逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์จะสอนคุณว่าจะต้องพูดอะไรในเวลานั้น”
- 新标点和合本 - 因为正在那时候,圣灵要指教你们当说的话。”
- 和合本2010(上帝版-简体) - 因为就在那时候,圣灵要指教你们该说的话。”
- 和合本2010(神版-简体) - 因为就在那时候,圣灵要指教你们该说的话。”
- 当代译本 - 因为到时候圣灵必指教你们该说什么。”
- 圣经新译本 - 到了时候,圣灵必把当说的话教导你们。”
- 中文标准译本 - 因为就在那时候,圣灵会教导你们该说的话。”
- 现代标点和合本 - 因为正在那时候,圣灵要指教你们当说的话。”
- 和合本(拼音版) - 因为正在那时候,圣灵要指教你们当说的话。”
- New International Version - for the Holy Spirit will teach you at that time what you should say.”
- New International Reader's Version - The Holy Spirit will teach you at that time what you should say.”
- English Standard Version - for the Holy Spirit will teach you in that very hour what you ought to say.”
- New Living Translation - for the Holy Spirit will teach you at that time what needs to be said.”
- Christian Standard Bible - For the Holy Spirit will teach you at that very hour what must be said.”
- New American Standard Bible - for the Holy Spirit will teach you in that very hour what you ought to say.”
- New King James Version - For the Holy Spirit will teach you in that very hour what you ought to say.”
- Amplified Bible - for the Holy Spirit will teach you in that very hour what you ought to say.”
- American Standard Version - for the Holy Spirit shall teach you in that very hour what ye ought to say.
- King James Version - For the Holy Ghost shall teach you in the same hour what ye ought to say.
- New English Translation - for the Holy Spirit will teach you at that moment what you must say.”
- World English Bible - for the Holy Spirit will teach you in that same hour what you must say.”
- 新標點和合本 - 因為正在那時候,聖靈要指教你們當說的話。」
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 因為就在那時候,聖靈要指教你們該說的話。」
- 和合本2010(神版-繁體) - 因為就在那時候,聖靈要指教你們該說的話。」
- 當代譯本 - 因為到時候聖靈必指教你們該說什麼。」
- 聖經新譯本 - 到了時候,聖靈必把當說的話教導你們。”
- 呂振中譯本 - 因為就在那時候、聖靈自會指教你們所應當說的話。』
- 中文標準譯本 - 因為就在那時候,聖靈會教導你們該說的話。」
- 現代標點和合本 - 因為正在那時候,聖靈要指教你們當說的話。」
- 文理和合譯本 - 蓋於彼時、聖神必教爾以所當言也、○
- 文理委辦譯本 - 蓋是時、聖神必示爾以所當言也、○
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 因其時聖神必教爾以所當言也、○
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 其時既至、聖神必示爾以所當言。
- Nueva Versión Internacional - porque en ese momento el Espíritu Santo les enseñará lo que deben responder».
- 현대인의 성경 - 그 시간에 너희가 할 말을 성령께서 가르쳐 주실 것이다.”
- Новый Русский Перевод - потому что Святой Дух в тот самый час научит вас, что вам говорить.
- Восточный перевод - потому что Святой Дух в тот самый час научит вас, что вам говорить.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - потому что Святой Дух в тот самый час научит вас, что вам говорить.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - потому что Святой Дух в тот самый час научит вас, что вам говорить.
- La Bible du Semeur 2015 - Car le Saint-Esprit vous enseignera à l’instant même ce que vous devrez dire.
- リビングバイブル - 聖霊が、時にかなったことばを教えてくださるからです。」
- Nestle Aland 28 - τὸ γὰρ ἅγιον πνεῦμα διδάξει ὑμᾶς ἐν αὐτῇ τῇ ὥρᾳ ἃ δεῖ εἰπεῖν.
- unfoldingWord® Greek New Testament - τὸ γὰρ Ἅγιον Πνεῦμα διδάξει ὑμᾶς ἐν αὐτῇ τῇ ὥρᾳ ἃ δεῖ εἰπεῖν.
