逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - อิสราเอลเป็นฝูงสัตว์ที่กระจัดกระจายไป พวกเขาถูกพวกสิงโตไล่กระเจิดกระเจิง ตัวแรกที่กินอิสราเอลคือกษัตริย์อัสซีเรีย และตัวหลังที่กินกระดูกของเขาคือเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน
- 新标点和合本 - “以色列是打散的羊,是被狮子赶出的。首先是亚述王将他吞灭,末后是巴比伦王尼布甲尼撒将他的骨头折断。”
- 和合本2010(上帝版-简体) - 以色列是打散的羊,被狮子赶散。首先是亚述王将他吞灭,末后是巴比伦王尼布甲尼撒折断他的骨头。
- 和合本2010(神版-简体) - 以色列是打散的羊,被狮子赶散。首先是亚述王将他吞灭,末后是巴比伦王尼布甲尼撒折断他的骨头。
- 当代译本 - “以色列人是一群被狮子驱散的羊,先被亚述王吞噬,后被巴比伦王尼布甲尼撒咬碎骨头。”
- 圣经新译本 - 以色列是被赶散的羊,它被狮子赶逐。先是亚述王把它吞灭,现在巴比伦王尼布甲尼撒要咬碎它的骨头。
- 现代标点和合本 - “以色列是打散的羊,是被狮子赶出的,首先是亚述王将他吞灭,末后是巴比伦王尼布甲尼撒将他的骨头折断。”
- 和合本(拼音版) - “以色列是打散的羊,是被狮子赶出的。首先是亚述王将他吞灭;末后是巴比伦王尼布甲尼撒将他的骨头折断。”
- New International Version - “Israel is a scattered flock that lions have chased away. The first to devour them was the king of Assyria; the last to crush their bones was Nebuchadnezzar king of Babylon.”
- New International Reader's Version - “Israel is like a scattered flock that lions have chased away. The first lion that ate them up was the king of Assyria. The last one that broke their bones was Nebuchadnezzar, the king of Babylon.”
- English Standard Version - “Israel is a hunted sheep driven away by lions. First the king of Assyria devoured him, and now at last Nebuchadnezzar king of Babylon has gnawed his bones.
- New Living Translation - “The Israelites are like sheep that have been scattered by lions. First the king of Assyria ate them up. Then King Nebuchadnezzar of Babylon cracked their bones.”
- The Message - “Israel is a scattered flock, hunted down by lions. The king of Assyria started the carnage. The king of Babylon, Nebuchadnezzar, Has completed the job, gnawing the bones clean.”
- Christian Standard Bible - Israel is a stray lamb, chased by lions. The first who devoured him was the king of Assyria; the last who crushed his bones was King Nebuchadnezzar of Babylon.
- New American Standard Bible - “Israel is a scattered flock, the lions have driven them away. The first one who devoured him was the king of Assyria, and this last one who has gnawed his bones is Nebuchadnezzar king of Babylon.
- New King James Version - “Israel is like scattered sheep; The lions have driven him away. First the king of Assyria devoured him; Now at last this Nebuchadnezzar king of Babylon has broken his bones.”
- Amplified Bible - Israel is a hunted and scattered flock [driven here and there as prey]; the lions have chased them away. First the king of Assyria devoured him, and now at last Nebuchadnezzar king of Babylon has broken (gnawed) his bones.
- American Standard Version - Israel is a hunted sheep; the lions have driven him away: first, the king of Assyria devoured him; and now at last Nebuchadrezzar king of Babylon hath broken his bones.
- King James Version - Israel is a scattered sheep; the lions have driven him away: first the king of Assyria hath devoured him; and last this Nebuchadrezzar king of Babylon hath broken his bones.
- New English Translation - “The people of Israel are like scattered sheep which lions have chased away. First the king of Assyria devoured them. Now last of all King Nebuchadnezzar of Babylon has gnawed their bones.
- World English Bible - “Israel is a hunted sheep. The lions have driven him away. First, the king of Assyria devoured him, and now at last Nebuchadnezzar king of Babylon has broken his bones.”
- 新標點和合本 - 「以色列是打散的羊,是被獅子趕出的。首先是亞述王將他吞滅,末後是巴比倫王尼布甲尼撒將他的骨頭折斷。」
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 以色列是打散的羊,被獅子趕散。首先是亞述王將他吞滅,末後是巴比倫王尼布甲尼撒折斷他的骨頭。
- 和合本2010(神版-繁體) - 以色列是打散的羊,被獅子趕散。首先是亞述王將他吞滅,末後是巴比倫王尼布甲尼撒折斷他的骨頭。
- 當代譯本 - 「以色列人是一群被獅子驅散的羊,先被亞述王吞噬,後被巴比倫王尼布甲尼撒咬碎骨頭。」
- 聖經新譯本 - 以色列是被趕散的羊,它被獅子趕逐。先是亞述王把它吞滅,現在巴比倫王尼布甲尼撒要咬碎它的骨頭。
- 呂振中譯本 - 『 以色列 是被打散的羊, 有獅子把他趕逐了: 首先是 亞述 王將他吞滅, 末後是他的骨頭 被 巴比倫 王 尼布甲尼撒 啃斷了 。
- 現代標點和合本 - 「以色列是打散的羊,是被獅子趕出的,首先是亞述王將他吞滅,末後是巴比倫王尼布甲尼撒將他的骨頭折斷。」
- 文理和合譯本 - 以色列乃離散之羊、為獅所逐、始則亞述王吞噬之、終則巴比倫王尼布甲尼撒折其骨、
- 文理委辦譯本 - 以色列族若亡羊、為獅所驅、初為亞述王吞噬、後為巴比倫王尼布甲尼撒折骨。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 以色列 族、若亡羊為獅所驅、初、 亞述 王食其肉、後、 巴比倫 王 尼布甲尼撒 折其骨、
- Nueva Versión Internacional - »Israel es como un rebaño descarriado, acosado por los leones. Primero lo devoró el rey de Asiria, y luego Nabucodonosor, rey de Babilonia, le quebró todos los huesos».
- 현대인의 성경 - “이스라엘은 흩어진 양떼와 같아서 사자들이 그를 뒤쫓고 있다. 처음에는 앗시리아 왕이 그를 삼키고 그 다음에는 바빌로니아의 느부갓네살왕이 그의 뼈를 꺾었다.
- Новый Русский Перевод - Израиль – рассеявшаяся отара, которую разогнали львы. Первым, кто пожирал его, был царь Ассирии, а этот последний, разгрызший его кости, – Навуходоносор, царь Вавилона.
- Восточный перевод - Исраил – рассеявшаяся отара, которую разогнали львы. Первым, кто пожирал его, был царь Ассирии, а этот последний, разгрызший его кости, – Навуходоносор, царь Вавилона.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Исраил – рассеявшаяся отара, которую разогнали львы. Первым, кто пожирал его, был царь Ассирии, а этот последний, разгрызший его кости, – Навуходоносор, царь Вавилона.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Исроил – рассеявшаяся отара, которую разогнали львы. Первым, кто пожирал его, был царь Ассирии, а этот последний, разгрызший его кости, – Навуходоносор, царь Вавилона.
- La Bible du Semeur 2015 - Israël est semblable ╵à une brebis isolée pourchassée par des lions : le premier l’a mangée, ╵ – c’est le roi d’Assyrie – et le suivant ╵lui a broyé les os : Nabuchodonosor, ╵le roi de Babylone .
- リビングバイブル - イスラエル人はライオンに追われる羊のようだ。初めはアッシリヤの王がその肉を食い、次にはバビロンのネブカデネザル王が、骨まで食いつくした。」
- Nova Versão Internacional - “Israel é um rebanho disperso, afugentado por leões. O primeiro a devorá-lo foi o rei da Assíria; e o último a esmagar os seus ossos foi Nabucodonosor, rei da Babilônia”.
- Hoffnung für alle - Israel ist wie eine Herde, die von Löwen auseinandergetrieben wurde. Zuerst ist der König von Assyrien über sie hergefallen, und dann hat König Nebukadnezar von Babylonien ihre Knochen abgenagt.
