逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - ในช่วงที่อิสราเอลอาศัยอยู่ในแคว้นนั้น รูเบนได้ไปร่วมหลับนอนกับบิลฮาห์ เมียน้อยของพ่อเขา และเรื่องนี้รู้ไปถึงหูของอิสราเอล ขณะนั้นยาโคบมีลูกชายสิบสองคน
- 新标点和合本 - 以色列住在那地的时候,流便去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了。 雅各共有十二个儿子。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 以色列住在那地的时候,吕便去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了这件事 。 雅各共有十二个儿子。
- 和合本2010(神版-简体) - 以色列住在那地的时候,吕便去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了这件事 。 雅各共有十二个儿子。
- 当代译本 - 以色列在那里居住时,吕便和父亲的妾辟拉通奸,以色列也知道这件事。 雅各有十二个儿子。
- 圣经新译本 - 以色列在那地居住的时候,流本竟去与他父亲的妾辟拉同睡;这事以色列也听见了。雅各共有十二个儿子。
- 中文标准译本 - 以色列在那地居住的时候,鲁本去与他父亲的小妾碧拉同睡;以色列也听到了这事。 雅各有十二个儿子:
- 现代标点和合本 - 以色列住在那地的时候,鲁本去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了。 雅各共有十二个儿子。
- 和合本(拼音版) - 以色列住在那地的时候,流便去与他父亲的妾辟拉同寝,以色列也听见了。 雅各共有十二个儿子。
- New International Version - While Israel was living in that region, Reuben went in and slept with his father’s concubine Bilhah, and Israel heard of it. Jacob had twelve sons:
- New International Reader's Version - While Israel was living in that area, Reuben went in and slept with Bilhah. She was the concubine of Reuben’s father. And Israel heard about it. Here are the 12 sons Jacob had.
- English Standard Version - While Israel lived in that land, Reuben went and lay with Bilhah his father’s concubine. And Israel heard of it. Now the sons of Jacob were twelve.
- New Living Translation - While he was living there, Reuben had intercourse with Bilhah, his father’s concubine, and Jacob soon heard about it. These are the names of the twelve sons of Jacob:
- The Message - There were twelve sons of Jacob. The sons by Leah: Reuben, Jacob’s firstborn Simeon Levi Judah Issachar Zebulun. The sons by Rachel: Joseph Benjamin. The sons by Bilhah, Rachel’s maid: Dan Naphtali. The sons by Zilpah, Leah’s maid: Gad Asher. These were Jacob’s sons, born to him in Paddan Aram. * * *
- Christian Standard Bible - While Israel was living in that region, Reuben went in and slept with his father’s concubine Bilhah, and Israel heard about it. Jacob had twelve sons:
- New American Standard Bible - And it came about, while Israel was living in that land, that Reuben went and slept with his father’s concubine Bilhah, and Israel heard about it. Now there were twelve sons of Jacob—
- New King James Version - And it happened, when Israel dwelt in that land, that Reuben went and lay with Bilhah his father’s concubine; and Israel heard about it. Now the sons of Jacob were twelve:
- Amplified Bible - While Israel was living in that land, Reuben [his eldest son] went and lay with Bilhah his father’s concubine, and Israel heard about it. Now Jacob had twelve sons—
- American Standard Version - And it came to pass, while Israel dwelt in that land, that Reuben went and lay with Bilhah his father’s concubine: and Israel heard of it. Now the sons of Jacob were twelve:
- King James Version - And it came to pass, when Israel dwelt in that land, that Reuben went and lay with Bilhah his father's concubine: and Israel heard it. Now the sons of Jacob were twelve:
- New English Translation - While Israel was living in that land, Reuben had sexual relations with Bilhah, his father’s concubine, and Israel heard about it. Jacob had twelve sons:
- World English Bible - While Israel lived in that land, Reuben went and lay with Bilhah, his father’s concubine, and Israel heard of it. Now the sons of Jacob were twelve.
- 新標點和合本 - 以色列住在那地的時候,呂便去與他父親的妾辟拉同寢,以色列也聽見了。 雅各共有十二個兒子。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 以色列住在那地的時候,呂便去與他父親的妾辟拉同寢,以色列也聽見了這件事 。 雅各共有十二個兒子。
- 和合本2010(神版-繁體) - 以色列住在那地的時候,呂便去與他父親的妾辟拉同寢,以色列也聽見了這件事 。 雅各共有十二個兒子。
- 當代譯本 - 以色列在那裡居住時,呂便和父親的妾辟拉通姦,以色列也知道這件事。 雅各有十二個兒子。
- 聖經新譯本 - 以色列在那地居住的時候,流本竟去與他父親的妾辟拉同睡;這事以色列也聽見了。雅各共有十二個兒子。
- 呂振中譯本 - 以色列 在那地居住的時候, 如便 去和他父親的妾 辟拉 同寢; 以色列 聽見了。 雅各 有十二個兒子。
- 中文標準譯本 - 以色列在那地居住的時候,魯本去與他父親的小妾碧拉同睡;以色列也聽到了這事。 雅各有十二個兒子:
- 現代標點和合本 - 以色列住在那地的時候,魯本去與他父親的妾辟拉同寢,以色列也聽見了。 雅各共有十二個兒子。
- 文理和合譯本 - 居彼時、流便烝父妾辟拉、事聞於以色列、○
- 文理委辦譯本 - 以色列居彼、聞流便烝其妾辟拉。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 以色列 居彼地之時、 流便 烝父妾 辟拉 、後其父 以色列 聞之、
- Nueva Versión Internacional - Mientras vivía en esa región, Rubén fue y se acostó con Bilhá, la concubina de su padre. Cuando Israel se enteró de esto, se enojó muchísimo. Jacob tuvo doce hijos:
- 현대인의 성경 - 야곱이 그 땅에 살고 있을 때 르우벤이 자기 아버지의 첩 빌하와 정을 통하였고 야곱은 그 일을 듣게 되었다. 야곱의 아들은 열둘이었다.
- Новый Русский Перевод - Когда Израиль жил в той земле, Рувим лег с наложницей отца Валлой, и Израиль узнал об этом. ( 1 Пар. 2:1-2 ) У Иакова было двенадцать сыновей:
- Восточный перевод - Когда Исраил жил в той земле, Рувим лёг с наложницей отца Билхой, и Исраил узнал об этом. У Якуба было двенадцать сыновей.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Когда Исраил жил в той земле, Рувим лёг с наложницей отца Билхой, и Исраил узнал об этом. У Якуба было двенадцать сыновей.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Когда Исроил жил в той земле, Рувим лёг с наложницей отца Билхой, и Исроил узнал об этом. У Якуба было двенадцать сыновей.
- La Bible du Semeur 2015 - Pendant qu’il séjournait dans cette contrée, Ruben alla coucher avec Bilha, l’épouse de second rang de son père. Celui-ci l’apprit . Jacob avait douze fils.
- リビングバイブル - そこにいた時、ルベンが父親のそばめビルハと寝たのです。そのことはイスラエルの耳にも入りました。 ところで、ヤコブの十二人の息子は次のとおりです。
- Nova Versão Internacional - Na época em que Israel vivia naquela região, Rúben deitou-se com Bila, concubina de seu pai. E Israel ficou sabendo disso. Jacó teve doze filhos:
- Hoffnung für alle - Damals schlief Ruben mit Bilha, der Nebenfrau seines Vaters, und Jakob erfuhr davon. Inzwischen hatte Jakob zwölf Söhne:
- Kinh Thánh Hiện Đại - Trong thời gian ở đó, Ru-bên vào ngủ với Bi-la, vợ lẽ của cha mình. Có người báo lại cho Gia-cốp. Đây là tên mười hai con trai của Gia-cốp:
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ขณะอิสราเอลพักอยู่ในละแวกนั้น รูเบนก็ไปหลับนอนกับบิลฮาห์ภรรยาน้อยของบิดา และอิสราเอลก็ได้ทราบเรื่องนี้ ยาโคบมีบุตรชายสิบสองคน
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ขณะที่อิสราเอลอาศัยอยู่ในดินแดนนั้น รูเบนไปนอนกับบิลฮาห์ภรรยาน้อยของบิดาของตน และอิสราเอลก็ทราบเรื่อง ยาโคบมีบุตรชาย 12 คน
- Thai KJV - อยู่มาเมื่ออิสราเอลอาศัยอยู่ที่แผ่นดินนั้น รูเบนไปนอนกับนางบิลฮาห์ ภรรยาน้อยของบิดา อิสราเอลก็ได้ยินเรื่องนี้ ฝ่ายบุตรชายของยาโคบมีสิบสองคน
交叉引用
- โยชูวา 13:1 - เมื่อโยชูวาแก่มากแล้ว พระยาห์เวห์ได้พูดกับเขาว่า “เจ้าแก่มากแล้วและยังเหลือแผ่นดินอีกมากที่ยังไม่ได้ยึดครอง
- โยชูวา 13:2 - แผ่นดินที่ยังไม่ถูกยึดครองคือ แคว้นฟีลิสเตียทั้งหมด และเขตแดนทั้งหมดของเกชูร์
- โยชูวา 13:3 - ตั้งแต่แม่น้ำชิโหร์ที่อยู่ทางตะวันออกของประเทศอียิปต์ เหนือขึ้นไปจนถึงเขตแดนของเอโครน (ถือเป็นเขตแดนของชาวคานาอัน) เขตแดนของผู้ปกครองชาวฟีลิสเตียทั้งห้าคนในเมืองกาซาม เมืองอัชโดด เมืองอัชเคโลน เมืองกัทและเมืองเอโครน รวมทั้งเขตแดนของอัฟวิม
- โยชูวา 13:4 - ส่วนทางใต้ เจ้ายังต้องยึดแผ่นดินทั้งหมดของชาวคานาอัน จากเมอาราห์ซึ่งเป็นของชาวไซดอน ไปถึงเมืองอาเฟกตรงเขตแดนของชาวอาโมไรต์
