逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - พวกเขาเหล่านี้ เป็นลูกชายของเลอาห์ซึ่งนางได้คลอดให้กับยาโคบในปัดดาน อารัม และมีลูกสาวชื่อดีนาห์ รวมลูกและหลานชายทั้งหมดในครอบครัวของเลอาห์มีสามสิบสามคน
- 新标点和合本 - 这是利亚在巴旦亚兰给雅各所生的儿子,还有女儿底拿。儿孙共有三十三人。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 这是利亚在巴旦‧亚兰为雅各所生的儿孙,还有女儿底拿,儿孙共三十三人。
- 和合本2010(神版-简体) - 这是利亚在巴旦‧亚兰为雅各所生的儿孙,还有女儿底拿,儿孙共三十三人。
- 当代译本 - 这些都是利亚在巴旦·亚兰给雅各生的儿孙,加上女儿底娜共有三十三人。
- 圣经新译本 - 以上这些人是利亚在巴旦.亚兰给雅各生的儿子,另外还有女儿底拿。这些子孙一共三十三人。
- 中文标准译本 - ——以上是莉亚在帕旦-亚兰为雅各所生的儿孙,不包括女儿狄娜,子孙共有三十三人——
- 现代标点和合本 - 这是利亚在巴旦亚兰给雅各所生的儿子,还有女儿底拿,儿孙共三十三人。
- 和合本(拼音版) - 这是利亚在巴旦亚兰给雅各所生的儿子,还有女儿底拿。儿孙共有三十三人。
- New International Version - These were the sons Leah bore to Jacob in Paddan Aram, besides his daughter Dinah. These sons and daughters of his were thirty-three in all.
- New International Reader's Version - These were the sons and grandsons born to Jacob and Leah in Paddan Aram. Leah also had a daughter by Jacob. Her name was Dinah. The total number of people in the family line of Jacob and Leah was 33.
- English Standard Version - These are the sons of Leah, whom she bore to Jacob in Paddan-aram, together with his daughter Dinah; altogether his sons and his daughters numbered thirty-three.
- New Living Translation - These were the sons of Leah and Jacob who were born in Paddan-aram, in addition to their daughter, Dinah. The number of Jacob’s descendants (male and female) through Leah was thirty-three.
- The Message - These are the sons that Leah bore to Jacob in Paddan Aram. There was also his daughter Dinah. Altogether, sons and daughters, they numbered thirty-three.
- Christian Standard Bible - These were Leah’s sons born to Jacob in Paddan-aram, as well as his daughter Dinah. The total number of persons: thirty-three.
- New American Standard Bible - These are the sons of Leah, whom she bore to Jacob in Paddan-aram, with his daughter Dinah; all his sons and his daughters numbered thirty-three.
- New King James Version - These were the sons of Leah, whom she bore to Jacob in Padan Aram, with his daughter Dinah. All the persons, his sons and his daughters, were thirty-three.
- Amplified Bible - These are the sons of Leah, whom she bore to Jacob in Paddan-aram, with his daughter Dinah; all of his sons and daughters numbered thirty-three.
- American Standard Version - These are the sons of Leah, whom she bare unto Jacob in Paddan-aram, with his daughter Dinah: all the souls of his sons and his daughters were thirty and three.
- King James Version - These be the sons of Leah, which she bare unto Jacob in Paddan–aram, with his daughter Dinah: all the souls of his sons and his daughters were thirty and three.
- New English Translation - These were the sons of Leah, whom she bore to Jacob in Paddan Aram, along with Dinah his daughter. His sons and daughters numbered thirty-three in all.
- World English Bible - These are the sons of Leah, whom she bore to Jacob in Paddan Aram, with his daughter Dinah. All the souls of his sons and his daughters were thirty-three.
- 新標點和合本 - 這是利亞在巴旦‧亞蘭給雅各所生的兒子,還有女兒底拿。兒孫共有三十三人。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 這是利亞在巴旦‧亞蘭為雅各所生的兒孫,還有女兒底拿,兒孫共三十三人。
- 和合本2010(神版-繁體) - 這是利亞在巴旦‧亞蘭為雅各所生的兒孫,還有女兒底拿,兒孫共三十三人。
- 當代譯本 - 這些都是利亞在巴旦·亞蘭給雅各生的兒孫,加上女兒底娜共有三十三人。
- 聖經新譯本 - 以上這些人是利亞在巴旦.亞蘭給雅各生的兒子,另外還有女兒底拿。這些子孫一共三十三人。
- 呂振中譯本 - 這些人是 利亞 在 巴旦亞蘭 給 雅各 生的兒子,還有他的女兒 底拿 ;孫子孫女一共三十三個人。
- 中文標準譯本 - ——以上是莉亞在帕旦-亞蘭為雅各所生的兒孫,不包括女兒狄娜,子孫共有三十三人——
- 現代標點和合本 - 這是利亞在巴旦亞蘭給雅各所生的兒子,還有女兒底拿,兒孫共三十三人。
- 文理和合譯本 - 此利亞在巴旦亞蘭、從雅各所生之子孫、與女底拿、共三十三人、
- 文理委辦譯本 - 此雅各子孫、與女底拿生於巴坦亞蘭、屬利亞所出者、共三十三人。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 是乃 利亞 在 巴旦亞蘭 、從 雅各 所生之子 及孫 、與女 底拿 、共三十三人、
- Nueva Versión Internacional - Estos fueron los hijos que Jacob tuvo con Lea en Padán Aram, además de su hija Dina. En total, entre hombres y mujeres eran treinta y tres personas.
- 현대인의 성경 - 이상은 레아가 메소포타미아에서 야곱에게 낳은 아들들과 그 자손들이며 이들은 그녀의 딸 디나를 포함하여 남녀 모두 33명이었다.
- Новый Русский Перевод - Это сыновья Лии, которых она родила Иакову в Паддан-Араме; она родила и дочь Дину; всего их было тридцать три человека.
- Восточный перевод - Это сыновья Лии, которых она родила Якубу в Паддан-Араме; она родила и дочь Дину; всего их было тридцать три человека.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Это сыновья Лии, которых она родила Якубу в Паддан-Араме; она родила и дочь Дину; всего их было тридцать три человека.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Это сыновья Лии, которых она родила Якубу в Паддан-Араме; она родила и дочь Дину; всего их было тридцать три человека.
- La Bible du Semeur 2015 - Ce sont là les descendants que Léa donna à Jacob en Paddân-Aram. Il y avait en plus leur fille Dina. Fils et filles étaient au nombre de trente-trois personnes.
- リビングバイブル - 以上は、パダン・アラムでヤコブとレアの間に生まれた息子とその孫で、娘ディナを除いて総勢三十三人でした。
- Nova Versão Internacional - Foram esses os filhos que Lia deu a Jacó em Padã-Arã , além de Diná, sua filha. Seus descendentes eram ao todo trinta e três.
