逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - ยูดาห์ พี่น้องของเจ้าจะสรรเสริญเจ้า เจ้าจะเอาชนะศัตรู บรรดาพี่น้องจะต้องมาคำนับเจ้า
- 新标点和合本 - “犹大啊,你弟兄们必赞美你; 你手必掐住仇敌的颈项; 你父亲的儿子们必向你下拜。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 犹大啊,你的兄弟必赞美你, 你的手必掐住仇敌的颈项, 你父亲的儿子要向你下拜。
- 和合本2010(神版-简体) - 犹大啊,你的兄弟必赞美你, 你的手必掐住仇敌的颈项, 你父亲的儿子要向你下拜。
- 当代译本 - “犹大啊,你的兄弟们必赞美你, 你的手必掐住仇敌的颈项, 你父亲的儿子必向你下拜。
- 圣经新译本 - 犹大啊,你的兄弟们要称赞你; 你的手必压住仇敌的颈项; 你父亲的众子必向你下拜。
- 中文标准译本 - 犹大啊,你的兄弟们必称赞你, 你的手必压住仇敌的颈项, 你父亲的众子必向你下拜。
- 现代标点和合本 - 犹大啊,你弟兄们必赞美你, 你手必掐住仇敌的颈项, 你父亲的儿子们必向你下拜。
- 和合本(拼音版) - “犹大啊,你弟兄们必赞美你, 你手必掐住仇敌的颈项, 你父亲的儿子们必向你下拜。
- New International Version - “Judah, your brothers will praise you; your hand will be on the neck of your enemies; your father’s sons will bow down to you.
- New International Reader's Version - “Judah, your brothers will praise you. Your enemies will be brought under your control. Your father’s sons will bow down to you.
- English Standard Version - “Judah, your brothers shall praise you; your hand shall be on the neck of your enemies; your father’s sons shall bow down before you.
- New Living Translation - “Judah, your brothers will praise you. You will grasp your enemies by the neck. All your relatives will bow before you.
- The Message - You, Judah, your brothers will praise you: Your fingers on your enemies’ throat, while your brothers honor you. You’re a lion’s cub, Judah, home fresh from the kill, my son. Look at him, crouched like a lion, king of beasts; who dares mess with him? The scepter shall not leave Judah; he’ll keep a firm grip on the command staff Until the ultimate ruler comes and the nations obey him. He’ll tie up his donkey to the grapevine, his purebred prize to a sturdy branch. He will wash his shirt in wine and his cloak in the blood of grapes, His eyes will be darker than wine, his teeth whiter than milk.
- Christian Standard Bible - Judah, your brothers will praise you. Your hand will be on the necks of your enemies; your father’s sons will bow down to you.
- New American Standard Bible - “As for you, Judah, your brothers shall praise you; Your hand shall be on the neck of your enemies; Your father’s sons shall bow down to you.
- New King James Version - “Judah, you are he whom your brothers shall praise; Your hand shall be on the neck of your enemies; Your father’s children shall bow down before you.
- Amplified Bible - “Judah, you are the one whom your brothers shall praise; Your hand will be on the neck of your enemies; Your father’s sons shall bow down to you.
- American Standard Version - Judah, thee shall thy brethren praise: Thy hand shall be on the neck of thine enemies; Thy father’s sons shall bow down before thee.
- King James Version - Judah, thou art he whom thy brethren shall praise: thy hand shall be in the neck of thine enemies; thy father's children shall bow down before thee.
- New English Translation - Judah, your brothers will praise you. Your hand will be on the neck of your enemies, your father’s sons will bow down before you.
- World English Bible - “Judah, your brothers will praise you. Your hand will be on the neck of your enemies. Your father’s sons will bow down before you.
- 新標點和合本 - 猶大啊,你弟兄們必讚美你; 你手必掐住仇敵的頸項; 你父親的兒子們必向你下拜。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 猶大啊,你的兄弟必讚美你, 你的手必掐住仇敵的頸項, 你父親的兒子要向你下拜。
- 和合本2010(神版-繁體) - 猶大啊,你的兄弟必讚美你, 你的手必掐住仇敵的頸項, 你父親的兒子要向你下拜。
- 當代譯本 - 「猶大啊,你的兄弟們必讚美你, 你的手必掐住仇敵的頸項, 你父親的兒子必向你下拜。
- 聖經新譯本 - 猶大啊,你的兄弟們要稱讚你; 你的手必壓住仇敵的頸項; 你父親的眾子必向你下拜。
- 呂振中譯本 - 猶大 啊,你弟兄們必稱讚 你; 你的手必掐住你仇敵的脖子; 你父親的兒子們必向你下拜。
- 中文標準譯本 - 猶大啊,你的兄弟們必稱讚你, 你的手必壓住仇敵的頸項, 你父親的眾子必向你下拜。
- 現代標點和合本 - 猶大啊,你弟兄們必讚美你, 你手必掐住仇敵的頸項, 你父親的兒子們必向你下拜。
- 文理和合譯本 - 維汝猶大、兄弟頌揚、爾父之子、伏拜爾前、爾手扼敵之頸、
- 文理委辦譯本 - 猶大與、兄弟必頌美爾、爾父之子、伏拜爾前、爾必扼敵之吭。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 維爾 猶大 、兄弟所贊、爾手必扼敵之頸項、爾父之子、必跪拜爾、
- Nueva Versión Internacional - »Tú, Judá, serás alabado por tus hermanos; dominarás a tus enemigos, y tus propios hermanos se inclinarán ante ti.
- 현대인의 성경 - “유다야, 너는 네 형제들의 찬양을 받을 것이다. 네 손이 네 원수의 목덜미를 잡을 것이며 네 형제들이 네 앞에서 절할 것이다.
- Новый Русский Перевод - Иуда, твои братья восхвалят тебя , рука твоя будет на шее твоих врагов, сыновья твоего отца будут кланяться тебе.
- Восточный перевод - Иуда, твои братья восхвалят тебя ; рука твоя будет на шее твоих врагов; сыновья твоего отца будут кланяться тебе.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Иуда, твои братья восхвалят тебя ; рука твоя будет на шее твоих врагов; сыновья твоего отца будут кланяться тебе.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Иуда, твои братья восхвалят тебя ; рука твоя будет на шее твоих врагов; сыновья твоего отца будут кланяться тебе.
