逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - คือให้จดจำเรื่องเหล่านั้นที่เราได้ทำตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะเราเป็นพระเจ้า ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก เราเป็นพระเจ้า ไม่มีใครเหมือนเรา
- 新标点和合本 - 你们要追念上古的事。 因为我是 神,并无别神; 我是 神,再没有能比我的。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 要追念上古的事, 因为我是上帝,并无别的; 我是上帝,没有能与我相比的。
- 和合本2010(神版-简体) - 要追念上古的事, 因为我是 神,并无别的; 我是 神,没有能与我相比的。
- 当代译本 - 你们要记住古时发生的事, 因为我是独一无二的上帝, 我是上帝,没有谁能与我相比。
- 圣经新译本 - 你们当记念上古以前的事, 因为我是 神,再没有别的神; 我是 神,没有神像我。
- 中文标准译本 - 你们当记念亘古以来的往事, 因为我是神,别无其二; 我是神,没有谁像我。
- 现代标点和合本 - 你们要追念上古的事, 因为我是神,并无别神。 我是神,再没有能比我的。
- 和合本(拼音版) - 你们要追念上古的事, 因为我是上帝,并无别神; 我是上帝,再没有能比我的。
- New International Version - Remember the former things, those of long ago; I am God, and there is no other; I am God, and there is none like me.
- New International Reader's Version - “Remember what happened in the past. Think about what took place long ago. I am God. There is no other God. I am God. There is no one like me.
- English Standard Version - remember the former things of old; for I am God, and there is no other; I am God, and there is none like me,
- New Living Translation - Remember the things I have done in the past. For I alone am God! I am God, and there is none like me.
- Christian Standard Bible - Remember what happened long ago, for I am God, and there is no other; I am God, and no one is like me.
- New American Standard Bible - Remember the former things long past, For I am God, and there is no other; I am God, and there is no one like Me,
- New King James Version - Remember the former things of old, For I am God, and there is no other; I am God, and there is none like Me,
- Amplified Bible - Remember [carefully] the former things [which I did] from ages past; For I am God, and there is no one else; I am God, and there is no one like Me,
- American Standard Version - Remember the former things of old: for I am God, and there is none else; I am God, and there is none like me;
- King James Version - Remember the former things of old: for I am God, and there is none else; I am God, and there is none like me,
- New English Translation - Remember what I accomplished in antiquity! Truly I am God, I have no peer; I am God, and there is none like me,
- World English Bible - Remember the former things of old: for I am God, and there is no other. I am God, and there is none like me.
- 新標點和合本 - 你們要追念上古的事。 因為我是神,並無別神; 我是神,再沒有能比我的。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 要追念上古的事, 因為我是上帝,並無別的; 我是上帝,沒有能與我相比的。
- 和合本2010(神版-繁體) - 要追念上古的事, 因為我是 神,並無別的; 我是 神,沒有能與我相比的。
- 當代譯本 - 你們要記住古時發生的事, 因為我是獨一無二的上帝, 我是上帝,沒有誰能與我相比。
- 聖經新譯本 - 你們當記念上古以前的事, 因為我是 神,再沒有別的神; 我是 神,沒有神像我。
- 呂振中譯本 - 你們要追念古時以來的往事; 因為只有我是上帝,再沒有 別的神 ; 我是 上帝,沒有誰像我一樣:
- 中文標準譯本 - 你們當記念亙古以來的往事, 因為我是神,別無其二; 我是神,沒有誰像我。
- 現代標點和合本 - 你們要追念上古的事, 因為我是神,並無別神。 我是神,再沒有能比我的。
- 文理和合譯本 - 古昔之事、爾其追溯、我乃上帝、我外無他、我乃上帝、無能比擬、
- 文理委辦譯本 - 古昔之事、爾可追溯、我乃上帝、無能比儗、我外無他、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 當追念古昔之事、我乃天主、我之外無他、我乃天主、無可比擬、
- Nueva Versión Internacional - Recuerden las cosas pasadas, aquellas de antaño; yo soy Dios, y no hay ningún otro, yo soy Dios, y no hay nadie igual a mí.
- 현대인의 성경 - 너희는 오래 전에 있었던 옛일을 기억하라. 나는 하나님이다. 나 외에는 다른 신이 없고 나와 같은 자도 없다.
- Новый Русский Перевод - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
- Восточный перевод - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
- La Bible du Semeur 2015 - Rappelez-vous ╵les événements du passé, ╵survenus il y a bien longtemps, car c’est moi qui suis Dieu, il n’y en a pas d’autre. Oui, moi seul, je suis Dieu, et il n’existe rien ╵qui me soit comparable.
- リビングバイブル - わたしがはっきり何度も、 将来何が起こるか告げてきたことを 忘れてはならない。 わたしだけが神であり、 わたしのような者はいない。