- Hoffnung für alle - Zusammen ergibt das 33 Nachkommen von Jakob und Lea, darunter auch ihre Tochter Dina.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Đây là các con trai của Lê-a sinh cho Gia-cốp tại Pha-đan A-ram, và một con gái là Đi-na, cùng con cái họ. Tổng cộng là ba mươi ba người.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - คนเหล่านี้เป็นบุตรชายของนางเลอาห์ซึ่งให้กำเนิดแก่ยาโคบในปัดดานอารัมนอกเหนือจากดีนาห์บุตรี รวมบุตรชายหญิงทั้งสิ้น 33 คน
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - (ชายที่กล่าวข้างต้นเป็นบุตรของเลอาห์ที่ได้ให้กำเนิดแก่ยาโคบที่ปัดดานอารัม ท่านมีบุตรหญิงชื่อดีนาห์ รวมจำนวนลูกหลานชายหญิงได้ 33 คน)
- Thai KJV - พวกเหล่านี้เป็นบุตรชายของนางเลอาห์ ซึ่งนางคลอดให้ยาโคบในปัดดานอารัม กับบุตรสาวชื่อ ดีนาห์ บุตรชายหญิงหมดด้วยกันมีสามสิบสามคน
交叉引用
- กันดารวิถี 26:1 - หลังจากโรคระบาดแล้ว พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและเอเลอาซาร์ลูกชายของนักบวชอาโรนว่า
- กันดารวิถี 26:2 - “ให้นับประชาชนชาวอิสราเอลทั้งชุมชนตามครอบครัวของพวกเขา ให้นับชายทุกคนในอิสราเอลที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปที่สามารถเข้ารับใช้ในกองทัพได้”
- กันดารวิถี 26:3 - โมเสสและนักบวชเอเลอาซาร์จึงพูดกับประชาชนชาวอิสราเอลในที่ราบโมอับติดแม่น้ำจอร์แดนฝั่งตรงข้ามเยริโคว่า
- กันดารวิถี 26:4 - “ให้นับชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ตามที่พระยาห์เวห์เคยสั่งให้โมเสสและประชาชนชาวอิสราเอลทำ ตอนที่พวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์”
- กันดารวิถี 26:5 - รูเบนเป็นลูกชายคนโตของอิสราเอล นี่คือรายชื่อลูกหลานของรูเบน จากฮาโนค เป็นตระกูลฮาโนค จากปัลลู เป็นตระกูลปัลลู
- กันดารวิถี 26:6 - จากเฮสโรน เป็นตระกูลเฮสโรน จากคารมี เป็นตระกูลคารมี
- กันดารวิถี 26:7 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของรูเบน รวมคนได้ทั้งหมดสี่หมื่นสามพันเจ็ดร้อยสามสิบคน
- กันดารวิถี 26:8 - ลูกชายของปัลลูคือเอลีอับ
- กันดารวิถี 26:9 - เอลีอับมีลูกชายสามคนคือ เนมูเอล ดาธานและอาบีรัม ดาธานและอาบีรัม เป็นสองคนที่ชุมชนเลือกขึ้นมา และได้ต่อต้านโมเสส และอาโรน ทั้งสองคนนี้เป็นสมัครพรรคพวกของโคราห์ ตอนที่พวกเขาร่วมกันต่อต้านพระยาห์เวห์
- กันดารวิถี 26:10 - และแผ่นดินได้อ้าปากกลืนพวกเขาและโคราห์ลงไป เมื่อสมัครพรรคพวกของโคราห์ตายไปและไฟได้เผาผลาญคนสองร้อยห้าสิบคนนั้น คนเหล่านี้ได้กลายเป็นตัวอย่างเตือนใจประชาชน
- กันดารวิถี 26:11 - แต่ลูกชายของโคราห์ไม่ตาย
- กันดารวิถี 26:12 - นี่คือลูกหลานของสิเมโอนตามตระกูลของพวกเขา จากเนมูเอล เป็นตระกูลเนมูเอล จากยามีน เป็นตระกูลยามีน จากยาคีน เป็นตระกูลยาคีน
- กันดารวิถี 26:13 - จากเศราห์ เป็นตระกูลเศราห์ จากชาอูล เป็นตระกูลชาอูล
- กันดารวิถี 26:14 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของสิเมโอน รวมคนได้ทั้งหมดสองหมื่นสองพันสองร้อยคน
- กันดารวิถี 26:15 - ต่อไปคือลูกหลานของกาดตามตระกูลของพวกเขา จากเศโฟน เป็นตระกูลเศโฟน จากฮักกี เป็นตระกูลฮักกี จากชูนี เป็นตระกูลชูนี
- กันดารวิถี 26:16 - จากโอสนี เป็นตระกูลโอสนี จากเอรี เป็นตระกูลเอรี
- กันดารวิถี 26:17 - จากอาโรด เป็นตระกูลอาโรด จากอาเรลี เป็นตระกูลอาเรลี
- กันดารวิถี 26:18 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของกาด รวมคนได้ทั้งหมดสี่หมื่นห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 26:19 - ลูกชายของยูดาห์คือเอร์และโอนัน เขาทั้งสองคนตายในแผ่นดินคานาอัน นี่คือลูกหลานของยูดาห์ตามตระกูลของพวกเขา จากเชลาห์ เป็นตระกูลเชลาห์ จากเปเรศ เป็นตระกูลเปเรศ จากเศราห์ เป็นตระกูลเศราห์
- กันดารวิถี 26:21 - ต่อไปนี้คือลูกหลานของเปเรศ จากเฮสโรน เป็นตระกูลเฮสโรน จากฮามูล เป็นตระกูลฮามูล
- กันดารวิถี 26:22 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของยูดาห์ รวมคนได้ทั้งหมดเจ็ดหมื่นหกพันห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 26:23 - ต่อไปนี้คือลูกหลานของอิสสาคาร์ตามตระกูลของพวกเขา จากโทลา เป็นตระกูลโทลา จากปูวาห์ เป็นตระกูลปูวาห์
- กันดารวิถี 26:24 - จากยาชูบ เป็นตระกูลยาชูบ จากชิมโรน เป็นตระกูลชิมโรน
- กันดารวิถี 26:25 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของอิสสาคาร์ รวมคนได้ทั้งหมดหกหมื่นสี่พันสามร้อยคน
- กันดารวิถี 26:26 - ต่อไปนี้คือลูกหลานของเศบูลุนตามตระกูลของพวกเขา จากเสเรด เป็นตระกูลเสเรด จากเอโลน เป็นตระกูลเอโลน จากยาเลเอล เป็นตระกูลยาเลเอล
