逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - อาสาเป็นบิดาของเยโฮชาฟัท เยโฮชาฟัทเป็นบิดาของเยโฮรัม เยโฮรัมเป็นบิดาของอุสซียาห์
- 新标点和合本 - 亚撒生约沙法;约沙法生约兰;约兰生乌西亚;
- 和合本2010(上帝版-简体) - 亚撒生约沙法,约沙法生约兰,约兰生乌西雅,
- 和合本2010(神版-简体) - 亚撒生约沙法,约沙法生约兰,约兰生乌西雅,
- 当代译本 - 亚撒生约沙法, 约沙法生约兰, 约兰生乌西雅,
- 圣经新译本 - 亚撒生约沙法,约沙法生约兰,约兰生乌西雅,
- 中文标准译本 - 亚撒生约沙法, 约沙法生约兰, 约兰生乌西亚,
- 现代标点和合本 - 亚撒生约沙法,约沙法生约兰,约兰生乌西亚,
- 和合本(拼音版) - 亚撒生约沙法,约沙法生约兰,约兰生乌西亚;
- New International Version - Asa the father of Jehoshaphat, Jehoshaphat the father of Jehoram, Jehoram the father of Uzziah,
- New International Reader's Version - Asa was the father of Jehoshaphat. Jehoshaphat was the father of Jehoram. Jehoram was the father of Uzziah.
- English Standard Version - and Asaph the father of Jehoshaphat, and Jehoshaphat the father of Joram, and Joram the father of Uzziah,
- New Living Translation - Asa was the father of Jehoshaphat. Jehoshaphat was the father of Jehoram. Jehoram was the father of Uzziah.
- Christian Standard Bible - Asa fathered Jehoshaphat, Jehoshaphat fathered Joram, Joram fathered Uzziah,
- New American Standard Bible - Asa fathered Jehoshaphat, Jehoshaphat fathered Joram, and Joram fathered Uzziah.
- New King James Version - Asa begot Jehoshaphat, Jehoshaphat begot Joram, and Joram begot Uzziah.
- Amplified Bible - Asa was the father of Jehoshaphat, Jehoshaphat the father of Joram, and Joram the father of Uzziah.
- American Standard Version - and Asa begat Jehoshaphat; and Jehoshaphat begat Joram; and Joram begat Uzziah;
- King James Version - And Asa begat Josaphat; and Josaphat begat Joram; and Joram begat Ozias;
- New English Translation - Asa the father of Jehoshaphat, Jehoshaphat the father of Joram, Joram the father of Uzziah,
- World English Bible - Asa became the father of Jehoshaphat. Jehoshaphat became the father of Joram. Joram became the father of Uzziah.
- 新標點和合本 - 亞撒生約沙法;約沙法生約蘭;約蘭生烏西雅;
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 亞撒生約沙法,約沙法生約蘭,約蘭生烏西雅,
- 和合本2010(神版-繁體) - 亞撒生約沙法,約沙法生約蘭,約蘭生烏西雅,
- 當代譯本 - 亞撒生約沙法, 約沙法生約蘭, 約蘭生烏西雅,
- 聖經新譯本 - 亞撒生約沙法,約沙法生約蘭,約蘭生烏西雅,
- 呂振中譯本 - 亞撒 生 約沙法 ; 約沙法 生 約蘭 ; 約蘭 生 烏西雅 ;
- 中文標準譯本 - 亞撒生約沙法, 約沙法生約蘭, 約蘭生烏西亞,
- 現代標點和合本 - 亞撒生約沙法,約沙法生約蘭,約蘭生烏西亞,
- 文理和合譯本 - 亞撒生約沙法、約沙法生約蘭、約蘭生烏西亞、
- 文理委辦譯本 - 亞撒生約沙法、約沙法生約蘭、約蘭生烏西亞、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 亞撒 生 約沙法 、 約沙法 生 約蘭 、 約蘭 生 烏西雅 、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 阿撒 生 若撒法 、 若撒法 生 若蘭 、 若蘭 生 哈西亞 、
- Nueva Versión Internacional - Asá, padre de Josafat; Josafat, padre de Jorán; Jorán, padre de Uzías;
- 현대인의 성경 - 아사는 여호사밧을, 여호사밧은 요람을, 요람은 웃시야를 낳았다.
