逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - พวกเขาตอบว่า “พวกเรา ผู้รับใช้ของท่าน มีพี่น้องอยู่สิบสองคน เป็นลูกของพ่อเดียวกันในแผ่นดินคานาอัน ตอนนี้น้องคนสุดท้องอยู่กับพ่อของพวกเรา และน้องอีกคนหนึ่งตายไปนานแล้ว”
- 新标点和合本 - 他们说:“仆人们本是弟兄十二人,是迦南地一个人的儿子,顶小的现今在我们的父亲那里,有一个没有了。”
- 和合本2010(上帝版-简体) - 他们说:“仆人们本是兄弟十二人,我们都是迦南地同一个人的儿子。看哪,最小的今日在我们父亲那里,有一个不在了。”
- 和合本2010(神版-简体) - 他们说:“仆人们本是兄弟十二人,我们都是迦南地同一个人的儿子。看哪,最小的今日在我们父亲那里,有一个不在了。”
- 当代译本 - 他们说:“仆人们共有弟兄十二人,父亲住在迦南,最小的弟弟在父亲身边,还有一个已经去世。”
- 圣经新译本 - 他们说:“仆人们本是兄弟十二人,我们都是迦南地一个人的儿子。最小的现在与我们的父亲在一起,还有一个不在了。”
- 中文标准译本 - 他们说:“你的仆人们本是兄弟十二人,都是迦南地同一个人的儿子。看哪,最小的那个现在与我们的父亲在一起,还有一个已经不在了。”
- 现代标点和合本 - 他们说:“仆人们本是弟兄十二人,是迦南地一个人的儿子,顶小的现今在我们的父亲那里,有一个没有了。”
- 和合本(拼音版) - 他们说:“仆人们本是弟兄十二人,是迦南地一个人的儿子,顶小的现今在我们的父亲那里,有一个没有了。”
- New International Version - But they replied, “Your servants were twelve brothers, the sons of one man, who lives in the land of Canaan. The youngest is now with our father, and one is no more.”
- New International Reader's Version - But they replied, “We were 12 brothers. All of us were the sons of one man. He lives in the land of Canaan. Our youngest brother is now with our father. And one brother is gone.”
- English Standard Version - And they said, “We, your servants, are twelve brothers, the sons of one man in the land of Canaan, and behold, the youngest is this day with our father, and one is no more.”
- New Living Translation - “Sir,” they said, “there are actually twelve of us. We, your servants, are all brothers, sons of a man living in the land of Canaan. Our youngest brother is back there with our father right now, and one of our brothers is no longer with us.”
- The Message - They said, “There were twelve of us brothers—sons of the same father in the country of Canaan. The youngest is with our father, and one is no more.”
- Christian Standard Bible - But they replied, “We, your servants, were twelve brothers, the sons of one man in the land of Canaan. The youngest is now with our father, and one is no longer living.”
- New American Standard Bible - But they said, “Your servants are twelve brothers in all, the sons of one man in the land of Canaan; and behold, the youngest is with our father today, and one is no longer alive.”
- New King James Version - And they said, “Your servants are twelve brothers, the sons of one man in the land of Canaan; and in fact, the youngest is with our father today, and one is no more.”
- Amplified Bible - But they said, “Your servants are twelve brothers [in all], the sons of one man in the land of Canaan; please listen: the youngest is with our father today, and one is no longer alive.”
- American Standard Version - And they said, We thy servants are twelve brethren, the sons of one man in the land of Canaan; and, behold, the youngest is this day with our father, and one is not.
- King James Version - And they said, Thy servants are twelve brethren, the sons of one man in the land of Canaan; and, behold, the youngest is this day with our father, and one is not.
- New English Translation - They replied, “Your servants are from a family of twelve brothers. We are the sons of one man in the land of Canaan. The youngest is with our father at this time, and one is no longer alive.”
- World English Bible - They said, “We, your servants, are twelve brothers, the sons of one man in the land of Canaan; and behold, the youngest is today with our father, and one is no more.”
- 新標點和合本 - 他們說:「僕人們本是弟兄十二人,是迦南地一個人的兒子,頂小的現今在我們的父親那裏,有一個沒有了。」
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 他們說:「僕人們本是兄弟十二人,我們都是迦南地同一個人的兒子。看哪,最小的今日在我們父親那裏,有一個不在了。」
- 和合本2010(神版-繁體) - 他們說:「僕人們本是兄弟十二人,我們都是迦南地同一個人的兒子。看哪,最小的今日在我們父親那裏,有一個不在了。」
- 當代譯本 - 他們說:「僕人們共有弟兄十二人,父親住在迦南,最小的弟弟在父親身邊,還有一個已經去世。」
- 聖經新譯本 - 他們說:“僕人們本是兄弟十二人,我們都是迦南地一個人的兒子。最小的現在與我們的父親在一起,還有一個不在了。”
- 呂振中譯本 - 他們說:『僕人們弟兄十二個;是 迦南 地一個人的兒子; 頂 小的現今 和我們的父親在一起,還有一個不在了。』
- 中文標準譯本 - 他們說:「你的僕人們本是兄弟十二人,都是迦南地同一個人的兒子。看哪,最小的那個現在與我們的父親在一起,還有一個已經不在了。」
- 現代標點和合本 - 他們說:「僕人們本是弟兄十二人,是迦南地一個人的兒子,頂小的現今在我們的父親那裡,有一個沒有了。」
- 文理和合譯本 - 曰、僕昆弟十二、迦南一人之子、一弟已亡、季者偕父、
- 文理委辦譯本 - 曰、僕昆弟十有二人迦南地一父所生、一弟已亡、季者偕父。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 曰、僕本兄弟十二人、 迦南 地一人之子、今日季者偕父、一弟已亡、
- Nueva Versión Internacional - Pero ellos volvieron a responder: —Nosotros, sus siervos, éramos doce hermanos, todos hijos de un mismo padre que vive en Canaán. El menor se ha quedado con nuestro padre, y el otro ya no vive.
- 현대인의 성경 - “우리는 모두 열두 형제로서 가나안 땅에 사는 한 사람의 아들들입니다. 막내 아들은 지금 아버지와 함께 있고 하나는 없어졌습니다.”
- Новый Русский Перевод - Но они ответили: – Рабов твоих было двенадцать братьев, сыновей одного отца, который живет в земле Ханаана. Младший и сейчас с отцом, а одного больше нет.
- Восточный перевод - Но они ответили: – Рабов твоих было двенадцать братьев, сыновей одного отца, который живёт в земле Ханаана. Младший и сейчас с отцом, а одного больше нет.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Но они ответили: – Рабов твоих было двенадцать братьев, сыновей одного отца, который живёт в земле Ханаана. Младший и сейчас с отцом, а одного больше нет.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Но они ответили: – Рабов твоих было двенадцать братьев, сыновей одного отца, который живёт в земле Ханона. Младший и сейчас с отцом, а одного больше нет.
- La Bible du Semeur 2015 - – Mais, dirent-ils, nous, tes serviteurs, nous sommes douze frères, fils d’un même père, habitants du pays de Canaan. Le plus jeune est resté avec notre père, et il y en a un qui n’est plus.
- リビングバイブル - 「恐れながら申し上げます。私どもは十二人兄弟で、父親はカナンの地におります。末の弟は父の家に残りました。もう一人は死んでしまいましたが……。」
- Nova Versão Internacional - E eles disseram: “Teus servos eram doze irmãos, todos filhos do mesmo pai, na terra de Canaã. O caçula está agora em casa com o pai, e o outro já morreu”.
- Hoffnung für alle - »Herr«, antworteten sie, »unser Vater lebt in Kanaan. Wir waren zwölf Brüder. Der jüngste ist bei ihm geblieben, und einer von uns lebt nicht mehr.«
- Kinh Thánh Hiện Đại - Họ lại thưa: “Các đầy tớ ngài đây gồm mười hai người, anh em cùng cha, quê tại Ca-na-an. Hiện người út ở nhà với cha, còn một người mất tích.”
