逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - “ช่วยอธิษฐานถึงพระยาห์เวห์ให้กับพวกเราหน่อย เพราะเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์บาบิโลนกำลังสู้รบกับพวกเราอยู่ บางทีพระยาห์เวห์อาจจะทำสิ่งที่วิเศษให้กับพวกเรา เหมือนที่พระองค์เคยทำในอดีต และกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์จะได้ไปจากเรา”
- 新标点和合本 - “请你为我们求问耶和华;因为巴比伦王尼布甲尼撒来攻击我们,或者耶和华照他一切奇妙的作为待我们,使巴比伦王离开我们上去。”
- 和合本2010(上帝版-简体) - “请你为我们求问耶和华,因为巴比伦王尼布甲尼撒前来攻击我们;或者耶和华照他一切奇妙的作为待我们,使巴比伦王离开我们而去。”
- 和合本2010(神版-简体) - “请你为我们求问耶和华,因为巴比伦王尼布甲尼撒前来攻击我们;或者耶和华照他一切奇妙的作为待我们,使巴比伦王离开我们而去。”
- 当代译本 - “请你为我们求问耶和华,因为巴比伦王尼布甲尼撒来攻打我们,或许耶和华会像以往一样为我们行神迹,使敌人撤军。”
- 圣经新译本 - “请你替我们求问耶和华,因为巴比伦王尼布甲尼撒来攻击我们;也许耶和华会为我们行奇事,使尼布甲尼撒离开我们回去。”
- 现代标点和合本 - “请你为我们求问耶和华,因为巴比伦王尼布甲尼撒来攻击我们,或者耶和华照他一切奇妙的作为待我们,使巴比伦王离开我们上去。”
- 和合本(拼音版) - “请你为我们求问耶和华,因为巴比伦王尼布甲尼撒来攻击我们,或者耶和华照他一切奇妙的作为待我们,使巴比伦王离开我们上去。”
- New International Version - “Inquire now of the Lord for us because Nebuchadnezzar king of Babylon is attacking us. Perhaps the Lord will perform wonders for us as in times past so that he will withdraw from us.”
- New International Reader's Version - “Ask the Lord to help us. Nebuchadnezzar king of Babylon is attacking us. In the past the Lord did wonderful things for us. Maybe he’ll do them again. Then Nebuchadnezzar will pull his armies back from us.”
- English Standard Version - “Inquire of the Lord for us, for Nebuchadnezzar king of Babylon is making war against us. Perhaps the Lord will deal with us according to all his wonderful deeds and will make him withdraw from us.”
- New Living Translation - “Please speak to the Lord for us and ask him to help us. King Nebuchadnezzar of Babylon is attacking Judah. Perhaps the Lord will be gracious and do a mighty miracle as he has done in the past. Perhaps he will force Nebuchadnezzar to withdraw his armies.”
- Christian Standard Bible - “Inquire of the Lord on our behalf, since King Nebuchadnezzar of Babylon is making war against us. Perhaps the Lord will perform for us something like all his past wondrous works so that Nebuchadnezzar will withdraw from us.”
- New American Standard Bible - “Please inquire of the Lord in our behalf, because Nebuchadnezzar king of Babylon is making war against us; perhaps the Lord will deal with us in accordance with all His wonderful acts, so that the enemy will withdraw from us.”
- New King James Version - “Please inquire of the Lord for us, for Nebuchadnezzar king of Babylon makes war against us. Perhaps the Lord will deal with us according to all His wonderful works, that the king may go away from us.”
- Amplified Bible - “Please inquire of the Lord for us, because Nebuchadnezzar king of Babylon is making war against us. Perhaps the Lord will deal [favorably] with us according to all His wonderful works and force him to withdraw from us.”
- American Standard Version - Inquire, I pray thee, of Jehovah for us; for Nebuchadrezzar king of Babylon maketh war against us: peradventure Jehovah will deal with us according to all his wondrous works, that he may go up from us.
- King James Version - Enquire, I pray thee, of the Lord for us; for Nebuchadrezzar king of Babylon maketh war against us; if so be that the Lord will deal with us according to all his wondrous works, that he may go up from us.
- New English Translation - “Please ask the Lord to come and help us, because King Nebuchadnezzar of Babylon is attacking us. Maybe the Lord will perform one of his miracles as in times past and make him stop attacking us and leave.”
- World English Bible - “Please inquire of Yahweh for us; for Nebuchadnezzar king of Babylon makes war against us. Perhaps Yahweh will deal with us according to all his wondrous works, that he may withdraw from us.”
- 新標點和合本 - 「請你為我們求問耶和華;因為巴比倫王尼布甲尼撒來攻擊我們,或者耶和華照他一切奇妙的作為待我們,使巴比倫王離開我們上去。」
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 「請你為我們求問耶和華,因為巴比倫王尼布甲尼撒前來攻擊我們;或者耶和華照他一切奇妙的作為待我們,使巴比倫王離開我們而去。」
- 和合本2010(神版-繁體) - 「請你為我們求問耶和華,因為巴比倫王尼布甲尼撒前來攻擊我們;或者耶和華照他一切奇妙的作為待我們,使巴比倫王離開我們而去。」
- 當代譯本 - 「請你為我們求問耶和華,因為巴比倫王尼布甲尼撒來攻打我們,或許耶和華會像以往一樣為我們行神蹟,使敵人撤軍。」
- 聖經新譯本 - “請你替我們求問耶和華,因為巴比倫王尼布甲尼撒來攻擊我們;也許耶和華會為我們行奇事,使尼布甲尼撒離開我們回去。”
- 呂振中譯本 - 『請為我們求問永恆主,因為 巴比倫 王 尼布甲尼撒 來攻擊我們;或者永恆主照他一切奇妙的作為來待我們,使 巴比倫 王撤圍離開我們而上去、也不一定。』那時有話語出於永恆主,而傳與 耶利米 。
- 現代標點和合本 - 「請你為我們求問耶和華,因為巴比倫王尼布甲尼撒來攻擊我們,或者耶和華照他一切奇妙的作為待我們,使巴比倫王離開我們上去。」
- 文理和合譯本 - 巴比倫王尼布甲尼撒將與我戰、求爾為我詢於耶和華、或耶和華依其奇行待我、使彼離我而去、
- 文理委辦譯本 - 巴比倫王尼布甲尼撒攻我、爾為我禱耶和華、庶幾耶和華仍顯異跡、俾不攻予、時耶利米奉耶和華命、
- Nueva Versión Internacional - «Consulta ahora al Señor por nosotros, porque Nabucodonosor, rey de Babilonia, nos está atacando. Tal vez el Señor haga uno de sus milagros, y lo obligue a retirarse».
- 현대인의 성경 - “바빌로니아의 느부갓네살왕이 우리를 공격해 오는데 당신은 우리를 위해서 여호와께 물어 보시오. 어쩌면 여호와께서 옛날처럼 우리를 도와 기적을 베푸셔서 느부갓네살왕이 물러가도록 하실지도 모릅니다.”
- Новый Русский Перевод - «Попроси о нас Господа, потому что на нас напал Навуходоносор, царь Вавилона . Может, Господь сотворит для нас чудо, как в былые времена, и Навуходоносор отойдет от нас».
- Восточный перевод - «Попроси о нас Вечного, потому что на нас напал Навуходоносор , царь Вавилона. Может, Вечный сотворит для нас чудо, как в былые времена, и Навуходоносор отойдёт от нас».
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - «Попроси о нас Вечного, потому что на нас напал Навуходоносор , царь Вавилона. Может, Вечный сотворит для нас чудо, как в былые времена, и Навуходоносор отойдёт от нас».
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - «Попроси о нас Вечного, потому что на нас напал Навуходоносор , царь Вавилона. Может, Вечный сотворит для нас чудо, как в былые времена, и Навуходоносор отойдёт от нас».
- La Bible du Semeur 2015 - Veuille consulter l’Eternel pour nous, car Nabuchodonosor , roi de Babylone, nous attaque . Peut-être l’Eternel fera-t-il encore pour nous un de ses grands prodiges , pour le faire partir.
- Nova Versão Internacional - “Consulte agora o Senhor por nós porque Nabucodonosor, rei da Babilônia, está nos atacando. Talvez o Senhor faça por nós uma de suas maravilhas e, assim, ele se retire de nós”.
- Kinh Thánh Hiện Đại - “Xin ông cầu hỏi Chúa Hằng Hữu giúp chúng tôi và cầu xin Chúa cứu giúp chúng tôi. Vua Nê-bu-cát-nết-sa, nước Ba-by-lôn, đang tấn công vào Giu-đa. Biết đâu, Chúa Hằng Hữu sẽ khoan dung và ban những phép lạ quyền năng như Ngài từng làm trong quá khứ. Có thể Ngài sẽ khiến Nê-bu-cát-nết-sa rút quân về.”
