逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - ตอนที่พระเยซูอยู่บนโลกนี้ พระองค์อธิษฐานและอ้อนวอนเสียงดังและด้วยน้ำตา ถึงพระเจ้าผู้ที่สามารถช่วยพระองค์ให้พ้นจากความตายได้ แล้วพระเจ้าก็รับฟัง เพราะพระเยซูเคารพและยำเกรงพระองค์
- 新标点和合本 - 基督在肉体的时候,既大声哀哭,流泪祷告,恳求那能救他免死的主,就因他的虔诚蒙了应允。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 基督在他肉身的日子,曾大声哀哭,流泪祷告,恳求那能救他免死的上帝,就因他的虔诚蒙了应允。
- 和合本2010(神版-简体) - 基督在他肉身的日子,曾大声哀哭,流泪祷告,恳求那能救他免死的 神,就因他的虔诚蒙了应允。
- 当代译本 - 基督在世为人的时候,曾经声泪俱下地祈求能救祂脱离死亡的上帝。祂因为敬虔而蒙了应允。
- 圣经新译本 - 基督在世的时候,曾经流泪大声祷告恳求那位能救他脱离死亡的 神;因着他的敬虔,就蒙了应允。
- 中文标准译本 - 基督在他肉身的日子里,曾经用强烈的呼号和泪水,向能救他脱离死亡的那一位献上了祈祷和恳求,就因着他的虔诚蒙了垂听。
- 现代标点和合本 - 基督在肉体的时候既大声哀哭,流泪祷告,恳求那能救他免死的主,就因他的虔诚蒙了应允。
- 和合本(拼音版) - 基督在肉体的时候既大声哀哭,流泪祷告,恳求那能救他免死的主,就因他的虔诚蒙了应允。
- New International Version - During the days of Jesus’ life on earth, he offered up prayers and petitions with fervent cries and tears to the one who could save him from death, and he was heard because of his reverent submission.
- New International Reader's Version - Jesus prayed while he lived on earth. He made his appeal with sincere cries and tears. He prayed to the God who could save him from death. God answered Jesus because he truly honored God.
- English Standard Version - In the days of his flesh, Jesus offered up prayers and supplications, with loud cries and tears, to him who was able to save him from death, and he was heard because of his reverence.
- New Living Translation - While Jesus was here on earth, he offered prayers and pleadings, with a loud cry and tears, to the one who could rescue him from death. And God heard his prayers because of his deep reverence for God.
- The Message - While he lived on earth, anticipating death, Jesus cried out in pain and wept in sorrow as he offered up priestly prayers to God. Because he honored God, God answered him. Though he was God’s Son, he learned trusting-obedience by what he suffered, just as we do. Then, having arrived at the full stature of his maturity and having been announced by God as high priest in the order of Melchizedek, he became the source of eternal salvation to all who believingly obey him.
- Christian Standard Bible - During his earthly life, he offered prayers and appeals with loud cries and tears to the one who was able to save him from death, and he was heard because of his reverence.
- New American Standard Bible - In the days of His humanity, He offered up both prayers and pleas with loud crying and tears to the One able to save Him from death, and He was heard because of His devout behavior.
- New King James Version - who, in the days of His flesh, when He had offered up prayers and supplications, with vehement cries and tears to Him who was able to save Him from death, and was heard because of His godly fear,
- Amplified Bible - In the days of His earthly life, Jesus offered up both [specific] petitions and [urgent] supplications [for that which He needed] with fervent crying and tears to the One who was [always] able to save Him from death, and He was heard because of His reverent submission toward God [His sinlessness and His unfailing determination to do the Father’s will].
- American Standard Version - Who in the days of his flesh, having offered up prayers and supplications with strong crying and tears unto him that was able to save him from death, and having been heard for his godly fear,
- King James Version - Who in the days of his flesh, when he had offered up prayers and supplications with strong crying and tears unto him that was able to save him from death, and was heard in that he feared;
- New English Translation - During his earthly life Christ offered both requests and supplications, with loud cries and tears, to the one who was able to save him from death and he was heard because of his devotion.