- Nova Versão Internacional - pois naquela hora o Espírito Santo ensinará o que deverão dizer”.
- Hoffnung für alle - Denn der Heilige Geist wird euch zur rechten Zeit das rechte Wort geben.«
- Kinh Thánh Hiện Đại - vì đúng lúc đó, Chúa Thánh Linh sẽ dạy các con những lời phải nói.”
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เพราะในเวลานั้นพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงสอนท่านว่าท่านควรพูดอะไร”
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เพราะว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะสอนเจ้าในเวลานั้นว่า เจ้าควรจะพูดอะไร”
- Thai KJV - เพราะว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงโปรดสอนท่านในเวลาโมงนั้นเองว่า ท่านควรจะพูดอะไรบ้าง”
交叉引用
- กิจการ 26:1 - กษัตริย์อากริปปาพูดกับเปาโลว่า “ตอนนี้ เจ้าพูดแก้ต่างให้กับตัวเองได้แล้ว” เปาโลจึงยกมือขึ้น และเริ่มแก้ข้อกล่าวหาว่า
- กิจการ 26:2 - “กษัตริย์ อากริปปา ข้าพเจ้าถือว่าเป็นเกียรติจริงๆที่ได้มาแก้ต่างให้กับตัวเองต่อหน้าท่านในวันนี้ ต่อข้อกล่าวหาทั้งหมดของชาวยิว
- กิจการ 26:3 - ท่านรู้จักประเพณี และปัญหาข้อโต้แย้งต่างๆของชาวยิวเป็นอย่างดี ขอให้ท่านช่วยอดทนฟังข้าพเจ้าหน่อย
- กิจการ 26:4 - ชาวยิวทุกคนรู้ว่าข้าพเจ้าใช้ชีวิตยังไงตั้งแต่เด็กมาแล้ว ข้าพเจ้าโตมาท่ามกลางชนชาติของข้าพเจ้าในเมืองเยรูซาเล็ม
- กิจการ 26:5 - พวกเขารู้จักข้าพเจ้าดี และถ้าพวกเขาอยากทำ พวกเขาสามารถยืนยันกับท่านได้ว่า ข้าพเจ้าเป็นฟารีสี เป็นพวกที่เคร่งศาสนาที่สุดในหมู่คนยิว
- กิจการ 26:6 - และที่ข้าพเจ้ายืนถูกสอบสวนอยู่ที่นี่ ก็เพราะความหวังที่ข้าพเจ้ามีในคำสัญญาที่พระเจ้าให้ไว้กับบรรพบุรุษของพวกเรา
- กิจการ 26:7 - เป็นคำสัญญาที่พวกเราสิบสองเผ่าหวังที่จะได้รับ จึงได้รับใช้พระเจ้าอย่างขยันขันแข็งทั้งวันทั้งคืน ข้าแต่กษัตริย์ ก็เพราะความหวังอันนี้แหละ ที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องถูกชาวยิวกล่าวหา
- กิจการ 26:8 - ทำไมพวกท่านถึงคิดว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่พระเจ้าทำให้คนตายฟื้นขึ้นมา
- กิจการ 26:9 - ข้าพเจ้าเคยคิดเหมือนกันว่า จะต้องทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพื่อต่อต้านเยซูชาวนาซาเร็ธ