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - แต่พวกเขาตอบว่า “ท่านขอรับ เรามีด้วยกันสิบสองคนพี่น้องพ่อเดียวกัน พ่อของเราอยู่ในดินแดนคานาอัน น้องคนสุดท้องก็อยู่กับท่าน ส่วนน้องอีกคนหนึ่งจากไปแล้ว”
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พวกเขาตอบว่า “พวกเราคือผู้รับใช้ของท่าน เป็นพี่น้อง 12 คน ลูกร่วมบิดาเดียวกันในดินแดนคานาอัน เวลานี้น้องคนสุดท้องอยู่กับบิดาของเรา ส่วนอีกคนไม่อยู่กับเราแล้ว”
- Thai KJV - พวกพี่จึงตอบว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายผู้รับใช้ของท่านเป็นพี่น้องสิบสองคน เป็นบุตรชายร่วมบิดาเดียวกันอยู่ในแผ่นดินคานาอัน ดูเถิด วันนี้น้องสุดท้องยังอยู่กับบิดา แต่น้องอีกคนหนึ่งเสียไปแล้ว”
交叉引用
- ปฐมกาล 42:36 - ยาโคบพ่อของพวกเขาพูดกับพวกเขาว่า “พวกเจ้าจะทำให้พ่อสูญเสียลูกไปอีกแล้ว โยเซฟก็ตายไปแล้ว สิเมโอนก็ตายไปแล้ว และเจ้าจะยังเอาตัวเบนยามินไปอีกคน ทุกสิ่งทุกอย่างดูสิ้นหวังเสียเหลือเกิน”
- 1 พงศาวดาร 2:1 - ต่อไปนี้คือพวกลูกชายของอิสราเอลคือ รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ เศบูลุน
- 1 พงศาวดาร 2:2 - ดาน โยเซฟ เบนยามิน นัฟทาลี กาดและอาเชอร์
- 1 พงศาวดาร 2:3 - ลูกชายของยูดาห์ คือ เอร์ โอนันและเชลาห์ ทั้งสามคนนี้มีแม่ชื่อนางบัทชูวา ซึ่งเป็นชาวคานาอัน เอร์ซึ่งเป็นลูกชายหัวปีของยูดาห์นั้นได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ พระองค์จึงฆ่าเขา
- 1 พงศาวดาร 2:4 - ส่วนทามาร์ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ของยูดาห์ได้คลอดลูกชายชื่อเปเรศและเศราห์ให้กับยูดาห์ ยูดาห์มีลูกชายทั้งหมดห้าคน
- 1 พงศาวดาร 2:5 - ลูกชายของเปเรศ คือ เฮสโรนและฮามูล
- 1 พงศาวดาร 2:6 - ลูกชายของเศราห์ คือ ศิมรี เอธาน เฮมาน คาลโคล์ และดารา รวมทั้งหมดห้าคน
- 1 พงศาวดาร 2:7 - ลูกชายของศิมรี คือ คารมี ลูกชายของคารมีคืออาคาน อาคานเป็นผู้ที่นำความยากลำบากมาให้กับอิสราเอล เมื่อเขาไม่ซื่อสัตย์ เขาแอบยักยอกของที่ต้องเผาอุทิศให้กับพระยาห์เวห์ เอาไว้เอง
- 1 พงศาวดาร 2:8 - ลูกชายของเอธานคืออาซาริยาห์
- ปฐมกาล 30:6 - ราเชลพูดว่า “พระเจ้าตัดสินเข้าข้างฉัน และพระองค์ก็ได้ยินเสียงฉันด้วย พระองค์ได้ให้ลูกชายกับฉันหนึ่งคน” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่าดาน
- ปฐมกาล 30:7 - แล้วบิลฮาห์สาวใช้ของราเชลก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายคนที่สองให้กับยาโคบ
- ปฐมกาล 30:8 - ราเชลพูดว่า “ฉันได้ต่อสู้อย่างหนักกับพี่สาวของฉัน และฉันก็ชนะ” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่านัฟทาลี
- ปฐมกาล 30:9 - เมื่อเลอาห์เห็นว่านางไม่มีลูกแล้ว นางจึงยกสาวใช้ของนาง ชื่อศิลปาห์ให้เป็นเมียยาโคบ
- ปฐมกาล 30:10 - แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ ได้คลอดลูกชายให้กับยาโคบ
- ปฐมกาล 30:11 - เลอาห์พูดว่า “โชคดีจริงๆ” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่ากาด
- ปฐมกาล 30:12 - แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ก็คลอดลูกชายคนที่สองให้กับยาโคบ
- ปฐมกาล 30:13 - เลอาห์พูดว่า “ฉันได้รับเกียรติจริงๆ” เพราะพวกผู้หญิงจะต้องพูดว่า “ฉันมีเกียรติ” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าอาเชอร์
- ปฐมกาล 30:14 - ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวสาลี รูเบนได้ออกไปในทุ่งนาและเจอต้นแมนเดร็ก เขาจึงเอาพวกมันกลับมาให้เลอาห์แม่ของเขา แล้วราเชลก็พูดกับเลอาห์ว่า “ขอแบ่งต้นแมนเดร็กของลูกชายพี่ให้กับฉันบ้างสิ”
- ปฐมกาล 30:15 - แต่เลอาห์ตอบราเชลว่า “เธอแย่งสามีฉันไป นี่ยังจะมาเอาต้นแมนเดร็กของลูกชายฉันไปอีกหรือ” แล้วราเชลพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ฉันจะให้เขามานอนกับพี่คืนนี้ เพื่อแลกกับต้นแมนเดร็กของลูกพี่”
- ปฐมกาล 30:16 - เมื่อยาโคบกลับมาจากท้องทุ่งในตอนเย็น เลอาห์ออกไปพบเขาแล้วพูดว่า “คืนนี้พี่ต้องมานอนกับฉัน เพราะฉันได้จ่ายค่าจ้างให้กับพี่แล้วด้วยต้นแมนเดร็กของลูกชายฉัน” ยาโคบจึงไปร่วมหลับนอนกับนางในคืนนั้น
- ปฐมกาล 30:17 - พระยาห์เวห์ได้ตอบคำอธิษฐานของเลอาห์ นางจึงตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายคนที่ห้า
- ปฐมกาล 30:18 - นางพูดว่า “พระเจ้าได้ให้บำเหน็จกับฉัน เพราะฉันได้ยกสาวใช้ของฉันให้กับสามีฉัน” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าอิสสาคาร์
- ปฐมกาล 30:19 - แล้วเลอาห์ก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายคนที่หกให้ยาโคบ
- ปฐมกาล 30:20 - นางพูดว่า “พระองค์ได้ให้ของขวัญที่ดีกับฉัน คราวนี้สามีฉันจะต้องให้เกียรติกับฉัน เพราะฉันได้คลอดลูกชายให้กับเขาถึงหกคน” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าเศบูลุน
- ปฐมกาล 30:21 - ต่อมาเลอาห์ก็คลอดลูกสาว และตั้งชื่อเธอว่าดีนาห์
- ปฐมกาล 30:22 - แล้วพระเจ้าก็ได้ระลึกถึงราเชล และตอบคำอธิษฐานของนาง และพระองค์ทำให้นางสามารถมีลูกได้
- ปฐมกาล 30:23 - แล้วราเชลก็ตั้งท้องและคลอดลูกชาย นางพูดว่า “พระเจ้าได้เอาความอับอายขายหน้าของฉันไปแล้ว”
- ปฐมกาล 30:24 - นางจึงตั้งชื่อเด็กว่าโยเซฟ นางพูดว่า “ขอพระยาห์เวห์เพิ่มลูกชายให้กับฉันอีกหนึ่งคน”
- ปฐมกาล 45:26 - พวกเขาได้บอกพ่อว่า “โยเซฟยังมีชีวิตอยู่ เขากำลังปกครองแผ่นดินอียิปต์ทั้งหมด”
- กันดารวิถี 34:1 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 34:2 - “ให้เอาคำสั่งนี้ไปบอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า เมื่อพวกเจ้าเข้าไปในแผ่นดินคานาอัน แผ่นดินนั้นที่จะตกเป็นของพวกเจ้า คือแผ่นดินของคานาอันตามเขตแดนของมัน