- World English Bible - He, in the days of his flesh, having offered up prayers and petitions with strong crying and tears to him who was able to save him from death, and having been heard for his godly fear,
- 新標點和合本 - 基督在肉體的時候,既大聲哀哭,流淚禱告,懇求那能救他免死的主,就因他的虔誠蒙了應允。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 基督在他肉身的日子,曾大聲哀哭,流淚禱告,懇求那能救他免死的上帝,就因他的虔誠蒙了應允。
- 和合本2010(神版-繁體) - 基督在他肉身的日子,曾大聲哀哭,流淚禱告,懇求那能救他免死的 神,就因他的虔誠蒙了應允。
- 當代譯本 - 基督在世為人的時候,曾經聲淚俱下地祈求能救祂脫離死亡的上帝。祂因為敬虔而蒙了應允。
- 聖經新譯本 - 基督在世的時候,曾經流淚大聲禱告懇求那位能救他脫離死亡的 神;因著他的敬虔,就蒙了應允。
- 呂振中譯本 - 基督 在他肉身的日子、既用壯烈的哭號和眼淚、向那能救他脫死的獻祈求和懇請,就因了虔敬而蒙垂聽;
- 中文標準譯本 - 基督在他肉身的日子裡,曾經用強烈的呼號和淚水,向能救他脫離死亡的那一位獻上了祈禱和懇求,就因著他的虔誠蒙了垂聽。
- 現代標點和合本 - 基督在肉體的時候既大聲哀哭,流淚禱告,懇求那能救他免死的主,就因他的虔誠蒙了應允。
- 文理和合譯本 - 彼在世時、大呼涕泣、獻其祈禱籲懇於能救之出死者、且因其寅畏而得升聞、
- 文理委辦譯本 - 夫基督在世時、大聲疾呼、繼之號泣祈禱、以求能免其死者、升聞於上、釋己憂懼、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 基督在世為人之時、 原文作基督在肉體之時 大聲號泣、祈禱籲懇能救其免死者、遂蒙應允、解其憂懼、 遂蒙應允解其憂懼或作因有敬畏之心即蒙允聽
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 基督在世之日、大聲疾呼涕淚漣如、哀求全能者拯之出死、卒以其克懷寅畏、而蒙垂聽。
- Nueva Versión Internacional - En los días de su vida mortal, Jesús ofreció oraciones y súplicas con fuerte clamor y lágrimas al que podía salvarlo de la muerte, y fue escuchado por su reverente sumisión.
- 현대인의 성경 - 예수님은 세상에 계실 때 자기를 죽음에서 구원해 주실 분에게 크게 부르짖으며 눈물로 기도와 소원을 올렸고 경건한 복종으로 하나님의 응답을 받으셨습니다.
- Новый Русский Перевод - Во время Своей земной жизни Иисус громко, с воплем и со слезами молился Тому, Кто мог избавить Его от смерти, и Он был услышан за Свое благоговение.
- Восточный перевод - Во время Своей земной жизни Иса громко, с воплем и со слезами молился Тому, Кто мог избавить Его от смерти, и Он был услышан за Своё благоговение перед Всевышним.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Во время Своей земной жизни Иса громко, с воплем и со слезами молился Тому, Кто мог избавить Его от смерти, и Он был услышан за Своё благоговение перед Аллахом.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Во время Своей земной жизни Исо громко, с воплем и со слезами молился Тому, Кто мог избавить Его от смерти, и Он был услышан за Своё благоговение перед Всевышним.
- La Bible du Semeur 2015 - Ainsi, au cours de sa vie sur terre, Jésus, avec de grands cris et des larmes, a présenté des prières et des supplications à celui qui pouvait le sauver de la mort, et il a été exaucé, à cause de sa soumission à Dieu .
- リビングバイブル - キリストはこの地上におられた時、死から救うことのできるただひとりの方に、うめきと涙とをもって祈られました。この祈りは、どんな場合にも神に従おうとする、キリストの謙遜で切なる願いのゆえに聞き入れられたのです。
- Nestle Aland 28 - ὃς ἐν ταῖς ἡμέραις τῆς σαρκὸς αὐτοῦ δεήσεις τε καὶ ἱκετηρίας πρὸς τὸν δυνάμενον σῴζειν αὐτὸν ἐκ θανάτου μετὰ κραυγῆς ἰσχυρᾶς καὶ δακρύων προσενέγκας καὶ εἰσακουσθεὶς ἀπὸ τῆς εὐλαβείας,
- unfoldingWord® Greek New Testament - ὃς ἐν ταῖς ἡμέραις τῆς σαρκὸς αὐτοῦ, δεήσεις τε καὶ ἱκετηρίας, πρὸς τὸν δυνάμενον σῴζειν αὐτὸν ἐκ θανάτου, μετὰ κραυγῆς ἰσχυρᾶς καὶ δακρύων προσενέγκας, καὶ εἰσακουσθεὶς ἀπὸ τῆς εὐλαβείας.
- Nova Versão Internacional - Durante os seus dias de vida na terra, Jesus ofereceu orações e súplicas, em alta voz e com lágrimas, àquele que o podia salvar da morte, sendo ouvido por causa da sua reverente submissão.
