逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เมื่อเขาพบแล้วก็แบกแกะนั้นใส่บ่าด้วยความชื่นชมยินดี
- 新标点和合本 - 找着了,就欢欢喜喜地扛在肩上,回到家里,
- 和合本2010(上帝版-简体) - 找到了,他就欢欢喜喜地把羊扛在肩上。
- 和合本2010(神版-简体) - 找到了,他就欢欢喜喜地把羊扛在肩上。
- 当代译本 - 他找到后,会欢欢喜喜地把那只羊扛回家,
- 圣经新译本 - 既找着了,就欢欢喜喜地放在肩上,
- 中文标准译本 - 一旦找到了,他就快快乐乐地扛在自己的肩上,
- 现代标点和合本 - 找着了,就欢欢喜喜地扛在肩上,回到家里,
- 和合本(拼音版) - 找着了,就欢欢喜喜地扛在肩上,回到家里,
- New International Version - And when he finds it, he joyfully puts it on his shoulders
- New International Reader's Version - When he finds it, he will joyfully put it on his shoulders
- English Standard Version - And when he has found it, he lays it on his shoulders, rejoicing.
- New Living Translation - And when he has found it, he will joyfully carry it home on his shoulders.
- Christian Standard Bible - When he has found it, he joyfully puts it on his shoulders,
- New American Standard Bible - And when he has found it, he puts it on his shoulders, rejoicing.
- New King James Version - And when he has found it, he lays it on his shoulders, rejoicing.
- Amplified Bible - And when he has found it, he lays it on his shoulders, rejoicing.
- American Standard Version - And when he hath found it, he layeth it on his shoulders, rejoicing.
- King James Version - And when he hath found it, he layeth it on his shoulders, rejoicing.
- New English Translation - Then when he has found it, he places it on his shoulders, rejoicing.
- World English Bible - When he has found it, he carries it on his shoulders, rejoicing.
- 新標點和合本 - 找着了,就歡歡喜喜地扛在肩上,回到家裏,
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 找到了,他就歡歡喜喜地把羊扛在肩上。
- 和合本2010(神版-繁體) - 找到了,他就歡歡喜喜地把羊扛在肩上。
- 當代譯本 - 他找到後,會歡歡喜喜地把那隻羊扛回家,
- 聖經新譯本 - 既找著了,就歡歡喜喜地放在肩上,
- 呂振中譯本 - 找着了,就擱在肩膀上,直歡喜。
- 中文標準譯本 - 一旦找到了,他就快快樂樂地扛在自己的肩上,
- 現代標點和合本 - 找著了,就歡歡喜喜地扛在肩上,回到家裡,
- 文理和合譯本 - 獲之則喜、負於肩、
- 文理委辦譯本 - 獲則喜、肩之以歸、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 得之則喜、負於肩、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 既獲、則忻然肩之而歸、
- Nueva Versión Internacional - Y, cuando la encuentra, lleno de alegría la carga en los hombros
- 현대인의 성경 - 그러다가 찾으면 기뻐서 양을 어깨에 메고
- Новый Русский Перевод - И когда он найдет ее, то с радостью возьмет к себе на плечи.
- Восточный перевод - И когда он найдёт её, то с радостью возьмёт к себе на плечи.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - И когда он найдёт её, то с радостью возьмёт к себе на плечи.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - И когда он найдёт её, то с радостью возьмёт к себе на плечи.
- La Bible du Semeur 2015 - Et quand il l’a retrouvée, avec quelle joie il la charge sur ses épaules pour la ramener !
- リビングバイブル - そして、見つかったら、大喜びで羊を肩にかつぎ上げ、
- Nestle Aland 28 - καὶ εὑρὼν ἐπιτίθησιν ἐπὶ τοὺς ὤμους αὐτοῦ χαίρων
- unfoldingWord® Greek New Testament - καὶ εὑρὼν, ἐπιτίθησιν ἐπὶ τοὺς ὤμους αὐτοῦ χαίρων.
