逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - แล้วยาโคบสาบานว่า “ถ้าพระเจ้าจะอยู่กับข้าพเจ้า และปกป้องข้าพเจ้าในการเดินทางครั้งนี้ และให้ข้าพเจ้ามีอาหารกินกับมีเสื้อผ้าใส่
- 新标点和合本 - 雅各许愿说:“ 神若与我同在,在我所行的路上保佑我,又给我食物吃,衣服穿,
- 和合本2010(上帝版-简体) - 雅各许愿说:“上帝若与我同在,在我所行的路上保佑我,给我食物吃,衣服穿,
- 和合本2010(神版-简体) - 雅各许愿说:“ 神若与我同在,在我所行的路上保佑我,给我食物吃,衣服穿,
- 当代译本 - 雅各许愿说:“如果上帝与我同在,一路保护我,供给我衣食,
- 圣经新译本 - 于是雅各许了一个愿说:“如果 神与我同在,在我所走的路上看顾我,赐我食物吃,给我衣服穿,
- 中文标准译本 - 然后雅各许了一个愿说:“如果耶和华 与我同在,在我所行的这路上保守我,又赐给我粮食吃、衣服穿,
- 现代标点和合本 - 雅各许愿说:“神若与我同在,在我所行的路上保佑我,又给我食物吃、衣服穿,
- 和合本(拼音版) - 雅各许愿说:“上帝若与我同在,在我所行的路上保佑我,又给我食物吃、衣服穿,
- New International Version - Then Jacob made a vow, saying, “If God will be with me and will watch over me on this journey I am taking and will give me food to eat and clothes to wear
- New International Reader's Version - Then Jacob made a promise. He said, “May God be with me. May he watch over me on this journey I’m taking. May he give me food to eat and clothes to wear.
- English Standard Version - Then Jacob made a vow, saying, “If God will be with me and will keep me in this way that I go, and will give me bread to eat and clothing to wear,
- New Living Translation - Then Jacob made this vow: “If God will indeed be with me and protect me on this journey, and if he will provide me with food and clothing,
- The Message - Jacob vowed a vow: “If God stands by me and protects me on this journey on which I’m setting out, keeps me in food and clothing, and brings me back in one piece to my father’s house, this God will be my God. This stone that I have set up as a memorial pillar will mark this as a place where God lives. And everything you give me, I’ll return a tenth to you.” * * *
- Christian Standard Bible - Then Jacob made a vow: “If God will be with me and watch over me during this journey I’m making, if he provides me with food to eat and clothing to wear,
- New American Standard Bible - Jacob also made a vow, saying, “If God will be with me and will keep me on this journey that I take, and give me food to eat and garments to wear,
- New King James Version - Then Jacob made a vow, saying, “If God will be with me, and keep me in this way that I am going, and give me bread to eat and clothing to put on,
- Amplified Bible - Then Jacob made a vow (promise), saying, “If God will be with me and will keep me on this journey that I take, and will give me food to eat and clothing to wear,
- American Standard Version - And Jacob vowed a vow, saying, If God will be with me, and will keep me in this way that I go, and will give me bread to eat, and raiment to put on,
- King James Version - And Jacob vowed a vow, saying, If God will be with me, and will keep me in this way that I go, and will give me bread to eat, and raiment to put on,
- New English Translation - Then Jacob made a vow, saying, “If God is with me and protects me on this journey I am taking and gives me food to eat and clothing to wear,