- Hoffnung für alle - Als Jesus unter uns Menschen lebte, schrie er unter Tränen zu Gott, der ihn allein vom Tod retten konnte. Und Gott erhörte sein Gebet, weil Jesus den Vater ehrte und ihm gehorsam war.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chúa Cứu Thế khi sắp hy sinh đã nài xin Đức Chúa Trời, khóc lóc kêu cầu Đấng có quyền cứu Ngài khỏi chết. Vì lòng tôn kính nhiệt thành nên Ngài được Đức Chúa Trời nhậm lời.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ในระหว่างที่พระเยซูทรงอยู่ในโลก พระองค์ได้ถวายคำอธิษฐานและคำร้องทูลอ้อนวอนด้วยเสียงอันดังและด้วยน้ำตาไหลต่อพระเจ้าผู้ทรงสามารถช่วยพระองค์จากความตาย และพระเจ้าทรงสดับเพราะพระเยซูทรงยอมเชื่อฟังพระเจ้าด้วยความยำเกรง
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ตลอดวันเวลาที่พระเยซูมีชีวิตเป็นมนุษย์ พระองค์ได้อธิษฐาน และอ้อนวอนเสียงดัง และหลั่งน้ำตาต่อพระองค์ผู้สามารถช่วยให้พระองค์พ้นจากความตาย ซึ่งพระเจ้าได้สดับรับฟังเพราะพระเยซูยอมเชื่อฟัง
- Thai KJV - ฝ่ายพระเยซู ขณะเมื่อพระองค์ดำรงอยู่ในเนื้อหนังนั้น พระองค์ได้ถวายคำอธิษฐาน และทูลวิงวอนด้วยทรงกันแสงมากมายและน้ำพระเนตรไหล ต่อพระเจ้าผู้ทรงสามารถช่วยพระองค์ให้พ้นจากความตายได้ และพระเจ้าได้ทรงสดับเพราะพระองค์นั้นได้ยำเกรง
交叉引用
- 1 ทิโมธี 3:16 - ไม่ต้องสงสัยเลย นี่แหละคือความยิ่งใหญ่ของความลับในศาสนาอันแท้จริงของเรา คือ พระคริสต์ได้มาปรากฏในร่างของมนุษย์ พระวิญญาณได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นจริง เหล่าทูตสวรรค์ก็เห็น เรื่องของพระองค์ได้ถูกประกาศไปทั่วทุกชนชาติ ผู้คนในโลกต่างเชื่อในพระองค์ และพระเจ้าได้รับพระองค์ขึ้นไปสู่สง่าราศีอันยิ่งใหญ่
- ฮีบรู 13:20 - พระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งสันติสุข พระองค์ทำให้พระเยซูฟื้นขึ้นจากความตาย เพราะพระองค์ได้สละเลือดของพระองค์เองเพื่อทำสัญญาอันถาวร พระเยซูเป็นองค์เจ้าชีวิตของเราและเป็นหัวหน้าคนเลี้ยงแกะ ขอให้พระเจ้าให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีๆกับพวกคุณ เพื่อเตรียมคุณให้พร้อมที่จะทำตามใจของพระองค์ ขอให้พระองค์ทำสิ่งที่เป็นเรื่องชอบใจต่อหน้าพระองค์ให้สำเร็จท่ามกลางพวกเราผ่านทางพระเยซูคริสต์ ขอให้พระองค์ได้รับเกียรติตลอดไป อาเมน
- มัทธิว 26:52 - พระเยซูพูดกับเขาว่า “เก็บดาบใส่ฝักเสีย เพราะคนที่ใช้ดาบจะตายเพราะดาบ
- มัทธิว 26:53 - คุณคิดว่า เราจะขอความช่วยเหลือจากพระบิดาเราไม่ได้หรือ พระองค์จะส่งทูตสวรรค์มาให้กับเรามากกว่าสิบสองกอง ได้ทันที
- อิสยาห์ 49:8 - พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้ “ในเวลาที่เราแสดงความเมตตา เราจะตอบคำอธิษฐานของเจ้า ในวันแห่งความรอด เราจะช่วยเจ้าและปกป้องเจ้า เราจะแต่งตั้งเจ้าให้เป็นตัวกลางแห่งคำสัญญาที่เรามีกับมนุษย์ เพื่อว่าเราจะได้ฟื้นฟูแผ่นดินขึ้นมาใหม่ และคืนแผ่นดินที่ถูกทำลายกลับไปให้เจ้าของเดิม
- สดุดี 18:19 - พระองค์นำข้าพเจ้าออกไปยังที่โล่งกว้าง พระองค์ช่วยชีวิตข้าพเจ้า เพราะพระองค์ชื่นชมยินดีในข้าพเจ้า
- สดุดี 18:20 - พระยาห์เวห์ให้รางวัลกับข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง พระองค์ตอบแทนข้าพเจ้าเพราะมือของข้าพเจ้าสะอาดบริสุทธิ์