- Новый Русский Перевод - Аса – отцом Иосафата, Иосафат – отцом Иорама, Иорам – отцом Уззии,
- Восточный перевод - Аса – отцом Иосафата, Иосафат – отцом Иорама, Иорам – отцом Уззии,
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Аса – отцом Иосафата, Иосафат – отцом Иорама, Иорам – отцом Уззии,
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Осо – отцом Иосафата, Иосафат – отцом Иорама, Иорам – отцом Уззии,
- La Bible du Semeur 2015 - Asa eut pour descendant Josaphat. Josaphat eut pour descendant Yoram. Yoram eut pour descendant Ozias.
- リビングバイブル - アサはヨサパテの父、ヨサパテはヨラムの父、ヨラムはウジヤの父です。
- Nestle Aland 28 - Ἀσὰφ δὲ ἐγέννησεν τὸν Ἰωσαφάτ, Ἰωσαφὰτ δὲ ἐγέννησεν τὸν Ἰωράμ, Ἰωρὰμ δὲ ἐγέννησεν τὸν Ὀζίαν,
- unfoldingWord® Greek New Testament - Ἀσὰφ δὲ ἐγέννησεν τὸν Ἰωσαφάτ, Ἰωσαφὰτ δὲ ἐγέννησεν τὸν Ἰωράμ, Ἰωρὰμ δὲ ἐγέννησεν τὸν Ὀζείαν,
- Nova Versão Internacional - Asa gerou Josafá; Josafá gerou Jorão; Jorão gerou Uzias;
- Hoffnung für alle - Joschafat, Joram, Usija,
- Kinh Thánh Hiện Đại - A-sa sinh Giô-sa-phát. Giô-sa-phát sinh Giô-ram. Giô-ram sinh Ô-xia
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - อาสาเป็นบิดาของเยโฮชาฟัท เยโฮชาฟัทเป็นบิดาของเยโฮรัม เยโฮรัมเป็นบิดาของอุสซียาห์
交叉引用
- 2พงศาวดาร 21:1 - เยโฮชาฟัททรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและถูกฝังไว้ด้วยกันในเมืองดาวิด แล้วเยโฮรัมโอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน
- 2พงศ์กษัตริย์ 14:21 - แล้วชาวยูดาห์แต่งตั้งอาซาริยาห์ ผู้มีพระชนมายุสิบหกพรรษาขึ้นเป็นกษัตริย์แทนอามาซิยาห์ราชบิดา
- 2พงศาวดาร 26:1 - แล้วชาวยูดาห์ทั้งปวงก็แต่งตั้งอุสซียาห์ ผู้มีพระชนมายุสิบหกพรรษา ขึ้นเป็นกษัตริย์แทนอามาซิยาห์ราชบิดา
- 2พงศาวดาร 26:2 - หลังจากอามาซิยาห์ทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ อุสซียาห์ทรงสร้างเมืองเอลัทขึ้นใหม่และกู้คืนมาเป็นของยูดาห์
- 2พงศาวดาร 26:3 - เมื่ออุสซียาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์ทรงมีพระชนมายุสิบหกพรรษา และทรงครองราชย์อยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม 52 ปี ราชมารดาคือเยโคลียาห์จากเยรูซาเล็ม
- 2พงศาวดาร 26:4 - อุสซียาห์ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับอามาซิยาห์ราชบิดา
