逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เหตุใดเจ้าจึงร้องโอดโอยเพราะบาดแผลของเจ้า เพราะความเจ็บปวดซึ่งไม่มีการเยียวยา? เราจึงทำสิ่งเหล่านี้แก่เจ้า เพราะความผิดอันยิ่งใหญ่และบาปมากมายของเจ้า
- 新标点和合本 - 你为何因损伤哀号呢? 你的痛苦无法医治。 我因你的罪孽甚大,罪恶众多, 曾将这些加在你身上。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 你为何因所受的损伤哀号呢? 你的痛苦无法医治。 我因你罪孽甚大,罪恶众多, 曾将这些加在你身上。
- 和合本2010(神版-简体) - 你为何因所受的损伤哀号呢? 你的痛苦无法医治。 我因你罪孽甚大,罪恶众多, 曾将这些加在你身上。
- 当代译本 - 你们缘何为自己的创伤哭泣? 你们的创伤无法医治。 因为你们罪大恶极,罪过无数, 我才这样惩罚你们。
- 圣经新译本 - 你为什么因你的损伤哀叫呢? 你的病痛无法痊愈。 我这样对你, 是因你的罪孽甚多, 你的罪恶无数。
- 现代标点和合本 - 你为何因损伤哀号呢? 你的痛苦无法医治。 我因你的罪孽甚大,罪恶众多, 曾将这些加在你身上。
- 和合本(拼音版) - 你为何因损伤哀号呢? 你的痛苦无法医治, 我因你的罪孽甚大,罪恶众多, 曾将这些加在你身上。
- New International Version - Why do you cry out over your wound, your pain that has no cure? Because of your great guilt and many sins I have done these things to you.
- New International Reader's Version - Why do you cry out about your wound? Your pain can’t be healed. Your guilt is very great. And you have committed many sins. That is why I have done all these things to you.
- English Standard Version - Why do you cry out over your hurt? Your pain is incurable. Because your guilt is great, because your sins are flagrant, I have done these things to you.
- New Living Translation - Why do you protest your punishment— this wound that has no cure? I have had to punish you because your sins are many and your guilt is great.
- Christian Standard Bible - Why do you cry out about your injury? Your pain has no cure! I have done these things to you because of your enormous guilt and your innumerable sins.
- New American Standard Bible - Why do you cry out over your injury? Your pain is incurable. Because your wrongdoing is great And your sins are numerous, I have done these things to you.
- New King James Version - Why do you cry about your affliction? Your sorrow is incurable. Because of the multitude of your iniquities, Because your sins have increased, I have done these things to you.
- Amplified Bible - Why do you cry out over your injury [since it is the natural result of your sin]? Your pain is incurable (deadly). Because your guilt is great And your sins are glaring and innumerable, I have done these things to you.
- American Standard Version - Why criest thou for thy hurt? thy pain is incurable: for the greatness of thine iniquity, because thy sins were increased, I have done these things unto thee.
- King James Version - Why criest thou for thine affliction? thy sorrow is incurable for the multitude of thine iniquity: because thy sins were increased, I have done these things unto thee.
- New English Translation - Why do you complain about your injuries, that your pain is incurable? I have done all this to you because your wickedness is so great and your sin is so much.
- World English Bible - Why do you cry over your injury? Your pain is incurable. For the greatness of your iniquity, because your sins have increased, I have done these things to you.
- 新標點和合本 - 你為何因損傷哀號呢? 你的痛苦無法醫治。 我因你的罪孽甚大,罪惡眾多, 曾將這些加在你身上。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 你為何因所受的損傷哀號呢? 你的痛苦無法醫治。 我因你罪孽甚大,罪惡眾多, 曾將這些加在你身上。
- 和合本2010(神版-繁體) - 你為何因所受的損傷哀號呢? 你的痛苦無法醫治。 我因你罪孽甚大,罪惡眾多, 曾將這些加在你身上。
- 當代譯本 - 你們緣何為自己的創傷哭泣? 你們的創傷無法醫治。 因為你們罪大惡極,罪過無數, 我才這樣懲罰你們。
- 聖經新譯本 - 你為甚麼因你的損傷哀叫呢? 你的病痛無法痊愈。 我這樣對你, 是因你的罪孽甚多, 你的罪惡無數。
- 呂振中譯本 - 你為甚麼因你的破爛而哀呼 你痛苦之無法醫治呢? 我將這些 刑罰 施在你身上、 都因你罪孽之眾多, 你罪惡之重大呀。
- 現代標點和合本 - 你為何因損傷哀號呢? 你的痛苦無法醫治。 我因你的罪孽甚大,罪惡眾多, 曾將這些加在你身上。
- 文理和合譯本 - 爾曷因創傷而哀號乎、爾之痛苦、不可療也、我之待爾若此、以爾愆尤重大、罪惡增多也、
- 文理委辦譯本 - 爾既遭難、何哭泣若此、因爾咎戾眾多、故予責爾、傷殘殊甚。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 爾雖受傷損、痛苦難堪、豈可鳴冤、爾愆尤甚多、罪惡加增、故我待爾若是、
- Nueva Versión Internacional - ¿Por qué te quejas de tus heridas, si tu dolor es incurable? Por causa de tu enorme iniquidad y por tus muchos pecados, yo te he tratado así.
- 현대인의 성경 - 너희가 어째서 너희 상처에 대하여 부르짖는가? 너희 고통은 해소될 수 없을 것이다. 너희 죄가 크고 많으므로 내가 너희에게 이런 벌을 내렸다.
- Новый Русский Перевод - Что ты кричишь о своей ране, о неисцелимом увечье? За тяжесть твоей вины, и за множество грехов Я поступил так с тобой.
- Восточный перевод - Что ты кричишь о своей ране, о неисцелимом увечье? За тяжесть твоей вины и за множество грехов Я поступил так с тобой.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Что ты кричишь о своей ране, о неисцелимом увечье? За тяжесть твоей вины и за множество грехов Я поступил так с тобой.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Что ты кричишь о своей ране, о неисцелимом увечье? За тяжесть твоей вины и за множество грехов Я поступил так с тобой.
- La Bible du Semeur 2015 - Pourquoi te plains-tu donc ╵de ta blessure, de ce que ta douleur ╵soit si aiguë ? Je te l’ai infligée pour tes crimes énormes et tes fautes nombreuses.
- リビングバイブル - なぜ抗議するのか。 当然の刑罰ではないか。 おまえの罪は目も当てられないほど醜いので、 悲しみはいつまでも終わらない。 こんなにも懲らしめるのは、 おまえのとがが途方もなく大きいからだ。
- Nova Versão Internacional - Por que você grita por causa do seu ferimento, por sua ferida incurável? Fiz essas coisas a você porque é grande a sua iniquidade e numerosos são os seus pecados.
- Hoffnung für alle - Warum klagst du jetzt über deine Wunden, warum schreist du in deinem Schmerz, den niemand lindern kann? Weil deine Schuld so groß ist und du viele Sünden begangen hast, darum habe ich dich so zugerichtet!
- Kinh Thánh Hiện Đại - Tại sao các con kêu la vì hình phạt mình— vết thương này không chữa lành được sao? Ta đã hình phạt các con vì gian ác các con quá nhiều và tội lỗi các con quá lớn.