- โรม 8:3 - สิ่งที่กฎของโมเสสช่วยไม่ได้ เพราะสันดานของเราทำให้กฎอ่อนแอไป พระเจ้าก็ได้ทำแล้ว พระองค์ได้ส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นมนุษย์เหมือนกับเราที่เป็นคนบาป และส่งมาเพื่อจัดการกับบาป พระเจ้าได้ตัดสินลงโทษบาปโดยใช้ร่างที่เป็นมนุษย์ของพระเยซู
- เลวีนิติ 2:2 - จากนั้น เขาต้องเอาเครื่องบูชานี้ไปให้พวกนักบวช ที่เป็นลูกชายของอาโรน แล้วนักบวชจะต้องหยิบแป้งอย่างดี ที่มีน้ำมันกับกำยานนั้นขึ้นมาหนึ่งกำมือ แล้วก็เอาไปเผาบนแท่นบูชา เป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชทั้งหมด เป็นของขวัญอันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์
- สดุดี 88:1 - พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเรียกหาพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน
- ยอห์น 11:42 - ลูกรู้ว่าพระองค์ฟังลูกอยู่เสมอ แต่ที่ลูกพูดก็เพื่อว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่จะได้เชื่อว่าพระองค์ส่งลูกมา”
- อิสยาห์ 53:3 - ผู้คนต่างพากันดูถูกและไม่คบด้วย เขาเป็นผู้ชายที่เจอกับความเจ็บปวดมากมายและคุ้นเคยกับความทุกข์ทรมาน เป็นเหมือนคนหนึ่งที่คนทนดูไม่ได้ เขาเป็นที่ดูถูกและเราไม่ได้เห็นว่าเขาสำคัญอะไรเลย
- สดุดี 22:1 - พระเจ้าของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ทำไมพระองค์ถึงได้ละทิ้งข้าพเจ้าเสีย ทำไมพระองค์ถึงได้อยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้าเสียเหลือเกิน ทำไมไม่ช่วยข้าพเจ้าให้รอด ทำไมไม่ได้ยินเสียงร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า
- สดุดี 22:2 - พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องเรียกพระองค์ตลอดทั้งวัน แต่พระองค์ก็ไม่ตอบข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ยังร้องเรียกต่อไปตลอดทั้งคืน ข้าพเจ้าก็ไม่ได้รับการบรรเทาทุกข์
- สดุดี 22:3 - แต่อย่างไรก็ตาม พระองค์ก็ยังเป็นองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ พระองค์นั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระองค์ และชาวอิสราเอลสรรเสริญพระองค์
- สดุดี 22:4 - บรรพบุรุษของเราไว้วางใจในพระองค์ และพระองค์ช่วยกู้พวกเขา
- สดุดี 22:5 - พวกเขาตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ และได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์ พวกเขาวางใจในพระองค์ พวกเขาจึงไม่ผิดหวัง
- สดุดี 22:6 - ข้าพเจ้ามันก็แค่ตัวหนอน ไม่ใช่คน ข้าพเจ้ามันก็แค่ตัวอะไร ที่ผู้คนพูดดูถูก มันก็แค่ตัวอะไร ที่ผู้คนพูดดูหมิ่น
- สดุดี 22:7 - ทุกคนที่เห็นข้าพเจ้า ต่างก็เย้ยหยันข้าพเจ้า พวกเขาพากันทำหน้าและส่ายหัวใส่ข้าพเจ้า แล้วพูดว่า
- สดุดี 22:8 - “เขาวางใจในพระยาห์เวห์ไม่ใช่หรือ ให้พระยาห์เวห์ช่วยให้เขารอดสิ ถ้าพระยาห์เวห์ชื่นชอบเขา ก็ให้พระยาห์เวห์ปลดปล่อยเขาสิ”
- สดุดี 22:9 - พระเจ้าของข้าพเจ้า ความจริงแล้ว พระองค์คือผู้ที่ดึงข้าพเจ้าออกมาจากครรภ์ พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกปลอดภัยในอ้อมอกของแม่
- สดุดี 22:10 - ตอนที่ข้าพเจ้าเกิดมา ข้าพเจ้าก็ถูกวางไว้ในอ้อมแขนของพระองค์แล้ว พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าคลอดออกมาจากท้องแม่แล้ว
