกบ ที่คนเคเรธี อาศัยอยู่ และดินแดนที่เป็นของยูดาห์ รวมทั้งเขตแดนเนเกบที่ตระกูลคาเลบอาศัยอยู่ และพวกเราก็เผาศิกลากทิ้ง”
- 1 ซามูเอล 30:15 - ดาวิดถามคนอียิปต์ว่า “เจ้าช่วยพาเราลงไปถึงโจรกลุ่มนี้ได้หรือเปล่า” คนอียิปต์ตอบว่า “สาบานต่อหน้าพระเจ้าก่อนว่า ท่านจะไม่ฆ่าข้าพเจ้า หรือส่งข้าพเจ้ากลับคืนไปหานายข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะพาท่านลงไปถึงโจรกลุ่มนี้”
- 1 ซามูเอล 30:16 - คนอียิปต์พาดาวิดไปหาอามาเลค และที่นั่น ดาวิดก็ได้พบกับคนเหล่านั้น อยู่กันอย่างกระจัดกระจายในแถบชนบท กำลังกิน ดื่ม และเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนาน เพราะได้ปล้นของมาเป็นจำนวนมากจากแผ่นดินของชาวฟีลิสเตียและจากยูดาห์
- 1 ซามูเอล 30:17 - ดาวิดสู้รบกับพวกโจรตั้งแต่ตอนค่ำจนถึงเย็นของอีกวันหนึ่ง และไม่มีใครหนีรอดไปได้เลย นอกจากชายหนุ่มสี่ร้อยคนที่ขี่อูฐหนีไปได้
- 1 ซามูเอล 30:18 - ดาวิดเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ชาวอามาเลคยึดมา รวมถึงเมียทั้งสองของเขาด้วย
- 1 ซามูเอล 30:19 - ดาวิดยึดเอาทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาหมด ไม่มีอะไรขาดเลย ทั้งคนหนุ่ม คนแก่ เด็กชายเด็กหญิง ของที่โจรปล้นเอามา หรืออะไรก็ตามที่พวกโจรได้ปล้นเอาไปนั้น ดาวิดเอากลับมาหมด
- 1 ซามูเอล 30:20 - ดาวิดยึดฝูงแพะแกะและฝูงโคมาได้ และคนของเขาก็ต้อนฝูงสัตว์ไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “นี่คือของที่ดาวิดปล้นมาได้”
- 1 ซามูเอล 30:21 - เมื่อดาวิดมาถึงบริเวณที่คนสองร้อยคน ที่เหนื่อยเกินไปที่จะตามดาวิด และถูกทิ้งไว้ที่ลุ่มแม่น้ำเบโสร์ พวกเขาออกมาพบดาวิดกับพวกที่มากับดาวิด เมื่อดาวิดกับพวกของเขามาถึง พวกนั้นก็ออกมาถามทุกข์สุขของดาวิดและพรรคพวก
- 1 ซามูเอล 30:22 - แต่มีบางคนในพวกที่ติดตามดาวิดไป ที่เป็นคนชั่วร้ายและชอบสร้างปัญหา พูดขึ้นว่า “คนพวกนี้ไม่ได้ออกไปกับพวกเรา ก็ไม่ควรได้รับส่วนแบ่งในของที่เรายึดมาได้ นอกจากลูกเมียของพวกเขาเท่านั้น”