- กันดารวิถี 34:3 - ทางทิศใต้จะเริ่มตั้งแต่ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งศินเรียบไปทางข้างๆเอโดม เขตแดนทางใต้จะเริ่มที่ทิศตะวันออกจากด้านใต้สุดของทะเลเกลือ
- กันดารวิถี 34:4 - เขตแดนของพวกเจ้าจะลากยาวไปข้ามทางใต้ของอาครับบิมและผ่านที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งศินไปจนสุดทางใต้ของคาเดช-บารเนีย และมันจะไปต่อจนถึงฮาซารัดดาร์และจะไปผ่านอัสโมน
- กันดารวิถี 34:5 - จากอัสโมนเขตแดนจะเลี้ยวไปทางแม่น้ำอียิปต์ และจะไปสิ้นสุดที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
- กันดารวิถี 34:6 - เขตแดนทางตะวันตกจะเป็นชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน มันจะเป็นเขตแดนตะวันตกของพวกเจ้า
- กันดารวิถี 34:7 - ส่วนเขตแดนทางเหนือจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปตามสันเขาของภูเขาโฮร์
- กันดารวิถี 34:8 - จากภูเขาโฮร์ไปเรื่อยจนถึงเลโบ-ฮามัทแล้วเขตแดนจะขยายต่อจนถึงเศดัด
- กันดารวิถี 34:9 - เขตแดนจะต่อไปเรื่อยจนถึงศิโฟรนและจะไปสิ้นสุดที่ฮาซา-เรนัน นี่จะเป็นเขตแดนทางเหนือของพวกเจ้า
- กันดารวิถี 34:10 - ทางฝั่งตะวันออกเขตแดนของพวกเจ้าจะไปตามเส้นของฮาซา-เรนันจนถึงเชฟาม
- กันดารวิถี 34:11 - จากเชฟาม เขตแดนจะลงไปถึงริบลาห์จนถึงทางตะวันออกของอายิน
- กันดารวิถี 34:12 - แล้วเขตแดนจะลงไปต่อและไปบรรจบเนินเขาทางตะวันออกของทะเลสาบกาลิลี ”
- กันดารวิถี 34:13 - ดังนั้นโมเสสจึงนำคำสั่งนี้ไปให้ประชาชนชาวอิสราเอล “นี่คือแผ่นดินที่เจ้าจะได้รับโดยการโยนสลาก พระยาห์เวห์ได้สั่งไว้ว่าแผ่นดินนี้จะมอบให้พวกเจ้าเก้าเผ่าครึ่ง
- กันดารวิถี 34:14 - เพราะเผ่าของรูเบนและกาดและครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ได้รับส่วนของพวกเขาแล้วตามตระกูลของพวกเขา
- กันดารวิถี 34:15 - คนทั้งสองเผ่าครึ่งนั้นได้รับที่ดินส่วนของพวกเขาไปแล้วในฝั่งตรงข้ามแม่น้ำจอร์แดนจากเยริโค บนฝั่งตะวันออกที่ดวงอาทิตย์ขึ้น”
- กันดารวิถี 34:16 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 34:17 - “คนเหล่านี้จะช่วยแบ่งที่ดินให้กับพวกเจ้า คือนักบวชเอเลอาซาร์และโยชูวาลูกชายของนูน
- กันดารวิถี 34:18 - พวกเจ้าจะเลือกผู้นำคนหนึ่งจากแต่ละเผ่ามาช่วยแบ่งที่ดินด้วย
- กันดารวิถี 34:19 - นี่เป็นรายชื่อของผู้นำพวกนั้น คาเลบลูกชายเยฟุนเนห์ จากเผ่ายูดาห์
- กันดารวิถี 34:20 - เชมูเอลลูกชายอัมมีฮูด จากเผ่าสิเมโอน
- กันดารวิถี 34:21 - เอลีดาดลูกชายคิสโลน จากเผ่าเบนยามิน
- กันดารวิถี 34:22 - บุคคีลูกชายโยกลี จากเผ่าดาน
- กันดารวิถี 34:23 - จากลูกหลานของโยเซฟ ฮันนีเอลลูกชายเอโฟด จากเผ่ามนัสเสห์
- กันดารวิถี 34:24 - เคมูเอลลูกชายชิฟทาน จากเผ่าเอฟราอิม
- กันดารวิถี 34:25 - เอลีซาฟานลูกชายปารนาค จากเผ่าเศบูลุน
- กันดารวิถี 34:26 - ปัลทีเอลลูกชายอัสซาน จากเผ่าอิสสาคาร์
- กันดารวิถี 34:27 - อาหิฮูดลูกชายเชโลมี จากเผ่าอาเชอร์
- กันดารวิถี 34:28 - เปดาเฮลลูกชายอัมมีฮูด จากเผ่านัฟทาลี”
- กันดารวิถี 34:29 - พระยาห์เวห์ได้สั่งคนเหล่านี้ให้แบ่งแผ่นดินคานาอันกันในหมู่ประชาชนชาวอิสราเอล
- ปฐมกาล 44:28 - คนหนึ่งได้จากพ่อไปแล้ว และพ่อบอกว่า เขาคงถูกสัตว์ป่าฉีกเนื้อตายไปแล้ว และพ่อไม่เคยเห็นเขาอีกเลยจนถึงทุกวันนี้
- ปฐมกาล 46:8 - ต่อไปนี้เป็นชื่อของลูกหลานของอิสราเอลที่เข้าไปในอียิปต์คือ
- ปฐมกาล 46:9 - ลูกชายของรูเบนคือ ฮาโนค ปัลลู เฮสโรน และคารมี
- ปฐมกาล 46:10 - ลูกชายของสิเมโอนคือ เยมูเอล ยามีน โอหาด ยาคีน และโศหาร์ รวมทั้งชาอูลลูกที่เกิดจากหญิงชาวคานาอันคนหนึ่ง
- ปฐมกาล 46:11 - ลูกชายของเลวี คือ เกอร์โชน โคฮาท และเมรารี
- ปฐมกาล 46:12 - ลูกชายของยูดาห์ คือ เอร์ โอนัน เชลาห์ เปเรศ เศราห์ แต่เอร์และโอนันได้ตายในแผ่นดินคานาอัน ลูกชายของเปเรศคือ เฮสโรนและฮามูล
- ปฐมกาล 46:13 - ลูกชายของอิสสาคาร์ คือ โทลา ปูวาห์ โยบ และชิมโรน
- ปฐมกาล 46:14 - ลูกชายของเศบูลุนคือ เสเรด เอโลนและยาเลเอล
- ปฐมกาล 46:15 - พวกเขาเหล่านี้ เป็นลูกชายของเลอาห์ซึ่งนางได้คลอดให้กับยาโคบในปัดดาน อารัม และมีลูกสาวชื่อดีนาห์ รวมลูกและหลานชายทั้งหมดในครอบครัวของเลอาห์มีสามสิบสามคน
- ปฐมกาล 46:16 - ลูกชายของกาดคือ ศิฟีโยน ฮักกี ชูนี เอสโบน เอรี อาโรดี และอาเรลี
- ปฐมกาล 46:17 - ลูกชายของอาเชอร์ คือ อิมนาห์ อิชวาห์ อิชวี และเบรียาห์กับเสราห์น้องสาว และลูกชายของเบรียาห์คือ เฮเบอร์และมัลคีเอล
- ปฐมกาล 46:18 - พวกเขาเหล่านี้เป็นลูกของศิลปาห์ สาวใช้ที่ลาบันยกให้เลอาห์ลูกสาวของเขา แล้วศิลปาห์ได้คลอดลูกให้กับยาโคบ รวมลูกหลานทั้งหมดในครอบครัวของศิลปาห์มีสิบหกคน
- ปฐมกาล 46:19 - ลูกของราเชลเมียของยาโคบคือ โยเซฟและเบนยามิน
- ปฐมกาล 46:20 - ลูกชายของโยเซฟที่เกิดกับอาเสนัท คือมนัสเสห์กับเอฟราอิม ลูกสองคนนี้เกิดในประเทศอียิปต์ อาเสนัทเป็นลูกสาวของโปทิเฟรา นักบวชเมืองโอน
- ปฐมกาล 46:21 - ลูกชายของเบนยามินคือ เบลา เบเคอร์ อัชเบล เกรา นาอามาน เอไฮ โรช มัปปิม หุปปิม และอาร์ด
- ปฐมกาล 46:22 - พวกเขาเหล่านี้เป็นลูกหลานของราเชลกับยาโคบ ครอบครัวของราเชลมีทั้งหมดสิบสี่คน
- ปฐมกาล 46:23 - ลูกชายของดาน คือ หุชิม
- ปฐมกาล 46:24 - ลูกชายของนัฟทาลีคือ ยาเซเอล กูนี เยเซอร์ และชิลเลม
- ปฐมกาล 46:25 - พวกเขาเหล่านี้เป็นลูกชายของบิลฮาห์ สาวใช้ที่ลาบันยกให้กับราเชลลูกสาวของเขา นางได้ให้กำเนิดลูกทั้งหมดนี้ให้กับยาโคบ รวมลูกหลานทั้งหมดในครอบครัวของบิลฮาห์มีเจ็ดคน
- ปฐมกาล 46:26 - ผู้คนทั้งหมดที่เดินทางลงไปอียิปต์ด้วยกันกับยาโคบนั้น มีทั้งหมดหกสิบหกคนที่สืบเชื้อสายโดยตรงมาจากยาโคบ (ในจำนวนหกสิบหกคนนี้ไม่ได้รวมถึงพวกเมียๆของลูกชายยาโคบ)
- ปฐมกาล 46:27 - โยเซฟมีลูกชายสองคนที่เกิดในอียิปต์ ดังนั้นถ้านับรวมทุกคนในครอบครัวของยาโคบที่มาอยู่ในอียิปต์ มีทั้งหมดเจ็ดสิบคน