- กิจการ 26:10 - ข้าพเจ้าก็ได้ทำอย่างนั้นในเยรูซาเล็ม และเพราะข้าพเจ้าได้รับอำนาจจากพวกหัวหน้านักบวช ข้าพเจ้าจึงจับคนที่เป็นของพระเจ้าไปขังคุก เมื่อพวกเขาถูกฆ่า ข้าพเจ้าก็เห็นดีเห็นชอบด้วย
- กิจการ 26:11 - ข้าพเจ้าเข้าไปจับพวกเขาตามที่ประชุมต่างๆออกมาลงโทษบ่อยๆและบังคับให้พวกเขาพูดสาปแช่ง พระเยซู ข้าพเจ้าโกรธแค้นพวกนี้มาก ถึงกับเดินทางไปข่มเหงพวกนี้ถึงต่างแดน
- กิจการ 26:12 - ครั้งหนึ่ง ตอนที่ข้าพเจ้ากำลังเดินทางไปเมืองดามัสกัส โดยได้รับสิทธิอำนาจจากพวกหัวหน้านักบวช
- กิจการ 26:13 - ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยง ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเดินทางอยู่นั้น ข้าแต่กษัตริย์ ข้าพเจ้าก็เห็นแสงจากท้องฟ้า สว่างจ้ากว่าแสงอาทิตย์เสียอีก แสงนั้นส่องมารอบตัวข้าพเจ้าและคนที่มาด้วยกัน
- กิจการ 26:14 - พวกเราทั้งหมดล้มลงกับพื้น และข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงพูดกับข้าพเจ้าเองเป็นภาษาอารเมค ว่า ‘เซาโล เซาโล เจ้าข่มเหงเราทำไม เวลาที่เจ้าต่อสู้กับเรา ตัวเจ้าเองนั่นแหละที่เจ็บ’
- กิจการ 26:15 - ข้าพเจ้าถามว่า ‘ท่านเป็นใคร’
- กิจการ 26:16 - แต่ลุกขึ้นยืนเถอะ เรามาปรากฏตัวกับเจ้าเพื่อแต่งตั้งเจ้าให้เป็นผู้รับใช้ เพื่อไปบอกคนอื่นถึงเรื่องที่เจ้าได้เห็นเรา และบอกเรื่องที่เราจะแสดงให้เจ้าดู
- กิจการ 26:17 - เราจะช่วยเหลือเจ้าให้รอดพ้นจากคนยิวและคนที่ไม่ใช่ยิวที่เรากำลังจะส่งเจ้าไปหา
- กิจการ 26:18 - เพื่อเปิดตาของพวกเขา ให้หันจากความมืดสู่ความสว่าง และหันจากอำนาจของซาตานมาสู่พระเจ้า เพื่อพวกเขาจะได้รับการอภัยต่อบาป และเข้ามีส่วนในคนเหล่านั้นที่เราได้ทำให้เป็นของเรา โดยความไว้วางใจที่พวกเขามีต่อเรา’”
- กิจการ 26:19 - “ข้าแต่กษัตริย์อากริปปา เมื่อเป็นอย่างนี้ ข้าพเจ้าจึงเชื่อฟังนิมิตที่มาจากสวรรค์นั้น
- กิจการ 26:20 - ข้าพเจ้าเริ่มสอนผู้คนในเมืองดามัสกัสก่อน จากนั้นก็สั่งสอนผู้คนในเยรูซาเล็ม และตลอดทั่วแคว้นยูเดีย และคนที่ไม่ใช่ยิวด้วย โดยบอกให้พวกเขากลับตัวกลับใจ หันมาหาพระเจ้าและทำการงานต่างๆที่เหมาะกับคนที่กลับตัวกลับใจแล้ว
- กิจการ 26:21 - นี่เป็นเหตุที่พวกยิวได้เข้ามาจับกุมตัวข้าพเจ้าในขณะที่อยู่ในวิหาร และพยายามจะฆ่าข้าพเจ้าด้วย
- กิจการ 26:22 - แต่พระเจ้าก็ได้ช่วยข้าพเจ้ามาจนถึงทุกวันนี้ จึงทำให้ข้าพเจ้าสามารถมายืนเป็นพยานต่อท่านทั้งหลาย ทั้งผู้น้อยและผู้ใหญ่ในที่นี้ได้ ข้าพเจ้าไม่ได้พูดอะไรเลย นอกจากสิ่งที่ผู้พูดแทนพระเจ้า และโมเสสบอกไว้แล้วว่าจะเกิดขึ้น