- La Bible du Semeur 2015 - O toi, Juda, ╵tes frères te rendront hommage, ta main fera ployer ╵la nuque de tes ennemis, et les fils de ton père ╵se prosterneront devant toi.
- リビングバイブル - ユダよ。兄弟はおまえをたたえる。おまえは敵を滅ぼし、兄弟はみなおまえにひざまずく。
- Nova Versão Internacional - “Judá, seus irmãos o louvarão, sua mão estará sobre o pescoço dos seus inimigos; os filhos de seu pai se curvarão diante de você.
- Hoffnung für alle - Juda, dich loben deine Brüder! Du bezwingst deine Feinde und wirst von allen Söhnen deines Vaters verehrt.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Giu-đa! Con được các anh em ca tụng. Vì con chiến thắng kẻ thù xâm lăng.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - “ยูดาห์ เอ๋ย พี่น้องของเจ้าจะสรรเสริญเจ้า มือของเจ้าจะขย้ำที่คอของศัตรู พี่น้องร่วมสายโลหิตจะก้มกราบเจ้า
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ยูดาห์เอ๋ย พี่น้องของเจ้าจะยกย่องเจ้า ศัตรูของเจ้าจะอยู่ในเงื้อมมือของเจ้า พี่น้องของเจ้าจะก้มลงกราบเจ้า
- Thai KJV - ยูดาห์เอ๋ย พวกพี่น้องจะสรรเสริญเจ้า มือของเจ้าจะจับคอของศัตรูของเจ้า บุตรทั้งหลายของบิดาจะกราบเจ้า
交叉引用
- 2 ซามูเอล 22:41 - พระองค์ทำให้ศัตรูของข้าพเจ้าหันหลังหนีไป ข้าพเจ้าก็โค่นคนพวกนั้นที่เกลียดชังข้าพเจ้าลง
- 2 ซามูเอล 5:3 - เมื่อพวกผู้นำอาวุโสทั้งหมดของอิสราเอลมาหากษัตริย์ดาวิดที่เมืองเฮโบรน กษัตริย์ดาวิดได้ทำสัญญากับพวกเขาที่เมืองเฮโบรนต่อหน้าพระยาห์เวห์ และพวกเขาก็ได้เจิมดาวิดเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล
- โยชูวา 10:24 - เมื่อพวกเขานำตัวกษัตริย์เหล่านั้นออกมายังโยชูวา โยชูวาจึงเรียกประชุมชาวอิสราเอลทั้งหมด และเขาได้พูดกับพวกแม่ทัพที่ได้ร่วมออกรบกับเขาว่า “มานี่สิ และเอาเท้าของพวกท่านเหยียบคอกษัตริย์เหล่านี้ไว้” พวกเขาจึงเข้ามาและเอาเท้าวางไว้บนคอของกษัตริย์ทั้งห้าคนนั้น
- ผู้วินิจฉัย 1:1 - หลังจากโยชูวาตาย ชาวอิสราเอลได้ถามพระยาห์เวห์ว่า “ในพวกเราเผ่าไหนจะเป็นเผ่าแรกที่ขึ้นไปสู้รบกับชาวคานาอันหรือ”
- ผู้วินิจฉัย 1:2 - พระยาห์เวห์ตอบว่า “ให้ยูดาห์ขึ้นไปเป็นเผ่าแรก ดูสิ เราได้มอบแผ่นดินนั้นไว้ในมือของพวกเขาแล้ว”
- ปฐมกาล 44:18 - ยูดาห์เข้าไปใกล้โยเซฟและพูดว่า “นายท่าน ขอโปรดให้ข้าพเจ้าทาสของท่าน ได้พูดบางอย่างกับท่าน ผู้เป็นเจ้านายของข้าพเจ้าด้วยเถิด และขอท่านอย่าได้โกรธข้าพเจ้า ทาสของท่านเลย เพราะท่านเป็นเหมือนฟาโรห์
- ปฐมกาล 44:19 - ท่าน เจ้านายของข้าพเจ้า ได้ถามพวกเราทาสของท่านว่า ‘พวกเจ้ามีพ่อหรือน้องชายหรือเปล่า’
- ปฐมกาล 44:20 - พวกเราก็บอกท่าน เจ้านายของข้าพเจ้าว่า ‘พวกเรายังมีพ่อที่แก่แล้ว และน้องชายคนเล็ก ที่เกิดมาตอนพ่อแก่แล้ว และพี่ชายของเขาที่เกิดจากแม่เดียวกันก็ได้ตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องชายคนนี้คนเดียวเท่านั้น ดังนั้นพ่อของเราจึงรักเขามาก’
- ปฐมกาล 44:21 - แล้วท่านบอกกับพวกเรา ทาสของท่านว่า ‘ไปเอาเขาลงมาหาเรา เราจะได้เห็นเขากับตาตัวเอง’
- ปฐมกาล 44:22 - แต่พวกเราได้บอกกับท่าน เจ้านายของข้าพเจ้าว่า ‘เด็กคนนั้นจะทิ้งพ่อของเขามาไม่ได้ ถ้าเขาทิ้งพ่อของเขามา พ่อของเขาจะตาย’
- ปฐมกาล 44:23 - แล้วท่านบอกกับพวกเราทาสของท่านว่า ‘พวกเจ้าจะไม่ได้เห็นหน้าเราอีก นอกจากจะพาน้องคนสุดท้องมาด้วยเท่านั้น’
- ปฐมกาล 44:24 - เมื่อพวกเรากลับไปหาพ่อของพวกเรา ทาสของท่าน พวกเรากลับไปเล่าให้พ่อฟังถึงสิ่งที่ท่านพูด
- ปฐมกาล 44:25 - พ่อของพวกเราพูดว่า ‘กลับไปซื้ออาหารมาให้กับพวกเรา’
- ปฐมกาล 44:26 - แต่พวกเราบอกว่า ‘พวกเรากลับไปที่นั่นไม่ได้แล้ว แต่ถ้าน้องชายคนสุดท้องไปกับพวกเราด้วย พวกเราถึงจะกลับไปได้ เพราะพวกเราไม่สามารถพบหน้าชายคนนั้นได้ นอกจากน้องชายคนสุดท้องจะไปกับพวกเรา’
- ปฐมกาล 44:27 - แล้วพ่อของพวกเรา ทาสของท่าน บอกกับพวกเราว่า ‘พวกเจ้ารู้ว่านางราเชลเมียของพ่อได้คลอดลูกชายสองคนให้กับพ่อ
- ปฐมกาล 44:28 - คนหนึ่งได้จากพ่อไปแล้ว และพ่อบอกว่า เขาคงถูกสัตว์ป่าฉีกเนื้อตายไปแล้ว และพ่อไม่เคยเห็นเขาอีกเลยจนถึงทุกวันนี้