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - “ช่วยทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าให้เราด้วย เพราะกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ แห่งบาบิโลนยกทัพมาโจมตีเรา บางทีองค์พระผู้เป็นเจ้าอาจจะทำการอัศจรรย์เพื่อพวกเราเหมือนในอดีต เนบูคัดเนสซาร์จะได้ถอนทัพกลับไป”
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - “ช่วยพูดกับพระผู้เป็นเจ้าให้พวกเราด้วยเถิด เนื่องจากเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนกำลังโจมตีพวกเรา พระผู้เป็นเจ้าอาจจะแสดงสิ่งมหัศจรรย์เพื่อพวกเรา และจะทำให้เขาถอยทัพกลับไป”
- Thai KJV - “ขอจงทูลถามพระเยโฮวาห์เพื่อเรา เพราะเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์บาบิโลนกำลังทำสงครามกับเรา ชะรอยพระเยโฮวาห์จะทรงกระทำกับเราตามบรรดาราชกิจอันมหัศจรรย์ของพระองค์ และจะทรงกระทำให้เนบูคัดเนสซาร์ถอยทัพไปจากเรา”
交叉引用
- 2 พงศ์กษัตริย์ 3:11 - แต่เยโฮชาฟัทถามว่า “ไม่มีผู้พูดแทนพระยาห์เวห์อยู่ที่นี่สักคนเลยหรือ พวกเราจะได้ถามพระยาห์เวห์ผ่านทางเขาได้” มีข้าราชการคนหนึ่งของกษัตริย์อิสราเอลตอบว่า “เอลีชาลูกชายของชาฟัทอยู่ที่นี่ เขาเคยรับใช้เอลียาห์มาก่อน”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 3:12 - เยโฮชาฟัทพูดว่า “คำพูดของพระยาห์เวห์อยู่กับเขา” กษัตริย์ของอิสราเอลและเยโฮชาฟัทรวมทั้งกษัตริย์ของเอโดมได้ลงไปพบเอลีชา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 3:13 - เอลีชาพูดกับกษัตริย์ของอิสราเอลว่า “ข้าไปเกี่ยวอะไรกับท่านด้วย ไปหาพวกผู้พูดแทนพระทั้งหลายของพ่อแม่ท่านสิ” กษัตริย์ของอิสราเอลตอบว่า “ไม่ไปหรอก เรามาหาเจ้าก็เพราะเป็นพระยาห์เวห์นั่นแหละ ที่ได้เรียกพวกเราทั้งสามคนที่เป็นกษัตริย์ออกมา เพื่อจะมอบพวกเราให้กับพวกโมอับ”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 3:14 - เอลีชาจึงพูดว่า “พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้ที่ข้าพเจ้ารับใช้ มีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า หากไม่มีกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์อยู่ด้วย ข้าพเจ้าก็จะไม่มองหรือให้ความสนใจเจ้าแม้แต่นิดเดียว
- เยเรมียาห์ 32:17 - “ข้าแต่พระยาห์เวห์ เจ้านายของข้าพเจ้า พระองค์สร้างฟ้าและแผ่นดินโลกด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ และแขนที่ยื่นออกมาของพระองค์ ไม่มีอะไรที่ยากเกินไปสำหรับพระองค์
- เยเรมียาห์ 38:14 - กษัตริย์เศเดคียาห์ ส่งคนไปนำตัวเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้ามาพบพระองค์ ที่ตรงประตูที่สามซึ่งอยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ แล้วพระองค์ก็พูดกับเยเรมียาห์ว่า “เราจะถามเจ้าบางอย่าง อย่าได้ปิดบังอะไรจากเราละ”
- เยเรมียาห์ 38:15 - เยเรมียาห์จึงบอกกับกษัตริย์เศเดคียาห์ว่า “ถ้าข้าพเจ้าบอกพระองค์ พระองค์จะไม่ฆ่าข้าพเจ้าหรือ และถ้าข้าพเจ้าให้คำแนะนำกับพระองค์ พระองค์ก็จะไม่ฟังข้าพเจ้าหรอก”
- เยเรมียาห์ 38:16 - ดังนั้นกษัตริย์เศเดคียาห์จึงสาบานกับเยเรมียาห์อย่างลับๆว่า “เราขอสาบานต่อพระยาห์เวห์ผู้สร้างพวกเราและประทานชีวิตให้พวกเราว่า เราจะไม่ฆ่าเจ้า และจะไม่มอบตัวเจ้าให้กับคนพวกนี้ที่อยากจะฆ่าเจ้า”
- เยเรมียาห์ 38:17 - เยเรมียาห์จึงบอกกับเศเดคียาห์ว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดว่า ‘ถ้าเจ้ายอมออกไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ของกษัตริย์แห่งบาบิโลนจริงๆเจ้าก็จะรอดชีวิต และเมืองนี้ก็จะไม่ถูกไฟเผา เจ้าและครอบครัวของเจ้าก็จะรอดชีวิต
- เยเรมียาห์ 38:18 - แต่ถ้าเจ้าไม่ออกไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ของกษัตริย์แห่งบาบิโลน เมืองนี้ก็จะตกไปอยู่ในเงื้อมมือของชาวบาบิโลน แล้วพวกเขาก็จะจุดไฟเผาเมือง แล้วเจ้าก็จะไม่รอดพ้นเงื้อมมือพวกเขา’”
- เยเรมียาห์ 38:19 - แล้วกษัตริย์เศเดคียาห์ก็พูดกับเยเรมียาห์ว่า “เรากลัวพวกยิวที่ทิ้งเมืองไปหาพวกบาบิโลน กลัวว่าเราจะถูกส่งไปให้พวกมันทำร้ายเอา”
- เยเรมียาห์ 38:20 - เยเรมียาห์จึงพูดว่า “พวกเขาจะไม่ส่งพระองค์ไปอยู่ในเงื้อมมือของคนพวกนั้นหรอก โปรดฟังเสียงของพระยาห์เวห์ผู้ที่ข้าพเจ้ากำลังพูดแทนอยู่เถิด และทุกอย่างก็จะเป็นไปด้วยดีสำหรับพระองค์ และพระองค์ก็จะรอดชีวิต
- เยเรมียาห์ 38:21 - แต่พระยาห์เวห์ได้แสดงให้ข้าพเจ้าเห็นว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้จะเกิดขึ้น ถ้าพระองค์ไม่ยอมออกไปมอบตัว
- เยเรมียาห์ 38:22 - คือผู้หญิงทุกคนที่เหลืออยู่ในบ้านของกษัตริย์แห่งยูดาห์จะถูกจับไปให้กับพวกเจ้าหน้าที่ของกษัตริย์แห่งบาบิโลน แล้วพวกเขาก็จะพูดว่า ‘พันธมิตรของแกหักหลังแกแล้ว พวกเขาชนะแก เท้าของแกจมโคลนแล้ว และพวกเขาก็ทอดทิ้งแกไป’
- เยเรมียาห์ 38:23 - พวกเมียและลูกทุกคนของพระองค์จะต้องไปหาชาวบาบิโลน และพระองค์ก็จะหนีไม่พ้นเงื้อมมือของพวกเขาไปได้ เพราะกษัตริย์แห่งบาบิโลนจะจับกุมพระองค์และเอาไฟเผาเมืองนี้”
- เยเรมียาห์ 38:24 - แล้วกษัตริย์เศเดคียาห์ก็พูดกับเยเรมียาห์ว่า “ถ้าเจ้าไม่บอกให้ใครรู้ ถึงเรื่องที่เราได้พูดคุยกันในวันนี้ เจ้าก็จะไม่ตาย
- เยเรมียาห์ 38:25 - ถ้าพวกเจ้านายรู้ว่าเราพูดกับเจ้า แล้วพวกเขามาถามเจ้าว่า ‘ช่วยบอกพวกเราหน่อยว่า เจ้าได้พูดอะไรกับกษัตริย์ และกษัตริย์ได้พูดอะไรกับเจ้าบ้าง ถ้าเจ้าบอกเราทุกอย่าง เราจะไม่ฆ่าเจ้า’
- เยเรมียาห์ 38:26 - เจ้าก็ต้องบอกพวกเขาว่า ‘ผมได้ขอร้องพระองค์ ว่าอย่าได้ส่งผมกลับไปตายที่บ้านของโยนาธานเลย’”
- เยเรมียาห์ 38:27 - แล้วพวกเจ้านายทั้งหมดก็ตรงเข้ามาถามเยเรมียาห์ เขาก็ตอบไปตามที่กษัตริย์สั่ง ดังนั้นพวกเขาจึงเลิกถามเพราะพวกเขาเองก็ไม่ได้ยินการพูดคุย
- อิสยาห์ 59:1 - อย่าคิดว่ามือของพระยาห์เวห์สั้นจนช่วยเจ้าไม่ได้ หรือหูของพระองค์ตึงจนไม่ได้ยินเสียงของเจ้า
- อิสยาห์ 59:2 - แต่เป็นความผิดบาปทั้งหลายของพวกเจ้าต่างหากที่เป็นอุปสรรคระหว่างเจ้ากับพระเจ้าของเจ้า เป็นพวกบาปของเจ้าที่ทำให้พระองค์ซ่อนหน้าไปจากเจ้า พระองค์จึงไม่ได้ยินเสียงของเจ้า
- อพยพ 14:1 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- อพยพ 14:2 - “ให้บอกกับชาวอิสราเอลว่า ให้หันกลับไปตั้งค่ายอยู่หน้าเมืองปิหะหิโรท ใกล้กับเมืองบาอัลเซโฟน ตรงนี้อยู่ระหว่างเมืองมิกดลกับทะเลแดง