- Nova Versão Internacional - Lembrem-se das coisas passadas, das coisas muito antigas! Eu sou Deus, e não há nenhum outro; eu sou Deus, e não há nenhum como eu.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Hãy nhớ lại những điều Ta đã làm trong quá khứ. Vì Ta là Đức Chúa Trời! Ta là Đức Chúa Trời, và không ai giống như Ta.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - จงจดจำสิ่งต่างๆ แต่เดิมเมื่อนานมาแล้ว เราเป็นพระเจ้า ไม่มีพระอื่นใด เราเป็นพระเจ้า ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - จงจำเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา เพราะเราเป็นพระเจ้า และไม่มีผู้อื่นอีก เราเป็นพระเจ้า และไม่มีผู้ใดที่เป็นเหมือนเรา
- Thai KJV - จงจำสิ่งล่วงแล้วในสมัยก่อนไว้ เพราะเราเป็นพระเจ้า และไม่มีอื่นใดอีก เราเป็นพระเจ้า และไม่มีอื่นใดเหมือนเรา
交叉引用
- อิสยาห์ 45:14 - พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้ “ความร่ำรวยของอียิปต์และกำไรของเอธิโอเปีย และคนเสบา คนร่างสูงนั้น ก็จะถูกนำมาให้เจ้า และกลายเป็นของเจ้า พวกเขาจะติดตามเจ้า เป็นเชลยถูกล่ามโซ่มาก้มกราบอยู่ต่อหน้าเจ้า พวกเขาจะอ้อนวอนและพูดกับเจ้าว่า ‘พระเจ้าสถิตอยู่กับท่านแน่ ไม่มีพระอื่นใดอีกนอกจากพระองค์’”
- อิสยาห์ 45:5 - เราคือยาห์เวห์ ไม่มีพระอื่นอีก นอกจากเราแล้ว ก็ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก เราติดอาวุธให้เจ้า ถึงแม้เจ้าจะไม่รู้จักเรา
- อิสยาห์ 45:6 - เราทำอย่างนี้เพื่อว่าผู้คนจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก จะได้รู้ว่าไม่มีพระอื่นใดนอกจากเรา เราคือยาห์เวห์ ไม่มีพระอื่นอีก
- เนหะมียาห์ 9:7 - พระองค์คือพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้เลือกอับราม และนำตัวเขาออกมาจากเมืองเออร์แห่งประเทศเคลเดีย และตั้งชื่อให้เขาว่าอับราฮัม
- เนหะมียาห์ 9:8 - พระองค์เห็นว่าเขามีจิตใจซื่อสัตย์ต่อพระองค์ ดังนั้นพระองค์จึงทำข้อตกลงกับเขา ที่จะยกแผ่นดินของคนเหล่านี้ให้กับลูกหลานของเขา คือแผ่นดินของคนคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซีคนเยบุส และคนเกอร์กาชี พระองค์ได้ทำตามคำพูดของพระองค์ เพราะพระองค์นั้นซื่อสัตย์
- เนหะมียาห์ 9:9 - พระองค์ได้เห็นถึงความทุกข์ทรมานของบรรพบุรุษของพวกเราในอียิปต์ และพระองค์ได้ยินเสียงร้องให้ช่วยของพวกเขาที่ทะเลต้นอ้อ
- เนหะมียาห์ 9:10 - พระองค์ได้แสดงปรากฏการณ์ต่างๆและสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ เพื่อต่อต้านฟาโรห์ กษัตริย์ของอียิปต์ และต่อต้านพวกข้าราชการทั้งสิ้น และประชาชนบนแผ่นดินของกษัตริย์ฟาโรห์ เพราะพระองค์รู้ว่าพวกเขาได้ข่มเหงบรรพบุรุษของพวกเรา พระองค์ก็เลยมีชื่อเสียงโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้
- เนหะมียาห์ 9:11 - พระองค์ได้แยกทะเลออกต่อหน้าพวกเขา และพวกเขาเดินผ่านทะเลไปบนพื้นแห้ง แต่พระองค์ได้โยนพวกที่ไล่ตามพวกเขาลงทะเลลึก เหมือนก้อนหินที่ถูกโยนลงไปในทะเลที่ปั่นป่วน
- เนหะมียาห์ 9:12 - พระองค์ได้นำทางพวกเขาด้วยเสาเมฆในตอนกลางวันและด้วยเสาไฟในตอนกลางคืน เพื่อส่องทางให้พวกเขาเดินไปในทางที่พวกเขาควรไป
- เนหะมียาห์ 9:13 - พระองค์ลงมาอยู่บนภูเขาซีนาย และพูดกับพวกเขาจากสวรรค์ และได้มอบกฎระเบียบที่ถูกต้องและกฎบัญญัติที่แท้จริง รวมทั้งพวกบัญญัติและคำสั่งต่างๆที่ดีให้กับพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:14 - และพระองค์ได้บอกให้พวกเขารู้เกี่ยวกับวันหยุดอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ และพระองค์ให้คำสั่งต่างๆ กฎระเบียบ และบัญญัติกับพวกเขา ผ่านทางโมเสส ผู้รับใช้ของพระองค์
- เนหะมียาห์ 9:15 - ในยามที่พวกเขาหิว พระองค์ให้อาหารกับพวกเขาจากสวรรค์ ในยามที่พวกเขากระหาย พระองค์ให้น้ำไหลออกจากหินมาให้พวกเขาดื่ม พระองค์บอกให้พวกเขาไปยึดเอาแผ่นดินที่พระองค์ได้สัญญาว่าจะมอบให้กับพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:16 - แต่พวกบรรพบุรุษของพวกเราทำตัวเย่อหยิ่งจองหองและหัวแข็งดื้อรั้น พวกเขาไม่ยอมฟังคำสั่งต่างๆของพระองค์
- เนหะมียาห์ 9:17 - พวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังและพวกเขาไม่ได้จดจำ ถึงการอัศจรรย์ต่างๆของพระองค์ที่พระองค์ได้ทำไปท่ามกลางพวกเขา แต่พวกเขากลับหัวแข็งดื้อรั้นและได้แต่งตั้งหัวหน้าขึ้นมา เพื่อนำพวกเขากลับไปเป็นทาสในอียิปต์อีก แต่พระองค์เป็นพระเจ้าที่ให้อภัย มีใจเมตตาและกรุณา มีความอดทนและมีความรักอันมั่นคง ดังนั้นพระองค์จึงไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:18 - ถึงแม้พวกบรรพบุรุษของพวกเราจะหล่อโลหะรูปลูกวัวขึ้นมาสำหรับพวกเขาเอง และบอกว่า ‘นี่คือพระเจ้าของเจ้าที่นำเจ้าออกมาจากอียิปต์’ ถึงแม้การกระทำนี้จะดูหมิ่นพระองค์อย่างยิ่ง