- Kinh Thánh Hiện Đại - “Ít-ra-ên như đàn chiên bị sư tử đuổi chạy tán loạn. Trước hết, vua A-sy-ri cắn xé chúng. Sau đến Vua Nê-bu-cát-nết-sa, nước Ba-by-lôn, nhai xương chúng.”
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - “อิสราเอลเป็นฝูงแกะที่กระจัดกระจาย ซึ่งสิงโตได้ไล่หนีกระเจิง รายแรกที่ขย้ำเขา คือกษัตริย์อัสซีเรีย ล่าสุดผู้ที่บดขยี้กระดูกของเขา คือกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน”
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - อิสราเอลเป็นแกะที่ถูกสิงโตไล่ล่า กษัตริย์แห่งอัสซีเรียเป็นคนแรกที่โจมตี และบัดนี้ คนสุดท้ายคือเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนที่แทะกระดูกพวกเขา”
- Thai KJV - อิสราเอลเป็นเหมือนแกะที่ถูกกระจัดกระจายไปแล้ว พวกสิงโตได้ขับล่าเขาไป ทีแรกกษัตริย์อัสซีเรียกินเขา ในที่สุดนี้เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้หักกระดูกของเขา
交叉引用
- 2 พงศาวดาร 32:1 - หลังจากเหตุการณ์เหล่านั้นและสิ่งทั้งหลายที่เฮเซคียาห์ทำด้วยความซื่อสัตย์แล้ว กษัตริย์เซนนาเคอริบของอัสซีเรียได้ยกทัพมาบุกยูดาห์ เขาล้อมเมืองต่างๆที่เป็นป้อมปราการไว้ โดยคิดที่จะตีเมืองเหล่านั้นมาเป็นของเขา
- 2 พงศาวดาร 32:2 - เมื่อเฮเซคียาห์รู้ว่าเซนนาเคอริบบุกเข้ามา กะจะสู้รบกับเมืองเยรูซาเล็ม
- 2 พงศาวดาร 32:3 - เฮเซคียาห์ก็ปรึกษากับพวกเจ้าหน้าที่และพวกทหารของเขา เกี่ยวกับการกั้นน้ำไม่ให้ไหลออกจากตาน้ำที่อยู่นอกเมือง แล้วพวกเขาก็ได้ช่วยเหลือเฮเซคียาห์
- 2 พงศาวดาร 32:4 - คนจำนวนมากมาชุมนุมกันและพวกเขาก็ช่วยกันปิดตาน้ำทั้งหมดและปิดลำธารที่ไหลผ่านแผ่นดินแห่งนั้น พวกเขาพูดว่า “เมื่อพวกกษัตริย์ของอัสซีเรียบุกเข้ามา เรื่องอะไรจะให้พวกมันมาเจอกับน้ำมากมาย”
- 2 พงศาวดาร 32:5 - แล้วเฮเซคียาห์ก็ทำงานอย่างหนักในการซ่อมแซมส่วนที่แตกร้าวของกำแพงและหอคอย เขาสร้างกำแพงด้านนอกขึ้นอีกชั้นหนึ่ง และได้เสริมที่มั่นบนที่ลาดชันทางด้านตะวันออกของเมืองเยรูซาเล็มเก่าให้แข็งแรงมากขึ้น เขายังทำอาวุธและโล่ขึ้นอีกจำนวนมาก
- 2 พงศาวดาร 32:6 - เขาได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ทางทหารขึ้นเหนือประชาชน และเรียกประชุมพวกเขาพร้อมกันที่ลานตรงประตูเมือง และพูดปลุกใจพวกเขาว่า
- 2 พงศาวดาร 32:7 - “ให้เข้มแข็งและกล้าหาญไว้ อย่ากลัวหรือท้อแท้ต่อกษัตริย์อัสซีเรีย หรือต่อกองทัพขนาดใหญ่ที่มากับเขาเลย เพราะผู้ที่อยู่ฝ่ายเรานั้นยิ่งใหญ่กว่าผู้ที่อยู่ฝ่ายเขา
- 2 พงศาวดาร 32:8 - ผู้ที่อยู่กับเขาเป็นเพียงทหารที่มีเลือดเนื้อ แต่ผู้ที่อยู่กับพวกเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเรา พระองค์จะช่วยเหลือพวกเรา และจะต่อสู้ให้กับพวกเรา” ดังนั้นกษัตริย์เฮเซคียาห์ของยูดาห์ก็ทำให้ประชาชนมีกำลังใจขึ้น
- 2 พงศาวดาร 32:9 - ต่อมา ขณะที่กษัตริย์เซนนาเคอริบของอัสซีเรียกับกองทัพทั้งหมดของเขากำลังล้อมเมืองลาคีชอยู่ เขาได้ส่งพวกเจ้าหน้าที่มาที่เมืองเยรูซาเล็ม พร้อมกับข้อความสำหรับกษัตริย์เฮเซคียาห์ของยูดาห์และประชาชนทั้งหมดของยูดาห์ที่อยู่ที่นั่นว่า
- 2 พงศาวดาร 32:10 - “กษัตริย์เซนนาเคอริบของอัสซีเรียพูดอย่างนี้ว่า พวกเจ้ากำลังพึ่งพิงอะไรหรือ ถึงยังคอยรับการโจมตีของเราอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม
- 2 พงศาวดาร 32:11 - เมื่อเฮเซคียาห์พูดว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราจะช่วยเหลือพวกเราให้พ้นจากเงื้อมมือของกษัตริย์อัสซีเรีย’ เขากำลังชักจูงให้พวกเจ้าหลงผิดไป และมอบพวกเจ้าให้ไปตายเพราะขาดอาหารและน้ำดื่ม
- 2 พงศาวดาร 32:12 - ก็ตัวเฮเซคียาห์เองไม่ใช่หรือ ที่รื้อพวกสถานนมัสการ และแท่นบูชาทั้งหลายของพระองค์นั้นทิ้งไป และได้พูดกับชาวเมืองยูดาห์และเยรูซาเล็มว่า ‘พวกท่านต้องนมัสการและเผาเครื่องหอมบนแท่นบูชานี้เพียงแท่นเดียว’
- 2 พงศาวดาร 32:13 - พวกเจ้าก็รู้อยู่แล้วนี่ว่าเรากับบรรพบุรุษของเราได้จัดการกับชนชาติทั้งหลายของแผ่นดินอื่นๆยังไงบ้าง พวกพระของชนชาติเหล่านั้น สามารถช่วยแผ่นดินของพวกเขาให้พ้นจากเงื้อมมือของเราได้หรือ
- 2 พงศาวดาร 32:14 - บรรพบุรุษเราได้ทำลายชนชาติเหล่านั้น ไม่มีพระของชนชาติไหนสามารถช่วยเหลือประชาชนของเขาให้พ้นจากเงื้อมมือของเราได้เลย แล้วพวกเจ้าคิดว่า พระของพวกเจ้าจะช่วยเหลือพวกเจ้า ให้พ้นจากเงื้อมมือเราได้หรือ
- 2 พงศาวดาร 32:15 - ตอนนี้ อย่าปล่อยให้เฮเซคียาห์หลอกลวงพวกเจ้า หรือชักนำพวกเจ้าให้หลงผิดไปอย่างนี้ อย่าไปเชื่อเขา เพราะไม่เคยมีพระของชนชาติไหนหรืออาณาจักรไหนที่สามารถช่วยเหลือประชาชนของมัน ให้พ้นจากเงื้อมมือของเรา หรือจากเงื้อมมือของบรรพบุรุษเรา อย่าคิดนะว่าพระของเจ้าจะสามารถช่วยเจ้าให้พ้นจากเงื้อมมือของเราไปได้”
- 2 พงศาวดาร 32:16 - พวกเจ้าหน้าที่ของเซนนาเคอริบได้พูดดูถูกต่อพระยาห์เวห์ผู้เป็นพระเจ้า และต่อเฮเซคียาห์ผู้รับใช้ของพระองค์
- 2 พงศาวดาร 32:17 - กษัตริย์อัสซีเรียยังเขียนจดหมายหมิ่นประมาทพระยาห์เวห์พระเจ้าของชนชาติอิสราเอล และพูดต่อต้านพระองค์ว่า “พวกพระของชนชาติอื่นๆในแผ่นดินอื่นๆไม่ได้ช่วยกู้ประชาชนของพวกมัน ให้พ้นจากเงื้อมมือของเรา พระของเฮเซคียาห์ก็จะไม่ช่วยกู้ประชาชนของมันจากเงื้อมมือของเราเหมือนกัน”