- อพยพ 14:3 - ฟาโรห์จะพูดเกี่ยวกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘พวกนั้นกำลังหลงทางในแผ่นดิน และหาทางออกไม่เจอในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนั้น’
- อพยพ 14:4 - เราจะทำให้จิตใจของฟาโรห์แข็งกระด้าง และเขาจะไล่ตามพวกนั้น เราจะทำให้ฟาโรห์และกองทัพของเขาพ่ายแพ้ และเราจะได้รับการสรรเสริญเหนือฟาโรห์และกองทัพของเขา แล้วประชาชนชาวอียิปต์จะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์” ชาวอิสราเอลทำตามที่พระองค์สั่ง
- อพยพ 14:5 - เมื่อมีคนมาบอกกษัตริย์อียิปต์ว่า ชาวอิสราเอลหนีไปแล้ว ฟาโรห์และพวกข้าราชการของเขาก็เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาเกี่ยวกับคนอิสราเอลนั้น และพูดว่า “นี่เราทำอะไรลงไป เราปล่อยคนอิสราเอลไปจากการเป็นทาสของเราได้ยังไง”
- อพยพ 14:6 - ฟาโรห์จึงเตรียมรถรบของเขาและพากองทัพไปกับเขาด้วย
- อพยพ 14:7 - ฟาโรห์ได้เอารถรบที่คัดมาเป็นพิเศษหกร้อยคัน รวมทั้งรถรบอื่นๆทั้งหมดในอียิปต์ โดยมีทหารประจำการอยู่บนรถรบทุกคัน
- อพยพ 14:8 - พระยาห์เวห์ได้ทำให้จิตใจของฟาโรห์กษัตริย์อียิปต์แข็งกระด้าง เพื่อฟาโรห์จะได้ไล่ตามชาวอิสราเอลไป ชาวอิสราเอลเดินทางออกจากอียิปต์โดยชูมือขึ้นอย่างมีชัย
- อพยพ 14:9 - ชาวอียิปต์ไล่ตามชาวอิสราเอลมา และตามมาทันตรงที่พวกเขาตั้งค่ายอยู่ข้างๆทะเลแดง รถม้าของฟาโรห์ทั้งหมด พร้อมคนขับ และกองทัพของเขา ก็ไล่ตามชาวอิสราเอลมาทันกันที่เมืองปิหะหิโรท ที่อยู่ตรงหน้าเมืองบาอัลเซโฟน
- อพยพ 14:10 - ขณะที่ฟาโรห์บุกใกล้เข้ามา พวกชาวอิสราเอลเงยหน้าขึ้น มองเห็นว่ามีชาวอียิปต์กำลังไล่ตามพวกเขามา พวกเขากลัวมาก จึงร้องขอความช่วยเหลือต่อพระยาห์เวห์
- อพยพ 14:11 - พวกเขาพูดกับโมเสสว่า “ที่อียิปต์ไม่มีที่ที่จะฝังศพแล้วหรือยังไง เจ้าถึงได้พาให้พวกเรามาตายในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนี้ ดูสิว่าเจ้าได้ทำอะไรลงไป ที่เอาเราออกมาจากอียิปต์
- อพยพ 14:12 - เราบอกเจ้าแล้ว ไม่ใช่หรือว่า ‘อย่ามายุ่งกับเรา ปล่อยให้เรารับใช้ชาวอียิปต์’ เพราะให้เรารับใช้อยู่ในอียิปต์ ก็ยังดีกว่ามาตายในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนี้”
- อพยพ 14:13 - โมเสสพูดกับประชาชนว่า “ไม่ต้องกลัว ให้ยืนดู พระยาห์เวห์จะช่วยเหลือพวกท่านในวันนี้ ส่วนชาวอียิปต์ที่ท่านเห็นในวันนี้ ท่านก็จะไม่ได้เห็นพวกเขาอีกตลอดกาล
- อพยพ 14:14 - พระยาห์เวห์จะต่อสู้ให้กับพวกท่านเอง ขอให้พวกท่านอยู่เฉยๆ”
- อพยพ 14:15 - พระยาห์เวห์บอกกับโมเสสว่า “เจ้าจะมามัวร้องขอความช่วยเหลือกับเราทำไม ไปบอกกับชาวอิสราเอลให้เดินทางต่อไป
- 2 พงศาวดาร 14:9 - เศราห์ที่เป็นชาวคูชยกทัพมาเป็นล้าน มาสู้รบกับพวกเขา พร้อมกับรถรบ สามร้อยคัน พวกเขาเดินทัพมาจนถึงเมืองมาเรชาห์
- 2 พงศาวดาร 14:10 - อาสาออกไปสู้รบกับเขา พวกเขาทั้งหมดสู้กันที่สนามรบในหุบเขาเศฟาธาห์ใกล้กับเมืองมาเรชาห์
- 2 พงศาวดาร 14:11 - แล้วอาสาก็ร้องขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์สามารถช่วยได้ทั้งคนที่มีพลังมากหรือคนที่อ่อนแอ มันไม่แตกต่างอะไรกันเลยสำหรับพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา โปรดช่วยเราด้วยเถิด เพราะพวกเราพึ่งพระองค์และเรามาต่อสู้กับกองทัพมหึมาพวกนี้ในนามของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เป็นพระเจ้าของเรา อย่าให้มนุษย์มีชัยเหนือพระองค์เลย”
- 2 พงศาวดาร 14:12 - ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงทำลายพวกชาวคูชลงต่อหน้าอาสาและชาวยูดาห์ ชาวคูชต่างหลบหนีเอาตัวรอดไป
- 2 พงศาวดาร 14:13 - และอาสากับกองทัพของเขาก็ไล่ตามพวกนั้นไปไกลถึงเมืองเกราร์ ชาวคูชจำนวนมากมายมหาศาลนั้นต้องล้มลงอย่างไม่เป็นท่า และไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้อีก พวกเขาถูกทำลายลงต่อหน้าพระยาห์เวห์ และกองทัพของพระองค์ พวกคนของยูดาห์ได้ขนของกลับไปจำนวนมาก
- สดุดี 136:1 - ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์นั้นดี ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:2 - ให้ขอบคุณพระเจ้าผู้อยู่เหนือพระเจ้าทั้งปวง ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:3 - ให้ขอบคุณองค์เจ้าชีวิตผู้อยู่เหนือเจ้าทั้งปวง ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:4 - ให้ขอบคุณพระองค์ผู้ที่ทำสิ่งมหัศจรรย์อันยิ่งใหญ่แต่เพียงผู้เดียว ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:5 - ให้ขอบคุณพระองค์ผู้สร้างฟ้าสวรรค์อย่างชาญฉลาด ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:6 - ให้ขอบคุณพระองค์ผู้แผ่ขยายแผ่นดินออกไปเหนือผืนน้ำ ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:7 - ให้ขอบคุณพระองค์ผู้สร้างดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:8 - พระองค์สร้างดวงอาทิตย์เพื่อให้ปกครองกลางวัน ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:9 - พระองค์สร้างดวงจันทร์และดวงดาวทั้งหลายเพื่อให้ปกครองกลางคืน ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:10 - ให้ขอบคุณพระองค์ผู้ฆ่าพวกลูกชายหัวปีของอียิปต์ ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:11 - พระองค์ได้นำคนอิสราเอลออกจากอียิปต์นั้น ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:12 - พระองค์ทำเรื่องนี้ด้วยมืออันทรงพลังและแขนที่เหยียดออกมา ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:13 - ให้ขอบคุณพระองค์ผู้ที่แยกทะเลแดงออกเป็นสองส่วน ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:14 - พระองค์นำอิสราเอลเดินผ่าไปกลางทะเลแดง ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:15 - พระองค์เหวี่ยงฟาโรห์และกองทัพของเขาทิ้งไปในทะเลแดง ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:16 - ให้ขอบคุณพระองค์ผู้นำคนของพระองค์ตอนอยู่ในทะเลทราย ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:17 - ให้ขอบคุณพระองค์ผู้ปราบกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:18 - พระองค์ฆ่าพวกกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:19 - พระองค์ฆ่า สิโหน กษัตริย์ของคนอาโมไรต์ ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:20 - และได้ฆ่าโอก กษัตริย์ของบาชาน ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:21 - จากนั้น พระองค์ได้ยกแผ่นดินของกษัตริย์เหล่านั้นให้เป็นกรรมสิทธิ์ของอิสราเอล เพราะความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:22 - พระองค์ยกแผ่นดินของพวกเขาให้กับอิสราเอล ผู้รับใช้ของพระองค์ ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:23 - ให้ขอบคุณพระองค์ที่ระลึกถึงเราตอนที่เราตกอยู่ในความเดือดร้อน ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:24 - พระองค์ช่วยเหลือพวกเราให้รอดพ้นจากเหล่าศัตรูของเรา ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:25 - พระองค์ให้อาหารกับสิ่งที่มีชีวิตทั้งปวง ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- สดุดี 136:26 - ให้ขอบคุณพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