- เนหะมียาห์ 9:19 - แต่พระองค์เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา พระองค์ก็เลยไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขาไว้ในทะเลทราย เสาเมฆไม่ได้หยุดนำทางพวกเขาในการเดินทางตอนกลางวันและเสาไฟในตอนกลางคืน ก็ไม่ได้หยุดส่องแสงให้กับพวกเขาในทางที่พวกเขาควรจะไป
- เนหะมียาห์ 9:20 - พระองค์ได้ให้พระวิญญาณอันดีของพระองค์เพื่อสอนพวกเขา พระองค์ไม่ได้เอาอาหารทิพย์ ไปจากปากของพวกเขา และพระองค์ได้ให้น้ำเพื่อดับกระหายกับพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:21 - พระองค์ดูแลพวกเขาเป็นเวลาสี่สิบปีในทะเลทราย โดยที่พวกเขาไม่ขาดอะไรเลย เสื้อผ้าของพวกเขาก็ไม่ฉีกขาด และเท้าของเขาก็ไม่บวม
- เนหะมียาห์ 9:22 - พระองค์มอบอาณาจักรต่างๆและชนชาติต่างๆให้กับพวกเขา พระองค์ได้ให้แผ่นดินเหล่านี้กลายเป็นแนวชายแดนให้กับพวกเขา พวกเขาได้ยึดครองแผ่นดินของกษัตริย์สิโหนแห่งเมืองเฮชโบน และแผ่นดินของกษัตริย์โอกแห่งแคว้นบาชาน
- เนหะมียาห์ 9:23 - พระองค์ทำให้พวกเขามีลูกหลานมากมายมหาศาลเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า พระองค์นำพวกเขามายังแผ่นดินที่พระองค์บอกบรรพบุรุษของพวกเขาให้เข้าไปยึดครอง
- เนหะมียาห์ 9:24 - ดังนั้น พวกลูกหลานของพวกเขาจึงเข้าไปยึดครองแผ่นดินนั้น และพระองค์ได้ปราบพวกชาวคานาอันที่อาศัยอยู่เดิมให้พ่ายแพ้ไป และให้พวกชาวคานาอันตกอยู่ในกำมือของบรรพบุรุษของพวกเรา รวมถึงพวกกษัตริย์ และประชาชนของแผ่นดินนั้น พวกบรรพบุรุษของพวกเราสามารถจัดการกับพวกเขาได้ตามใจชอบ
- เนหะมียาห์ 9:25 - พวกเขายึดเมืองที่มีป้อมปราการและแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ พวกเขายึดบ้านต่างๆที่เต็มไปด้วยของดีๆที่มีทั้งบ่อน้ำที่ขุดไว้แล้ว ไร่องุ่น ต้นมะกอกและต้นผลไม้มากมาย พวกเขากินกันจนอิ่มแปล้และอ้วนท้วน และพวกเขาต่างก็มีความสุขในความดีงามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
- เนหะมียาห์ 9:26 - แต่พวกเขากลับไม่เชื่อฟัง และกบฏต่อพระองค์ และโยนบัญญัติของพระองค์ทิ้งไป นอกจากนั้นพวกเขายังฆ่าพวกผู้พูดแทนพระองค์ที่ได้ตักเตือนพวกเขาให้กลับมาหาพระองค์ พวกเขาได้ดูหมิ่นพระองค์อย่างใหญ่หลวง
- เนหะมียาห์ 9:27 - ดังนั้นพระองค์จึงมอบพวกเขาให้ตกไปอยู่ในกำมือพวกศัตรู และศัตรูพวกนั้น ได้ข่มเหงพวกเขาอย่างทารุณโหดร้าย ในยามที่พวกเขาทุกข์ยาก พวกเขาต่างร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ และพระองค์ได้ยินเสียงพวกเขาจากสวรรค์ พระองค์ก็ส่งผู้กู้ชาติมาช่วยพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกศัตรู เพราะพระองค์เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา
- เนหะมียาห์ 9:28 - แต่ทันทีที่พวกเขาได้รับการปลดปล่อยจากพวกศัตรู พวกเขาก็ได้ทำในสิ่งที่พระองค์ถือว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายอีก ดังนั้นพระองค์จึงปล่อยให้พวกเขาตกไปอยู่ในกำมือของพวกศัตรูอีก แล้วพวกศัตรูเหล่านั้นก็ได้ปกครองเหนือพวกเขา แต่แล้วเมื่อพวกเขาร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ พระองค์ก็ได้ยินพวกเขาจากสวรรค์ แล้วช่วยกู้พวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะพระองค์เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา
- เนหะมียาห์ 9:29 - พระองค์เตือนพวกเขาเพื่อให้พวกเขากลับมาหาคำสอนของพระองค์ แต่พวกเขากลับเย่อหยิ่งจองหองและไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งต่างๆของพระองค์ พวกเขาทำบาปต่อกฎของพระองค์ซึ่งเป็นกฎที่นำชีวิตมาให้กับคนที่รักษากฎเหล่านั้น พวกเขายักไหล่อย่างดื้อรั้นและหัวแข็งดื้อดึง และไม่ยอมฟัง
- เนหะมียาห์ 9:30 - พระองค์อดทนกับพวกเขาอยู่หลายปี และพระองค์ได้เตือนพวกเขาด้วยพระวิญญาณผ่านทางพวกผู้พูดแทนพระองค์ แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมฟัง จนในที่สุดพระองค์ได้มอบพวกเขาให้กับพวกชนชาติต่างๆ
- เนหะมียาห์ 9:31 - แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม พระองค์ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา พระองค์ไม่ได้ทำลายพวกเขาอย่างสิ้นซาก และไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าผู้ทรงพระคุณและความเมตตากรุณา