- 2 พงศาวดาร 32:18 - แล้วพวกเขาก็ได้ตะโกนเสียงดังใส่ประชาชนของเยรูซาเล็มที่อยู่บนกำแพง พวกเขาพูดเป็นภาษาฮีบรู เพื่อคนเยรูซาเล็มจะได้เข้าใจ แล้วตกใจกลัว และหวั่นไหว จะได้ยึดเอาเมืองได้
- 2 พงศาวดาร 32:19 - พวกเขาพูดดูถูกพระเจ้าของเยรูซาเล็ม อย่างกับว่าพระองค์เป็นเหมือนพวกพระของชนชาติอื่นๆในโลกซึ่งมนุษย์เป็นคนสร้างขึ้นกับมือ
- 2 พงศาวดาร 32:20 - กษัตริย์เฮเซคียาห์กับอิสยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าลูกชายของอามอสอธิษฐานต่อสวรรค์เกี่ยวกับเรื่องนี้
- 2 พงศาวดาร 32:21 - และพระยาห์เวห์ได้ส่งทูตสวรรค์องค์หนึ่ง มาทำลายพวกนักรบ พวกผู้นำและพวกเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในค่ายของกษัตริย์อัสซีเรีย ดังนั้นเขาจึงต้องถอยทัพกลับแผ่นดินของเขาด้วยความอับอายขายหน้า และเมื่อเขาเข้าไปในวัดของพระของเขา พวกลูกชายบางคนของเขาก็เอาดาบฆ่าเขา
- 2 พงศาวดาร 32:22 - ดังนั้นพระยาห์เวห์ได้ช่วยเฮเซคียาห์และประชาชนชาวเยรูซาเล็ม ให้พ้นจากเงื้อมมือของกษัตริย์เซนนาเคอริบของอัสซีเรีย และจากเงื้อมมือของศัตรูทั้งหลายของเขาด้วย พระองค์ให้เขาพักจากการสู้รบรอบด้าน
- 2 พงศาวดาร 32:23 - มีคนหลายคนนำเครื่องบูชามากมายมาที่เมืองเยรูซาเล็มเพื่อถวายให้กับพระยาห์เวห์ และนำของขวัญที่มีค่าหลายอย่างมาให้กับกษัตริย์เฮเซคียาห์ของยูดาห์ ตั้งแต่นั้นมา ชนชาติอื่นๆทั้งหมดก็ให้ความเคารพนับถือกษัตริย์เฮเซคียาห์
- อิสยาห์ 7:17 - แต่พระยาห์เวห์จะนำวันเวลาแห่งความเดือดร้อนมาให้กับเจ้ากับคนของเจ้าและกับครอบครัวของเจ้าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่เอฟราอิมแยกออกมาจากยูดาห์ พระยาห์เวห์จะนำกษัตริย์อัสซีเรีย มาต่อสู้กับเจ้า”
- อิสยาห์ 7:18 - ในวันนั้น พระยาห์เวห์จะผิวปากเรียกแมลงวันตัวนั้น ที่อยู่ตามต้นน้ำทั้งหลายของลำธารต่างๆของอียิปต์ และจะผิวปากเรียกผึ้งตัวนั้นที่อยู่ในแผ่นดินของอัสซีเรีย
- อิสยาห์ 7:19 - แมลงวันและผึ้งพวกนั้น ก็จะมาตั้งค่ายอยู่ในหุบเขาลึก ตามถ้ำตามหน้าผาต่างๆตามพงหนามและตามหลุมน้ำต่างๆ
- อิสยาห์ 7:20 - ในวันนั้น องค์เจ้าชีวิตจะโกนหัวเจ้าและขนที่เท้า ด้วยมีดโกนที่เช่ามาจากอีกฝั่งของแม่น้ำยูเฟรติสคือกษัตริย์อัสซีเรียนั่นเอง
- เยเรมียาห์ 52:1 - เศเดคียาห์มีอายุยี่สิบเอ็ดปีตอนที่ขึ้นเป็นกษัตริย์ แล้วพระองค์ก็ครองบัลลังก์อยู่สิบเอ็ดปี แม่ของพระองค์ชื่อฮามุทาล เป็นลูกสาวของเยเรมียาห์ผู้มาจากลิบนาห์
- เยเรมียาห์ 51:38 - ชาวบาบิโลนพากันคำรามเหมือนสิงโต พวกเขาคำรามเหมือนลูกสิงโต
- เยเรมียาห์ 39:1 - ในเดือนที่สิบของปีที่เก้าที่เศเดคียาห์ เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนได้ยกกองทัพทั้งหมดของพระองค์มาล้อมเมืองเยรูซาเล็มไว้
- เยเรมียาห์ 39:2 - ในวันที่เก้าเดือนสี่ ของปีที่สิบเอ็ดที่เศเดคียาห์ เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ แนวป้องกันเมืองเยรูซาเล็มก็ถูกทะลวงเข้ามา
- เยเรมียาห์ 39:3 - พวกเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ทั้งหมดของกษัตริย์บาบิโลน ก็ได้เข้ามานั่งอยู่ที่กลางประตูเมือง เนอร์กัลชาเรเซอร์ สัมการ์เนโบ สารเสคิม ที่มียศรับสารีส เนอร์กัลชาเรเซอร์ ที่มียศรับมัก และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆทั้งหมดของกษัตริย์บาบิโลนก็อยู่ที่นั่นด้วย
- เยเรมียาห์ 39:4 - เมื่อกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์และทหารทุกคนเห็นพวกนี้ พวกเขาก็พากันหนีออกไปนอกเมืองในตอนกลางคืน ผ่านทางสวนของกษัตริย์ ออกทางประตูที่อยู่ระหว่างกำแพงสองชั้น พวกเขาออกนอกเมืองทางถนนที่ตรงไปยังทะเลทรายอารบา
- เยเรมียาห์ 39:5 - ทหารบาบิโลนก็ไล่ตามพวกเขาไป และไปทันกษัตริย์เศเดคียาห์ ที่ทะเลทรายอารบาใกล้ๆเมืองเยริโค แล้วพวกเขาก็จับกษัตริย์เศเดคียาห์ และพาพระองค์ไปหาเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์ของบาบิโลน ที่ริบลาห์ในแผ่นดินฮามัท แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ก็ได้ตัดสินลงโทษกษัตริย์เศเดคียาห์
- เยเรมียาห์ 39:6 - กษัตริย์บาบิโลนได้ฆ่าพวกลูกชายของกษัตริย์เศเดคียาห์ที่ริบลาห์ต่อหน้าต่อตาพระองค์ แล้วก็ฆ่าเจ้านายทั้งหมดของยูดาห์ด้วย
- เยเรมียาห์ 39:7 - จากนั้นพระองค์ก็ควักดวงตาของกษัตริย์เศเดคียาห์ แล้วเอาโซ่ล่ามพระองค์ พาไปบาบิโลน
- เยเรมียาห์ 39:8 - จากนั้นพวกบาบิโลนก็เผาวังของกษัตริย์และบ้านเรือนของประชาชน พร้อมกับทำลายกำแพงเมืองเยรูซาเล็มลง
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:6 - แล้วกษัตริย์อัสซีเรียก็ยึดเมืองสะมาเรียไว้ได้ ในปีที่เก้าที่โฮเชยาเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล กษัตริย์อัสซีเรียกวาดต้อนเอาชาวอิสราเอลไปไว้ที่อัสซีเรีย เขาให้คนอิสราเอลตั้งรกรากอยู่ในฮาลาห์ ในเมืองโกซานที่อยู่ติดกับแม่น้ำฮาโบร์และในเมืองต่างๆของชาวเมดัย
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:7 - ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะชาวอิสราเอลทำบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา ผู้ที่นำพวกเขาออกมาจากประเทศอียิปต์ ออกจากภายใต้อำนาจของกษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์ แต่พวกอิสราเอลกลับไปนมัสการพระอื่นๆ