- 1 ซามูเอล 30:23 - ดาวิดพูดขึ้นว่า “พี่น้องทั้งหลาย อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย พวกท่านต้องไม่ทำอย่างนั้นกับสิ่งที่พระยาห์เวห์ให้กับพวกเรา และได้มอบพวกโจรกลุ่มนี้ที่ได้สู้รบกับพวกเราให้ตกอยู่ในกำมือของพวกเรา
- 1 ซามูเอล 30:24 - ใครจะฟังเจ้าในเรื่องนี้ ทุกคนจะได้รับส่วนแบ่งเท่าๆกันหมด ไม่ว่าจะเป็นคนที่เฝ้าสัมภาระอยู่ที่นี่ หรือคนที่ลงไปสู้รบ”
- 1 ซามูเอล 30:25 - ดาวิดทำให้เรื่องนี้เป็นกฏระเบียบของชาวอิสราเอล มาจนถึงทุกวันนี้
- 1 ซามูเอล 30:26 - เมื่อดาวิดมาถึงศิกลาก เขาได้ส่งของที่ยึดมาได้บางส่วนไปให้กับผู้นำอาวุโสในยูดาห์ ที่เป็นเพื่อนกับดาวิด แล้วบอกว่า “นี่คือของขวัญสำหรับท่านจากสิ่งที่ยึดมาได้จากพวกศัตรูของพระยาห์เวห์”
- 1 ซามูเอล 30:27 - ดาวิดส่งของที่ยึดมาได้บางส่วน ไปให้ผู้นำที่อยู่ในเบธเอล ราโมทในเนเกบ และยาททีร์
- 1 ซามูเอล 30:28 - ไปยังผู้นำที่อยู่ที่อาโรเออร์ สิฟโมท เอชเทโมอา
- 1 ซามูเอล 30:29 - ไปยังราคาล ไปยังหมู่บ้านต่างๆของคนเยราเมเอล และหมู่บ้านต่างๆของคนเคไนต์
- 1 ซามูเอล 30:30 - ไปยังคนที่อยู่ในโฮรมาห์ โบราชาน อาธาค
- 1 ซามูเอล 30:31 - และเฮโบรน และไปยังทุกๆที่ที่ดาวิดและพวกเคยอาศัยมาก่อน
- 1 ซามูเอล 27:1 - แต่ดาวิดคิดกับตัวเองว่า “ซักวันหนึ่งเราคงถูกทำร้ายด้วยมือของซาอูลเป็นแน่ หนีไปอยู่ในดินแดนของคนฟีลิสเตียดีที่สุด เมื่อนั้นซาอูลคงเลิกตามหาเราในที่ทุกหนแห่งในอิสราเอล และเราก็จะรอดพ้นจากมือของเขา”
- 1 ซามูเอล 27:2 - ดังนั้นดาวิดและคนหกร้อยคนได้ออกเดินทางไปหากษัตริย์อาคีชแห่งเมืองกัท ลูกชายของมาโอค
- 1 ซามูเอล 27:3 - ดาวิดกับคนของเขาได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองกัทกับกษัตริย์อาคีช ทุกคนมีครอบครัวไปด้วย และเมียทั้งสองคนของดาวิดก็อยู่กับเขาด้วย คือ อาหิโนอัมชาวยิสเรเอล และอาบีกายิลชาวคารเมลเมียม่ายของนาบาล
- 1 ซามูเอล 27:4 - เมื่อซาอูลรู้ว่าดาวิดหนีไปอยู่เมืองกัท เขาก็ไม่ตามอีกต่อไป
- 1 ซามูเอล 27:5 - ดาวิดได้บอกกับอาคีชว่า “ถ้าข้าพเจ้าเป็นที่ชอบใจท่าน โปรดยกที่ในแถบชนบทสักแห่งหนึ่งให้กับข้าพเจ้าด้วยเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะได้อาศัยอยู่ที่นั่น ข้าพเจ้าคนรับใช้ของท่านไม่คู่ควรที่จะอยู่ในเมืองหลวงกับท่านอย่างนี้”