- กันดารวิถี 26:27 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของเศบูลุน รวมคนได้ทั้งหมดหกหมื่นห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 26:28 - ต่อไปนี้คือลูกชายของโยเซฟตามตระกูลของพวกเขา คือมนัสเสห์และเอฟราอิม
- กันดารวิถี 26:29 - นี่คือลูกหลานของมนัสเสห์ จากมาคีร์ เป็นตระกูลมาคีร์ (มาคีร์เป็นพ่อของกิเลอาด) จากกิเลอาด เป็นตระกูลกิเลอาด
- กันดารวิถี 26:30 - นี่คือลูกหลานของกิเลอาด จากอีเยเซอร์ เป็นตระกูลอีเยเซอร์ จากเฮเลค เป็นตระกูลเฮเลค
- กันดารวิถี 26:31 - จากอัสรีเอล เป็นตระกูลอัสรีเอล จากเชเคม เป็นตระกูลเชเคม
- กันดารวิถี 26:32 - จากเชมิดา เป็นตระกูลเชมิดา จากเฮเฟอร์ เป็นตระกูลเฮเฟอร์
- กันดารวิถี 26:33 - เศโลเฟหัดเป็นลูกชายของเฮเฟอร์ แต่ตัวเขาไม่มีลูกชาย มีเพียงลูกสาวชื่อ มาลาห์ โนอาห์ โฮกลาห์ มิลคาห์และทีรซาห์
- กันดารวิถี 26:34 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของมนัสเสห์ รวมคนได้ทั้งหมดห้าหมื่นสองพันเจ็ดร้อยคน
- กันดารวิถี 26:35 - ต่อไปนี้คือลูกหลานของเอฟราอิมตามตระกูลของพวกเขา จากชูเธลาห์ เป็นตระกูลชูเธลาห์ จากเบเคอร์ เป็นตระกูลเบเคอร์ จากทาหาน เป็นตระกูลทาหาน
- กันดารวิถี 26:36 - นี่คือลูกหลานของชูเธลาห์ จากเอราน เป็นตระกูลเอราน
- กันดารวิถี 26:37 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของเอฟราอิม รวมคนได้ทั้งหมดสามหมื่นสองพันห้าร้อยคน พวกเขาเป็นลูกหลานของโยเซฟตามตระกูลของพวกเขา
- กันดารวิถี 26:38 - นี่คือลูกหลานของเบนยามินตามตระกูลของพวกเขา จากเบลา เป็นตระกูลเบลา จากอัชเบล เป็นตระกูลอัชเบล จากอาหิรัม เป็นตระกูลอาหิรัม
- กันดารวิถี 26:39 - จากเชฟูฟาม เป็นตระกูลเชฟูฟาม จากหุฟาม เป็นตระกูลหุฟาม
- กันดารวิถี 26:40 - ลูกชายของเบลาคือ อาร์ดและนาอามาน จากอาร์ด เป็นตระกูลอาร์ด จากนาอามาน เป็นตระกูลนาอามาน
- กันดารวิถี 26:41 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของเบนยามิน รวมคนได้ทั้งหมดสี่หมื่นห้าพันหกร้อยคน
- กันดารวิถี 26:42 - นี่คือลูกหลานของดานตามตระกูลของพวกเขา จากชูฮัม เป็นตระกูลชูฮัม
- กันดารวิถี 26:43 - รวมคนจากตระกูลชูฮัมได้ทั้งหมดหกหมื่นสี่พันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 26:44 - นี่คือลูกหลานของอาเชอร์ตามตระกูลของพวกเขา จากอิมนาห์ เป็นตระกูลอิมนาห์ จากอิชวี เป็นตระกูลอิชวี จากเบรียาห์ เป็นตระกูลเบรียาห์
- กันดารวิถี 26:45 - ลูกหลานของเบรียาห์คือ จากเฮเบอร์ เป็นตระกูลเฮเบอร์ จากมัลคีเอล เป็นตระกูลมัลคีเอล
- กันดารวิถี 26:46 - (ลูกสาวของอาเชอร์ชื่อเสราห์)
- กันดารวิถี 26:47 - นี่คือตระกูลต่างๆของอาเชอร์ รวมคนได้ทั้งหมดห้าหมื่นสามพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 26:48 - นี่คือลูกหลานของนัฟทาลีตามตระกูลของพวกเขา จากยาเซเอล เป็นตระกูลยาเซเอล จากกูนี เป็นตระกูลกูนี
- กันดารวิถี 26:49 - จากเยเซอร์ เป็นตระกูลเยเซอร์ จากชิลเลม เป็นตระกูลชิลเลม
- กันดารวิถี 26:50 - นี่คือพวกตระกูลต่างๆของนัฟทาลี รวมคนได้ทั้งหมดสี่หมื่นห้าพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 26:51 - รวมจำนวนประชาชนชาวอิสราเอลได้ทั้งหมดหกแสนหนึ่งพันเจ็ดร้อยสามสิบคน
- กันดารวิถี 26:52 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 26:53 - “ให้แบ่งที่ดินออกเป็นส่วนๆสำหรับคนเหล่านี้ตามจำนวนรายชื่อ
- กันดารวิถี 26:54 - ถ้าเป็นกลุ่มใหญ่ ก็แบ่งให้มากหน่อย ถ้าเป็นกลุ่มเล็ก ก็แบ่งให้น้อยหน่อย แต่ละกลุ่มจะได้รับส่วนแบ่งตามจำนวนคนที่ได้นับไว้
- กันดารวิถี 26:55 - อย่างไรก็ตาม ใครจะได้ที่ดินตรงไหน ก็ต้องจับสลากกัน พวกเขาจะได้รับที่ดินตามรายชื่อเผ่าของบรรพบุรุษของพวกเขา
- กันดารวิถี 26:56 - แต่ละเผ่าจะจับสลากแบ่งที่ดินกัน ไม่ว่าจะเป็นเผ่าใหญ่หรือเผ่าเล็กก็ตาม”
- กันดารวิถี 26:57 - ต่อไปนี้คือชาวเลวีที่ได้นับตามตระกูลของพวกเขา จากเกอร์โชน เป็นตระกูลเกอร์โชน จากโคฮาท เป็นตระกูลโคฮาท จากเมรารี เป็นตระกูลเมรารี
- กันดารวิถี 26:58 - คนเหล่านี้อยู่ในตระกูลเลวี ตระกูลลิบนี ตระกูลเฮโบรน ตระกูลมาลี ตระกูลมูชี ตระกูลโคราห์
- กันดารวิถี 26:59 - เมียของอัมรามชื่อโยเคเบดเป็นลูกหลานของเลวี นางเกิดอยู่ในเผ่าของเลวีในอียิปต์ นางมีลูกกับอัมราม คืออาโรน โมเสสและมิเรียมพี่สาวของพวกเขา
- กันดารวิถี 26:60 - อาโรนมีลูกชื่อ นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์และอิธามาร์
- กันดารวิถี 26:61 - นาดับและอาบีฮูตายไปแล้ว เมื่อครั้งที่พวกเขาได้ถวายไฟที่พระยาห์เวห์ไม่อนุญาตให้ถวายต่อหน้าพระองค์
- กันดารวิถี 26:62 - รวมจำนวนชายชาวเลวีที่มีอายุตั้งแต่หนึ่งเดือนขึ้นไปสองหมื่นสามพันคน เพราะพวกเขาไม่สามารถนับรวมกับชาวอิสราเอลคนอื่นได้ เพราะพวกเขาไม่ได้รับส่วนแบ่งที่ดินเหมือนประชาชนชาวอิสราเอลคนอื่นๆ
- กันดารวิถี 26:63 - นี่คือคนที่โมเสสและนักบวชเอเลอาซาร์นับได้ ในขณะที่อยู่ในที่ราบโมอับข้างแม่น้ำจอร์แดนตรงข้ามเยริโค