- เนหะมียาห์ 9:32 - ข้าแต่พระเจ้าของพวกเรา พระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ผู้มีฤทธิ์อำนาจและน่าเกรงขาม พระองค์รักษาคำมั่นสัญญาด้วยความรักอันสัตย์ซื่อ ขอพระองค์อย่าได้ถือว่าความทุกข์ยากทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับพวกเราตั้งแต่สมัยของกษัตริย์อัสซีเรียจนถึงตอนนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยเลย คือ ความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นกับพวกกษัตริย์ของเรา กับพวกผู้นำเรา กับเหล่านักบวชของเรา กับคนเหล่านั้นที่พูดแทนพระองค์ให้กับเรา กับพวกบรรพบุรุษของเรา และกับประชาชนทุกคนของพระองค์
- เนหะมียาห์ 9:33 - ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรานั้น พระองค์ทำอย่างยุติธรรมแล้ว พระองค์ทำในสิ่งที่ซื่อสัตย์ ในขณะที่พวกเราทำแต่ความผิด
- เนหะมียาห์ 9:34 - พวกกษัตริย์ พวกผู้นำ พวกนักบวช และพวกบรรพบุรุษของเรา ไม่ได้รักษากฎบัญญัติของพระองค์ พวกเขาไม่ใส่ใจกับคำสั่งต่างๆและคำตักเตือนที่พระองค์ให้กับพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:35 - แม้แต่ตอนที่พวกเขาอยู่ในอาณาจักรของพวกเขาเอง และมีความสุขกับความเจริญรุ่งเรืองอันยิ่งใหญ่ และแผ่นดินอันกว้างใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ที่พระองค์มอบให้กับพวกเขา พวกเขาก็ไม่ได้รับใช้พระองค์และไม่ได้หันไปจากการกระทำอันชั่วร้ายของพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:36 - ดูสิ วันนี้พวกเราได้ตกเป็นทาส พระองค์ได้ยกแผ่นดินนี้ให้กับบรรพบุรุษของพวกเรา เพื่อพวกเขาจะได้กินผลไม้และสิ่งดีๆจากแผ่นดินนี้ แต่พวกเรากลับตกเป็นทาสอยู่ในแผ่นดินนี้
- เนหะมียาห์ 9:37 - แล้วผลผลิตมากมายของแผ่นดินนี้ ตอนนี้ได้ตกไปเป็นของพวกกษัตริย์ที่พระองค์ได้ตั้งไว้เหนือเราเนื่องจากบาปที่เราทำ พวกเขาใช้อำนาจเหนือเราและฝูงสัตว์ของเราตามความพอใจของพวกเขา ในขณะที่เราต้องทนทุกข์อย่างใหญ่หลวง
- อิสยาห์ 46:5 - เจ้าจะเอาเราไปเปรียบกับใคร ใครจะมาเทียบเทียมกับเราได้ เจ้าจะเปรียบเทียบเรากับใคร และทำยังกับว่าเหมือนกันอย่างนั้นหรือ
- อิสยาห์ 45:18 - พระยาห์เวห์คือพระเจ้าผู้สร้างฟ้าสวรรค์ พระองค์ปั้นโลกนี้ขึ้นมา พระองค์สร้างมันและตั้งมันให้มั่นคง พระองค์ไม่ได้สร้างให้มันว่างเปล่า พระองค์ปั้นมันขึ้นมาให้คนอยู่ พระองค์คือพระยาห์เวห์ที่พูดว่า “เราคือยาห์เวห์ ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
- เยเรมียาห์ 23:7 - พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า “วันเวลานั้นใกล้จะมาถึงแล้วที่ผู้คนจะไม่พูดกันอีกแล้วว่า ‘ฉันขอสาบานโดยอ้างชื่อของพระยาห์เวห์ ผู้ที่นำลูกหลานของอิสราเอลออกมาจากแผ่นดินอียิปต์’
- เยเรมียาห์ 23:8 - แต่พวกเขาจะพูดกันว่า ‘ฉันขอสาบานโดยอ้างชื่อของพระยาห์เวห์ผู้ที่นำลูกหลานของครอบครัวอิสราเอลจากดินแดนทางเหนือ จากดินแดนทั้งหลายที่พระองค์ได้ขับไล่พวกเขาไป แล้วพวกเขาก็จะได้กลับมาอยู่ในแผ่นดินของพวกเขาเอง’”
- สดุดี 105:1 - ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ ให้กระจายชื่อเสียงของพระองค์ออกไป ให้บอกกับชนชาติทั้งหลายถึงสิ่งที่พระองค์ทำ
- สดุดี 105:2 - ร้องเพลงให้กับพระองค์ ร้องเพลงสรรเสริญให้กับพระองค์เถิด ใคร่ครวญถึงสิ่งน่าทึ่งทั้งหมดที่พระองค์ได้ทำ
- สดุดี 105:3 - โอ้อวดถึงชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เถิด ขอให้คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระยาห์เวห์มีความสุขเถิด
- สดุดี 105:4 - แสวงหาพระยาห์เวห์ และพละกำลังที่มาจากพระองค์เถิด แสวงหาหน้าของพระองค์อยู่เสมอ
- สดุดี 105:5 - ลูกหลานของอับราฮัมผู้รับใช้ของพระเจ้าเอ๋ย ลูกหลานของยาโคบพวกที่พระเจ้าเลือกเอ๋ย ขอให้ท่านระลึกถึงเรื่องน่าทึ่งทั้งหลายที่พระเจ้าทำ ระลึกถึงการอัศจรรย์ต่างๆและคำตัดสินทั้งหลายที่ออกมาจากปากของพระองค์
- สดุดี 105:7 - พระองค์คือพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา คำตัดสินทั้งหลายของพระองค์จะเป็นจริงอย่างนั้นในทุกหนแห่งทั่วโลก
- สดุดี 105:8 - พระองค์ไม่เคยลืมข้อตกลงของพระองค์ คือคำสัญญาที่พระองค์ทำไว้กับคนของพระองค์ตลอดไปเป็นพันรุ่น
- สดุดี 105:9 - พระองค์จะรักษาคำสัญญาที่ทำไว้กับอับราฮัม และคำสาบานของพระองค์ที่ให้ไว้กับอิสอัค
- สดุดี 105:10 - พระองค์ทำให้มันเป็นกฎสำหรับยาโคบ และเป็นข้อตกลงให้กับอิสราเอลตลอดไป
- สดุดี 105:11 - พระองค์พูดว่า “เราจะมอบดินแดนคานาอันให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าตลอดไป”
- สดุดี 105:12 - พระองค์ทำสิ่งนี้ตอนที่พวกเขายังมีกันอยู่ไม่กี่คน และยังเป็นคนต่างด้าวแค่กระจุกเดียวในดินแดนนั้นอยู่เลย
- สดุดี 105:13 - พวกเขาเร่ร่อนพเนจรจากชนชาติหนึ่งไปอีกชนชาติหนึ่ง จากอาณาจักรหนึ่งไปยังอีกอาณาจักรหนึ่ง