- กิจการ 26:23 - นั่นคือกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่จะต้องทนทุกข์ทรมาน และพระองค์จะเป็นคนแรกที่ฟื้นขึ้นจากความตาย และพระองค์จะเป็นผู้นำแสงสว่างมาสู่คนยิวและคนที่ไม่ใช่ยิว”
- กิจการ 26:24 - ขณะที่เปาโลกำลังพูดแก้ต่างในเรื่องต่างๆอยู่นั้น เฟสทัสก็ตะเบ็งเสียงขึ้นมาว่า “เปาโล แกเสียสติไปแล้ว แกเรียนจะจนเป็นบ้าไปแล้ว”
- กิจการ 26:25 - เปาโลตอบว่า “ท่านเฟสทัส ผมไม่ได้เป็นบ้า สิ่งที่ผมพูดมานี้เป็นความจริงและมีเหตุผล
- กิจการ 26:26 - กษัตริย์อากริปปารู้เรื่องพวกนี้ดี และผมก็สามารถพูดได้อย่างเปิดเผยกับท่าน ผมแน่ใจว่าไม่มีเรื่องไหนเล็ดลอดสายตาของท่านไปได้ เพราะเรื่องนี้ไม่ได้ทำกันอย่างลับๆล่อๆ
- กิจการ 26:27 - ข้าแต่กษัตริย์อากริปปา ท่านเชื่อสิ่งที่ผู้พูดแทนพระเจ้าเขียนหรือเปล่า ข้าพเจ้ารู้ว่าท่านเชื่อแน่”
- กิจการ 26:28 - จากนั้น กษัตริย์อากริปปาก็พูดแทรกเปาโลว่า “เจ้าคิดว่าสามารถชักจูงให้เราเป็นคริสเตียนในเวลาอันสั้นอย่างนี้หรือ”
- กิจการ 26:29 - เปาโลตอบว่า “ไม่ว่าจะเป็นเวลาสั้นหรือยาวแค่ไหน ข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระเจ้าขอให้ท่านและทุกคนที่ฟังข้าพเจ้าในวันนี้ เป็นคริสเตียนเหมือนอย่างข้าพเจ้า ยกเว้นแต่โซ่ตรวนนี้เท่านั้น”
- กิจการ 26:30 - จากนั้นกษัตริย์อากริปปาก็ลุกขึ้น รวมทั้งเจ้าเมืองเบอร์นิส และคนอื่นๆทั้งหมดที่นั่งอยู่กับพวกเขาด้วย
- กิจการ 26:31 - หลังจากที่พวกเขาออกไปจากห้องแล้ว ก็คุยกันว่า “ชายคนนี้ไม่ได้ทำอะไรที่สมควรตาย หรือสมควรถูกขังคุกเลย”
- กิจการ 26:32 - กษัตริย์อากริปปาพูดกับเฟสทัสว่า “อันที่จริง ถ้าชายคนนี้ไม่ได้ขอให้ซีซาร์ เป็นผู้สอบสวน ก็ปล่อยตัวไปได้แล้ว”
- กิจการ 7:2 - เขาก็ตอบว่า “ท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย และพวกพี่น้อง ฟังผมก่อน พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ได้ปรากฏตัวต่ออับราฮัมบรรพบุรุษของเราตอนที่ท่านยังอยู่ที่เมโสโปเตเมีย ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่ฮาราน
- กิจการ 7:3 - พระองค์ได้พูดกับอับราฮัมว่า ‘ออกจากประเทศและพาญาติพี่น้องของเจ้าไปยังดินแดนที่เราจะแสดงให้เจ้าได้เห็น’
- กิจการ 7:4 - ดังนั้นอับราฮัมจึงออกจากดินแดนของชาวเคลเดียและมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองฮาราน หลังจากที่พ่อของอับราฮัมตาย พระเจ้าก็ให้เขาออกจากที่นั่น มายังดินแดนที่พวกท่านอาศัยอยู่เดี๋ยวนี้