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ทำไมเจ้าจึงส่งเสียงร้องเมื่อเจ็บปวด ความเจ็บปวดของเจ้านั้นแสนสาหัส เพราะความผิดของเจ้ามากนัก เพราะบาปของเจ้าร้ายแรงนัก เราจึงได้กระทำสิ่งเหล่านี้ต่อเจ้า
交叉引用
- เยเรมีย์ 6:6 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “จงโค่นต้นไม้ แล้วก่อเชิงเทินเพื่อสู้กับเยรูซาเล็ม กรุงนี้ต้องถูกลงโทษ เพราะเต็มไปด้วยการกดขี่ข่มเหง
- เยเรมีย์ 6:7 - ดั่งบ่อน้ำปล่อยน้ำไหลออกมา กรุงนี้ก็ได้ปล่อยความชั่วร้ายออกมา ความทารุณอำมหิตและการทำลายล้างดังกระหึ่มในเมืองนี้ ความเจ็บป่วยและบาดแผลของมันมีอยู่ต่อหน้าเราเสมอ
- เยเรมีย์ 2:19 - ความชั่วร้ายของเจ้าเองจะลงโทษเจ้า ที่เจ้าถอยหลังเข้าคลองนั้นจะเป็นการกล่าวโทษเจ้าเอง จงพิเคราะห์ดูแล้วเจ้าจะตระหนักว่า มันเลวร้ายและขมขื่นเพียงใดสำหรับเจ้า เมื่อเจ้าละทิ้งพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า และไม่มีความยำเกรงเราเลย” องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 6:13 - “ตั้งแต่ผู้น้อยที่สุดจนถึงผู้ใหญ่ที่สุด ล้วนโลภมุ่งกำไร พวกผู้เผยพระวจนะและปุโรหิตก็ไม่ต่างกัน ล้วนโกหกหลอกลวง
- เอเสเคียล 22:1 - พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า
- เอเสเคียล 22:2 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจะพิพากษากรุงนี้ไหม? เจ้าจะพิพากษานครแห่งการนองเลือดนี้หรือไม่? ฉะนั้นจงประณามพฤติกรรมอันน่าชิงชังของมัน
- เอเสเคียล 22:3 - และกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า กรุงที่นำหายนะมาสู่ตนเองโดยทำให้มีการหลั่งเลือดและปล่อยตัวแปดเปื้อนมลทินโดยการสร้างรูปเคารพ
- เอเสเคียล 22:4 - เจ้ามีความผิดเพราะทำให้หลั่งเลือด และเจ้าแปดเปื้อนมลทินเพราะรูปเคารพที่ตนสร้างขึ้น เจ้านำจุดจบและอวสานมาถึงตัวเอง ฉะนั้นเราจะทำให้เจ้าตกเป็นเป้าของการดูหมิ่นของชาติต่างๆ และเป็นที่เย้ยหยันของนานาประเทศ
- เอเสเคียล 22:5 - ทั้งบรรดาผู้อยู่ใกล้และผู้อยู่ไกลจะเยาะเย้ยเจ้า โอ กรุงที่เสียชื่อและเต็มไปด้วยความโกลาหล
- เอเสเคียล 22:6 - “ ‘ดูเถิด เจ้านายแต่ละองค์ของอิสราเอลใช้อำนาจบาตรใหญ่ทำให้เกิดการนองเลือด
- เอเสเคียล 22:7 - ในกรุงนี้ผู้คนดูหมิ่นเหยียดหยามพ่อแม่ของตน ในกรุงนี้พวกเขากดขี่ข่มเหงคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่าย
- เอเสเคียล 22:8 - เจ้าดูหมิ่นสิ่งบริสุทธิ์ของเราและทำให้สะบาโตของเรามัวหมอง
- เอเสเคียล 22:9 - ในกรุงนี้มีคนพูดให้ร้าย มุ่งทำให้โลหิตตก ในกรุงนี้มีคนที่กินเลี้ยงในสถานบูชาบนภูเขาและทำสิ่งที่ชั่วช้าลามก
- เอเสเคียล 22:10 - ในกรุงนี้มีผู้ล่วงประเวณีกับภรรยาของบิดา ในกรุงนี้มีคนหลับนอนกับผู้หญิงขณะที่นางมีประจำเดือนอันเป็นเวลาที่เป็นมลทินตามระเบียบพิธี
- เอเสเคียล 22:11 - ในกรุงนี้มีคนที่ทำเรื่องต่ำช้าสามานย์กับภรรยาของเพื่อนบ้าน ในกรุงนี้บางคนทำให้ลูกสะใภ้เป็นมลทินน่าละอาย บางคนล่วงเกินพี่สาวน้องสาวร่วมบิดา
- เอเสเคียล 22:12 - ในกรุงนี้มีคนที่รับสินบนเพื่อทำให้โลหิตตก มีเจ้าหนี้หน้าเลือดเรียกดอกเบี้ยอย่างขูดรีด ขู่กรรโชกเอากำไรเพื่อนบ้าน และพวกเจ้าหลงลืมเรา พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 22:13 - “ ‘เราจะทุบกำปั้นลงเหนือกำไรที่เจ้าได้มาอย่างไม่ยุติธรรม และเหนือเลือดที่เจ้าทำให้หลั่งนองในหมู่พวกเจ้า
- เอเสเคียล 22:14 - ในวันที่เราจัดการกับเจ้า เจ้าจะฝืนทนต่อไปได้หรือ? มือทั้งสองของเจ้าจะยังเข้มแข็งอยู่หรือ? เราผู้เป็นพระเจ้าได้ลั่นวาจาไว้และเราจะทำตามนั้น
- เอเสเคียล 22:15 - เราจะกระจายพวกเจ้าออกไปท่ามกลางประชาชาติต่างๆ และนานาประเทศ เราจะเผาผลาญความโสมมของเจ้า
- เอเสเคียล 22:16 - เมื่อเจ้าเป็นที่เสื่อมเสีย ในสายตาของชนชาติทั้งหลาย เจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์’ ”
- เอเสเคียล 22:17 - แล้วมีพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า
- เอเสเคียล 22:18 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย วงศ์วานอิสราเอลกลายเป็นขี้แร่สำหรับเรา เขาทั้งปวงเป็นทองแดง ดีบุก เหล็ก ตะกั่ว ที่เหลืออยู่ในเตาหลอม พวกเขาเป็นเพียงขี้แร่ของเงินเท่านั้น
- เอเสเคียล 22:19 - ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า ‘เนื่องจากเจ้าทั้งปวงกลายเป็นขี้แร่ เราจะรวบรวมเจ้าเข้าสู่เยรูซาเล็ม
- เอเสเคียล 22:20 - ดั่งคนรวบรวมเงิน ทองแดง เหล็ก ตะกั่ว และดีบุกเข้าสู่เบ้าหลอม เพื่อถลุงด้วยไฟอันร้อนแรง เราก็จะรวบรวมพวกเจ้าด้วยความโกรธและโทสะของเรา กักเจ้าไว้ในกรุงนั้น แล้วหลอมเจ้า
- เอเสเคียล 22:21 - เราจะรวบรวมเจ้า และกระพือโทสะอันร้อนแรงของเรากระหน่ำเจ้า แล้วเจ้าจะถูกหลอมอยู่ในกรุงนั้น
- เอเสเคียล 22:22 - เจ้าจะหลอมเหลวอยู่ในกรุงนั้นเหมือนแร่เงินในเตาไฟ และเจ้าจะรู้ว่าเราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้ระบายโทสะลงเหนือเจ้า’ ”
- เอเสเคียล 22:23 - พระดำรัสของพระเจ้ามาถึงข้าพเจ้าอีกว่า
- โยบ 34:6 - แม้ข้าเองเป็นฝ่ายถูก ก็ยังถูกหาว่าโกหก แม้ข้าไม่ได้ทำผิด ก็ยังถูกลงโทษเป็นแผลรักษาไม่หาย’
- เอเสเคียล 20:1 - ในวันที่สิบเดือนที่ห้าของปีที่เจ็ดผู้อาวุโสของอิสราเอลบางคนมาร้องขอต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและมานั่งอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า
- เอเสเคียล 20:2 - แล้วพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า
- เอเสเคียล 20:3 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวแก่บรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอลว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เจ้ามาถามเราหรือ? เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราจะไม่ยอมให้เจ้ามาถามอะไรเราฉันนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น’
- เอเสเคียล 20:4 - “เจ้าจะพิพากษาพวกเขาหรือ? เจ้าจะพิพากษาพวกเขาหรือ บุตรมนุษย์เอ๋ย? ถ้าเช่นนั้น จงกล่าวโทษเรื่องความประพฤติอันน่าชิงชังของบรรพบุรุษของพวกเขา
- เอเสเคียล 20:5 - จงบอกพวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ในวันที่เราเลือกอิสราเอล เราชูมือขึ้นกล่าวปฏิญาณแก่ลูกหลานของพงศ์พันธุ์ของยาโคบและแสดงตัวแก่พวกเขาในอียิปต์ เราชูมือขึ้นกล่าวกับพวกเขาว่า “เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า”
- เอเสเคียล 20:6 - ในวันนั้นเราปฏิญาณต่อพวกเขาว่า เราจะนำพวกเขาออกจากอียิปต์ไปสู่ดินแดนที่เราสรรหาให้พวกเขา เป็นดินแดนที่อุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นดินแดนอันงดงามที่สุด
- เอเสเคียล 20:7 - และเรากล่าวแก่พวกเขาว่า “เจ้าทุกคน จงกำจัดเทวรูปอันชั่วช้าสามานย์ที่เจ้าหมายพึ่งและอย่าปล่อยตัวให้เป็นมลทินด้วยบรรดารูปเคารพของอียิปต์ เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า”
- เอเสเคียล 20:8 - “ ‘แต่พวกเขาก็กบฏต่อเราและไม่ยอมฟังเรา เขาไม่ได้กำจัดเทวรูปอันชั่วช้าสามานย์ที่ตนหมายพึ่ง ทั้งไม่ได้ละทิ้งรูปเคารพของอียิปต์ ฉะนั้นเราจึงได้ลั่นวาจาว่าจะระบายโทสะอันรุนแรงลงเหนือพวกเขาในอียิปต์