- ปฐมกาล 44:29 - ถ้าเจ้าเอาเด็กคนนี้ไปจากพ่ออีกคน ถ้ามีอันตรายเกิดขึ้นกับเขา พวกเจ้าคงจะต้องส่งคนแก่หัวหงอกอย่างพ่อให้ลงไปในแดนคนตาย เพราะความเศร้าโศกเสียใจ’
- ปฐมกาล 44:30 - ตอนนี้ถ้าข้าพเจ้ากลับไปหาพ่อ ทาสของท่าน โดยที่ไม่มีเด็กคนนี้ไปด้วย และเนื่องจากเด็กคนนี้สำคัญมากต่อเขา
- ปฐมกาล 44:31 - เมื่อเขาเห็นว่าเด็กคนนี้ไม่ได้กลับมากับพวกเราด้วย เขาจะต้องตายแน่ และพวกเรา ทาสของท่าน จะเป็นเหตุที่ทำให้พ่อของพวกเราทาสของท่าน ลงไปในแดนคนตายเพราะความเศร้าโศกเสียใจอย่างยิ่ง
- ปฐมกาล 44:32 - เนื่องจากข้าพเจ้า ทาสของท่าน ได้รับปากกับพ่อของข้าพเจ้าสำหรับเด็กนั้น ข้าพเจ้าบอกพ่อว่า ‘ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้เอาเขากลับมาให้พ่อ พ่อก็ไม่ต้องยกโทษให้กับผมเลยตลอดชีวิต’
- ปฐมกาล 44:33 - ตอนนี้ ขอได้โปรดให้ข้าพเจ้า ทาสของท่าน อยู่เป็นทาสของท่าน เจ้านายของข้าพเจ้า แทนเด็กคนนั้นด้วยเถิดครับ และขอให้ปล่อยเด็กคนนั้นกลับไปกับพวกพี่ชายของเขาด้วยเถิด
- ปฐมกาล 44:34 - เพราะข้าพเจ้าจะกลับไปหาพ่อได้ยังไง ถ้าไม่มีเด็กคนนี้ไปด้วย ข้าพเจ้าไม่กล้าไปเห็นความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นกับพ่อของข้าพเจ้าหรอกครับ”
- อิสยาห์ 9:7 - สิทธิอำนาจของพระองค์ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะมีสันติสุขสำหรับบัลลังก์ของดาวิดและอาณาจักรของพระองค์อย่างไม่มีวันสิ้นสุด พระองค์จะก่อตั้งอาณาจักรของพระองค์ขึ้นและพยุงมันไว้ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรมตั้งแต่เดี๋ยวนี้ไปจนตลอดกาล ความรักอันหวงแหนของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะทำให้สิ่งนี้สำเร็จ
- ปฐมกาล 46:12 - ลูกชายของยูดาห์ คือ เอร์ โอนัน เชลาห์ เปเรศ เศราห์ แต่เอร์และโอนันได้ตายในแผ่นดินคานาอัน ลูกชายของเปเรศคือ เฮสโรนและฮามูล
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:1 - กษัตริย์ซาโลมอนได้ปกครองชนชาติอิสราเอลทั้งหมด
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:2 - และต่อไปนี้คือข้าราชการระดับสูงทั้งหมดของเขา อาซาริยาห์ลูกชายของศาโดกเป็นนักบวช
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:3 - เอลีโฮเรฟและอาหิยาห์ลูกชายของชิชา เป็นเลขานุการ เยโฮชาฟัทลูกชายของอาหิลูดเป็นผู้จดบันทึก
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:4 - เบไนยาห์ลูกชายเยโฮยาดา เป็นแม่ทัพ ศาโดกและอาบียาธาร์เป็นนักบวช
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:5 - อาซาริยาห์ลูกชายของนาธัน เป็นหัวหน้าดูแลพวกผู้ว่าการเขตต่างๆ ศบุดลูกชายของนาธันเป็นนักบวชและเป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:6 - อาหิชาร์ทำหน้าที่ดูแลภายในวัง อาโดนีรัมลูกชายของอับดาทำหน้าที่ควบคุมคนงานที่ถูกเกณฑ์มา
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:7 - ซาโลมอนยังมีผู้ว่าการเขตต่างๆอีกสิบสองคน ทำหน้าที่ดูแลชนชาติอิสราเอลทั้งหมด ซึ่งพวกเขาจะช่วยเหลือในการจัดหาเสบียงอาหารให้กับกษัตริย์และครอบครัวกษัตริย์ทั้งหมด ผู้ว่าการแต่ละคนจะต้องจัดส่งเสบียงอาหารมาให้หนึ่งเดือนในหนึ่งปี
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:8 - และต่อไปนี้คือชื่อของพวกเขา เบนเฮอร์ เป็นผู้ว่าอยู่ในแถบเนินเขาเอฟราอิม
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:9 - เบนเดเคอร์ เป็นผู้ว่าสำหรับ มาคาส ชาอัลบิม เบธเชเมชและเอโลน-เบธฮานัน
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:10 - เบนเฮเสด เป็นผู้ว่าใน อารุบโบท (โสโคห์และแผ่นดินเฮเฟอร์ทั้งหมดอยู่ใต้อำนาจเขา)
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:11 - เบนอาบีนาดับ เป็นผู้ว่าใน นาฟาทโดร์ (เขาแต่งงานกับทาฟัทลูกสาวของซาโลมอน)
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:12 - บาอานาลูกชายของอาหิลูด เป็นผู้ว่าในทาอานาคเมกิดโดและเบธชานทั้งหมดซึ่งอยู่ถัดจากศาเรธานและอยู่ทางด้านใต้ของยิสเรเอล และตั้งแต่เบธชานถึงอาเบลเมโฮลาห์เลยไปถึงอีกฝากหนึ่งของโยกเมอัม