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:8 - และไปทำตัวตามธรรมเนียมประเพณีของพวกชนชาติทั้งหลาย ที่พระยาห์เวห์ได้ขับไล่ออกไปต่อหน้าพวกเขา รวมทั้งทำตัวตามธรรมเนียมประเพณีทั้งหลาย ที่บรรดากษัตริย์ของอิสราเอลได้นำเข้ามา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:9 - ชาวอิสราเอลแอบทำสิ่งต่างๆที่ไม่ถูกต้องและขัดขืนต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา พวกเขาสร้างสถานที่นมัสการหลายแห่งขึ้นสำหรับตัวเอง ตามเมืองต่างๆของพวกเขาตั้งแต่เมืองเล็กๆที่มีแค่หอเฝ้ายามไปจนถึงเมืองใหญ่ที่มีป้อมปราการ
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:10 - พวกเขาจัดตั้งหินศักดิ์สิทธิ์และพวกเสาเจ้าแม่อาเชราห์บนเนินเขาสูงทุกแห่งและใต้ต้นไม้ใบร่มทุกต้น
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:11 - พวกเขาเผาเครื่องหอมบนสถานนมัสการทุกแห่งเหมือนกับพวกชนชาติที่พระยาห์เวห์ได้ขับไล่ออกไปต่อหน้าพวกเขา เคยทำกันมาก่อน พวกอิสราเอลทำสิ่งที่เลวร้ายที่ยั่วยุให้พระยาห์เวห์โกรธ
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:12 - พวกเขาไปบูชาพวกรูปเคารพทั้งๆที่พระยาห์เวห์เคยพูดเอาไว้ว่า “พวกเจ้าต้องไม่ทำอย่างนั้น”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:13 - พระยาห์เวห์เคยเตือนอิสราเอลและยูดาห์ ผ่านทางพวกผู้พูดแทนพระเจ้าและพวกผู้ที่เห็นมิมิตทุกคนว่า “ให้หันไปจากทางที่ชั่วร้ายทั้งหลายของเจ้า และรักษาคำสั่งต่างๆและกฎทั้งหลายของเรา ให้ทำตามกฎทั้งหมดที่เราได้สั่งให้บรรพบุรุษของเจ้าเชื่อฟัง ที่เราได้ส่งให้กับเจ้าผ่านมาทางพวกผู้พูดแทนพระเจ้าที่เป็นผู้รับใช้ของเรา”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:14 - แต่พวกเขาไม่ยอมฟังและยังดื้อดึงเหมือนกับบรรพบุรุษของพวกเขาที่ไม่ยอมไว้วางใจในพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:15 - พวกเขาดูหมิ่นกฎต่างๆของพระองค์และข้อตกลงที่พระองค์เคยทำไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา รวมทั้งคำเตือนต่างที่พระองค์เคยให้กับเขา พวกเขาได้ไปติดตามพวกรูปเคารพที่ไร้ค่าเหล่านั้นซึ่งทำให้ตัวพวกเขาเองไร้ค่าไปด้วย พวกเขาไปเลียนแบบชนชาติต่างๆที่อยู่รอบๆ ถึงแม้พระยาห์เวห์จะเคยสั่งไว้แล้วว่า “อย่าทำตัวเหมือนกับที่พวกนั้นทำกัน”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:16 - พวกเขาละทิ้งคำสั่งทั้งหลายของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา และได้หล่อรูปเคารพสำหรับตัวพวกเขาเองเป็นลูกวัวสองตัว และยังมีเสาเจ้าแม่อาเชราห์ด้วย พวกเขาไปก้มกราบพวกดวงดาวทั้งหลายและไปบูชาพระบาอัล
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:17 - พวกเขาเอาลูกชายลูกสาวของตัวเองมาเผาไฟเป็นเครื่องบูชายัญ พวกเขาได้ดูหมอ ใช้เวทมนตร์ และยอมขายตัวเองเพื่อทำในสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระยาห์เวห์ ซึ่งยุให้พระองค์โกรธ
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:18 - ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงโกรธอิสราเอลมาก และไล่พวกเขาให้พ้นไปจากสายตาของพระองค์ เหลือแต่คนเผ่ายูดาห์เท่านั้น
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:19 - และแม้แต่ยูดาห์เองก็ไม่ยอมรักษาคำสั่งต่างๆของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา พวกเขาได้ไปทำตามธรรมเนียมประเพณีที่อิสราเอลนำเข้ามา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:20 - พระยาห์เวห์ได้ละทิ้งชาวอิสราเอลทั้งหมด พระองค์ลงโทษพวกเขา และมอบพวกเขาไว้ในกำมือของคนที่มาปล้นพวกเขา ในที่สุดพระองค์ได้ผลักไสโยนพวกเขาออกไปจากหน้าพระองค์จนหมด
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:21 - ตอนที่พระองค์ได้ฉีกอิสราเอลไปจากครอบครัวของดาวิด พวกเขาก็ได้ตั้งเยโรโบอัมลูกชายของเนบัทขึ้นเป็นกษัตริย์ของพวกเขา เยโรโบอัมได้ชักนำอิสราเอลให้หันเหไปจากพระยาห์เวห์ และทำให้พวกอิสราเอลทำบาปอย่างใหญ่หลวง
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:22 - ชาวอิสราเอลทั้งหลายยืนกรานที่จะทำบาปทั้งสิ้นของเยโรโบอัม และไม่ยอมหันออกจากบาปเหล่านั้น
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:23 - จนกระทั่งพระยาห์เวห์ได้ไล่อิสราเอลให้พ้นไปจากสายตาพระองค์ ตามที่พระองค์เคยพูดไว้ล่วงหน้าแล้วผ่านทางพวกผู้พูดแทนพระเจ้าทั้งหลาย ที่เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ประชาชนอิสราเอลจึงถูกกวาดต้อนไปจากแผ่นดินของพวกตนไปเป็นเชลยในประเทศอัสซีเรีย และพวกเขาก็ยังคงอยู่ที่นั่นจนถึงทุกวันนี้
- เยเรมียาห์ 5:6 - ดังนั้นสิงโตจากป่าออกมาจู่โจมพวกเขา หมาป่าจากทะเลทรายออกมาทำร้ายพวกเขา เสือดาวก็กำลังเฝ้าคอยจับจ้องเมืองต่างๆของพวกเขา คนที่ออกมาจากเมืองเหล่านั้นก็จะถูกฉีกทึ้งเป็นชิ้นๆ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะพวกเขาได้ทรยศต่อพระเจ้าหลายครั้ง และพวกเขามักจะออกนอกลู่นอกทางของพระเจ้า
- มัทธิว 9:36 - เมื่อพระองค์เห็นคนมากมาย พระองค์ก็รู้สึกสงสาร เพราะพวกเขามีปัญหาและไม่มีที่พึ่ง เหมือนฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง
- มัทธิว 9:37 - พระองค์พูดกับพวกศิษย์ว่า “พืชผลที่จะให้เก็บเกี่ยวนั้นมีมากมาย แต่คนงานมีน้อย