- 1 ซามูเอล 17:45 - ดาวิดพูดกับคนฟีลิสเตียคนนั้นว่า “เจ้ามาสู้กับข้าด้วยดาบและหอกและหลาว แต่ข้าจะสู้กับเจ้าในนามของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอล ผู้ที่เจ้าท้าทาย
- 1 ซามูเอล 17:46 - วันนี้แหละ พระยาห์เวห์จะให้เจ้าตกอยู่ในกำมือของข้า ข้าจะโค่นเจ้าและตัดหัวเจ้าทิ้ง วันนี้ข้าจะเอาซากศพของกองทัพฟีลิสเตียเลี้ยงนกบนท้องฟ้าและสัตว์ป่าแห่งแผ่นดิน เพื่อทั้งโลกจะได้รู้ว่ามีพระเจ้าอยู่ในอิสราเอล
- 1 ซามูเอล 17:47 - ทุกคนที่มาอยู่รวมกันที่นี่จะได้รู้ว่าพระยาห์เวห์ไม่ได้ช่วยกู้ โดยใช้ดาบหรือหอก เพราะการศึกเป็นของพระยาห์เวห์ และพระยาห์เวห์จะมอบพวกเจ้าไว้ในกำมือของพวกเรา”
- 1 ซามูเอล 17:48 - และชาวฟีลิสเตียคนนั้นได้เข้ามาใกล้เพื่อสู้รบกับดาวิด ดาวิดก็วิ่งอย่างเร็วจากแนวรบเข้าหาเขา
- 1 ซามูเอล 17:49 - และล้วงหินก้อนหนึ่งจากถุง แล้วเหวี่ยงหินก้อนนั้นด้วยสายสลิงโดนหน้าผากของคนฟีลิสเตียคนนั้น ก้อนหินจมเข้าไปในหน้าผากของเขา และเขาก็ล้มหน้าคว่ำลงกับพื้น
- 1 ซามูเอล 17:50 - ดาวิดก็ชนะชาวฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิง และก้อนหิน โดยไม่มีดาบอยู่ในมือ ดาวิดก็โค่นคนฟีลิสเตียคนนั้นและฆ่าเขาได้
- 1 ซามูเอล 10:22 - พวกเขาจึงถามพระยาห์เวห์ว่า “ชายคนนี้มาที่นี่แล้วหรือยัง” พระยาห์เวห์ตอบว่า “เขาซ่อนตัวอยู่หลังหีบห่อเหล่านั้น”
- ผู้วินิจฉัย 4:1 - เมื่อเอฮูดตาย ชาวอิสราเอลได้ทำสิ่งชั่วร้ายในสายตาของพระยาห์เวห์อีก
- ผู้วินิจฉัย 4:2 - พระยาห์เวห์ก็เลยขายพวกเขาให้ตกไปอยู่ในกำมือของยาบินกษัตริย์ของคานาอัน ผู้ครอบครองเมืองฮาโซร์ แม่ทัพของเขาคือสิเสรา ที่อาศัยอยู่ในเมืองฮาโรเชท-ฮาโกยิม
- ผู้วินิจฉัย 4:3 - ชาวอิสราเอลก็ร้องขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์อีก เพราะสิเสรามีรถรบเหล็กถึงเก้าร้อยคัน และเขาได้กดขี่ข่มเหงชาวอิสราเอลอย่างโหดร้ายทารุณถึงยี่สิบปี
- ผู้วินิจฉัย 4:4 - เดโบราห์เป็นผู้พูดแทนพระเจ้าที่กำลังทำหน้าที่เป็นผู้นำของอิสราเอลอยู่ในเวลานั้น นางเป็นเมียของลับปิโดท
- ผู้วินิจฉัย 4:5 - เดโบราห์เคยนั่งตัดสินคดีอยู่ใต้ต้นอินทผลัมของนาง ที่อยู่ระหว่างรามาห์กับเบธเอลในเขตเทือกเขาเอฟราอิม และชาวอิสราเอลก็มาหานางเพื่อให้นางตัดสินคดีให้
- สดุดี 46:8 - มาเถิด มาดูให้เห็นกับตาตัวเองถึงสิ่งอัศจรรย์ต่างๆที่พระยาห์เวห์ทำ มาดูสิ่งต่างๆที่น่าเกรงขามที่พระองค์ทำในโลกนี้
- สดุดี 46:9 - พระเจ้าทำให้สงครามทั้งหลายที่เกิดขึ้นทั่วโลกสงบ พระองค์หักคันธนู ทำลายหอกทวนหักกระจุย และเผาโล่ ทิ้ง
- สดุดี 46:10 - พระองค์พูดว่า “หยุดรบกันซะ” และให้รู้ว่า เราคือพระเจ้า เราจะได้รับการยกย่องเหนือชนชาติทั้งหลาย และเราจะได้การยกย่องเหนือโลกนี้
- สดุดี 46:11 - พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นอยู่กับพวกเรา พระเจ้าของยาโคบเป็นป้อมปราการของพวกเรา เซลาห์
- 1 ซามูเอล 14:6 - โยนาธานพูดกับเด็กหนุ่มผู้ถืออาวุธของเขาว่า “ไปกันเถอะ พวกเราข้ามไปยังป้อมทหารของไอ้พวกผู้ชายที่ยังไม่ได้ทำพิธีขลิบพวกนั้น บางทีพระยาห์เวห์อาจจะมาช่วยเราทำสิ่งนี้ก็ได้ ไม่มีอะไรจะมาขัดขวางไม่ให้พระยาห์เวห์มาช่วยกู้ได้ ไม่ว่าพระองค์จะใช้คนมากหรือน้อยก็ตาม”
- 1 ซามูเอล 14:7 - คนถืออาวุธของเขาพูดว่า “ทำอะไรก็ได้ตามใจท่าน ลุยไปเลย ข้าพเจ้าจะอยู่เคียงข้างท่านตลอดไป”
- 1 ซามูเอล 14:8 - โยนาธานพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นไปกันเถอะ พวกเราจะข้ามไปหาคนฟีลิสเตีย และปล่อยให้พวกเขาเห็นพวกเรา
- 1 ซามูเอล 14:9 - ถ้าพวกเขาพูดกับพวกเราว่า ‘คอยอยู่ที่นั่นจนกว่าพวกเราจะลงไปหาเจ้า’ พวกเราก็จะหยุดในที่ที่พวกเราอยู่และจะไม่ไปหาพวกเขา
- 1 ซามูเอล 14:10 - แต่ถ้าพวกเขาพูดว่า ‘ขึ้นมาหาพวกเราสิ’ พวกเราก็จะปีนขึ้นไป เพราะนั่นจะเป็นสัญญาณให้กับเรา ว่าพระยาห์เวห์ได้มอบพวกเขาไว้ในกำมือของพวกเราแล้ว”
- 1 ซามูเอล 14:11 - โยนาธานและคนถืออาวุธของเขาจึงแสดงตัวให้คนฟีลิสเตียที่ค่ายได้เห็น พวกเขาก็พูดว่า “ดูซิ พวกฮีบรูกำลังคลานออกจากรูที่พวกมันใช้หลบซ่อน”
- 1 ซามูเอล 14:12 - ชายคนหนึ่งในค่ายก็ตะโกนใส่โยนาธานและคนถืออาวุธของเขาว่า “ขึ้นมาหาพวกเราสิ แล้วพวกเราจะให้บทเรียนกับพวกเจ้า” ดังนั้นโยนาธานจึงพูดกับคนถืออาวุธของเขาว่า “ปีนตามเรามา พระยาห์เวห์ได้มอบพวกเขาให้อยู่ในกำมือของคนอิสราเอลแล้ว”
- 1 ซามูเอล 14:13 - โยนาธานปีนขึ้นไปด้วยมือและเท้าของเขา คนถืออาวุธของเขาปีนตามมาอย่างติดๆ โยนาธานสู้รบกับคนฟีลิสเตีย และคนฟีลิสเตียก็ล้มลงต่อหน้าโยนาธาน คนถืออาวุธของเขาก็ตามมาติดๆและได้ฆ่าฟันพวกนั้นอยู่ข้างหลังเขา
- 1 ซามูเอล 14:14 - ในการปะทะกันครั้งแรก พวกเขาสองคนฆ่าคนฟีลิสเตียตายประมาณยี่สิบคนในพื้นที่ประมาณสองไร่
- เอเสเคียล 14:3 - “เจ้าลูกมนุษย์ คนพวกนี้ยังมีรูปเคารพขี้ๆพวกนั้นอยู่ในใจ และพวกเขายังวางสิ่งที่ทำให้พวกเขาสะดุดไปทำบาปไว้ต่อหน้าพวกเขา อย่างนี้แล้ว เราควรจะยอมให้พวกมันเข้ามาขอคำปรึกษาจากเราอีกหรือ
- เอเสเคียล 14:4 - ดังนั้น ไม่ว่าอิสราเอลหน้าไหนก็ตามที่ยังหลงรักรูปเคารพขี้ๆพวกนั้นอยู่ในใจ และวางสิ่งนั้นที่ทำให้พวกเขาสะดุดไปทำบาปไว้ต่อหน้า แต่ยังมาขอคำปรึกษาจากผู้พูดแทนเราคนหนึ่ง เรา ยาห์เวห์ จะย้อนตอบเขาให้สาสม เพราะเขามีรูปเคารพมากมาย
- เอเสเคียล 14:5 - เราจะทำอย่างนี้กับครอบครัวของอิสราเอล เพื่อยึดครองใจของพวกเขา พวกรูปเคารพขี้ๆทั้งหมดของเขาได้แยกพวกเขาจากเรา
- เอเสเคียล 14:6 - ดังนั้นให้บอกกับครอบครัวอิสราเอลว่า