- World English Bible - Jacob vowed a vow, saying, “If God will be with me, and will keep me in this way that I go, and will give me bread to eat, and clothing to put on,
- 新標點和合本 - 雅各許願說:「神若與我同在,在我所行的路上保佑我,又給我食物吃,衣服穿,
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 雅各許願說:「上帝若與我同在,在我所行的路上保佑我,給我食物吃,衣服穿,
- 和合本2010(神版-繁體) - 雅各許願說:「 神若與我同在,在我所行的路上保佑我,給我食物吃,衣服穿,
- 當代譯本 - 雅各許願說:「如果上帝與我同在,一路保護我,供給我衣食,
- 聖經新譯本 - 於是雅各許了一個願說:“如果 神與我同在,在我所走的路上看顧我,賜我食物吃,給我衣服穿,
- 呂振中譯本 - 雅各 許願說:『上帝如果與我同在,在我所走的這路上保護我,給我食物喫、衣服穿,
- 中文標準譯本 - 然後雅各許了一個願說:「如果耶和華 與我同在,在我所行的這路上保守我,又賜給我糧食吃、衣服穿,
- 現代標點和合本 - 雅各許願說:「神若與我同在,在我所行的路上保佑我,又給我食物吃、衣服穿,
- 文理和合譯本 - 雅各許願曰、如上帝偕我、佑我於所行之路、賜我以衣食、
- 文理委辦譯本 - 遂許願曰、如上帝眷佑我、庇護我、我所向往、賜以衣食、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 雅各 許願曰、如天主在我所行之路眷祐我、庇護我、賜我衣食、
- Nueva Versión Internacional - Luego Jacob hizo esta promesa: «Si Dios me acompaña y me protege en este viaje que estoy haciendo, y si me da alimento y ropa para vestirme,
- 현대인의 성경 - 그러고서 야곱은 하나님께 맹세하며 말하였다. “만일 하나님이 나와 함께하셔서 이 여정에서 나를 지키시고 먹을 양식과 입을 옷을 주셔서
- Новый Русский Перевод - Затем Иаков дал клятву, сказав: – Если Бог будет со мной и сохранит меня в этом странствии, даст мне хлеба в пищу и одежду на плечи,
- Восточный перевод - Затем Якуб дал клятву, сказав: – Если Всевышний будет со мной и сохранит меня в этом странствии, даст мне хлеба в пищу и одежду на плечи,
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Затем Якуб дал клятву, сказав: – Если Аллах будет со мной и сохранит меня в этом странствии, даст мне хлеба в пищу и одежду на плечи,
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Затем Якуб дал клятву, сказав: – Если Всевышний будет со мной и сохранит меня в этом странствии, даст мне хлеба в пищу и одежду на плечи,
- La Bible du Semeur 2015 - Puis il fit le vœu suivant : Si Dieu est avec moi, s’il me protège au cours du voyage que je suis en train de faire, s’il me fournit de quoi manger et me vêtir,
- リビングバイブル - ヤコブは神に誓いました。「神様、もし主がこの旅で私を助け、守ってくださり、衣食にも不自由させず、
- Nova Versão Internacional - Então Jacó fez um voto, dizendo: “Se Deus estiver comigo, cuidar de mim nesta viagem que estou fazendo, prover-me de comida e roupa,
- Hoffnung für alle - Dann legte Jakob ein Gelübde ab: »Wenn der Herr mir beisteht und mich auf dieser Reise beschützt, wenn er mir genug Nahrung und Kleidung gibt
- Kinh Thánh Hiện Đại - Gia-cốp khấn nguyện: “Nếu Đức Chúa Trời ở với con, gìn giữ con trên đường con đang đi, cho con đủ ăn đủ mặc,
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - แล้วยาโคบก็ปฏิญาณว่า “ถ้าพระเจ้าสถิตกับข้าพระองค์และดูแลปกป้องข้าพระองค์ตลอดการเดินทางครั้งนี้ ทั้งประทานอาหารให้ข้าพระองค์รับประทาน และประทานเสื้อผ้าให้ข้าพระองค์สวมใส่
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แล้วยาโคบก็สาบานว่า “ถ้าพระเจ้าจะอยู่กับข้าพเจ้า และจะคุ้มครองข้าพเจ้าเวลาข้าพเจ้าเดินทางไป และจะให้อาหารข้าพเจ้ารับประทาน ให้เสื้อผ้าข้าพเจ้านุ่งห่ม