- สดุดี 105:14 - แต่พระเจ้าไม่ยอมให้ใครข่มเหงพวกเขา พระองค์เตือนพวกกษัตริย์ทั้งหลายว่า
- สดุดี 105:15 - “อย่าแตะต้องคนเหล่านั้นที่เราได้เลือกไว้ อย่าได้ทำร้ายพวกผู้พูดแทนเรา”
- สดุดี 105:16 - พระองค์ทำให้เกิดการกันดารอาหารขึ้นในแผ่นดิน พระองค์ตัดเสบียงทั้งหมดของพวกเขา
- สดุดี 105:17 - แล้วพระองค์ได้ส่งชายคนหนึ่งไปอียิปต์ก่อนคนอื่นๆ นั่นคือ โยเซฟ ผู้ถูกขายไปเป็นทาส
- สดุดี 105:18 - คนพวกนั้นทำร้ายเขาด้วยการล่ามโซ่ไว้ที่ข้อเท้า และใส่ปลอกเหล็กไว้ที่คอของเขา
- สดุดี 105:19 - จนกระทั่งสิ่งที่โยเซฟได้ทำนายไว้เป็นจริง และพระคำของพระยาห์เวห์ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาพูดถูก
- สดุดี 105:20 - แล้วกษัตริย์ก็มีคำสั่งให้ไปนำตัวโยเซฟมาและหักโซ่ตรวนของเขา ผู้นำชนชาตินั้นก็ปล่อยเขาออกจากคุก
- สดุดี 105:21 - กษัตริย์แต่งตั้งโยเซฟให้เป็นผู้ดูแลวัง และให้เป็นผู้ดูแลจัดการทรัพย์สมบัติของเขาทั้งหมด
- สดุดี 105:22 - กษัตริย์ให้อำนาจกับโยเซฟอย่างเต็มที่เหนือข้าราชการของเขา โยเซฟสอนพวกที่ปรึกษาอาวุโสของกษัตริย์
- สดุดี 105:23 - หลังจากนั้น อิสราเอลก็เข้ามาอยู่ที่อียิปต์ ยาโคบอยู่อย่างคนต่างด้าวในดินแดนของฮาม
- สดุดี 105:24 - พระองค์ทำให้คนของพระองค์ทวีคูณขึ้นอย่างมหาศาล จนมีจำนวนมากกว่าศัตรูของเขา
- สดุดี 105:25 - พระยาห์เวห์เปลี่ยนใจของคนอียิปต์ให้หันมาเกลียดชังคนของพระองค์ และให้พวกเขาพากันวางแผนร้ายต่อพวกผู้รับใช้ของพระองค์
- สดุดี 105:26 - แล้วพระองค์ก็ส่งโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ และอาโรนผู้ที่พระองค์ได้เลือก
- สดุดี 105:27 - พระองค์ให้สองคนนี้ทำการอัศจรรย์ต่างๆของพระองค์ให้ชนชาติของพระองค์เห็น พวกเขาทำสิ่งที่น่าทึ่งต่างๆในดินแดนของฮาม
- สดุดี 105:28 - พระองค์ส่งความมืดทึบลงมา แต่ชาวอียิปต์ก็ไม่ยอมฟังพระองค์
- สดุดี 105:29 - พระองค์ทำให้น้ำของพวกเขากลายเป็นเลือด และฆ่าพวกปลาของพวกเขา
- สดุดี 105:30 - แผ่นดินของพวกเขามีฝูงกบเต็มไปหมด ไม่เว้นแม้แต่พวกห้องส่วนตัวของกษัตริย์
- สดุดี 105:31 - เมื่อพระองค์ออกคำสั่ง ฝูงเหลือบก็มา ฝูงริ้นก็รุกล้ำเข้ามาทั่วแผ่นดิน
- สดุดี 105:32 - พระองค์ทำให้ฝนของพวกเขากลายเป็นลูกเห็บ และทำให้เกิดสายฟ้าแลบในแผ่นดินของเขา
- สดุดี 105:33 - พระองค์ทำลายไร่องุ่น และต้นมะเดื่อ พระองค์ทำให้ต้นไม้แตกเป็นเสี่ยงๆไปทั่วเขตแดนของพวกเขา
- สดุดี 105:34 - เมื่อพระองค์ออกคำสั่ง พวกตั๊กแตนวัยบินและตั๊กแตนวัยกระโดด ก็กรูกันเข้ามาอย่างมืดฟ้ามัวดิน
- สดุดี 105:35 - พวกตั๊กแตนกินพืชผักทั้งหมดในแผ่นดินของพวกเขา และกินพืชผลทั้งหลายจากดินเสียสิ้น
- สดุดี 105:36 - แล้วจากนั้น พระองค์ก็ฆ่าลูกชายหัวปีของพวกเขาทั้งหมดในแผ่นดินของพวกเขา ลูกที่พิสูจน์ถึงความเป็นชายของพ่อ
- สดุดี 105:37 - พระองค์นำพวกอิสราเอลออกไปพร้อมกับเงินและทองไปด้วย พระองค์ไม่ปล่อยให้มีใครสักคนในพวกเผ่าของพระองค์สะดุดล้ม
- สดุดี 105:38 - ชาวอียิปต์ต่างดีใจที่ชาวอิสราเอลออกไปได้ เพราะพวกเขารู้สึกกลัวพวกอิสราเอล
- สดุดี 105:39 - พระองค์กางก้อนเมฆของพระองค์ออกปกคลุมอยู่เหนือคนอิสราเอล และยังให้เพลิงไฟไว้ส่องสว่างในตอนกลางคืน
- สดุดี 105:40 - เมื่ออิสราเอลร้องขออาหาร พระองค์ก็นำนกกระทามาให้ นอกจากนั้นพระองค์ก็ยังให้อาหารจากสวรรค์กับพวกเขากินจนอิ่มหนำ
- สดุดี 105:41 - พระองค์ตีก้อนหินแตกเป็นช่อง น้ำก็ไหลพุ่งออกมาสู่แผ่นดินที่แห้งแล้งเหมือนกับแม่น้ำ
- สดุดี 105:42 - เพราะพระองค์ระลึกถึงคำสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ที่ให้ไว้กับอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์
- สดุดี 105:43 - พระองค์นำชนชาติของพระองค์ออกจากอียิปต์อย่างมีความสุข คนเหล่านี้ที่พระองค์เลือกมาโห่ร้องด้วยความยินดี
- สดุดี 105:44 - แล้วพระองค์ก็มอบแผ่นดินต่างๆของชนชาติอื่นๆให้กับพวกเขา พวกเขาได้กรรมสิทธิ์ในไร่นาที่คนต่างชาติลงมือลงแรงทำไว้
- สดุดี 105:45 - ที่พระองค์ทำอย่างนี้ก็เพื่อพวกเขาจะได้เชื่อฟังกฎทั้งหลายของพระองค์ และรักษาคำสั่งสอนของพระองค์อย่างระมัดระวัง สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
- อิสยาห์ 45:21 - ให้พวกเขามาและยื่นคดีของเขา ให้พวกเขาหารือกันในเรื่องพวกนี้ “ใครเป็นคนทำนายเรื่องนี้ให้เจ้ารู้เมื่อนานมาแล้ว หรือใครเป็นคนบอกเรื่องนี้ให้เจ้ารู้ก่อนล่วงหน้า นานแสนนานมาแล้ว ก็ไม่ใช่เรา ยาห์เวห์ หรอกหรือ ไม่มีพระเจ้าอื่นอีกแล้วนอกจากเรา เราเป็นพระเจ้าที่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ไม่มีพระเจ้าอื่นนอกจากเรา