- กันดารวิถี 1:1 - พระยาห์เวห์ได้พูดกับโมเสสในเต็นท์นัดพบที่ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งซีนาย วันนั้นเป็นวันที่หนึ่งเดือนที่สองของปีที่สอง หลังจากที่ประชาชนชาวอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์ พระองค์ได้พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 1:2 - “ให้ลงทะเบียนจำนวนชาวอิสราเอลในชุมชนนี้ทั้งหมดตามตระกูลและครอบครัว ให้จดรายชื่อ ของผู้ชายทุกคนเรียงตัว
- กันดารวิถี 1:3 - เจ้าและอาโรนต้องขึ้นทะเบียนพวกผู้ชายทั้งหมดในอิสราเอล ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้อยู่ในกองทัพของอิสราเอล รวบรวมรายชื่อของพวกเขาไว้เป็นกลุ่มเป็นกอง
- กันดารวิถี 1:4 - จะมีผู้ชายหนึ่งคนจากแต่ละเผ่ามาช่วยเจ้า ผู้ชายคนนี้จะเป็นผู้นำครอบครัวของเขา
- กันดารวิถี 1:5 - ต่อไปนี้เป็นรายชื่อของผู้ชายพวกนั้นที่จะมาช่วยเจ้า เอลีซูร์ลูกชายของเชเดเออร์จากเผ่ารูเบน
- กันดารวิถี 1:6 - เชลูมิเอลลูกชายของศูริชัดดัยจากเผ่าสิเมโอน
- กันดารวิถี 1:7 - นาโชนลูกชายของอัมมีนาดับจากเผ่ายูดาห์
- กันดารวิถี 1:8 - เนธันเอลลูกชายของศุอาร์จากเผ่าอิสสาคาร์
- กันดารวิถี 1:9 - เอลีอับลูกชายของเฮโลนจากเผ่าเศบูลุน
- กันดารวิถี 1:10 - จากลูกหลานของโยเซฟมี เอลีชามาลูกชายของอัมมีฮูดจากเผ่าเอฟราอิม กามาลิเอลลูกชายของเปดาซูร์จากเผ่ามนัสเสห์
- กันดารวิถี 1:11 - อาบีดันลูกชายของกิเดโอนีจากเผ่าเบนยามิน
- กันดารวิถี 1:12 - อาหิเยเซอร์ลูกชายของอัมมีชัดดัยจากเผ่าดาน
- กันดารวิถี 1:13 - ปากีเอลลูกชายของโอครานจากเผ่าอาเชอร์
- กันดารวิถี 1:14 - เอลียาสาฟลูกชายของเรอูเอล จากเผ่ากาด
- กันดารวิถี 1:15 - อาหิราลูกชายของเอนันจากเผ่านัฟทาลี”
- กันดารวิถี 1:16 - คนเหล่านี้คือผู้ที่ได้รับเลือกมาจากชุมชน ให้มาเป็นผู้นำของเผ่าต่างๆของบรรพบุรุษพวกเขา พวกเขาเป็นผู้นำของตระกูลต่างๆของอิสราเอล
- กันดารวิถี 1:17 - โมเสสและอาโรนจึงเอาคนพวกนี้ที่ได้รับเลือกมา
- กันดารวิถี 1:18 - แล้วโมเสสและอาโรนก็เรียกประชุมคนในชุมชนทั้งหมดในวันแรกของเดือนที่สอง และได้จดรายชื่อประชาชนเหล่านั้นไว้ตามตระกูลและครอบครัวของตน และได้จดรายชื่อของผู้ชายเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป
- กันดารวิถี 1:19 - ตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้ โมเสสจึงได้นับประชาชนเหล่านั้นในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งซีนาย
- กันดารวิถี 1:20 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่ารูเบนซึ่งเป็นลูกหัวปีของอิสราเอล ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:21 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ารูเบน มีทั้งหมดสี่หมื่นหกพันห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 1:22 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าสิเมโอน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:23 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าสิเมโอน มีทั้งหมดห้าหมื่นเก้าพันสามร้อยคน
- กันดารวิถี 1:24 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่ากาด ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:25 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ากาด มีทั้งหมดสี่หมื่นห้าพันหกร้อยห้าสิบคน
- กันดารวิถี 1:26 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่ายูดาห์ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:27 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ายูดาห์ มีทั้งหมดเจ็ดหมื่นสี่พันหกร้อยคน
- กันดารวิถี 1:28 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าอิสสาคาร์ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:29 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าอิสสาคาร์ มีทั้งหมดห้าหมื่นสี่พันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 1:30 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าเศบูลุน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:31 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าเศบูลุน มีทั้งหมดห้าหมื่นเจ็ดพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 1:32 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าเอฟราอิม ลูกชายของโยเซฟ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:33 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าเอฟราอิม มีทั้งหมดสี่หมื่นห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 1:34 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่ามนัสเสห์ ลูกชายอีกคนของโยเซฟ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายเรียงตัวทุกคน ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:35 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ามนัสเสห์ มีทั้งหมดสามหมื่นสองพันสองร้อยคน
- กันดารวิถี 1:36 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าเบนยามิน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:37 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าเบนยามิน มีทั้งหมดสามหมื่นห้าพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 1:38 - พวกเขานับลูกหลานเผ่าดาน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:39 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าดาน มีทั้งหมดหกหมื่นสองพันเจ็ดร้อยคน