- Thai KJV - แล้วยาโคบปฏิญาณว่า “ถ้าพระเจ้าจะทรงอยู่กับข้าพระองค์ และจะทรงพิทักษ์รักษาในทางที่ข้าพระองค์ไป และจะประทานอาหารให้ข้าพระองค์รับประทาน และเสื้อผ้าให้ข้าพระองค์สวม
交叉引用
- อิสยาห์ 19:21 - พระยาห์เวห์จะสอนคนอียิปต์เกี่ยวกับพระองค์ และคนอียิปต์ก็จะได้รู้จักพระองค์ในเวลานั้น และพวกเขาก็จะได้มานมัสการพระองค์ ถวายเครื่องบูชาและของขวัญต่างๆและพวกเขาก็บนบานและแก้บนต่อพระยาห์เวห์
- 1 ซามูเอล 14:24 - แต่ซาอูลได้ทำผิดอย่างใหญ่หลวงในวันนั้น คนอิสราเอลทั้งเหน็ดเหนื่อยและหิวจัด เพราะซาอูลได้บังคับประชาชนให้สาบานว่า “ใครก็ตามที่กินอาหารก่อนค่ำและก่อนที่เราจะได้แก้แค้นศัตรูของเรา ขอให้ถูกสาปแช่ง” ดังนั้นจึงไม่มีใครในกองทัพได้กินอาหารเลย
- 1 ซามูเอล 1:28 - ตอนนี้ฉันจะมอบเด็กนี้ให้กับพระยาห์เวห์ และเขาจะรับใช้พระยาห์เวห์ไปตลอดชีวิตของเขา” แล้วนางฮันนาห์ก็ทิ้งเด็กชายซามูเอลไว้ที่นั่น และนางก็ได้นมัสการพระยาห์เวห์
- สดุดี 116:14 - ข้าพเจ้าจะแก้บนทั้งหลายต่อพระยาห์เวห์ ต่อหน้าคนทั้งหมดของพระองค์
- สดุดี 119:106 - ข้าพเจ้าสาบานและยืนยันว่าจะรักษาคำสาบานนั้น ที่ว่าข้าพเจ้าจะเชื่อฟังกฎเกณฑ์ต่างๆที่ยุติธรรมของพระองค์
- ปฐมกาล 28:15 - และดูเถิด เราจะอยู่กับเจ้า เราจะปกป้องเจ้าในทุกที่ที่เจ้าไป เราจะนำเจ้ากลับมายังแผ่นดินนี้ เพราะเราจะไม่ทอดทิ้งเจ้า แต่เราจะทำสิ่งที่เราได้สัญญาไว้กับเจ้า”
- กิจการ 18:18 - เปาโลอยู่ที่นั่นต่อไปอีกหลายวัน แล้วจึงลาพวกพี่น้องลงเรือไปที่แคว้นซีเรีย ปริสสิลลาและอาควิลลาก็ไปกับเขาด้วย แต่ก่อนที่เปาโลจะจากไป เขาโกนหัว เพราะได้สาบานตนเอาไว้กับพระเจ้าที่เมืองเคนเครีย
- สดุดี 22:25 - ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุมใหญ่สำหรับสิ่งที่พระองค์ได้ทำ ข้าพเจ้าจะถวายพวกเครื่องบูชาแก้บนต่อหน้าคนทั้งหลายที่ยำเกรงพระองค์
- สดุดี 56:12 - ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าจะแก้บนทั้งหลายที่บนบานไว้กับพระองค์ ข้าพเจ้าจะถวายเครื่องบูชาขอบคุณแด่พระองค์
- 1 ซามูเอล 1:11 - นางได้บนไว้ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ถ้าพระองค์เห็นความทุกข์ของผู้รับใช้ของพระองค์คนนี้ และระลึกถึงข้าพเจ้า และไม่ลืมผู้รับใช้ของพระองค์คนนี้ และมอบลูกชายให้กับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็จะอุทิศเขาให้กับพระยาห์เวห์ตลอดชั่วชีวิตของเขา เขาจะไม่ดื่มเหล้าองุ่นหรือเบียร์ และจะไม่ให้มีดโกนโดนหัวเขาเลย ”
- สดุดี 76:11 - ให้บนบานและแก้บนทั้งหลายนั้นที่ได้ทำไว้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ขอให้ผู้รับใช้ของพระองค์ทุกคนนำของขวัญมาให้พระองค์ผู้น่าเกรงขาม
- กันดารวิถี 6:1 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 6:2 - “ให้บอกกับชาวอิสราเอลว่า ถ้าผู้ชายหรือผู้หญิงคนใดได้สาบานตนเป็นพิเศษ เป็นการสาบานเพื่อจะเป็นพวกนาศีร์ คือพวกที่แยกตัวออกมาเพื่อพระยาห์เวห์
- กันดารวิถี 6:3 - คนๆนั้นจะต้องไม่ดื่มเหล้าองุ่นหรือเครื่องดื่มมึนเมาอื่นๆและเขาต้องไม่กินน้ำส้มสายชูที่ทำจากเหล้าองุ่นหรือน้ำส้มสายชูที่ทำจากเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด รวมทั้งต้องไม่ดื่มน้ำองุ่น และต้องไม่กินทั้งองุ่นสดและองุ่นแห้ง
- กันดารวิถี 6:4 - ตลอดเวลาที่เขาเป็นนาศีร์ เขาต้องไม่กินสิ่งใดก็ตามที่ได้จากต้นองุ่นหรือแม้แต่เมล็ดหรือเปลือกขององุ่น