- มัทธิว 9:38 - ดังนั้นให้อ้อนวอนขอพระเจ้าผู้เป็นเจ้าของพืชผล ให้ส่งคนงานมาช่วยเก็บเกี่ยวพืชผลของพระองค์ด้วย”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 24:1 - ในช่วงยุคสมัยของเยโฮยาคิม กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ของบาบิโลนบุกเข้ามาในแผ่นดิน และเยโฮยาคิมก็รับใช้เขาเป็นเวลาสามปี แต่แล้วเยโฮยาคิมเปลี่ยนใจและกบฏต่อเนบูคัดเนสซาร์
- 2 พงศ์กษัตริย์ 24:2 - พระยาห์เวห์ส่งชาวบาบิโลน ชาวอารัม ชาวโมอับและชาวอัมโมนให้เข้ามาสู้รบกับเยโฮยาคิม พระองค์ส่งพวกเขาให้มาทำลายยูดาห์ตามคำพูดของพระยาห์เวห์ ที่เคยประกาศไว้ ผ่านทางพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่เป็นผู้รับใช้ของพระองค์
- 2 พงศ์กษัตริย์ 24:3 - สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับยูดาห์ตามคำสั่งของพระยาห์เวห์แน่ ที่พระองค์สั่งให้กำจัดพวกเขาให้พ้นไปจากสายตาของพระองค์ เนื่องจากบาปทั้งหลายของมนัสเสห์และสิ่งต่างๆที่เขาได้ทำไป
- 2 พงศ์กษัตริย์ 24:4 - รวมทั้งการทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์ต้องไหลนองด้วย เพราะมนัสเสห์ได้ทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์ได้ไหลนองไปทั่วเยรูซาเล็ม พระยาห์เวห์ก็เลยไม่ยอมยกโทษให้
- 2 พงศ์กษัตริย์ 24:5 - ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของเยโฮยาคิมและทุกสิ่งที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของพวกกษัตริย์แห่งยูดาห์
- 2 พงศ์กษัตริย์ 24:6 - เยโฮยาคิมตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา และเยโฮยาคีนลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 24:7 - กษัตริย์ของประเทศอียิปต์ไม่ได้ยกทัพออกมาจากประเทศของเขาอีก เพราะกษัตริย์ของบาบิโลนเข้ายึดเอาดินแดนที่เคยเป็นของกษัตริย์อียิปต์ ตั้งแต่ลำธารของอียิปต์ไปจนกระทั่งถึงแม่น้ำยูเฟรติส
- เยเรมียาห์ 49:19 - เหมือนสิงโตที่ออกมาจากป่าของแม่น้ำจอร์แดน และเข้าไปที่ทุ่งหญ้าที่เขียวเสมอ อยู่ๆเราก็จะขับไล่ชาวเอโดมไปจากประเทศของมัน เราอยากแต่งตั้งใคร เราก็จะแต่งตั้งคนนั้นให้ครอบครองมัน เพราะจะมีใครเหมือนเราบ้าง ใครจะแต่งตั้งเราหรือ จะมีผู้เลี้ยงแกะ คนไหนกล้ามายืนขวางหน้าเราหรือ
- เอเสเคียล 34:5 - ดังนั้นพวกมันจึงกระจัดกระจายไปเพราะไม่มีผู้เลี้ยงคอยนำทางและเมื่อพวกมันแตกกระจายไป ก็ตกเป็นอาหารของพวกสัตว์ป่า
- เอเสเคียล 34:6 - ฝูงแกะของเรากระจัดกระจายไป แกะของเราเดินเร่ร่อนไปตามเทือกเขาและตามเนินเขาสูงพวกมันกระจัดกระจายไปทั่วผืนแผ่นดินโลก และไม่มีใครออกไปค้นหา หรือตามพวกมันกลับมา’”
- อิสยาห์ 36:1 - ในช่วงปีที่สิบสี่ ที่กษัตริย์เฮเซคียาห์ ปกครองยูดาห์ กษัตริย์เซนนาเคอริบ ของอัสซีเรียได้ยกทัพขึ้นมาโจมตีเมืองต่างๆที่มีป้อมปราการของยูดาห์ และยึดเมืองเหล่านั้นไว้ได้
- อิสยาห์ 36:2 - กษัตริย์อัสซีเรียได้ส่งแม่ทัพของเขาพร้อมกับกองทัพใหญ่จากเมืองลาคีช ไปหากษัตริย์เฮเซคียาห์ที่เมืองเยรูซาเล็ม แม่ทัพนั้นได้มาหยุดอยู่ข้างๆรางน้ำของสระด้านบน ตรงถนนที่มุ่งไปยังทุ่งของคนซักผ้า
- อิสยาห์ 36:3 - มีสามคนออกไปหาแม่ทัพคนนั้นที่นั่น คือเอลียาคิมผู้ดูแลวัง ที่เป็นลูกชายของฮิลคียาห์ เชบนาเลขานุการของกษัตริย์ และโยอาห์ผู้จดบันทึกที่เป็นลูกชายของอาสาฟ
- อิสยาห์ 36:4 - แม่ทัพได้พูดกับพวกเขาว่า “ไปบอกเฮเซคียาห์ว่า กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ คือกษัตริย์อัสซีเรีย พูดอย่างนี้ว่า
- อิสยาห์ 36:5 - ข้อตกลงกับพันธมิตรที่เจ้าหวังพึ่งนั้นมันก็แค่เพียงคำพูด เจ้าคิดว่ามันจะใช้แทนกลยุทธ์และกำลังทหารในสงครามได้หรือ เดี๋ยวนี้เจ้าไปพึ่งใครหรือ ถึงกล้ามากบฏกับเรา
- อิสยาห์ 36:6 - ดูดีๆว่าเจ้ากำลังพึ่งอียิปต์ ซึ่งเป็นเหมือนไม้เท้าต้นอ้อที่เดาะแล้ว ถ้าใครไปค้ำยันมัน มันก็จะแตกและเสียบมือของคนนั้น ฟาโรห์กษัตริย์ของอียิปต์ ก็จะเป็นอย่างนั้นกับคนที่มาพึ่งพิงเขา
- อิสยาห์ 36:7 - แต่ถ้าเจ้าจะบอกเราว่า “เราเชื่อพึ่งในพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา” อ้าว เฮเซคียาห์ได้รื้อพวกสถานที่นมัสการและแท่นบูชาของพระนั้นทิ้งไปแล้วไม่ใช่หรือ และสั่งคนยูดาห์และคนในเยรูซาเล็มว่า “พวกเจ้าต้องนมัสการที่แท่นบูชานี้ที่อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเท่านั้น”
- อิสยาห์ 36:8 - ตอนนี้ มาทำข้อตกลงกับกษัตริย์ของอัสซีเรีย เจ้านายของข้าดีกว่า ข้าจะให้ม้ากับเจ้าสองพันตัว ถ้าเจ้ามีปัญญาหาคนมาขี่พวกมันได้
- อิสยาห์ 36:9 - ในเมื่อเจ้าและอียิปต์อ่อนแอซะขนาดนี้ เจ้ายังจะปฏิเสธอำนาจของข้าราชการตัวเล็กๆของเจ้านายข้า แล้วไปหวังพึ่งรถรบและทหารม้าของอียิปต์อีกหรือ
- อิสยาห์ 36:10 - และตอนนี้ เจ้าคิดว่าที่ข้าขึ้นมาโจมตีแผ่นดินนี้เพื่อทำลายมัน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพระยาห์เวห์อย่างนั้นหรือ เป็นพระยาห์เวห์เองที่พูดกับข้าว่า “ขึ้นไปโจมตีแผ่นดินนี้และทำลายมันซะ”’”
- อิสยาห์ 36:11 - แล้วเอลียาคิม เชบนา และโยอาห์ ตอบกับแม่ทัพไปว่า “ช่วยพูดกับพวกเราผู้รับใช้ของท่านเป็นภาษาอารเมคด้วยเถิด เพราะพวกเราเข้าใจภาษานั้น อย่าพูดกับพวกเราเป็นภาษาฮีบรูเลย เพราะไม่อยากให้พวกนั้นที่อยู่บนกำแพงได้ยิน”
- อิสยาห์ 36:12 - แต่แม่ทัพนั้นตอบว่า “เจ้าคิดว่า เจ้านายข้าส่งข้ามาเพื่อพูดเรื่องพวกนี้กับเจ้านายเจ้า และกับเจ้าเท่านั้นหรือยังไง เขาส่งให้ข้ามาพูดกับไอ้คนพวกนั้นที่นั่งอยู่บนกำแพงด้วย ไอ้พวกนั้นก็จะต้องกินขี้และเยี่ยวของตัวเอง เหมือนกับพวกเจ้านั่นแหละ”