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:13 - เบนเกเบอร์ เป็นผู้ว่าใน ราโมทกิเลอาด (ยาอีร์ลูกชายของมนัสเสห์ที่ได้ตั้งรกรากอยู่ในกิเลอาดอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา รวมทั้งเขตอารโกบในบาชานและเมืองอีกหกสิบเมืองในนั้นที่มีกำแพงสูงใหญ่และมีดานประตูที่ทำจากทองสัมฤทธิ์ด้วย)
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:14 - อาหินาดับลูกชายของอิดโด เป็นผู้ว่าในมาหะนาอิม
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:15 - อาหิมาอัส เป็นผู้ว่าในนัฟทาลี (เขาได้แต่งงานกับบาเสมัทลูกสาวของซาโลมอน)
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:16 - บาอานาลูกชายของหุชัย เป็นผู้ว่าในอาเชอร์และเบอาโลท
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:17 - เยโฮชาฟัทลูกชายของปารูอาห์ เป็นผู้ว่าในอิสสาคาร์
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:18 - ชิเมอีลูกชายของเอลา เป็นผู้ว่าในเบนยามิน
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:19 - เกเบอร์ลูกชายของอุรี เป็นผู้ว่าในแผ่นดินกิเลอาด (ซึ่งเคยเป็นของกษัตริย์สิโหนของชาวอาโมไรต์และกษัตริย์โอกของบาชาน) เขาเป็นผู้ว่าการเพียงคนเดียวที่ปกครองเขตนั้น
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:20 - ชาวยูดาห์และชาวอิสราเอลมีจำนวนมากมายมหาศาลเหมือนเม็ดทรายบนหาดทราย พวกเขาอยู่กันอย่างมีความสุข และมีกินมีดื่มกันอย่างเหลือเฟือ
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:21 - ซาโลมอนได้ปกครองเหนือพวกอาณาจักรทั้งสิ้น ตั้งแต่แม่น้ำยูเฟรติสไปจนถึงแผ่นดินของชาวฟีลิสเตียและไปจนสุดเขตแดนของประเทศอียิปต์ ประเทศเหล่านี้ได้ส่งส่วย และอยู่ภายใต้อำนาจของซาโลมอนตลอดชีวิตของซาโลมอน
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:22 - เสบียงอาหารที่ซาโลมอนกับทุกคนในวังจะต้องใช้กินกันในแต่ละวัน คือ แป้งอย่างดีสามสิบโคเร แป้งหยาบหกสิบโคเร
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:23 - วัวที่เลี้ยงในคอกสัตว์จนอ้วนพีสิบตัว วัวที่เลี้ยงในทุ่งหญ้ายี่สิบตัว แกะหนึ่งร้อยตัว รวมทั้งกวาง เนื้อทรายและละมั่งตัวผู้ อีกหลายตัว และสัตว์ปีกที่ขุนไว้แล้ว
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:24 - ซาโลมอนปกครองอยู่เหนือแผ่นดินทั้งหมดและเหนือกษัตริย์ทั้งหลายที่อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส จากทิฟสาห์ไปจนถึงกาซา และมีสันติภาพอยู่รอบด้าน
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:25 - ตลอดช่วงชีวิตของซาโลมอน ชาวยูดาห์และชาวอิสราเอลตั้งแต่ดานจนถึงเบเออร์เชบา ทุกคนต่างมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย นั่งอยู่ใต้เถาองุ่นและต้นมะเดื่อของตน
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:26 - ซาโลมอนมีคอกขังม้าแต่ละตัวอยู่สี่พัน คอก เป็นม้าสำหรับลากรถรบ และมีทหารบนรถม้าอยู่หนึ่งหมื่นสองพันคน
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:27 - ผู้ว่าของแต่ละเขต เมื่อถึงเวลาที่จะต้องจัดส่งเสบียงอาหารให้กษัตริย์และคนทั้งหมดที่นั่งกินร่วมโต๊ะกับกษัตริย์ พวกเขาต่างก็ส่งเสบียงมาตามเดือนของตน และไม่ให้มีสิ่งใดขาดตกบกพร่องเลย
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:28 - พวกเขายังได้นำข้าวบาร์เลย์และฟางสำหรับพวกม้าลากรถรบและพวกม้าอื่นๆไปเก็บไว้ตามสถานที่ของมัน
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:29 - พระเจ้าได้ให้ซาโลมอนมีความเฉลียวฉลาดและการมองที่ทะลุปรุโปร่งและมีความเข้าใจมากมายเหมือนกับเม็ดทรายบนชายหาด
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:30 - ความเฉลียวฉลาดของซาโลมอนนั้นเหนือกว่าความฉลาดของทุกคนในฝั่งตะวันออก และเหนือกว่าความเฉลียวฉลาดทั้งสิ้นของคนในประเทศอียิปต์