- กันดารวิถี 6:5 - ตลอดช่วงเวลาที่เขาแยกตัวออกมาเพื่อพระยาห์เวห์ เขาต้องไม่โกนผม เขาเป็นของพระยาห์เวห์โดยเฉพาะ เขาต้องไว้ผมยาว ห้ามตัด จนกว่าจะสิ้นสุดช่วงที่เขาเป็นนาศีร์นั้น
- กันดารวิถี 6:6 - ตลอดช่วงเวลาที่เขาแยกตัวออกมาเพื่อพระยาห์เวห์ คนๆนั้นต้องไม่เข้าใกล้ศพ
- กันดารวิถี 6:7 - ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือพี่น้องชายหญิงของเขา เขาจะต้องไม่แตะต้องศพนั้น เพื่อจะไม่ทำให้ผมของเขาเป็นมลทิน เพราะผมนั้นบ่งบอกให้รู้ว่าเขาได้แยกตัวออกมาให้กับพระเจ้าโดยเฉพาะ
- กันดารวิถี 6:8 - ตลอดช่วงเวลาที่คนๆนั้นเป็นนาศีร์ เขาเป็นของพระยาห์เวห์โดยเฉพาะ
- กันดารวิถี 6:9 - แต่ถ้าคนที่อยู่ใกล้ๆกับนาศีร์นั้นตายอย่างกระทันหัน ผมของเขาที่ได้อุทิศให้กับพระเจ้านั้นก็จะไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป หลังจากนั้นอีกเจ็ดวัน เขาจะต้องโกนผมทิ้ง ในวันเดียวกับที่เขาจะต้องชำระตัวนั้น
- กันดารวิถี 6:10 - ในวันต่อมา เขาจะต้องเอานกเขาสองตัวหรือนกพิราบหนุ่มสองตัวไปให้นักบวชที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ
- กันดารวิถี 6:11 - นักบวชจะใช้นกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง และอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชา โดยวิธีนี้นักบวชจะกำจัดความไม่บริสุทธิ์และความผิดให้กับคนนั้นที่ทำผิดพลาดไปแตะต้องถูกศพ ในวันนั้นนาศีร์คนนั้นต้องอุทิศผมบนหัวของเขาให้กับพระยาห์เวห์ใหม่
- กันดารวิถี 6:12 - เขาจะต้องสาบานที่จะอุทิศตัวเองเพื่อพระยาห์เวห์อีกครั้งหนึ่ง ตลอดเวลาที่เขาเป็นนาศีร์ และเขาจะต้องเอาลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีมาเป็นของถวายชดใช้ ส่วนช่วงก่อนหน้านี้ก็ไม่นับอีกต่อไป เพราะผมบนหัวของเขาที่ได้อุทิศให้พระยาห์เวห์นั้นไม่บริสุทธิ์แล้ว
- กันดารวิถี 6:13 - นี่คือกฎสำหรับพวกนาศีร์ เมื่อเขาเป็นนาศีร์ครบตามกำหนดเวลาแล้ว ให้คนนำตัวเขาไปที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ
- กันดารวิถี 6:14 - นาศีร์คนนั้นจะต้องเอาเครื่องบูชาต่อไปนี้มาถวายให้พระยาห์เวห์ ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีที่ไม่มีตำหนิใดๆ เพื่อเป็นเครื่องเผาบูชา ลูกแกะตัวเมียอายุหนึ่งปีที่ไม่มีตำหนิใดๆ เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง แกะผู้หนึ่งตัวที่ไม่มีตำหนิใดๆ เป็นเครื่องสังสรรค์บูชา
- กันดารวิถี 6:15 - ขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟูหนึ่งตะกร้า ขนมปังที่ทำจากแป้งอย่างดีคลุกด้วยน้ำมัน ขนมปังแผ่นบางๆที่ไม่ใส่เชื้อฟูและทาด้วยน้ำมัน และเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชา
- กันดารวิถี 6:16 - นักบวชต้องยื่นเครื่องบูชาเหล่านี้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ และทำเครื่องบูชาชำระล้าง และเครื่องเผาบูชาให้คนๆนั้น
- กันดารวิถี 6:17 - นักบวชต้องบูชาแกะตัวนั้นเป็นเครื่องสังสรรค์บูชาให้พระยาห์เวห์พร้อมๆกับขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูตะกร้านั้น พร้อมกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช และเครื่องดื่มบูชา
- กันดารวิถี 6:18 - นาศีร์คนนั้นต้องโกนผมของเขาที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบและเอาผมที่เขาได้อุทิศนั้นใส่ลงในกองไฟที่อยู่ใต้เครื่องสังสรรค์บูชา