- 1 ซามูเอล 27:6 - วันนั้นอาคีชได้ยกเมืองศิกลากให้กับดาวิด และเมืองนี้ก็เป็นของพวกกษัตริย์ยูดาห์มาจนถึงทุกวันนี้
- 1 ซามูเอล 27:7 - ดาวิดอาศัยอยู่ในดินแดนฟีลิสเตียเป็นเวลาหนึ่งปีสี่เดือน
- 1 ซามูเอล 27:8 - ดาวิดและพวกออกไปโจมตีและปล้นชาวอามาเลค และชาวเกชูร์ ที่อาศัยอยู่ในเขตแดนตั้งแต่เทเลม ที่อยู่ใกล้เมืองชูร์ตลอดไปจนถึงอียิปต์
- 1 ซามูเอล 27:9 - ทุกครั้งที่ดาวิดออกไปปล้น เขาจะไม่ไว้ชีวิตผู้ชายหรือผู้หญิงไว้เลย แต่เขาจะต้อนเอาแกะ วัว ลาและอูฐ และริบเสื้อผ้ามาด้วยเมื่อเขากลับมาหาอาคีช
- 1 ซามูเอล 27:10 - เมื่ออาคีชถามว่า “วันนี้เจ้าไปปล้นที่ไหนมา” ดาวิดก็จะตอบว่า “ไปปล้นแถวเนเกบที่คนยูดาห์อยู่กัน” หรือ “ไปปล้นแถวเนเกบที่ตระกูลเยราเมเอลอยู่กัน” หรือ “ไปปล้นแถวเนเกบที่ชาวเคไนต์อยู่กัน”
- 1 ซามูเอล 27:11 - ดาวิดไม่เคยไว้ชีวิตชายหรือหญิงคนใดที่อาจจะมายังเมืองกัท เพราะเขาคิดว่า “พวกเขาอาจจะเล่าเรื่องของพวกเราและพูดว่า ‘นี่ไง สิ่งที่ดาวิดทำ’”
- 1 ซามูเอล 27:12 - อาคีชไว้วางใจดาวิด เพราะเขาคิดว่า “เขาได้ทำให้ชาวอิสราเอล ซึ่งเป็นชนชาติของเขาเอง เกลียดเขาเข้าไส้แล้ว ฉะนั้นเขาต้องเป็นข้ารับใช้ของเราตลอดไป”
- โยชูวา 15:62 - นิบชาน เมืองเกลือ และเอนเกดี รวมเป็นหกเมืองกับชนบทของเมืองนั้นๆ
- 1 ซามูเอล 15:1 - ซามูเอลพูดกับซาอูลว่า “เราคือคนที่พระยาห์เวห์ส่งให้มาเจิมท่านให้เป็นกษัตริย์เหนือประชาชนอิสราเอลของพระองค์ ดังนั้น ให้ฟังคำพูดจากพระยาห์เวห์
- 1 ซามูเอล 15:2 - พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า ‘เราจะลงโทษคนอามาเลค สำหรับการกระทำของพวกเขา ที่ไปสกัดกั้นชาวอิสราเอลตอนที่ออกมาจากอียิปต์
- 1 ซามูเอล 15:3 - ให้ไปโจมตีคนอามาเลคเดี๋ยวนี้ ทำลายให้หมดสิ้นอุทิศให้กับพระยาห์เวห์ อย่าได้ละเว้นชีวิตพวกเขา ฆ่าให้หมดทั้งผู้ชายผู้หญิง ลูกเล็กเด็กแดง ทั้งวัว แกะ อูฐและลา’”
- 1 ซามูเอล 15:4 - ดังนั้นซาอูลจึงเรียกรวมพลที่เทลาอิม ได้ทหารเดินเท้าสองแสนคน และคนยูดาห์หนึ่งหมื่นคน
- 1 ซามูเอล 15:5 - ซาอูลยกทัพไปที่เมืองอามาเลคและไปดักซุ่มอยู่ในหุบเขาลึก
