逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - หญิงชาวสะมาเรียพูดว่า “คุณมาขอน้ำฉันดื่มได้ยังไงกัน คุณเป็นคนยิว ฉันเป็นหญิงสะมาเรีย” (ปกติแล้วคนยิวจะไม่ยุ่งเกี่ยว กับคนสะมาเรีย)
- 新标点和合本 - 撒玛利亚的妇人对他说:“你既是犹太人,怎么向我一个撒玛利亚妇人要水喝呢?”原来犹太人和撒玛利亚人没有来往。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 撒玛利亚妇人对他说:“你是犹太人,怎么向我一个撒玛利亚女人要水喝呢?”因为犹太人和撒玛利亚人没有来往。
- 和合本2010(神版-简体) - 撒玛利亚妇人对他说:“你是犹太人,怎么向我一个撒玛利亚女人要水喝呢?”因为犹太人和撒玛利亚人没有来往。
- 当代译本 - 撒玛利亚妇人说:“你是个犹太人,怎么向我这撒玛利亚妇人要水喝?”原来犹太人和撒玛利亚人互不往来。
- 圣经新译本 - 撒玛利亚妇人对耶稣说:“你是犹太人,怎么向我,一个撒玛利亚妇人要水喝呢?”(原来犹太人和撒玛利亚人不相往来。)
- 中文标准译本 - 撒马利亚妇人对他说:“你是犹太人,怎么向我一个撒马利亚妇人要水喝呢?”原来犹太人不和撒马利亚人来往。
- 现代标点和合本 - 撒马利亚的妇人对他说:“你既是犹太人,怎么向我一个撒马利亚妇人要水喝呢?”(原来犹太人和撒马利亚人没有来往。)
- 和合本(拼音版) - 撒玛利亚的妇人对他说:“你既是犹太人,怎么向我一个撒玛利亚妇人要水喝呢?”原来犹太人和撒玛利亚人没有来往。
- New International Version - The Samaritan woman said to him, “You are a Jew and I am a Samaritan woman. How can you ask me for a drink?” (For Jews do not associate with Samaritans. )
- New International Reader's Version - The Samaritan woman said to him, “You are a Jew. I am a Samaritan woman. How can you ask me for a drink?” She said this because Jews don’t have anything to do with Samaritans.
- English Standard Version - The Samaritan woman said to him, “How is it that you, a Jew, ask for a drink from me, a woman of Samaria?” (For Jews have no dealings with Samaritans.)
- New Living Translation - The woman was surprised, for Jews refuse to have anything to do with Samaritans. She said to Jesus, “You are a Jew, and I am a Samaritan woman. Why are you asking me for a drink?”
- The Message - The Samaritan woman, taken aback, asked, “How come you, a Jew, are asking me, a Samaritan woman, for a drink?” (Jews in those days wouldn’t be caught dead talking to Samaritans.)
- Christian Standard Bible - “How is it that you, a Jew, ask for a drink from me, a Samaritan woman?” she asked him. For Jews do not associate with Samaritans.
- New American Standard Bible - So the Samaritan woman *said to Him, “How is it that You, though You are a Jew, are asking me for a drink, though I am a Samaritan woman?” (For Jews do not associate with Samaritans.)
- New King James Version - Then the woman of Samaria said to Him, “How is it that You, being a Jew, ask a drink from me, a Samaritan woman?” For Jews have no dealings with Samaritans.
- Amplified Bible - The Samaritan woman asked Him, “How is it that You, being a Jew, ask me, a Samaritan woman, for a drink?” (For Jews have nothing to do with Samaritans.)
- American Standard Version - The Samaritan woman therefore saith unto him, How is it that thou, being a Jew, askest drink of me, who am a Samaritan woman? (For Jews have no dealings with Samaritans.)
- King James Version - Then saith the woman of Samaria unto him, How is it that thou, being a Jew, askest drink of me, which am a woman of Samaria? for the Jews have no dealings with the Samaritans.