- โยชูวา 13:5 - และแผ่นดินของชาวเกบาล และเลบานอนทั้งหมด ไปทางทิศตะวันออกจากบาอัลกาด ที่อยู่เชิงเขาเฮอร์โมนถึงชายแดนของฮามัท
- โยชูวา 13:6 - ส่วนพวกชาวไซดอนที่อาศัยอยู่ในแถบเนินเขาจากเลบานอนไปจนถึงมิสเรโฟทมาอิมนั้น เราเองจะขับไล่พวกเขาออกไปต่อหน้าชาวอิสราเอล อย่าลืมที่จะแบ่งที่ดินเหล่านี้ให้เป็นมรดกของชาวอิสราเอล ตามที่เราได้สั่งเจ้าไว้
- โยชูวา 13:7 - และตอนนี้ให้แบ่งแผ่นดินนั้นออกให้กับคนเก้าเผ่าและชาวมนัสเสห์ครึ่งเผ่าด้วย”
- โยชูวา 13:8 - ส่วนมนัสเสห์อีกครึ่งเผ่า ชนเผ่ารูเบนและชนเผ่ากาด ได้รับส่วนแบ่งของพวกเขา ซึ่งโมเสสได้มอบให้ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ส่วนที่โมเสสผู้รับใช้พระยาห์เวห์ได้มอบให้พวกเขาคือ
- โยชูวา 13:9 - ตั้งแต่อาโรเออร์ที่อยู่ริมหุบเขาลึกอารโนน และเมืองที่อยู่กลางหุบเขาลึกนั้น และที่ราบสูงเมเดบาทั้งหมดไปจนถึงดีโบน
- โยชูวา 13:10 - และเมืองต่างๆของกษัตริย์สิโหนชาวอาโมไรต์ผู้เคยปกครองอยู่ในเมืองเฮชโบน ไกลออกไปจนถึงเขตแดนของชาวอัมโมน
- โยชูวา 13:11 - และกิเลอาดกับพื้นที่ของชาวเกชูร์กับชาวมาอาคาห์ พื้นที่ทั้งหมดของภูเขาเฮอร์โมน และทั้งหมดของบาชานถึงเมืองสาเลคาห์
- โยชูวา 13:12 - แผ่นดินทั้งหมดของกษัตริย์โอกในบาชานผู้เคยปกครองอยู่ในเมืองอัชทาโรทและในเอเดรอี (เขาเป็นคนเผ่าเรฟาอิมที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่คน) โมเสสรบชนะเมืองเหล่านี้ และขับไล่พวกเขาออกไป
- โยชูวา 13:13 - แต่ชาวอิสราเอลไม่ได้ขับไล่ชาวเกชูร์และชาวมาอาคาห์ ทั้งสองเผ่ายังอาศัยอยู่กับชาวอิสราเอลถึงทุกวันนี้
- โยชูวา 13:14 - แต่ส่วนเผ่าเลวี โมเสสไม่ได้แบ่งมรดกให้ พวกของขวัญที่ถวายให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของชาวอิสราเอลก็เป็นมรดกของพวกเขา อย่างที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับพวกเขาแล้ว
- โยชูวา 13:15 - โมเสสได้มอบที่ดินนี้ให้เป็นมรดกกับเผ่ารูเบน แบ่งตามตระกูลต่างๆของพวกเขา
- โยชูวา 13:16 - เขตแดนของพวกเขาเริ่มจากอาโรเออร์ที่อยู่ริมหุบเขาลึกอารโนน และเมืองที่อยู่กลางหุบเขาลึกนั้น และที่ราบสูงเมเดบาทั้งหมด
- โยชูวา 13:17 - เมืองเฮชโบนกับเมืองต่างๆของมันบนที่ราบสูง ดีโบน บาโมทบาอัล เบธบาอัลเมโอน
- โยชูวา 13:18 - ยาฮาส เคเดโมท เมฟาอาท
- โยชูวา 13:19 - คิริยาธาอิม สิบมาห์ เศเรทชาหาร์ ที่อยู่บนเนินเขากลางหุบเขาลึกนั้น
- โยชูวา 13:20 - เบธเปโอร์ เชิงเขาปิสกาห์ และเมืองเบธเยชิโมท
- โยชูวา 13:21 - นั่นคือเมืองทั้งหมดบนที่ราบสูง และอาณาจักรทั้งหมดของกษัตริย์สิโหน ของชาวอาโมไรต์ ผู้เคยปกครองอยู่ในเมืองเฮชโบน โมเสสได้เอาชนะเขากับพวกผู้นำของมีเดียน ที่มีชื่อว่า เอวี เรเคม ศูร์ เฮอร์ และเรบา พวกเขาเป็นเจ้าชายที่เป็นพันธมิตรกับกษัตริย์สิโหนและเคยอาศัยอยู่แผ่นดินนั้นมาก่อน
- กิจการ 7:8 - พระเจ้าได้ทำข้อตกลงกับอับราฮัม การขลิบเป็นเครื่องหมายของข้อตกลงนี้ แล้วอับราฮัมมีลูกชื่ออิสอัค พออิสอัคเกิดได้แปดวัน อับราฮัมก็ขลิบให้กับเขา ต่อมาอิสอัค มีลูกคือยาโคบ และยาโคบก็มีลูกสิบสองคน ที่เป็นต้นตระกูลต่างๆของเรานั่นเอง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:1 - นี่คือคำอวยพรที่โมเสสคนของพระเจ้าให้กับชาวอิสราเอลก่อนที่เขาจะตาย
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:2 - โมเสสพูดว่า “พระยาห์เวห์มาจากซีนาย เหมือนแสงอาทิตย์ที่ส่องจากเสอีร์มายังเรา เหมือนแสงอาทิตย์ที่ส่องจากภูเขาของปาราน และมีทูตสวรรค์อีกหนึ่งหมื่นองค์มากับพระองค์ ทหารของพระองค์อยู่ข้างขวาของพระองค์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:3 - แน่นอน พระยาห์เวห์รักประชาชนชาวอิสราเอล คนที่ถูกแยกออกมาทั้งหมดอยู่ในมือของพระองค์ พวกเขานั่นเองที่ก้มกราบอยู่ที่เท้าของพระองค์ และให้ความสนใจในคำสั่งสอนของพระองค์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:4 - โมเสสได้ให้คำสอนกับพวกเรา เป็นสมบัติของที่ชุมนุมของยาโคบ
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:5 - แล้วพระยาห์เวห์ก็กลายเป็นกษัตริย์ในเยชุรูน เมื่อบรรดาผู้นำของประชาชนมารวมกัน เมื่อคนเผ่าต่างๆของอิสราเอลมารวมตัวกัน”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:6 - “ให้รูเบนมีชีวิตอยู่และไม่ตาย แต่ให้เผ่าของเขามีคนน้อย”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:7 - โมเสสพูดถึงเผ่าของยูดาห์ว่า “พระยาห์เวห์ ขอช่วยฟังเสียงร้องของผู้นำเผ่ายูดาห์ ขอช่วยนำเขากลับมาหาคนของเขาอย่างปลอดภัย เขาต่อสู้ป้องกันตัวเองด้วยมือของเขา ขอให้พระองค์ช่วยให้เขาเอาชนะศัตรูของเขา”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:8 - โมเสสพูดถึงเผ่าเลวีว่า “เลวีเป็นผู้ติดตามที่แท้จริงของพระองค์ เขาเก็บรักษาทูมมิมกับอูริม ที่แถวมัสสาห์ พระองค์ได้ทดสอบเขา ที่แหล่งน้ำเมรีบาห์ พระองค์ได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาเป็นของพระองค์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:9 - พวกเขาถือว่าการเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระองค์ และการรักษาข้อตกลงของพระองค์นั้นสำคัญยิ่งกว่าครอบครัว พวกเขาพูดถึงพ่อแม่ว่า เขาไม่รู้จัก พวกเขาไม่รู้จักพี่น้อง พวกเขาไม่สนใจลูกๆ
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:10 - พวกเขาจะสอนกฎของพระองค์ให้ยาโคบ พวกเขาจะสอนคำสอนของพระองค์ให้อิสราเอล พวกเขาจะเผาเครื่องหอมต่อหน้าพระองค์ พวกเขาจะถวายเครื่องเผาบูชาบนแท่นบูชาของพระองค์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:11 - พระยาห์เวห์ ขออวยพรให้เขาร่ำรวย ขอให้ยอมรับงานที่เขาทำ ขอพระองค์โจมตีศัตรูที่เกลียดเขา เพื่อคนพวกนั้นจะได้ไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับเขาอีก”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:12 - โมเสสพูดถึงเผ่าของเบนยามินว่า “พระยาห์เวห์รักเบนยามิน เบนยามินจะมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยใกล้พระองค์ พระยาห์เวห์จะปกป้องเขาตลอดเวลา และพระยาห์เวห์จะอาศัยอยู่ระหว่างเส้นเขตแดนของเขา ”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:13 - โมเสสพูดถึงประชาชนของโยเซฟว่า “ขอพระยาห์เวห์อวยพรแผ่นดินของโยเซฟ ด้วยของขวัญที่ดีที่สุดบนฟ้าข้างบน และของน้ำใต้พื้นดิน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:14 - และของขวัญที่ดีที่สุดจากผลผลิตของดวงอาทิตย์ และของขวัญที่ดีที่สุดจากผลผลิตของดวงจันทร์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:15 - และที่ดีที่สุดของภูเขาที่เก่าแก่ และของขวัญที่ดีที่สุดของเทือกเขาที่ไม่มีวันจบสิ้น
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:16 - และของขวัญที่ดีที่สุดของแผ่นดินและความอุดมสมบูรณ์ทั้งสิ้นของมัน และความชื่นชอบของพระองค์ผู้ที่ปรากฏอยู่ในพุ่มไม้ที่ลุกเป็นไฟ ขอให้คำอวยพรไปถึงหัวของโยเซฟ บนหน้าผากของหัวหน้าในหมู่พี่น้องของเขา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:17 - โยเซฟเปรียบเหมือนวัวตัวผู้ที่แข็งแรง ลูกทั้งสองของเขาเปรียบเหมือนเขาทั้งสองข้าง ด้วยเขาทั้งสองข้างของมัน เขาโจมตีคนชาติอื่น และดันพวกนั้นไปจนสุดขอบโลก ใช่แล้ว มนัสเสห์ มีคนเป็นพันๆ และเอฟราอิม มีคนเป็นหมื่นๆ”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:18 - โมเสสพูดถึงเผ่าของเศบูลุนว่า “เศบูลุน มีความสุขเถิด ในการเดินทางของท่าน และอิสสาคาร์ มีความสุขในเต็นท์ของท่านเถิด
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:19 - พวกเขาจะเรียกประชาชนไปบนภูเขา พวกเขาจะถวายเครื่องสัตวบูชาที่ถูกต้อง เพราะพวกเขาจะดูดความมั่งคั่งจากทะเล และสมบัติที่ซ่อนอยู่จากพื้นทราย”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:20 - โมเสสพูดถึงเผ่าของกาดว่า สรรเสริญพระองค์ผู้ที่ขยายแผ่นดินของกาด กาดหมอบลงเหมือนสิงโตและเฝ้าคอย แล้วจู่โจม ฉีกแขนและถลกหนังหัว
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:21 - เขาได้เลือกส่วนที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง เพราะส่วนของผู้บังคับการได้เก็บไว้เพื่อเขา และเขามาในฐานะผู้นำของประชาชน เขาได้ทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์เห็นว่าถูกต้องแล้ว และเชื่อฟังกฎของพระยาห์เวห์ที่มีไว้สำหรับชาวอิสราเอล