- เอเสเคียล 20:9 - แต่เพื่อเห็นแก่นามของเรา เราทำสิ่งที่จะป้องกันไม่ให้นามของเราเป็นที่ลบหลู่ในสายตาของชนชาติทั้งหลายที่พวกเขาอาศัยอยู่ด้วย และที่ได้เห็นเราแสดงตัวแก่อิสราเอลโดยการนำพวกเขาออกมาจากอียิปต์
- เอเสเคียล 20:10 - ฉะนั้นเราจึงนำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ พาเข้าสู่ถิ่นกันดาร
- เอเสเคียล 20:11 - เรามอบกฎหมายของเราแก่เขา และให้พวกเขาเรียนรู้บทบัญญัติของเรา ซึ่งผู้ประพฤติตามจะดำรงชีวิตอยู่โดยบทบัญญัติเหล่านั้น
- เอเสเคียล 20:12 - และเราได้มอบวันสะบาโตแก่พวกเขา เป็นหมายสำคัญระหว่างเราทั้งสองฝ่าย เพื่อพวกเขาจะรู้ว่าเราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์
- เอเสเคียล 20:13 - “ ‘ถึงอย่างนั้นชนชาติอิสราเอลก็กบฏต่อเราในถิ่นกันดาร พวกเขาไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา แต่ละคนทิ้งบทบัญญัติของเรา แม้ว่าผู้ที่ประพฤติตามจะดำรงชีวิตอยู่โดยบทบัญญัตินั้น พวกเขาทำให้สะบาโตของเรามัวหมองที่สุด ฉะนั้นเราจึงลั่นวาจาว่าจะระบายโทสะลงเหนือพวกเขา และทำลายล้างพวกเขาในถิ่นกันดาร
- เอเสเคียล 20:14 - แต่เพื่อเห็นแก่นามของเรา เราจึงปกป้องนามของเราไว้ ไม่ให้เป็นที่ดูหมิ่นในสายตาของชนชาติทั้งหลายซึ่งเห็นเรานำอิสราเอลออกมา
- เอเสเคียล 20:15 - และเราชูมือปฏิญาณในถิ่นกันดารว่าจะไม่นำพวกเขาเข้าสู่ดินแดนซึ่งเรามอบให้ ดินแดนอันงดงามที่สุด อุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง
- เอเสเคียล 20:16 - เนื่องจากพวกเขาละทิ้งบทบัญญัติของเรา ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา และทำให้สะบาโตของเรามัวหมอง เพราะจิตใจของเขาฝักใฝ่ในรูปเคารพ
- เอเสเคียล 20:17 - ถึงกระนั้นเราก็เหลียวแลพวกเขาด้วยความสงสาร ไม่ได้ทำลายล้างพวกเขา หรือให้พวกเขาถึงจุดจบในถิ่นกันดาร
- เอเสเคียล 20:18 - เรากล่าวแก่ลูกหลานของพวกเขาในถิ่นกันดารว่า “อย่าประพฤติตามกฎเกณฑ์ของบรรพบุรุษของเจ้า หรือทำตามบทบัญญัติของพวกเขา หรือทำตัวเป็นมลทินด้วยรูปเคารพทั้งหลายของพวกเขา
- เอเสเคียล 20:19 - เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า จงปฏิบัติตามกฎหมายของเรา และรักษาบทบัญญัติของเราอย่างถี่ถ้วน
- เอเสเคียล 20:20 - จงรักษาสะบาโตของเราให้บริสุทธิ์ เพื่อจะเป็นหมายสำคัญระหว่างเรากับเจ้า เพื่อเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า”
- เอเสเคียล 20:21 - “ ‘แต่ลูกหลานนั้นก็กบฏต่อเรา พวกเขาไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา ไม่ได้ใส่ใจรักษาบทบัญญัติของเรา แม้ว่าผู้ที่ปฏิบัติตามจะดำรงชีวิตอยู่ได้โดยบทบัญญัติเหล่านั้น พวกเขาทำให้สะบาโตของเรามัวหมอง เราจึงลั่นวาจาไว้ว่าเราจะเทโทสะอันรุนแรงลงบนพวกเขาและระบายความโกรธต่อพวกเขาในถิ่นกันดาร
- เอเสเคียล 20:22 - แต่เราก็ยั้งมือไว้เพื่อเห็นแก่นามของเรา เราจึงปกป้องนามของเราไว้ไม่ให้เป็นที่ดูหมิ่นในสายตาของชนชาติทั้งหลายซึ่งเห็นเรานำอิสราเอลออกมา
- เอเสเคียล 20:23 - และเราชูมือปฏิญาณต่อพวกเขาในถิ่นกันดารว่า เราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปยังชนชาติและประเทศต่างๆ
- เอเสเคียล 20:24 - เพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังบทบัญญัติของเรา แต่ได้ละทิ้งกฎหมายของเรา และทำให้สะบาโตของเรามัวหมอง ทั้งยังมีตากระสันหารูปเคารพทั้งหลายของบรรพบุรุษของพวกเขา
- เอเสเคียล 20:25 - เราทิ้งพวกเขาไว้กับกฎเกณฑ์ที่ไม่ดีและกับบทบัญญัติซึ่งไม่ช่วยให้พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ได้
- เอเสเคียล 20:26 - เราปล่อยให้พวกเขาเป็นมลทินโดยการถวายลูกหัวปีแก่รูปเคารพ เพื่อเราจะทำให้พวกเขาสยดสยอง พวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์’
- เอเสเคียล 20:27 - “ฉะนั้น บุตรมนุษย์เอ๋ย จงบอกประชากรอิสราเอลว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ในเรื่องนี้บรรพบุรุษของพวกเจ้าก็ยังได้หมิ่นประมาทเราโดยการละทิ้งเรา
- เอเสเคียล 20:28 - เมื่อเรานำพวกเขาเข้าสู่ดินแดนที่เราปฏิญาณไว้ว่าจะมอบให้พวกเขา และพวกเขาเห็นภูเขาสูงหรือต้นไม้ใบดก พวกเขาก็ถวายเครื่องบูชาต่างๆ ถวายเครื่องหอมและเทเครื่องดื่มบูชา พวกเขาถวายเครื่องเซ่นสังเวยต่างๆ ยั่วโทสะเรา
- เอเสเคียล 20:29 - เราจึงกล่าวแก่พวกเขาดังนี้ว่า สถานบูชาบนที่สูงที่พวกเจ้าไปนั้นคืออะไรกัน?’ ” (เขาจึงเรียกกันว่าบามาห์ ตราบจนทุกวันนี้)
- เอเสเคียล 20:30 - “ฉะนั้นจงกล่าวแก่พงศ์พันธุ์อิสราเอลว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เจ้าจะทำตัวเป็นมลทินแบบเดียวกับบรรพบุรุษ และกระสันหาเหล่าเทวรูปอันชั่วช้าสามานย์ของพวกเขาหรือ?
- เอเสเคียล 20:31 - เมื่อเจ้าเซ่นสังเวยโดยให้ลูกชายของเจ้าเป็นเครื่องบูชาในกองไฟ เจ้าก็ยังคงปล่อยตัวเป็นมลทินด้วยรูปเคารพตราบจนทุกวันนี้ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เราควรยอมให้เจ้ามาถามเราหรือ? พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราจะไม่ยอมให้เจ้ามาถามเราฉันนั้น
- เอเสเคียล 20:32 - “ ‘เจ้ากล่าวว่า “เราอยากเป็นเหมือนประชาชาติ เหมือนชนชาติต่างๆ ในโลกที่ปรนนิบัติไม้และหิน” แต่สิ่งที่เจ้าคิดหมายไว้ในใจจะไม่มีวันเป็นไปได้
- เอเสเคียล 20:33 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราจะปกครองเจ้าด้วยมืออันทรงพลัง ด้วยแขนที่เหยียดออก และด้วยโทสะที่ระบายลงมาฉันนั้น
- เอเสเคียล 20:34 - เราจะนำเจ้ามาจากชาติต่างๆ และรวบรวมเจ้าออกมาจากนานาประเทศที่เจ้าถูกทำให้กระจัดกระจายไปด้วยมืออันทรงพลัง ด้วยแขนที่เหยียดออก และด้วยโทสะที่ระบายลงมา
- เอเสเคียล 20:35 - เราจะนำเจ้าเข้าสู่ถิ่นกันดารของชนชาติต่างๆ และเราจะพิพากษาลงโทษเจ้าซึ่งๆ หน้าที่นั่น
- เอเสเคียล 20:36 - เราพิพากษาบรรพบุรุษของเจ้าในถิ่นกันดารของอียิปต์อย่างไร เราจะพิพากษาเจ้าอย่างนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 20:37 - เราจะนับเจ้าขณะเจ้าผ่านไปใต้คทาของเรา และจะนำเจ้าเข้าสู่ข้อผูกมัดแห่งพันธสัญญา
- เอเสเคียล 20:38 - เราจะชำระและแยกเจ้าออกมาจากบรรดาผู้ที่กบฏและทรยศเรา แม้ว่าเราจะนำคนเหล่านั้นออกมาจากดินแดนที่เขาอาศัยอยู่ แต่เขาจะไม่ได้เข้าในแผ่นดินอิสราเอล เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์
- เอเสเคียล 20:39 - “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย ฝ่ายเจ้าจงไปปรนนิบัติรูปเคารพต่างๆ ของเจ้าเถิด เจ้าทุกคนนี่แหละ! แต่ภายหลังเจ้าจะฟังเราอย่างแน่นอน และไม่ลบหลู่นามอันบริสุทธิ์ของเราด้วยของถวายและรูปเคารพทั้งหลายของเจ้าอีกต่อไป
- เอเสเคียล 20:40 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า พงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมดจะปรนนิบัติเราบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา บนภูเขาสูงแห่งอิสราเอล เราจะยอมรับพวกเขาที่นั่น เราประสงค์เครื่องบูชาและของถวายที่คัดมาอย่างดีที่สุด พร้อมทั้งเครื่องบูชาอันบริสุทธิ์ทุกอย่างของเจ้า
- เอเสเคียล 20:41 - เราจะรับเจ้าไว้เป็นเครื่องหอมเมื่อเรานำเจ้าออกมาจากประชาชาติต่างๆ และรวบรวมเจ้าออกมาจากนานาประเทศที่เราทำให้เจ้ากระจัดกระจายออกไปนั้น เราจะแสดงให้เห็นความบริสุทธิ์ของเราในหมู่พวกเจ้าต่อหน้าประชาชาติทั้งหลาย