- กิจการ 7:5 - ในตอนนั้นพระเจ้าไม่ได้ให้อับราฮัมครอบครองที่ดินตรงนี้แม้แต่ฝ่าเท้าเดียว แต่พระองค์สัญญาที่จะให้แผ่นดินทั้งหมดนี้กับเขาและลูกหลานของเขา ทั้งๆที่ตอนนั้นอับราฮัมยังไม่มีลูกเลย
- กิจการ 7:6 - พระเจ้าพูดกับเขาว่า ‘ลูกหลานของเจ้าจะเป็นคนแปลกหน้าในดินแดนต่างด้าว ผู้คนที่นั่นจะบังคับพวกเขาให้เป็นทาส และจะทำต่อลูกหลานของเจ้าอย่างเลวร้ายเป็นเวลาสี่ร้อยปี
- กิจการ 7:7 - แต่เราจะลงโทษชนชาตินั้น ที่ทำให้ลูกหลานของเจ้าต้องตกเป็นทาส’ พระเจ้ายังบอกอีกว่า ‘หลังจากนั้นพวกเขาจะออกจากดินแดนแห่งนั้น และมากราบไหว้บูชาเราในสถานที่แห่งนี้’
- กิจการ 7:8 - พระเจ้าได้ทำข้อตกลงกับอับราฮัม การขลิบเป็นเครื่องหมายของข้อตกลงนี้ แล้วอับราฮัมมีลูกชื่ออิสอัค พออิสอัคเกิดได้แปดวัน อับราฮัมก็ขลิบให้กับเขา ต่อมาอิสอัค มีลูกคือยาโคบ และยาโคบก็มีลูกสิบสองคน ที่เป็นต้นตระกูลต่างๆของเรานั่นเอง
- กิจการ 7:9 - ต้นตระกูลพวกนี้ ต่างก็อิจฉาโยเซฟน้องชายของตน จึงขายโยเซฟให้ไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระเจ้าอยู่กับโยเซฟ
- กิจการ 7:10 - พระองค์ช่วยให้โยเซฟพ้นจากความทุกข์ยากทุกอย่าง พระเจ้าทำให้โยเซฟเฉลียวฉลาด และทำให้ฟาโรห์กษัตริย์ของอียิปต์ชอบโยเซฟ ถึงกับแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้ปกครองดูแลทั่วทั้งอียิปต์ รวมทั้งทุกอย่างในวังของพระองค์ด้วย
- กิจการ 7:11 - ต่อมาทั่วอียิปต์และคานาอันเกิดความอดอยาก ทำให้เดือดร้อนอย่างหนัก บรรพบุรุษของเราไม่มีอาหารกิน
- กิจการ 7:12 - เมื่อยาโคบได้ยินว่ามีข้าวในอียิปต์ ก็ส่งบรรพบุรุษของเราไปที่นั่น นี่เป็นเที่ยวแรก
- กิจการ 7:13 - ในเที่ยวที่สอง โยเซฟเปิดเผยตัวเองให้พี่น้องของเขารู้ และฟาโรห์ก็ได้รู้จักครอบครัวของโยเซฟด้วย
- กิจการ 7:14 - โยเซฟส่งคนไปเชิญยาโคบพ่อของเขา และญาติพี่น้องของเขารวมทั้งหมดเจ็ดสิบห้าคนมาด้วย
- กิจการ 7:15 - จากนั้นยาโคบก็ย้ายไปอยู่ที่อียิปต์ และที่นั่นเอง ยาโคบและบรรพบุรุษของเราตายลง
- กิจการ 7:16 - ศพของพวกเขาถูกนำกลับไปที่เมืองเชเคม และถูกฝังไว้ในอุโมงค์ฝังศพที่อับราฮัมใช้เงินก้อนหนึ่งซื้อมาจากพวกลูกชายของฮาโมร์ในเชเคม
- กิจการ 7:17 - เมื่อใกล้ถึงเวลาที่สัญญาที่พระเจ้าให้ไว้กับอับราฮัมจะเป็นจริง จำนวนคนของเราก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในอียิปต์