- กันดารวิถี 1:40 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าอาเชอร์ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:41 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าอาเชอร์ มีทั้งหมดสี่หมื่นหนึ่งพันห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 1:42 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่านัฟทาลี ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:43 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่านัฟทาลี มีทั้งหมดห้าหมื่นสามพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 1:44 - โมเสสและอาโรน รวมทั้งผู้นำสิบสองคนจากแต่ละเผ่าของอิสราเอลเป็นผู้นับจำนวนคนเหล่านี้ ผู้นำแต่ละคนก็เป็นตัวแทนของแต่ละครอบครัว
- กันดารวิถี 1:45 - พวกเขานับผู้ชายชาวอิสราเอลทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปและสามารถรับใช้ในกองทัพ ตามครอบครัวของตน
- กันดารวิถี 1:46 - รวมจำนวนคนที่นับได้ทั้งหมดมีหกแสนสามพันห้าร้อยห้าสิบคน
- กันดารวิถี 1:47 - แต่ชาวเผ่าเลวีไม่ได้ถูกนับรวมกับชาวอิสราเอลคนอื่นๆ
- กันดารวิถี 1:48 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 1:49 - “เจ้าต้องไม่นับเผ่าเลวี เจ้าต้องไม่นับพวกเขา รวมกับชาวอิสราเอลคนอื่นๆ
- กันดารวิถี 1:50 - แต่เจ้าต้องตั้งให้คนเลวีรับผิดชอบเต็นท์ที่เก็บข้อตกลงและเครื่องใช้ไม้สอย รวมทั้งของทุกอย่างที่เป็นของเต็นท์นั้น พวกเขาต้องแบกเต็นท์ที่เก็บข้อตกลงและเครื่องใช้ในนั้นทั้งหมด และต้องคอยดูแลของเหล่านั้น พวกเขายังต้องตั้งเต็นท์อยู่รอบๆเต็นท์ที่เก็บข้อตกลงด้วย
- กันดารวิถี 1:51 - เมื่อมีการย้ายเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง พวกเขาจะต้องเป็นผู้รื้อถอนมัน และเมื่อมีการตั้งเต็นท์ ชาวเลวีก็จะเป็นผู้ติดตั้งมัน ถ้าคนอื่นที่ไม่ใช่ชาวเลวีเข้ามาใกล้เต็นท์ที่เก็บข้อตกลง คนๆนั้นต้องถูกฆ่า
- กันดารวิถี 1:52 - ประชาชนชาวอิสราเอลจะตั้งค่ายของพวกเขาแยกต่างหากเป็นกลุ่มเป็นกอง แต่ละคนจะอยู่ตามหน่วยของตนเอง
- กันดารวิถี 1:53 - แต่ชาวเลวีต้องตั้งเต็นท์อยู่รอบๆเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง เพื่อว่าพระเจ้าจะได้ไม่โกรธเคืองชาวอิสราเอลคนอื่น เพราะชาวเลวีจะเป็นยามเฝ้าระวังไม่ให้ชาวอิสราเอลล่วงล้ำเข้าไปในเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง”
- กันดารวิถี 1:54 - ประชาชนชาวอิสราเอลจึงทำทุกสิ่งตามที่พระยาห์เวห์สั่งโมเสสไว้
- ปฐมกาล 35:16 - หลังจากนั้นยาโคบและครอบครัวได้เดินทางออกจากเบธเอล ในระหว่างทางที่ยังอีกไกลกว่าจะถึงเอฟราธาห์ ราเชลเจ็บท้องคลอด นางคลอดลูกยากมาก เจ็บปวดทรมานมาก
- ปฐมกาล 35:17 - ในระหว่างที่นางกำลังคลอดด้วยความยากลำบากนั้น หมอตำแยได้บอกนางว่า “ไม่ต้องกลัว นี่จะเป็นลูกชายอีกคนหนึ่งให้กับท่าน”
- ปฐมกาล 35:18 - ขณะที่นางกำลังจะตาย นางตั้งชื่อลูกว่า เบนโอนี แต่ยาโคบผู้เป็นพ่อตั้งชื่อเด็กว่า เบนยามิน
- ปฐมกาล 35:19 - เมื่อราเชลตาย ร่างของนางถูกฝังอยู่ระหว่างทางที่จะไปเอฟราธาห์ (ซึ่งก็คือเบธเลเฮม)
- ปฐมกาล 35:20 - ยาโคบจึงตั้งเสาหินขึ้นบนหลุมฝังศพของนาง และเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า เสาหินของหลุมศพราเชล มาจนถึงทุกวันนี้
- ปฐมกาล 35:21 - แล้วอิสราเอลได้เดินทางต่อ และเขาตั้งค่ายอยู่ทางตอนใต้ของหอคอยเอเดอร์
- ปฐมกาล 35:22 - ในช่วงที่อิสราเอลอาศัยอยู่ในแคว้นนั้น รูเบนได้ไปร่วมหลับนอนกับบิลฮาห์ เมียน้อยของพ่อเขา และเรื่องนี้รู้ไปถึงหูของอิสราเอล ขณะนั้นยาโคบมีลูกชายสิบสองคน
- ปฐมกาล 35:23 - ลูกที่เกิดจากเลอาห์คือ รูเบน (ลูกคนโตของยาโคบ) สิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ และเศบูลุน
- ปฐมกาล 35:24 - ลูกชายที่เกิดจากราเชลคือ โยเซฟ และเบนยามิน
- ปฐมกาล 35:25 - ลูกชายของบิลฮาห์สาวใช้ของราเชลคือ ดานและนัฟทาลี
- ปฐมกาล 35:26 - ลูกชายของศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์คือ กาดและอาเชอร์ คนเหล่านี้คือลูกชายของยาโคบที่เกิดในปัดดาน อารัม
- มัทธิว 2:16 - เมื่อกษัตริย์เฮโรด รู้ว่าโดนพวกโหราจารย์หลอก ก็โกรธมาก จึงสั่งให้คนไปฆ่าเด็กผู้ชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่สองขวบลงมาที่อยู่ในหมู่บ้านเบธเลเฮม และบริเวณใกล้เคียงแถวนั้น เพราะพวกโหราจารย์บอกกับกษัตริย์ว่า พวกเขาเห็นดวงดาวปรากฏขึ้นครั้งแรกเมื่อสองปีมาแล้ว
- เยเรมียาห์ 31:15 - พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้ “มีเสียงดังมาจากรามาห์ เป็นเสียงร้องไห้และคร่ำครวญอย่างขมขื่น ราเชลกำลังร้องไห้ให้พวกลูกชายของเธอ เธอไม่ยอมให้ใครมาปลอบโยนเรื่องลูกของเธอเลย เพราะว่าลูกของเธอหายไปหมดแล้ว”
- บทเพลงร้องทุกข์ 5:7 - บรรพบุรุษของเราทำบาปและหายไปแล้ว แล้วพวกเราต้องมารับกรรมจากความผิดบาปนั้น
- อพยพ 1:2 - รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์
- อพยพ 1:3 - อิสสาคาร์ เศบูลุน เบนยามิน
- อพยพ 1:4 - ดาน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์
- อพยพ 1:5 - ยาโคบมีลูกหลานที่สืบเชื้อสายมาจากเขาทั้งสิ้นเจ็ดสิบคน รวมโยเซฟที่อยู่ในอียิปต์อยู่ก่อนแล้วด้วย
- ปฐมกาล 42:38 - แต่ยาโคบพูดว่า “เบนยามินลูกชายของพ่อจะต้องไม่ลงไปกับเจ้า เพราะพี่ชายของเขาได้ตายไปแล้ว และเหลือเบนยามินเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เกิดจากราเชล แล้วถ้าเกิดอันตรายขึ้นกับเขาในระหว่างทางที่เจ้าไป เจ้าก็จะส่งคนแก่หัวหงอกอย่างพ่อลงไปในแดนคนตายเพราะความเศร้าโศกเสียใจ”
- กันดารวิถี 26:1 - หลังจากโรคระบาดแล้ว พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและเอเลอาซาร์ลูกชายของนักบวชอาโรนว่า
- กันดารวิถี 26:2 - “ให้นับประชาชนชาวอิสราเอลทั้งชุมชนตามครอบครัวของพวกเขา ให้นับชายทุกคนในอิสราเอลที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปที่สามารถเข้ารับใช้ในกองทัพได้”