- กันดารวิถี 6:19 - หลังจากนั้นนักบวชจะเอาเนื้อสันขาหน้าของแกะตัวผู้ที่ต้มแล้ว กับขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูหนึ่งก้อนจากตะกร้าและขนมปังแผ่นบางๆไม่ใส่เชื้อฟูหนึ่งชิ้นมาวางไว้บนฝ่ามือทั้งสองของนาศีร์คนนั้น หลังจากที่เขาโกนผมที่ได้อุทิศนั้นเสร็จแล้ว
- กันดารวิถี 6:20 - แล้วนักบวชจะยื่นของพวกนี้ เป็นเครื่องยื่นบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์ มันจะเป็นของขวัญที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักบวช พร้อมกับเนื้อส่วนอกของเครื่องยื่นบูชาและส่วนสะโพกของเครื่องบูชาของขวัญ หลังจากนี้ นาศีร์คนนั้นก็ดื่มเหล้าองุ่นได้
- สดุดี 116:18 - ข้าพเจ้าจะแก้บนทั้งหลายต่อพระยาห์เวห์ ต่อหน้าคนทั้งหมดของพระองค์
- กิจการ 23:12 - วันรุ่งขึ้น พวกยิวมาวางแผนกัน โดยสาบานกันว่าจะไม่กินหรือดื่มอะไรเลย จนกว่าจะฆ่าเปาโลเสียก่อน
- กิจการ 23:13 - มีมากกว่าสี่สิบคนที่สมรู้ร่วมคิดกันวางแผนนี้
- กิจการ 23:14 - แล้วพวกเขาก็ไปบอกกับพวกหัวหน้านักบวชและพวกผู้นำอาวุโสว่า “พวกเราสาบานกันว่าจะไม่กินอะไรจนกว่าจะได้ฆ่าเปาโลเสียก่อน
- กิจการ 23:15 - ตอนนี้ ขอให้พวกท่านและสมาชิกสภาไปร้องเรียนต่อผู้พันกองทัพทหารโรมันให้นำเปาโลมาให้กับพวกท่าน โดยแกล้งทำเป็นว่า พวกท่านอยากจะสืบสวนเรื่องของมันให้แน่ชัดยิ่งขึ้น แล้วพวกเราจะฆ่ามันก่อนที่จะมาถึงที่นี่”
- สดุดี 61:5 - ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ได้ยินคำสาบานของข้าพเจ้า พระองค์ให้ข้าพเจ้ามีส่วนในมรดกที่เป็นของคนเหล่านั้นที่ยำเกรงพระองค์
- ปัญญาจารย์ 5:1 - ระวังสิ่งที่เจ้าทำให้ดีเมื่อเข้าไปในวิหารของพระเจ้า พระเจ้ายอมรับคนที่เชื่อฟังและทำตามพระองค์ มากกว่าคนโง่ๆที่แค่นำเครื่องบูชามาถวายเท่านั้น เพราะพวกคนโง่นั้นไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่ากำลังทำชั่วอยู่
- ปัญญาจารย์ 5:2 - อย่าเป็นคนปากไว ใจร้อน พูดอะไรโพล่งๆออกไปต่อหน้าพระเจ้า เจียมตัวเสียบ้างเพราะพระเจ้าอยู่บนสวรรค์ แต่เจ้าอยู่บนโลก เพราะฉะนั้นเจ้าควรจะพูดให้น้อยๆเข้าไว้
- ปัญญาจารย์ 5:3 - ยิ่งหมกมุ่นเท่าไหร่ก็ยิ่งเพ้อฝันมากเท่านั้น ยิ่งพูดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งส่อให้เห็นว่าโง่มากเท่านั้น
- ปัญญาจารย์ 5:4 - เมื่อเจ้าได้บนบานไว้กับพระเจ้า ก็อย่าได้รีรอที่จะแก้บนนั้น เพราะพระองค์ไม่ชอบคนโง่ เจ้าบนอะไรไว้ก็ให้แก้เสีย
- ปัญญาจารย์ 5:5 - ไม่บนบานเสียเลยย่อมดีกว่าบนบานแล้วไม่แก้
- ปัญญาจารย์ 5:6 - เพราะเหตุนี้ อย่าปล่อยให้ปากเป็นเหตุทำให้คุณทำบาป และอย่าพูดกับตัวแทนของพระเจ้าว่า “ผมไม่ได้ตั้งใจพูดอย่างนั้น” ทำไมจะต้องทำให้พระเจ้าโกรธเพราะคำพูดของคุณ แล้วทำให้พระองค์ทำลายงานที่คุณได้ทำมากับมือ
- ปัญญาจารย์ 5:7 - คนเราชอบฝัน ชอบคิดเรื่องไร้สาระและชอบพูด แต่ให้ยำเกรงพระเจ้าดีกว่า
- กันดารวิถี 21:2 - ชาวอิสราเอลจึงบนไว้กับพระยาห์เวห์ว่า “ถ้าพระองค์ให้พวกมันตกอยู่ในเงื้อมมือของเรา เราจะทำลายเมืองของพวกมันทั้งหมด”
- กันดารวิถี 21:3 - พระยาห์เวห์ฟังเสียงของชาวอิสราเอล และให้ชาวคานาอันตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกอิสราเอล ชาวอิสราเอลจึงได้ทำลายชาวคานาอันและเมืองทั้งหมดของพวกเขา พวกเขาจึงเรียกสถานที่นั้นว่าโฮรมาห์
- สดุดี 132:2 - เขาได้สาบานต่อพระยาห์เวห์ และบนบานต่อผู้ทรงฤทธิ์แห่งยาโคบ
- ผู้วินิจฉัย 11:30 - เยฟธาห์สาบานต่อพระเจ้าว่า “ถ้าพระองค์ยอมให้ชาวอัมโมนตกอยู่ในกำมือของข้าพเจ้า