- เอเสเคียล 14:7 - ถ้ามีชาวอิสราเอลหรือชาวต่างชาติคนใด ที่อาศัยอยู่ในอิสราเอลได้แยกตัวเองไปจากเราและเอารูปเคารพขี้ๆเหล่านั้นไว้ในใจ หรือวางสิ่งที่ทำให้พวกเขาสะดุดไปทำบาป ไว้ต่อหน้าพวกเขา แล้วยังมาหาผู้พูดแทนเราคนหนึ่ง เพื่อขอคำปรึกษาจากเรา เราเองจะตอบพวกมัน
- เยเรมียาห์ 52:3 - ดังนั้น พระยาห์เวห์โกรธเยรูซาเล็มและยูดาห์มากจนถึงกับไล่พวกเขาไปจากพระองค์ เศเดคียาห์กบฏต่อกษัตริย์บาบิโลน
- เยเรมียาห์ 52:4 - ในวันที่สิบ เดือนสิบ ปีที่เก้าที่เศเดคียาห์เป็นกษัตริย์ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน และกองทัพทั้งหมดของพระองค์ก็ยกมาที่เยรูซาเล็มและตั้งค่ายรอบเมือง และสร้างอุปกรณ์โจมตีทั้งหลายไว้รอบกำแพงเมือง
- เยเรมียาห์ 52:5 - พวกนั้นโจมตีป้อมปราการครั้งแล้วครั้งเล่า จนถึงปีที่สิบเอ็ดของกษัตริย์เศเดคียาห์
- เยเรมียาห์ 52:6 - ในวันที่เก้า เดือนสี่ ความอดอยากในเมืองนั้นก็แสนสาหัสนัก จนไม่มีอาหารให้ประชาชนกินกัน
- 2 พงศาวดาร 32:21 - และพระยาห์เวห์ได้ส่งทูตสวรรค์องค์หนึ่ง มาทำลายพวกนักรบ พวกผู้นำและพวกเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในค่ายของกษัตริย์อัสซีเรีย ดังนั้นเขาจึงต้องถอยทัพกลับแผ่นดินของเขาด้วยความอับอายขายหน้า และเมื่อเขาเข้าไปในวัดของพระของเขา พวกลูกชายบางคนของเขาก็เอาดาบฆ่าเขา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 22:13 - “ไปปรึกษาพระยาห์เวห์ดูสิว่าเราควรทำยังไงดี ไปปรึกษาให้กับเรา ให้กับประชาชนและให้กับชาวยูดาห์ทั้งหมดด้วย เกี่ยวกับสิ่งที่เขียนอยู่ในหนังสือที่ถูกพบเล่มนี้ เพราะที่ความโกรธอันยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์ได้เผาผลาญพวกเรานี้ ก็เพราะบรรพบุรุษของพวกเราไม่ยอมเชื่อฟังคำพูดในหนังสือเล่มนี้ พวกเขาไม่ยอมทำตามทุกสิ่งที่ถูกเขียนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ที่พวกเราจะต้องทำ”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 22:14 - นักบวชฮิลคียาห์ อาหิคัม อัคโบร์ ชาฟานและอาสายาห์ได้ไปพูดกับฮุลดาห์หญิงผู้พูดแทนพระเจ้า นางเป็นเมียของชัลลูมลูกชายของทิกวาห์ซึ่งเป็นลูกชายของฮารฮัส ชัลลูมมีหน้าที่ดูแลเรื่องเสื้อผ้าของนักบวช ฮุลดาห์อาศัยอยู่ในเขตที่สองของเมืองเยรูซาเล็ม
- โยชูวา 10:1 - เมื่อกษัตริย์อาโดนีเซเดกแห่งเมืองเยรูซาเล็มได้ข่าวว่า โยชูวาได้ยึดเมืองอัยและได้ทำลายถวายให้กับพระยาห์เวห์ และโยชูวาทำกับเมืองอัยและกษัตริย์ของเมืองอัยอย่างเดียวกับที่ได้ทำกับเมืองเยริโคและกษัตริย์ของมัน และเขายังรู้อีกว่าชาวเมืองกิเบโอน ได้ทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับชาวอิสราเอล และได้อาศัยอยู่ใกล้ๆกับชาวอิสราเอล
- โยชูวา 10:2 - กษัตริย์อาโดนีเซเดกและประชาชนของท่านก็หวาดกลัวมาก เพราะกิเบโอนเป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งเหมือนกับเมืองหลวง ทั้งหลาย มีขนาดใหญ่กว่าเมืองอัย และผู้ชายของเมืองนั้นก็เป็นนักรบที่ดี
- โยชูวา 10:3 - ดังนั้นกษัตริย์อาโดนีเซเดกแห่งเมืองเยรูซาเล็ม จึงได้ขอความช่วยเหลือไปยังกษัตริย์โฮฮัมแห่งเมืองเฮโบรน กษัตริย์ปิรามแห่งเมืองยารมูท กษัตริย์ยาเฟียแห่งเมืองลาคีช และกษัตริย์เดบีร์แห่งเมืองเอกโลนว่า
- โยชูวา 10:4 - “ขึ้นมาช่วยข้าพเจ้าตีเมืองกิเบโอนด้วย เพราะเมืองนั้นได้เข้าเป็นพันธมิตรกับโยชูวาและชาวอิสราเอลแล้ว”
- โยชูวา 10:5 - ดังนั้น กษัตริย์ของอาโมไรต์ทั้งห้าองค์คือ กษัตริย์เมืองเยรูซาเล็ม เมืองเฮโบรน เมืองยารมูท เมืองลาคีช และเมืองเอกโลน จึงได้รวบรวมกำลังพลและยกขึ้นไป และได้ตั้งค่ายอยู่ตรงข้ามกับเมืองกิเบโอนและโจมตีเมืองนั้น
- โยชูวา 10:6 - ประชาชนเมืองกิเบโอนจึงส่งข่าวไปถึงโยชูวาที่ค่ายในกิลกาลว่า “อย่าได้ทอดทิ้งพวกเราเหล่าผู้รับใช้ของท่าน รีบขึ้นมากู้พวกเรา ช่วยพวกเราด้วย เพราะพวกกษัตริย์ชาวอาโมไรต์ ที่อาศัยอยู่ตามเทือกเขา ได้รวบรวมพลมาต่อสู้กับพวกเรา”
- โยชูวา 10:7 - ดังนั้น โยชูวาจึงเดินทัพจากเมืองกิลกาล ด้วยกองทัพทั้งหมดของเขา นักรบชั้นเยี่ยมทุกคนก็อยู่กับเขา
- โยชูวา 10:8 - พระยาห์เวห์ได้สั่งโยชูวาว่า “อย่ากลัวพวกมัน เพราะเราได้มอบพวกมันไว้ในกำมือของเจ้าแล้ว จะไม่มีใครสักคนในพวกมันที่จะต่อต้านเจ้าได้”
- โยชูวา 10:9 - หลังจากเดินทางตลอดทั้งคืนจากเมืองกิลกาล โยชูวาก็ได้เข้าโจมตีทันทีไม่ให้พวกนั้นรู้ตัว
- โยชูวา 10:10 - พระยาห์เวห์ได้ทำให้พวกนั้นแตกตื่นตกใจ ต่อหน้าชาวอิสราเอล ทำให้ชาวอิสราเอลได้รับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่เมืองกิเบโอน และพวกอิสราเอลได้ไล่ล่าพวกนั้นไปตามถนนที่ขึ้นไปเบธโฮโรน และฆ่าฟันพวกเขาไปตลอดทางจนถึงเมืองอาเซคาห์และมักเคดาห์
- โยชูวา 10:11 - ขณะที่พวกเขาหนีอยู่ข้างหน้าของชาวอิสราเอลไปตามเส้นทางสู่เมืองเบธโฮโรนนั้น พระเจ้าได้โยนลูกเห็บขนาดยักษ์ลงมาจากฟ้า ตลอดไปจนถึงเมืองอาเซคาห์ พวกเขาก็ตาย คนที่ตายด้วยลูกเห็บยังมีมากกว่าคนที่ถูกชาวอิสราเอลฆ่าด้วยดาบเสียอีก
- 2 พงศ์กษัตริย์ 1:3 - แต่ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์พูดกับเอลียาห์ชาวเมืองทิชบีว่า “ขึ้นไปพบกับผู้ส่งข่าวพวกนั้นของกษัตริย์แห่งเมืองสะมาเรีย และถามพวกเขาว่า ‘ในอิสราเอลไม่มีพระเจ้าแล้วหรือยังไง พวกเจ้าถึงต้องออกไปถามพระบาอัลเซบูบที่เป็นพระของเมืองเอโครน’
- 1 ซามูเอล 7:10 - ขณะที่ซามูเอลกำลังเผาเครื่องบูชาอยู่นั้น คนฟีลิสเตียได้บุกเข้ามาใกล้แล้วเพื่อสู้รบกับคนอิสราเอล แต่วันนั้นพระยาห์เวห์ทำให้เกิดฟ้าร้องสนั่นหวั่นไหวใส่คนฟีลิสเตีย ทำให้พวกเขาตกใจขวัญหนีดีฝ่อ และถอยหนีไปจากคนอิสราเอล
- 1 ซามูเอล 7:11 - คนอิสราเอลรีบออกมาจากเมืองมิสปาห์ และไล่ล่าฆ่าฟันคนฟีลิสเตีย ไปตลอดทางจนถึงบริเวณที่อยู่ใต้เมืองเบธคาร์
- 1 ซามูเอล 7:12 - จากนั้นซามูเอลก็นำก้อนหินก้อนหนึ่งมาตั้งไว้ระหว่างเมืองมิสปาห์และเมืองเยสชานาห์ และตั้งชื่อหินก้อนนั้นว่า “เอเบนเอเซอร์” และพูดว่า “พระยาห์เวห์ได้ช่วยเหลือพวกเรามาจนถึงที่นี่”
- 2 พงศาวดาร 20:1 - หลังจากนั้นชาวโมอับและชาวอัมโมนพร้อมกับชาวเมอูนี ส่วนหนึ่งได้ยกทัพมาสู้รบกับเยโฮชาฟัท
- 2 พงศาวดาร 20:2 - มีคนมาบอกกับเยโฮชาฟัทว่า “มีกองทัพขนาดมหึมายกมาสู้รบกับท่าน พวกนั้นมาจากเอโดมจากอีกด้านหนึ่งของทะเลตาย ตอนนี้มาอยู่ที่ฮาซาโซน-ทามาร์แล้ว” (คือ เอนเกดี)
- 2 พงศาวดาร 20:3 - เยโฮชาฟัทตกใจมาก เขาตัดสินใจที่จะไปถามพระยาห์เวห์ว่าจะทำอย่างไรดี เขาประกาศให้มีการอดอาหารทั่วทั้งยูดาห์
- 2 พงศาวดาร 20:4 - ประชาชนของยูดาห์ได้มารวมกันเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์ พวกเขาพากันมาจากทุกเมืองในยูดาห์ เพื่อแสวงหาพระยาห์เวห์