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:31 - เขาฉลาดกว่าใครๆทั้งหมด แม้แต่เอธานชาวเอสราห์ หรือพวกลูกชายของมาโฮล คือเฮมาน คาลโคล์ และดารดา ชื่อเสียงของซาโลมอนได้เลื่องลือไปทั่วทุกชาติที่อยู่ล้อมรอบ
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:32 - เขาได้พูด คำสุภาษิต ไว้ถึงสามพันข้อ และบทเพลงต่างๆของเขาก็มีจำนวนถึงหนึ่งพันกับห้าเพลง
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:33 - ซาโลมอนได้บรรยายถึงชีวิตของพืช ตั้งแต่ต้นสนซีดาร์ของเลบานอนไปจนถึงต้นหุสบที่งอกออกมาจากกำแพงต่างๆ เขายังสอนเกี่ยวกับพวกสัตว์และนก สัตว์เลื้อยคลาน และปลา
- 1 พงศ์กษัตริย์ 4:34 - คนจากทุกชาติต่างก็มาฟังความเฉลียวฉลาดของซาโลมอน ซึ่งคนเหล่านี้ถูกส่งมาจากกษัตริย์ทั่วโลกที่ได้ข่าวเกี่ยวกับความเฉลียวฉลาดของเขา
- 2 พงศาวดาร 11:12 - เขาเอาโล่และหอกมาเก็บไว้ในเมืองเหล่านั้นทั้งหมด และทำให้เมืองเหล่านั้นแข็งแกร่ง ดังนั้น ยูดาห์และเบนยามินอยู่ในการครอบครองของเขา
- 2 พงศาวดาร 11:13 - พวกนักบวชและชาวเลวีมาจากทั่วทั้งอิสราเอล ได้มาอยู่ฝ่ายเดียวกับเรโหโบอัม
- 2 พงศาวดาร 11:14 - ชาวเลวีได้ละทิ้งดินแดนแห่งทุ่งหญ้าและที่ดินของพวกเขา และเดินทางมาที่ยูดาห์และเยรูซาเล็ม เพราะเยโรโบอัมกับพวกลูกชายของเขาไม่ยอมให้พวกนี้รับใช้ในฐานะนักบวชของพระยาห์เวห์
- 2 พงศาวดาร 11:15 - และเยโรโบอัมกับพวกลูกชายของเขาก็ได้แต่งตั้งเหล่านักบวชของพวกเขาขึ้นมาเอง เพื่อให้รับใช้อยู่ตามสถานที่สูง กับรับใช้พวกรูปปั้นแพะและรูปปั้นลูกวัวที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมา
- 2 พงศาวดาร 11:16 - คนอื่นๆที่มาจากเผ่าต่างๆของอิสราเอล ที่ยังตั้งใจแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลนั้น ก็ได้ติดตามชาวเลวีเหล่านั้นมาถึงเมืองเยรูซาเล็ม เพื่อที่จะถวายเครื่องสัตวบูชาให้แก่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา
- 2 พงศาวดาร 11:17 - พวกเขาทำให้อาณาจักรของยูดาห์แข็งแกร่งขึ้น และสนับสนุนเรโหโบอัมลูกชายของซาโลมอนอยู่เป็นเวลาสามปี ในช่วงเวลานี้พวกเขาใช้ชีวิตตามอย่างของดาวิดและซาโลมอน
- ผู้วินิจฉัย 20:18 - พวกอิสราเอลได้เตรียมพร้อมและเดินทางไปยังเมืองเบธเอลเพื่อถามพระเจ้าว่า “ใครในพวกเราควรจะขึ้นไปรบกับพวกเบนยามินก่อน” พระยาห์เวห์ว่า “ให้คนยูดาห์ไปก่อน”
- ปฐมกาล 42:6 - ในเวลานั้น โยเซฟเป็นผู้ปกครองเหนือแผ่นดินอียิปต์ทั้งหมด คนที่มาซื้อข้าวในแผ่นดินอียิปต์ จะต้องมาซื้อกับโยเซฟ เมื่อพวกพี่ชายของโยเซฟมาถึง ก็ก้มกราบลงกับพื้นต่อหน้าเขา
- กันดารวิถี 26:22 - นั่นคือพวกตระกูลต่างๆของยูดาห์ รวมคนได้ทั้งหมดเจ็ดหมื่นหกพันห้าร้อยคน
- 1 พงศาวดาร 12:1 - ต่อไปนี้คือคนที่มาหาดาวิดที่ศิกลากในขณะที่ดาวิดยังหลบซ่อนตัวจากซาอูลลูกชายของคีช พวกเขาอยู่ในหมู่นักรบทั้งหลายที่ช่วยเหลือดาวิดในสนามรบ
- 1 พงศาวดาร 12:2 - พวกเขาเป็นนักธนูและสามารถยิงธนูหรือเหวี่ยงก้อนหินจากเชือกสลิงได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา พวกเขามาจากเผ่าเบนยามิน ซึ่งเป็นญาติกับซาอูล
- 1 พงศาวดาร 12:3 - อาหิเยเซอร์ผู้นำของพวกเขา โยอาชลูกชายของเชมาอาห์ชาวเมืองกิเบอาห์ เยซีเอลและเปเลทลูกชายของอัสมาเวท เบราคาห์ และเยฮูชาวอานาโธท
- 1 พงศาวดาร 12:4 - อิชมัยอาห์จากเมืองกิเบโอน (เขาเป็นนักรบคนหนึ่งในหมู่นักรบสามสิบคนและเป็นแม่ทัพของกองทหารสามสิบคนนั้นด้วย) เยเรมียาห์ ยาฮาซีเอล โยฮานัน โยซาบาดชาวเมืองเกเดราห์
- 1 พงศาวดาร 12:5 - เอลูซัย เยรีโมท เบอัลยาห์ เชมาริยาห์ เชฟาทิยาห์จากตระกูลฮารูฟห์
- 1 พงศาวดาร 12:6 - และจากตระกูลโคราห์ มี เอลคานาห์ อิสชีอาห์ อาซาเรล โยเอเซอร์ และยาโชเบอัม
- 1 พงศาวดาร 12:7 - แล้วมีลูกชายของเยโรฮัมจากเมืองเกโดร์ คือโยเอลาห์และเศบาดิยาห์
- 1 พงศาวดาร 12:8 - จากชาวกาดที่ได้หลบหนีไปหาดาวิดที่ป้อม ในทะเลทราย มีทั้งพวกนักรบ คนที่พร้อมที่จะออกรบ ผู้ที่ชำนาญในการใช้โล่และหอก พวกเขาล้วนดุร้ายเหมือนกับสิงโตและรวดเร็วเหมือนเนื้อทราย บนภูเขา คือ
- 1 พงศาวดาร 12:9 - เอเซอร์หัวหน้าของพวกเขา โอบาดียาห์เป็นรองที่สอง เอลีอับเป็นที่สาม
- 1 พงศาวดาร 12:10 - มิชมันนาห์เป็นคนที่สี่ เยเรมียาห์เป็นคนที่ห้า