- New English Translation - So the Samaritan woman said to him, “How can you – a Jew – ask me, a Samaritan woman, for water to drink?” (For Jews use nothing in common with Samaritans.)
- World English Bible - The Samaritan woman therefore said to him, “How is it that you, being a Jew, ask for a drink from me, a Samaritan woman?” (For Jews have no dealings with Samaritans.)
- 新標點和合本 - 撒馬利亞的婦人對他說:「你既是猶太人,怎麼向我一個撒馬利亞婦人要水喝呢?」原來猶太人和撒馬利亞人沒有來往。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 撒瑪利亞婦人對他說:「你是猶太人,怎麼向我一個撒瑪利亞女人要水喝呢?」因為猶太人和撒瑪利亞人沒有來往。
- 和合本2010(神版-繁體) - 撒瑪利亞婦人對他說:「你是猶太人,怎麼向我一個撒瑪利亞女人要水喝呢?」因為猶太人和撒瑪利亞人沒有來往。
- 當代譯本 - 撒瑪利亞婦人說:「你是個猶太人,怎麼向我這撒瑪利亞婦人要水喝?」原來猶太人和撒瑪利亞人互不往來。
- 聖經新譯本 - 撒瑪利亞婦人對耶穌說:“你是猶太人,怎麼向我,一個撒瑪利亞婦人要水喝呢?”(原來猶太人和撒瑪利亞人不相往來。)
- 呂振中譯本 - 撒瑪利亞 的婦人就對耶穌說:『你、是 猶太 人,怎麼向我、一個 撒瑪利亞 婦人、求飲呢?』(原來 猶太 人和 撒瑪利亞 人是沒有攙雜來往的 )。
- 中文標準譯本 - 撒馬利亞婦人對他說:「你是猶太人,怎麼向我一個撒馬利亞婦人要水喝呢?」原來猶太人不和撒馬利亞人來往。
- 現代標點和合本 - 撒馬利亞的婦人對他說:「你既是猶太人,怎麼向我一個撒馬利亞婦人要水喝呢?」(原來猶太人和撒馬利亞人沒有來往。)
- 文理和合譯本 - 婦曰、爾猶太人也、胡為求飲於我撒瑪利亞婦乎、蓋猶太人與撒瑪利亞人不相往來也、
- 文理委辦譯本 - 婦曰、爾猶太人何求飲於我撒馬利亞婦乎、蓋猶太人與撒馬利亞人、不相往來也、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 撒瑪利亞 婦曰、爾 猶太 人、何向我 撒瑪利亞 婦求飲乎、蓋 猶太 人與 撒瑪利亞 人、素不相交、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 耶穌應曰:『倘汝知天主之宏恩、與夫向汝求飲者之為誰、則必反以求之、而彼將予汝以活水矣!』
- Nueva Versión Internacional - Pero, como los judíos no usan nada en común con los samaritanos, la mujer le respondió: —¿Cómo se te ocurre pedirme agua, si tú eres judío y yo soy samaritana?
- 현대인의 성경 - 그 여자가 예수님께 “당신은 유대인인데 어떻게 사마리아 여자인 나에게 물을 달라고 하십니까?” 하였다. 이것은 유대인들과 사마리아인들이 서로 교제하지 않았기 때문이었다.
- Новый Русский Перевод - Самарянка удивилась: – Ты иудей, а я самарянка, как это Ты можешь просить у меня напиться? (Дело в том, что иудеи не пользуются общей посудой с самарянами .)
- Восточный перевод - Самарянка удивилась: – Ты иудей, а я самарянка, как это Ты можешь просить у меня напиться? (Дело в том, что иудеи не общаются с самарянами .)
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Самарянка удивилась: – Ты иудей, а я самарянка, как это Ты можешь просить у меня напиться? (Дело в том, что иудеи не общаются с самарянами .)
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Сомарянка удивилась: – Ты иудей, а я сомарянка, как это Ты можешь просить у меня напиться? (Дело в том, что иудеи не общаются с сомарянами .)