- กิจการ 7:18 - ในตอนนั้นมีกษัตริย์องค์อื่นที่ไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับโยเซฟขึ้นปกครองแผ่นดินอียิปต์
- กิจการ 7:19 - เขาเจ้าเล่ห์หลอกลวงคนของเรา และทารุณโหดร้ายต่อบรรพบุรุษของเรา ด้วยการบังคับให้เอาทารกน้อยของพวกเขาไปทิ้งข้างนอกให้ตาย
- กิจการ 7:20 - โมเสสเกิดมาในช่วงนั้น เขาเป็นเด็กที่พิเศษมาก เขาได้รับการเลี้ยงดูอยู่ในบ้านพ่อของเขาจนอายุครบสามเดือน
- กิจการ 7:21 - แล้วก็ถูกนำไปทิ้งข้างนอก ลูกสาวของฟาโรห์เก็บเขาได้ และเอาไปเลี้ยงเป็นลูก
- กิจการ 7:22 - โมเสสจึงได้รับการสั่งสอนวิชาความรู้ทั้งหมดของชาวอียิปต์ และเขาก็เป็นคนที่เก่งกาจมากทั้งในด้านคำพูดและการกระทำต่างๆ
- กิจการ 7:23 - เมื่อโมเสสมีอายุได้สี่สิบปี เขาตัดสินใจไปเยี่ยมเยียนพี่น้องชาวอิสราเอลของเขา
- กิจการ 7:24 - เมื่อเขาเห็นชาวอิสราเอลคนหนึ่งถูกชาวอียิปต์คนหนึ่งรังแก เขาก็เข้าไปช่วยและได้ฆ่าชายชาวอียิปต์คนนั้นเป็นการแก้แค้น
- กิจการ 7:25 - โมเสสคิดว่าพี่น้องชาวอิสราเอลคงรู้แล้วว่าพระเจ้าจะใช้เขามาปลดปล่อยให้พวกเขาเป็นอิสระ แต่กลายเป็นว่าชาวอิสราเอลไม่รู้เรื่องเลย
- กิจการ 7:26 - พอวันรุ่งขึ้นโมเสสผ่านมาเห็นชาวอิสราเอลสองคนกำลังทะเลาะกัน เขาพยายามเข้าไปไกล่เกลี่ยให้คืนดีกัน โดยพูดว่า ‘นี่ คุณเป็นพี่น้องกัน ทำไมถึงทำร้ายกันล่ะ’
- กิจการ 7:27 - แต่ชายคนที่ทำร้ายเพื่อนบ้านของตนได้ผลักโมเสสออกไป แล้วพูดว่า ‘ใครตั้งให้แกเป็นผู้ปกครองและผู้ตัดสินเรา
- กิจการ 7:28 - แกจะฆ่าเราเหมือนที่ฆ่าคนอียิปต์เมื่อวานนี้หรือ’
- กิจการ 7:29 - เมื่อโมเสสได้ยินอย่างนั้น ก็หนีไปอาศัยอยู่ในดินแดนมีเดียนในฐานะคนต่างชาติ และเขาก็มีลูกชายสองคนที่นั่น
- กิจการ 7:30 - สี่สิบปีผ่านไป ทูตสวรรค์มาปรากฏให้โมเสสเห็นในเปลวไฟที่ลุกอยู่ในพุ่มไม้ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง ใกล้ภูเขาซีนาย
- กิจการ 7:31 - เมื่อโมเสสเห็นก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อจะได้เห็นชัดๆก็ได้ยินเสียงขององค์เจ้าชีวิตพูดว่า
- กิจการ 7:32 - ‘เราคือพระเจ้าของบรรพบุรุษของเจ้า พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ’ โมเสสกลัวจนตัวสั่นไม่กล้ามองที่พุ่มไม้
- กิจการ 7:33 - แล้วองค์เจ้าชีวิต พูดกับโมเสสอีกว่า ‘ถอดรองเท้า เพราะที่ที่เจ้ายืนอยู่นี้เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์