- สดุดี 22:11 - ดังนั้น โปรดอย่าได้อยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า เพราะความทุกข์ยากอยู่ใกล้ตัวข้าพเจ้า และก็ไม่มีใครช่วยด้วย
- สดุดี 22:12 - มีวัวตัวผู้จำนวนมากที่ล้อมรอบข้าพเจ้าอยู่ วัวตัวผู้ที่ดุร้ายของบาชานกำลังรายล้อมข้าพเจ้าอยู่
- สดุดี 22:13 - พวกมันอ้าปากกว้างใส่ข้าพเจ้า เหมือนกับสิงโตที่กำลังร้องคำรามฉีกกินเหยื่อของมัน
- สดุดี 22:14 - กำลังของข้าพเจ้าถูกเทออกเหมือนน้ำ กระดูกของข้าพเจ้าหลุดออกจากข้อ จิตใจของข้าพเจ้าได้หลอมละลาย เหมือนขี้ผึ้งภายในตัวข้าพเจ้า
- สดุดี 22:15 - พละกำลังของข้าพเจ้าเหือดแห้งไปเหมือนหม้อดินแตก ลิ้นของข้าพเจ้าจุกอยู่ที่เพดานปาก ข้าแต่พระเจ้า พระองค์วางข้าพเจ้าไว้ในฝุ่นของหลุมศพ
- สดุดี 22:16 - พวกหมาได้รายล้อมข้าพเจ้าไว้ กลุ่มคนชั่วร้ายได้รุมล้อมข้าพเจ้าไว้ พวกมันได้แทงมือแทงเท้าของข้าพเจ้า
- สดุดี 22:17 - ข้าพเจ้าผ่ายผอมจนนับกระดูกของข้าพเจ้าได้หมด พวกเขาจ้องมองข้าพเจ้าตาเขม็ง
- สดุดี 22:18 - พวกเขาก็เอาพวกเสื้อผ้าของข้าพเจ้ามาแบ่งปันกัน พวกเขาเอาชุดของข้าพเจ้ามาจับสลากว่าใครจะได้
- สดุดี 22:19 - ข้าแต่พระยาห์เวห์ อย่าได้อยู่ห่างไกลข้าพเจ้า พระองค์ผู้เป็นพละกำลังของข้าพเจ้า รีบมาช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วยเถิด
- สดุดี 22:20 - ช่วยชีวิตข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากคมดาบ ช่วยชีวิตเดียวที่ข้าพเจ้ามีอยู่จากฝูงหมาพวกนั้นด้วยเถิด
- สดุดี 22:21 - ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากปากสิงโต พ้นจากคมเขาของฝูงวัวกระทิงเปลี่ยวด้วยเถิด พระองค์ได้ตอบข้าพเจ้าแล้ว
- สดุดี 69:13 - ข้าแต่พระยาห์เวห์ แต่ส่วนข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเพียงอธิษฐานขอให้พระองค์ยอมรับข้าพเจ้าเท่านั้น ข้าแต่พระเจ้าโปรดตอบข้าพเจ้าด้วยความรักมั่นคงของพระองค์ และด้วยฤทธิ์อำนาจแห่งการช่วยกู้ที่พึ่งพิงได้ของพระองค์
- สดุดี 69:14 - โปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากโคลนตมนี้ด้วยเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่จมลึกไปกว่านี้ โปรดช่วยข้าพเจ้าให้หนีรอดจากคนเหล่านั้นที่เกลียดชังข้าพเจ้า และจากน้ำที่ลึกนี้ด้วยเถิด
- สดุดี 69:15 - ขออย่าให้น้ำท่วมท้นข้าพเจ้า และอย่าให้น้ำลึกดูดกลืนข้าพเจ้าลงไป ขออย่าให้หลุมฝังศพงับข้าพเจ้าเลย
- สดุดี 69:16 - ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดตอบข้าพเจ้าด้วย เพราะความรักมั่นคงของพระองค์นั้นดี โปรดหันหน้าของพระองค์มาทางข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะความเมตตาของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่
- สดุดี 40:1 - ข้าพเจ้าคอยพระยาห์เวห์อย่างอดทน พระองค์หันมาหาข้าพเจ้าและฟังเสียงร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า
- สดุดี 40:2 - พระองค์ฉุดข้าพเจ้าขึ้นจากหลุมศพที่เต็มไปด้วยโคลนตม แล้ววางเท้าข้าพเจ้าลงบนหินและทำให้ข้าพเจ้าก้าวเท้าอย่างมั่นคง
- สดุดี 40:3 - พระองค์ใส่เพลงใหม่เข้าในปากของข้าพเจ้า เป็นเพลงสรรเสริญพระเจ้าของเรา หลายคนจะได้เห็นสิ่งที่พระเจ้าทำ พวกเขาจะได้ยำเกรงและไว้วางใจในพระยาห์เวห์
- เลวีนิติ 4:4 - เขาต้องเอาวัวตัวนั้นไปที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบต่อหน้าพระยาห์เวห์ และวางมือของเขาลงบนหัวของมัน แล้วฆ่ามันต่อหน้าพระยาห์เวห์