- เอเสเคียล 20:42 - เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ เมื่อเรานำเจ้าเข้าสู่ดินแดนอิสราเอล คือดินแดนที่เราได้ชูมือขึ้นปฏิญาณไว้ว่าจะยกให้แก่บรรพบุรุษของเจ้า
- เอเสเคียล 20:43 - เจ้าจะหวนระลึกถึงความประพฤติและการกระทำทุกอย่างที่เจ้าทำให้ตัวเองเป็นมลทินที่นั่น และเจ้าจะเกลียดตัวเองเพราะความชั่วร้ายทั้งปวงที่เจ้าได้ทำลงไป
- เอเสเคียล 20:44 - วงศ์วานอิสราเอลเอ๋ย เจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ เมื่อเราจัดการกับเจ้าโดยเห็นแก่นามของเรา ไม่ใช่ตามวิถีชั่วร้ายและความประพฤติอันเสื่อมทรามของเจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น’ ”
- เอเสเคียล 20:45 - พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า
- เอเสเคียล 20:46 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงหันหน้าไปยังทิศใต้ กล่าวตำหนิเมืองทางใต้และพยากรณ์กล่าวโทษป่าไม้ของแดนใต้
- เอเสเคียล 20:47 - จงกล่าวแก่ป่าไม้แดนใต้ว่า ‘จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เรากำลังจะจุดไฟเผาเจ้า ซึ่งจะเผาผลาญต้นไม้ทุกต้นของเจ้า ทั้งที่เขียวสดและเหี่ยวแห้ง เปลวไฟลุกจ้าจะไม่ดับ และทุกใบหน้าจากทิศใต้ไปถึงทิศเหนือจะถูกไฟนั้นแผดเผา
- เอเสเคียล 20:48 - ทุกๆ คนจะเห็นว่า เราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้จุดไฟนั้น มันจะไม่ดับลง’ ”
- เอเสเคียล 20:49 - แล้วข้าพเจ้ากราบทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต! พวกเขากำลังกล่าวเกี่ยวกับข้าพเจ้าว่า ‘เขาเพียงแต่กำลังกล่าวคำอุปมาไม่ใช่หรือ?’ ”
- 2พงศาวดาร 36:14 - ยิ่งกว่านั้นผู้นำทั้งหมดของปุโรหิตและของประชาชนก็ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้ามากยิ่งขึ้น หันไปทำตามขนบธรรมเนียมอันน่าชิงชังของชนชาติต่างๆ และสร้างมลทินแก่พระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งพระเจ้าได้ทรงชำระแล้วในกรุงเยรูซาเล็ม ( 2พกษ.25:1-21 ; อสร.1:1-3 ; ยรม.52:4-27 )
- 2พงศาวดาร 36:15 - พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขาได้ส่งทูตของพระองค์มาเตือนพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะพระองค์ทรงสงสารประชากรและที่ประทับของพระองค์
- 2พงศาวดาร 36:16 - แต่เหล่าประชากรก็เยาะเย้ยบรรดาทูตของพระเจ้า ลบหลู่พระดำรัสของพระองค์ และหมิ่นประมาทผู้เผยพระวจนะทั้งหลาย จนพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้าพลุ่งขึ้นต่อประชากรของพระองค์จนไม่อาจระงับยับยั้งได้อีกต่อไป
- 2พงศาวดาร 36:17 - พระเจ้าทรงนำกษัตริย์ของชาวบาบิโลน มาปราบเขา สังหารชายหนุ่มของเขาในสถานนมัสการ ไม่ไว้ชีวิตแม้กระทั่งเด็ก ผู้หญิงและคนแก่ พระเจ้าทรงมอบพวกเขาทั้งหมดไว้ในมือเนบูคัดเนสซาร์
- เยเรมีย์ 9:1 - โอ ถ้าศีรษะของข้าพเจ้าเป็นเหมือนแหล่งน้ำ และตาของข้าพเจ้าเป็นเหมือนบ่อน้ำพุแห่งน้ำตา! ข้าพเจ้าจะได้ร่ำไห้ทั้งวันทั้งคืน เพื่อพี่น้องร่วมชาติซึ่งถูกสังหาร
- เยเรมีย์ 9:2 - โอ ข้าพเจ้าอยากมีที่พักแรม สำหรับคนเดินทางในถิ่นกันดารนัก เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไปให้พ้น จากพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้า เพราะพวกเขาล้วนเป็นคนล่วงประเวณี เป็นฝูงชนที่ไม่ซื่อสัตย์
- เยเรมีย์ 9:3 - “พวกเขาโก่งลิ้นเหมือนคันศร เพื่อยิงคำโกหกออกมา ความเท็จจึงมีชัย เหนือความจริง ในแผ่นดิน พวกเขาทำบาปอย่างหนึ่ง แล้วก็แล่นไปสู่บาปอีกอย่างหนึ่ง พวกเขาไม่ยอมรับเรา” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 9:4 - “จงระวังเพื่อนของเจ้า และอย่าไว้ใจพี่น้องของเจ้า เพราะว่าพี่น้องทุกคนเป็นคนหลอกลวง และเพื่อนทุกคนเป็นนักใส่ร้ายป้ายสี
- เยเรมีย์ 9:5 - เพื่อนหลอกลวงเพื่อน และไม่มีใครพูดความจริง พวกเขาฝึกลิ้นตัวเองให้โกหก ทำให้ตัวเองเหนื่อยล้าด้วยการทำบาป
- เยเรมีย์ 9:6 - เจ้า อาศัยอยู่ท่ามกลางการหลอกลวง เพราะความหลอกลวงของพวกเขา พวกเขาจึงไม่ยอมรับเรา” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 9:7 - ฉะนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “ดูเถิด เราจะถลุงและทดสอบพวกเขา เพราะนอกจากนี้เราจะทำสิ่งอื่นใดได้อีก เนื่องจากบาปที่ประชากรของเราได้ทำ?
- เยเรมีย์ 9:8 - ลิ้นของพวกเขาเป็นลูกศรคร่าชีวิต พูดจาตลบตะแลง ทุกคนพูดอย่างเป็นมิตรกับเพื่อนบ้านของเขา แต่ในใจคิดวางแผนเล่นงานเขา
- เยเรมีย์ 9:9 - ไม่ควรหรือที่เราจะลงโทษพวกเขาเพราะเหตุนี้?” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “ไม่ควรหรือที่เราจะแก้แค้น ชนชาติที่เป็นเช่นนี้?”
- มีคาห์ 1:9 - เพราะบาดแผลของสะมาเรียเยียวยาไม่ได้ และลามมาถึงยูดาห์แล้ว มาถึงประตูเมืองของพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้า มาถึงเยรูซาเล็มเลยทีเดียว
- เยเรมีย์ 46:11 - “ธิดาพรหมจารีแห่งอียิปต์ เอ๋ย ขึ้นไปรับยาที่กิเลอาดสิ แต่เจ้าเยียวยาไปก็เปล่าประโยชน์ บำบัดรักษาอย่างไรก็ไม่หาย
- เพลงคร่ำครวญ 3:39 - ควรหรือที่มนุษย์จะบ่น เมื่อถูกลงโทษเพราะบาปทั้งหลายของตน?
- อิสยาห์ 5:2 - เขาไถที่และกำจัดกรวดหิน และปลูกองุ่นพันธุ์เยี่ยม เขาสร้างหอยาม และสกัดบ่อย่ำองุ่นไว้ด้วย จากนั้นเขารอเก็บผลองุ่นชั้นดี แต่กลับได้องุ่นเปรี้ยว
- เพลงคร่ำครวญ 4:13 - แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว เพราะบาปของเหล่าผู้เผยพระวจนะ และความชั่วช้าของเหล่าปุโรหิต ซึ่งทำให้โลหิตของคนชอบธรรม ไหลนองอยู่กลางกรุง
- โยชูวา 9:10 - ตลอดจนสิ่งที่ทรงกระทำกับกษัตริย์สององค์ของชาวอาโมไรต์ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน คือกษัตริย์สิโหนแห่งเฮชโบนและกษัตริย์โอกแห่งบาชานผู้ครอบครองในอัชทาโรท
- โยชูวา 9:11 - บรรดาผู้อาวุโสและประชากรในประเทศของข้าพเจ้าจึงกล่าวกับพวกข้าพเจ้าว่า ‘จงนำเสบียงอาหารสำหรับการเดินทางไปพบพวกเขาและกล่าวว่า “เราเป็นผู้รับใช้ของท่าน ขอทำสนธิสัญญากับเราเถิด” ’
- เยเรมีย์ 5:25 - เพราะพวกเจ้าทำผิด สิ่งเหล่านี้จึงสูญสิ้นไป บาปทั้งหลายของเจ้าได้ทำให้เจ้าพลาดจากสิ่งดีๆ
- เยเรมีย์ 5:26 - “ในหมู่ประชากรของเรามีคนชั่วร้าย ซึ่งหมอบคอยอยู่เหมือนคนที่วางบ่วงดักนก และเหมือนคนที่วางกับดักจับคน
- เยเรมีย์ 5:27 - บ้านของพวกเขาเต็มไปด้วยการหลอกลวง เหมือนกรงที่เต็มไปด้วยนก พวกเขากลายเป็นคนมั่งมีและทรงอิทธิพล
- เยเรมีย์ 5:28 - ทั้งอ้วนพีและล่ำสัน พวกเขาทำชั่วอย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ช่วยให้ลูกกำพร้าพ่อได้รับความยุติธรรมในคดีความ ไม่ปกป้องสิทธิของผู้ยากไร้
- เยเรมีย์ 5:29 - จะไม่ให้เราลงโทษพวกเขาเพราะเรื่องนี้หรือ?” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “จะไม่ให้เราแก้แค้น ชนชาติที่ประพฤติเยี่ยงนี้หรือ?
- เยเรมีย์ 5:30 - “สิ่งน่าสะพรึงกลัวและน่าตกใจ ได้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้
- เยเรมีย์ 5:31 - คือบรรดาผู้เผยพระวจนะพยากรณ์เท็จ เหล่าปุโรหิตปกครองโดยสิทธิอำนาจของตนเอง และประชากรของเราก็รักวิถีแบบนี้ แต่พวกเจ้าจะทำอย่างไรในบั้นปลาย?