- กิจการ 7:34 - เราได้เห็นชาวอียิปต์ข่มเหงประชาชนของเรา และได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญของพวกเขา เราจึงลงมาเพื่อปลดปล่อยให้พวกเขาเป็นอิสระ มาสิ เราจะส่งเจ้าไปอียิปต์’
- กิจการ 7:35 - โมเสสคนนี้แหละที่ถูกชาวอิสราเอลพูดตอกหน้ามาว่า ‘ใครตั้งแกให้เป็นผู้ปกครองและผู้ตัดสินเรา’ เขาเป็นคนที่พระเจ้าส่งมาให้เป็นผู้ปกครองและผู้ช่วยชีวิตชาวอิสราเอล โดยพระเจ้าได้พูดผ่านทางทูตสวรรค์ที่ได้มาปรากฏให้เขาเห็นในพุ่มไม้ไฟ
- กิจการ 7:36 - โมเสสคือคนที่นำชาวอิสราเอลออกมา เขาทำสิ่งอัศจรรย์และปาฏิหาริย์ต่างๆในดินแดนอียิปต์ที่ทะเลแดง และในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งเป็นเวลาถึงสี่สิบปี
- กิจการ 7:37 - เขาคือโมเสสคนนั้นที่พูดกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘พระเจ้าจะส่งผู้พูดแทนพระเจ้าเหมือนอย่างผมให้กับท่านทั้งหลาย ผู้พูดแทนพระเจ้าคนนี้จะมาจากท่ามกลางพี่น้องของท่าน’
- กิจการ 7:38 - เขาคือโมเสสคนนั้นที่อยู่กับหมู่ชนชาวอิสราเอลในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง เขาอยู่กับบรรพบุรุษของเราและอยู่กับทูตสวรรค์ที่พูดกับเขาบนภูเขาซีนาย เขาเป็นคนรับถ้อยคำแห่งชีวิตของพระเจ้ามาให้เรา
- กิจการ 7:39 - แต่บรรพบุรุษของเราไม่ยอมเชื่อฟังเขา และไม่ยอมรับเขา ในจิตใจบรรพบุรุษเราคิดแต่จะกลับไปอียิปต์
- กิจการ 7:40 - พวกเขาพูดกับอาโรนว่า ‘ช่วยสร้างพวกเทพเจ้าให้มานำทางเราด้วย เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโมเสสคนที่นำเราออกมาจากอียิปต์’
- กิจการ 7:41 - ในเวลานั้นพวกเขาปั้นรูปลูกวัวขึ้นมา และเซ่นไหว้รูปปั้นนั้น พวกเขาเฉลิมฉลองสิ่งที่พวกเขาปั้นขึ้นมากับมือ
- กิจการ 7:42 - แต่พระเจ้าหันหน้าหนีพวกเขา และพระองค์ปล่อยให้พวกเขากราบไหว้หมู่ดาวในท้องฟ้าตามที่มีเขียนไว้แล้วในหนังสือของผู้พูดแทนพระเจ้าว่า ‘ประชาชนชาวอิสราเอลทั้งหลาย สัตว์ที่พวกเจ้าฆ่าแล้วเอามาบูชายัญในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งเป็นเวลาถึงสี่สิบปีนั้น พวกเจ้าไม่ได้บูชาให้กับเราหรอก
- กิจการ 7:43 - พวกเจ้าแบกเต็นท์ของพระโมเลค และเอาดวงดาวของเทพเจ้าเรฟานของพวกเจ้ามาด้วย ของพวกนี้เป็นรูปบูชาที่พวกเจ้าทำขึ้นมากราบไหว้ ดังนั้นเราจะส่งพวกเจ้าให้ไปเป็นเชลยไกลพ้นเมืองบาบิโลนไปอีก’
- กิจการ 7:44 - บรรพบุรุษของพวกเราในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งมีเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย ซึ่งเป็นเต็นท์ที่พระเจ้าบอกให้โมเสสทำขึ้นตามแบบที่พระองค์แสดงให้เขาเห็น