- เลวีนิติ 4:5 - นักบวชที่ได้รับการเจิมนั้น จะต้องเอาเลือดส่วนหนึ่งของวัวตัวผู้นั้นไปที่เต็นท์นัดพบ
- เลวีนิติ 4:6 - แล้วจุ่มนิ้วมือของเขาลงในเลือดและพรมเลือดเจ็ดครั้งที่หน้าผ้าม่านของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดต่อหน้าพระยาห์เวห์
- เลวีนิติ 4:7 - นักบวชคนนั้นต้องเอาเลือดป้ายตรงปลายเชิงงอนของแท่นบูชาที่เผาเครื่องหอม แท่นบูชานี้อยู่ในเต็นท์นัดพบ ต่อหน้าพระยาห์เวห์
- เลวีนิติ 4:8 - และเขาต้องเอาส่วนที่เป็นไขมันของวัวตัวผู้ที่เป็นเครื่องบูชาชำระล้างตัวนั้น รวมทั้งไขมันที่อยู่ในเครื่องในและรอบๆเครื่องในนั้น
- เลวีนิติ 4:9 - เขาต้องเอาไตทั้งสองข้างกับไขมันที่ติดอยู่กับไตนั้น ที่อยู่ส่วนล่างของกล้ามเนื้อหลัง และเขาต้องเอาพังผืดของตับ เขาต้องเอามันออกไปพร้อมๆกับไตทั้งสองข้าง
- เลวีนิติ 4:10 - เขาต้องเอาส่วนไขมันทั้งหมดออกจากเครื่องบูชาชำระล้าง เหมือนกับที่เขาเอาไขมันออกจากวัวที่ใช้เป็นเครื่องสังสรรค์บูชา แล้วนักบวชต้องเอาไขมันพวกนั้นมาถวายบนแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา
- เลวีนิติ 4:11 - แต่นักบวชจะต้องเอาส่วนที่เหลือทั้งหมดของวัว คือส่วนหนัง ส่วนเนื้อทั้งหมด ส่วนหัว ส่วนขา ส่วนเครื่องในและขี้ของมันออกไปนอกค่าย ไปยังที่ที่บริสุทธิ์ คือที่ทิ้งขี้เถ้า แล้วเผามันบนกองฟืนที่สุมไฟอยู่ ตรงที่ทิ้งขี้เถ้านั้น
- เลวีนิติ 4:13 - ถ้าชนชาติอิสราเอลทั้งหมดทำผิดบาปโดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่มีใครรู้ตัวว่าได้ทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์สั่งห้ามไม่ให้ทำ พวกเขาก็จะมีความผิด
- เลวีนิติ 4:14 - เมื่อพวกเขารู้ถึงความบาปที่ได้ทำนั้น คนในที่ประชุมต้องนำวัวตัวผู้มาตัวหนึ่งจากฝูง มาเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง พวกเขาต้องเอามันมาที่หน้าเต็นท์นัดพบ
- ยอห์น 1:14 - พระคำได้กลายมาเป็นมนุษย์ และใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางพวกเรา พระคำนั้นเต็มไปด้วยความเมตตากรุณาและความจริง พวกเราได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ซึ่งเป็นความยิ่งใหญ่ของพระบุตรเพียงองค์เดียวของพระบิดา
- กาลาเทีย 4:4 - แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พระเจ้าก็ได้ส่งพระบุตรของพระองค์โดยคลอดออกมาจากผู้หญิง และมีชีวิตอยู่ภายใต้กฎ
- อิสยาห์ 53:11 - หลังจากความทุกข์ทรมานอันเลวร้ายของเขาแล้ว เขาก็จะเห็นความสว่าง และสิ่งที่เขาประสบมานั้นจะทำให้เขาพึงพอใจ พระยาห์เวห์พูดว่า “ผู้รับใช้ของเราผู้ที่ทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ ทำให้หลายๆคนได้รับการตัดสินให้พ้นผิด และเขาก็จะแบกรับโทษสำหรับความผิดที่คนพวกนั้นทำ
- ฮีบรู 2:14 - เพราะพวกลูกๆนั้นเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ พระเยซูก็เลยมาเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อเหมือนกัน พระองค์ทำอย่างนี้เพื่อจะได้ตายและทำลายมารที่มีอำนาจทำให้คนตายได้
- ยอห์น 17:4 - ลูกได้ทำให้คนในโลกนี้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระองค์โดยได้ทำงานทุกอย่างที่พระองค์ให้ลูกทำจนเสร็จหมดแล้ว