- เยเรมีย์ 30:17 - เพราะเราจะให้เจ้ามีสุขภาพดีดังเดิม และรักษาบาดแผลของเจ้า’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ‘เพราะเจ้าได้ชื่อว่า “พวกเศษเดน” ศิโยนที่ไม่มีใครเหลียวแล’
- เยเรมีย์ 32:30 - “ชาวอิสราเอลและยูดาห์เอาแต่ทำชั่วต่อหน้าต่อตาเรานับตั้งแต่เยาว์วัย แท้จริงประชากรอิสราเอลไม่ได้ทำสิ่งอื่นใดเว้นแต่ได้ยั่วโทสะเราด้วยสิ่งชั่วร้ายที่พวกเขาทำ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 32:31 - นับตั้งแต่วันที่สร้างขึ้นจวบจนบัดนี้ กรุงนี้ได้ยั่วโทสะเราจนเราต้องกำจัดให้พ้นหน้าเรา
- เยเรมีย์ 32:32 - ประชากรอิสราเอลและยูดาห์ ไม่ว่ากษัตริย์ ข้าราชบริพาร ปุโรหิต ผู้เผยพระวจนะ ชาวยูดาห์และชาวกรุงเยรูซาเล็มล้วนแต่ยั่วโทสะเราด้วยความชั่วช้าทั้งสิ้นที่เขาทำ
- เยเรมีย์ 32:33 - เขาหันหลังให้เรา ไม่ใช่หันหน้ามาหาเรา แม้เราสอนเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็ไม่ยอมฟัง ไม่ยอมรับการตีสั่งสอน
- เยเรมีย์ 32:34 - เขาตั้งเทวรูปอันน่าสะอิดสะเอียนไว้ในนิเวศซึ่งใช้ชื่อของเรา ทำให้นิเวศนี้เป็นมลทิน
- เยเรมีย์ 32:35 - เขาสร้างสถานบูชาบนที่สูงสำหรับพระบาอัลในหุบเขาเบนฮินโนม เพื่อบูชายัญลูกชายลูกสาวของเขา แก่พระโมเลค ทั้งๆ ที่เราไม่เคยสั่งและไม่เคยอยู่ในความคิดของเราว่าเขาจะทำสิ่งที่น่าเกลียดชังถึงเพียงนั้น และทำให้ยูดาห์ทำบาป
- เอสรา 9:6 - และอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์อดสูละอายใจเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้นต่อพระองค์ผู้ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ เพราะบาปของข้าพระองค์ทั้งหลายสูงท่วมศีรษะ และความผิดของเหล่าข้าพระองค์ขึ้นถึงฟ้าสวรรค์
- เอสรา 9:7 - นับแต่สมัยบรรพบุรุษจวบจนบัดนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายมีความผิดใหญ่หลวง เพราะบาปของข้าพระองค์ทั้งหลายทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกับกษัตริย์และเหล่าปุโรหิตตกเป็นเหยื่อคมดาบ ตกเป็นเชลยถูกย่ำยีและถูกปล้นชิง ได้รับความอัปยศอดสูโดยน้ำมือของบรรดากษัตริย์ต่างชาติดังเช่นทุกวันนี้
- อิสยาห์ 1:21 - ดูเถิด นครที่ซื่อสัตย์ กลับกลายเป็นหญิงแพศยา! ครั้งหนึ่งเธอเคยเปี่ยมด้วยความยุติธรรม ความชอบธรรมเคยมีอยู่ในเธอ แต่บัดนี้มีแต่ฆาตกร!
- อิสยาห์ 1:22 - เนื้อเงินของเจ้ากลายเป็นขี้แร่ เหล้าองุ่นอันยอดเยี่ยมบัดนี้เจือน้ำ
- อิสยาห์ 1:23 - ผู้นำของเจ้าเป็นกบฏ เป็นเพื่อนกับขโมย ทุกคนรักสินบน ตามล่าของกำนัล พวกเขาไม่ปกป้องลูกกำพร้าพ่อ และไม่พิจารณาคดีของหญิงม่าย
- อิสยาห์ 1:24 - ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ องค์เกรียงไกรแห่งอิสราเอลประกาศว่า “เราจะระบายโทสะของเราเหนือศัตรู และแก้แค้นปฏิปักษ์ของเรา
- มาลาคี 4:1 - พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “วันนั้นจะมาถึงอย่างแน่นอน วันที่เผาผลาญดั่งเตาหลอม ทุกคนที่เย่อหยิ่งและทุกคนที่ทำชั่วจะเป็นตอข้าว วันที่จะมาถึงนั้นจะเผาผลาญเขาทั้งหมดไม่ให้เหลือแม้แต่รากหรือกิ่งสักกิ่งเดียว
- มาลาคี 4:2 - แต่พวกเจ้าที่ยำเกรงนามของเรา ดวงตะวันแห่งความชอบธรรมจะขึ้นมาพร้อมด้วยปีกแห่งการบำบัดรักษา และเจ้าจะโลดแล่นออกไปเหมือนลูกวัวที่ถูกปล่อยออกจากคอก
- เพลงคร่ำครวญ 1:5 - ศัตรูของเธอกลับกลายเป็นนาย อริทั้งหลายของเธอเบิกบานสำราญใจ เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำความทุกข์ระทมมาให้เธอ เพราะบาปมากมายของเธอ ลูกเล็กเด็กแดงของเธอ ตกไปเป็นเชลยต่อหน้าศัตรู
- เนหะมีย์ 9:26 - “แต่พวกเขาไม่เชื่อฟังและกบฏต่อพระองค์ ทอดทิ้งบทบัญญัติ สังหารบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ซึ่งเตือนให้พวกเขาหันกลับมาหาพระองค์ พวกเขาหมิ่นประมาทพระองค์อย่างร้ายแรง
- เนหะมีย์ 9:27 - ฉะนั้นพระองค์ทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของศัตรูผู้ที่กดขี่ข่มเหงพวกเขา แต่เมื่อพวกเขาถูกกดขี่ข่มเหง พวกเขาก็ร้องทูลพระองค์ พระองค์ทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และโปรดประทานผู้ช่วยกู้มาช่วยพวกเขาให้พ้นจากมือของเหล่าศัตรูด้วยความเอ็นดูสงสาร
- เนหะมีย์ 9:28 - “แต่พอพวกเขาได้พักสงบ พวกเขาก็ทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรของพระองค์อีก พระองค์จึงทรงทิ้งพวกเขาไว้ในมือของศัตรู ให้ศัตรูปกครองพวกเขา และเมื่อพวกเขาร้องทูลพระองค์อีก พระองค์ก็ทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และทรงกอบกู้พวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความเอ็นดูสงสาร
- เนหะมีย์ 9:29 - “พระองค์ทรงเตือนให้พวกเขาหันกลับมายังบทบัญญัติของพระองค์ แต่พวกเขาหยิ่งผยองและไม่เชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ พวกเขาทำบาปต่อข้อปฏิบัติของพระองค์ซึ่งถ้าผู้ใดปฏิบัติตามจะมีชีวิตอยู่ พวกเขาหันหลังให้พระองค์อย่างดื้อรั้นอวดดีและไม่ยอมฟัง
- เนหะมีย์ 9:30 - พระองค์ทรงอดกลั้นพระทัยต่อพวกเขามาตลอดหลายปี พระองค์ทรงเตือนสติพวกเขาโดยพระวิญญาณของพระองค์ผ่านทางผู้เผยพระวจนะของพระองค์ แต่พวกเขาก็ไม่แยแส พระองค์จึงทรงมอบพวกเขาไว้ในเงื้อมมือของชนชาติเพื่อนบ้าน
- เนหะมีย์ 9:31 - แต่ด้วยพระกรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง พระองค์ไม่ได้ทรงทำลายพวกเขาจนย่อยยับหรือทอดทิ้งพวกเขาไป เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณและพระเมตตา
- เนหะมีย์ 9:32 - “ฉะนั้นบัดนี้ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ทรงฤทธิ์และน่าเกรงขาม ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาแห่งความรักของพระองค์ ขออย่าให้ความทุกข์ยากลำบากทั้งปวงนี้เป็นสิ่งเล็กน้อยในสายพระเนตรของพระองค์ ความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลายกับบรรดากษัตริย์และเหล่าผู้นำกับบรรดาปุโรหิต และผู้เผยพระวจนะทั้งหลายของเรากับบรรพบุรุษของเราและปวงประชากรของพระองค์ตั้งแต่สมัยเหล่ากษัตริย์แห่งอัสซีเรียจนถึงวันนี้
- เนหะมีย์ 9:33 - ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลายนั้น พระองค์ทรงเที่ยงธรรม พระองค์ทรงทำทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์ขณะที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำผิด
- เนหะมีย์ 9:34 - บรรดากษัตริย์ ผู้นำ ปุโรหิต และบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ พวกเขาไม่ใส่ใจพระบัญชาและพระดำรัสเตือนของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:35 - แม้ขณะที่พวกเขาอยู่ในอาณาจักรของพวกเขา ได้ชื่นชมความดีเลิศที่ทรงมีต่อพวกเขาในดินแดนอันกว้างขวางและอุดมสมบูรณ์ที่ทรงประทาน พวกเขาไม่ได้ปรนนิบัติรับใช้พระองค์หรือหันจากทางชั่วของพวกเขา
- เนหะมีย์ 9:36 - “แต่ดูเถิด วันนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายตกเป็นทาสในดินแดนซึ่งทรงประทานแก่เหล่าบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายเพื่อพวกเขาจะได้อิ่มเอมกับพืชผลและสิ่งดีงามทั้งปวงของดินแดนนั้น
- เยเรมีย์ 7:8 - แต่ดูสิ เจ้ากำลังเชื่อคำหลอกลวงที่ไร้ค่า
- เยเรมีย์ 7:9 - “ ‘เจ้าจะลักขโมย ฆ่าคน ล่วงประเวณี และสาบานเท็จ เผาเครื่องหอมถวายพระบาอัลและติดตามพระอื่นๆ ซึ่งเจ้าไม่เคยรู้จักมาก่อน
- เยเรมีย์ 7:10 - แล้วก็เข้ามายืนอยู่ต่อหน้าเราในนิเวศแห่งนี้ซึ่งใช้ชื่อของเรา แล้วเจ้าก็พูดว่า “เราปลอดภัย” ปลอดภัยเพื่อจะทำสิ่งที่น่าเกลียดชังทั้งปวงเหล่านี้หรือ?