- La Bible du Semeur 2015 - La Samaritaine s’exclama : Comment ? Tu es Juif et tu me demandes à boire, à moi qui suis Samaritaine ? (Les Juifs, en effet, évitaient toutes relations avec les Samaritains .)
- リビングバイブル - 女はびっくりして言いました。「まあ、あなたはユダヤ人ではありませんか。サマリヤ人の私に、どうして水をくれなどと頼むのですか。」当時、ユダヤ人はサマリヤ人を見下し、口をきこうとさえしなかったのです。
- Nestle Aland 28 - λέγει οὖν αὐτῷ ἡ γυνὴ ἡ Σαμαρῖτις· πῶς σὺ Ἰουδαῖος ὢν παρ’ ἐμοῦ πεῖν αἰτεῖς γυναικὸς Σαμαρίτιδος οὔσης; οὐ γὰρ συγχρῶνται Ἰουδαῖοι Σαμαρίταις.
- unfoldingWord® Greek New Testament - λέγει οὖν αὐτῷ ἡ γυνὴ ἡ Σαμαρεῖτις, πῶς σὺ Ἰουδαῖος ὢν, παρ’ ἐμοῦ πεῖν αἰτεῖς γυναικὸς Σαμαρείτιδος οὔσης? οὐ γὰρ συνχρῶνται Ἰουδαῖοι Σαμαρείταις.
- Nova Versão Internacional - A mulher samaritana lhe perguntou: “Como o senhor, sendo judeu, pede a mim, uma samaritana, água para beber?” (Pois os judeus não se dão bem com os samaritanos. )
- Hoffnung für alle - Die Frau war überrascht, denn normalerweise wollten die Juden nichts mit den Samaritern zu tun haben. Sie sagte: »Du bist doch ein Jude! Wieso bittest du mich um Wasser? Schließlich bin ich eine samaritische Frau!«
- Kinh Thánh Hiện Đại - Người phụ nữ ngạc nhiên, vì người Do Thái không bao giờ giao thiệp với người Sa-ma-ri. Chị nói với Chúa Giê-xu: “Ông là người Do Thái, còn tôi là phụ nữ Sa-ma-ri. Sao ông lại xin tôi cho uống nước?”
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - หญิงชาวสะมาเรียทูลว่า “ท่านเป็นยิว ส่วนดิฉันเป็นหญิงชาวสะมาเรีย ท่านมาขอน้ำจากดิฉันได้อย่างไร?” (เพราะชาวยิวไม่คบหากับชาวสะมาเรีย )
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - หญิงชาวสะมาเรียผู้นั้นพูดกับพระองค์ว่า “เป็นไปได้อย่างไรที่ท่านผู้เป็นชาวยิวจะมาขอน้ำดื่มจากข้าพเจ้า ในเมื่อข้าพเจ้าเป็นหญิงชาวสะมาเรีย” (ด้วยเหตุว่าชาวยิวไม่คบหากับชาวสะมาเรีย)
- Thai KJV - หญิงชาวสะมาเรียทูลพระองค์ว่า “ไฉนท่านผู้เป็นยิวจึงขอน้ำดื่มจากดิฉันผู้เป็นหญิงสะมาเรีย เพราะพวกยิวไม่คบหาชาวสะมาเรียเลย”
交叉引用
- กิจการ 1:8 - เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์มาอยู่กับพวกคุณ พวกคุณก็จะได้รับฤทธิ์เดช และจะเป็นพยานเล่าเรื่องของเราให้คนฟัง ทั่วเมืองเยรูซาเล็ม ในแคว้นยูเดีย ในแคว้นสะมาเรีย และทุกหนแห่งในโลกนี้”