- ผู้วินิจฉัย 11:31 - เมื่อข้าพเจ้ากลับมาอย่างมีชัยจากอัมโมนนั้น ข้าพเจ้าจะยกสิ่งแรกที่ออกมาจากประตูบ้านข้าพเจ้าเพื่อมาพบข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะถวายสิ่งนั้นให้กับพระยาห์เวห์เป็นเครื่องเผาบูชา”
- สดุดี 61:8 - แล้วข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญชื่อของพระองค์เสมอ และจะแก้บนต่างๆของข้าพเจ้าในแต่ละวัน
- เนหะมียาห์ 9:1 - ในวันที่ยี่สิบสี่ของเดือนนี้ ประชาชนชาวอิสราเอลมารวมตัวกันเพื่ออดอาหาร พวกเขาใส่ชุดผ้ากระสอบ และเอาดินโรยหัวของพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:2 - บรรดาลูกหลานของอิสราเอล ได้แยกตัวเองออกมาจากคนต่างชาติทั้งปวง พวกเขายืนและสารภาพบาปของพวกเขา รวมทั้งสารภาพความชั่วช้าที่บรรพบุรุษของพวกเขาได้ทำไป
- เนหะมียาห์ 9:3 - พวกเขายืนในที่ของตน และฟังคนอ่านหนังสือกฎบัญญัติของพระเจ้าของพวกเขาเป็นเวลาสามชั่วโมง และอีกสามชั่วโมง พวกเขาใช้สารภาพและนมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:4 - แล้วเยชูอา บานี ขัดมีเอล เชบานิยาห์ บุนนี เชเรบิยาห์ บานี และเคนานี ต่างก็ยืนอยู่บนบันไดสำหรับพวกเลวี และ พวกเขาร้องด้วยเสียงดังต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:5 - แล้วเลวีพวกนี้ คือเยชูอา ขัดมีเอล บานี ฮาชับเนยาห์ เชเรบิยาห์ โฮดียาห์ เชบานิยาห์ และเปธาหิยาห์ ได้พูดขึ้นว่า “ลุกขึ้น และสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านเถิด ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเรา ขอพระองค์ได้รับการเชิดชูตลอดชั่วนิจนิรันดร์ถึงชั่วนิจนิรันดร์ ขอให้พวกเขาเชิดชูชื่ออันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ซึ่งได้รับการยกย่องเหนือคำเชิดชูและคำสรรเสริญทั้งปวง
- เนหะมียาห์ 9:6 - พระองค์เป็นพระเจ้า ข้าแต่พระยาห์เวห์ มีแต่พระองค์เท่านั้นที่เป็นพระเจ้า พระองค์เป็นผู้สร้างท้องฟ้า สวรรค์ชั้นสูงสุด และดวงดาวทั้งสิ้นในท้องฟ้า พระองค์สร้างโลกและทุกสิ่งบนโลก พระองค์สร้างทะเลและทุกอย่างที่อยู่ในทะเล พระองค์ให้ชีวิตกับทุกสิ่ง และพวกดวงดาวทั้งหลายบนท้องฟ้านมัสการพระองค์
- เนหะมียาห์ 9:7 - พระองค์คือพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้เลือกอับราม และนำตัวเขาออกมาจากเมืองเออร์แห่งประเทศเคลเดีย และตั้งชื่อให้เขาว่าอับราฮัม
- เนหะมียาห์ 9:8 - พระองค์เห็นว่าเขามีจิตใจซื่อสัตย์ต่อพระองค์ ดังนั้นพระองค์จึงทำข้อตกลงกับเขา ที่จะยกแผ่นดินของคนเหล่านี้ให้กับลูกหลานของเขา คือแผ่นดินของคนคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซีคนเยบุส และคนเกอร์กาชี พระองค์ได้ทำตามคำพูดของพระองค์ เพราะพระองค์นั้นซื่อสัตย์
- เนหะมียาห์ 9:9 - พระองค์ได้เห็นถึงความทุกข์ทรมานของบรรพบุรุษของพวกเราในอียิปต์ และพระองค์ได้ยินเสียงร้องให้ช่วยของพวกเขาที่ทะเลต้นอ้อ
- เนหะมียาห์ 9:10 - พระองค์ได้แสดงปรากฏการณ์ต่างๆและสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ เพื่อต่อต้านฟาโรห์ กษัตริย์ของอียิปต์ และต่อต้านพวกข้าราชการทั้งสิ้น และประชาชนบนแผ่นดินของกษัตริย์ฟาโรห์ เพราะพระองค์รู้ว่าพวกเขาได้ข่มเหงบรรพบุรุษของพวกเรา พระองค์ก็เลยมีชื่อเสียงโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้