- ยอห์น 17:5 - พระบิดา ตอนนี้ขอให้ลูกได้รับความยิ่งใหญ่กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้งต่อหน้าพระองค์ คือความยิ่งใหญ่ที่ลูกมีร่วมกับพระองค์ก่อนที่จะมีโลกนี้
- มัทธิว 26:28 - เพราะนี่คือเลือดของเรา พระเจ้าได้ทำสัญญาขึ้นมาด้วยเลือดนี้ มันได้หลั่งไหลออกมาเพื่อยกโทษให้กับความบาปของคนทั้งหลาย
- มัทธิว 26:29 - เราจะบอกให้รู้ว่า เราจะไม่ดื่มเหล้าองุ่นนี้อีก จนกว่าจะถึงวันนั้นที่เราจะได้ดื่มเหล้าองุ่นใหม่ด้วยกันกับพวกคุณในอาณาจักรของพระบิดาเรา”
- มัทธิว 26:30 - เมื่อพวกเขาได้ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าแล้ว ก็ออกไปที่ภูเขามะกอกเทศ
- มัทธิว 26:31 - พระเยซูบอกพวกศิษย์ว่า “คืนนี้พวกคุณจะทิ้งเราไปกันหมดทุกคน เหมือนกับที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ‘เราจะฆ่าคนเลี้ยงแกะ และแกะฝูงนั้นจะกระเจิดกระเจิงไป’
- มัทธิว 26:32 - แต่เมื่อเราฟื้นขึ้นมา เราจะล่วงหน้าพวกคุณไปที่แคว้นกาลิลีก่อน”
- มัทธิว 26:33 - เปโตรตอบว่า “ถึงแม้คนอื่นๆจะทิ้งอาจารย์ไปหมด แต่ผมจะไม่มีวันทำอย่างนั้น”
- มัทธิว 26:34 - พระเยซูจึงตอบเปโตรว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า คืนนี้ก่อนไก่ขัน คุณจะพูดว่าไม่รู้จักเราถึงสามครั้ง”
- มัทธิว 26:35 - แต่เปโตรยืนยันว่า “ถึงผมจะต้องตายกับอาจารย์ ผมก็ไม่มีวันพูดว่าไม่รู้จักอาจารย์” และพวกศิษย์ทั้งหมดก็พูดอย่างเดียวกัน
- มัทธิว 26:36 - จากนั้นพระเยซูก็พาศิษย์ไปที่สวนแห่งหนึ่งเรียกว่า เกทเสมนี และบอกพวกศิษย์ว่า “นั่งคอยอยู่ที่นี่นะ เราจะไปอธิษฐานทางโน้น”
- มัทธิว 26:37 - พระองค์พาเปโตรกับลูกทั้งสองคนของเศเบดีไปด้วย พระองค์รู้สึกโศกเศร้าและเป็นทุกข์มาก
- มัทธิว 26:38 - พระองค์จึงบอกพวกเขาว่า “เราทุกข์ใจมากจนแทบจะตายอยู่แล้ว ให้ตื่นและเฝ้าระวังอยู่กับเราหน่อย”
- มัทธิว 26:39 - พระองค์เดินห่างออกไปนิดหนึ่ง ก้มหน้าซบลงกับพื้นดิน แล้วอธิษฐานว่า “พระบิดา ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ถ้วย แห่งความทุกข์ยากนี้ผ่านพ้นไปจากลูกด้วยเถิด แต่ขอให้เป็นไปตามความต้องการของพระองค์ไม่ใช่ของลูก”
- มัทธิว 26:40 - แล้วพระองค์ก็เดินกลับมาเห็นพวกศิษย์หลับอยู่ พระองค์จึงพูดกับเปโตรว่า “พวกคุณตื่นอยู่เป็นเพื่อนกเราสักชั่วโมงไม่ได้เลยหรือ
- มัทธิว 26:41 - ให้เฝ้าระวังและอธิษฐาน เพื่อจะได้ไม่แพ้ต่อการยั่วยวน ถึงแม้จิตใจอยากจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ร่างกายยังอ่อนแออยู่”
- มัทธิว 26:42 - พระองค์เดินกลับไป และอธิษฐานเป็นครั้งที่สองว่า “พระบิดา ถ้าถ้วยแห่งความทุกข์ยากนี้ผ่านพ้นลูกไปไม่ได้ นอกจากลูกจะต้องดื่มมัน ก็ขอให้เป็นไปตามความต้องการของพระองค์เถิด”
- มัทธิว 26:43 - จากนั้นพระองค์ก็เดินกลับมา ก็พบว่าพวกศิษย์ยังหลับอยู่ เพราะเปลือกตาเขาหนักอึ้งจนลืมไม่ขึ้น
- มัทธิว 26:44 - พระองค์จึงเดินไปจากพวกเขา และอธิษฐานเหมือนเดิมอีกเป็นครั้งที่สาม
- สดุดี 69:1 - ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วยเถิด เพราะน้ำขึ้นมาสูงถึงคอข้าพเจ้าแล้ว
- ลูกา 23:46 - พระเยซูร้องตะโกนว่า “พระบิดา ลูกขอมอบจิตวิญญาณของลูกไว้ในมือพระองค์” เมื่อพูดจบพระองค์ก็สิ้นใจตาย
- ยอห์น 11:35 - พระเยซูร้องไห้