- Nova Versão Internacional - E quando a encontra, coloca-a alegremente nos ombros
- Hoffnung für alle - Wenn er es dann findet, nimmt er es voller Freude auf seine Schultern
- Kinh Thánh Hiện Đại - Khi tìm được, người ấy vui mừng vác nó lên vai về nhà,
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เมื่อพบแล้วก็จะเอามันพาดบ่าด้วยความชื่นชมยินดี
交叉引用
- อิสยาห์ 62:5 - บรรดาบุตรชายของเจ้า จะแต่งงานกับเจ้า เหมือนชายหนุ่มแต่งงานกับหญิงสาว พระเจ้าจะทรงปลื้มปีติในตัวเจ้า เหมือนเจ้าบ่าวชื่นชมในตัวเจ้าสาว
- ลูกา 15:32 - แต่ที่เราต้องเฉลิมฉลองและยินดีกัน เพราะน้องคนนี้ของเจ้าได้ตายไปแล้วและกลับเป็นขึ้นมาอีก เขาหายไปแล้วและได้พบกันอีก’ ”
- ฮีบรู 12:2 - ให้เราเพ่งมองที่พระเยซูผู้ทรงลิขิตความเชื่อและทรงทำให้ความเชื่อของเราสมบูรณ์ พระองค์ทรงทนรับกางเขนและไม่ใส่พระทัยในความอัปยศของไม้กางเขนเพราะเห็นแก่ความชื่นชมยินดีที่อยู่เบื้องหน้า และพระองค์ได้ประทับที่เบื้องขวาพระที่นั่งของพระเจ้า
- อิสยาห์ 63:9 - พระองค์ทรงทุกข์พระทัยในความทุกข์ใจทั้งสิ้นของพวกเขา และทูตสวรรค์ที่อยู่ต่อหน้าพระองค์ก็ช่วยพวกเขาให้รอด พระองค์ทรงไถ่พวกเขาด้วยความรักและความเมตตา พระองค์ทรงยกพวกเขาขึ้นและอุ้มพวกเขาไว้ ตลอดวันคืนในสมัยก่อน
- เยเรมีย์ 32:41 - เราจะชื่นชมยินดีที่ได้ทำดีต่อเขา และจะปลูกเขาไว้ในดินแดนนี้ด้วยสุดจิตสุดใจของเราอย่างแน่นอน
- เยเรมีย์ 32:42 - “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า เช่นเดียวกับที่เราได้นำหายนะร้ายแรงทั้งปวงมาเหนือชนชาตินี้ เราก็จะอำนวยความเจริญรุ่งเรืองทั้งปวงที่เราสัญญาไว้กับพวกเขา
- เอเฟซัส 3:7 - ข้าพเจ้าได้เป็นผู้รับใช้แห่งข่าวประเสริฐนี้โดยพระคุณซึ่งพระเจ้าประทานแก่ข้าพเจ้าผ่านทางการทำงานของฤทธิ์อำนาจของพระองค์
- เอเสเคียล 33:11 - จงบอกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่าเรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราไม่อยากให้คนชั่วต้องตายฉันนั้น แต่อยากให้เขาหันกลับจากทางชั่วและมีชีวิตอยู่ จงหันเสียจากทางชั่วเถิด! จะตายทำไมเล่า พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย?’
- ลูกา 15:23 - จงนำลูกวัวขุนมาฆ่า ให้เราจัดงานเลี้ยงฉลอง
- ลูกา 15:24 - เพราะบุตรชายคนนี้ของเราได้ตายไปแล้วและกลับเป็นขึ้นมาอีก เขาหายไปแล้วและได้พบกันอีก’ ดังนั้นเขาทั้งหลายจึงเริ่มเฉลิมฉลองกัน
- กิจการของอัครทูต 9:1 - ขณะเดียวกันเซาโลยังข่มขู่จะเข่นฆ่าสาวกขององค์พระผู้เป็นเจ้า เซาโลเข้าพบมหาปุโรหิต
- กิจการของอัครทูต 9:2 - และขอจดหมายถึงธรรมศาลาต่างๆ ในเมืองดามัสกัสเพื่อว่าถ้าเขาพบใครก็ตามที่ถือ “ทางนั้น” ไม่ว่าชายหรือหญิงจะได้คุมตัวเป็นนักโทษมายังกรุงเยรูซาเล็ม
- กิจการของอัครทูต 9:3 - เมื่อเขาเดินทางมาเกือบถึงเมืองดามัสกัส ทันใดนั้นมีแสงสว่างจากฟ้าสวรรค์ส่องแวบวาบรอบตัวเซาโล
- กิจการของอัครทูต 9:4 - เขาล้มลงกับพื้นและได้ยินพระสุรเสียงตรัสกับเขาว่า “เซาโล เซาโลเอ๋ย เจ้าข่มเหงเราทำไม?”