- อิสยาห์ 45:22 - ทุกคนที่อยู่สุดปลายโลก หันมาหาเราแล้วจะรอด เพราะเราคือพระเจ้า ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
- สดุดี 78:1 - คนของเราเอ๋ย ให้ฟังคำสั่งสอนของเรา เอียงหูของเจ้ามาฟังคำพูดต่างๆที่ออกมาจากปากของเรา
- สดุดี 78:2 - เราจะอ้าปากร้องเพลงที่ก่อให้เกิดสติปัญญา เราจะอธิบายบทเรียนต่างๆที่ได้จากเหตุการณ์ทั้งหลายในอดีต
- สดุดี 78:3 - ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเราเคยได้ยินและรู้จักกันดี เพราะพ่อแม่และคนรุ่นก่อนๆได้เล่าให้พวกเราฟัง
- สดุดี 78:4 - พวกเราจะไม่ซ่อนเรื่องเหล่านี้ไปจากลูกหลานของพวกเขา พวกเราจะเล่าให้กับคนรุ่นต่อไปฟัง ถึงการกระทำอันน่าสรรเสริญของพระยาห์เวห์ ถึงพลังอำนาจของพระองค์และถึงสิ่งน่าทึ่งต่างๆที่พระองค์ได้ทำ
- สดุดี 78:5 - พระเจ้าทำข้อตกลงไว้กับยาโคบ พระองค์ให้กฎกับชาวอิสราเอลทำตาม และพระองค์สั่งบรรพบุรุษของพวกเรา ให้สั่งสอนสิ่งเหล่านี้กับลูกๆของพวกเขา
- สดุดี 78:6 - เพื่อว่าคนรุ่นต่อไป คือเด็กที่ยังไม่ได้เกิดมาจะได้รู้ถึงสิ่งเหล่านี้ และเมื่อพวกเขาโตขึ้น พวกเขาจะได้เล่าเรื่องเหล่านี้ให้กับลูกๆของพวกเขาฟัง
- สดุดี 78:7 - แล้วพวกเขาจะได้ไว้วางใจในพระเจ้า และไม่ลืมสิ่งต่างๆที่พระเจ้าทำ แต่จะรักษาคำสั่งต่างๆของพระองค์ไว้
- สดุดี 78:8 - พวกเขาจะได้ไม่เป็นเหมือนบรรพบุรุษของพวกเขา ซึ่งเป็นรุ่นที่กบฏและไม่เชื่อฟัง ซึ่งใจของพวกเขาไม่ได้มั่นคงในพระเจ้า และจิตวิญญาณของพวกเขาไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
- สดุดี 78:9 - เช่น คนเอฟราอิมที่มีธนู พร้อมมือ แต่กลับวิ่งหนีในวันที่การสู้รบมาถึง
- สดุดี 78:10 - พวกเขาไม่ได้รักษาข้อตกลงที่ทำไว้กับพระเจ้า พวกเขาไม่ยอมทำตามกฎต่างๆของพระองค์
- สดุดี 78:11 - พวกเขาลืมสิ่งต่างๆที่พระองค์ทำไป คือสิ่งน่าทึ่งต่างๆที่พระองค์ทำให้พวกเขาเห็น
- สดุดี 78:12 - พระเจ้าทำสิ่งน่าทึ่งต่างๆต่อหน้าต่อตาบรรพบุรุษของพวกเขา ในแคว้นโศอันในแผ่นดินอียิปต์
- สดุดี 78:13 - พระเจ้าแหวกทะเลออกและนำพวกเขาเดินทะลุไป พระองค์ทำให้น้ำตั้งขึ้นเหมือนกำแพงทั้งสองข้าง
- สดุดี 78:14 - พระองค์นำทางพวกเขาด้วยเมฆในตอนกลางวัน และนำด้วยแสงไฟตลอดคืน
- สดุดี 78:15 - พระองค์ทุบหินในทะเลทรายแยกออก และน้ำก็ไหลพุ่งออกมามากมายให้พวกเขาดื่มเหมือนกับมาจากทะเลลึก
- สดุดี 78:16 - พระองค์ทำให้พวกลำธารไหลออกมาจากหินผา พระองค์ทำให้น้ำไหลเหมือนพวกแม่น้ำ
- สดุดี 78:17 - แต่พวกบรรพบุรุษยังคงทำบาปต่อพระองค์ต่อไป และกบฏต่อพระองค์ผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดในแผ่นดินที่แห้งแล้งนั้น
- สดุดี 78:18 - แล้วพวกเขาตั้งใจลองดีพระเจ้า พวกเขาขออาหารเพื่อสนองความอยากของตน
- สดุดี 78:19 - พวกเขาพูดต่อว่าพระเจ้าว่า “ในที่เปล่าเปลี่ยวอย่างนี้ พระเจ้าสามารถหาอาหารให้กับพวกเราได้หรือ
- สดุดี 78:20 - ถึงแม้พระองค์ทุบหินให้น้ำไหลออกมาจนล้นหุบเหวลึกได้ แต่พระองค์จะมีปัญญาหาอาหารมาให้ได้จริงๆหรือ พระองค์จะเอาเนื้อมาให้คนของพระองค์กินด้วยได้หรือ”
- สดุดี 78:21 - เมื่อพระยาห์เวห์ได้ยินอย่างนั้น พระองค์ก็โกรธ และไฟก็ปะทุขึ้นใส่คนของยาโคบ ความโกรธของพระองค์เผาอิสราเอล
- สดุดี 78:22 - เพราะพวกเขาไม่ได้ไว้วางใจในพระเจ้า และไม่เชื่อว่า พระองค์มีฤทธิ์ที่จะช่วยพวกเขาให้รอดได้
- สดุดี 78:23 - แล้วพระเจ้าก็ประกาศสั่งเมฆบนฟ้าเบื้องบน และพระองค์เปิดประตูท้องฟ้า
- สดุดี 78:24 - แล้วพระองค์ก็เทมานาลงมาให้พวกเขากิน พระองค์ให้อาหารทิพย์จากสวรรค์กับพวกเขา
- สดุดี 78:25 - คนพวกนี้พากันกินขนมปังของพวกเทพเจ้า พระองค์ให้อาหารพวกเขากินอย่างอิ่มหมีพีมัน
- สดุดี 78:26 - แล้วพระเจ้าก็ทำให้ลมจากทิศ-ตะวันออกเฉียงใต้พัดมาตรงที่พวกเขาอยู่ และให้ฝูงนกตกลงมาจากท้องฟ้า
- สดุดี 78:27 - พระองค์เทเนื้อลงบนพวกเขาอย่างพายุฝุ่น มีนกมากมายเหมือนเม็ดทรายที่ชายทะเล
- สดุดี 78:28 - นกพวกนี้ตกลงไปในค่าย รอบๆเต็นท์ของพวกเขา
- สดุดี 78:29 - พระเจ้าให้สิ่งที่พวกเขาอยากได้ และพวกเขาก็กินจนอิ่มตื้อ
- สดุดี 78:30 - แต่ในระหว่างที่เขายังกินอาหารที่อยากกินอยู่นั้น ขณะที่มันยังคาอยู่ในปาก
- สดุดี 78:31 - จู่ๆความโกรธของพระเจ้าก็พลุ่งขึ้นใส่พวกเขา พระองค์ฆ่าคนที่แข็งแรงที่สุดของพวกเขาบางคน พระองค์โค่นพวกคนหนุ่มที่ดีที่สุดของอิสราเอล
- สดุดี 78:32 - ขนาดเกิดเรื่องอย่างนี้แล้ว พวกเขาก็ยังคงทำบาป และยังไม่ยอมเชื่อในฤทธิ์อันน่าทึ่งของพระเจ้า
- สดุดี 78:33 - พระองค์ทำให้ชีวิตของพวกเขาจบลงอย่างล้มเหลว เดือนปีของเขาจบลงด้วยความหวาดกลัวและสั่นเทิ้ม
- สดุดี 78:34 - เมื่อไหร่ก็ตามที่พระเจ้าฆ่าคนเหล่านั้น คนที่เหลือก็จะมาขอความช่วยเหลือจากพระองค์ พวกเขาจะกลับมาหาพระองค์และแสวงหาพระเจ้าด้วยใจร้อนรน