- กันดารวิถี 26:3 - โมเสสและนักบวชเอเลอาซาร์จึงพูดกับประชาชนชาวอิสราเอลในที่ราบโมอับติดแม่น้ำจอร์แดนฝั่งตรงข้ามเยริโคว่า
- กันดารวิถี 26:4 - “ให้นับชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ตามที่พระยาห์เวห์เคยสั่งให้โมเสสและประชาชนชาวอิสราเอลทำ ตอนที่พวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์”
- กันดารวิถี 26:5 - รูเบนเป็นลูกชายคนโตของอิสราเอล นี่คือรายชื่อลูกหลานของรูเบน จากฮาโนค เป็นตระกูลฮาโนค จากปัลลู เป็นตระกูลปัลลู
- กันดารวิถี 26:6 - จากเฮสโรน เป็นตระกูลเฮสโรน จากคารมี เป็นตระกูลคารมี
- กันดารวิถี 26:7 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของรูเบน รวมคนได้ทั้งหมดสี่หมื่นสามพันเจ็ดร้อยสามสิบคน
- กันดารวิถี 26:8 - ลูกชายของปัลลูคือเอลีอับ
- กันดารวิถี 26:9 - เอลีอับมีลูกชายสามคนคือ เนมูเอล ดาธานและอาบีรัม ดาธานและอาบีรัม เป็นสองคนที่ชุมชนเลือกขึ้นมา และได้ต่อต้านโมเสส และอาโรน ทั้งสองคนนี้เป็นสมัครพรรคพวกของโคราห์ ตอนที่พวกเขาร่วมกันต่อต้านพระยาห์เวห์
- กันดารวิถี 26:10 - และแผ่นดินได้อ้าปากกลืนพวกเขาและโคราห์ลงไป เมื่อสมัครพรรคพวกของโคราห์ตายไปและไฟได้เผาผลาญคนสองร้อยห้าสิบคนนั้น คนเหล่านี้ได้กลายเป็นตัวอย่างเตือนใจประชาชน
- กันดารวิถี 26:11 - แต่ลูกชายของโคราห์ไม่ตาย
- กันดารวิถี 26:12 - นี่คือลูกหลานของสิเมโอนตามตระกูลของพวกเขา จากเนมูเอล เป็นตระกูลเนมูเอล จากยามีน เป็นตระกูลยามีน จากยาคีน เป็นตระกูลยาคีน
- กันดารวิถี 26:13 - จากเศราห์ เป็นตระกูลเศราห์ จากชาอูล เป็นตระกูลชาอูล
- กันดารวิถี 26:14 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของสิเมโอน รวมคนได้ทั้งหมดสองหมื่นสองพันสองร้อยคน
- กันดารวิถี 26:15 - ต่อไปคือลูกหลานของกาดตามตระกูลของพวกเขา จากเศโฟน เป็นตระกูลเศโฟน จากฮักกี เป็นตระกูลฮักกี จากชูนี เป็นตระกูลชูนี
- กันดารวิถี 26:16 - จากโอสนี เป็นตระกูลโอสนี จากเอรี เป็นตระกูลเอรี
- กันดารวิถี 26:17 - จากอาโรด เป็นตระกูลอาโรด จากอาเรลี เป็นตระกูลอาเรลี
- กันดารวิถี 26:18 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของกาด รวมคนได้ทั้งหมดสี่หมื่นห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 26:19 - ลูกชายของยูดาห์คือเอร์และโอนัน เขาทั้งสองคนตายในแผ่นดินคานาอัน นี่คือลูกหลานของยูดาห์ตามตระกูลของพวกเขา จากเชลาห์ เป็นตระกูลเชลาห์ จากเปเรศ เป็นตระกูลเปเรศ จากเศราห์ เป็นตระกูลเศราห์
- กันดารวิถี 26:21 - ต่อไปนี้คือลูกหลานของเปเรศ จากเฮสโรน เป็นตระกูลเฮสโรน จากฮามูล เป็นตระกูลฮามูล
- กันดารวิถี 26:22 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของยูดาห์ รวมคนได้ทั้งหมดเจ็ดหมื่นหกพันห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 26:23 - ต่อไปนี้คือลูกหลานของอิสสาคาร์ตามตระกูลของพวกเขา จากโทลา เป็นตระกูลโทลา จากปูวาห์ เป็นตระกูลปูวาห์
- กันดารวิถี 26:24 - จากยาชูบ เป็นตระกูลยาชูบ จากชิมโรน เป็นตระกูลชิมโรน
- กันดารวิถี 26:25 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของอิสสาคาร์ รวมคนได้ทั้งหมดหกหมื่นสี่พันสามร้อยคน
- กันดารวิถี 26:26 - ต่อไปนี้คือลูกหลานของเศบูลุนตามตระกูลของพวกเขา จากเสเรด เป็นตระกูลเสเรด จากเอโลน เป็นตระกูลเอโลน จากยาเลเอล เป็นตระกูลยาเลเอล
- กันดารวิถี 26:27 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของเศบูลุน รวมคนได้ทั้งหมดหกหมื่นห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 26:28 - ต่อไปนี้คือลูกชายของโยเซฟตามตระกูลของพวกเขา คือมนัสเสห์และเอฟราอิม
- กันดารวิถี 26:29 - นี่คือลูกหลานของมนัสเสห์ จากมาคีร์ เป็นตระกูลมาคีร์ (มาคีร์เป็นพ่อของกิเลอาด) จากกิเลอาด เป็นตระกูลกิเลอาด
- กันดารวิถี 26:30 - นี่คือลูกหลานของกิเลอาด จากอีเยเซอร์ เป็นตระกูลอีเยเซอร์ จากเฮเลค เป็นตระกูลเฮเลค
- กันดารวิถี 26:31 - จากอัสรีเอล เป็นตระกูลอัสรีเอล จากเชเคม เป็นตระกูลเชเคม
- กันดารวิถี 26:32 - จากเชมิดา เป็นตระกูลเชมิดา จากเฮเฟอร์ เป็นตระกูลเฮเฟอร์
- กันดารวิถี 26:33 - เศโลเฟหัดเป็นลูกชายของเฮเฟอร์ แต่ตัวเขาไม่มีลูกชาย มีเพียงลูกสาวชื่อ มาลาห์ โนอาห์ โฮกลาห์ มิลคาห์และทีรซาห์
- กันดารวิถี 26:34 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของมนัสเสห์ รวมคนได้ทั้งหมดห้าหมื่นสองพันเจ็ดร้อยคน
- กันดารวิถี 26:35 - ต่อไปนี้คือลูกหลานของเอฟราอิมตามตระกูลของพวกเขา จากชูเธลาห์ เป็นตระกูลชูเธลาห์ จากเบเคอร์ เป็นตระกูลเบเคอร์ จากทาหาน เป็นตระกูลทาหาน
- กันดารวิถี 26:36 - นี่คือลูกหลานของชูเธลาห์ จากเอราน เป็นตระกูลเอราน
- กันดารวิถี 26:37 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของเอฟราอิม รวมคนได้ทั้งหมดสามหมื่นสองพันห้าร้อยคน พวกเขาเป็นลูกหลานของโยเซฟตามตระกูลของพวกเขา
- กันดารวิถี 26:38 - นี่คือลูกหลานของเบนยามินตามตระกูลของพวกเขา จากเบลา เป็นตระกูลเบลา จากอัชเบล เป็นตระกูลอัชเบล จากอาหิรัม เป็นตระกูลอาหิรัม
- กันดารวิถี 26:39 - จากเชฟูฟาม เป็นตระกูลเชฟูฟาม จากหุฟาม เป็นตระกูลหุฟาม
- กันดารวิถี 26:40 - ลูกชายของเบลาคือ อาร์ดและนาอามาน จากอาร์ด เป็นตระกูลอาร์ด จากนาอามาน เป็นตระกูลนาอามาน
- กันดารวิถี 26:41 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของเบนยามิน รวมคนได้ทั้งหมดสี่หมื่นห้าพันหกร้อยคน
- กันดารวิถี 26:42 - นี่คือลูกหลานของดานตามตระกูลของพวกเขา จากชูฮัม เป็นตระกูลชูฮัม
- กันดารวิถี 26:43 - รวมคนจากตระกูลชูฮัมได้ทั้งหมดหกหมื่นสี่พันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 26:44 - นี่คือลูกหลานของอาเชอร์ตามตระกูลของพวกเขา จากอิมนาห์ เป็นตระกูลอิมนาห์ จากอิชวี เป็นตระกูลอิชวี จากเบรียาห์ เป็นตระกูลเบรียาห์