- กันดารวิถี 26:64 - ในบรรดาประชาชนเหล่านี้ ไม่มีคนที่โมเสสและอาโรนเคยนับเมื่อครั้งอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งซีนายรอดชีวิตอยู่เลย
- กันดารวิถี 26:65 - เพราะพระยาห์เวห์เคยพูดถึงคนเหล่านั้นไว้ว่า “พวกเขาจะตายในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง” จึงไม่มีใครสักคนในหมู่พวกเขาที่ยังมีชีวิตอยู่ ยกเว้นคาเลบลูกชายของเยฟุนเนห์และโยชูวาลูกชายนูน
- อพยพ 1:2 - รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์
- อพยพ 1:3 - อิสสาคาร์ เศบูลุน เบนยามิน
- ปฐมกาล 25:20 - ตอนที่อิสอัครับเอาเรเบคาห์มาเป็นเมียนั้น เขามีอายุสี่สิบปี เรเบคาห์เป็นลูกสาวของเบธูเอลคนอารัม ชาวปัดดาน อารัม นางเป็นน้องสาวของลาบันคนอารัม
- ปฐมกาล 34:1 - ดีนาห์ ลูกสาวของเลอาห์และยาโคบ ได้ออกไปเยี่ยมเยียนผู้หญิงในแคว้นนั้น
- ปฐมกาล 34:2 - เชเคมลูกชายของฮาโมร์คนฮีไวต์ซึ่งเป็นเจ้าชายของแคว้นนั้น เห็นดีนาห์ ก็จับนางไปข่มขืน
- ปฐมกาล 34:3 - แต่เชเคมรู้สึกผูกพันอย่างลึกซึ้งกับดีนาห์ ลูกของยาโคบ และเขาหลงรักนาง เขาพยายามพูดอ่อนหวานกับนาง เพื่อจะชนะใจนาง
- ปฐมกาล 34:4 - เชเคมพูดกับฮาโมร์พ่อของเขาว่า “ขอหญิงคนนี้ให้มาเป็นเมียลูกด้วยเถิด”
- ปฐมกาล 34:5 - เมื่อยาโคบรู้เรื่องที่เชเคมทำร้ายข่มขืนดีนาห์ลูกสาวของเขา ตอนนั้นพวกลูกๆของเขายังดูแลฝูงวัวอยู่ในทุ่ง ยาโคบจึงรอจนพวกเขากลับมา
- ปฐมกาล 34:6 - ฮาโมร์พ่อของเชเคมมาพบยาโคบเพื่อขอเจรจา
- ปฐมกาล 34:7 - เป็นเวลาเดียวกับที่พวกลูกชายของยาโคบกลับมาจากทุ่ง เมื่อพวกเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็โมโหเดือดดาลมาก เพราะเชเคมได้ทำสิ่งชั่วช้าในอิสราเอล โดยนอนกับลูกสาวของยาโคบ ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น
- ปฐมกาล 34:8 - ฮาโมร์พูดกับพวกเขาว่า “เชเคมลูกชายของเราหลงรักลูกสาวของท่าน โปรดยกลูกสาวท่านให้เป็นเมียเขาด้วยเถิด
- ปฐมกาล 34:9 - การแต่งงานนี้จะเป็นเครื่องผูกมิตรกัน พวกท่านยกลูกสาวให้กับพวกเรา และรับลูกสาวของพวกเราไปให้กับพวกท่าน
- ปฐมกาล 34:10 - พวกท่านมาตั้งหลักแหล่งร่วมกับเราที่นี่ก็ได้ ทั่วทั้งแผ่นดินนี้ยินดีต้อนรับท่าน เข้ามาตั้งถิ่นฐานและทำมาหากิน และครอบครองที่ดินที่นี่”
- ปฐมกาล 34:11 - เชเคมพูดกับพ่อของดีนาห์และพี่น้องของนางว่า “ขอให้ยอมรับผมด้วย และผมจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านขอ
- ปฐมกาล 34:12 - เรียกสินสอดและของขวัญแต่งงานแพงๆก็ได้ ผมจะจ่ายให้ตามที่ท่านบอก ขอเพียงยกนางให้เป็นเมียผม”
- ปฐมกาล 34:13 - พวกลูกชายของยาโคบออกอุบายเพื่อแก้แค้นเชเคมกับฮาโมร์พ่อของเชเคม เพราะเชเคมไปข่มขืนดีนาห์น้องสาวของพวกเขา
- ปฐมกาล 34:14 - พวกเขาบอกว่า “พวกเราไม่สามารถยกน้องสาวของเราให้กับชายที่ยังไม่ผ่านการขลิบ เพราะมันเป็นเรื่องเสื่อมเสียสำหรับพวกเรา
- ปฐมกาล 34:15 - ตามเงื่อนไขนี้เท่านั้น เราถึงจะยอมตกลงกับท่าน คือถ้าท่านจะเป็นเหมือนพวกเรา ต้องขลิบผู้ชายทุกคน
- ปฐมกาล 34:16 - แล้วเราจะยอมยกลูกสาวของพวกเราให้ท่าน และจะยอมรับลูกสาวของท่านมาอยู่กับพวกเรา และเราจะตั้งถิ่นฐานที่นี่กับท่าน เป็นพวกเดียวกับท่าน
- ปฐมกาล 34:17 - แต่ถ้าพวกท่านไม่ยอมฟังเราและไม่ยอมขลิบ เราจะเอาตัวดีนาห์และไปจากที่นี่”
- ปฐมกาล 34:18 - สิ่งที่พวกเขาบอกนั้น สร้างความพอใจให้ฮาโมร์และลูกชายเป็นอย่างมาก
- ปฐมกาล 34:19 - เชเคมจึงไม่ได้ลังเลที่จะทำตามที่พวกเขาบอก เพราะเขาหลงรักลูกสาวยาโคบมาก
- ปฐมกาล 34:20 - ฮาโมร์และเชเคมลูกชายไปที่ประตูเมือง พวกเขาพูดกับผู้ชายในเมืองของเขาว่า
- ปฐมกาล 34:21 - “คนเหล่านี้เป็นมิตรกับเรา ให้พวกเขาตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนนี้ และทำมาหากินกัน ดูสิ แผ่นดินนี้กว้างใหญ่พอสำหรับพวกเขา เราจะได้ลูกสาวของพวกเขามาเป็นเมียพวกเรา และเราจะยกลูกสาวพวกเราให้กับพวกเขา
- ปฐมกาล 34:22 - แต่มีเงื่อนไขหนึ่ง ที่พวกเราจะต้องทำ คนพวกนี้ถึงจะตกลงอยู่กับเราและเป็นพวกเดียวกับเรา คือผู้ชายทุกคนในเมืองนี้จะต้องขลิบเหมือนกับที่พวกเขาขลิบ
- ปฐมกาล 34:23 - แล้วฝูงวัว ทรัพย์สมบัติทั้งหมด และสัตว์เลี้ยงทั้งหมดของพวกเขา ก็จะตกเป็นของพวกเราอย่างแน่นอน เพียงแต่ให้พวกเราตกลงทำตามเงื่อนไขพวกเขาเท่านั้น แล้วพวกเขาถึงจะยอมอยู่ที่นี่กับเรา”
- ปฐมกาล 34:24 - ทุกคนที่อยู่ที่ประตูเมืองนั้นยอมฟังฮาโมร์และเชเคมลูกชายของเขา ดังนั้นผู้ชายทุกคนในเมืองนั้นจึงขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศกัน
- ปฐมกาล 34:25 - ในวันที่สาม ขณะที่พวกผู้ชายในเมืองยังเจ็บแผลอยู่ ลูกชายสองคนของยาโคบ คือสิเมโอนและเลวี พี่ชายของดีนาห์ ต่างถือดาบเข้าไปบุกในเมืองและลงมือฆ่าฟันผู้ชายทุกคน
- ปฐมกาล 34:26 - พวกเขาฆ่าฮาโมร์กับเชเคมด้วย และพาตัวดีนาห์ออกมาจากบ้านของเชเคมและจากไป