- กิจการของอัครทูต 9:5 - เซาโลถามว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงเป็นผู้ใด?” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราคือเยซูผู้ที่เจ้ากำลังข่มเหง
- กิจการของอัครทูต 9:6 - บัดนี้จงลุกขึ้นเข้าไปในเมืองและจะมีผู้บอกให้เจ้ารู้ว่าเจ้าต้องทำประการใด”
- กิจการของอัครทูต 9:7 - ผู้คนที่ร่วมทางมากับเซาโลยืนนิ่งพูดไม่ออก พวกเขาได้ยินเสียงนั้นแต่ไม่เห็นใคร
- กิจการของอัครทูต 9:8 - เซาโลลุกขึ้นจากพื้นแต่เมื่อเขาลืมตาก็มองอะไรไม่เห็น ดังนั้นพวกเขาจึงจูงมือเซาโลเข้าเมืองดามัสกัส
- กิจการของอัครทูต 9:9 - เซาโลตาบอดและไม่ได้กินดื่มอะไรเลยเป็นเวลาสามวัน
- กิจการของอัครทูต 9:10 - ในเมืองดามัสกัสมีสาวกคนหนึ่งชื่ออานาเนีย องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเรียกเขาในนิมิตว่า “อานาเนียเอ๋ย!” เขาทูลว่า “พระเจ้าข้า”
- กิจการของอัครทูต 9:11 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสบอกเขาว่า “จงไปที่บ้านยูดาสบนถนนที่เรียกว่าถนนตรง แล้วถามหาคนชื่อเซาโลจากเมืองทาร์ซัส เพราะเขากำลังอธิษฐานอยู่
- กิจการของอัครทูต 9:12 - และในนิมิตเขาเห็นคนหนึ่งชื่ออานาเนียมาวางมือบนเขาเพื่อให้สายตาของเขากลับเป็นปกติ”
- กิจการของอัครทูต 9:13 - อานาเนียทูลตอบว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์ได้ยินมามากมายเกี่ยวกับคนนี้และการร้ายสารพัดที่เขาได้ทำต่อประชากรของพระองค์ในกรุงเยรูซาเล็ม
- กิจการของอัครทูต 9:14 - และเขาก็มาที่นี่พร้อมด้วยสิทธิอำนาจจากหัวหน้าปุโรหิตเพื่อจับกุมคนทั้งปวงที่ร้องออกพระนามของพระองค์”
- กิจการของอัครทูต 9:15 - แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับอานาเนียว่า “ไปเถิด! ชายผู้นี้คืออุปกรณ์ที่เราได้เลือกสรรไว้เพื่อนำนามของเราไปยังคนต่างชาติและบรรดากษัตริย์ของพวกเขาตลอดจนประชากรอิสราเอล
- กิจการของอัครทูต 9:16 - เราจะแสดงให้เขาเห็นว่าเขาต้องทนทุกข์มากมายเพียงใดเพื่อนามของเรา”
- ทิตัส 3:3 - ครั้งหนึ่งเราเองก็โง่เขลา ไม่เชื่อฟัง หลงผิด ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหาและความสนุกบันเทิงทุกชนิด เราใช้ชีวิตแบบเลวร้าย อิจฉา เป็นที่ชิงชังและเกลียดชังกันและกัน
- ทิตัส 3:4 - แต่เมื่อพระกรุณาและความรักของพระเจ้าองค์พระผู้ช่วยให้รอดของเราปรากฏ
- ทิตัส 3:5 - พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดไม่ใช่เพราะความชอบธรรมที่เราได้ทำ แต่เพราะพระเมตตาของพระองค์ พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดผ่านทางการชำระแห่งการบังเกิดใหม่ และการทรงสร้างขึ้นใหม่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์
- ทิตัส 3:6 - พระเจ้าทรงเทพระวิญญาณบริสุทธิ์นี้ลงมาบนเราอย่างล้นเหลือผ่านทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา
- ทิตัส 3:7 - เพื่อว่าเมื่อเราถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมโดยพระคุณของพระองค์แล้ว เราก็จะกลายเป็นทายาท มีความหวังในชีวิตนิรันดร์