- ฮีบรู 12:28 - เนื่องจากเรากำลังได้รับอาณาจักรที่ไม่มีอะไรสามารถมาสั่นสะเทือนมันได้ ก็ขอให้เรากตัญญูรู้คุณพระเจ้า นมัสการพระองค์อย่างเคารพยำเกรง ในทางที่พระเจ้าชอบใจ
- ลูกา 22:41 - พระองค์ปลีกตัวออกไปใกล้ๆแค่ระยะขว้างหินตก แล้วพระองค์ก็คุกเข่าลงอธิษฐานว่า
- ลูกา 22:42 - “พระบิดา ถ้าพระองค์พอใจ ช่วยเอาถ้วย แห่งความทุกข์นี้ไปจากลูกด้วยเถิด แต่ขอให้เป็นไปตามใจของพระบิดา ไม่ใช่ตามใจตัวลูกเอง”
- ลูกา 22:43 - แล้วก็มีทูตสวรรค์ลงมาให้กำลังใจพระองค์
- ลูกา 22:44 - พระองค์ต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักในการอธิษฐาน จนเหงื่อไหลเหมือนหยดเลือดตกบนพื้นดิน
- สดุดี 22:24 - เพราะพระยาห์เวห์ไม่ได้ดูถูกหรือรังเกียจความทุกข์ของคนที่เดือดร้อนคนนี้ พระองค์ไม่ได้ซ่อนหน้าไปจากข้าพเจ้า แต่เมื่อข้าพเจ้าร้องให้พระองค์ช่วย พระองค์ฟังข้าพเจ้า
- ยอห์น 17:1 - หลังจากพระเยซูพูดจบแล้ว พระองค์ได้เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและพูดว่า “พระบิดา ถึงเวลาแล้วที่จะเปิดเผยความยิ่งใหญ่ของพระบุตร เพื่อที่พระบุตรจะได้เปิดเผยความยิ่งใหญ่ของพระองค์
- ยอห์น 12:27 - “ตอนนี้เรากำลังกลุ้มใจมากจนไม่รู้จะพูดยังไงดี จะให้เราพูดว่า ‘พระบิดา ช่วยลูกให้พ้นจากช่วงเวลาแห่งความทุกข์นี้ด้วย’ อย่างนั้นหรือ เราเข้ามาในโลกนี้ก็เพื่อจะทนต่อความทุกข์นี้
- ยอห์น 12:28 - พระบิดา ขอให้คนเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์” ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังมาจากสวรรค์ว่า “เราได้ทำอย่างนั้นแล้ว และเราจะทำต่อไป”
- มาระโก 14:32 - พวกเขามาถึงสถานที่แห่งหนึ่งเรียกว่า เกทเสมนี พระเยซูบอกกับพวกศิษย์ว่า “นั่งคอยอยู่ที่นี่นะ เราจะไปอธิษฐาน”
- มาระโก 14:33 - พระองค์พาเปโตร ยากอบ และยอห์นไปด้วย แล้วพระองค์ก็เริ่มโศกเศร้าเสียใจและเป็นทุกข์ยิ่งนัก
- มาระโก 14:34 - จึงบอกพวกเขาว่า “เราทุกข์ใจมากจนแทบจะตายอยู่แล้ว ให้ตื่นและเฝ้าระวังอยู่”
- มาระโก 14:35 - พระองค์เดินห่างออกไปอีกหน่อยหนึ่ง แล้วซบหน้าลงกับพื้นดิน อธิษฐานว่า ถ้าเป็นไปได้ขอให้เวลาแห่งความทุกข์ยากนี้ผ่านพ้นไปจากพระองค์
- มาระโก 14:36 - พระองค์พูดว่า “อับบา พระบิดา ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้สำหรับพระองค์ ขอช่วยเอาถ้วย แห่งความทุกข์ยากนี้พ้นไปจากลูกด้วยเถิด แต่ขอให้เป็นไปตามใจพระบิดา ไม่ใช่ตามใจลูก”
- มาระโก 14:37 - แล้วพระองค์ก็เดินกลับมา เห็นพวกศิษย์นอนหลับอยู่ พระองค์จึงพูดกับเปโตรว่า “ซีโมน ยังจะหลับอยู่อีกหรือ คุณจะตื่นเป็นเพื่อนเราสักชั่วโมงไม่ได้เลยหรือ
- มาระโก 14:38 - พวกคุณต้องเฝ้าระวังและอธิษฐาน จะได้ไม่แพ้ต่อการยั่วยวน ถึงแม้จิตใจอยากจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ร่างกายก็ยังอ่อนแออยู่”
- มาระโก 14:39 - พระองค์เดินไปอธิษฐานอีกครั้งหนึ่งและพูดเหมือนเดิม
- มาระโก 15:34 - เมื่อถึงบ่ายสามโมงแล้ว พระเยซูก็ร้องเสียงดังว่า “เอโลอี เอโลอี ลามา สะบักธานี” ซึ่งแปลว่า “พระเจ้าของลูก พระเจ้าของลูก ทำไมถึงทอดทิ้งลูกไป”
- มัทธิว 27:50 - พระเยซูร้องเสียงดังออกมาอีกครั้ง แล้วก็สิ้นใจตาย
- มาระโก 15:37 - เมื่อพระเยซูร้องเสียงดังแล้ว พระองค์ก็สิ้นใจตาย
- มัทธิว 27:46 - ประมาณบ่ายสามโมง พระเยซูร้องออกมาเสียงดังว่า “เอลี เอลี ลามา สะบักธานี” แปลว่า “พระเจ้าของลูก พระเจ้าของลูก ทำไมถึงทอดทิ้งลูกไป”