- ปฐมกาล 34:27 - แล้วพวกลูกชายคนอื่นๆของยาโคบก็เข้าไปในเมืองและขโมยทุกสิ่งทุกอย่างในนั้น เพราะเชเคมได้ข่มขืนน้องสาวของเขา
- ปฐมกาล 34:28 - พวกเขาเอาฝูงแพะแกะ ฝูงวัว ฝูงลาของคนพวกนั้น ทุกอย่างที่อยู่ในเมืองและในท้องทุ่ง
- ปฐมกาล 34:29 - ทั้งทรัพย์สมบัติ ผู้หญิงและเด็กๆ รวมทั้งทุกอย่างที่อยู่ในบ้านของพวกเขา เอาไปจนหมดสิ้น
- ปฐมกาล 34:30 - แล้วยาโคบก็พูดกับสิเมโอนและเลวีว่า “พวกเจ้าสร้างปัญหาให้กับพ่อเสียแล้ว พวกเจ้าจะทำให้พ่อถูกคนที่นี่เหม็นขี้หน้า ทั้งพวกคานาอันและเปริสซี พ่อมีคนอยู่น้อยมาก และคนที่นี่อาจรวมตัวกันต่อต้านและโจมตีพ่อได้ เมื่อถึงเวลานั้นพ่อและครอบครัวของพ่อก็จะถูกทำลาย”
- ปฐมกาล 34:31 - แต่ลูกของยาโคบตอบว่า “สมควรแล้วหรือที่เชเคมจะทำกับน้องสาวของพวกเราเหมือนกับเป็นหญิงโสเภณี”
- 1 พงศาวดาร 2:1 - ต่อไปนี้คือพวกลูกชายของอิสราเอลคือ รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ เศบูลุน
- ปฐมกาล 49:3 - รูเบน เจ้าเป็นลูกคนโตของพ่อ เจ้าเป็นความเข้มแข็งของพ่อ และเป็นข้อพิสูจน์ความเป็นชายของพ่อ เจ้าคือสุดยอดแห่งความภาคภูมิใจ และสุดยอดของความแข็งแกร่ง
- ปฐมกาล 49:4 - แต่เจ้าเป็นเหมือนสายน้ำที่ควบคุมไม่ได้ ดังนั้น เจ้าจะไม่สุดยอดอีกต่อไป เพราะเจ้าแอบปีนขึ้นไปบนเตียงพ่อเจ้า เจ้าหลับนอนกับเมียของพ่อเจ้า แล้วเจ้าได้นำความอับอายมาสู่เตียงของพ่อ ที่เจ้าได้ปีนขึ้นไปนั้น”
- ปฐมกาล 49:5 - “สิเมโอนและเลวีเป็นพี่น้องกัน ดาบของพวกเขาคืออาวุธแห่งความรุนแรง
- ปฐมกาล 49:6 - พวกเขาแอบวางแผนชั่วร้าย พ่อขอไม่มีส่วนร่วมในการวางแผนลับแบบนั้น พ่อขอไม่เจอกับพวกเขาในการวางแผนชั่วร้ายเช่นนั้น เพราะพวกเขาได้ฆ่าคนเพราะความโกรธ และได้ทำร้ายสัตว์เพียงเพื่อความสนุก
- ปฐมกาล 49:7 - ขอให้ความโกรธของพวกเขาถูกสาปแช่งเพราะมันรุนแรงเกินไป และขอให้ความเดือดดาลบ้าคลั่งของพวกเขาถูกสาปแช่งเพราะมันโหดร้ายเกินไป พ่อจะแยกพวกเขาให้กระจัดกระจายไปท่ามกลางเผ่าพันธุ์ของยาโคบ พ่อจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปในอิสราเอล
- ปฐมกาล 49:8 - ยูดาห์ พี่น้องของเจ้าจะสรรเสริญเจ้า เจ้าจะเอาชนะศัตรู บรรดาพี่น้องจะต้องมาคำนับเจ้า
- ปฐมกาล 49:9 - ยูดาห์ เจ้าเหมือนสิงโตหนุ่ม ที่ยืนคร่อมอยู่เหนือเหยื่อที่มันฆ่า เจ้าเป็นเหมือนสิงโตที่กำลังหมอบนอนลงพัก ไม่มีใครกล้ามาแหย่
- ปฐมกาล 49:10 - อำนาจการปกครองจะไม่มีวันหมดไปจากยูดาห์ และลูกหลานของเขา จนกว่ากษัตริย์ที่แท้จริงจะขึ้นครองบัลลังก์ และทุกชาติจะเชื่อฟังเขา
- ปฐมกาล 49:11 - เขาผูกลาของเขาไว้กับเถาองุ่น เขาผูกลูกลาไว้กับต้นองุ่นที่ดีที่สุด เขาล้างเสื้อผ้าในเหล้าองุ่น และซักเสื้อคลุมของเขาด้วยน้ำองุ่นสีเลือด
- ปฐมกาล 49:12 - นัยน์ตาของเขาแดงก่ำยิ่งกว่าสีของเหล้าองุ่น และฟันของเขาขาวยิ่งกว่าน้ำนม
- ปฐมกาล 49:13 - เศบูลุนจะตั้งถิ่นฐานอยู่ติดทะเล มันจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับเรือ เขตแดนของเขาจะขยายออกไปจนถึงเมืองไซดอน
- ปฐมกาล 49:14 - อิสสาคาร์เหมือนลาที่แข็งแกร่ง แต่มันนอนลงระหว่างตะกร้าที่แบกอยู่
- ปฐมกาล 49:15 - เมื่อเขาพบที่เหมาะสำหรับหยุดพัก และเป็นแผ่นดินอันน่ารื่นรมย์ เมื่อนั้นเขาจะยินดีที่จะค่อมหลังลงเพื่อแบกสัมภาระ และพร้อมที่จะเป็นทาสรับใช้
- กันดารวิถี 1:1 - พระยาห์เวห์ได้พูดกับโมเสสในเต็นท์นัดพบที่ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งซีนาย วันนั้นเป็นวันที่หนึ่งเดือนที่สองของปีที่สอง หลังจากที่ประชาชนชาวอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์ พระองค์ได้พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 1:2 - “ให้ลงทะเบียนจำนวนชาวอิสราเอลในชุมชนนี้ทั้งหมดตามตระกูลและครอบครัว ให้จดรายชื่อ ของผู้ชายทุกคนเรียงตัว
- กันดารวิถี 1:3 - เจ้าและอาโรนต้องขึ้นทะเบียนพวกผู้ชายทั้งหมดในอิสราเอล ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้อยู่ในกองทัพของอิสราเอล รวบรวมรายชื่อของพวกเขาไว้เป็นกลุ่มเป็นกอง
- กันดารวิถี 1:4 - จะมีผู้ชายหนึ่งคนจากแต่ละเผ่ามาช่วยเจ้า ผู้ชายคนนี้จะเป็นผู้นำครอบครัวของเขา
- กันดารวิถี 1:5 - ต่อไปนี้เป็นรายชื่อของผู้ชายพวกนั้นที่จะมาช่วยเจ้า เอลีซูร์ลูกชายของเชเดเออร์จากเผ่ารูเบน
- กันดารวิถี 1:6 - เชลูมิเอลลูกชายของศูริชัดดัยจากเผ่าสิเมโอน
- กันดารวิถี 1:7 - นาโชนลูกชายของอัมมีนาดับจากเผ่ายูดาห์
- กันดารวิถี 1:8 - เนธันเอลลูกชายของศุอาร์จากเผ่าอิสสาคาร์
- กันดารวิถี 1:9 - เอลีอับลูกชายของเฮโลนจากเผ่าเศบูลุน
- กันดารวิถี 1:10 - จากลูกหลานของโยเซฟมี เอลีชามาลูกชายของอัมมีฮูดจากเผ่าเอฟราอิม กามาลิเอลลูกชายของเปดาซูร์จากเผ่ามนัสเสห์
- กันดารวิถี 1:11 - อาบีดันลูกชายของกิเดโอนีจากเผ่าเบนยามิน