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:22 - โมเสสได้พูดเกี่ยวกับเผ่าของดานว่า “ดานเป็นเหมือนลูกสิงโต ที่กระโดดออกจากบาชาน”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:23 - โมเสสพูดถึงเผ่าของนัฟทาลีว่า “นัฟทาลีเอ๋ย ท่านอุดมไปด้วยสิ่งดีๆอย่างล้นเหลือ พระยาห์เวห์อวยพรท่านอย่างเต็มที่ ท่านได้แผ่นดินที่ติดกับทะเลสาบกาลิลี”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:24 - โมเสสพูดถึงเผ่าของอาเชอร์ว่า “อาเชอร์เป็นลูกชายที่ได้รับการอวยพรมากที่สุด ขอให้เขาเป็นที่ชื่นชอบที่สุดในบรรดาพี่น้องของเขา และขอให้เขาจุ่มเท้าของเขาลงในน้ำมันมะกอก
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:25 - ขอให้กลอนประตูท่านทำด้วยเหล็กและทองสัมฤทธิ์ และขอให้ท่านแข็งแรงตราบเท่าที่มีชีวิตอยู่”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:26 - “เยชุรูนเอ๋ย ไม่มีใครเหมือนพระเจ้า ผู้ที่ลอยผ่านฟ้ามาช่วยท่าน และลอยผ่านเมฆมาด้วยความสง่างามของพระองค์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:27 - พระเจ้าผู้อยู่ชั่วนิรันดร์ เป็นที่ที่ปลอดภัย แขนทั้งสองข้างของพระองค์ ผู้ที่อยู่ตลอดกาล จะอุ้มท่านไว้ พระองค์ขับไล่ศัตรูที่อยู่ต่อหน้าท่าน และพูดว่า ‘ทำลายมัน’
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:28 - ดังนั้น อิสราเอลจะอยู่อย่างปลอดภัย ยาโคบจะมีชีวิตอย่างสงบ ในดินแดนแห่งข้าวและเหล้าองุ่น เป็นดินแดนที่มีฝนโปรยปรายจากท้องฟ้า
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:29 - อิสราเอล ท่านจะได้รับการอวยพร ใครจะเป็นเหมือนท่าน ประชาชนผู้ได้รับการช่วยเหลือจากพระเจ้า พระยาห์เวห์คือโล่ที่ปกป้องท่าน และดาบที่จะให้ชัยชนะแก่ท่าน ศัตรูของท่านจะหมอบต่อหน้าท่านด้วยความกลัว และท่านจะเหยียบบนหลังพวกเขา”
- กันดารวิถี 34:14 - เพราะเผ่าของรูเบนและกาดและครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ได้รับส่วนของพวกเขาแล้วตามตระกูลของพวกเขา
- กันดารวิถี 34:15 - คนทั้งสองเผ่าครึ่งนั้นได้รับที่ดินส่วนของพวกเขาไปแล้วในฝั่งตรงข้ามแม่น้ำจอร์แดนจากเยริโค บนฝั่งตะวันออกที่ดวงอาทิตย์ขึ้น”
- กันดารวิถี 34:16 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 34:17 - “คนเหล่านี้จะช่วยแบ่งที่ดินให้กับพวกเจ้า คือนักบวชเอเลอาซาร์และโยชูวาลูกชายของนูน
- กันดารวิถี 34:18 - พวกเจ้าจะเลือกผู้นำคนหนึ่งจากแต่ละเผ่ามาช่วยแบ่งที่ดินด้วย
- กันดารวิถี 34:19 - นี่เป็นรายชื่อของผู้นำพวกนั้น คาเลบลูกชายเยฟุนเนห์ จากเผ่ายูดาห์
- กันดารวิถี 34:20 - เชมูเอลลูกชายอัมมีฮูด จากเผ่าสิเมโอน
- กันดารวิถี 34:21 - เอลีดาดลูกชายคิสโลน จากเผ่าเบนยามิน
- กันดารวิถี 34:22 - บุคคีลูกชายโยกลี จากเผ่าดาน
- กันดารวิถี 34:23 - จากลูกหลานของโยเซฟ ฮันนีเอลลูกชายเอโฟด จากเผ่ามนัสเสห์
- กันดารวิถี 34:24 - เคมูเอลลูกชายชิฟทาน จากเผ่าเอฟราอิม
- กันดารวิถี 34:25 - เอลีซาฟานลูกชายปารนาค จากเผ่าเศบูลุน
- กันดารวิถี 34:26 - ปัลทีเอลลูกชายอัสซาน จากเผ่าอิสสาคาร์
- กันดารวิถี 34:27 - อาหิฮูดลูกชายเชโลมี จากเผ่าอาเชอร์
- กันดารวิถี 34:28 - เปดาเฮลลูกชายอัมมีฮูด จากเผ่านัฟทาลี”
- กันดารวิถี 2:3 - ค่ายทางตะวันออกหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์ ให้เป็นที่ตั้งค่ายของเผ่ายูดาห์ โดยจัดตามกลุ่มตามกองของเขา มีนาโชนลูกชายของอัมมีนาดับเป็นหัวหน้าเผ่านี้
- กันดารวิถี 2:4 - กลุ่มนี้มีคนทั้งหมดเจ็ดหมื่นสี่พันหกร้อยคน
- กันดารวิถี 2:5 - ค่ายที่อยู่ถัดจากค่ายของยูดาห์คือค่ายของเผ่าอิสสาคาร์ มีเนธันเอลลูกชายของศุอาร์เป็นหัวหน้าเผ่านี้
- กันดารวิถี 2:6 - กลุ่มของเขานับคนได้ทั้งหมดห้าหมื่นสี่พันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 2:7 - ถัดจากนั้นคือเผ่าเศบูลุน มีเอลีอับลูกชายของเฮโลนเป็นหัวหน้าเผ่า
- กันดารวิถี 2:8 - กลุ่มนี้มีคนทั้งหมดห้าหมื่นเจ็ดพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 2:9 - นับจำนวนคนที่ขึ้นอยู่กับค่ายของยูดาห์และค่ายที่อยู่รอบๆตามกลุ่มตามกองของแต่ละค่าย มีทั้งหมดหนึ่งแสนแปดหมื่นหกพันสี่ร้อยคน พวกเขาทั้งหมดจะเดินทางออกจากค่ายเป็นขบวนแรก
- กันดารวิถี 2:10 - ทางทิศใต้ให้เป็นที่ตั้งค่ายของรูเบนโดยให้จัดตามกลุ่มตามกองของพวกเขา มีเอลีซูร์ลูกชายของเชเดเออร์เป็นหัวหน้าเผ่า
- กันดารวิถี 2:11 - กลุ่มนี้มีคนทั้งหมดสี่หมื่นหกพันห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 2:12 - ถัดจากค่ายของรูเบนคือเผ่าสิเมโอน มีเชลูมิเอลลูกชายของศูริชัดดัยเป็นหัวหน้าเผ่า
- กันดารวิถี 2:13 - กลุ่มนี้มีคนทั้งหมดห้าหมื่นเก้าพันสามร้อยคน
- กันดารวิถี 2:14 - ต่อจากนั้นคือเผ่ากาด มีเอลียาสาฟลูกชายของเรอูเอล เป็นหัวหน้าเผ่า
- กันดารวิถี 2:15 - กลุ่มนี้มีคนทั้งหมดสี่หมื่นห้าพันหกร้อยห้าสิบคน
- กันดารวิถี 2:16 - นับจำนวนคนที่ขึ้นกับค่ายของรูเบนและค่ายที่ตั้งอยู่รอบๆตามกลุ่มของแต่ละเผ่า มีทั้งหมดหนึ่งแสนห้าหมื่นหนึ่งพันสี่ร้อยห้าสิบคน พวกเขาจะออกเดินทางจากค่ายเป็นขบวนที่สอง
- กันดารวิถี 2:17 - ต่อไปคือขบวนของชาวเลวี ที่จะออกมาพร้อมกับเต็นท์นัดพบ พวกเขาจะเดินอยู่ตรงกลางของขบวนอื่นๆพวกเขาจะเดินออกมาเป็นขบวน ตามที่เขาได้ตั้งค่ายไว้ ตามจุดต่างๆตามกลุ่มตามกองของตน
- กันดารวิถี 2:18 - ค่ายทางทิศตะวันตกจะเป็นค่ายของเผ่าเอฟราอิม โดยจัดตามกลุ่มตามกองของพวกเขา มีเอลีชามาลูกชายของอัมมีฮูดเป็นหัวหน้าเผ่า
- กันดารวิถี 2:19 - กลุ่มนี้มีคนทั้งหมดสี่หมื่นห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 2:20 - ค่ายที่ถัดจากค่ายเอฟราอิมคือเผ่ามนัสเสห์ มีกามาลิเอลลูกชายของเปดาซูร์เป็นหัวหน้า
- กันดารวิถี 2:21 - กลุ่มนี้มีคนทั้งหมดสามหมื่นสองพันสองร้อยคน
- กันดารวิถี 2:22 - ต่อมาคือเผ่าเบนยามิน มีอาบีดันลูกชายของกิเดโอนีเป็นหัวหน้า
- กันดารวิถี 2:23 - กลุ่มนี้มีคนทั้งหมดสามหมื่นห้าพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 2:24 - นับจำนวนคนที่ขึ้นกับค่ายของเอฟราอิมและค่ายที่ตั้งอยู่รอบๆตามกลุ่มตามกองของแต่ละเผ่า มีทั้งหมดหนึ่งแสนแปดพันหนึ่งร้อยคน พวกเขาจะออกเดินทางเป็นขบวนที่สาม
- กันดารวิถี 2:25 - ค่ายทางเหนือจะเป็นค่ายของเผ่าดาน โดยจัดตามกลุ่มตามกองของพวกเขา มีอาหิเยเซอร์ลูกชายของอัมมีชัดดัยเป็นหัวหน้าเผ่า
- กันดารวิถี 2:26 - กลุ่มนี้มีคนทั้งหมดหกหมื่นสองพันเจ็ดร้อยคน
- กันดารวิถี 2:27 - ค่ายที่อยู่ถัดจากค่ายของดานคือเผ่าอาเชอร์ มีปากีเอลลูกชายของโอครานเป็นหัวหน้าเผ่า
- กันดารวิถี 2:28 - กลุ่มนี้มีคนทั้งหมดสี่หมื่นหนึ่งพันห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 2:29 - จากนั้นคือค่ายของเผ่านัฟทาลี มีอาหิราลูกชายของเอนันเป็นหัวหน้าเผ่า
- กันดารวิถี 2:30 - กลุ่มนี้มีคนทั้งหมดห้าหมื่นสามพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 2:31 - นับคนทั้งหมดที่ขึ้นกับค่ายของดาน มีทั้งหมดหนึ่งแสนห้าหมื่นเจ็ดพันหกร้อยคน พวกเขาเหล่านี้จะออกเดินทางเป็นขบวนสุดท้าย ภายในหน่วยของพวกเขา
- กันดารวิถี 2:32 - ทั้งหมดนี้คือคนอิสราเอล ที่นับตามครอบครัวของพวกเขา คนอิสราเอลทั้งหมดที่อยู่ในค่าย ที่นับตามกลุ่มตามกองของพวกเขา มีจำนวนทั้งหมดหกแสนสามพันห้าร้อยห้าสิบคน
- กันดารวิถี 2:33 - ไม่ได้นับชาวเลวีรวมเข้าไปกับชาวอิสราเอลคนอื่นๆเพราะพระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้อย่างนั้น
- เอเสเคียล 48:1 - “ต่อไปนี้คือรายชื่อของเผ่าต่างๆของอิสราเอลกับที่ดินที่พวกเขาจะได้รับ เริ่มจากทางทิศเหนือ ชนเผ่าดานจะได้รับส่วนหนึ่ง คือส่วนที่เลียบไปตามถนนเฮทโลนไปจนถึงทางเข้าเมืองฮามัท ไปจนถึงฮาซาเรโนน (ซึ่งติดกับเขตแดนทางด้านเหนือของเมืองดามัสกัส ที่อยู่ถัดจากเมืองฮามัท) เริ่มจากเขตแดนด้านตะวันออกยาวไปจนถึงด้านตะวันตก
- เอเสเคียล 48:2 - ชนเผ่าอาเชอร์จะได้รับส่วนหนึ่ง คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของดาน ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก
- เอเสเคียล 48:3 - ชนเผ่านัฟทาลีได้รับส่วนหนึ่ง คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของอาเชอร์ ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก
- เอเสเคียล 48:4 - ชนเผ่ามนัสเสห์จะได้รับส่วนหนึ่ง คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของนัฟทาลี ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก
- เอเสเคียล 48:5 - ชนเผ่าเอฟราอิมจะได้รับส่วนหนึ่ง คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของมนัสเสห์ ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก
- เอเสเคียล 48:6 - ชนเผ่ารูเบนจะได้รับส่วนหนึ่ง คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเอฟราอิม ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก
- เอเสเคียล 48:7 - ชนเผ่ายูดาห์จะได้รับส่วนหนึ่ง คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของรูเบน ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก
- เอเสเคียล 48:8 - ส่วนที่ถัดจากเขตแดนของยูดาห์ลงมา จากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก จะเป็นส่วนของแผ่นดินที่เจ้าต้องแยกออกมาเป็นพิเศษ ซึ่งมีความกว้างสองหมื่นห้าพันศอกและมีความยาวจากทางตะวันออกไปถึงตะวันตกเท่ากับส่วนแบ่งของแต่ละเผ่า จะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ตรงกลางของที่ดินแปลงนี้
- เอเสเคียล 48:9 - เขตพิเศษที่เจ้าต้องถวายให้กับพระยาห์เวห์ จะมีความยาวสองหมื่นห้าพันศอกและกว้างสองหมื่นศอก
- เอเสเคียล 48:10 - ส่วนแบ่งที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ที่เจ้าได้แยกออกไว้ต่างหาก จะถูกจัดสรรให้กับกลุ่มต่อไปนี้ สำหรับพวกนักบวช จะได้รับเขตที่ดินที่มีความยาวสองหมื่นห้าพันศอกทางด้านเหนือและด้านใต้และกว้างหนึ่งหมื่นศอกทางด้านตะวันตกและตะวันออก และมีที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์อยู่ตรงกลาง
- เอเสเคียล 48:11 - เฉพาะพวกนักบวชที่เป็นลูกหลานของศาโดกเท่านั้น ที่จะได้รับส่วนแบ่งอันศักดิ์สิทธิ์นี้ เพราะ พวกนี้ได้รับการเลือกให้มาเป็นนักบวชที่ศักดิ์สิทธิ์ ทำหน้าที่เฝ้ายามให้กับเรา และไม่ได้หันเหไปจากเรา ตอนที่พวกชาวเลวีอื่นๆและชาวอิสราเอลหลงไปจากเรา
- เอเสเคียล 48:12 - ที่ดินส่วนนี้จะเป็นของขวัญพิเศษที่มอบให้แก่พวกนักบวชนี้ ส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของเขตศักดิ์สิทธิ์ เป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ที่อยู่ถัดจากเขตของชาวเลวีขึ้นไป
- เอเสเคียล 48:13 - ติดกับเขตแดนของนักบวชนั้น ชาวเลวีจะได้รับส่วนแบ่ง ขนาดยาวสองหมื่นห้าพันศอกและกว้างหนึ่งหมื่นศอก รวมขนาดทั้งหมดของเขตแดนนั้นยาวสองหมื่นห้าพันศอก กว้างสองหมื่นศอก
- เอเสเคียล 48:14 - พวกเขาต้องไม่ขายหรือเอามันไปแลกเปลี่ยนไม่ว่าจะเป็นส่วนใดก็ตาม มันเป็นที่ดินส่วนที่ดีที่สุดและต้องไม่ตกไปอยู่ในมือของคนกลุ่มอื่น เพราะมันเป็นส่วนศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์
- เอเสเคียล 48:15 - พื้นที่ส่วนที่เหลือที่กว้างห้าพันศอก ยาวสองหมื่นห้าพันศอกนั้น จะไว้สำหรับใช้ประโยชน์ทั่วไปของชุมชน คือใช้เป็นที่อยู่อาศัย และใช้เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ตัวเมืองจะตั้งอยู่ตรงกลางของส่วนนี้
- เอเสเคียล 48:16 - เมืองนี้จะเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่า คือทั้งทิศเหนือใต้ออกตก มีความยาวสี่พันห้าร้อยศอกเท่ากันหมด
- เอเสเคียล 48:17 - ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์จะยื่นออกไปจากเมืองสองร้อยห้าสิบศอกทั้งทิศเหนือใต้ออกตก
- เอเสเคียล 48:18 - ส่วนพื้นที่ที่เหลือทางด้านตะวันออกและตะวันตกของเมือง ที่ติดกับเขตแดนของส่วนศักดิ์สิทธิ์ มีขนาดยื่นออกไปหนึ่งหมื่นศอกทั้งสองด้าน พื้นที่ส่วนนี้จะใช้สำหรับปลูกพืชผลเพื่อเป็นอาหารให้กับพวกคนงานในเมือง
- เอเสเคียล 48:19 - พวกคนงานที่อยู่ในเมือง จะมาเพาะปลูกในพื้นที่นี้ พวกเขาจะมาจากเผ่าทั้งหลายของอิสราเอล
- เอเสเคียล 48:20 - ดังนั้นจุดศูนย์กลางของเขตศักดิ์สิทธิ์นี้ จะเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่าขนาดสองหมื่นห้าพันศอก เจ้าจะต้องแยกส่วนนี้ออกมาให้กับเรา และให้เป็นที่ตั้งของเมืองด้วย
- เอเสเคียล 48:21 - ส่วนที่เหลือทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ที่ถัดจากส่วนศักดิ์สิทธิ์และที่ดินของเมืองออกไปนั้นจะตกเป็นของผู้นำของอิสราเอล มันจะยื่นออกไปสองหมื่นห้าพันศอกทั้งสองด้าน พื้นที่ทั้งสองแห่งนี้ที่ขนานกับเขตแดนของเผ่าอื่น จะตกเป็นของผู้นำอิสราเอล และจะมีส่วนศักดิ์สิทธิ์กับวิหารศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงกลางระหว่างสองแปลงนี้
- เอเสเคียล 48:22 - ดังนั้นที่ดินของชาวเลวีและที่ดินของเมืองจะขั้นกลางระหว่างที่สองแปลงของผู้นำอิสราเอล ที่ดินของผู้นำอิสราเอลจะตั้งอยู่ระหว่างเขตแดนของเผ่ายูดาห์และเผ่าเบนยามิน
- เอเสเคียล 48:23 - ส่วนชนเผ่าที่เหลือมีเขตแดนดังนี้คือ ชนเผ่าเบนยามินจะได้รับส่วนถัดลงมา ทอดยาวจากด้านตะวันออกไปถึงด้านตะวันตก
- เอเสเคียล 48:24 - ชนเผ่าสิเมโอนจะได้รับส่วนหนึ่ง คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเผ่าเบนยามินลงมา ทอดยาวจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก
- เอเสเคียล 48:25 - ชนเผ่าอิสสาคาร์จะได้รับส่วนหนึ่ง คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเผ่าสิเมโอนลงมา ทอดยาวจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก
- เอเสเคียล 48:26 - ชนเผ่าเศบูลุนจะได้รับส่วนหนึ่ง คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเผ่าอิสสาคาร์ลงมา ทอดยาวจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก
- เอเสเคียล 48:27 - ชนเผ่ากาดจะได้รับส่วนหนึ่ง คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเผ่าเศบูลุนลงมา ทอดยาวจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก
- เอเสเคียล 48:28 - พรมแดนทางใต้ของชนเผ่ากาดจะทอดยาวจากเมืองทามาร์ไปจนถึงพวกตาน้ำแห่งเมรีบาห์คาเดช แล้วเลาะไปตามลำธารแห้งของอียิปต์ไปจบที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
- เอเสเคียล 48:29 - นี่คือที่ดินที่เจ้าต้องจัดแบ่งเพื่อให้เป็นมรดกแก่ชนเผ่าต่างๆของอิสราเอล และนั่นคือสัดส่วนที่พวกเขาจะได้รับ” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- เอเสเคียล 48:30 - ต่อไปนี้จะเป็นพวกประตูของเมืองเยรูซาเล็ม เริ่มต้นจากทิศเหนือซึ่งยาวสี่พันห้าร้อยศอก
- เอเสเคียล 48:31 - ประตูสามประตูทางทิศเหนือ ตั้งชื่อตามเผ่าของรูเบน ยูดาห์และเลวี
- เอเสเคียล 48:32 - ทางทิศตะวันออกซึ่งยาวสี่พันห้าร้อยศอก จะมีสามประตูที่ตั้งชื่อตามเผ่าของโยเซฟ เบนยามินและดาน
- เอเสเคียล 48:33 - ทางทิศใต้ซึ่งยาวสี่พันห้าร้อยศอก จะมีสามประตูที่ตั้งชื่อตามเผ่าของสิเมโอน อิสสาคาร์และเศบูลุน
- เอเสเคียล 48:34 - ทางทิศตะวันตกซึ่งยาวสี่พันห้าร้อยศอก จะมีสามประตูที่ตั้งชื่อตามเผ่ากาด อาเชอร์และนัฟทาลี
- เอเสเคียล 48:35 - รวมระยะทางโดยรอบของกำแพงเมือง จะมีความยาวหนึ่งหมื่นแปดพันศอก และนับตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป เมืองนี้จะมีชื่อว่า “พระยาห์เวห์อยู่ที่นั่น”
- วิวรณ์ 7:4 - จากนั้นผมก็ได้ยินจำนวนของผู้ที่ได้รับการประทับตรา พวกเขามาจากทุกเผ่าของอิสราเอลรวมทั้งหมดหนึ่งแสนสี่หมื่นสี่พันคน
- วิวรณ์ 7:5 - จากเผ่ายูดาห์: 12,000 คน จากเผ่ารูเบ็น: 12,000 คน จากเผ่ากาด: 12,000 คน
- วิวรณ์ 7:6 - จากเผ่าอาเชอร์: 12,000 คน จากเผ่านัฟทาลี: 12,000 คน จากเผ่ามนัสเสห์: 12,000 คน
- วิวรณ์ 7:7 - จากเผ่าสิเมโอน: 12,000 คน จากเผ่าเลวี: 12,000 คน จากเผ่าอิสสาคาร์: 12,000 คน
- วิวรณ์ 7:8 - จากเผ่าเศบูลุน: 12,000 คน จากเผ่าโยเซฟ: 12,000 คน จากเผ่าเบนยามิน: 12,000 คน