- กิจการ 7:45 - เมื่อบรรพบุรุษของเราได้เต็นท์มา ก็นำเข้าไปไว้ในดินแดนที่บรรพบุรุษของเราได้ยึดครองมาจากชนชาติต่างๆที่พระเจ้าได้ขับไล่ออกไปต่อหน้าบรรพบุรุษของเราโดยการนำของโยชูวา และเต็นท์นี้ก็ได้อยู่ที่นั่นเรื่อยมาจนถึงสมัยของกษัตริย์ดาวิด
- กิจการ 7:46 - พระเจ้าชอบใจดาวิดมาก ดาวิดขอสร้างบ้านให้กับพระเจ้าของยาโคบ
- กิจการ 7:47 - แต่กลับกลายเป็นซาโลมอนที่สร้างบ้านให้พระองค์
- กิจการ 7:48 - อย่างไรก็ตาม องค์ผู้สูงสุดไม่ได้อยู่ในบ้านที่สร้างด้วยมือของมนุษย์หรอก เหมือนกับที่ผู้พูดแทนพระเจ้า พูดไว้ว่า
- กิจการ 7:49 - ‘สวรรค์เป็นบัลลังก์ของเรา และโลกคือแท่นรองเท้าของเรา องค์เจ้าชีวิตถามว่า แล้วพวกเจ้าจะสร้างบ้านแบบไหนให้กับเราล่ะ หรือจะให้เราพักผ่อนที่ไหนล่ะ
- กิจการ 7:50 - ไม่ใช่มือเราหรอกหรือที่สร้างสรรพสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา’
- กิจการ 7:51 - พวกคุณหัวแข็ง ใจแข็งกระด้างและดื้อดึง พวกคุณได้แต่ต่อต้านพระวิญญาณบริสุทธิ์เหมือนกับบรรพบุรุษของคุณ
- กิจการ 7:52 - มีผู้พูดแทนพระเจ้าคนไหนบ้าง ที่บรรพบุรุษของคุณไม่ได้ข่มเหง พวกเขาฆ่าแม้กระทั่งคนพวกนั้นที่นานมาแล้วได้ประกาศถึงการมาขององค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ และตอนนี้พวกคุณก็ได้ทรยศและฆ่าพระองค์แล้ว
- กิจการ 7:53 - พวกคุณนั่นแหละ เป็นพวกที่ได้รับกฎปฏิบัติที่พวกทูตสวรรค์นำมา แต่พวกคุณก็ไม่ยอมเชื่อฟังกฎนั้น”
- กิจการ 7:55 - แต่สเทเฟนเต็มไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขามองขึ้นบนท้องฟ้า และได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า และเห็นพระเยซูยืนอยู่ด้านขวาของพระองค์
- อพยพ 4:11 - พระยาห์เวห์พูดกับเขาว่า “ใครเป็นผู้ให้ปากกับมนุษย์ ใครทำให้มนุษย์เป็นใบ้ หูหนวก พิการหรือตาบอด เป็นเรายาห์เวห์ไม่ใช่หรือ
- กิจการ 6:10 - แต่พวกเขาเถียงสู้สเทเฟนไม่ได้ เพราะสเทเฟนพูดด้วยสติปัญญาที่มาจากพระวิญญาณ
- กิจการ 4:8 - แล้วพระวิญญาณบริสุทธิ์ดลใจเปโตรให้พูดกับพวกเขาว่า “ท่านผู้นำประชาชนและท่านผู้อาวุโส
- ลูกา 21:15 - เพราะเราจะให้สติปัญญาและคำพูดที่เฉียบคมกับคุณ เมื่อศัตรูของคุณฟังแล้ว จะไม่มีทางคัดค้านหรือโต้แย้งได้เลย
- มัทธิว 10:20 - จริงๆแล้ว คนที่พูดจะไม่ใช่ตัวพวกคุณ แต่เป็นพระวิญญาณของพระบิดาพูดผ่านทางคุณ