- อิสยาห์ 36:13 - แล้วแม่ทัพก็ยืนขึ้นและร้องตะโกนเสียงดังเป็นภาษาฮีบรูว่า
- อิสยาห์ 36:14 - พระองค์พูดว่าอย่างนี้ ‘อย่าให้เฮเซคียาห์หลอกลวงเจ้า เพราะเขาไม่สามารถช่วยกู้พวกเจ้าได้หรอก
- อิสยาห์ 36:15 - และอย่าให้เฮเซคียาห์ทำให้พวกเจ้าคิดจะพึ่งพระยาห์เวห์ เมื่อเขาพูดว่า “พระยาห์เวห์จะช่วยกู้พวกเราอย่างแน่นอน พระยาห์เวห์จะไม่ยอมให้เมืองนี้ตกไปอยู่ในกำมือของกษัตริย์อัสซีเรียเป็นอันขาด”
- อิสยาห์ 36:16 - อย่าไปฟังเฮเซคียาห์ เพราะกษัตริย์อัสซีเรียพูดไว้ว่าอย่างนี้ “มาทำสัญญาสงบศึกกับข้าและออกมาจำนนต่อข้า แล้วพวกเจ้าแต่ละคนก็จะได้กินจากต้นองุ่นและต้นมะเดื่อของตัวเอง และดื่มจากบ่อเก็บน้ำของตน
- อิสยาห์ 36:17 - จนกว่าเราจะมาและพาพวกเจ้าไปยังแผ่นดินที่เหมือนกับแผ่นดินของเจ้านี้ เป็นแผ่นดินที่มีข้าวและเหล้าองุ่นใหม่ มีขนมปังและสวนองุ่น”
- อิสยาห์ 36:18 - ระวังให้ดี อย่าให้เฮเซคียาห์ทำให้เจ้าหลงผิดไป เมื่อเขาพูดว่า “พระยาห์เวห์จะช่วยกู้พวกเรา” เราขอถามเจ้าว่า “มีพระของชาติไหนบ้างที่เคยช่วยแผ่นดินของพวกเขาให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของกษัตริย์อัสซีเรีย”
- อิสยาห์ 36:19 - พวกพระของเมืองฮามัท กับเมืองอารปัดไปไหนแล้ว พระของเมืองเสฟารวาอิมไปไหนแล้ว พวกพระของสะมาเรียสามารถช่วยกู้สะมาเรียจากเงื้อมมือของข้าได้หรือ
- อิสยาห์ 36:20 - ในพวกพระทั้งหมดของประเทศเหล่านี้ มีพระองค์ไหนบ้างได้ช่วยประเทศของพวกเขาให้พ้นจากเงื้อมมือของข้า แล้วเจ้ายังคิดว่าพระยาห์เวห์จะสามารถช่วยเยรูซาเล็มให้พ้นจากเงื้อมมือข้าได้หรือ’”
- อิสยาห์ 36:21 - แต่พวกเขาก็เงียบ ไม่ได้ตอบเขาสักคำ เพราะกษัตริย์เฮเซคียาห์ได้สั่งไว้ว่า “อย่าไปตอบมัน”
- อิสยาห์ 36:22 - แล้วเอลียาคิมผู้ดูแลวัง ที่เป็นลูกชายของฮิลคียาห์ เชบนา เลขานุการของกษัตริย์ และโยอาห์ผู้จดบันทึกที่เป็นลูกชายของอาสาฟ ได้ไปหาเฮเซคียาห์ใส่เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งที่พวกเขาฉีกด้วยความโศกเศร้า และพวกเขาก็รายงานกษัตริย์ถึงสิ่งที่แม่ทัพนั้นพูด
- อิสยาห์ 47:6 - ตอนนั้นเราโกรธคนของเรา เราทำให้ทรัพย์สมบัติของเราเสื่อมเสียเกียรติไป เราได้มอบพวกเขาไว้ในมือเจ้า แต่เจ้าไม่ได้มีความเมตตาต่อพวกเขาเลย เจ้าทำให้แอกของเจ้าหนักมากแม้แต่บนบ่าของคนชรา
- ดาเนียล 6:24 - แล้วกษัตริย์ก็มีคำสั่งให้นำตัวคนพวกนั้นที่ต่อต้านดาเนียลมา และโยนพวกเขา รวมทั้งลูกเมียของพวกเขา ลงไปในถ้ำสิงโต พวกเขายังไม่ทันจะตกถึงพื้นเลย สิงโตก็ขย้ำพวกเขากินและบดขยี้กระดูกพวกเขาจนแหลกละเอียด
- เยเรมียาห์ 23:1 - พระยาห์เวห์พูดว่า “ความหายนะจะเกิดขึ้นกับพวกคนเลี้ยงแกะที่กำลังทำลายแกะในทุ่งหญ้าของเราและทำให้มันกระจัดกระจายไป”
- เยเรมียาห์ 23:2 - ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล พูดเกี่ยวกับพวกคนเลี้ยงแกะที่กำลังดูแลคนของเราอยู่ “พวกเจ้าทำให้แกะของเรากระจัดกระจายไป เจ้าได้ขับไล่พวกแกะออกไปและไม่ได้จัดการอะไรให้กับแกะเลย ดังนั้น เราจะจัดการกับเจ้า สำหรับสิ่งเลวร้ายที่เจ้าทำ” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
- เยเรมียาห์ 4:7 - สิงโตโผล่ออกมาจากถ้ำแล้ว และผู้ที่จะทำลายชนชาติต่างๆเริ่มเดินทัพแล้ว สิงโตได้ออกจากบ้านเมืองของมัน เพื่อมาทำลายแผ่นดินของเจ้า เมืองต่างๆของเจ้าจะพังพินาศและจะไม่มีใครหลงเหลืออยู่ในเมืองเหล่านั้นเลย
- เอเสเคียล 34:12 - คนเลี้ยงแกะที่ดีจะค้นหาฝูงแกะที่กระจัดกระจายของเขาเมื่อเขาอยู่กับฝูงแกะ เราก็จะค้นหาฝูงแกะของเราอย่างนั้นด้วย เราจะช่วยพวกมันให้รอดพ้นออกมาจากสถานที่ต่างๆที่พวกมันกระจัดกระจายไปในวันที่มืดมิดที่ปกคลุมไปด้วยเมฆ
- 2 พงศาวดาร 28:20 - กษัตริย์ทิกลัท-ปิเลเสอร์แห่งอัสซีเรียมาหากษัตริย์อาหัส แต่ไม่ได้มาช่วยกษัตริย์อาหัสหรอก แต่มาสร้างปัญหาให้
- ยอห์น 10:10 - ขโมยมาเพื่อลัก ฆ่า และล้างผลาญทำลาย แต่เรามาเพื่อเขาจะได้มีชีวิตแท้ คือชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุข
- ยอห์น 10:11 - เราเป็นคนเลี้ยงแกะที่ดี คนเลี้ยงแกะที่ดียอมสละชีวิตของตนเพื่อแกะของเขา
- ยอห์น 10:12 - ลูกจ้างที่มาเฝ้าดูแลแกะแตกต่างจากคนเลี้ยงแกะ เพราะแกะไม่ได้เป็นของเขา เมื่อเขาเห็นหมาป่ามา เขาก็ทิ้งฝูงแกะและวิ่งหนีไป ปล่อยให้หมาป่าเข้ามาขย้ำเอาแกะและทำให้แกะที่เหลือหนีแตกกระเจิงไป
- 2 พงศาวดาร 36:1 - และประชาชนชาวยูดาห์ก็ยกเยโฮอาหาสลูกชายของโยสิยาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์ในเมืองเยรูซาเล็มต่อจากพ่อของเขา
- 2 พงศาวดาร 36:2 - เยโฮอาหาสมีอายุยี่สิบสามปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ เขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มได้สามเดือน
- 2 พงศาวดาร 36:3 - กษัตริย์เนโคของประเทศอียิปต์ได้ปลดเขาออกจากบัลลังก์ในเยรูซาเล็ม และบีบบังคับให้ชาวยูดาห์ส่งส่วยเป็นเงินหนักประมาณสามตันครึ่ง และทองคำหนักประมาณสามตันครึ่ง
- 2 พงศาวดาร 36:4 - กษัตริย์เนโคของประเทศอียิปต์ตั้งเอลียาคิมน้องชายของเยโฮอาหาสขึ้นเป็นกษัตริย์เหนือยูดาห์และเยรูซาเล็ม และเปลี่ยนชื่อของเอลียาคิมเป็นเยโฮยาคิม แต่เนโคได้เอาตัวเยโฮอาหาสพี่ชายของเอลียาคิมไปที่ประเทศอียิปต์