- กันดารวิถี 7:12 - ดังนั้นผู้นำแต่ละเผ่า ทั้งสิบสองเผ่า ได้นำของขวัญพวกนี้มาถวายคือ จานเงินที่มีน้ำหนักหนึ่งกิโลกรัมครึ่ง ชามเงินสำหรับประพรมขนาดแปดขีด ตามมาตรฐานการวัดอย่างเป็นทางการ ทั้งสองอย่างต้องใส่แป้งอย่างดีผสมน้ำมันที่จะใช้เป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชไว้เต็ม ทัพพีทองคำหนึ่งอันหนักหนึ่งร้อยสิบห้ากรัม ใส่เครื่องหอมไว้ วัวตัวผู้หนึ่งตัวจากฝูงสัตว์เลี้ยง แกะหนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีหนึ่งตัวเพื่อใช้เป็นเครื่องเผาบูชา แพะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง และสำหรับเครื่องสังสรรค์บูชาใช้วัวตัวผู้สองตัว แกะห้าตัว แพะตัวผู้ห้าตัวและลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีห้าตัว ผู้นำของแต่ละเผ่า ได้นำของขวัญมาถวาย ตามลำดับดังต่อไปนี้คือ วันแรก นาโชนลูกชายอัมมีนาดับ ผู้นำเผ่ายูดาห์ วันที่สอง เนธันเอลลูกชายศุอาร์ ผู้นำเผ่าอิสสาคาร์ วันที่สาม เอลีอับลูกชายเฮโลน ผู้นำเผ่าเศบูลุน วันที่สี่ เอลีซูร์ลูกชายเชเดเออร์ ผู้นำเผ่ารูเบน วันที่ห้า เชลูมิเอลลูกชายศูริชัดดัย ผู้นำเผ่าสิเมโอน วันที่หก เอลียาสาฟลูกชายเดอูเอล ผู้นำเผ่ากาด วันที่เจ็ด เอลีชามาลูกชายอัมมีฮูด ผู้นำเผ่าเอฟราอิม วันที่แปด กามาลิเอลลูกชายเปดาซูร์ ผู้นำเผ่ามนัสเสห์ วันที่เก้า อาบีดันลูกชายกิเดโอนี ผู้นำเผ่าเบนยามิน วันที่สิบ อาหิเยเซอร์ลูกชายอัมมีชัดดัย ผู้นำเผ่าดาน วันที่สิบเอ็ด ปากีเอลลูกชายโอคราน ผู้นำเผ่าอาเชอร์ วันที่สิบสอง อาหิราลูกชายเอนัน ผู้นำเผ่านัฟทาลี
- กันดารวิถี 7:84 - ในวันที่โมเสสเจิมแท่นบูชานั้น พวกผู้นำชาวอิสราเอลได้นำเครื่องบูชาเหล่านี้มาถวายคือ
- กันดารวิถี 7:85 - จานเงินแต่ละใบหนักหนึ่งกิโลกรัมครึ่ง อ่างเงินแต่ละใบหนักแปดขีด รวมน้ำหนักของภาชนะที่ทำด้วยเงินทั้งหมดประมาณยี่สิบเจ็ดกิโลกรัมกับหกขีด ตามมาตรฐานการวัดอย่างเป็นทางการ
- กันดารวิถี 7:86 - ทัพพีทองคำทั้งสิบสองอันที่ใส่เครื่องหอมอยู่เต็ม แต่ละอันมีน้ำหนักหนึ่งร้อยสิบห้ากรัมตามมาตรฐานการวัดอย่างเป็นทางการ รวมน้ำหนักของทัพพีทองคำทั้งสิบสองอันประมาณหนึ่งกิโลกรัมสี่ขีด
- กันดารวิถี 7:87 - รวมจำนวนสัตว์ที่เอามาเป็นเครื่องเผาบูชา มีวัวหนุ่มสิบสองตัว แกะสิบสองตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีสิบสองตัว เครื่องบูชาจากเมล็ดพืชตามจำนวนที่กำหนด และแพะตัวผู้สิบสองตัวที่จะใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง
- กันดารวิถี 7:88 - รวมจำนวนสัตว์ที่เอามาเป็นเครื่องสังสรรค์บูชา มีวัวหนุ่มยี่สิบสี่ตัว แกะหกสิบตัว แพะตัวผู้หกสิบตัวและลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีหกสิบตัว พวกนี้เป็นเครื่องบูชาที่ใช้สำหรับอุทิศแท่นบูชาให้กับพระยาห์เวห์ หลังจากที่โมเสสเจิมมันแล้ว
- กันดารวิถี 7:89 - เมื่อโมเสสต้องการพูดกับพระเจ้า เขาก็จะเข้าไปในเต็นท์นัดพบ เมื่อพระเจ้าพูดกับเขา เขาจะได้ยินเสียงของพระเจ้าดังออกมาจากช่องว่างระหว่างทูตสวรรค์ที่มีปีกสององค์ ที่อยู่บนฝา ของหีบใส่คำสอนศักดิ์สิทธิ์ที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระที่อยู่ข้างใน นี่เป็นวิธีที่พระเจ้าพูดกับโมเสส
- 2 ซามูเอล 16:21 - อาหิโธเฟลตอบว่า “ไปนอนกับเมียน้อย ของพ่อท่านที่ยังอยู่ดูแลวังสิ แล้วอิสราเอลทั้งหมดจะได้รู้ว่าท่านทำตัวเป็นศัตรูกับพ่อของท่าน แล้วพวกเขาทุกคนที่อยู่กับท่านจะได้กล้าขึ้นและสนับสนุนท่านอย่างเต็มที่”
- 2 ซามูเอล 16:22 - พวกเขาจึงตั้งเต็นท์ให้อับซาโลมบนดาดฟ้า และอับซาโลมก็นอนกับเมียน้อยของพ่อเขาท่ามกลางสายตาของชาวอิสราเอล
- ปฐมกาล 30:5 - บิลฮาห์ก็ตั้งท้องและคลอดลูกชายให้กับยาโคบ
- ปฐมกาล 30:6 - ราเชลพูดว่า “พระเจ้าตัดสินเข้าข้างฉัน และพระองค์ก็ได้ยินเสียงฉันด้วย พระองค์ได้ให้ลูกชายกับฉันหนึ่งคน” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่าดาน
- ปฐมกาล 30:7 - แล้วบิลฮาห์สาวใช้ของราเชลก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายคนที่สองให้กับยาโคบ
- ปฐมกาล 30:8 - ราเชลพูดว่า “ฉันได้ต่อสู้อย่างหนักกับพี่สาวของฉัน และฉันก็ชนะ” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่านัฟทาลี
- ปฐมกาล 30:9 - เมื่อเลอาห์เห็นว่านางไม่มีลูกแล้ว นางจึงยกสาวใช้ของนาง ชื่อศิลปาห์ให้เป็นเมียยาโคบ
- ปฐมกาล 30:10 - แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ ได้คลอดลูกชายให้กับยาโคบ
- ปฐมกาล 30:11 - เลอาห์พูดว่า “โชคดีจริงๆ” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่ากาด
- ปฐมกาล 30:12 - แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ก็คลอดลูกชายคนที่สองให้กับยาโคบ
- ปฐมกาล 30:13 - เลอาห์พูดว่า “ฉันได้รับเกียรติจริงๆ” เพราะพวกผู้หญิงจะต้องพูดว่า “ฉันมีเกียรติ” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าอาเชอร์
- ปฐมกาล 30:14 - ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวสาลี รูเบนได้ออกไปในทุ่งนาและเจอต้นแมนเดร็ก เขาจึงเอาพวกมันกลับมาให้เลอาห์แม่ของเขา แล้วราเชลก็พูดกับเลอาห์ว่า “ขอแบ่งต้นแมนเดร็กของลูกชายพี่ให้กับฉันบ้างสิ”
- ปฐมกาล 30:15 - แต่เลอาห์ตอบราเชลว่า “เธอแย่งสามีฉันไป นี่ยังจะมาเอาต้นแมนเดร็กของลูกชายฉันไปอีกหรือ” แล้วราเชลพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ฉันจะให้เขามานอนกับพี่คืนนี้ เพื่อแลกกับต้นแมนเดร็กของลูกพี่”
- ปฐมกาล 30:16 - เมื่อยาโคบกลับมาจากท้องทุ่งในตอนเย็น เลอาห์ออกไปพบเขาแล้วพูดว่า “คืนนี้พี่ต้องมานอนกับฉัน เพราะฉันได้จ่ายค่าจ้างให้กับพี่แล้วด้วยต้นแมนเดร็กของลูกชายฉัน” ยาโคบจึงไปร่วมหลับนอนกับนางในคืนนั้น
- ปฐมกาล 30:17 - พระยาห์เวห์ได้ตอบคำอธิษฐานของเลอาห์ นางจึงตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายคนที่ห้า
- ปฐมกาล 30:18 - นางพูดว่า “พระเจ้าได้ให้บำเหน็จกับฉัน เพราะฉันได้ยกสาวใช้ของฉันให้กับสามีฉัน” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าอิสสาคาร์
- ปฐมกาล 30:19 - แล้วเลอาห์ก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายคนที่หกให้ยาโคบ
- ปฐมกาล 30:20 - นางพูดว่า “พระองค์ได้ให้ของขวัญที่ดีกับฉัน คราวนี้สามีฉันจะต้องให้เกียรติกับฉัน เพราะฉันได้คลอดลูกชายให้กับเขาถึงหกคน” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าเศบูลุน
- ปฐมกาล 30:21 - ต่อมาเลอาห์ก็คลอดลูกสาว และตั้งชื่อเธอว่าดีนาห์
- ปฐมกาล 30:22 - แล้วพระเจ้าก็ได้ระลึกถึงราเชล และตอบคำอธิษฐานของนาง และพระองค์ทำให้นางสามารถมีลูกได้
- ปฐมกาล 30:23 - แล้วราเชลก็ตั้งท้องและคลอดลูกชาย นางพูดว่า “พระเจ้าได้เอาความอับอายขายหน้าของฉันไปแล้ว”
- ปฐมกาล 30:24 - นางจึงตั้งชื่อเด็กว่าโยเซฟ นางพูดว่า “ขอพระยาห์เวห์เพิ่มลูกชายให้กับฉันอีกหนึ่งคน”
- วิวรณ์ 21:14 - กำแพงเมืองถูกสร้างอยู่บนฐานหินสิบสองอัน และบนฐานหินแต่ละอันนั้นมีชื่อของศิษย์เอกแต่ละคนในสิบสองคนของลูกแกะเขียนอยู่
- กันดารวิถี 1:20 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่ารูเบนซึ่งเป็นลูกหัวปีของอิสราเอล ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:21 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ารูเบน มีทั้งหมดสี่หมื่นหกพันห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 1:22 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าสิเมโอน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:23 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าสิเมโอน มีทั้งหมดห้าหมื่นเก้าพันสามร้อยคน
- กันดารวิถี 1:24 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่ากาด ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:25 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ากาด มีทั้งหมดสี่หมื่นห้าพันหกร้อยห้าสิบคน
- กันดารวิถี 1:26 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่ายูดาห์ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:27 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ายูดาห์ มีทั้งหมดเจ็ดหมื่นสี่พันหกร้อยคน
- กันดารวิถี 1:28 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าอิสสาคาร์ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:29 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าอิสสาคาร์ มีทั้งหมดห้าหมื่นสี่พันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 1:30 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าเศบูลุน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:31 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าเศบูลุน มีทั้งหมดห้าหมื่นเจ็ดพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 1:32 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าเอฟราอิม ลูกชายของโยเซฟ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:33 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าเอฟราอิม มีทั้งหมดสี่หมื่นห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 1:34 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่ามนัสเสห์ ลูกชายอีกคนของโยเซฟ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายเรียงตัวทุกคน ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:35 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ามนัสเสห์ มีทั้งหมดสามหมื่นสองพันสองร้อยคน