- อิสยาห์ 62:12 - พวกเขาจะได้ชื่อว่า “ประชากรผู้บริสุทธิ์” และ “ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงไถ่ไว้” และเจ้าจะได้ชื่อว่า “เป็นที่ใฝ่หา” และ “นครที่ไม่ถูกทอดทิ้งอีกต่อไป”
- เอเฟซัส 2:10 - เพราะเราทั้งหลายเป็นผลงานของพระเจ้าซึ่งทรงสร้างในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดีที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าให้เราทำ
- ยอห์น 15:11 - เราบอกท่านไว้เช่นนี้เพื่อว่าความชื่นชมยินดีของเราจะอยู่ในพวกท่าน และเพื่อว่าความชื่นชมยินดีของพวกท่านจะเต็มบริบูรณ์
- 2ทิโมธี 2:26 - และโดยหวังว่าคนเหล่านี้จะได้สติและหลุดพ้นจากกับดักของมารซึ่งได้จับพวกเขาไว้เป็นเชลยให้ทำตามความประสงค์ของมัน
- โรม 10:20 - และอิสยาห์กล้ากล่าวว่า “บรรดาผู้ที่ไม่ได้แสวงหาเราก็พบเรา เราสำแดงตนเองแก่บรรดาผู้ที่ไม่ได้เรียกหาเรา”
- โรม 10:21 - แต่ท่านกล่าวถึงพวกอิสราเอลว่า “ตลอดวันเราได้ยื่นมือออก ให้แก่ชนชาติที่ไม่เชื่อฟังและดื้อด้าน”
- ลูกา 23:43 - พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า วันนี้ท่านจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม” ( มธ.27:45-56 ; มก.15:33-41 )
- เศฟันยาห์ 3:17 - พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าสถิตกับเจ้า พระองค์ทรงฤทธิ์อำนาจที่จะช่วยเจ้า พระองค์จะทรงปิติยินดีในตัวเจ้า จะทรงปลอบเจ้าด้วยความรักของพระองค์ และจะทรงร้องเพลงเพราะชื่นชมยินดีในตัวเจ้า”
- เอเฟซัส 1:19 - และรู้ถึงฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่สุดหาใดเทียบสำหรับเราทั้งหลายที่เชื่อ ฤทธานุภาพนี้เป็นเหมือนพระราชกิจแห่งพลังอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
- เอเฟซัส 1:20 - ซึ่งทรงกระทำในพระคริสต์เมื่อทรงให้พระคริสต์เป็นขึ้นจากตาย และให้ประทับเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ในสวรรคสถาน
- ยอห์น 4:34 - พระเยซูตรัสว่า “อาหารของเราคือการทำตามพระประสงค์ของพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา และทำพระราชกิจของพระองค์ให้สำเร็จ
- ยอห์น 4:35 - ท่านพูดไม่ใช่หรือว่าอีกสี่เดือนก็จะถึงฤดูเก็บเกี่ยว? เราบอกท่านว่าจงลืมตาดูท้องนาเถิด! ข้าวสุกพร้อมจะเก็บเกี่ยวแล้ว
- 1เธสะโลนิกา 1:5 - เพราะข่าวประเสริฐของเรามาถึงท่านไม่ใช่เพียงด้วยถ้อยคำเท่านั้น แต่ด้วยฤทธิ์อำนาจ ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยความเชื่อมั่นอันลึกซึ้ง ท่านทราบว่าเราใช้ชีวิตอย่างไรในหมู่พวกท่านเพื่อเห็นแก่ท่าน
- 1เปโตร 1:5 - โดยความเชื่อพระเจ้าได้ทรงปกป้องพวกท่านไว้ด้วยฤทธานุภาพของพระองค์จนถึงความรอดซึ่งพร้อมแล้วที่จะทรงสำแดงในยุคสุดท้าย