- 2 พงศาวดาร 36:5 - เยโฮยาคิมมีอายุยี่สิบห้าปีเมื่อเขาเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มสิบเอ็ดปี เขาได้ทำชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา
- 2 พงศาวดาร 36:6 - กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนได้เข้าโจมตีเขาและจับตัวเขาล่ามโซ่ทองสัมฤทธิ์และพาไปที่บาบิโลน
- 2 พงศาวดาร 36:7 - เนบูคัดเนสซาร์ยังได้ขนเอาพวกเครื่องใช้ออกมาจากวิหารของพระยาห์เวห์ และขนไปไว้ที่วิหารของเขาที่บาลิโลนด้วย
- 2 พงศาวดาร 36:8 - เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของเยโฮยาคิม สิ่งที่น่ารังเกียจที่เขาได้ทำและสิ่งต่างๆที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเขา ได้ถูกจดบันทึกไว้ในหนังสือพงศ์กษัตริย์ของอิสราเอลและยูดาห์ และเยโฮยาคีนลูกชายของเขาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากเขา
- 2 พงศาวดาร 36:9 - เยโฮยาคีนมีอายุสิบแปดปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเยรูซาเล็มสามเดือน เขาทำชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์
- 2 พงศาวดาร 36:10 - ในฤดูใบไม้ผลิ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ส่งคนไปพาตัวเขามาที่บาบิโลนพร้อมกับพวกเครื่องใช้ที่มีค่าจากวิหารของพระยาห์เวห์ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ให้เศเดคียาห์ อาของเยโฮยาคีนขึ้นเป็นกษัตริย์เหนือยูดาห์และเยรูซาเล็มแทนเขา
- 2 พงศาวดาร 36:11 - เศเดคียาห์มีอายุยี่สิบเอ็ดปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มสิบเอ็ดปี
- 2 พงศาวดาร 36:12 - เขาทำชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา และไม่ยอมถ่อมตัวและไม่ยอมเชื่อฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ที่ผ่านมาทางเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า
- 2 พงศาวดาร 36:13 - เศเดคียาห์กบฏต่อกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ก่อนหน้านี้ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์บังคับให้เขาสาบานโดยอ้างชื่อของพระเจ้าว่าเขาจะจงรักภักดีต่อบาบิโลน แต่ต่อมาเขาเริ่มดื้อดึงและใจแข็งกระด้าง ไม่ยอมหันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของชนชาติอิสราเอล
- 2 พงศาวดาร 36:14 - ยิ่งกว่านั้น พวกผู้นำทั้งหลายของเหล่านักบวชและประชาชนก็ยิ่งไม่ซื่อสัตย์มากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาไปทำตามการกระทำที่น่าขยะแขยงของชนชาติอื่นๆและทำให้วิหารของพระยาห์เวห์ที่พระองค์ได้ทำให้ศักดิ์สิทธิ์ในเมืองเยรูซาเล็มนั้นต้องเสื่อมไป
- 2 พงศาวดาร 36:15 - พระยาห์เวห์ พระเจ้าของบรรพบุรุษพวกเขา ส่งคำพูดมาถึงพวกเขาผ่านทางพวกผู้ส่งข่าวของพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะพระองค์ไม่อยากทำลายประชาชนของพระองค์และสถานที่อาศัยของพระองค์
- 2 พงศาวดาร 36:16 - แต่พวกเขากลับล้อเลียนพวกผู้ส่งข่าวพระเจ้าเหล่านั้น พวกเขาดูถูกคำพูดของพระองค์ เย้ยหยันพวกผู้พูดแทนพระเจ้า จนในที่สุดพระยาห์เวห์ก็ทนไม่ไหว พระองค์โกรธประชาชนของพระองค์จนไม่มีอะไรสามารถหยุดความโกรธของพระองค์ได้
- 2 พงศาวดาร 36:17 - พระองค์ได้ยกกษัตริย์ของชาวบาบิโลนขึ้นมาต่อต้านเขา กษัตริย์บาบิโลนได้ฆ่าพวกคนหนุ่มของพวกเขาตายด้วยดาบในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และไม่ไว้ชีวิตใครเลยแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มคนสาว คนชราหรือแม้แต่คนแก่ พระเจ้าได้มอบพวกเขาทั้งหมดไว้ในเงื้อมมือของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์
- 2 พงศาวดาร 36:18 - เขาได้ขนเอาข้าวของเครื่องใช้ออกจากวิหารของพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นของชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ และยังเอาสมบัติในวิหารของพระยาห์เวห์และสมบัติของกษัตริย์กับพวกเจ้าหน้าที่ของกษัตริย์ไปจนหมดด้วย
- 2 พงศาวดาร 36:19 - พวกเขาจุดไฟเผาวิหารของพระเจ้าและทำลายกำแพงเยรูซาเล็มลง พวกเขายังเผาพวกวังทั้งหมดและทำลายของมีค่าทุกอย่าง
- 2 พงศาวดาร 36:20 - ที่นั่น กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้กวาดต้อนเอาคนที่ยังมีชีวิตเหลือรอดจากคมดาบกลับไปที่บาบิโลนเพื่อไปเป็นทาสของเขากับพวกลูกชายของเขา จนกว่าอาณาจักรเปอร์เซียจะมาตั้งแทนอาณาจักรบาบิโลน
- 2 พงศาวดาร 36:21 - ดังนั้นสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้บอกกับคนอิสราเอลผ่านมาทางเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าก็เกิดขึ้นจริง ที่ว่า “สถานที่นี้จะต้องถูกทิ้งให้รกร้างอยู่เป็นเวลาเจ็ดสิบปี เพื่อแผ่นดินจะได้หยุดพัก ชดเชยให้กับปีที่เจ็ดเหล่านั้น ที่คนยูดาห์ไม่ยอมหยุดหว่านพืช”
- 2 พงศาวดาร 36:22 - ในปีแรก ที่ไซรัสขึ้นมาเป็นกษัตริย์ของเปอร์เซีย พระยาห์เวห์ดลใจให้กษัตริย์ไซรัสออกคำสั่งไปทั่วอาณาจักรของเขาและจดมันไว้ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพื่อให้สำเร็จตามคำพูดของพระยาห์เวห์ที่พูดผ่านมาทางเยเรมียาห์ ข้อความที่กษัตริย์ไซรัสป่าวประกาศออกไปนั้น คือ