- เอสรา 4:1 - เมื่อพวกศัตรูของยูดาห์และเบนยามิน ได้ยินว่าพวกเชลยที่กลับมากำลังสร้างวิหารของพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลขึ้นมาใหม่ พวกเขาจึงมาพบเศรุบบาเบล และพวกหัวหน้าครอบครัว พวกศัตรูพูดว่า “ให้พวกเราช่วยท่านสร้างด้วยสิ เพราะเราก็นมัสการพระเจ้าของท่าน เหมือนกับท่าน และเราก็ได้ถวายเครื่องบูชาต่อพระองค์ ตั้งแต่วันที่กษัตริย์เอสารฮัดโดน แห่งอัสซีเรีย นำพวกเรามาที่นี่”
- เอสรา 4:3 - แต่เศรุบบาเบล เยชูอา รวมทั้งพวกหัวหน้าครอบครัวที่เหลือในอิสราเอล พูดกับพวกเขาว่า “ไม่ต้องมาช่วยพวกเราสร้างวิหารให้กับพระเจ้าของเราหรอก เพราะพวกเราจะสร้างวิหารให้พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลเอง ตามที่กษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียสั่งพวกเราไว้”
- เอสรา 4:4 - เพราะอย่างนี้ ประชาชนที่อยู่ในแผ่นดินนั้น จึงได้พยายามทำให้คนยูดาห์หมดกำลังใจ และกลัวที่จะสร้างวิหาร
- เอสรา 4:5 - คนเหล่านั้นยังได้ติดสินบนพวกเจ้าหน้าที่ของเปอร์เซีย ให้ขัดขวางพวกคนยิวมาตลอดตั้งแต่สมัยของกษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซีย ไปจนถึงสมัยของกษัตริย์ดาริอัสแห่งเปอร์เซีย เพื่อไม่ให้คนยิวทำตามแผนของพวกเขาที่จะสร้างวิหาร
- เอสรา 4:6 - ในรัชกาลของกษัตริย์เซอร์ซีส ในช่วงต้นรัชกาลของพระองค์ พวกศัตรูของคนยิว ได้เขียนคำฟ้องร้องพวกชาวยิว ที่อาศัยอยู่ในยูดาห์และเยรูซาเล็ม
- เอสรา 4:7 - เรื่องแบบนี้ต่อมาก็เกิดขึ้นอีกในรัชกาลของกษัตริย์อารทาเซอร์ซีส เมื่อ บิชลาม มิทเรดาท และทาเบเอล รวมทั้งเพื่อนร่วมงานของพวกเขา ได้เขียนคำร้องต่อกษัตริย์อารทาเซอร์ซีสแห่งเปอร์เซีย ข้อความนั้นเขียนเป็นภาษาอารเมค และได้รับการแปลออกมา (เรื่องราวต่อไปนี้เขียนเป็นภาษาอารเมค )
- เอสรา 4:8 - เรฮูม ผู้เป็นเจ้าเมือง และชิมชัยผู้เป็นเลขาธิการ ได้เขียนจดหมายเพื่อต่อต้านเมืองเยรูซาเล็ม ส่งไปให้กับกษัตริย์อารทาเซอร์ซีส มีใจความว่า
- เอสรา 4:9 - จากเรฮูม ผู้เป็นเจ้าเมือง และชิมชัย ผู้เป็นเลขาธิการ รวมทั้งเพื่อนร่วมงานของพวกเขา พวกผู้พิพากษา พวกทูตทั้งหลาย พวกเจ้าหน้าที่ พวกชาวเปอร์เซีย ชาวเอเรก ชาวบาบิโลน ชาวสุสาซึ่งก็คือชาวเอลาม
- เอสรา 4:10 - และจากพวกที่เหลืออยู่ คือพวกที่อาเชอร์บานิปอล ผู้ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงได้ขับไล่ออกจากประเทศของพวกเขา อาเชอร์บานิปอลให้คนพวกนี้ไปตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองต่างๆของสะมาเรีย และในส่วนอื่นๆที่เหลือของแม่น้ำยูเฟรติสฝั่งตะวันตก