- กันดารวิถี 1:12 - อาหิเยเซอร์ลูกชายของอัมมีชัดดัยจากเผ่าดาน
- กันดารวิถี 1:13 - ปากีเอลลูกชายของโอครานจากเผ่าอาเชอร์
- กันดารวิถี 1:14 - เอลียาสาฟลูกชายของเรอูเอล จากเผ่ากาด
- กันดารวิถี 1:15 - อาหิราลูกชายของเอนันจากเผ่านัฟทาลี”
- กันดารวิถี 1:16 - คนเหล่านี้คือผู้ที่ได้รับเลือกมาจากชุมชน ให้มาเป็นผู้นำของเผ่าต่างๆของบรรพบุรุษพวกเขา พวกเขาเป็นผู้นำของตระกูลต่างๆของอิสราเอล
- กันดารวิถี 1:17 - โมเสสและอาโรนจึงเอาคนพวกนี้ที่ได้รับเลือกมา
- กันดารวิถี 1:18 - แล้วโมเสสและอาโรนก็เรียกประชุมคนในชุมชนทั้งหมดในวันแรกของเดือนที่สอง และได้จดรายชื่อประชาชนเหล่านั้นไว้ตามตระกูลและครอบครัวของตน และได้จดรายชื่อของผู้ชายเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป
- กันดารวิถี 1:19 - ตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้ โมเสสจึงได้นับประชาชนเหล่านั้นในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งซีนาย
- กันดารวิถี 1:20 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่ารูเบนซึ่งเป็นลูกหัวปีของอิสราเอล ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:21 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ารูเบน มีทั้งหมดสี่หมื่นหกพันห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 1:22 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าสิเมโอน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:23 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าสิเมโอน มีทั้งหมดห้าหมื่นเก้าพันสามร้อยคน
- กันดารวิถี 1:24 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่ากาด ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:25 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ากาด มีทั้งหมดสี่หมื่นห้าพันหกร้อยห้าสิบคน
- กันดารวิถี 1:26 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่ายูดาห์ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:27 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ายูดาห์ มีทั้งหมดเจ็ดหมื่นสี่พันหกร้อยคน
- กันดารวิถี 1:28 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าอิสสาคาร์ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:29 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าอิสสาคาร์ มีทั้งหมดห้าหมื่นสี่พันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 1:30 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าเศบูลุน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:31 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าเศบูลุน มีทั้งหมดห้าหมื่นเจ็ดพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 1:32 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าเอฟราอิม ลูกชายของโยเซฟ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:33 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าเอฟราอิม มีทั้งหมดสี่หมื่นห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 1:34 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่ามนัสเสห์ ลูกชายอีกคนของโยเซฟ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายเรียงตัวทุกคน ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:35 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ามนัสเสห์ มีทั้งหมดสามหมื่นสองพันสองร้อยคน
- กันดารวิถี 1:36 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าเบนยามิน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:37 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าเบนยามิน มีทั้งหมดสามหมื่นห้าพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 1:38 - พวกเขานับลูกหลานเผ่าดาน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:39 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าดาน มีทั้งหมดหกหมื่นสองพันเจ็ดร้อยคน
- กันดารวิถี 1:40 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่าอาเชอร์ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:41 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าอาเชอร์ มีทั้งหมดสี่หมื่นหนึ่งพันห้าร้อยคน
- กันดารวิถี 1:42 - พวกเขานับลูกหลานของเผ่านัฟทาลี ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ
- กันดารวิถี 1:43 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่านัฟทาลี มีทั้งหมดห้าหมื่นสามพันสี่ร้อยคน
- กันดารวิถี 1:44 - โมเสสและอาโรน รวมทั้งผู้นำสิบสองคนจากแต่ละเผ่าของอิสราเอลเป็นผู้นับจำนวนคนเหล่านี้ ผู้นำแต่ละคนก็เป็นตัวแทนของแต่ละครอบครัว