- 1 ซามูเอล 15:6 - จากนั้นเขาพูดกับคนเคไนต์ว่า “ไปจากคนอามาเลคซะ เพื่อที่เราจะได้ไม่ทำลายพวกเจ้าพร้อมกับคนอามาเลค เพราะพวกเจ้ามีน้ำใจต่อคนอิสราเอล ตอนที่พวกเขาออกมาจากอียิปต์” คนเคไนต์จึงย้ายออกไปจากคนอามาเลค
- 1 ซามูเอล 15:7 - แล้วซาอูลได้โจมตีคนอามาเลค ตลอดทางจากเมืองฮาวิลาห์ไปจนถึงชูร์ ไปทางตะวันออกของอียิปต์
- 1 ซามูเอล 15:8 - เขาได้จับตัวอากักกษัตริย์ของอามาเลคไว้ และฆ่าประชาชนทั้งหมดของอากักด้วยดาบ
- 1 ซามูเอล 15:9 - แต่ซาอูลและทหารได้ไว้ชีวิตอากัก และฝูงสัตว์ที่ดีที่สุด มีพวกแกะ พวกวัว พวกลูกวัวอ้วนพีและพวกลูกแกะ พวกเขาจะไม่ทำลายของที่ดีๆ แต่อะไรที่ไร้ค่าและอ่อนแอ พวกเขาจะทำลายอุทิศให้กับพระยาห์เวห์
- 1 ซามูเอล 15:10 - แล้วซามูเอลก็ได้รับถ้อยคำจากพระยาห์เวห์ว่า
- 1 ซามูเอล 15:11 - “เราเสียใจที่แต่งตั้งซาอูลเป็นกษัตริย์ เพราะเขาได้หันหลังให้กับเรา และไม่ได้ทำตามคำสั่งต่างๆของเรา” ซามูเอลก็โกรธ จึงร้องต่อพระยาห์เวห์ตลอดทั้งคืน
- 1 ซามูเอล 15:12 - ซามูเอลตื่นขึ้นแต่เช้าเพื่อจะไปพบซาอูล แต่มีคนบอกเขาว่า “ซาอูลได้ไปที่คารเมล เขาได้สร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นเกียรติให้กับตัวเขาเอง และได้เลยไปที่กิลกาล” ซามูเอลจึงไปหาซาอูลที่คารเมล ซาอูลเพิ่งเอาส่วนแรกของสิ่งต่างๆที่เขาได้ยึดมาจากชาวอามาเลค เผาถวายเป็นเครื่องบูชาให้กับพระยาห์เวห์
- 1 ซามูเอล 15:13 - เมื่อซามูเอลมาหาซาอูล ซาอูลก็พูดว่า “ขอพระยาห์เวห์อวยพรท่าน เราได้ทำตามคำสั่งทั้งหลายของพระยาห์เวห์”
- 1 ซามูเอล 15:14 - แต่ซามูเอลพูดว่า “อ้าว แล้วทำไมหูเราถึงยังได้ยินเสียงแกะร้องกัน และเสียงวัวที่เราได้ยินนั้น มันคืออะไรกัน”
- 1 ซามูเอล 15:15 - ซาอูลตอบว่า “อ๋อ นั่นหรือ พวกทหารนำพวกมันมาจากชาวอามาเลค พวกเขาได้ไว้ชีวิตแกะและวัวที่ดีที่สุด เพื่อเผาเป็นเครื่องบูชาสำหรับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน แต่พวกเราได้ทำลายส่วนที่เหลือทั้งหมด”
- 1 ซามูเอล 15:16 - ซามูเอลพูดกับซาอูลว่า “พอเถอะ ให้เราบอกท่านว่าเมื่อคืนนี้พระยาห์เวห์ได้พูดอะไรกับเรา” ซาอูลพูดว่า “บอกเรามาเถิด”
- 1 ซามูเอล 15:17 - ซามูเอลบอกว่า “แม้ในอดีต ท่านเคยมองตัวเองว่าเป็นคนเล็กน้อย แต่ตอนนี้ท่านกลายเป็นหัวหน้าของเผ่าต่างๆของอิสราเอลไม่ใช่หรือ พระยาห์เวห์ได้เจิมท่านเป็นกษัตริย์เหนือคนอิสราเอล