- เอสรา 4:11 - (นี่คือสำเนาจดหมาย ที่พวกเขาส่งไปให้กษัตริย์อารทาเซอร์ซีส) ถึง กษัตริย์อารทาเซอร์ซีส จาก พวกผู้รับใช้ของพระองค์ ประชาชนที่อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส
- เอสรา 4:12 - ขอเรียนให้กษัตริย์ทราบว่า พวกชาวยิวที่มาจากพระองค์ที่ได้มาหาพวกเรานั้น ตอนนี้พวกเขาได้ขึ้นไปที่เมืองเยรูซาเล็มและกำลังก่อสร้างเมืองชั่วร้ายนั้นขึ้นมาใหม่ เป็นเมืองที่ชอบก่อการกบฏ พวกเขากำลังสร้างกำแพงให้แล้วเสร็จ และกำลังซ่อมแซมพวกฐานรากอยู่
- เอสรา 4:13 - ขอเรียนให้กษัตริย์ทราบว่า ถ้าเมืองนั้นถูกสร้างขึ้นใหม่ และกำแพงเมืองถูกสร้างจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว พวกเขาจะไม่ยอมส่งเครื่องบรรณาการ ภาษี และส่วย และในที่สุดคลังหลวงก็จะขาดรายได้ไป
- เอสรา 4:14 - เนื่องจากเราไม่เคยลืมข้าวแดงแกงร้อนที่พระองค์เลี้ยงดูเรามา เราจึงเห็นว่าเป็นการไม่สมควรที่จะให้เกียรติของพระองค์ต้องเสื่อมเสียไป ด้วยเหตุนี้เราจึงส่งสารนี้มาถึงพระองค์
- เอสรา 4:15 - เพื่อพระองค์จะได้ค้นดูสมุดบันทึกของบรรพบุรุษของพระองค์ ในสมุดบันทึกนี้พระองค์จะได้ค้นพบและเรียนรู้ว่า เมืองเยรูซาเล็มนั้น เป็นเมืองที่ชอบก่อการกบฏ ที่สร้างความเสียหายให้กับพวกกษัตริย์และประเทศต่างๆและมีการปลุกระดมให้ก่อการกบฏภายในเมืองนั้นมาเป็นเวลาช้านานแล้ว นั่นเป็นเหตุที่เมืองเยรูซาเล็มถึงได้ถูกทำลายไป
- เอสรา 4:16 - เราขอรายงานให้พระองค์รู้ว่า ถ้าเมืองนั้นถูกสร้างขึ้นมาใหม่ และกำแพงเมืองถูกสร้างจนเสร็จแล้ว พระองค์จะไม่ได้ครอบครองมณฑลฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติสอีกต่อไป
- เอสรา 4:17 - กษัตริย์จึงส่งสารตอบกลับมาว่า “ถึงเรฮูม ผู้เป็นเจ้าเมือง และชิมชัย ผู้เป็นเลขาธิการ รวมทั้งเพื่อนร่วมงานทั้งหลายของท่านที่อยู่ในสะมาเรีย และส่วนอื่นๆของอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรติส ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข
- เอสรา 4:18 - ตอนนี้ จดหมายที่ท่านส่งมาถึงพวกเรา ได้แปลและอ่านให้เราฟังแล้ว
- เอสรา 4:19 - เราได้สั่งให้ทำการตรวจสอบ และพวกเขาก็พบว่า เมืองเยรูซาเล็มนั้นเคยลุกขึ้นต่อต้านพวกกษัตริย์มาช้านานแล้ว และเคยมีการกบฏรวมทั้งมีการก่อการจลาจลในเมืองนั้นด้วย
- เอสรา 4:20 - แต่เคยมีกษัตริย์ผู้เรืองอำนาจบางองค์ซึ่งปกครองเมืองเยรูซาเล็ม และควบคุมเมืองทั้งหมดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ กษัตริย์เหล่านี้ได้รับเครื่องบรรณาการ ภาษี และส่วย