- สดุดี 78:35 - พวกเขาจะระลึกได้ว่าพระเจ้าเป็นหินกำบังของพวกเขา พระเจ้าผู้สูงสุดเป็นผู้ที่ไถ่ชีวิตของพวกเขา
- สดุดี 78:36 - พวกเขาพยายามหลอกพระองค์ด้วยปาก และโกหกพระองค์ด้วยลิ้น
- สดุดี 78:37 - พวกเขาไม่จริงใจต่อพระเจ้า และไม่สัตย์ซื่อต่อข้อตกลงที่ทำไว้กับพระองค์
- สดุดี 78:38 - แต่พระเจ้านั้นมีความเมตตา พระองค์ลบความผิดของพวกเขาออกไป พระองค์ไม่ได้ทำลายล้างพวกเขา พระองค์ระงับความโกรธของพระองค์ไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า พระองค์ไม่ยอมกวนความโกรธของพระองค์ให้พลุ่งขึ้นมา
- สดุดี 78:39 - พระเจ้าระลึกอยู่เสมอว่าพวกเขาเป็นแค่มนุษย์ พวกเขาเป็นเหมือนกับลมที่พัดผ่านไปและไม่หวนกลับมาอีก
- สดุดี 78:40 - พวกเขากบฏต่อพระองค์หลายครั้งหลายคราในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนั้น พวกเขาทำให้พระองค์เสียใจในดินแดนนั้น
- สดุดี 78:41 - พวกเขาลองดีกับพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่า และทำให้องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลต้องเจ็บปวดใจ
- สดุดี 78:42 - พวกเขาไม่เคยจดจำฤทธิ์อำนาจของพระองค์ หรือจดจำวันที่พระองค์ช่วยกู้พวกเขาให้รอดพ้นจากศัตรู
- สดุดี 78:43 - หรือเวลาที่พระองค์ได้ทำการอัศจรรย์ในประเทศอียิปต์ หรือที่พระองค์ได้แสดงสิ่งน่าทึ่งต่างๆในแคว้นโศอัน
- สดุดี 78:44 - พระองค์เปลี่ยนแม่น้ำให้กลายเป็นเลือด พวกเขาจึงไม่สามารถดื่มน้ำจากลำธารได้
- สดุดี 78:45 - พระองค์ให้เหลือบมากัดพวกเขา และส่งกบทั้งหลายมาทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
- สดุดี 78:46 - พระองค์ยกพืชผลของพวกเขาให้กับตั๊กแตนวัยคลาน และยกผลผลิตของพวกเขาให้กับตั๊กแตนวัยบิน
- สดุดี 78:47 - พระองค์ทำให้ลูกเห็บตกลงมาทำลายเถาองุ่นของชาวอียิปต์ พระองค์ทำให้ฝนตกห่าใหญ่ทำลายผลมะเดื่อของพวกเขา
- สดุดี 78:48 - พระองค์ส่งลูกเห็บลงมาฆ่าฝูงวัวของพวกเขา และให้ฟ้าผ่าฝูงสัตว์ของเขา
- สดุดี 78:49 - พระองค์แสดงความเคืองแค้นอันร้อนแรงของพระองค์ต่อชนชาวอียิปต์ พระองค์ส่ง ความเกรี้ยวโกรธ ความเดือดดาล และความอาฆาตแค้นเป็นคณะทูตมาทำลายล้างพวกเขา
- สดุดี 78:50 - พระองค์ระบายความโกรธของพระองค์ออกมาอย่างเต็มที่ พระองค์ไม่ได้ไว้ชีวิตของชาวอียิปต์แต่กลับยกพวกเขาให้ตายด้วยโรคระบาด
- สดุดี 78:51 - พระเจ้าฆ่าลูกชายหัวปีทั้งหมดในอียิปต์ พระองค์ทำลายสิ่งที่พิสูจน์ถึงความเป็นชายของครอบครัวทั้งหลายของฮาม
- สดุดี 78:52 - แต่พระเจ้านำทางคนของพระองค์ออกจากที่นั่นเหมือนนำแกะ และพระองค์นำทางพวกเขาในที่เปล่าเปลี่ยวเหมือนนำฝูงสัตว์
- สดุดี 78:53 - พระเจ้านำพวกเขาสู่ความปลอดภัย พวกเขาจึงไม่ต้องหวาดกลัว เพราะพระเจ้าทำให้ศัตรูของพวกเขาถูกน้ำทะเลซัดกลบตายหมด
- สดุดี 78:54 - แล้วพระเจ้าก็นำพวกเขาไปถึงพรมแดนของแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ คือดินแดนแห่งเนินเขาที่พระองค์ยึดมาด้วยมือขวาอันทรงฤทธิ์ของพระองค์
- สดุดี 78:55 - แล้วพระองค์ก็ขับไล่ชนชาติต่างๆออกไปต่อหน้าคนของพระองค์ พระองค์แบ่งปันดินแดนนั้นให้กับเผ่าต่างๆของอิสราเอลและให้พวกเขาตั้งถิ่นฐานอยู่ในบ้านทั้งหลายของศัตรู
- สดุดี 78:56 - แต่พวกอิสราเอลก็ยังลองดีกับพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด กบฏต่อพระองค์และไม่ได้เชื่อฟังกฎทั้งหลายของพระองค์
- สดุดี 78:57 - ชาวอิสราเอลไม่จงรักภักดีและทรยศต่อพระเจ้า เหมือนกับที่บรรพบุรุษของพวกเขาเคยทำ พวกเขาเชื่อถือไม่ได้เหมือนคันธนูที่ใช้การไม่ได้
- สดุดี 78:58 - พวกเขาทำให้พระองค์โกรธด้วยการสร้างสถานศักดิ์สิทธิ์มากมาย และทำให้พระองค์หึงหวงด้วยการสร้างรูปเคารพมากมาย
- สดุดี 78:59 - เมื่อพระเจ้าได้ยินเรื่องเหล่านี้ พระองค์โกรธ และพระองค์ทอดทิ้งอิสราเอลอย่างสิ้นเชิง
- สดุดี 78:60 - พระองค์ละทิ้งเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ในเมืองชิโลห์ไป ซึ่งเคยเป็นที่สถิตของพระองค์ท่ามกลางมนุษย์
- สดุดี 78:61 - พระองค์ยอมปล่อยให้หีบอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ถูกยึดไป พระองค์ยอมปล่อยให้ศัตรูยึดเอาสัญลักษณ์แห่งฤทธิ์อำนาจและสง่าราศีของพระองค์ไป
- สดุดี 78:62 - พระองค์เกรี้ยวโกรธคนของพระองค์ และปล่อยให้คนของพระองค์ตายด้วยคมดาบ
- สดุดี 78:63 - พวกทหารหนุ่มถูกไฟเผาตายหมด และพวกสาวบริสุทธิ์ยังคงไม่ได้แต่งงาน
- สดุดี 78:64 - พวกนักบวชล้มตายด้วยคมดาบ แต่ภรรยาหม้ายของพวกเขาไม่สามารถไว้ทุกข์ได้ตามปกติ