- มีคาห์ 5:4 - เขาจะยืนหยัดเลี้ยงดูฝูงแกะของเขา โดยกำลังขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยบารมีแห่งพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา และพวกเขาจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่นคงปลอดภัย เพราะความยิ่งใหญ่ของเขาผู้นั้นจะแผ่ถึงสุดปลายแผ่นดินโลก
- อิสยาห์ 40:10 - ดูเถิด พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตเสด็จมาด้วยฤทธิ์อำนาจ พระกรของพระองค์ครอบครองเพื่อพระองค์ ดูเถิด บำเหน็จรางวัลของพระองค์ก็อยู่ที่พระองค์ และพระองค์ทรงนำค่าตอบแทนของพระองค์มาด้วย
- อิสยาห์ 40:11 - พระองค์ทรงเลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์ดั่งคนเลี้ยงแกะ พระองค์ทรงรวบรวมบรรดาลูกแกะไว้ในอ้อมพระกร โอบอุ้มไว้แนบพระทรวง พระองค์ทรงนำแม่แกะที่มีลูกอย่างอ่อนสุภาพ
- ลูกา 19:9 - พระเยซูตรัสกับเขาว่า “วันนี้ความรอดมาถึงบ้านนี้แล้ว เพราะชายผู้นี้ก็เป็นบุตรของอับราฮัมด้วย
- เอเฟซัส 2:3 - ครั้งหนึ่งเราเคยใช้ชีวิตร่วมกับพวกนั้นบำเรอตัณหาแห่งวิสัยบาปของเรา สนองความอยากกับความคิดของมันตามวิสัย เราจึงควรแก่พระพิโรธเหมือนคนอื่น
- เอเฟซัส 2:4 - แต่เนื่องด้วยความรักใหญ่หลวงที่ทรงมีต่อเรา พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระเมตตาอันอุดม
- เอเฟซัส 2:5 - จึงทรงให้เรามีชีวิตอยู่กับพระคริสต์แม้เมื่อเราได้ตายแล้วในบาป คือท่านทั้งหลายได้รับความรอดโดยพระคุณ
- เอเฟซัส 2:6 - และพระองค์ทรงให้เราเป็นขึ้นมากับพระคริสต์ และในพระเยซูคริสต์ พระเจ้าทรงให้เรานั่งในสวรรคสถานกับพระคริสต์
- อิสยาห์ 46:3 - “วงศ์วานยาโคบเอ๋ย จงฟังเรา วงศ์วานอิสราเอลทั้งปวงที่ยังเหลือรอดชีวิตอยู่ ผู้ซึ่งเราได้อุ้มชูไว้ตั้งแต่ปฏิสนธิ และฟูมฟักมาตั้งแต่เจ้าเกิด
- อิสยาห์ 46:4 - จนกระทั่งเจ้าเข้าสู่วัยชราผมหงอก เราคือผู้นั้น ผู้ซึ่งจะค้ำจุนเจ้า เราได้สร้างเจ้าและจะฟูมฟักเจ้า เราจะอุ้มชูและช่วยเจ้าให้รอด
- อิสยาห์ 53:10 - ถึงกระนั้นก็เป็นพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่จะบดขยี้และทำให้เขาทุกข์ทรมาน และถึงแม้พระองค์ทรงใช้ ชีวิตของเขาเป็นเครื่องบูชาลบความผิด แต่เขาจะเห็นวงศ์วานของตนและวันคืนของเขายาวนาน พระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะเจริญรุ่งเรืองในมือของเขา
- อิสยาห์ 53:11 - หลังจากที่ชีวิตจิตใจของเขาต้องทุกข์ทรมานแล้ว เขาจะได้เห็นแสงสว่างแห่งชีวิต และเขาจะพึงพอใจ โดยความรู้ของเขา คือผู้รับใช้ที่ชอบธรรมของเราจะทำให้คนเป็นอันมากกลายเป็นผู้ชอบธรรม และเขาจะแบกความชั่วช้าของคนเหล่านั้น
- เอเสเคียล 18:23 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า เราพึงพอใจในความตายของคนชั่วร้ายหรือ? เราไม่ยินดีมากกว่าหรือเมื่อเขาหันจากทางชั่วของตนและมีชีวิตอยู่?
- มีคาห์ 7:18 - ผู้ใดเป็นพระเจ้าเสมอเหมือนพระองค์ ผู้ทรงยกบาปและอภัยการล่วงละเมิดของชนหยิบมือที่เหลือ อันเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์? พระองค์ไม่ได้ทรงพระพิโรธอยู่เนืองนิตย์ แต่ทรงปีติยินดีที่จะแสดงพระเมตตา