- เลวีนิติ 27:1 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- เลวีนิติ 27:2 - “ให้บอกประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘ถ้ามีใครบนไว้ว่าจะถวายสิ่งนั้นสิ่งนี้แทนคนๆหนึ่ง ให้กับพระยาห์เวห์ นักบวชจะต้องตีค่าของคนๆนั้น
- เลวีนิติ 27:3 - คือ ผู้ชายอายุยี่สิบปีถึงหกสิบปี จะมีราคาเป็นเงินห้าสิบเชเขล ตามมาตรฐานสากล
- เลวีนิติ 27:4 - ถ้าเป็นผู้หญิงอายุยี่สิบปีถึงหกสิบปี จะมีราคาเป็นเงินสามสิบเชเขล
- เลวีนิติ 27:5 - ถ้าเป็นคนที่มีอายุห้าปีถึงยี่สิบปี ถ้าเป็นผู้ชายจะมีราคาเป็นเงินยี่สิบเชเขล ถ้าเป็นผู้หญิงจะมีราคาเป็นเงินสิบเชเขล
- เลวีนิติ 27:6 - ถ้าเป็นเด็กอายุตั้งแต่หนึ่งเดือนจนถึงห้าปี เด็กผู้ชายจะมีราคาเป็นเงินห้าเชเขล ส่วนเด็กผู้หญิงจะมีราคาเป็นเงินสามเชเขล
- เลวีนิติ 27:7 - คนที่มีอายุมากกว่าหกสิบปีขึ้นไป ถ้าเป็นผู้ชายจะมีราคาเป็นเงินสิบห้าเชเขล ส่วนผู้หญิงมีราคาเป็นเงินสิบเชเขล
- เลวีนิติ 27:8 - แต่ถ้าคนที่บนไว้เป็นคนยากจนมากไม่สามารถจ่ายให้ตามราคานั้น คนที่ได้บนไว้ ต้องพาคนที่ได้อุทิศให้กับพระยาห์เวห์แล้วนั้น ไปหานักบวช และนักบวชจะกำหนดราคาให้เขา ตามที่คนที่บนนั้นจะสามารถจ่ายได้
- เลวีนิติ 27:9 - ถ้ามีใครบนไว้ว่าจะเอาสัตว์มาเป็นของถวายให้กับพระยาห์เวห์ สัตว์ทุกตัวที่เขาเอามาถวายให้พระยาห์เวห์นั้นจะกลายเป็นของพระองค์โดยเฉพาะ
- เลวีนิติ 27:10 - เขาต้องไม่เอาสัตว์ตัวอื่นมาแทนสัตว์ตัวนั้น ไม่ว่าจะเอาตัวดีมาแทนตัวเลวหรือเอาตัวเลวมาแทนตัวดี และถ้าเขาเอาสัตว์มาแทน สัตว์ทั้งสองตัวจะกลายเป็นของพระองค์โดยเฉพาะ
- เลวีนิติ 27:11 - สัตว์บางชนิดไม่สามารถเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์ได้ เพราะมันไม่บริสุทธิ์ คนๆนั้นก็ต้องเอาสัตว์ตัวนั้นไปหานักบวช
- เลวีนิติ 27:12 - นักบวชจะตีราคาของมัน ไม่ว่ามันจะดีหรือเลว ราคาของมันก็จะเป็นไปตามที่นักบวชกำหนดขึ้นมา
- เลวีนิติ 27:13 - ถ้าคนๆนั้นต้องการซื้อมันคืน เขาต้องเพิ่มเงินเข้าไปอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์จากราคาเดิม
- เลวีนิติ 27:14 - ถ้าคนหนึ่งอุทิศบ้านของเขาให้เป็นของพระยาห์เวห์ นักบวชต้องตั้งราคา ไม่ว่าบ้านนั้นจะดีหรือไม่ก็ตาม เมื่อนักบวชตั้งราคาแล้วมันจะมีราคาตามนั้น
- เลวีนิติ 27:15 - และถ้าคนที่อุทิศบ้านให้เป็นของพระยาห์เวห์ อยากจะซื้อบ้านคืน เขาต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของราคาที่ตั้งไว้ และบ้านก็จะกลับเป็นของเขา
- เลวีนิติ 27:16 - ถ้าใครที่อุทิศที่ดินส่วนหนึ่งของเขาให้เป็นของพระยาห์เวห์ ราคาของมันจะขึ้นอยู่กับจำนวนเมล็ดพืชที่จะต้องใช้หว่านในที่ดินแปลงนั้น โดยคิดเป็นเงินห้าสิบเชเขล ต่อเมล็ดข้าวบาร์เลย์สามร้อยเจ็ดสิบลิตร
- เลวีนิติ 27:17 - ถ้าเขาอุทิศที่ดินนั้นให้กับพระยาห์เวห์ในปีแห่งการปลดปล่อย ราคาของมันจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักบวช
- เลวีนิติ 27:18 - แต่ถ้าคนนั้นอุทิศที่ดินให้กับพระยาห์เวห์ หลังจากปีแห่งการปลดปล่อย นักบวชก็จะตั้งราคา ตามจำนวนปีที่เหลืออยู่ ก่อนจะถึงปีแห่งการปลดปล่อยครั้งต่อไป และราคาก็จะลดลงตามจำนวนปีที่เหลือ
- เลวีนิติ 27:19 - ถ้าคนที่อุทิศที่ดินนั้นต้องการไถ่ที่ดินคืน เขาต้องเพิ่มเงินอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของราคาที่ตั้งไว้ แล้วที่ดินนั้นก็จะกลับเป็นของเขาอีก
- เลวีนิติ 27:20 - ถ้าเขาไม่ไถ่ที่ดินคืน แล้วมีคนอื่นมาซื้อที่ดินนั้นไป เขาจะไถ่ที่ดินนั้นคืนมาอีกไม่ได้แล้ว