- เยเรมีย์ 7:11 - นิเวศแห่งนี้ซึ่งใช้ชื่อของเรากลายเป็นซ่องโจรสำหรับเจ้าแล้วหรือ? เรากำลังจับตาดูอยู่! องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:1 - พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า
- เอเสเคียล 16:2 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงประจันหน้ากับเยรูซาเล็มเพราะเรื่องการกระทำอันน่าชิงชังของนาง
- เอเสเคียล 16:3 - และจงกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสแก่เยรูซาเล็มดังนี้ว่า บรรพบุรุษและชาติกำเนิดของเจ้าอยู่ในดินแดนคานาอัน บิดาของเจ้าเป็นชาวอาโมไรต์และมารดาเป็นชาวฮิตไทต์
- เอเสเคียล 16:4 - วันที่เจ้าเกิดมา ไม่มีใครตัดสายสะดือให้ ไม่มีใครอาบน้ำให้สะอาด ไม่มีใครเอาเกลือถูตัวหรือเอาผ้าอ้อมพันให้
- เอเสเคียล 16:5 - ไม่มีใครเหลียวแลสงสารเจ้า หรือเมตตาพอที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้เจ้า เจ้ากลับถูกทิ้งไว้กลางทุ่ง เพราะวันที่เจ้าเกิดมา เจ้าก็เป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์
- เอเสเคียล 16:6 - “ ‘แล้วเราผ่านไปเห็นเจ้าดิ้นไปมาเนื้อตัวโชกเลือด เราก็พูดกับเจ้าซึ่งนอนจมกองเลือดอยู่ว่า “จงมีชีวิตอยู่!”
- เอเสเคียล 16:7 - เราจะทำให้เจ้าเจริญเติบโตเหมือนต้นไม้กลางทุ่ง เจ้าเติบใหญ่จนกลายเป็นสาว ทรวงอกเต่งตึงขึ้นและผมก็ยาว แต่เจ้าก็ยังล่อนจ้อนและเปลือยอยู่
- เอเสเคียล 16:8 - “ ‘ต่อมาเมื่อเราผ่านไปและมองดูเจ้า ก็เห็นว่าเจ้าโตพอที่จะมีความรักแล้ว เราจึงคลี่มุมชายเสื้อของเราคลุมกายเจ้า และปกปิดความเปลือยเปล่าของเจ้าไว้ เราให้คำปฏิญาณและได้ทำพันธสัญญากับเจ้า และเจ้าก็เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:9 - “ ‘เราได้อาบน้ำให้เจ้า ชำระล้างเลือดจากตัวเจ้าและเอาน้ำมันชโลมให้เจ้า
- เอเสเคียล 16:10 - เราเอาชุดปักและรองเท้าหนังสวมให้เจ้า ให้เจ้าแต่งกายด้วยผ้าลินินเนื้อดี คลุมกายเจ้าด้วยอาภรณ์ราคาแพง
- เอเสเคียล 16:11 - เราตกแต่งเจ้าด้วยเพชรนิลจินดา สวมกำไลมือและสร้อยคอให้
- เอเสเคียล 16:12 - ใส่ห่วงจมูก ตุ้มหู และสวมมงกุฎงามให้
- เอเสเคียล 16:13 - เจ้าจึงงดงามด้วยทองคำและเงิน เสื้อผ้าอาภรณ์ของเจ้าทำด้วยผ้าลินินเนื้อดี ผ้าราคาแพง และผ้าปัก อาหารของเจ้าคือแป้งละเอียด น้ำผึ้ง และน้ำมันมะกอก เจ้ากลายเป็นคนสวยงามมากและรุ่งโรจน์ขึ้นเป็นราชินี
- เอเสเคียล 16:14 - และชื่อเสียงของเจ้าก็เลื่องลือไปในหมู่ประชาชาติเนื่องด้วยความสวยงามของเจ้า เพราะความโอ่อ่าตระการที่เรามอบให้นั้นทำให้เจ้างามเพียบพร้อม พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:15 - “ ‘แต่เจ้าวางใจในความงามของตัวเอง และใช้ชื่อเสียงของเจ้าทำตัวเป็นหญิงโสเภณี เจ้าโปรยเสน่ห์ให้ทุกคนที่ผ่านไปมาและทอดกายให้เขา
- เอเสเคียล 16:16 - เจ้าเอาอาภรณ์บางส่วนของเจ้าไปทำให้สถานบูชาบนที่สูงมีสีสันฉูดฉาด ที่ซึ่งเจ้าใช้ขายเนื้อขายตัว สิ่งเหล่านี้ไม่น่าเกิดขึ้นและไม่น่าเป็นไปได้
- เอเสเคียล 16:17 - เจ้ายังเอาเพชรนิลจินดาชั้นเลิศซึ่งเรามอบให้ และเครื่องประดับเงินและทองคำของเราไปสร้างรูปเคารพเพศชายสำหรับตน และทำการแพศยากับรูปเคารพเหล่านั้น
- เอเสเคียล 16:18 - และเจ้านำผ้าปักของเจ้าไปสวมให้รูปเคารพ เอาน้ำมันกับเครื่องหอมของเราไปบูชาต่อหน้ามัน
- เอเสเคียล 16:19 - ทั้งอาหารที่เราให้เจ้าคือแป้งละเอียด น้ำมันมะกอก และน้ำผึ้ง เจ้าก็เอาไปถวายเป็นเครื่องหอมบูชาต่อหน้าพระเหล่านั้น นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:20 - “ ‘และเจ้าถึงกับจับลูกชายลูกสาวที่เจ้าคลอดออกมาเพื่อเราไปเซ่นสังเวยเป็นอาหารแก่รูปเคารพต่างๆ การแพศยานอกใจของเจ้ายังไม่พออีกหรือ?
- เอเสเคียล 16:21 - เจ้าถึงต้องเข่นฆ่าลูกๆ ของเรา และเผาพวกเขา เพื่อบูชายัญแก่รูปเคารพ
- เอเสเคียล 16:22 - ตลอดการกระทำอันน่าชิงชังและการแพศยานอกใจของเจ้า เจ้าไม่ได้ระลึกถึงวัยเยาว์ของเจ้า เมื่อเจ้าเปลือยเปล่าตัวล่อนจ้อนและดิ้นไปดิ้นมาอยู่ในกองเลือดเลย
- เอเสเคียล 16:23 - “ ‘วิบัติ วิบัติแก่เจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น นอกเหนือจากความชั่วร้ายทั้งหมดของเจ้าแล้ว
- เอเสเคียล 16:24 - เจ้ายังได้สร้างเนินสูงให้ตัวเองและสร้างสถานบูชาที่สูงตระหง่านไว้ที่ลานชุมชนทุกแห่ง
- เอเสเคียล 16:25 - เจ้าสร้างสถานบูชาอันสูงตระหง่านไว้ที่หัวถนนทุกสาย และทำให้ความงามของตนลดค่าลง โดยพลีกายให้ทุกคนที่ผ่านไปมาด้วยความสำส่อนมากยิ่งขึ้น
- เอเสเคียล 16:26 - เจ้าแพศยาคบชู้กับชาวอียิปต์เพื่อนบ้านผู้มากด้วยราคะ และยั่วยุโทสะของเราด้วยความสำส่อนที่ทวีขึ้นของเจ้า
- เอเสเคียล 16:27 - ฉะนั้นเราจึงเหยียดมือของเราออกต่อสู้กับเจ้า และลดพรมแดนของเจ้า เรายกเจ้าให้ความโลภโมโทสันของศัตรูของเจ้าคือบรรดาชาวฟีลิสเตีย ผู้ตกตะลึงในความประพฤติอันลามกต่ำทรามของเจ้า
- เอเสเคียล 16:28 - เจ้ายังแพศยาคบชู้กับชาวอัสซีเรียอีกด้วย เพราะเจ้าไม่อิ่มในกาม และแม้หลังจากนั้นเจ้าก็ยังไม่หนำใจ
- เอเสเคียล 16:29 - แล้วเจ้าก็ทวีความสำส่อนมากยิ่งขึ้น โดยเล่นชู้กับบาบิโลน ดินแดนแห่งพ่อค้าวาณิช แต่ถึงขนาดนี้แล้วเจ้าก็ยังไม่จุใจ
- เอเสเคียล 16:30 - “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า ทำไมเจ้าช่างอ่อนไหวใจง่ายจนทำสิ่งต่างๆ ถึงเพียงนี้ ทำตัวเป็นหญิงแพศยาหน้าด้าน!
- เอเสเคียล 16:31 - เมื่อเจ้าสร้างเนินต่างๆ ไว้ที่หัวถนน และสถานบูชาที่สูงตระหง่านในลานชุมชนทุกแห่ง เจ้าก็ยังต่างจากหญิงโสเภณีก็ตรงที่เจ้าไม่แยแสค่าจ้าง
- เอเสเคียล 16:32 - “ ‘เจ้าคือภรรยาแพศยา! เจ้าชื่นชอบคนแปลกหน้ายิ่งกว่าสามีของตนเอง
- เอเสเคียล 16:33 - หญิงโสเภณีทุกคนได้รับค่าจ้าง แต่เจ้าให้ของกำนัลแก่ชู้รักทั้งปวง ให้สินบนจ้างเขามาหาเจ้าจากทุกหนทุกแห่ง เพื่อสนองราคะตัณหาของเจ้า
- เอเสเคียล 16:34 - ฉะนั้นในการแพศยาของเจ้า เจ้าจึงแตกต่างจากโสเภณีอื่นๆ คือไม่มีใครตามจีบเอาใจเจ้า เจ้าแตกต่างมากเพราะว่าเจ้ายอมจ่ายค่าจ้าง แต่ไม่ได้อะไรตอบแทน
- เอเสเคียล 16:35 - “ ‘ฉะนั้นหญิงแพศยาเอ๋ย จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า!