- เอสรา 4:21 - ตอนนี้ ให้ท่านทั้งหลายออกคำสั่งให้คนยิวพวกนั้นหยุดทำงานนี้ เพื่อไม่ให้เมืองนั้นถูกสร้างขึ้นมาใหม่ จนกว่าเราจะออกคำสั่งให้สร้างได้
- เอสรา 4:22 - ระวังให้ดี อย่าได้เพิกเฉยกับเรื่องนี้ เพื่อกษัตริย์จะได้ไม่ขาดรายได้อีกต่อไป”
- เอสรา 4:23 - พอได้อ่านสำเนาจดหมายของกษัตริย์อารทาเซอร์ซีส ให้กับเรฮูมและชิมชัย ผู้เป็นเลขาธิการ รวมทั้งพวกเพื่อนร่วมงานของพวกเขาฟังแล้ว พวกเขาก็รีบไปหาพวกยิวที่เยรูซาเล็มทันที
- เอสรา 4:24 - แล้วพวกเขาก็ใช้กำลังบีบบังคับให้พวกยิวหยุดทำงาน แล้วการสร้างวิหารของพระเจ้าในเมืองเยรูซาเล็มก็ถูกระงับลง และก็ไม่ได้สร้างต่ออีกเลย จนกระทั่งถึงปีที่สอง ของกษัตริย์ดาริอัสแห่งเปอร์เซีย
- เนหะมียาห์ 4:1 - เมื่อสันบาลลัท ได้ยินว่าเรากำลังสร้างกำแพง เขาโกรธและเดือดดาลมาก เขาหัวเราะเยาะพวกชาวยิว
- เนหะมียาห์ 4:2 - ต่อหน้าเพื่อนร่วมงานและต่อหน้ากองทัพสะมาเรีย เขาพูดว่า “ไอ้พวกยิวที่อ่อนแอเหล่านี้กำลังทำอะไรกันหรือ พวกมันจะจัดการเรื่องนี้เองหรือ พวกมันจะถวายเครื่องบูชาหรือ พวกมันคิดว่าจะทำเสร็จภายในวันเดียวหรือ พวกมันจะเอาหินที่ถูกเผาอยู่ในกองขยะพวกนั้น มาใช้ใหม่หรือยังไง”
- มัทธิว 10:5 - พระเยซูส่งสิบสองคนนี้ออกไป พร้อมกับสั่งว่า “อย่าไปหาพวกคนที่ไม่ใช่ชาวยิว อย่าเข้าไปในเมืองของพวกชาวสะมาเรีย
- ยอห์น 4:27 - ขณะนั้นพวกศิษย์ของพระองค์กลับมาถึงพอดี พวกเขาแปลกใจที่เห็นพระองค์กำลังพูดคุยอยู่กับผู้หญิง แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามพระองค์ว่า “อาจารย์ต้องการอะไรหรือครับ” หรือ “ไปพูดกับเธอทำไมครับ”
- ลูกา 10:33 - แต่มีชาวสะมาเรียคนหนึ่งเดินผ่านมา เมื่อเห็นชายคนนั้น เขาก็สงสาร
- ลูกา 17:16 - เขาก้มลงกราบขอบคุณอยู่ที่เท้าของพระเยซู เขาเป็นชาวสะมาเรีย
- ลูกา 17:17 - พระเยซูถามว่า “มีสิบคนที่หายจากโรคไม่ใช่หรือ แล้วอีกเก้าคนอยู่ที่ไหน
- ลูกา 17:18 - ทำไมมีแต่คนต่างชาติคนนี้เท่านั้นหรือ ที่กลับมาสรรเสริญพระเจ้า”
- ลูกา 17:19 - แล้วพระเยซูก็บอกเขาว่า “ลุกขึ้นกลับไปได้แล้ว ความเชื่อของคุณทำให้หายจากโรคแล้ว”
- ลูกา 9:52 - พระองค์จึงส่งศิษย์บางคนล่วงหน้าไปก่อน พวกเขาเข้าไปที่หมู่บ้านของชาวสะมาเรีย เพื่อจัดเตรียมสิ่งต่างๆให้พร้อมสำหรับพระองค์
- ลูกา 9:53 - แต่คนที่นั่นไม่ต้อนรับพระองค์ เพราะพวกเขาเห็นว่าพระองค์ตั้งใจจะไปเมืองเยรูซาเล็ม
- ลูกา 9:54 - เมื่อยากอบและยอห์น ศิษย์ของพระองค์เห็นอย่างนั้น ก็พูดขึ้นว่า “อาจารย์ จะให้เราสั่งไฟจากสวรรค์ลงมาเผาผลาญคนพวกนี้ให้สิ้นซากไปเลยดีไหมครับ”
- ลูกา 9:55 - แต่พระเยซูหันมาต่อว่าพวกเขา