- กันดารวิถี 1:36 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าเบนยามิน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:37 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าเบนยามิน มีทั้งหมดสามหมื่นห้าพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 1:38 - พวกเขานับลูกหลานเผ่าดาน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:39 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าดาน มีทั้งหมดหกหมื่นสองพันเจ็ดร้อยคน
- กันดารวิถี 1:40 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าอาเชอร์ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:41 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าอาเชอร์ มีทั้งหมดสี่หมื่นหนึ่งพันห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 1:42 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่านัฟทาลี ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:43 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่านัฟทาลี มีทั้งหมดห้าหมื่นสามพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 1:44 - โมเสสและอาโรน รวมทั้งผู้นำสิบสองคนจากแต่ละเผ่าของอิสราเอลเป็นผู้นับจำนวนคนเหล่านี้ ผู้นำแต่ละคนก็เป็นตัวแทนของแต่ละครอบครัว
- กันดารวิถี 1:45 - พวกเขานับผู้ชายชาวอิสราเอลทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปและสามารถรับใช้ในกองทัพ ตามครอบครัวของตน
- กันดารวิถี 1:46 - รวมจำนวนคนที่นับได้ทั้งหมดมีหกแสนสามพันห้าร้อยห้าสิบคน
- ปฐมกาล 49:1 - แล้วยาโคบก็เรียกลูกชายคนอื่นๆมา เขาพูดว่า “มาชุมนุมกัน แล้วพ่อจะบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับพวกลูกในอนาคต
- ปฐมกาล 49:2 - รวมตัวกันเข้ามาฟัง พวกลูกๆของยาโคบ ให้ฟังอิสราเอล พ่อของพวกเจ้า
- ปฐมกาล 49:3 - รูเบน เจ้าเป็นลูกคนโตของพ่อ เจ้าเป็นความเข้มแข็งของพ่อ และเป็นข้อพิสูจน์ความเป็นชายของพ่อ เจ้าคือสุดยอดแห่งความภาคภูมิใจ และสุดยอดของความแข็งแกร่ง
- ปฐมกาล 49:4 - แต่เจ้าเป็นเหมือนสายน้ำที่ควบคุมไม่ได้ ดังนั้น เจ้าจะไม่สุดยอดอีกต่อไป เพราะเจ้าแอบปีนขึ้นไปบนเตียงพ่อเจ้า เจ้าหลับนอนกับเมียของพ่อเจ้า แล้วเจ้าได้นำความอับอายมาสู่เตียงของพ่อ ที่เจ้าได้ปีนขึ้นไปนั้น”
- ปฐมกาล 49:5 - “สิเมโอนและเลวีเป็นพี่น้องกัน ดาบของพวกเขาคืออาวุธแห่งความรุนแรง
- ปฐมกาล 49:6 - พวกเขาแอบวางแผนชั่วร้าย พ่อขอไม่มีส่วนร่วมในการวางแผนลับแบบนั้น พ่อขอไม่เจอกับพวกเขาในการวางแผนชั่วร้ายเช่นนั้น เพราะพวกเขาได้ฆ่าคนเพราะความโกรธ และได้ทำร้ายสัตว์เพียงเพื่อความสนุก
- ปฐมกาล 49:7 - ขอให้ความโกรธของพวกเขาถูกสาปแช่งเพราะมันรุนแรงเกินไป และขอให้ความเดือดดาลบ้าคลั่งของพวกเขาถูกสาปแช่งเพราะมันโหดร้ายเกินไป พ่อจะแยกพวกเขาให้กระจัดกระจายไปท่ามกลางเผ่าพันธุ์ของยาโคบ พ่อจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปในอิสราเอล
- ปฐมกาล 49:8 - ยูดาห์ พี่น้องของเจ้าจะสรรเสริญเจ้า เจ้าจะเอาชนะศัตรู บรรดาพี่น้องจะต้องมาคำนับเจ้า
- ปฐมกาล 49:9 - ยูดาห์ เจ้าเหมือนสิงโตหนุ่ม ที่ยืนคร่อมอยู่เหนือเหยื่อที่มันฆ่า เจ้าเป็นเหมือนสิงโตที่กำลังหมอบนอนลงพัก ไม่มีใครกล้ามาแหย่
- ปฐมกาล 49:10 - อำนาจการปกครองจะไม่มีวันหมดไปจากยูดาห์ และลูกหลานของเขา จนกว่ากษัตริย์ที่แท้จริงจะขึ้นครองบัลลังก์ และทุกชาติจะเชื่อฟังเขา
- ปฐมกาล 49:11 - เขาผูกลาของเขาไว้กับเถาองุ่น เขาผูกลูกลาไว้กับต้นองุ่นที่ดีที่สุด เขาล้างเสื้อผ้าในเหล้าองุ่น และซักเสื้อคลุมของเขาด้วยน้ำองุ่นสีเลือด
- ปฐมกาล 49:12 - นัยน์ตาของเขาแดงก่ำยิ่งกว่าสีของเหล้าองุ่น และฟันของเขาขาวยิ่งกว่าน้ำนม
- ปฐมกาล 49:13 - เศบูลุนจะตั้งถิ่นฐานอยู่ติดทะเล มันจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับเรือ เขตแดนของเขาจะขยายออกไปจนถึงเมืองไซดอน
- ปฐมกาล 49:14 - อิสสาคาร์เหมือนลาที่แข็งแกร่ง แต่มันนอนลงระหว่างตะกร้าที่แบกอยู่
- ปฐมกาล 49:15 - เมื่อเขาพบที่เหมาะสำหรับหยุดพัก และเป็นแผ่นดินอันน่ารื่นรมย์ เมื่อนั้นเขาจะยินดีที่จะค่อมหลังลงเพื่อแบกสัมภาระ และพร้อมที่จะเป็นทาสรับใช้
- ปฐมกาล 49:16 - ดาน จะเป็นผู้ให้ความยุติธรรมกับคนของเขา เหมือนกับที่ชนเผ่าอื่นของอิสราเอลทำกัน
- ปฐมกาล 49:17 - ดานจะเป็นเหมือนงูที่อยู่ข้างถนน เป็นเหมือนงูพิษที่อยู่ตามทาง คอยกัดเท้าของม้า และคนขี่ก็จะตกจากหลังม้า
- ปฐมกาล 49:18 - ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้ากำลังรอคอยความรอดของพระองค์
- ปฐมกาล 49:19 - กาด จะถูกโจมตีโดยผู้บุกรุก แต่กาดจะขับไล่พวกมันไปได้
- ปฐมกาล 49:20 - อาหารการกินของอาเชอร์จะอุดมสมบูรณ์ เขาจะเป็นผู้จัดหาอาหารให้สำหรับกษัตริย์
- ปฐมกาล 49:21 - นัฟทาลีเป็นเหมือนกวางที่วิ่งอย่างอิสระ และคลอดลูกกวางที่สวยงาม
- ปฐมกาล 49:22 - โยเซฟคือต้นองุ่นที่ผลิดอกออกผล เป็นต้นองุ่นที่เจริญเติบโตอยู่ข้างน้ำพุ กิ่งก้านของเขาจะเลื้อยไปบนกำแพง
- ปฐมกาล 49:23 - นักธนูมากมายไม่ชอบเขาและยิงเขา คนพวกนี้จะเป็นศัตรูกับเขา
- ปฐมกาล 49:24 - แต่คันธนูของโยเซฟจะยังมั่นคง และแขนทั้งสองข้างของเขายังคงคล่องแคล่วชำนาญ โดยพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ของยาโคบ โดยพระผู้เลี้ยงคือพระศิลาแห่งอิสราเอล
- ปฐมกาล 49:25 - โดยพระเจ้าของพ่อเจ้า ขอให้พระองค์ช่วยเหลือเจ้า พระเจ้าผู้เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจสูงสุด ขอพระองค์อวยพรเจ้า ด้วยพรจากสวรรค์เบื้องบน พรจากน้ำที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน พรจากเต้านมและท้องที่คลอด
- ปฐมกาล 49:26 - พรต่างๆของพ่อเจ้านี้ยิ่งใหญ่กว่า พรจากภูเขาที่ตั้งตระหง่านชั่วนิรันดร์ และดีกว่าของดีต่างๆของเทือกเขาที่อยู่นิรันดร์ ขอให้พรต่างๆนี้มาตกอยู่ที่หัวของโยเซฟ มาตกอยู่ที่หน้าผากของเขาคนที่ถูกแยกออกมาเป็นพิเศษจากท่ามกลางพี่น้องของเขา
- ปฐมกาล 49:27 - เบนยามินเหมือนหมาป่าที่หิวโซ ในตอนเช้าเขากินเหยื่อที่จับมาได้ ในตอนเย็นเขาจะแบ่งปันของที่แย่งชิงมาได้”
- ปฐมกาล 49:28 - และนี่คือเผ่าทั้งสิบสองเผ่าของอิสราเอล และนี่คือสิ่งที่พ่อของพวกเขาได้บอกกับพวกเขาไว้ เมื่อเขาอวยพรลูกๆด้วยคำอวยพรที่พิเศษสำหรับแต่ละคนแล้ว
- กันดารวิถี 26:57 - ต่อไปนี้คือชาวเลวีที่ได้นับตามตระกูลของพวกเขา จากเกอร์โชน เป็นตระกูลเกอร์โชน จากโคฮาท เป็นตระกูลโคฮาท จากเมรารี เป็นตระกูลเมรารี
- กันดารวิถี 26:58 - คนเหล่านี้อยู่ในตระกูลเลวี ตระกูลลิบนี ตระกูลเฮโบรน ตระกูลมาลี ตระกูลมูชี ตระกูลโคราห์
- กันดารวิถี 26:59 - เมียของอัมรามชื่อโยเคเบดเป็นลูกหลานของเลวี นางเกิดอยู่ในเผ่าของเลวีในอียิปต์ นางมีลูกกับอัมราม คืออาโรน โมเสสและมิเรียมพี่สาวของพวกเขา
- กันดารวิถี 26:60 - อาโรนมีลูกชื่อ นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์และอิธามาร์
- กันดารวิถี 26:61 - นาดับและอาบีฮูตายไปแล้ว เมื่อครั้งที่พวกเขาได้ถวายไฟที่พระยาห์เวห์ไม่อนุญาตให้ถวายต่อหน้าพระองค์
- กันดารวิถี 26:62 - รวมจำนวนชายชาวเลวีที่มีอายุตั้งแต่หนึ่งเดือนขึ้นไปสองหมื่นสามพันคน เพราะพวกเขาไม่สามารถนับรวมกับชาวอิสราเอลคนอื่นได้ เพราะพวกเขาไม่ได้รับส่วนแบ่งที่ดินเหมือนประชาชนชาวอิสราเอลคนอื่นๆ
- 1 พงศาวดาร 2:1 - ต่อไปนี้คือพวกลูกชายของอิสราเอลคือ รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ เศบูลุน
- 1 พงศาวดาร 2:2 - ดาน โยเซฟ เบนยามิน นัฟทาลี กาดและอาเชอร์
- กันดารวิถี 1:5 - ต่อไปนี้เป็นรายชื่อของผู้ชายพวกนั้นที่จะมาช่วยเจ้า เอลีซูร์ลูกชายของเชเดเออร์จากเผ่ารูเบน
- กันดารวิถี 1:6 - เชลูมิเอลลูกชายของศูริชัดดัยจากเผ่าสิเมโอน
- กันดารวิถี 1:7 - นาโชนลูกชายของอัมมีนาดับจากเผ่ายูดาห์
- กันดารวิถี 1:8 - เนธันเอลลูกชายของศุอาร์จากเผ่าอิสสาคาร์
- กันดารวิถี 1:9 - เอลีอับลูกชายของเฮโลนจากเผ่าเศบูลุน