- เอเสเคียล 16:36 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เนื่องจากเจ้าโปรยหว่านราคะตัณหา และเผยความเปลือยเปล่าของตนโดยการสำส่อนกับชู้รักทั้งหลาย และเนื่องจากรูปเคารพอันน่าชิงชังของเจ้า รวมถึงการเซ่นสังเวยเลือดลูกๆ ของเจ้าแก่พระเหล่านั้น
- เอเสเคียล 16:37 - ฉะนั้นเราจะรวบรวมชู้รักทุกคนที่เจ้าชื่นชอบ ทั้งผู้ที่เจ้ารักและผู้ที่เจ้าเกลียด เราจะรวบรวมเขาจากทุกด้านมาเล่นงานเจ้า เราจะริบทุกสิ่งจากเจ้าไปต่อหน้าพวกเขา และพวกเขาทุกคนจะเห็นความเปลือยเปล่าของเจ้า
- เอเสเคียล 16:38 - เราจะตัดสินลงโทษเจ้าในฐานะผู้หญิงที่ล่วงประเวณีและฆ่าคน เราจะทำให้เจ้าโชกเลือดด้วยความกริ้วและความหึงหวงของเรา
- เอเสเคียล 16:39 - แล้วเราจะมอบเจ้าแก่บรรดาชู้รักของเจ้า พวกเขาจะทลายเนินสูง และทำลายสถานบูชาที่สูงตระหง่านของเจ้า พวกเขาจะทำให้เจ้าล่อนจ้อน และริบเอาเพชรนิลจินดาสวยๆ งามๆ ไป และเปลื้องอาภรณ์ของเจ้าออก ทิ้งเจ้าไว้ให้เปลือยเปล่า
- เอเสเคียล 16:40 - พวกเขาจะยกขบวนมาสู้กับเจ้า ซึ่งจะขว้างก้อนหินใส่เจ้าและจะฟาดฟันเจ้าออกเป็นชิ้นๆ ด้วยดาบของพวกเขา
- เอเสเคียล 16:41 - พวกเขาจะเผาบ้านเรือนของเจ้า และลงโทษเจ้าต่อหน้าต่อตาผู้หญิงมากมาย เราจะยุติการแพศยาของเจ้าและเจ้าจะไม่จ่ายค่าจ้างให้บรรดาชู้รักของเจ้าอีกต่อไป
- เอเสเคียล 16:42 - เมื่อนั้นโทสะที่เรามีต่อเจ้าจะยุติลง และความหึงหวงของเราจะหันเหไปจากเจ้า เราจะสงบอารมณ์และจะไม่โกรธอีก
- เอเสเคียล 16:43 - “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า เพราะเจ้าไม่ได้ระลึกถึงวัยเยาว์ของเจ้า แต่ยั่วโมโหเราด้วยสิ่งทั้งหมดนี้ แน่นอนเราจะตอบแทนเจ้าให้สาสมกับสิ่งที่เจ้าทำลงไป เจ้าไม่ได้เพิ่มความลามกต่ำทรามเข้ากับการกระทำอันน่าชิงชังทั้งหลายของเจ้าหรอกหรือ?
- เอเสเคียล 16:44 - “ ‘ทุกคนที่ยกภาษิตมากล่าว จะกล่าวถึงเจ้าด้วยภาษิตที่ว่า “แม่เป็นอย่างไร ลูกสาวก็เป็นอย่างนั้น”
- เอเสเคียล 16:45 - เจ้าเป็นลูกแท้ๆ ของแม่เจ้า ผู้เกลียดชังสามีกับลูกๆ ของตน และเจ้าเป็นน้องแท้ๆ ของพี่สาวเจ้า ผู้เกลียดชังสามีกับลูกๆ ของตน แม่ของเจ้าเป็นชาวฮิตไทต์และพ่อของเจ้าเป็นชาวอาโมไรต์
- เอเสเคียล 16:46 - พี่สาวของเจ้าคือสะมาเรียผู้อาศัยอยู่ทางเหนือกับลูกสาวทั้งหลายของนาง น้องสาวของเจ้าคือโสโดมซึ่งอาศัยอยู่ทางใต้กับลูกสาวทั้งหลายของนาง
- เอเสเคียล 16:47 - เจ้าไม่เพียงแต่ดำเนินในวิถีทางอันชั่วร้ายของพวกเขา และเลียนแบบการกระทำอันน่าชิงชังของพวกเขาเท่านั้น แต่ไม่นานวิถีทั้งปวงของเจ้าก็ต่ำทรามยิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก
- เอเสเคียล 16:48 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด โสโดมน้องสาวของเจ้ากับลูกๆ ของนางยังไม่เคยทำสิ่งที่เจ้ากับลูกสาวทั้งหลายของเจ้าทำลงไปฉันนั้น
- เอเสเคียล 16:49 - “ ‘บัดนี้โสโดมน้องสาวของเจ้ามีบาปคือ นางกับลูกๆ ที่หยิ่งยโสได้รับการบำรุงบำเรอเกินขนาดและไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนอันใด พวกเขาไม่ช่วยเหลือคนยากจนขัดสน
- เอเสเคียล 16:50 - เขาจองหองและทำสิ่งที่น่าชิงชังต่อหน้าเรา ฉะนั้นเราจึงกำจัดพวกเขาไปตามที่เจ้าได้เห็นแล้ว
- เอเสเคียล 16:51 - สะมาเรียทำบาปไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเจ้า เจ้าทำสิ่งที่น่าชิงชังยิ่งกว่าที่พวกเขาทำ การกระทำทั้งสิ้นของเจ้าพลอยทำให้พี่สาวน้องสาวของเจ้าดูชอบธรรมขึ้น
- เอเสเคียล 16:52 - เจ้าจงทนรับความอับอายขายหน้าไป เพราะเจ้าทำให้พี่สาวน้องสาวของเจ้าดูดีกว่า เนื่องจากบาปของเจ้าชั่วช้าเลวทรามยิ่งกว่าของพวกเขา พวกเขาจึงดูเป็นฝ่ายชอบธรรม ฉะนั้นจงละอายแก่ใจและทนรับความอัปยศอดสูของเจ้าไปเถิด เพราะเจ้าทำให้พี่สาวน้องสาวของเจ้าดูชอบธรรม
- เอเสเคียล 16:53 - “ ‘แต่เราจะคืนความรุ่งโรจน์ให้แก่โสโดมกับบรรดาลูกสาวของนาง คืนให้แก่สะมาเรียกับบรรดาลูกสาวของนาง และคืนความรุ่งโรจน์ให้แก่เจ้าด้วย
- เอเสเคียล 16:54 - เพื่อเจ้าจะทนรับความอับอายขายหน้าและละอายใจในสิ่งทั้งปวงที่พวกเจ้าทำลงไป ซึ่งเป็นการปลอบประโลมพวกเขา
- เอเสเคียล 16:55 - แล้วพี่สาวน้องสาวของเจ้าคือ โสโดมกับลูกๆ และสะมาเรียกับลูกๆ จะคืนสู่สภาพเดิม และเจ้ากับลูกๆ ก็จะคืนสู่สภาพเดิมด้วย
- เอเสเคียล 16:56 - เจ้าไม่ยอมแม้แต่จะเอ่ยถึงโสโดมน้องสาวของเจ้าในวันแห่งความหยิ่งผยองของเจ้า
- เอเสเคียล 16:57 - ก่อนหน้าความชั่วร้ายของเจ้าจะถูกเปิดโปง ถึงอย่างนั้นตอนนี้เจ้าก็ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามโดยธิดาทั้งหลายแห่งเอโดม และเพื่อนบ้านทั้งปวงของนาง รวมทั้งธิดาทั้งหลายของชาวฟีลิสเตีย คือคนทั้งปวงรอบตัวเจ้าก็ดูหมิ่นเหยียดหยามเจ้า
- เอเสเคียล 16:58 - เจ้าจะต้องทนรับผลจากความลามกต่ำทราม และการกระทำอันน่าชิงชังของเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:59 - “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เราจะจัดการกับเจ้าอย่างสาสม เพราะเจ้าลบหลู่ดูหมิ่นคำปฏิญาณของเราโดยละเมิดพันธสัญญา
- เอเสเคียล 16:60 - ถึงกระนั้นเราก็จะระลึกถึงพันธสัญญาที่เราให้ไว้กับเจ้าเมื่อครั้งเจ้ายังเยาว์วัย และเราจะสถาปนาพันธสัญญานิรันดร์กับเจ้า
- เอเสเคียล 16:61 - แล้วเจ้าจะระลึกถึงวิถีทางของเจ้าและละอายใจ เมื่อเรายกพี่สาวน้องสาวของเจ้าให้เป็นลูกสาวของเจ้า แต่ไม่ใช่ตามพันธสัญญาที่เราให้ไว้กับเจ้า
- เอเสเคียล 16:62 - ดังนั้นเราจะสถาปนาพันธสัญญาของเราไว้กับเจ้า แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์
- เอเสเคียล 16:63 - เมื่อนั้นเราจะลบล้างมลทินบาปให้เจ้าสำหรับทุกสิ่งที่เจ้าทำลงไป เจ้าจะจำได้และละอายใจ ไม่กล้าปริปากอีกเลยเนื่องจากความละอายของเจ้า’ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น”
- มีคาห์ 7:9 - เพราะข้าพเจ้าได้ทำบาปต่อพระองค์ ข้าพเจ้าก็จะทนรับพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า ตราบจนพระองค์ทรงว่าคดีให้ และผดุงสิทธิ์ของข้าพเจ้าไว้ พระองค์จะทรงนำข้าพเจ้าออกมาสู่ความสว่าง ข้าพเจ้าจะเห็นความชอบธรรมของพระองค์
- เยเรมีย์ 11:13 - ยูดาห์เอ๋ย เจ้ามีเทพเจ้าหลายองค์เหมือนที่มีหลายเมืองเชียวนะ และแท่นบูชาที่เจ้าก่อขึ้นเพื่อเผาเครื่องหอมแก่พระบาอัลอันน่าอดสูก็มีมากมาย เหมือนถนนหนทางของเยรูซาเล็ม’
- อิสยาห์ 1:4 - โอ ชนชาติบาปหนา ประชากรผู้แบกความผิดไว้อย่างมากมายหนักหนา เผ่าพันธุ์ผู้กระทำชั่ว ลูกหลานของความเสื่อมทราม! พวกเขาได้ละทิ้งองค์พระผู้เป็นเจ้า หมิ่นประมาทองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล และหันหลังให้พระองค์
- อิสยาห์ 1:5 - ทำไมต้องให้โบยอยู่ร่ำไป? ทำไมจึงกบฏซ้ำแล้วซ้ำเล่า? ศีรษะของเจ้าก็ร้าวระบม หัวใจก็ร้าวราน
- เอสรา 9:13 - “สิ่งที่เกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลายนั้นก็เป็นผลจากการประพฤติชั่วและความผิดใหญ่หลวงของข้าพระองค์ทั้งหลาย ถึงกระนั้น ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ก็ทรงกรุณาลงโทษข้าพระองค์ทั้งหลายน้อยกว่าที่ข้าพระองค์ทั้งหลายสมควรจะได้รับ และทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายมีคนหยิบมือหนึ่งที่เหลือนี้
- เยเรมีย์ 5:6 - ฉะนั้นสิงโตจากป่าจะมาเล่นงานพวกเขา สุนัขป่าจากทะเลทรายจะเข้าขย้ำ เสือดาวจะซุ่มอยู่ใกล้เมืองต่างๆ ของพวกเขา คอยฉีกเนื้อคนที่ออกมานั้นเป็นชิ้นๆ เพราะการทรยศของพวกเขาร้ายแรงนัก และชอบหวนกลับไปทำบาป
- เยเรมีย์ 5:7 - “ควรหรือที่เราจะอภัยให้พวกเจ้า? ลูกหลานของพวกเจ้าได้ละทิ้งเรา และสาบานโดยอ้างพระต่างๆ ซึ่งไม่ใช่พระเจ้า เราได้จัดหาทุกสิ่งที่จำเป็นให้พวกเขา แต่พวกเขาก็ยังคบชู้ และแห่กันไปยังสำนักนางโลม
- เยเรมีย์ 5:8 - พวกเขาเป็นม้าหนุ่มกลัดมันที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ต่างกระสันหาภรรยาของเพื่อนบ้าน
- เยเรมีย์ 5:9 - จะไม่ให้เราลงโทษพวกเขาเพราะเรื่องนี้หรือ?” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “จะไม่ให้เราแก้แค้น ชนชาติที่ประพฤติเยี่ยงนี้หรือ?