- 1 พงศาวดาร 12:11 - อัททัยเป็นคนที่หก เอลีเอลเป็นคนที่เจ็ด
- 1 พงศาวดาร 12:12 - โยฮานันเป็นคนที่แปด เอลซาบาดเป็นคนที่เก้า
- 1 พงศาวดาร 12:13 - เยเรมียาห์เป็นคนที่สิบ และมัคบันนัยเป็นคนที่สิบเอ็ด
- 1 พงศาวดาร 12:14 - ชาวกาดเหล่านี้ล้วนเป็นผู้นำของกองทัพ ซึ่งถ้าขนาดเล็กที่สุดก็คือผู้นำกองร้อย ใหญ่ที่สุดก็คือผู้นำกองพัน
- 1 พงศาวดาร 12:15 - คนเหล่านี้คือคนที่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนตอนเดือนที่หนึ่ง ที่มีน้ำไหลบ่าล้นตลิ่ง และพวกเขาได้ขับไล่ผู้คนที่อยู่ตามพวกหุบเขาทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำกระเจิดกระเจิงไป
- 1 พงศาวดาร 12:16 - มีชาวเบนยามินบางกลุ่มและชาวยูดาห์ที่มาเข้าร่วมกับฝ่ายของดาวิดที่ป้อมด้วย
- 1 พงศาวดาร 12:17 - ดาวิดได้ออกไปพบกับพวกเขาและพูดว่า “ถ้าพวกท่านมาหาเราอย่างมิตร เพื่อที่จะมาช่วยเรา เราก็ยินดีที่จะให้พวกท่านเข้าร่วมกับเรา แต่ถ้าพวกท่านจะมาเพื่อที่จะทรยศเรา ทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด ขอพระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเรา มองเห็นและลงโทษพวกท่าน”
- 1 พงศาวดาร 12:18 - แล้วพระวิญญาณก็ลงมาที่ตัวอามาสัยซึ่งเป็นหัวหน้าของกองทัพที่แบ่งทหารพิเศษออกเป็นหน่วยๆหน่วยละสามคน และเขาก็พูดออกมาว่า “พวกเราอยู่ฝ่ายของท่าน ดาวิด พวกเราล้วนอยู่กับท่าน ลูกชายของเจสซี ความสงบสุข ความสงบสุขจงอยู่กับท่านเถิด และความสงบสุขจงอยู่กับผู้ที่ช่วยเหลือท่านเถิด เพราะพระเจ้าของท่านได้ช่วยเหลือท่านแล้ว” ดาวิดจึงต้อนรับพวกเขาและแต่งตั้งให้พวกเขาเป็นผู้นำของกองทหารของดาวิด
- 1 พงศาวดาร 12:19 - คนจากเผ่ามนัสเสห์บางคนได้หลบหนีไปเข้ากับพวกของดาวิดด้วย ตอนที่ดาวิดได้ยกทัพมากับพวกฟีลิสเตียเพื่อต่อสู้กับซาอูล (แต่ดาวิดยังไม่ทันได้ช่วยพวกฟีลิสเตียรบ เพราะพวกหัวหน้าของชาวฟีลิสเตียได้ปรึกษากันแล้วเห็นว่าควรส่งตัวดาวิดกลับไป พวกเขาคุยกันแล้วว่า “ดาวิดจะหนีทัพไปหาซาอูลนายของเขาและมันจะทำให้หัวของพวกเราหลุดออกจากบ่าได้”)
- 1 พงศาวดาร 12:20 - เมื่อดาวิดไปถึงศิกลาก ก็มีคนจากเผ่ามนัสเสห์หลบหนีทัพมาเข้าร่วมกับเขา คือ อัดนาห์ โยซาบาด เยดียาเอล มีคาเอล โยซาบาด เอลีฮูและศิลเลธัยซึ่งเป็นบรรดาหัวหน้ากองพันของเผ่ามนัสเสห์
- 1 พงศาวดาร 12:21 - และพวกเขาก็ได้ช่วยเหลือดาวิดในการต่อสู้กับกองทัพผู้บุกรุกเพราะพวกเขาล้วนเป็นนักรบที่กล้าหาญและพวกเขาก็ได้เป็นแม่ทัพอยู่ในกองทัพของดาวิด
- 1 พงศาวดาร 12:22 - มีคนเข้ามาร่วมอยู่ฝ่ายเดียวกับดาวิดเพิ่มขึ้นวันแล้ววันเล่า เพื่อที่จะช่วยเหลือเขา จนกระทั่งเขามีกองทัพที่ยิ่งใหญ่เหมือนกองทัพของพระเจ้า
- 1 พงศาวดาร 12:23 - ต่อไปนี้คือคนที่พร้อมออกรบ ที่มาอยู่ฝ่ายเดียวกับดาวิดในเมืองเฮโบรน เพื่อจะมอบอาณาจักรของซาอูลให้กับดาวิดตามที่พระยาห์เวห์ได้พูดไว้
- 1 พงศาวดาร 12:24 - จากเผ่าของยูดาห์ มีหกพันแปดร้อยคน ที่ถือโล่และหอกเข้ามารับใช้ในกองทัพ
- 1 พงศาวดาร 12:25 - จากเผ่าสิเมโอน มีทหารกล้าเจ็ดพันหนึ่งร้อยคน
- 1 พงศาวดาร 12:26 - จากเผ่าเลวี มีสี่พันหกร้อยคน
- 1 พงศาวดาร 12:27 - และเยโฮยาดาซึ่งเป็นผู้นำของครอบครัวอาโรนก็นำคนมาด้วยสามพันเจ็ดร้อยคน
- 1 พงศาวดาร 12:28 - และนักรบหนุ่มศาโดกก็มาพร้อมกับแม่ทัพในครอบครัวของเขาอีกยี่สิบสองคน
- 1 พงศาวดาร 12:29 - จากเผ่าเบนยามิน ซึ่งเป็นพี่น้องของซาอูล มีจำนวนสามพันคน ซึ่งเกือบทั้งหมดยังคงจงรักภักดีกับครอบครัวของซาอูลจนกระทั่งเวลานั้น
- 1 พงศาวดาร 12:30 - จากเผ่าเอฟราอิม มีนักรบที่กล้าหาญจำนวนสองหมื่นแปดร้อยคน พวกเขาล้วนเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในตระกูลของพวกเขา
- 1 พงศาวดาร 12:31 - จากครึ่งหนึ่งของคนเผ่ามนัสเสห์ มีจำนวนหนึ่งหมื่นแปดพันคน พวกเขาถูกขานชื่อออกมา เพื่อไปเชิญดาวิดให้มาเป็นกษัตริย์
- 1 พงศาวดาร 12:32 - จากเผ่าอิสสาคาร์ มีหัวหน้าสองร้อยคน ผู้ที่เข้าใจสถานะการณ์ในเวลานั้น และรู้ว่าอิสราเอลควรจะทำอะไรรวมทั้งญาติๆทั้งหมดที่อยู่ภายใต้คำสั่งของพวกเขา