- กันดารวิถี 1:10 - จากลูกหลานของโยเซฟมี เอลีชามาลูกชายของอัมมีฮูดจากเผ่าเอฟราอิม กามาลิเอลลูกชายของเปดาซูร์จากเผ่ามนัสเสห์
- กันดารวิถี 1:11 - อาบีดันลูกชายของกิเดโอนีจากเผ่าเบนยามิน
- กันดารวิถี 1:12 - อาหิเยเซอร์ลูกชายของอัมมีชัดดัยจากเผ่าดาน
- กันดารวิถี 1:13 - ปากีเอลลูกชายของโอครานจากเผ่าอาเชอร์
- กันดารวิถี 1:14 - เอลียาสาฟลูกชายของเรอูเอล จากเผ่ากาด
- กันดารวิถี 1:15 - อาหิราลูกชายของเอนันจากเผ่านัฟทาลี”
- อพยพ 1:1 - ยาโคบได้เดินทางไปอียิปต์ พร้อมกับลูกๆ และลูกๆของเขาต่างก็พาครอบครัวของตัวเองไปด้วย ต่อไปนี้เป็นรายชื่อของพวกลูกๆของอิสราเอล
- อพยพ 1:2 - รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์
- อพยพ 1:3 - อิสสาคาร์ เศบูลุน เบนยามิน
- อพยพ 1:4 - ดาน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์
- อพยพ 1:5 - ยาโคบมีลูกหลานที่สืบเชื้อสายมาจากเขาทั้งสิ้นเจ็ดสิบคน รวมโยเซฟที่อยู่ในอียิปต์อยู่ก่อนแล้วด้วย
- อพยพ 6:14 - ต่อไปนี้เป็นรายชื่อของผู้นำแต่ละครอบครัวของอิสราเอล ลูกชายคนโตของอิสราเอลคือรูเบน รูเบนมีลูกสี่คนคือ ฮาโนค ปัลลู เฮสโรน และคารมี พวกเขาทั้งหมดอยู่ในครอบครัวของรูเบน
- อพยพ 6:15 - ลูกชายของสิเมโอนคือ เยมูเอล ยามีน โอหาด ยาคีน โศหาร์ รวมทั้งชาอูลที่เกิดจากหญิงชาวคานาอัน พวกเขาทั้งหมดอยู่ในครอบครัวของสิเมโอน
- อพยพ 6:16 - เลวีมีชีวิตอยู่หนึ่งร้อยสามสิบเจ็ดปี ลูกของเลวีคือ เกอร์โชน โคฮาท และเมรารี
- 1 พงศาวดาร 27:16 - ต่อไปนี้คือรายชื่อของพวกผู้นำเผ่าต่างๆของอิสราเอล สำหรับชาวรูเบน คือ เอลีเยเซอร์ลูกชายของศิครี สำหรับชาวสิเมโอน คือ เชฟาทิยาห์ลูกชายของมาอาคาห์
- 1 พงศาวดาร 27:17 - สำหรับชาวเลวี คือ ฮาชาบิยาห์ลูกชายของเคมูเอล สำหรับชาวอาโรนคือศาโดก
- 1 พงศาวดาร 27:18 - สำหรับชาวยูดาห์คือ เอลีฮู พี่ชายคนหนึ่งของดาวิด สำหรับชาวอิสสาคาร์ คือ อมรีลูกชายของมีคาเอล
- 1 พงศาวดาร 27:19 - สำหรับชาวเศบูลุน คือ อิชมัยอาห์ลูกชายของโอบาดียาห์ สำหรับชาวนัฟทาลี คือ เยเรโมทลูกชายอัสรีเอล
- 1 พงศาวดาร 27:20 - สำหรับชาวเอฟราอิม คือ โฮเชยาลูกชายของอาซาซิยาห์ สำหรับครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ คือ โยเอลลูกชายของเปดายาห์
- 1 พงศาวดาร 27:21 - สำหรับอีกครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ในกิเลอาด คือ อิดโดลูกชายของเศคาริยาห์ สำหรับชาวเบนยามิน คือ ยาอาซีเอลลูกชายของอับเนอร์
- 1 พงศาวดาร 27:22 - สำหรับชาวดาน คือ อาซาเรลลูกชายของเยโรฮัม คนเหล่านี้เป็นผู้นำของเผ่าต่างๆในอิสราเอล
- ปฐมกาล 35:18 - ขณะที่นางกำลังจะตาย นางตั้งชื่อลูกว่า เบนโอนี แต่ยาโคบผู้เป็นพ่อตั้งชื่อเด็กว่า เบนยามิน
- 1 พงศาวดาร 12:23 - ต่อไปนี้คือคนที่พร้อมออกรบ ที่มาอยู่ฝ่ายเดียวกับดาวิดในเมืองเฮโบรน เพื่อจะมอบอาณาจักรของซาอูลให้กับดาวิดตามที่พระยาห์เวห์ได้พูดไว้
- 1 พงศาวดาร 12:24 - จากเผ่าของยูดาห์ มีหกพันแปดร้อยคน ที่ถือโล่และหอกเข้ามารับใช้ในกองทัพ
- 1 พงศาวดาร 12:25 - จากเผ่าสิเมโอน มีทหารกล้าเจ็ดพันหนึ่งร้อยคน
- 1 พงศาวดาร 12:26 - จากเผ่าเลวี มีสี่พันหกร้อยคน
- 1 พงศาวดาร 12:27 - และเยโฮยาดาซึ่งเป็นผู้นำของครอบครัวอาโรนก็นำคนมาด้วยสามพันเจ็ดร้อยคน
- 1 พงศาวดาร 12:28 - และนักรบหนุ่มศาโดกก็มาพร้อมกับแม่ทัพในครอบครัวของเขาอีกยี่สิบสองคน
- 1 พงศาวดาร 12:29 - จากเผ่าเบนยามิน ซึ่งเป็นพี่น้องของซาอูล มีจำนวนสามพันคน ซึ่งเกือบทั้งหมดยังคงจงรักภักดีกับครอบครัวของซาอูลจนกระทั่งเวลานั้น
- 1 พงศาวดาร 12:30 - จากเผ่าเอฟราอิม มีนักรบที่กล้าหาญจำนวนสองหมื่นแปดร้อยคน พวกเขาล้วนเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในตระกูลของพวกเขา
- 1 พงศาวดาร 12:31 - จากครึ่งหนึ่งของคนเผ่ามนัสเสห์ มีจำนวนหนึ่งหมื่นแปดพันคน พวกเขาถูกขานชื่อออกมา เพื่อไปเชิญดาวิดให้มาเป็นกษัตริย์
- 1 พงศาวดาร 12:32 - จากเผ่าอิสสาคาร์ มีหัวหน้าสองร้อยคน ผู้ที่เข้าใจสถานะการณ์ในเวลานั้น และรู้ว่าอิสราเอลควรจะทำอะไรรวมทั้งญาติๆทั้งหมดที่อยู่ภายใต้คำสั่งของพวกเขา
- 1 พงศาวดาร 12:33 - จากเผ่าเศบูลุน มีจำนวนห้าหมื่นคน ที่ต่างก็มาด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน พวกเขาพร้อมรบ ถูกฝึกให้ใช้อาวุธทุกชนิด
- 1 พงศาวดาร 12:34 - จากเผ่านัฟทาลี มีแม่ทัพหนึ่งพันคนและคนในกองทัพที่มากับพวกเขาอีกสามหมื่นเจ็ดพันคน ซึ่งมีโล่และหอกเป็นอาวุธ
- 1 พงศาวดาร 12:35 - จากเผ่าดาน มีจำนวนสองหมื่นแปดพันหกร้อยคนพร้อมอาวุธ
- 1 พงศาวดาร 12:36 - จากเผ่าอาเชอร์ มีจำนวนสี่หมื่นคน เตรียมพร้อมสำหรับงานรับใช้ในกองทัพ และพร้อมรบ
- 1 พงศาวดาร 12:37 - จากอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน จากคนเผ่ารูเบน เผ่ากาด และครึ่งหนึ่งของคนเผ่ามนัสเสห์ มีจำนวนหนึ่งแสนสองหมื่นคน มีอาวุธทุกชนิด
- 1 พงศาวดาร 12:38 - พวกนักรบทั้งหมดนี้ได้มารวมตัวกันเพื่อออกศึก พวกเขาได้ยกทัพไปถึงเมืองเฮโบรน และได้เห็นพ้องต้องกันที่จะยกดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล และอิสราเอลที่เหลือทั้งหมดต่างก็เห็นดีด้วยที่จะยกดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์
- 1 พงศาวดาร 12:39 - พวกเขาได้ร่วมกินดื่มอยู่ที่นั่นกับดาวิดเป็นเวลาสามวันเพราะญาติๆของพวกเขาได้จัดเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว
- 1 พงศาวดาร 12:40 - ส่วนเพื่อนบ้านทั้งหลายที่มาจากแดนไกล อย่างเผ่าอิสสาคาร์ เผ่าเศบูลุนและเผ่านัฟทาลี ต่างก็ได้บรรทุกเอาอาหารมาให้กับพวกเขา ด้วยขบวนลา อูฐ ล่อและวัว พวกเขาขนเอาแป้ง ขนมมะเดื่อ ลูกเกด เหล้าองุ่นและน้ำมันมะกอก วัวตัวผู้และแกะจำนวนมากมายมหาศาลมาให้ เพราะในเวลานั้นชาวอิสราเอลต่างก็เฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข
- ปฐมกาล 46:8 - ต่อไปนี้เป็นชื่อของลูกหลานของอิสราเอลที่เข้าไปในอียิปต์คือ
- ปฐมกาล 46:9 - ลูกชายของรูเบนคือ ฮาโนค ปัลลู เฮสโรน และคารมี
- ปฐมกาล 46:10 - ลูกชายของสิเมโอนคือ เยมูเอล ยามีน โอหาด ยาคีน และโศหาร์ รวมทั้งชาอูลลูกที่เกิดจากหญิงชาวคานาอันคนหนึ่ง
- ปฐมกาล 46:11 - ลูกชายของเลวี คือ เกอร์โชน โคฮาท และเมรารี
- ปฐมกาล 46:12 - ลูกชายของยูดาห์ คือ เอร์ โอนัน เชลาห์ เปเรศ เศราห์ แต่เอร์และโอนันได้ตายในแผ่นดินคานาอัน ลูกชายของเปเรศคือ เฮสโรนและฮามูล
- ปฐมกาล 46:13 - ลูกชายของอิสสาคาร์ คือ โทลา ปูวาห์ โยบ และชิมโรน
- ปฐมกาล 46:14 - ลูกชายของเศบูลุนคือ เสเรด เอโลนและยาเลเอล
- ปฐมกาล 46:15 - พวกเขาเหล่านี้ เป็นลูกชายของเลอาห์ซึ่งนางได้คลอดให้กับยาโคบในปัดดาน อารัม และมีลูกสาวชื่อดีนาห์ รวมลูกและหลานชายทั้งหมดในครอบครัวของเลอาห์มีสามสิบสามคน
- ปฐมกาล 46:16 - ลูกชายของกาดคือ ศิฟีโยน ฮักกี ชูนี เอสโบน เอรี อาโรดี และอาเรลี
- ปฐมกาล 46:17 - ลูกชายของอาเชอร์ คือ อิมนาห์ อิชวาห์ อิชวี และเบรียาห์กับเสราห์น้องสาว และลูกชายของเบรียาห์คือ เฮเบอร์และมัลคีเอล
- ปฐมกาล 46:18 - พวกเขาเหล่านี้เป็นลูกของศิลปาห์ สาวใช้ที่ลาบันยกให้เลอาห์ลูกสาวของเขา แล้วศิลปาห์ได้คลอดลูกให้กับยาโคบ รวมลูกหลานทั้งหมดในครอบครัวของศิลปาห์มีสิบหกคน
- ปฐมกาล 46:19 - ลูกของราเชลเมียของยาโคบคือ โยเซฟและเบนยามิน
- ปฐมกาล 46:20 - ลูกชายของโยเซฟที่เกิดกับอาเสนัท คือมนัสเสห์กับเอฟราอิม ลูกสองคนนี้เกิดในประเทศอียิปต์ อาเสนัทเป็นลูกสาวของโปทิเฟรา นักบวชเมืองโอน
- ปฐมกาล 46:21 - ลูกชายของเบนยามินคือ เบลา เบเคอร์ อัชเบล เกรา นาอามาน เอไฮ โรช มัปปิม หุปปิม และอาร์ด
- ปฐมกาล 46:22 - พวกเขาเหล่านี้เป็นลูกหลานของราเชลกับยาโคบ ครอบครัวของราเชลมีทั้งหมดสิบสี่คน
- ปฐมกาล 46:23 - ลูกชายของดาน คือ หุชิม
- ปฐมกาล 46:24 - ลูกชายของนัฟทาลีคือ ยาเซเอล กูนี เยเซอร์ และชิลเลม
- ปฐมกาล 46:25 - พวกเขาเหล่านี้เป็นลูกชายของบิลฮาห์ สาวใช้ที่ลาบันยกให้กับราเชลลูกสาวของเขา นางได้ให้กำเนิดลูกทั้งหมดนี้ให้กับยาโคบ รวมลูกหลานทั้งหมดในครอบครัวของบิลฮาห์มีเจ็ดคน
- ปฐมกาล 46:26 - ผู้คนทั้งหมดที่เดินทางลงไปอียิปต์ด้วยกันกับยาโคบนั้น มีทั้งหมดหกสิบหกคนที่สืบเชื้อสายโดยตรงมาจากยาโคบ (ในจำนวนหกสิบหกคนนี้ไม่ได้รวมถึงพวกเมียๆของลูกชายยาโคบ)
- ปฐมกาล 46:27 - โยเซฟมีลูกชายสองคนที่เกิดในอียิปต์ ดังนั้นถ้านับรวมทุกคนในครอบครัวของยาโคบที่มาอยู่ในอียิปต์ มีทั้งหมดเจ็ดสิบคน