- กันดารวิถี 1:45 - พวกเขานับผู้ชายชาวอิสราเอลทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปและสามารถรับใช้ในกองทัพ ตามครอบครัวของตน
- กันดารวิถี 1:46 - รวมจำนวนคนที่นับได้ทั้งหมดมีหกแสนสามพันห้าร้อยห้าสิบคน
- กันดารวิถี 1:47 - แต่ชาวเผ่าเลวีไม่ได้ถูกนับรวมกับชาวอิสราเอลคนอื่นๆ
- กันดารวิถี 1:48 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 1:49 - “เจ้าต้องไม่นับเผ่าเลวี เจ้าต้องไม่นับพวกเขา รวมกับชาวอิสราเอลคนอื่นๆ
- กันดารวิถี 1:50 - แต่เจ้าต้องตั้งให้คนเลวีรับผิดชอบเต็นท์ที่เก็บข้อตกลงและเครื่องใช้ไม้สอย รวมทั้งของทุกอย่างที่เป็นของเต็นท์นั้น พวกเขาต้องแบกเต็นท์ที่เก็บข้อตกลงและเครื่องใช้ในนั้นทั้งหมด และต้องคอยดูแลของเหล่านั้น พวกเขายังต้องตั้งเต็นท์อยู่รอบๆเต็นท์ที่เก็บข้อตกลงด้วย
- กันดารวิถี 1:51 - เมื่อมีการย้ายเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง พวกเขาจะต้องเป็นผู้รื้อถอนมัน และเมื่อมีการตั้งเต็นท์ ชาวเลวีก็จะเป็นผู้ติดตั้งมัน ถ้าคนอื่นที่ไม่ใช่ชาวเลวีเข้ามาใกล้เต็นท์ที่เก็บข้อตกลง คนๆนั้นต้องถูกฆ่า
- กันดารวิถี 1:52 - ประชาชนชาวอิสราเอลจะตั้งค่ายของพวกเขาแยกต่างหากเป็นกลุ่มเป็นกอง แต่ละคนจะอยู่ตามหน่วยของตนเอง
- กันดารวิถี 1:53 - แต่ชาวเลวีต้องตั้งเต็นท์อยู่รอบๆเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง เพื่อว่าพระเจ้าจะได้ไม่โกรธเคืองชาวอิสราเอลคนอื่น เพราะชาวเลวีจะเป็นยามเฝ้าระวังไม่ให้ชาวอิสราเอลล่วงล้ำเข้าไปในเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง”
- กันดารวิถี 1:54 - ประชาชนชาวอิสราเอลจึงทำทุกสิ่งตามที่พระยาห์เวห์สั่งโมเสสไว้
- ปฐมกาล 35:23 - ลูกที่เกิดจากเลอาห์คือ รูเบน (ลูกคนโตของยาโคบ) สิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ และเศบูลุน
- กันดารวิถี 10:1 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 10:2 - “ให้ทำแตรเงินสองอันสำหรับตัวเจ้า ให้เอาเงินมาทุบเป็นแตรสองอันนั้น แตรสองอันนี้เอาไว้เป่าเรียกคนมาชุมนุมกัน หรือเป่าบอกให้คนเคลื่อนย้ายเต็นท์
- กันดารวิถี 10:3 - เมื่อเป่าแตรทั้งสองด้วยเสียงยาว ให้คนมาชุมนุมกันต่อหน้าเจ้าที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ
- กันดารวิถี 10:4 - แต่ถ้าเป่าแค่อันเดียว ก็ให้พวกผู้นำ ที่เป็นหัวหน้าของตระกูลต่างๆของอิสราเอลมาชุมนุมกันต่อหน้าเจ้า
- กันดารวิถี 10:5 - เมื่อพวกเจ้าเป่าแตรเสียงสั้น ให้ค่ายทางตะวันออกเคลื่อนที่
- กันดารวิถี 10:6 - เมื่อพวกเจ้าเป่าแตรเป็นเสียงสั้นครั้งที่สอง ให้ค่ายทางด้านใต้เคลื่อนที่ พวกเขาต้องเป่าแตรเสียงสั้นเพื่อบอกให้พวกเขาเคลื่อนย้าย
- กันดารวิถี 10:7 - แต่เมื่อเจ้าจะเรียกประชุมเจ้าต้องเป่าเสียงยาว ไม่ใช่เสียงสั้น
- กันดารวิถี 10:8 - ให้พวกลูกชายของอาโรนที่เป็นนักบวชทั้งหลายนั้นเป็นคนเป่าแตร นี่เป็นกฎสำหรับเจ้าที่จะใช้ตลอดไปชั่วลูกชั่วหลาน
- กันดารวิถี 10:9 - เมื่อเจ้าต้องออกไปทำสงครามกับศัตรูที่มาบุกรุกแผ่นดินของเจ้า เจ้าต้องเป่าแตรทั้งสองด้วยเสียงสั้น และยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าจะได้ยินและจะช่วยให้เจ้าปลอดภัยจากศัตรูของเจ้า
- กันดารวิถี 10:10 - ในเวลาที่พวกเจ้ามีงานรื่นเริง งานเทศกาลต่างๆและงานฉลองเริ่มเดือนใหม่ ให้พวกเจ้าเป่าแตร เมื่อพวกเจ้าถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องสังสรรค์บูชาของพวกเจ้า เสียงแตรจะเป็นวิธีที่ทำให้พระเจ้านึกถึงเจ้า เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า”
- กันดารวิถี 10:11 - ในวันที่ยี่สิบของเดือนที่สองของปีที่สอง เมฆได้ลอยขึ้นจากเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ที่เก็บข้อตกลง
- กันดารวิถี 10:12 - ชาวอิสราเอลจึงออกเดินทางจากที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งซีนาย เมฆลอยมาหยุดอยู่ที่ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งปาราน
- กันดารวิถี 10:13 - นี่จึงเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเคลื่อนย้าย ตามสัญญาณของพระยาห์เวห์ ที่สั่งผ่านมาทางโมเสส
- กันดารวิถี 10:14 - ค่ายแรกที่ออกนำหน้าคือค่ายของยูดาห์ มีสามเผ่าจากค่ายนี้ คือเผ่าของยูดาห์ มีนาโชนลูกชายของอัมมีนาดับเป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:15 - เผ่าของอิสสาคาร์ มีเนธันเอลลูกชายของศุอาร์เป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:16 - เผ่าเศบูลุนมีเอลีอับลูกชายเฮโลนเป็นผู้นำกอง ทั้งหมดเดินอยู่ภายใต้กองของตนเอง
- กันดารวิถี 10:17 - แล้วพวกเขาก็ได้รื้อเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ลง ชาวเกอร์โชนและชาวเมรารีได้แบกเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์นั้นออกเดินทางเป็นกองต่อไป