- ลูกา 9:56 - แล้วออกเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านอื่น
- ยอห์น 8:48 - พวกยิวได้ถามพระองค์ว่า “พวกเราพูดผิดตรงไหนที่ว่าแกเป็นชาวสะมาเรีย และมีผีสิง”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:24 - กษัตริย์ของอัสซีเรียได้กวาดต้อนคนอิสราเอลออกไปจากสะมาเรีย และนำเอาประชาชนเหล่านี้เข้ามาอยู่แทน คือประชาชนจากบาบิโลน คูธาห์ อัฟวา ฮามัท เสฟารวาอิม พวกนี้เข้ายึดเมืองสะมาเรียไว้และได้อาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆเหล่านั้น
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:25 - เมื่อคนพวกนี้เข้ามาอาศัยอยู่ในช่วงแรกๆ พวกเขาไม่ยอมนมัสการพระยาห์เวห์ พระองค์จึงได้ส่งพวกสิงโตเข้ามาท่ามกลางพวกเขา และพวกสิงโตได้ฆ่าพวกเขาไปบ้าง
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:26 - จึงมีคนไปบอกกับกษัตริย์ของอัสซีเรียว่า “ชนชาติต่างๆที่ท่านได้จับตัวไป และเอาไปใส่ไว้ในเมืองต่างๆของสะมาเรีย ไม่รู้ว่าพระของแผ่นดินนั้นต้องการอะไร พระองค์นั้นก็เลยส่งพวกสิงโตเข้าไปในท่ามกลางพวกเขา สิงโตเหล่านั้นกำลังฆ่าพวกเขาอยู่ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าพระของแผ่นดินนั้นต้องการอะไร”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:27 - กษัตริย์ของอัสซีเรียจึงออกคำสั่งไปว่า “ไปเอานักบวชคนหนึ่งจากท่ามกลางนักบวชที่เจ้าจับตัวมาจากสะมาเรีย และส่งเขากลับไปอยู่ที่สะมาเรีย ให้เขาคอยสั่งสอนประชาชนว่าพระของแผ่นดินนั้นต้องการอะไร”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:28 - นักบวชคนหนึ่งที่เคยถูกกวาดต้อนไปจากเมืองสะมาเรียจึงได้กลับมาอาศัยอยู่ในเมืองเบธเอล และได้สอนให้พวกนั้นรู้ว่าจะนมัสการพระยาห์เวห์อย่างไร
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:29 - แต่อย่างไรก็ตาม แต่ละชนชาติก็ยังคงสร้างพระของพวกเขาเองไว้ตามเมืองต่างๆที่พวกเขาไปตั้งบ้านเรือนอยู่ และได้นำพระเหล่านั้นไปตั้งไว้ในศาลเจ้าที่ชาวเมืองสะมาเรียได้สร้างไว้ตามสถานที่สูงทั้งหลาย
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:30 - คนจากบาบิโลนได้สร้างพระสุคคท-เบโนท ชาวคูทได้สร้างพระเนอร์กัล และชาวฮามัทได้สร้างพระอาชิมา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:31 - ชาวอัฟวาได้สร้างพระนิบหัสและพระทารทัก ส่วนชาวเสฟารวาอิมได้เผาลูกๆของพวกเขาเป็นเครื่องบูชายัญให้กับพระอัดรัมเมเลคและพระอานัมเมเลคที่เป็นพระของชาวเสฟารวาอิม