- 1 ซามูเอล 15:18 - และพระองค์ได้มอบหมายงานให้ท่าน โดยสั่งว่า ‘ไปทำลายคนอามาเลค พวกคนชั่วช้าเหล่านั้นให้หมดสิ้น’
- 1 ซามูเอล 15:19 - ให้ทำสงครามกับพวกเขา จนกว่าจะกวาดล้างพวกเขาจนสิ้นซาก แล้วทำไมท่านถึงไม่ทำตามที่พระยาห์เวห์บอก ทำไมท่านไปยึดสิ่งของต่างๆไว้และทำสิ่งเลวร้ายในสายตาของพระยาห์เวห์”
- 1 ซามูเอล 15:20 - ซาอูลตอบว่า “แต่นี่เราได้ทำตามพระยาห์เวห์นะ เราได้ทำงานที่พระยาห์เวห์ได้มอบหมายไว้ เราได้ทำลายคนอามาเลคจนหมดสิ้น และได้นำอากักกษัตริย์ของพวกเขากลับมา
- 1 ซามูเอล 15:21 - พวกทหารได้ยึดแกะและวัวที่ดีที่สุด เพื่อมอบให้พระเจ้า เพื่อเป็นเครื่องบูชา แก่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่านที่กิลกาล”
- 1 ซามูเอล 15:22 - แต่ซามูเอลตอบว่า “พระยาห์เวห์ชอบใจในเครื่องเผาบูชาและสัตวบูชา เท่าๆกับการเชื่อฟังเสียงของพระยาห์เวห์หรือยังไง การเชื่อฟัง ก็ดีกว่าการถวายเครื่องบูชา การยอมฟัง ก็ดีกว่าไขมันของพวกแกะตัวผู้
- 1 ซามูเอล 15:23 - เพราะการกบฏ เป็นบาปอย่างกับไปดูหมอ ความดื้อดึง เลวอย่างกับการกราบไหว้รูปเคารพ ท่านได้ละทิ้งคำพูดของพระยาห์เวห์ พระองค์ก็เลยละทิ้งท่านไม่ให้เป็นกษัตริย์”
- 1 ซามูเอล 15:24 - ซาอูลพูดกับซามูเอลว่า “เราได้ทำบาปแล้ว เราได้ฝ่าฝืนคำสั่งของพระยาห์เวห์ และคำสั่งสอนของท่าน เป็นเพราะเราเกรงกลัวประชาชน เราก็เลยยอมฟังพวกเขา
- 1 ซามูเอล 15:25 - บัดนี้เราขออ้อนวอนต่อท่าน ให้ยกโทษให้กับบาปของเรา และกลับไปกับเรา เพื่อเราจะได้นมัสการพระยาห์เวห์”
- 1 ซามูเอล 15:26 - แต่ซามูเอลตอบเขาว่า “เราจะไม่กลับไปกับท่าน ท่านได้ละทิ้งคำพูดของพระยาห์เวห์ และพระยาห์เวห์ได้ละทิ้งท่านไม่ให้เป็นกษัตริย์เหนือคนอิสราเอล”
- 1 ซามูเอล 15:27 - เมื่อซามูเอลหันหลังจะไป ซาอูลได้จับชายเสื้อคลุมของเขาไว้ ทำให้มันฉีกขาด
- 1 ซามูเอล 15:28 - ซามูเอลพูดกับเขาว่า “พระยาห์เวห์ได้ฉีกอาณาจักรอิสราเอลไปจากท่านในวันนี้ และมอบให้กับเพื่อนบ้านของท่านที่เป็นคนที่ดีกว่าท่าน