- 2 พงศาวดาร 20:5 - แล้วเยโฮชาฟัทยืนขึ้นในที่ชุมนุมของชาวยูดาห์และของเมืองเยรูซาเล็มที่วิหารของพระยาห์เวห์ ตรงด้านหน้าของลานแห่งใหม่นั้น
- 2 พงศาวดาร 20:6 - และพูดว่า
- 2 พงศาวดาร 20:7 - ข้าแต่พระเจ้าของพวกเรา พระองค์ได้ขับไล่ประชาชนของแผ่นดินนี้ออกไปต่อหน้าชาวอิสราเอลที่เป็นประชาชนของพระองค์ และยกแผ่นดินนี้ให้กับลูกหลานของอับราฮัมตลอดไป อับราฮัมที่เป็นเพื่อนของพระองค์
- 2 พงศาวดาร 20:8 - ลูกหลานของเขาได้เข้ามาอาศัยอยู่ในดินแดนนี้ และได้สร้างวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ไว้เพื่อเป็นเกียรติให้กับชื่อของพระองค์ พวกเขาพูดว่า
- 2 พงศาวดาร 20:9 - ‘ถ้ามีความหายนะอย่างใหญ่หลวงเกิดขึ้นกับพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นดาบแห่งการตัดสิน หรือโรคระบาดหรือความอดอยาก พวกเราจะมายืนอยู่ต่อหน้าพระองค์ที่วิหารนี้ ซึ่งเป็นที่ที่ชื่อของพระองค์สถิตอยู่ และพวกเราจะร้องต่อพระองค์ถึงความทุกข์ของพวกเรา และพระองค์ก็จะได้ยินและช่วยกู้พวกเรา’
- 2 พงศาวดาร 20:10 - ตอนนี้ คนพวกนี้ที่มาจากอัมโมน โมอับและจากภูเขาเสอีร์ ซึ่งเป็นดินแดนที่พระองค์ห้ามไม่ให้ชาวอิสราเอลไปบุกรุก ตอนที่พวกเขาออกมาจากประเทศอียิปต์ ดังนั้น ชนชาติอิสราเอลจึงได้หันเหไปจากชนชาติเหล่านี้และไม่ได้ทำลายพวกมัน
- 2 พงศาวดาร 20:11 - ดูสิว่าพวกเขาตอบแทนพวกเราด้วยการมาขับไล่พวกเราออกจากแผ่นดินที่พระองค์ให้พวกเราไว้เป็นมรดก
- 2 พงศาวดาร 20:12 - ข้าแต่พระเจ้าของพวกเรา พระองค์จะไม่ตัดสินพวกเขาหรือ ลำพังพวกเราไม่มีพละกำลังเพียงพอที่จะไปเผชิญหน้ากับกองทัพขนาดมหึมาที่กำลังจะเข้ามาโจมตีพวกเราได้ พวกเราไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว แต่ตาของพวกเรามองหาความช่วยเหลือจากพระองค์”
- 2 พงศาวดาร 20:13 - ชาวยูดาห์ทั้งหมดกับเมียของพวกเขาและลูกๆรวมทั้งเด็กเล็กๆได้มายืนอยู่ที่นั่นต่อหน้าพระยาห์เวห์
- 2 พงศาวดาร 20:14 - แล้วพระวิญญาณของพระยาห์เวห์ก็ลงมาสถิตกับยาฮาซีเอลลูกชายของเศคาริยาห์ ผู้เป็นลูกชายของเบไนยาห์ ผู้เป็นลูกชายของเยอีเอล ผู้เป็นลูกชายของมัทธานิยาห์ ที่เป็นชาวเลวีและเป็นลูกหลานของอาสาฟ ในขณะที่ยาฮาซีเอล ยืนอยู่ท่ามกลางที่ประชุม
- 2 พงศาวดาร 20:15 - เขาได้พูดว่า “ฟังให้ดี กษัตริย์เยโฮชาฟัท และทุกคนที่อาศัยอยู่ในยูดาห์ และเมืองเยรูซาเล็ม นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดกับพวกท่าน ‘พวกเจ้าไม่ต้องกลัวหรือท้อแท้ต่อกองทัพใหญ่นี้ เพราะการสู้รบไม่ใช่เป็นของพวกเจ้า แต่เป็นเรื่องของพระเจ้า
- 2 พงศาวดาร 20:16 - พรุ่งนี้ ให้ยกทัพไปสู้กับพวกเขา พวกเขาจะขึ้นไปที่ตำบลศิสและพวกเจ้าจะพบพวกเขาอยู่ที่ปลายทางของหุบเขาแคบๆในทะเลทรายเยรูเอล
- 2 พงศาวดาร 20:17 - พวกเจ้าจะไม่ต้องต่อสู้ในการรบครั้งนี้เลย แค่อยู่ประจำที่ของพวกเจ้า ยืนอยู่อย่างมั่นคงและคอยดูชัยชนะที่พระยาห์เวห์จะทำให้กับพวกเจ้า ยูดาห์และเยรูซาเล็มเอ๋ย อย่ากลัว อย่าท้อแท้ ออกไปเผชิญหน้ากับพวกเขาในวันพรุ่งนี้เถิด แล้วพระยาห์เวห์จะอยู่กับพวกเจ้า’”
- 2 พงศาวดาร 20:18 - เยโฮชาฟัทก้มกราบหน้าจดพื้น และประชาชนทั้งหมดของยูดาห์และเยรูซาเล็มก็คุกเข่าลงนมัสการอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์
- 2 พงศาวดาร 20:19 - แล้วชาวเลวีบางกลุ่มจากชาวโคฮาทและโคราห์ได้ยืนขึ้นและสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลด้วยเสียงอันดัง
- 2 พงศาวดาร 20:20 - เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น พวกเขาออกไปที่ทะเลทรายเทโคอา เมื่อพวกเขาออกเดินทาง เยโฮชาฟัทยืนขึ้นและพูดว่า “ชาวยูดาห์และประชาชนของเมืองเยรูซาเล็ม ฟังเราให้ดี ขอเพียงแต่เชื่อในพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเจ้า และพวกเจ้าก็จะตั้งมั่นคง ให้เชื่อพวกผู้พูดแทนพระเจ้า”
- 2 พงศาวดาร 20:21 - หลังจากที่ได้หารือร่วมกับประชาชนแล้ว เยโฮชาฟัทได้แต่งตั้งคนหลายคนให้เป็นผู้ร้องเพลงให้กับพระยาห์เวห์และสรรเสริญพระองค์ถึงความสง่างามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ในขณะที่พวกเขาออกไปที่ด้านหน้าของกองทัพ พวกเขาก็พูดว่า “ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์นั้นจะคงอยู่ตลอดไป”
- 2 พงศาวดาร 20:22 - เมื่อพวกเขาเริ่มร้องเพลงและสรรเสริญ พระยาห์เวห์ได้จัดกองกำลังไว้ซุ่มโจมตีพวกคนอัมโมน โมอับและพวกคนจากภูเขาเสอีร์ที่มาบุกรุกยูดาห์ และคนเหล่านั้นก็พ่ายแพ้ไป
- 2 พงศาวดาร 20:23 - คนของอัมโมนและโมอับได้ลุกขึ้นต่อสู้กับคนที่มาจากภูเขาเสอีร์เพื่อทำลายและกวาดล้างพวกเขา หลังจากที่พวกเขาฆ่าคนจากเสอีร์หมดแล้ว พวกคนอัมโมนและคนโมอับก็หันมาทำลายล้างกันเอง
- 2 พงศาวดาร 20:24 - เมื่อพวกคนของยูดาห์มาถึงจุดที่สามารถมองกว้างออกไปในทะเลทราย และสามารถมองเห็นกองทัพขนาดมหึมาของพวกนั้น ชาวยูดาห์ก็ได้เห็นแต่ซากศพนอนเกลื่อนกลาดบนพื้นดิน ไม่มีใครหนีรอดไปได้
- 2 พงศาวดาร 20:25 - เยโฮชาฟัทกับคนของเขาทั้งหมดจึงได้ลงไปยึดเอาสิ่งของของคนเหล่านั้นไว้ พวกเขาก็ได้พบฝูงสัตว์เลี้ยงมากมาย พบข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้าและของมีค่าจำนวนมากมายเกินกว่าที่พวกเขาจะเก็บได้หมด มีของมากจนกระทั่งพวกเขาต้องใช้เวลาเก็บถึงสามวัน
- 2 พงศาวดาร 20:26 - ในวันที่สี่ พวกเขาได้ชุมนุมกันอยู่ในหุบเขาเบราคาห์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้สรรเสริญพระยาห์เวห์ หุบเขาแห่งนั้นจึงมีชื่อว่าหุบเขาเบราคาห์จนถึงทุกวันนี้
- 2 พงศาวดาร 20:27 - แล้วพวกคนจากยูดาห์และเยรูซาเล็มทั้งหมด ที่เยโฮชาฟัทนำอยู่นั้น ต่างก็กลับเมืองเยรูซาเล็มด้วยความยินดี เพราะพระยาห์เวห์ทำให้พวกเขาชื่นชมยินดีที่มีชัยเหนือศัตรูของพวกเขา
- 2 พงศาวดาร 20:28 - พวกเขาเข้าเมืองเยรูซาเล็มและไปที่วิหารของพระยาห์เวห์พร้อมกับพวกพิณใหญ่ พิณเล็กและแตร
- 2 พงศาวดาร 20:29 - ผู้คนที่อยู่ในอาณาจักรรอบข้างต่างก็เกิดความเกรงกลัวพระเจ้า เมื่อพวกเขาได้ยินถึงสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้ทำต่อศัตรูของชนชาติอิสราเอล
- 2 พงศาวดาร 20:30 - และอาณาจักรของเยโฮชาฟัทก็สงบสุขเพราะพระเจ้าของเขาได้ให้เขาหยุดพักจากสงครามรอบด้าน
- สดุดี 48:4 - พวกกษัตริย์ต่างชาติรวบรวมพล ยกทัพขึ้นมาโจมตีเมืองนั้น
- สดุดี 48:5 - แต่เมื่อพวกเขาเห็นเมืองนั้นพวกเขาถึงกับตะลึงงัน พากันแตกตื่นตกใจกลัวและวิ่งหนีกระเจิงไป