- เลวีนิติ 27:21 - เมื่อถึงปีแห่งการปลดปล่อย ที่ดินนั้นก็จะเป็นอิสระ จะกลายเป็นของพระยาห์เวห์ และจะตกเป็นที่ดินของพระยาห์เวห์โดยสมบูรณ์ มันจะกลายเป็นสมบัติของนักบวชอย่างถาวร
- เลวีนิติ 27:22 - ถ้ามีคนเอาที่ดินมาอุทิศให้กับพระยาห์เวห์ แต่ที่ดินนี้ไม่ได้เป็นทรัพย์สมบัติดั้งเดิม ของครอบครัวเขา แต่เขาซื้อมา
- เลวีนิติ 27:23 - นักบวชจะคำนวณราคาของมัน ตามจำนวนปีที่เหลือก่อนจะถึงปีแห่งการปลดปล่อย และชายคนนั้นต้องจ่ายเงินจำนวนนั้นในวันนั้นเลย เงินนั้นจะเป็นเงินที่อุทิศให้กับพระยาห์เวห์
- เลวีนิติ 27:24 - เมื่อถึงปีแห่งการปลดปล่อย ที่ดินนั้นจะกลับไปเป็นของเจ้าของเดิมที่ชายคนนั้นซื้อมา กลับไปยังครอบครัวที่ถือสิทธิในที่ดินนั้นตั้งแต่แรก
- เลวีนิติ 27:25 - ราคาที่ตั้งทั้งหมดจะเป็นไปตามมาตรฐานสากล คือหนึ่งเชเขลจะมีน้ำหนักเท่ากับยี่สิบเกราห์
- เลวีนิติ 27:26 - ไม่มีใครที่จะเอาสัตว์หัวปีไม่ว่าจะเป็นวัวหรือแกะ มาอุทิศให้กับพระยาห์เวห์ได้ เพราะสัตว์หัวปีทั้งหมดเป็นของพระยาห์เวห์อยู่แล้ว
- เลวีนิติ 27:27 - แต่ถ้าเป็นลูกหัวปีของสัตว์ที่ไม่บริสุทธิ์ เขาสามารถไถ่คืนได้ในราคามาตรฐานพร้อมกับเพิ่มเงินอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ถ้าเขาไม่ไถ่มันคืน มันจะถูกขายตามราคามาตรฐาน
- เลวีนิติ 27:28 - ของขวัญพิเศษ ใดๆก็ตามที่คนหนึ่งได้มอบไว้ เพื่อทำลายให้กับพระยาห์เวห์ จะเป็นอะไรก็ตามที่เขามีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์หรือที่นาซึ่งเป็นสมบัติของครอบครัว จะเอาไปขายต่อไม่ได้อีกแล้ว จะไถ่คืนก็ไม่ได้ด้วย ของทุกอย่างที่ได้มอบไว้ เพื่อทำลายให้กับพระยาห์เวห์ ก็จะเป็นของพระยาห์เวห์เท่านั้นห้ามแตะต้อง
- เลวีนิติ 27:29 - คนที่ถูกมอบไว้เพื่อทำลาย ให้กับพระยาห์เวห์ จะไม่สามารถไถ่คืนได้อีก เขาต้องถูกฆ่าตาย
- เลวีนิติ 27:30 - สิบเปอร์เซ็นต์ของแผ่นดินเป็นของพระยาห์เวห์ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพืชจากผืนดิน หรือผลไม้จากต้น มันเป็นของพระยาห์เวห์โดยเฉพาะ
- เลวีนิติ 27:31 - ถ้าใครอยากซื้อส่วนที่เป็นสิบเปอร์เซ็นต์นี้กลับไป เขาต้องจ่ายเพิ่มอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของมันเข้าไป
- เลวีนิติ 27:32 - สัตว์หนึ่งตัวในทุกๆสิบตัวจากฝูงวัวหรือฝูงแกะ ที่ผ่านไม้เท้าของคนเลี้ยงสัตว์ ตอนที่เขานับนั้น จะเป็นของพระยาห์เวห์โดยเฉพาะ
- เลวีนิติ 27:33 - เขาต้องไม่ตรวจดูว่ามันดีหรือเลว และต้องไม่เอาตัวอื่นมาแทน ถ้าเขาเอาตัวอื่นมาแทน สัตว์ทั้งสองตัวก็จะเป็นของพระองค์โดยเฉพาะ และไม่สามารถไถ่คืนได้’”
- เลวีนิติ 27:34 - นี่คือคำสั่งต่างๆที่พระยาห์เวห์ได้ให้กับโมเสส บนภูเขาซีนาย สำหรับประชาชนชาวอิสราเอล
- ยอห์น 1:16 - พระองค์เต็มไปด้วยความเมตตากรุณา พวกเราทุกคนก็เลยได้รับพระพรจากพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่า
- สดุดี 66:13 - เมื่อข้าพเจ้าเจอกับความทุกข์ยาก ข้าพเจ้าได้บนบานไว้กับพระองค์ และตอนนี้ ข้าพเจ้านำเครื่องเผาบูชา มาแก้บนของข้าพเจ้าที่วิหารของพระองค์
- ปฐมกาล 31:13 - เราเป็นพระเจ้าแห่งเบธเอลที่ที่เจ้าได้เจิมเสาหิน และที่ที่เจ้าได้สาบานกับเรา บัดนี้ ลุกขึ้น และไปจากที่นี่ซะ และกลับไปยังแผ่นดินของครอบครัวเจ้า’”
- 1 ทิโมธี 6:8 - มีอาหารกินกับเสื้อผ้าใส่ แค่นี้เราก็น่าจะพอใจได้แล้ว
- 2 ซามูเอล 15:8 - ตอนที่ลูกผู้รับใช้ท่านยังอยู่ที่เมืองเกชูร์ในอารัม ลูกได้บนไว้ว่า ‘ถ้าพระยาห์เวห์พาลูกกลับเยรูซาเล็มได้ ลูกจะนมัสการพระยาห์เวห์ในเมืองเฮโบรน’ ”