- กันดารวิถี 26:45 - ลูกหลานของเบรียาห์คือ จากเฮเบอร์ เป็นตระกูลเฮเบอร์ จากมัลคีเอล เป็นตระกูลมัลคีเอล
- กันดารวิถี 26:46 - (ลูกสาวของอาเชอร์ชื่อเสราห์)
- กันดารวิถี 26:47 - นี่คือตระกูลต่างๆของอาเชอร์ รวมคนได้ทั้งหมดห้าหมื่นสามพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 26:48 - นี่คือลูกหลานของนัฟทาลีตามตระกูลของพวกเขา จากยาเซเอล เป็นตระกูลยาเซเอล จากกูนี เป็นตระกูลกูนี
- กันดารวิถี 26:49 - จากเยเซอร์ เป็นตระกูลเยเซอร์ จากชิลเลม เป็นตระกูลชิลเลม
- กันดารวิถี 26:50 - นี่คือพวกตระกูลต่างๆของนัฟทาลี รวมคนได้ทั้งหมดสี่หมื่นห้าพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 26:51 - รวมจำนวนประชาชนชาวอิสราเอลได้ทั้งหมดหกแสนหนึ่งพันเจ็ดร้อยสามสิบคน
- กันดารวิถี 26:52 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 26:53 - “ให้แบ่งที่ดินออกเป็นส่วนๆสำหรับคนเหล่านี้ตามจำนวนรายชื่อ
- กันดารวิถี 26:54 - ถ้าเป็นกลุ่มใหญ่ ก็แบ่งให้มากหน่อย ถ้าเป็นกลุ่มเล็ก ก็แบ่งให้น้อยหน่อย แต่ละกลุ่มจะได้รับส่วนแบ่งตามจำนวนคนที่ได้นับไว้
- กันดารวิถี 26:55 - อย่างไรก็ตาม ใครจะได้ที่ดินตรงไหน ก็ต้องจับสลากกัน พวกเขาจะได้รับที่ดินตามรายชื่อเผ่าของบรรพบุรุษของพวกเขา
- กันดารวิถี 26:56 - แต่ละเผ่าจะจับสลากแบ่งที่ดินกัน ไม่ว่าจะเป็นเผ่าใหญ่หรือเผ่าเล็กก็ตาม”
- กันดารวิถี 26:57 - ต่อไปนี้คือชาวเลวีที่ได้นับตามตระกูลของพวกเขา จากเกอร์โชน เป็นตระกูลเกอร์โชน จากโคฮาท เป็นตระกูลโคฮาท จากเมรารี เป็นตระกูลเมรารี
- กันดารวิถี 26:58 - คนเหล่านี้อยู่ในตระกูลเลวี ตระกูลลิบนี ตระกูลเฮโบรน ตระกูลมาลี ตระกูลมูชี ตระกูลโคราห์
- กันดารวิถี 26:59 - เมียของอัมรามชื่อโยเคเบดเป็นลูกหลานของเลวี นางเกิดอยู่ในเผ่าของเลวีในอียิปต์ นางมีลูกกับอัมราม คืออาโรน โมเสสและมิเรียมพี่สาวของพวกเขา
- กันดารวิถี 26:60 - อาโรนมีลูกชื่อ นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์และอิธามาร์
- กันดารวิถี 26:61 - นาดับและอาบีฮูตายไปแล้ว เมื่อครั้งที่พวกเขาได้ถวายไฟที่พระยาห์เวห์ไม่อนุญาตให้ถวายต่อหน้าพระองค์
- กันดารวิถี 26:62 - รวมจำนวนชายชาวเลวีที่มีอายุตั้งแต่หนึ่งเดือนขึ้นไปสองหมื่นสามพันคน เพราะพวกเขาไม่สามารถนับรวมกับชาวอิสราเอลคนอื่นได้ เพราะพวกเขาไม่ได้รับส่วนแบ่งที่ดินเหมือนประชาชนชาวอิสราเอลคนอื่นๆ
- กันดารวิถี 26:63 - นี่คือคนที่โมเสสและนักบวชเอเลอาซาร์นับได้ ในขณะที่อยู่ในที่ราบโมอับข้างแม่น้ำจอร์แดนตรงข้ามเยริโค
- กันดารวิถี 26:64 - ในบรรดาประชาชนเหล่านี้ ไม่มีคนที่โมเสสและอาโรนเคยนับเมื่อครั้งอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งซีนายรอดชีวิตอยู่เลย
- กันดารวิถี 26:65 - เพราะพระยาห์เวห์เคยพูดถึงคนเหล่านั้นไว้ว่า “พวกเขาจะตายในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง” จึงไม่มีใครสักคนในหมู่พวกเขาที่ยังมีชีวิตอยู่ ยกเว้นคาเลบลูกชายของเยฟุนเนห์และโยชูวาลูกชายนูน
- ปฐมกาล 42:11 - เราทั้งหมดมีพ่อเดียวกัน พวกเราเป็นคนซื่อสัตย์ พวกเราผู้รับใช้ของท่านไม่ได้เป็นคนสอดแนม”
- กันดารวิถี 10:1 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 10:2 - “ให้ทำแตรเงินสองอันสำหรับตัวเจ้า ให้เอาเงินมาทุบเป็นแตรสองอันนั้น แตรสองอันนี้เอาไว้เป่าเรียกคนมาชุมนุมกัน หรือเป่าบอกให้คนเคลื่อนย้ายเต็นท์
- กันดารวิถี 10:3 - เมื่อเป่าแตรทั้งสองด้วยเสียงยาว ให้คนมาชุมนุมกันต่อหน้าเจ้าที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ
- กันดารวิถี 10:4 - แต่ถ้าเป่าแค่อันเดียว ก็ให้พวกผู้นำ ที่เป็นหัวหน้าของตระกูลต่างๆของอิสราเอลมาชุมนุมกันต่อหน้าเจ้า
- กันดารวิถี 10:5 - เมื่อพวกเจ้าเป่าแตรเสียงสั้น ให้ค่ายทางตะวันออกเคลื่อนที่
- กันดารวิถี 10:6 - เมื่อพวกเจ้าเป่าแตรเป็นเสียงสั้นครั้งที่สอง ให้ค่ายทางด้านใต้เคลื่อนที่ พวกเขาต้องเป่าแตรเสียงสั้นเพื่อบอกให้พวกเขาเคลื่อนย้าย
- กันดารวิถี 10:7 - แต่เมื่อเจ้าจะเรียกประชุมเจ้าต้องเป่าเสียงยาว ไม่ใช่เสียงสั้น
- กันดารวิถี 10:8 - ให้พวกลูกชายของอาโรนที่เป็นนักบวชทั้งหลายนั้นเป็นคนเป่าแตร นี่เป็นกฎสำหรับเจ้าที่จะใช้ตลอดไปชั่วลูกชั่วหลาน
- กันดารวิถี 10:9 - เมื่อเจ้าต้องออกไปทำสงครามกับศัตรูที่มาบุกรุกแผ่นดินของเจ้า เจ้าต้องเป่าแตรทั้งสองด้วยเสียงสั้น และยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าจะได้ยินและจะช่วยให้เจ้าปลอดภัยจากศัตรูของเจ้า
- กันดารวิถี 10:10 - ในเวลาที่พวกเจ้ามีงานรื่นเริง งานเทศกาลต่างๆและงานฉลองเริ่มเดือนใหม่ ให้พวกเจ้าเป่าแตร เมื่อพวกเจ้าถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องสังสรรค์บูชาของพวกเจ้า เสียงแตรจะเป็นวิธีที่ทำให้พระเจ้านึกถึงเจ้า เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า”
- กันดารวิถี 10:11 - ในวันที่ยี่สิบของเดือนที่สองของปีที่สอง เมฆได้ลอยขึ้นจากเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ที่เก็บข้อตกลง
- กันดารวิถี 10:12 - ชาวอิสราเอลจึงออกเดินทางจากที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งซีนาย เมฆลอยมาหยุดอยู่ที่ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งปาราน
- กันดารวิถี 10:13 - นี่จึงเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเคลื่อนย้าย ตามสัญญาณของพระยาห์เวห์ ที่สั่งผ่านมาทางโมเสส
- กันดารวิถี 10:14 - ค่ายแรกที่ออกนำหน้าคือค่ายของยูดาห์ มีสามเผ่าจากค่ายนี้ คือเผ่าของยูดาห์ มีนาโชนลูกชายของอัมมีนาดับเป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:15 - เผ่าของอิสสาคาร์ มีเนธันเอลลูกชายของศุอาร์เป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:16 - เผ่าเศบูลุนมีเอลีอับลูกชายเฮโลนเป็นผู้นำกอง ทั้งหมดเดินอยู่ภายใต้กองของตนเอง