- สดุดี 48:6 - ความกลัวจนตัวสั่นจับใจพวกเขา ความกลัวและความเจ็บปวดจับใจพวกเขาเหมือนผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก
- สดุดี 48:7 - ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ใช้ลมพายุจากทางทิศตะวันออก มาทำลายเรือสินค้าใหญ่ ของพวกเขาจนแตกกระจุย
- สดุดี 48:8 - พวกเราได้ยินเรื่องฤทธิ์ของพระเจ้ามาอย่างไร ตอนนี้พวกเราก็ได้เห็นกับตาเราอย่างนั้นในเมืองของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น คือเมืองของพระเจ้าของพวกเรา พระเจ้าจะทำให้มันปลอดภัยตลอดไป เซลาห์
- เยเรมียาห์ 39:1 - ในเดือนที่สิบของปีที่เก้าที่เศเดคียาห์ เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนได้ยกกองทัพทั้งหมดของพระองค์มาล้อมเมืองเยรูซาเล็มไว้
- เยเรมียาห์ 39:2 - ในวันที่เก้าเดือนสี่ ของปีที่สิบเอ็ดที่เศเดคียาห์ เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ แนวป้องกันเมืองเยรูซาเล็มก็ถูกทะลวงเข้ามา
- 1 พงศ์กษัตริย์ 22:3 - กษัตริย์อาหับของอิสราเอลพูดกับพวกข้าราชการของเขาว่า “พวกท่านไม่รู้หรือว่าเมืองราโมท-กิเลอาดเป็นของพวกเรา แต่พวกเราไม่ได้ทำอะไรเลยที่จะยึดมันคืนมาจากกษัตริย์ของชาวอารัม”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 22:4 - แล้วเขาก็ถามกษัตริย์เยโฮชาฟัทว่า “ท่านจะไปช่วยเราสู้รบกับชาวอารัมที่เมืองราโมท-กิเลอาดไหม”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 22:5 - แต่ให้เราไปขอคำปรึกษาจากพระยาห์เวห์ก่อน”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 22:6 - กษัตริย์อาหับของอิสราเอลจึงเรียกพวกผู้พูดแทนพระเจ้าประมาณสี่ร้อยคนมา และถามพวกเขาว่า “เราควรจะไปสู้รบกับชาวอารัมที่เมืองราโมท-กิเลอาดหรือไม่” พวกเขาตอบว่า “ไปเถิด เพราะพระยาห์เวห์จะให้มันตกอยู่ในกำมือของท่าน”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 22:7 - แต่กษัตริย์เยโฮชาฟัทถามว่า “ยังมีคนอื่นที่เป็นผู้พูดแทนพระยาห์เวห์อยู่ที่นี่หรือเปล่า ที่เราจะสอบถามเขาได้”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 22:8 - กษัตริย์อาหับของอิสราเอลตอบเยโฮชาฟัทว่า “ยังมีอีกคนหนึ่งที่พวกเราสามารถไปขอคำปรึกษาจากพระยาห์เวห์ผ่านทางเขาได้ แต่เราเกลียดเขา เพราะเขาไม่เคยทำนายสิ่งดีๆเกี่ยวกับเราเลย มีแต่สิ่งเลวร้ายทั้งนั้น เขาคือมีคายาห์ลูกชายของอิมลาห์” เยโฮชาฟัทตอบว่า “กษัตริย์ไม่ควรพูดอย่างนั้น”
- เยเรมียาห์ 32:24 - พวกชาวบาบิโลน ได้สร้างเนินดินติดกำแพงเมืองเพื่อที่จะบุกยึดเมือง เนื่องจากคมดาบ ความอดอยาก และโรคภัยไข้เจ็บ เมืองก็เลยตกไปอยู่ในเงื้อมมือของชาวบาบิโลนที่กำลังต่อสู้กับมัน สิ่งที่พระองค์บอกว่าจะเกิดขึ้นก็ได้เกิดขึ้นแล้ว และพระองค์ก็เห็น
- สดุดี 105:5 - ลูกหลานของอับราฮัมผู้รับใช้ของพระเจ้าเอ๋ย ลูกหลานของยาโคบพวกที่พระเจ้าเลือกเอ๋ย ขอให้ท่านระลึกถึงเรื่องน่าทึ่งทั้งหลายที่พระเจ้าทำ ระลึกถึงการอัศจรรย์ต่างๆและคำตัดสินทั้งหลายที่ออกมาจากปากของพระองค์
- สดุดี 105:7 - พระองค์คือพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา คำตัดสินทั้งหลายของพระองค์จะเป็นจริงอย่างนั้นในทุกหนแห่งทั่วโลก
- สดุดี 105:8 - พระองค์ไม่เคยลืมข้อตกลงของพระองค์ คือคำสัญญาที่พระองค์ทำไว้กับคนของพระองค์ตลอดไปเป็นพันรุ่น
- สดุดี 105:9 - พระองค์จะรักษาคำสัญญาที่ทำไว้กับอับราฮัม และคำสาบานของพระองค์ที่ให้ไว้กับอิสอัค
- สดุดี 105:10 - พระองค์ทำให้มันเป็นกฎสำหรับยาโคบ และเป็นข้อตกลงให้กับอิสราเอลตลอดไป
- สดุดี 105:11 - พระองค์พูดว่า “เราจะมอบดินแดนคานาอันให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าตลอดไป”
- สดุดี 105:12 - พระองค์ทำสิ่งนี้ตอนที่พวกเขายังมีกันอยู่ไม่กี่คน และยังเป็นคนต่างด้าวแค่กระจุกเดียวในดินแดนนั้นอยู่เลย
- สดุดี 105:13 - พวกเขาเร่ร่อนพเนจรจากชนชาติหนึ่งไปอีกชนชาติหนึ่ง จากอาณาจักรหนึ่งไปยังอีกอาณาจักรหนึ่ง
- สดุดี 105:14 - แต่พระเจ้าไม่ยอมให้ใครข่มเหงพวกเขา พระองค์เตือนพวกกษัตริย์ทั้งหลายว่า
- สดุดี 105:15 - “อย่าแตะต้องคนเหล่านั้นที่เราได้เลือกไว้ อย่าได้ทำร้ายพวกผู้พูดแทนเรา”
- สดุดี 105:16 - พระองค์ทำให้เกิดการกันดารอาหารขึ้นในแผ่นดิน พระองค์ตัดเสบียงทั้งหมดของพวกเขา
- สดุดี 105:17 - แล้วพระองค์ได้ส่งชายคนหนึ่งไปอียิปต์ก่อนคนอื่นๆ นั่นคือ โยเซฟ ผู้ถูกขายไปเป็นทาส
- สดุดี 105:18 - คนพวกนั้นทำร้ายเขาด้วยการล่ามโซ่ไว้ที่ข้อเท้า และใส่ปลอกเหล็กไว้ที่คอของเขา
- สดุดี 105:19 - จนกระทั่งสิ่งที่โยเซฟได้ทำนายไว้เป็นจริง และพระคำของพระยาห์เวห์ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาพูดถูก
- สดุดี 105:20 - แล้วกษัตริย์ก็มีคำสั่งให้ไปนำตัวโยเซฟมาและหักโซ่ตรวนของเขา ผู้นำชนชาตินั้นก็ปล่อยเขาออกจากคุก
- สดุดี 105:21 - กษัตริย์แต่งตั้งโยเซฟให้เป็นผู้ดูแลวัง และให้เป็นผู้ดูแลจัดการทรัพย์สมบัติของเขาทั้งหมด
- สดุดี 105:22 - กษัตริย์ให้อำนาจกับโยเซฟอย่างเต็มที่เหนือข้าราชการของเขา โยเซฟสอนพวกที่ปรึกษาอาวุโสของกษัตริย์
- สดุดี 105:23 - หลังจากนั้น อิสราเอลก็เข้ามาอยู่ที่อียิปต์ ยาโคบอยู่อย่างคนต่างด้าวในดินแดนของฮาม
- สดุดี 105:24 - พระองค์ทำให้คนของพระองค์ทวีคูณขึ้นอย่างมหาศาล จนมีจำนวนมากกว่าศัตรูของเขา
- สดุดี 105:25 - พระยาห์เวห์เปลี่ยนใจของคนอียิปต์ให้หันมาเกลียดชังคนของพระองค์ และให้พวกเขาพากันวางแผนร้ายต่อพวกผู้รับใช้ของพระองค์
- สดุดี 105:26 - แล้วพระองค์ก็ส่งโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ และอาโรนผู้ที่พระองค์ได้เลือก
- สดุดี 105:27 - พระองค์ให้สองคนนี้ทำการอัศจรรย์ต่างๆของพระองค์ให้ชนชาติของพระองค์เห็น พวกเขาทำสิ่งที่น่าทึ่งต่างๆในดินแดนของฮาม
- สดุดี 105:28 - พระองค์ส่งความมืดทึบลงมา แต่ชาวอียิปต์ก็ไม่ยอมฟังพระองค์
- สดุดี 105:29 - พระองค์ทำให้น้ำของพวกเขากลายเป็นเลือด และฆ่าพวกปลาของพวกเขา
- สดุดี 105:30 - แผ่นดินของพวกเขามีฝูงกบเต็มไปหมด ไม่เว้นแม้แต่พวกห้องส่วนตัวของกษัตริย์
- สดุดี 105:31 - เมื่อพระองค์ออกคำสั่ง ฝูงเหลือบก็มา ฝูงริ้นก็รุกล้ำเข้ามาทั่วแผ่นดิน
- สดุดี 105:32 - พระองค์ทำให้ฝนของพวกเขากลายเป็นลูกเห็บ และทำให้เกิดสายฟ้าแลบในแผ่นดินของเขา
- สดุดี 105:33 - พระองค์ทำลายไร่องุ่น และต้นมะเดื่อ พระองค์ทำให้ต้นไม้แตกเป็นเสี่ยงๆไปทั่วเขตแดนของพวกเขา