- ปฐมกาล 29:31 - พระยาห์เวห์เห็นว่า ยาโคบเกลียดเลอาห์ พระองค์จึงเปิดครรภ์ของเลอาห์ แต่ราเชลเป็นหมัน
- ปฐมกาล 29:32 - นางเลอาห์ก็ตั้งท้องและคลอดลูกชาย นางตั้งชื่อเขาว่ารูเบน เพราะนางพูดว่า “พระยาห์เวห์มองเห็นความอัปยศอดสูของฉันจริงๆ ตอนนี้สามีของฉันต้องรักฉันแน่ๆ”
- ปฐมกาล 29:33 - เลอาห์ก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายอีกคนหนึ่ง นางพูดว่า “เพราะพระยาห์เวห์ได้ยินว่าฉันเป็นที่เกลียดชัง พระองค์จึงให้ลูกชายคนนี้กับฉัน” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าสิเมโอน
- ปฐมกาล 29:34 - เลอาห์ได้ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายอีกคน นางพูดว่า “คราวนี้สามีฉันต้องใกล้ชิดกับฉัน เพราะฉันคลอดลูกชายให้กับเขาถึงสามคน” นางจึงตั้งชื่อลูกชายคนนี้ว่าเลวี
- ปฐมกาล 29:35 - แล้วเลอาห์ก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายอีกคนหนึ่ง นางพูดว่า “ครั้งนี้ฉันจะสรรเสริญพระยาห์เวห์” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่ายูดาห์ แล้วนางก็ไม่มีลูกอีก
- กันดารวิถี 26:5 - รูเบนเป็นลูกชายคนโตของอิสราเอล นี่คือรายชื่อลูกหลานของรูเบน จากฮาโนค เป็นตระกูลฮาโนค จากปัลลู เป็นตระกูลปัลลู
- กันดารวิถี 26:6 - จากเฮสโรน เป็นตระกูลเฮสโรน จากคารมี เป็นตระกูลคารมี
- กันดารวิถี 26:7 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของรูเบน รวมคนได้ทั้งหมดสี่หมื่นสามพันเจ็ดร้อยสามสิบคน
- กันดารวิถี 26:8 - ลูกชายของปัลลูคือเอลีอับ
- กันดารวิถี 26:9 - เอลีอับมีลูกชายสามคนคือ เนมูเอล ดาธานและอาบีรัม ดาธานและอาบีรัม เป็นสองคนที่ชุมชนเลือกขึ้นมา และได้ต่อต้านโมเสส และอาโรน ทั้งสองคนนี้เป็นสมัครพรรคพวกของโคราห์ ตอนที่พวกเขาร่วมกันต่อต้านพระยาห์เวห์
- กันดารวิถี 26:10 - และแผ่นดินได้อ้าปากกลืนพวกเขาและโคราห์ลงไป เมื่อสมัครพรรคพวกของโคราห์ตายไปและไฟได้เผาผลาญคนสองร้อยห้าสิบคนนั้น คนเหล่านี้ได้กลายเป็นตัวอย่างเตือนใจประชาชน
- กันดารวิถี 26:11 - แต่ลูกชายของโคราห์ไม่ตาย
- กันดารวิถี 26:12 - นี่คือลูกหลานของสิเมโอนตามตระกูลของพวกเขา จากเนมูเอล เป็นตระกูลเนมูเอล จากยามีน เป็นตระกูลยามีน จากยาคีน เป็นตระกูลยาคีน
- กันดารวิถี 26:13 - จากเศราห์ เป็นตระกูลเศราห์ จากชาอูล เป็นตระกูลชาอูล
- กันดารวิถี 26:14 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของสิเมโอน รวมคนได้ทั้งหมดสองหมื่นสองพันสองร้อยคน
- กันดารวิถี 26:15 - ต่อไปคือลูกหลานของกาดตามตระกูลของพวกเขา จากเศโฟน เป็นตระกูลเศโฟน จากฮักกี เป็นตระกูลฮักกี จากชูนี เป็นตระกูลชูนี
- กันดารวิถี 26:16 - จากโอสนี เป็นตระกูลโอสนี จากเอรี เป็นตระกูลเอรี
- กันดารวิถี 26:17 - จากอาโรด เป็นตระกูลอาโรด จากอาเรลี เป็นตระกูลอาเรลี
- กันดารวิถี 26:18 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของกาด รวมคนได้ทั้งหมดสี่หมื่นห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 26:19 - ลูกชายของยูดาห์คือเอร์และโอนัน เขาทั้งสองคนตายในแผ่นดินคานาอัน นี่คือลูกหลานของยูดาห์ตามตระกูลของพวกเขา จากเชลาห์ เป็นตระกูลเชลาห์ จากเปเรศ เป็นตระกูลเปเรศ จากเศราห์ เป็นตระกูลเศราห์
- กันดารวิถี 26:21 - ต่อไปนี้คือลูกหลานของเปเรศ จากเฮสโรน เป็นตระกูลเฮสโรน จากฮามูล เป็นตระกูลฮามูล
- กันดารวิถี 26:22 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของยูดาห์ รวมคนได้ทั้งหมดเจ็ดหมื่นหกพันห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 26:23 - ต่อไปนี้คือลูกหลานของอิสสาคาร์ตามตระกูลของพวกเขา จากโทลา เป็นตระกูลโทลา จากปูวาห์ เป็นตระกูลปูวาห์
- กันดารวิถี 26:24 - จากยาชูบ เป็นตระกูลยาชูบ จากชิมโรน เป็นตระกูลชิมโรน
- กันดารวิถี 26:25 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของอิสสาคาร์ รวมคนได้ทั้งหมดหกหมื่นสี่พันสามร้อยคน
- กันดารวิถี 26:26 - ต่อไปนี้คือลูกหลานของเศบูลุนตามตระกูลของพวกเขา จากเสเรด เป็นตระกูลเสเรด จากเอโลน เป็นตระกูลเอโลน จากยาเลเอล เป็นตระกูลยาเลเอล
- กันดารวิถี 26:27 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของเศบูลุน รวมคนได้ทั้งหมดหกหมื่นห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 26:28 - ต่อไปนี้คือลูกชายของโยเซฟตามตระกูลของพวกเขา คือมนัสเสห์และเอฟราอิม
- กันดารวิถี 26:29 - นี่คือลูกหลานของมนัสเสห์ จากมาคีร์ เป็นตระกูลมาคีร์ (มาคีร์เป็นพ่อของกิเลอาด) จากกิเลอาด เป็นตระกูลกิเลอาด
- กันดารวิถี 26:30 - นี่คือลูกหลานของกิเลอาด จากอีเยเซอร์ เป็นตระกูลอีเยเซอร์ จากเฮเลค เป็นตระกูลเฮเลค
- กันดารวิถี 26:31 - จากอัสรีเอล เป็นตระกูลอัสรีเอล จากเชเคม เป็นตระกูลเชเคม
- กันดารวิถี 26:32 - จากเชมิดา เป็นตระกูลเชมิดา จากเฮเฟอร์ เป็นตระกูลเฮเฟอร์
- กันดารวิถี 26:33 - เศโลเฟหัดเป็นลูกชายของเฮเฟอร์ แต่ตัวเขาไม่มีลูกชาย มีเพียงลูกสาวชื่อ มาลาห์ โนอาห์ โฮกลาห์ มิลคาห์และทีรซาห์
- กันดารวิถี 26:34 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของมนัสเสห์ รวมคนได้ทั้งหมดห้าหมื่นสองพันเจ็ดร้อยคน
- กันดารวิถี 26:35 - ต่อไปนี้คือลูกหลานของเอฟราอิมตามตระกูลของพวกเขา จากชูเธลาห์ เป็นตระกูลชูเธลาห์ จากเบเคอร์ เป็นตระกูลเบเคอร์ จากทาหาน เป็นตระกูลทาหาน
- กันดารวิถี 26:36 - นี่คือลูกหลานของชูเธลาห์ จากเอราน เป็นตระกูลเอราน
- กันดารวิถี 26:37 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของเอฟราอิม รวมคนได้ทั้งหมดสามหมื่นสองพันห้าร้อยคน พวกเขาเป็นลูกหลานของโยเซฟตามตระกูลของพวกเขา
- กันดารวิถี 26:38 - นี่คือลูกหลานของเบนยามินตามตระกูลของพวกเขา จากเบลา เป็นตระกูลเบลา จากอัชเบล เป็นตระกูลอัชเบล จากอาหิรัม เป็นตระกูลอาหิรัม
- กันดารวิถี 26:39 - จากเชฟูฟาม เป็นตระกูลเชฟูฟาม จากหุฟาม เป็นตระกูลหุฟาม
- กันดารวิถี 26:40 - ลูกชายของเบลาคือ อาร์ดและนาอามาน จากอาร์ด เป็นตระกูลอาร์ด จากนาอามาน เป็นตระกูลนาอามาน
- กันดารวิถี 26:41 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของเบนยามิน รวมคนได้ทั้งหมดสี่หมื่นห้าพันหกร้อยคน
- กันดารวิถี 26:42 - นี่คือลูกหลานของดานตามตระกูลของพวกเขา จากชูฮัม เป็นตระกูลชูฮัม
- กันดารวิถี 26:43 - รวมคนจากตระกูลชูฮัมได้ทั้งหมดหกหมื่นสี่พันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 26:44 - นี่คือลูกหลานของอาเชอร์ตามตระกูลของพวกเขา จากอิมนาห์ เป็นตระกูลอิมนาห์ จากอิชวี เป็นตระกูลอิชวี จากเบรียาห์ เป็นตระกูลเบรียาห์
- กันดารวิถี 26:45 - ลูกหลานของเบรียาห์คือ จากเฮเบอร์ เป็นตระกูลเฮเบอร์ จากมัลคีเอล เป็นตระกูลมัลคีเอล
- กันดารวิถี 26:46 - (ลูกสาวของอาเชอร์ชื่อเสราห์)
- กันดารวิถี 26:47 - นี่คือตระกูลต่างๆของอาเชอร์ รวมคนได้ทั้งหมดห้าหมื่นสามพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 26:48 - นี่คือลูกหลานของนัฟทาลีตามตระกูลของพวกเขา จากยาเซเอล เป็นตระกูลยาเซเอล จากกูนี เป็นตระกูลกูนี
- กันดารวิถี 26:49 - จากเยเซอร์ เป็นตระกูลเยเซอร์ จากชิลเลม เป็นตระกูลชิลเลม
- กันดารวิถี 26:50 - นี่คือพวกตระกูลต่างๆของนัฟทาลี รวมคนได้ทั้งหมดสี่หมื่นห้าพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 26:51 - รวมจำนวนประชาชนชาวอิสราเอลได้ทั้งหมดหกแสนหนึ่งพันเจ็ดร้อยสามสิบคน
- เลวีนิติ 18:8 - เจ้าต้องไม่มีเพศสัมพันธ์กับเมียคนอื่นๆของพ่อ เจ้า เพราะมันจะทำให้พ่อของเจ้าต้องอับอายขายหน้า
- 2 ซามูเอล 20:3 - เมื่อดาวิดกลับถึงวังของเขาในเยรูซาเล็ม เขาได้นำตัวเมียน้อย สิบคนที่เขาเคยทิ้งไว้ให้ดูแลวังและให้พวกนางไปอยู่ในบ้าน หลังหนึ่งและให้คุมตัวไว้ เขายังดูแลพวกนาง แต่ไม่ได้นอนกับพวกนาง พวกนางถูกกักบริเวณและมีชีวิตอยู่อย่างแม่หม้ายจนตาย
- 1 โครินธ์ 5:1 - ไม่น่าเชื่อเลย มีคนมาบอกว่ามีความผิดทางเพศเกิดขึ้นในท่ามกลางพวกคุณ เป็นประเภทที่แม้แต่คนที่ไม่รู้จักพระเจ้า ยังทนไม่ได้เลย คือมีคนไปร่วมเพศกับภรรยาของพ่อ
- 1 พงศาวดาร 5:1 - บรรดาลูกชายของรูเบน ที่เป็นลูกชายหัวปีของอิสราเอล (รูเบนเป็นลูกชายคนแรก แต่เขาต้องเสียสิทธิ์ลูกชายหัวปีไปให้กับพวกลูกชายของโยเซฟ เพราะเขาไปมีเพศสัมพันธ์กับเมียคนหนึ่งของพ่อเขา โยเซฟเป็นลูกอีกคนหนึ่งของอิสราเอล ชื่อของรูเบนจึงไม่ได้บันทึกอยู่ในบัญชีรายชื่อของลูกชายหัวปี