- กันดารวิถี 10:17 - แล้วพวกเขาก็ได้รื้อเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ลง ชาวเกอร์โชนและชาวเมรารีได้แบกเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์นั้นออกเดินทางเป็นกองต่อไป
- กันดารวิถี 10:18 - ต่อจากนั้นเป็นค่ายของรูเบน มีสามเผ่าจากค่ายนี้ คือเผ่ารูเบน มีเอลีซูร์ลูกชายเชเดเออร์เป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:19 - เผ่าสิเมโอนมีเชลูมิเอลลูกชายศูริชัดดัยเป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:20 - เผ่ากาด มีเอลียาสาฟลูกชายเดอูเอลเป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:21 - ต่อจากนั้น ก็เป็นพวกชาวโคฮาท พวกนี้แบกของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆในเต็นท์ตามไป เพื่อจะได้ไปถึงตอนที่เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ตั้งเสร็จแล้วในที่ใหม่
- กันดารวิถี 10:22 - ต่อจากนั้นก็เป็นค่ายของเอฟราอิม ค่ายนี้มีสามเผ่า คือเผ่าเอฟราอิม มีเอลีชามาลูกชายของอัมมีฮูดเป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:23 - เผ่ามนัสเสห์ มีกามาลิเอลลูกชายของเปดาซูร์เป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:24 - เผ่าเบนยามิน มีอาบีดันลูกชายของกิเดโอนีเป็นผู้นำกอง ทั้งหมดเดินอยู่ภายใต้กองของตน
- กันดารวิถี 10:25 - ค่ายที่คอยระวังท้ายให้ คือค่ายของดาน ค่ายนี้มีสามเผ่า คือเผ่าดาน มีอาหิเยเซอร์ลูกชายอัมมีชัดดัยเป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:26 - เผ่าอาเชอร์ มีปากีเอลลูกชายของโอครานเป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:27 - เผ่านัฟทาลี มีอาหิราลูกชายของเอนันเป็นผู้นำกอง ทั้งหมดก็เดินอยู่ภายใต้กองของตน
- กันดารวิถี 10:28 - เวลาที่ชาวอิสราเอลเคลื่อนย้าย พวกเขาก็เคลื่อนขบวน เป็นกองๆตามลำดับอย่างนี้
- กันดารวิถี 10:29 - โมเสสพูดกับโฮบับลูกชายเรอูเอลชาวมีเดียน (เรอูเอลเป็นพ่อตาของโมเสส) ว่า “พวกเรากำลังเดินทางไปยังสถานที่ที่พระยาห์เวห์บอกว่าจะยกให้กับพวกเรา ไปกับพวกเราสิ เราจะดีกับท่าน เพราะพระยาห์เวห์สัญญาที่จะให้สิ่งดีๆกับชาวอิสราเอล”
- กันดารวิถี 10:30 - แต่โฮบับตอบโมเสสว่า “ผมไม่ไปหรอก ผมจะกลับไปแผ่นดินของผม กลับไปหาครอบครัวของผม”
- กันดารวิถี 10:31 - โมเสสจึงพูดว่า “อย่าได้ทิ้งพวกเราไปเลย เพราะท่านรู้ว่าพวกเราควรจะตั้งค่ายที่ไหนในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง ช่วยนำทางพวกเราหน่อย
- กันดารวิถี 10:32 - ถ้าท่านไปกับพวกเรา ไม่ว่าพระยาห์เวห์ให้สิ่งที่ดีๆอะไรกับเรา เราก็จะแบ่งสิ่งดีๆนั้นให้กับท่านด้วย”
- กันดารวิถี 10:33 - พวกเขาจึงเคลื่อนออกจากภูเขาของพระยาห์เวห์ แล้วเดินทางไปเป็นเวลาสามวัน ตลอดสามวันนั้น นักบวชได้แบกหีบศักดิ์สิทธิ์ที่ใส่ข้อตกลงของพระยาห์เวห์ เดินนำหน้าพวกเขาอยู่ตลอดเวลา เพื่อหาที่ที่จะให้พวกเขาตั้งค่าย
- กันดารวิถี 10:34 - เมฆของพระยาห์เวห์ลอยอยู่เหนือพวกเขาทุกวันตั้งแต่ออกจากค่ายมา
- กันดารวิถี 10:35 - ทุกครั้งที่หีบศักดิ์สิทธิ์เคลื่อนออกจากค่าย โมเสสจะพูดว่า “ลุกขึ้นเถิด พระยาห์เวห์ ให้ศัตรูของพระองค์กระจัดกระจายไป ให้คนที่เกลียดชังพระองค์ วิ่งหนีพระองค์ไป”
- กันดารวิถี 10:36 - และทุกครั้งที่เขาวางหีบศักดิ์สิทธิ์ลง โมเสสจะพูดว่า “กลับมาเถิด พระยาห์เวห์ มาสู่ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนนี้”
- ปฐมกาล 29:32 - นางเลอาห์ก็ตั้งท้องและคลอดลูกชาย นางตั้งชื่อเขาว่ารูเบน เพราะนางพูดว่า “พระยาห์เวห์มองเห็นความอัปยศอดสูของฉันจริงๆ ตอนนี้สามีของฉันต้องรักฉันแน่ๆ”
- ปฐมกาล 29:33 - เลอาห์ก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายอีกคนหนึ่ง นางพูดว่า “เพราะพระยาห์เวห์ได้ยินว่าฉันเป็นที่เกลียดชัง พระองค์จึงให้ลูกชายคนนี้กับฉัน” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าสิเมโอน
- ปฐมกาล 29:34 - เลอาห์ได้ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายอีกคน นางพูดว่า “คราวนี้สามีฉันต้องใกล้ชิดกับฉัน เพราะฉันคลอดลูกชายให้กับเขาถึงสามคน” นางจึงตั้งชื่อลูกชายคนนี้ว่าเลวี
- ปฐมกาล 29:35 - แล้วเลอาห์ก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายอีกคนหนึ่ง นางพูดว่า “ครั้งนี้ฉันจะสรรเสริญพระยาห์เวห์” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่ายูดาห์ แล้วนางก็ไม่มีลูกอีก
- มัทธิว 2:18 - “ฟังเสียงในหมู่บ้านรามาห์ เป็นเสียงร้องไห้ด้วยความเสียใจยิ่ง คือเสียงร้องไห้ของราเชลเรื่องลูกๆของเธอ เธอก็ไม่ยอมให้ใครปลอบโยน เพราะลูกๆของเธอตายแล้ว”
- ปฐมกาล 43:7 - พวกเขาตอบว่า “ชายคนนั้นถามพวกเราละเอียดมาก เกี่ยวกับพวกเราและครอบครัวของพวกเรา เขาถามว่า ‘พ่อของเจ้ายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า พวกเจ้ายังมีพี่น้องอีกคนหนึ่งหรือเปล่า’ พวกเราตอบไปตามที่เขาถาม พวกเราจะไปรู้ได้ยังไงว่า เขาจะพูดว่า ‘ให้ไปเอาน้องชายของเจ้ามา’”
- ปฐมกาล 42:32 - พวกเรามีพี่น้องกันอยู่สิบสองคน เป็นลูกของพ่อคนเดียวกัน น้องคนหนึ่งได้ตายไปแล้ว และตอนนี้น้องคนสุดท้องอยู่กับพ่อของพวกเราที่แคว้นคานาอัน’
- ปฐมกาล 44:20 - พวกเราก็บอกท่าน เจ้านายของข้าพเจ้าว่า ‘พวกเรายังมีพ่อที่แก่แล้ว และน้องชายคนเล็ก ที่เกิดมาตอนพ่อแก่แล้ว และพี่ชายของเขาที่เกิดจากแม่เดียวกันก็ได้ตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องชายคนนี้คนเดียวเท่านั้น ดังนั้นพ่อของเราจึงรักเขามาก’
- ปฐมกาล 37:30 - รูเบนกลับมาหาน้องๆของเขา และพูดว่า “เจ้าเด็กนั่นไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว แล้วทีนี้พี่จะทำยังไงดี”