- 2 พงศาวดาร 36:23 - “กษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียพูดว่าอย่างนี้ ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ได้ให้อาณาจักรทั้งหมดบนโลกนี้แก่เรา พระองค์ได้แต่งตั้งให้เราเป็นผู้สร้างวิหารให้กับพระองค์ในเมืองเยรูซาเล็ม ที่อยู่ในยูดาห์ บัดนี้ ใครก็ตามท่ามกลางพวกเจ้าที่เป็นชนชาติของพระองค์ สามารถกลับไปเยรูซาเล็มได้ ขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าสถิตอยู่กับเจ้า’”
- อิสยาห์ 10:5 - พระยาห์เวห์พูดว่า “เฮ้ย ไอ้พวกอัสซีเรีย ซึ่งเป็นไม้ที่เราใช้ตีเมื่อเราโกรธ ที่ถือไม้กระบองแห่งความโกรธแค้นของเราอยู่ในมือ
- อิสยาห์ 10:6 - เราได้ส่งอัสซีเรียไปต่อสู้กับชนชาติที่ไม่เคารพพระเจ้า และเราสั่งให้พวกเขาต่อสู้กับคนเหล่านั้นที่ทำให้เราโกรธ เพื่อจะริบเอาทรัพย์สมบัติของพวกนั้น และจะเหยียบย่ำพวกนั้นเหมือนโคลนตมบนถนนต่างๆ
- อิสยาห์ 10:7 - แต่อัสซีเรียไม่รู้หรอกว่าเรากำลังใช้พวกเขาอยู่ ในใจของพวกเขาไม่ได้คิดอย่างนั้น ในใจพวกเขาคิดแต่จะทำลายล้าง และกำจัดชนชาติจำนวนมากให้สิ้นซากไป
- ลูกา 15:4 - “สมมุติว่า พวกคุณคนหนึ่งมีแกะอยู่หนึ่งร้อยตัว แล้วตัวหนึ่งหลงหายไป เขาจะไม่ทิ้งแกะเก้าสิบเก้าตัวไว้ในทุ่งหญ้าแล้วออกไปตามหาแกะตัวที่หายไปจนกว่าจะพบหรือ
- ลูกา 15:5 - เมื่อพบแกะตัวนั้นแล้วเขาก็ดีใจมาก แบกมัน
- ลูกา 15:6 - กลับมาบ้าน แล้วเรียกเพื่อนบ้านเพื่อนฝูงมาพร้อมหน้ากันและบอกว่า ‘มาร่วมฉลองกันหน่อย เพราะฉันพบแกะที่หลงหายไปแล้ว’
- 2 พงศาวดาร 33:11 - ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงนำพวกแม่ทัพของกองทัพของกษัตริย์อัสซีเรีย มาสู้รบกับพวกเขา และจับตัวมนัสเสห์ไว้เป็นเชลย พวกเขาเอาห่วงใส่จมูกของมนัสเสห์ไว้และล่ามเขาไว้ด้วยโซ่ตรวนทองสัมฤทธิ์ และเอาไปที่บาบิโลน
- อิสยาห์ 8:7 - เพราะอย่างนั้น ดูไว้ให้ดี เราผู้เป็นองค์เจ้าชีวิต กำลังจะนำกษัตริย์ของอัสซีเรียมาพร้อมกับกำลังอันเกรียงไกรของเขา มาต่อสู้กับพวกเจ้า มันจะเป็นเหมือนกับน้ำที่ไหลทะลักมาจากแม่น้ำยูเฟรติส ที่ท่วมท้นลำคลองต่างๆและริมฝั่งทั้งหมดของพวกมัน
- อิสยาห์ 8:8 - มันจะไหลเข้าไปในยูดาห์ และท่วมทุกสิ่งทุกอย่าง และไหลต่อไปเรื่อยๆจนสูงถึงคอ” แต่พระองค์จะกางปีก ออกปกคลุมแผ่นดินทั้งหมดของเจ้า อิมมานูเอล
- 2 พงศ์กษัตริย์ 15:29 - ในช่วงที่กษัตริย์เปคาห์ปกครองอิสราเอลอยู่นั้น กษัตริย์ทิกลัท-ปิเลเสอร์ แห่งอัสซีเรียได้ลงมายึดเมืองอิโยน อาเบล-เบธมาอาคาห์ ยาโนอาห์ เคเดช ฮาโซร์ กิเลอาด กาลิลี รวมทั้งแผ่นดินนัฟทาลีทั้งหมดและได้กวาดต้อนผู้คนไปที่อัสซีเรีย
- เยเรมียาห์ 51:34 - เยรูซาเล็มพูดว่า “กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน กลืนกินข้าและบดขยี้ข้า เขาเทข้าออกหมดเหมือนเทหม้อ เขากลืนกินข้าเหมือนมังกร เขาเติมท้องตัวเองด้วยอาหารเลิศหรูของข้า แล้วเขาก็ถุยข้าทิ้ง”
- เยเรมียาห์ 51:35 - ให้ศิโยนพูดว่า “ขอให้ความโหดร้ายที่บาบิโลนทำกับข้า และครอบครัวของข้าสนองมันเอง” ให้เยรูซาเล็มพูดกันว่า “ขอให้ไอ้พวกบาบิโลนนั้นถูกลงโทษที่ทำให้ข้าเลือดสาด”
- โยเอล 3:2 - เราจะรวบรวมชนชาติทั้งหมดมา และเราจะพาพวกเขาลงไปยังหุบเขาเยโฮชาฟัท และที่นั่น เราจะตัดสินพวกเขาตามที่พวกเขาสมควรจะได้รับ เพื่อเห็นแก่อิสราเอลที่เป็นประชาชนและมรดกของเรา เพราะชนชาติพวกนี้ทำให้คนของเราต้องกระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางชนชาติต่างๆและพวกมันยังแบ่งแยกดินแดนของเราท่ามกลางพวกมันด้วย
- 1 เปโตร 2:25 - แต่ก่อนนั้นพวกคุณเคยหลงทางไปเหมือนแกะ แต่ตอนนี้ได้กลับมาหาผู้เลี้ยงและผู้ดูแลรักษาชีวิตของคุณแล้ว
- 2 พงศ์กษัตริย์ 18:9 - ในปีที่สี่ที่เฮเซคียาห์เป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ตรงกับปีที่เจ็ด ที่โฮเชยาลูกชายของเอลาห์ เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล กษัตริย์แชลมาเนเสอร์ ของอัสซีเรียได้ยกทัพมาสู้รบกับเมืองสะมาเรียและได้ปิดล้อมเมืองนี้เอาไว้
- 2 พงศ์กษัตริย์ 18:10 - เมื่อล้อมเมืองอยู่สามปี ชาวอัสซีเรียก็ยึดเมืองนี้ได้ เมืองสะมาเรียจึงถูกยึดไปในช่วงปีที่หกที่เฮเซคียาห์ เป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ตรงกับปีที่เก้าที่โฮเชยาเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล
- 2 พงศ์กษัตริย์ 18:11 - กษัตริย์ของอัสซีเรียได้กวาดต้อนเอาคนอิสราเอลไปไว้ที่อัสซีเรียและได้ให้พวกเขาตั้งรกรากอยู่ในเมืองฮาลาห์ ในเมืองโกซานที่ติดกับแม่น้ำฮาโบร์และในเมืองต่างๆของชาวเมดัย
- 2 พงศ์กษัตริย์ 18:12 - เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะพวกอิสราเอลไม่ยอมเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา พวกเขาฝ่าฝืนข้อตกลงของพระองค์ทุกข้อที่โมเสสผู้รับใช้พระยาห์เวห์ได้สั่งไว้ พวกเขาไม่ยอมฟังคำสั่งเหล่านั้นและไม่ยอมทำตามด้วย
- 2 พงศ์กษัตริย์ 18:13 - ในปีที่สิบสี่ ที่เฮเซคียาห์เป็นกษัตริย์ของยูดาห์ กษัตริย์เซนนาเคอริบ ของอัสซีเรียได้เข้าโจมตีเมืองทั้งหมดที่มีป้อมปราการของยูดาห์และสามารถยึดเมืองเหล่านั้นไว้ได้
- เยเรมียาห์ 50:6 - “คนของเรากลายเป็นแกะที่หลงทาง พวกคนเลี้ยงพวกมันทำให้มันระหกระเหินไป พวกผู้เลี้ยงแกะทำให้พวกมันกระจัดกระจายไปตามภูเขา พวกมันเดินจากภูเขาไปถึงเนินเขา แล้วพวกมันก็ลืมทุ่งหญ้าอันเป็นที่พักพิงของพวกมัน
- เยเรมียาห์ 2:15 - พวกสิงโตได้ขู่คำรามใส่อิสราเอล พวกสิงโตได้ส่งเสียงคำรามดังขึ้น พวกสิงโตได้ทำให้แผ่นดินของพวกเขาว่างเปล่า จนไม่เหลือใครเลยในเมืองต่างๆเหล่านั้น