- สดุดี 105:34 - เมื่อพระองค์ออกคำสั่ง พวกตั๊กแตนวัยบินและตั๊กแตนวัยกระโดด ก็กรูกันเข้ามาอย่างมืดฟ้ามัวดิน
- สดุดี 105:35 - พวกตั๊กแตนกินพืชผักทั้งหมดในแผ่นดินของพวกเขา และกินพืชผลทั้งหลายจากดินเสียสิ้น
- สดุดี 105:36 - แล้วจากนั้น พระองค์ก็ฆ่าลูกชายหัวปีของพวกเขาทั้งหมดในแผ่นดินของพวกเขา ลูกที่พิสูจน์ถึงความเป็นชายของพ่อ
- สดุดี 105:37 - พระองค์นำพวกอิสราเอลออกไปพร้อมกับเงินและทองไปด้วย พระองค์ไม่ปล่อยให้มีใครสักคนในพวกเผ่าของพระองค์สะดุดล้ม
- สดุดี 105:38 - ชาวอียิปต์ต่างดีใจที่ชาวอิสราเอลออกไปได้ เพราะพวกเขารู้สึกกลัวพวกอิสราเอล
- สดุดี 105:39 - พระองค์กางก้อนเมฆของพระองค์ออกปกคลุมอยู่เหนือคนอิสราเอล และยังให้เพลิงไฟไว้ส่องสว่างในตอนกลางคืน
- สดุดี 105:40 - เมื่ออิสราเอลร้องขออาหาร พระองค์ก็นำนกกระทามาให้ นอกจากนั้นพระองค์ก็ยังให้อาหารจากสวรรค์กับพวกเขากินจนอิ่มหนำ
- สดุดี 105:41 - พระองค์ตีก้อนหินแตกเป็นช่อง น้ำก็ไหลพุ่งออกมาสู่แผ่นดินที่แห้งแล้งเหมือนกับแม่น้ำ
- สดุดี 105:42 - เพราะพระองค์ระลึกถึงคำสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ที่ให้ไว้กับอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์
- สดุดี 105:43 - พระองค์นำชนชาติของพระองค์ออกจากอียิปต์อย่างมีความสุข คนเหล่านี้ที่พระองค์เลือกมาโห่ร้องด้วยความยินดี
- สดุดี 105:44 - แล้วพระองค์ก็มอบแผ่นดินต่างๆของชนชาติอื่นๆให้กับพวกเขา พวกเขาได้กรรมสิทธิ์ในไร่นาที่คนต่างชาติลงมือลงแรงทำไว้
- สดุดี 105:45 - ที่พระองค์ทำอย่างนี้ก็เพื่อพวกเขาจะได้เชื่อฟังกฎทั้งหลายของพระองค์ และรักษาคำสั่งสอนของพระองค์อย่างระมัดระวัง สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
- 2 พงศ์กษัตริย์ 25:1 - ต่อมาในวันที่สิบ เดือนสิบ ปีที่เก้าที่เศเดคียาห์เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์และกองทัพทั้งหมดของเขาได้ยกมาที่เยรูซาเล็มและล้อมเมืองเอาไว้ และได้สร้างเนินดินสำหรับบุกขึ้นโจมตีไว้รอบกำแพงเมือง
- 2 พงศ์กษัตริย์ 25:2 - พวกเขาล้อมเมืองเยรูซาเล็มอยู่จนถึงปีที่สิบเอ็ดที่เศเดคียาห์เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์
- ผู้วินิจฉัย 20:27 - แล้วพวกอิสราเอลก็ได้ถามพระยาห์เวห์ว่า (ในสมัยนั้นหีบแห่งข้อตกลงของพระเจ้าอยู่ที่นั่น
- สดุดี 44:1 - ข้าแต่พระเจ้า พวกเราได้ยินกับหูของพวกเราเอง ถึงเรื่องราวต่างๆที่บรรพบุรุษเล่าให้พวกเราฟัง พวกเขาเล่าถึงสิ่งต่างๆที่พระองค์ทำในชั่วชีวิตของเขา ในสมัยก่อนโน้น
- สดุดี 44:2 - พวกเขาเล่าให้ฟังว่า ด้วยมือของพระองค์ พระองค์ขับไล่ชนชาติต่างๆออกไป และปลูกฝังบรรพบุรุษของเราแทน พระองค์ทำลายชนชาติเหล่านั้น และปล่อยให้บรรพบุรุษของพวกเราเป็นอิสระ
- สดุดี 44:3 - พวกเขาเล่าว่าไม่ใช่ดาบหรือแขนอันแข็งแกร่งของพวกเขาหรอกนะ ที่ทำให้พวกเขาชนะและได้แผ่นดินมา แต่เป็นมือขวาและแขนของพระองค์ และรัศมีจากใบหน้าของพระองค์ต่างหาก เพราะพระองค์พอใจในพวกเขา
- สดุดี 44:4 - ข้าแต่พระเจ้า พระองค์เป็นกษัตริย์ของข้าพเจ้า ขอพระองค์ออกคำสั่งที่จะทำให้ยาโคบชนะ
- เยเรมียาห์ 42:4 - แล้วเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าก็บอกพวกเขาว่า “ผมได้ยินที่พวกท่านพูดแล้ว ผมจะอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านตามที่ท่านขอ เมื่อพระยาห์เวห์ตอบอะไรกลับมาให้กับท่าน ผมจะบอกพวกท่านทุกอย่าง โดยไม่ปิดบังอะไรไว้เลย”
- เยเรมียาห์ 42:5 - แล้วพวกเขาก็พูดกับเยเรมียาห์ว่า “ถ้าพวกเราไม่ทำทุกอย่างตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านบอกผ่านท่านให้พวกเราทำแล้วละก็ ขอให้พระยาห์เวห์เป็นพยานที่เชื่อถือได้ต่อต้านพวกเรา
- เยเรมียาห์ 42:6 - ไม่ว่ามันจะดีหรือไม่ดี พวกเราก็จะเชื่อฟังพระยาห์เวห์ ผู้ที่พวกเรากำลังส่งท่านไป เพื่อว่าทุกสิ่งจะได้เป็นไปด้วยดีสำหรับพวกเรา เมื่อเราเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเรา”
- 1 ซามูเอล 28:6 - เขาได้ปรึกษาต่อพระยาห์เวห์ แต่พระองค์ไม่ได้ให้คำตอบเขา ไม่ว่าจะทางความฝัน หรือทางอูริม หรือผ่านทางผู้พูดแทนพระเจ้า
- 1 พงศ์กษัตริย์ 14:2 - เยโรโบอัมได้พูดกับเมียของเขาว่า “ไปปลอมตัวสิเพื่อคนจะได้ไม่รู้ว่าน้องคือเมียของพี่ แล้วให้น้องไปหาอาหิยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าที่ชิโลห์ เขาคือคนที่เคยบอกพี่ว่า พี่จะได้เป็นกษัตริย์เหนือประชาชนพวกนี้
- 1 พงศ์กษัตริย์ 14:3 - ให้เอาขนมปังไปสิบก้อน ขนมเค้ก น้ำเชื่อมผลไม้หนึ่งไห แล้วให้ไปหาเขา เขาจะบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกของเรา”
- 1 ซามูเอล 28:15 - ซามูเอลพูดกับซาอูลว่า “ทำไมท่านต้องรบกวนเรา เรียกเราขึ้นมาทำไม” ซาอูลตอบว่า “ข้าพเจ้ากำลังตกอยู่ในทุกข์อันยิ่งใหญ่ ชาวฟีลิสเตียกำลังมาต่อสู้กับข้าพเจ้า และพระเจ้าก็หันหลังให้ข้าพเจ้า พระองค์ไม่ตอบคำถามข้าพเจ้าอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทางผู้พูดแทนพระเจ้า หรือทางความฝัน ข้าพเจ้าจึงต้องเรียกท่านขึ้นมา เพื่อถามว่าข้าพเจ้าควรทำยังไงดี”
- เอเสเคียล 20:1 - ในวันที่สิบของเดือนที่ห้า ปีที่เจ็ด พวกผู้นำอาวุโสบางคนของอิสราเอลได้มาขอคำปรึกษาจากพระยาห์เวห์ พวกเขามานั่งลงตรงหน้าผม
- เอเสเคียล 20:2 - แล้วคำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า
- เอเสเคียล 20:3 - “เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดกับพวกผู้นำอาวุโสของอิสราเอลอย่างนี้ว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อขอคำปรึกษากับเราหรือ เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะไม่ตอบคำถามของพวกเจ้า’” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- เยเรมียาห์ 37:7 - พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดว่า “เยฮูคัลและเศฟันยาห์ เรารู้ว่าเศเดคียาห์กษัตริย์ของยูดาห์ ได้ส่งให้พวกเจ้ามาร้องขอต่อเรา ให้ไปบอกกับเขาว่า กองทัพของฟาโรห์ที่กำลังออกจากอียิปต์เพื่อมาช่วยเจ้านั้น กำลังจะหันกลับไปอียิปต์แผ่นดินของพวกเขา
- เยเรมียาห์ 37:3 - กษัตริย์เศเดคียาห์ส่งเยฮูคัลลูกชายของเชเลมิยาห์ พร้อมกับนักบวชเศฟันยาห์ ลูกชายของมาอาเสอาห์ ไปหาเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า และบอกว่า “เยเรมียาห์ อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา แทนพวกเราด้วย”