- กันดารวิถี 10:18 - ต่อจากนั้นเป็นค่ายของรูเบน มีสามเผ่าจากค่ายนี้ คือเผ่ารูเบน มีเอลีซูร์ลูกชายเชเดเออร์เป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:19 - เผ่าสิเมโอนมีเชลูมิเอลลูกชายศูริชัดดัยเป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:20 - เผ่ากาด มีเอลียาสาฟลูกชายเดอูเอลเป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:21 - ต่อจากนั้น ก็เป็นพวกชาวโคฮาท พวกนี้แบกของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆในเต็นท์ตามไป เพื่อจะได้ไปถึงตอนที่เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ตั้งเสร็จแล้วในที่ใหม่
- กันดารวิถี 10:22 - ต่อจากนั้นก็เป็นค่ายของเอฟราอิม ค่ายนี้มีสามเผ่า คือเผ่าเอฟราอิม มีเอลีชามาลูกชายของอัมมีฮูดเป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:23 - เผ่ามนัสเสห์ มีกามาลิเอลลูกชายของเปดาซูร์เป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:24 - เผ่าเบนยามิน มีอาบีดันลูกชายของกิเดโอนีเป็นผู้นำกอง ทั้งหมดเดินอยู่ภายใต้กองของตน
- กันดารวิถี 10:25 - ค่ายที่คอยระวังท้ายให้ คือค่ายของดาน ค่ายนี้มีสามเผ่า คือเผ่าดาน มีอาหิเยเซอร์ลูกชายอัมมีชัดดัยเป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:26 - เผ่าอาเชอร์ มีปากีเอลลูกชายของโอครานเป็นผู้นำกอง
- กันดารวิถี 10:27 - เผ่านัฟทาลี มีอาหิราลูกชายของเอนันเป็นผู้นำกอง ทั้งหมดก็เดินอยู่ภายใต้กองของตน
- กันดารวิถี 10:28 - เวลาที่ชาวอิสราเอลเคลื่อนย้าย พวกเขาก็เคลื่อนขบวน เป็นกองๆตามลำดับอย่างนี้
- กันดารวิถี 10:29 - โมเสสพูดกับโฮบับลูกชายเรอูเอลชาวมีเดียน (เรอูเอลเป็นพ่อตาของโมเสส) ว่า “พวกเรากำลังเดินทางไปยังสถานที่ที่พระยาห์เวห์บอกว่าจะยกให้กับพวกเรา ไปกับพวกเราสิ เราจะดีกับท่าน เพราะพระยาห์เวห์สัญญาที่จะให้สิ่งดีๆกับชาวอิสราเอล”
- กันดารวิถี 10:30 - แต่โฮบับตอบโมเสสว่า “ผมไม่ไปหรอก ผมจะกลับไปแผ่นดินของผม กลับไปหาครอบครัวของผม”
- กันดารวิถี 10:31 - โมเสสจึงพูดว่า “อย่าได้ทิ้งพวกเราไปเลย เพราะท่านรู้ว่าพวกเราควรจะตั้งค่ายที่ไหนในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง ช่วยนำทางพวกเราหน่อย
- กันดารวิถี 10:32 - ถ้าท่านไปกับพวกเรา ไม่ว่าพระยาห์เวห์ให้สิ่งที่ดีๆอะไรกับเรา เราก็จะแบ่งสิ่งดีๆนั้นให้กับท่านด้วย”
- กันดารวิถี 10:33 - พวกเขาจึงเคลื่อนออกจากภูเขาของพระยาห์เวห์ แล้วเดินทางไปเป็นเวลาสามวัน ตลอดสามวันนั้น นักบวชได้แบกหีบศักดิ์สิทธิ์ที่ใส่ข้อตกลงของพระยาห์เวห์ เดินนำหน้าพวกเขาอยู่ตลอดเวลา เพื่อหาที่ที่จะให้พวกเขาตั้งค่าย
- กันดารวิถี 10:34 - เมฆของพระยาห์เวห์ลอยอยู่เหนือพวกเขาทุกวันตั้งแต่ออกจากค่ายมา
- กันดารวิถี 10:35 - ทุกครั้งที่หีบศักดิ์สิทธิ์เคลื่อนออกจากค่าย โมเสสจะพูดว่า “ลุกขึ้นเถิด พระยาห์เวห์ ให้ศัตรูของพระองค์กระจัดกระจายไป ให้คนที่เกลียดชังพระองค์ วิ่งหนีพระองค์ไป”
- กันดารวิถี 10:36 - และทุกครั้งที่เขาวางหีบศักดิ์สิทธิ์ลง โมเสสจะพูดว่า “กลับมาเถิด พระยาห์เวห์ มาสู่ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนนี้”
- ปฐมกาล 29:32 - นางเลอาห์ก็ตั้งท้องและคลอดลูกชาย นางตั้งชื่อเขาว่ารูเบน เพราะนางพูดว่า “พระยาห์เวห์มองเห็นความอัปยศอดสูของฉันจริงๆ ตอนนี้สามีของฉันต้องรักฉันแน่ๆ”
- ปฐมกาล 29:33 - เลอาห์ก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายอีกคนหนึ่ง นางพูดว่า “เพราะพระยาห์เวห์ได้ยินว่าฉันเป็นที่เกลียดชัง พระองค์จึงให้ลูกชายคนนี้กับฉัน” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าสิเมโอน
- ปฐมกาล 29:34 - เลอาห์ได้ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายอีกคน นางพูดว่า “คราวนี้สามีฉันต้องใกล้ชิดกับฉัน เพราะฉันคลอดลูกชายให้กับเขาถึงสามคน” นางจึงตั้งชื่อลูกชายคนนี้ว่าเลวี
- ปฐมกาล 29:35 - แล้วเลอาห์ก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายอีกคนหนึ่ง นางพูดว่า “ครั้งนี้ฉันจะสรรเสริญพระยาห์เวห์” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่ายูดาห์ แล้วนางก็ไม่มีลูกอีก
- ปฐมกาล 30:17 - พระยาห์เวห์ได้ตอบคำอธิษฐานของเลอาห์ นางจึงตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายคนที่ห้า
- ปฐมกาล 30:18 - นางพูดว่า “พระเจ้าได้ให้บำเหน็จกับฉัน เพราะฉันได้ยกสาวใช้ของฉันให้กับสามีฉัน” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าอิสสาคาร์
- ปฐมกาล 30:19 - แล้วเลอาห์ก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายคนที่หกให้ยาโคบ
- ปฐมกาล 30:20 - นางพูดว่า “พระองค์ได้ให้ของขวัญที่ดีกับฉัน คราวนี้สามีฉันจะต้องให้เกียรติกับฉัน เพราะฉันได้คลอดลูกชายให้กับเขาถึงหกคน” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าเศบูลุน
- ปฐมกาล 30:21 - ต่อมาเลอาห์ก็คลอดลูกสาว และตั้งชื่อเธอว่าดีนาห์