- 1 ซามูเอล 15:29 - พระยาห์เวห์เป็นศักดิ์ศรีของอิสราเอล พระองค์ไม่โกหก และไม่เปลี่ยนใจ เพราะพระองค์ไม่ใช่มนุษย์ที่ชอบเปลี่ยนใจ”
- 1 ซามูเอล 15:30 - ซาอูลตอบว่า “เราได้ทำบาปไปแล้ว แต่ได้โปรดให้เกียรติเราต่อหน้าพวกผู้นำอาวุโส และคนอิสราเอลทั้งหลายด้วยเถิด กลับไปกับเราด้วยเถิด เพื่อเราจะได้นมัสการพระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่าน”
- 1 ซามูเอล 15:31 - ดังนั้นซามูเอลจึงกลับไปกับซาอูล และซาอูลก็ไปนมัสการพระยาห์เวห์
- 1 ซามูเอล 15:32 - จากนั้นซามูเอลได้พูดว่า “ให้เอาตัวอากักกษัตริย์ของอามาเลคมาให้เรา” อากักเข้ามาหาซามูเอลอย่างมั่นใจ เพราะเขาคิดว่า “ความขมขื่นของความตายได้ผ่านเราไปแล้วแน่”
- 1 ซามูเอล 15:33 - แต่ซามูเอลพูดว่า “อย่างที่ดาบของท่านทำให้หญิงทั้งหลายไม่มีลูก ดังนั้นแม่ของท่านก็จะไม่มีลูกเหมือนกัน” แล้วซามูเอลก็ฟันอากักจนขาดเป็นท่อนๆต่อหน้าพระยาห์เวห์ที่กิลกาล
- 1 ซามูเอล 15:34 - จากนั้นซามูเอลก็กลับไปที่รามาห์ ส่วนซาอูลก็กลับไปที่บ้านของเขาที่กิเบอาห์
- 1 ซามูเอล 15:35 - ตลอดชีวิตของซามูเอลเขาก็ไม่ได้ไปหาซาอูลอีกเลย ซามูเอลโศกเศร้าต่อเรื่องของซาอูล และพระยาห์เวห์เองก็เสียใจที่ได้แต่งตั้งซาอูลเป็นกษัตริย์เหนือคนอิสราเอล
- ปฐมกาล 36:16 - โคราห์ กาทามและอามาเลค คนพวกนี้ได้กลายเป็นหัวหน้าตระกูลต่างๆที่สืบเชื้อสายมาจากเอลีฟัสในดินแดนเอโดม พวกเขาเป็นลูกหลานของนางอาดาห์เมียเอซาว
- กันดารวิถี 13:26 - พวกเขามาหาโมเสส อาโรนและชุมชนชาวอิสราเอลทั้งหมดในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งปาราน ที่เคเดช แล้วพวกเขาได้รายงานให้โมเสส อาโรน รวมทั้งคนในชุมชนฟัง พวกเขาได้เอาผลไม้ที่เก็บมาได้มาให้ดู
- ปฐมกาล 20:1 - อับราฮัมเดินทางจากที่นั่นตรงไปยังแผ่นดินของเนเกบ เขาตั้งถิ่นฐานอยู่ระหว่างเมืองเคเดชและเมืองชูร์ ตอนที่เขาอาศัยอยู่ในเมืองเกราร์ในฐานะคนต่างชาตินั้น
- ปฐมกาล 16:14 - บ่อน้ำพุจึงได้ชื่อว่า เบเออลาไฮรอย บ่อนี้ยังคงอยู่ระหว่างเมืองเคเดชและเมืองเบเรด
- 2 พงศาวดาร 20:2 - มีคนมาบอกกับเยโฮชาฟัทว่า “มีกองทัพขนาดมหึมายกมาสู้รบกับท่าน พวกนั้นมาจากเอโดมจากอีกด้านหนึ่งของทะเลตาย ตอนนี้มาอยู่ที่ฮาซาโซน-ทามาร์แล้ว” (คือ เอนเกดี)