- เยเรมีย์ 2:28 - ไหนล่ะบรรดาเทพเจ้าที่เจ้าสร้างขึ้นให้ตัวเอง? ถ้าเขาช่วยเจ้าได้ ให้เขาช่วยเจ้า ในเวลาทุกข์ร้อนสิ! เพราะเจ้ามีเทพเจ้ามากมาย พอๆ กับจำนวนหัวเมืองที่เจ้ามี ยูดาห์เอ๋ย
- เยเรมีย์ 2:29 - “เหตุใดเจ้าจึงกล่าวโทษเรา? พวกเจ้าทุกคนล้วนกบฏต่อเรา” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 2:30 - “ป่วยการที่เราจะลงโทษพลเมืองของเจ้า เขาไม่ดีขึ้นเลย คมดาบของเจ้าได้ขย้ำผู้เผยพระวจนะของเจ้า เหมือนสิงโตขย้ำเหยื่อของมัน
- อิสยาห์ 30:13 - บาปนี้จะเป็นดั่งกำแพงสูงสำหรับเจ้า ซึ่งแตกกะเทาะออก แล้วก็ล้มครืนทันทีในชั่วพริบตา
- อิสยาห์ 30:14 - มันแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหมือนเครื่องปั้นดินเผา ที่ถูกทุบละเอียดอย่างไม่ปรานี จนหาเศษสักชิ้นที่พอจะไปช้อนถ่านจากเตา หรือรองน้ำนิดหนึ่งจากบ่อก็ไม่ได้เลย”
- โยบ 34:29 - แต่หากพระองค์ทรงนิ่งอยู่ ใครจะกล่าวโทษพระองค์ได้? หากทรงซ่อนพระพักตร์ไว้ ใครเล่าจะเห็นพระองค์? แต่พระองค์ทรงอยู่เหนือมนุษย์และเหนือประชาชาติด้วย
- อิสยาห์ 59:12 - เพราะการละเมิดของเรามากมายนักในสายพระเนตรของพระองค์ บาปทั้งหลายของเราฟ้องร้องเรา การละเมิดของเราอยู่กับเราเสมอ และเรายอมรับความชั่วช้าของเรา
- อิสยาห์ 59:13 - เรากบฏทรยศต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า หันหลังให้พระเจ้าของเรา เราก่อการกดขี่ข่มเหงและการกบฏ กล่าวคำโกหกซึ่งเราคิดไว้ในใจ
- อิสยาห์ 59:14 - ดังนั้นความยุติธรรมจึงถดถอย ความชอบธรรมหลีกห่าง ความจริงสะดุดกลางถนน ความซื่อสัตย์ไม่อาจเข้ามาได้
- อิสยาห์ 59:15 - หาความจริงไม่พบเลยไม่ว่าที่ไหน ผู้ที่หลีกหนีจากความชั่วกลับตกเป็นเหยื่อ องค์พระผู้เป็นเจ้าทอดพระเนตรแล้วก็ไม่พอพระทัย เนื่องจากไม่มีความยุติธรรมเลย
- เยเรมีย์ 15:18 - เหตุใดข้าพระองค์ปวดร้าวไม่สิ้นสุด และบาดแผลฉกรรจ์ของข้าพระองค์รักษาไม่หาย? พระองค์จะทรงเป็นเหมือนลำห้วยที่ลวงตาข้าพระองค์ เหมือนตาน้ำซึ่งไม่มีน้ำหรือ?
- เพลงคร่ำครวญ 5:16 - มงกุฎร่วงหล่นไปจากศีรษะของข้าพระองค์ทั้งหลาย วิบัติแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาป!
- เพลงคร่ำครวญ 5:17 - เพราะสิ่งเหล่านี้ ดวงใจของข้าพระองค์ทั้งหลายจึงอ่อนระโหย ดวงตาของข้าพระองค์ทั้งหลายจึงพร่ามัว
- เศฟันยาห์ 3:1 - วิบัติแก่กรุงของผู้กดขี่ข่มเหง ซึ่งมักกบฏและมีมลทิน!
- เศฟันยาห์ 3:2 - มันไม่ยอมฟังใคร ไม่ยอมรับการปรับปรุงแก้ไข ไม่วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า และไม่ยอมเข้ามาใกล้พระเจ้าของตน
- เศฟันยาห์ 3:3 - ข้าราชการของกรุงนี้เป็นเหมือนสิงโตที่ร้องคำราม ผู้ครอบครองของกรุงนี้ก็เป็นดั่งสุนัขป่ายามเย็น ซึ่งไม่เหลืออะไรไว้ถึงเช้า
- เศฟันยาห์ 3:4 - ส่วนบรรดาผู้เผยพระวจนะก็เย่อหยิ่ง พวกเขาเป็นคนทรยศ เหล่าปุโรหิตลบหลู่สถานนมัสการ และย่ำยีพระบัญญัติ
- เศฟันยาห์ 3:5 - องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทับอยู่ในกรุงนั้นทรงชอบธรรม พระองค์ไม่ได้ทรงทำผิดเลย ทุกๆ เช้าพระองค์ทรงอำนวยความยุติธรรม และทุกๆ วันใหม่พระองค์ไม่เคยหยุดยั้งที่จะทำเช่นนั้น ถึงกระนั้นคนอธรรมก็ไม่รู้จักละอาย
- โฮเชยา 5:12 - เราเป็นเหมือนแมลงกัดกินเอฟราอิม และเป็นเหมือนความเน่าเปื่อยของชนยูดาห์
- โฮเชยา 5:13 - “เมื่อเอฟราอิมเห็นโรคภัยของตน และยูดาห์เห็นบาดแผลของตน เอฟราอิมก็หันไปหาอัสซีเรีย และส่งคนไปหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เขาไม่สามารถรักษาเจ้าให้หายได้ ไม่สามารถเยียวยาบาดแผลของเจ้าได้เลย
- อิสยาห์ 59:1 - แน่ทีเดียว พระกรขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้สั้นเกินกว่าจะช่วยให้รอด ทั้งพระกรรณของพระองค์ก็ไม่ได้ตึงเกินกว่าจะได้ยิน
- อิสยาห์ 59:2 - แต่ความชั่วช้าของเจ้าต่างหาก ที่ได้แยกเจ้าออกจากพระเจ้าของเจ้า บาปของเจ้าทำให้พระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์จากเจ้า พระองค์จึงไม่สดับฟัง
- อิสยาห์ 59:3 - มือของเจ้าเกรอะกรังไปด้วยเลือด นิ้วของเจ้าเปรอะเปื้อนความผิด ริมฝีปากของเจ้าพูดโกหก ลิ้นของเจ้าพึมพำสิ่งชั่วร้าย
- อิสยาห์ 59:4 - ไม่มีใครเรียกร้องให้มีความยุติธรรม ไม่มีใครดำเนินคดีด้วยความสัตย์สุจริต พวกเขาวางใจในการโต้แย้งอันไร้สาระและพูดโกหก ก่อความเดือดร้อนและให้กำเนิดความชั่วร้าย
- เยเรมีย์ 30:12 - “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ ‘บาดแผลของเจ้ารักษาไม่ได้ เจ้าบาดเจ็บเกินจะเยียวยา
- เยเรมีย์ 30:14 - พันธมิตรทั้งปวงก็ลืมเจ้า พวกเขาไม่ไยดีเจ้าเลย เราฟาดฟันเจ้าเหมือนเป็นศัตรูกัน เราลงโทษเจ้าเหมือนคนอำมหิตลงมือ เพราะความผิดของเจ้าใหญ่หลวง และบาปของเจ้าก็มากมายนัก