- สดุดี 78:65 - แล้วองค์เจ้าชีวิตก็ตื่นขึ้นมาเหมือนคนที่เพิ่งตื่นนอน เหมือนกับนักรบที่เพิ่งตื่นขึ้นจากการเมาเหล้าองุ่น
- สดุดี 78:66 - พระองค์ตีเหล่าศัตรู ขับไล่พวกเขากลับไป และทำให้พวกเขาอับอายขายหน้าตลอดไป
- สดุดี 78:67 - แล้วพระองค์ทอดทิ้งครอบครัวของโยเซฟ และไม่ได้เลือกเผ่าของเอฟราอิม
- สดุดี 78:68 - แล้วพระองค์ก็เลือกเผ่ายูดาห์ขึ้นปกครอง และเลือกภูเขาศิโยนที่พระองค์รัก เป็นที่ตั้งของวิหาร
- สดุดี 78:69 - พระองค์สร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เหมือนกับภูเขาสูงต่างๆ เหมือนโลกนี้ที่พระองค์ตั้งให้อยู่ตลอดไป
- สดุดี 78:70 - พระองค์เลือกดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ และเอาเขาออกมาจากคอกแกะทั้งหลาย
- สดุดี 78:71 - พระองค์เอาดาวิดมาจากการติดตามดูแลแม่แกะและลูกของมัน มาเป็นผู้เลี้ยงยาโคบคนของพระองค์ และเป็นผู้เลี้ยงอิสราเอลสมบัติของพระองค์
- สดุดี 78:72 - ดาวิดดูแลพวกเขาด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ และนำพวกเขาด้วยมือที่ชำนาญยิ่ง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:7 - จำวันเก่าๆเหล่านั้นไว้ คิดถึงปีที่คนรุ่นก่อนๆได้ผ่านมา ถามพ่อของเจ้าและเขาจะบอกเจ้า ถามผู้นำอาวุโสของเจ้าและพวกเขาจะบอกเจ้าเกี่ยวกับอดีต
- อิสยาห์ 65:17 - ดูสิ เรากำลังจะสร้างสวรรค์ใหม่ และโลกใหม่ จะไม่มีใครจดจำเรื่องเก่าๆอีกต่อไป มันก็จะไม่แวบเข้ามาในความคิดอีกเลย
- ดาเนียล 9:6 - เราไม่ยอมฟังพวกผู้รับใช้ของพระองค์ พวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่มาพูดตามคำสั่งของพระองค์ ที่พระองค์สั่งให้มาพูดกับกษัตริย์ของเรา พวกผู้นำ พวกพ่อของเรา และทุกคนในประเทศ
- ดาเนียล 9:7 - องค์เจ้าชีวิตเจ้าข้า พระองค์ทำถูกต้องแล้ว แต่เรานำความอับอายขายหน้ามาสู่พวกเราเองจนถึงทุกวันนี้ คือมาสู่คนยูดาห์ พลเมืองของเยรูซาเล็ม และชาวอิสราเอลทุกคน ทั้งใกล้และไกล มาสู่คนในทุกประเทศที่พระองค์ทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปนั้น หลังจากที่พวกเขาทรยศต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:8 - ใช่แล้วพระยาห์เวห์ เราได้นำความอับอายมาสู่พวกเราเอง ทั้งพวกเรา พวกกษัตริย์ พวกผู้นำ และพวกพ่อของเรา เพราะพวกเราทุกคนได้ทำบาปต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:9 - แต่องค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของเรามีความเมตตาและให้อภัยพวกเราที่ได้กบฏต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:10 - เราไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา นั่นคือเราไม่ได้ใช้ชีวิตตามคำสอนของพระองค์ ที่พระองค์ให้กับเรา ผ่านมาทางพวกผู้รับใช้ของพระองค์ คือพวกผู้พูดแทนพระเจ้านั่นเอง
- ดาเนียล 9:11 - คนอิสราเอลทุกคนละเมิดคำสั่งสอนของพระองค์ และทำผิดที่ไม่ฟังพระองค์ ดังนั้นคำสาปแช่งและคำปฏิญาณ ที่เขียนไว้ในกฎของโมเสส ผู้รับใช้ของพระเจ้า ได้ตกอยู่บนเรา เพราะเราได้ทำบาปต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:12 - พระองค์ก็เลยทำตามที่พระองค์ขู่ไว้ว่า จะให้เกิดขึ้นกับพวกเรา และกับพวกผู้นำของเรา พระองค์นำความหายนะครั้งใหญ่มาใส่เรา ความหายนะที่เกิดขึ้นกับเยรูซาเล็มนั้นร้ายแรงมาก ไม่เหมือนกับความหายนะอันไหนเลยที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทั่วใต้ฟ้านี้
- ดาเนียล 9:13 - ความทุกข์ยากที่ได้เขียนไว้ในกฎของโมเสส ก็ได้เกิดขึ้นกับเรา เหมือนกับที่ได้เขียนไว้ในกฎทุกอย่าง แต่พวกเราก็ไม่ได้พยายามที่จะทำให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราพอใจ ด้วยการหันจากการทำชั่วของเรา และเรียนรู้จากความซื่อสัตย์ของพระองค์
- ดาเนียล 9:14 - พระยาห์เวห์ได้เตรียมความหายนะนี้สำหรับเวลาที่เหมาะสม แล้วพระองค์ก็ให้มันตกลงมาบนเรา ทุกอย่างที่พระยาห์เวห์พระเจ้าได้ทำไปนั้นยุติธรรมแล้ว แต่เราไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์
- ดาเนียล 9:15 - และบัดนี้ ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต พระเจ้าของเรา พระองค์เป็นผู้ที่นำคนของพระองค์ออกจากอียิปต์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 33:26 - “เยชุรูนเอ๋ย ไม่มีใครเหมือนพระเจ้า ผู้ที่ลอยผ่านฟ้ามาช่วยท่าน และลอยผ่านเมฆมาด้วยความสง่างามของพระองค์
- อิสยาห์ 42:9 - เหตุการณ์ที่ผ่านไป ที่เราได้ทำนายไว้ล่วงหน้าก็ได้เกิดขึ้นแล้ว และตอนนี้เรากำลังทำนายเรื่องใหม่ๆ เราจะบอกพวกเจ้าถึงเหตุการณ์เหล่านั้นก่อนที่มันจะงอกออกมา”
- สดุดี 111:4 - พระองค์ได้ชื่อเสียงจากการกระทำอันน่าทึ่งทั้งหลายของพระองค์ พระยาห์เวห์มีน้ำใจและมีความเมตตากรุณา