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:32 - และพวกเขาก็นมัสการพระยาห์เวห์ไปด้วย พวกเขาแต่งตั้งพวกนักบวชขึ้นจากคนทุกประเภทที่อยู่ท่ามกลางพวกเขา เพื่อถวายเครื่องบูชาแทนพวกเขาในศาลเจ้าตามที่สูงเหล่านั้น
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:33 - อย่างนี้ พวกเขาก็ได้นมัสการพระยาห์เวห์ แต่ก็ยังไปบูชาพวกพระของพวกเขาเองตามธรรมเนียมของชนชาติของพวกเขาก่อนที่จะถูกจับมา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:34 - แล้วพวกเขาก็ยังทำตามประเพณีดั้งเดิมเหล่านั้นของพวกเขามาจนถึงทุกวันนี้ พวกเขาไม่ได้ยำเกรงพระยาห์เวห์อย่างที่ควรจะเป็น และไม่ทำตามคำสั่งสอน และข้อบังคับต่างๆรวมทั้งกฎและคำสั่งทุกๆข้อที่พระยาห์เวห์ได้ให้ไว้กับพวกลูกหลานของยาโคบ ที่พระองค์ให้อีกชื่อหนึ่งว่าอิสราเอล
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:35 - พระยาห์เวห์ได้ทำข้อตกลงไว้กับชาวอิสราเอล พระองค์สั่งพวกเขาไว้ว่า “อย่าไปนมัสการพระอื่นๆหรือไปก้มกราบพระเหล่านั้น อย่าไปรับใช้หรือบูชาพวกมัน
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:36 - แต่ให้นมัสการพระยาห์เวห์ ผู้ที่นำพวกเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ ด้วยฤทธิ์อำนาจและแขนที่ยื่นออกมาช่วย พวกเจ้าต้องก้มกราบพระองค์และถวายสัตวบูชาแก่พระองค์
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:37 - พวกเจ้าต้องระมัดระวังอยู่เสมอที่จะรักษาคำสั่งสอนและข้อบังคับต่างๆ รวมทั้งกฎและคำสั่งที่พระองค์ได้เขียนไว้เพื่อพวกเจ้า อย่าไปนมัสการพระอื่นๆ
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:38 - อย่าลืมข้อตกลงที่เราได้ทำไว้กับพวกเจ้า และอย่าไปนมัสการพระอื่นๆ
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:39 - พวกเจ้าต้องนมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้าเท่านั้น แล้วพระองค์จะช่วยพวกเจ้าให้รอดพ้นจากกำมือของศัตรูทั้งหมดของพวกเจ้า”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:40 - แต่พวกเขาไม่ยอมฟัง พวกเขายังคงทำตามแบบเดิมๆที่พวกเขาทำมา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:41 - ชนชาติเหล่านั้นนมัสการพระยาห์เวห์ แต่พวกเขาก็ยังรับใช้รูปแกะสลักของพวกเขาไปด้วย จนถึงทุกวันนี้ ลูกหลานของพวกเขาก็ยังทำตามสิ่งที่บรรพบุรุษของพวกเขาเคยทำกัน
- กิจการ 10:28 - เปโตรพูดกับพวกเขาว่า “คุณก็รู้ว่า มันผิดกฎนะ ที่คนยิวจะไปคบค้าสมาคมหรือมาเยี่ยมเยียนคนที่ไม่ใช่ยิว แต่พระเจ้าได้แสดงให้ผมเห็นว่า ไม่ควรจะเรียกใครว่าคนต้องห้าม หรือไม่สะอาด