- 1 พงศาวดาร 12:33 - จากเผ่าเศบูลุน มีจำนวนห้าหมื่นคน ที่ต่างก็มาด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน พวกเขาพร้อมรบ ถูกฝึกให้ใช้อาวุธทุกชนิด
- 1 พงศาวดาร 12:34 - จากเผ่านัฟทาลี มีแม่ทัพหนึ่งพันคนและคนในกองทัพที่มากับพวกเขาอีกสามหมื่นเจ็ดพันคน ซึ่งมีโล่และหอกเป็นอาวุธ
- 1 พงศาวดาร 12:35 - จากเผ่าดาน มีจำนวนสองหมื่นแปดพันหกร้อยคนพร้อมอาวุธ
- 1 พงศาวดาร 12:36 - จากเผ่าอาเชอร์ มีจำนวนสี่หมื่นคน เตรียมพร้อมสำหรับงานรับใช้ในกองทัพ และพร้อมรบ
- 1 พงศาวดาร 12:37 - จากอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน จากคนเผ่ารูเบน เผ่ากาด และครึ่งหนึ่งของคนเผ่ามนัสเสห์ มีจำนวนหนึ่งแสนสองหมื่นคน มีอาวุธทุกชนิด
- 1 พงศาวดาร 12:38 - พวกนักรบทั้งหมดนี้ได้มารวมตัวกันเพื่อออกศึก พวกเขาได้ยกทัพไปถึงเมืองเฮโบรน และได้เห็นพ้องต้องกันที่จะยกดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล และอิสราเอลที่เหลือทั้งหมดต่างก็เห็นดีด้วยที่จะยกดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์
- 1 พงศาวดาร 12:39 - พวกเขาได้ร่วมกินดื่มอยู่ที่นั่นกับดาวิดเป็นเวลาสามวันเพราะญาติๆของพวกเขาได้จัดเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว
- 1 พงศาวดาร 12:40 - ส่วนเพื่อนบ้านทั้งหลายที่มาจากแดนไกล อย่างเผ่าอิสสาคาร์ เผ่าเศบูลุนและเผ่านัฟทาลี ต่างก็ได้บรรทุกเอาอาหารมาให้กับพวกเขา ด้วยขบวนลา อูฐ ล่อและวัว พวกเขาขนเอาแป้ง ขนมมะเดื่อ ลูกเกด เหล้าองุ่นและน้ำมันมะกอก วัวตัวผู้และแกะจำนวนมากมายมหาศาลมาให้ เพราะในเวลานั้นชาวอิสราเอลต่างก็เฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข
- 2 พงศาวดาร 15:9 - แล้วเขาก็เรียกชุมนุมชาวยูดาห์และชาวเบนยามินทั้งหมด รวมทั้งประชาชนจากเอฟราอิม มนัสเสห์และสิเมโอนที่ได้ตั้งรกรากอยู่ในหมู่พวกเขา คนเหล่านี้เป็นจำนวนมากได้ทิ้งอิสราเอลมาอยู่กับอาสา เพราะพวกเขาเห็นว่า พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอาสาสถิตอยู่กับอาสา
- ฟีลิปปี 2:10 - เพื่อทุกๆคนที่อยู่ในสวรรค์ก็ดี ในโลกนี้ก็ดี หรือใต้โลกนี้ก็ดี จะได้คุกเข่าลงให้เกียรติกับพระเยซู
- ฟีลิปปี 2:11 - ทุกๆคนจะยอมรับว่า พระเยซูคริสต์คือองค์เจ้าชีวิต แล้วพระเจ้าพระบิดาก็จะได้รับเกียรติยศ
- 2 ซามูเอล 24:9 - โยอาบรายงานจำนวนนักรบให้กษัตริย์ ในอิสราเอลมีคนที่ร่างกายสมบูรณ์ที่สามารถถือดาบได้ทั้งหมดแปดแสนคน และในยูดาห์มีห้าแสนคน
- 2 พงศาวดาร 14:8 - อาสามีกองทัพชาวยูดาห์สามแสนคน ที่มีโล่ขนาดใหญ่และหอก และกองทัพชาวเบนยามินสองแสนแปดหมื่นคนมีโล่กับธนูเป็นอาวุธ พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นนักรบที่กล้าหาญ
- กันดารวิถี 10:14 - ค่ายแรกที่ออกนำหน้าคือค่ายของยูดาห์ มีสามเผ่าจากค่ายนี้ คือเผ่าของยูดาห์ มีนาโชนลูกชายของอัมมีนาดับเป็นผู้นำกอง
- สดุดี 78:68 - แล้วพระองค์ก็เลือกเผ่ายูดาห์ขึ้นปกครอง และเลือกภูเขาศิโยนที่พระองค์รัก เป็นที่ตั้งของวิหาร
- สดุดี 78:69 - พระองค์สร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เหมือนกับภูเขาสูงต่างๆ เหมือนโลกนี้ที่พระองค์ตั้งให้อยู่ตลอดไป
- สดุดี 78:70 - พระองค์เลือกดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ และเอาเขาออกมาจากคอกแกะทั้งหลาย
- สดุดี 78:71 - พระองค์เอาดาวิดมาจากการติดตามดูแลแม่แกะและลูกของมัน มาเป็นผู้เลี้ยงยาโคบคนของพระองค์ และเป็นผู้เลี้ยงอิสราเอลสมบัติของพระองค์
- วิวรณ์ 5:5 - แต่มีผู้อาวุโส องค์หนึ่งพูดกับผมว่า “อย่าร้องไห้เลย ดูนั่นสิ สิงโตจากเผ่าของยูดาห์ ผู้เป็นสายเลือดอันยิ่งใหญ่ของดาวิด ได้รับชัยชนะ และสามารถแกะตราประทับทั้งเจ็ดดวง และเปิดหนังสือม้วนนี้ออกได้”
- เอเสเคียล 21:29 - เจ้าดาบ เจ้าจะถูกวางพาดไว้บนคอของคนถ่อยชั่วที่จะถูกฆ่า เพราะเรื่องนิมิตทั้งหลายที่เกี่ยวกับเจ้าล้วนโกหกทั้งสิ้น พวกหมอดูที่ทำนายอนาคตเจ้าล้วนแต่หลอกลวง วันสำหรับคนชั่วเหล่านั้นได้มาถึงแล้ว วันแห่งการลงโทษครั้งสุดท้ายของเขามาถึงแล้ว
- ฮีบรู 10:13 - พระองค์จะนั่งรอจนกว่าพระเจ้าจะทำให้ศัตรูของพระองค์มาเป็นที่วางเท้าของพระองค์
- สดุดี 18:40 - พระองค์ทำให้ศัตรูของข้าพเจ้าหันหลังหนีไป ข้าพเจ้าก็โค่นคนพวกนั้นที่เกลียดชังข้าพเจ้าลง
- สดุดี 18:41 - พวกเขาร้องให้ช่วย แต่ไม่มีใครช่วย พวกเขาร้องต่อพระยาห์เวห์ แต่พระองค์ไม่ตอบพวกเขา
- สดุดี 18:42 - ข้าพเจ้าบดขยี้พวกเขาแหลกละเอียดเหมือนฝุ่นที่ถูกลมพัดปลิวไป ข้าพเจ้าเหยียบย่ำพวกเขาเหมือนโคลนตามท้องถนน
- สดุดี 18:43 - พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากกองทัพศัตรูที่เข้ามาโจมตี พระองค์ทำให้ข้าพเจ้าเป็นหัวหน้าของชนชาติต่างๆเหล่านั้น แม้แต่คนที่ข้าพเจ้าไม่รู้จัก ก็รับใช้ข้าพเจ้า
- ปฐมกาล 37:7 - พวกเรากำลังมัดฟ่อนข้าวอยู่กลางทุ่งนา ทันใดนั้น ฟ่อนข้าวของผมก็ตั้งตรงขึ้น และฟ่อนข้าวของพวกพี่ๆได้มาล้อมรอบและโค้งคำนับฟ่อนข้าวของผม”
- ปฐมกาล 37:8 - พวกพี่ชายของเขาพูดกับเขาว่า “นี่เจ้าคิดว่าเจ้าจะได้เป็นกษัตริย์ปกครองเหนือพวกเราจริงๆล่ะซินะ” หลังจากนั้นพี่ชายของเขาก็ยิ่งเกลียดเขามากขึ้น เพราะความฝันและสิ่งที่โยเซฟเล่าเกี่ยวกับความฝันนั้น
- ปฐมกาล 37:9 - ต่อมาโยเซฟได้ฝันอีก และเขาก็เล่าให้พวกพี่ชายฟังอีกว่า “ดูสิ ผมฝันอีกแล้ว คราวนี้ฝันว่า มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดาวสิบเอ็ดดวง ต่างมาโค้งคำนับผม”
- ปฐมกาล 37:10 - เมื่อเขาเล่าให้พ่อและพวกพี่ชายฟัง พ่อก็ต่อว่าเขา และพูดกับโยเซฟว่า “เจ้าฝันอะไรของเจ้า นี่พ่อ แม่ และพี่ชายของเจ้าจะต้องกราบลงถึงพื้นต่อหน้าเจ้าอย่างนั้นหรือ”
- 2 พงศาวดาร 17:14 - พวกทหารเหล่านี้ได้รับการลงทะเบียนไว้ตามตระกูลของพวกเขา จากชาวยูดาห์ พวกแม่ทัพกองพัน มี อัดนาห์เป็นแม่ทัพ มีนักรบอยู่สามแสนคน
- 2 พงศาวดาร 17:15 - ถัดไปคือแม่ทัพเยโฮฮานัน มีนักรบอยู่สองแสนแปดหมื่นคน
- 2 พงศาวดาร 17:16 - ต่อจากนั้นคือ อามัสยาห์ลูกชายของศิครี เขาสมัครเข้ามารับใช้พระยาห์เวห์เอง เขามีนักรบอยู่สองแสนคน
- วิวรณ์ 11:15 - เมื่อเสียงแตรจากทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดดังขึ้น ก็มีเสียงในสวรรค์ดังขึ้นมากมายพูดว่า “อาณาจักรของโลกนี้ได้กลายเป็นอาณาจักรขององค์เจ้าชีวิตของเรากับกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของพระองค์แล้ว พระองค์จะครอบครองตลอดไป”
- สดุดี 76:1 - ในยูดาห์ พระเจ้าเป็นที่รู้จักกันทั่ว ในอิสราเอล ชื่อของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่
- 2 พงศาวดาร 17:2 - เขาจัดวางกองทัพไว้ประจำการตามเมืองต่างๆที่เป็นป้อมปราการของยูดาห์ และวางกองกำลังไว้ในยูดาห์และในเมืองอีกหลายๆเมืองของเอฟราอิมที่อาสาผู้เป็นพ่อของเขายึดมาได้
- กันดารวิถี 1:27 - จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ายูดาห์ มีทั้งหมดเจ็ดหมื่นสี่พันหกร้อยคน
- 2 พงศาวดาร 30:11 - อย่างไรก็ตาม คนบางกลุ่มในเผ่าของอาเชอร์ มนัสเสห์และเศบูลุน ก็ถ่อมตัวพวกเขาลง และเดินทางไปที่เมืองเยรูซาเล็ม
- ปฐมกาล 29:35 - แล้วเลอาห์ก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายอีกคนหนึ่ง นางพูดว่า “ครั้งนี้ฉันจะสรรเสริญพระยาห์เวห์” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่ายูดาห์ แล้วนางก็ไม่มีลูกอีก
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:7 - โมเสสพูดถึงเผ่าของยูดาห์ว่า “พระยาห์เวห์ ขอช่วยฟังเสียงร้องของผู้นำเผ่ายูดาห์ ขอช่วยนำเขากลับมาหาคนของเขาอย่างปลอดภัย เขาต่อสู้ป้องกันตัวเองด้วยมือของเขา ขอให้พระองค์ช่วยให้เขาเอาชนะศัตรูของเขา”
- ปฐมกาล 27:29 - ขอให้คนทั้งหลายมารับใช้เจ้า และขอให้ชนชาติต่างๆก้มกราบลงต่อหน้าเจ้า ขอให้เจ้าเป็นเจ้านายเหนือพวกพี่น้องของเจ้า ขอให้ลูกคนอื่นๆของแม่เจ้าก้มกราบเจ้า ขอให้คนที่สาปแช่งเจ้าถูกสาปแช่ง และขอให้คนที่อวยพรเจ้าได้รับพร”
- 1 พงศาวดาร 5:2 - และถึงแม้ว่ายูดาห์จะเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในหมู่พี่น้องทั้งหลาย และผู้นำก็สืบทอดมาจากเขา แต่สิทธิพิเศษของลูกชายหัวปีก็ยังตกเป็นของโยเซฟอยู่ดี)
- ฮีบรู 7:14 - มันก็เห็นชัดว่า องค์เจ้าชีวิตของเราสืบเชื้อสายมาจากเผ่ายูดาห์ และโมเสสก็ไม่เคยพูดว่าจะมีนักบวชมาจากเผ่านี้เลย