- 2พงศาวดาร 26:5 - พระองค์ทรงแสวงหาพระเจ้าตลอดชั่วอายุของเศคาริยาห์ผู้อบรมสั่งสอนให้ทรงยำเกรงพระเจ้า และตราบเท่าที่พระองค์ทรงแสวงหาพระยาห์เวห์ พระเจ้าก็ประทานความสำเร็จให้กับพระองค์
- 2พงศาวดาร 26:6 - อุสซียาห์ทรงรบกับชาวฟีลิสเตีย ทรงทลายกำแพงเมืองกัท ยับเนห์ และอัชโดด จากนั้นทรงสร้างเมืองต่างๆ ในย่านอัชโดด และในภูมิภาคอื่นๆ ของฟีลิสเตีย
- 2พงศาวดาร 26:7 - พระเจ้าทรงช่วยอุสซียาห์ในการรบกับชาวฟีลิสเตีย ชาวอาหรับซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองกูร์บาอัล และชาวเมอูนี
- 2พงศาวดาร 26:8 - ชาวอัมโมนมาถวายเครื่องบรรณาการแด่อุสซียาห์ และกิตติศัพท์ของพระองค์เลื่องลือไปถึงอียิปต์ เพราะทรงมีอำนาจมาก
- 2พงศาวดาร 26:9 - อุสซียาห์ทรงสร้างหอคอยในกรุงเยรูซาเล็มที่ประตูมุม ประตูหุบเขา และที่มุมกำแพงและทรงทำให้หอคอยเหล่านั้นแข็งแกร่ง
- 2พงศาวดาร 26:10 - ทั้งทรงสร้างหอคอยในถิ่นกันดารและขุดบ่อเก็บน้ำหลายแห่ง เพราะทรงมีฝูงปศุสัตว์มากมายทั้งแถบเชิงเขาและตามที่ราบ และทรงให้คนทำงานในไร่นาและสวนองุ่นทั้งหลายทั้งที่อยู่บนเนินเขาและในดินแดนอุดมต่างๆ เพราะพระองค์ทรงรักการเกษตร
- 2พงศาวดาร 26:11 - อุสซียาห์ทรงมีกองทัพที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีและพร้อมออกรบ แบ่งเป็นกองตามกำลังพล ผู้ระดมพลคือราชเลขาเยอีเอล และมาอาเสอาห์เจ้าหน้าที่ภายใต้การบัญชาการของฮานันยาห์ ซึ่งเป็นข้าราชสำนักคนหนึ่ง
- 2พงศาวดาร 26:12 - มีผู้นำครอบครัวทั้งสิ้น 2,600 คนคอยดูแลนักรบ
- 2พงศาวดาร 26:13 - กองทัพที่อยู่ภายใต้การบัญชาการของพวกเขาประกอบด้วยทหาร 307,500 คน ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี เป็นแสนยานุภาพไว้ต่อกรกับศัตรูของกษัตริย์
- 2พงศาวดาร 26:14 - อุสซียาห์ทรงจัดหาโล่ หอก หมวกเหล็ก เสื้อเกราะ ธนู และสลิงให้ทั้งกองทัพ
- 2พงศาวดาร 26:15 - และทรงผลิตเครื่องกลสู้รบขึ้นในกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งประดิษฐ์โดยผู้เชี่ยวชาญ ใช้ยิงธนูและหินก้อนมหึมาจากหอคอยและมุมกำแพง พระองค์ทรงมีชื่อเสียงเลื่องลือเพราะพระเจ้าทรงช่วยเหลืออุสซียาห์อย่างเหลือล้นจนพระองค์ทรงมีอำนาจยิ่งใหญ่
- 2พงศาวดาร 26:16 - แต่เมื่ออุสซียาห์เรืองอำนาจ ความเย่อหยิ่งลืมตนก็นำพระองค์ไปสู่ความตกต่ำ อุสซียาห์ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ และล่วงล้ำเข้าไปในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเผาเครื่องหอมบนแท่น
- 2พงศาวดาร 26:17 - ปุโรหิตอาซาริยาห์ตามเข้ามาพร้อมด้วยปุโรหิตผู้กล้าหาญขององค์พระผู้เป็นเจ้าอีกแปดสิบคน
- 2พงศาวดาร 26:18 - เขาเหล่านั้นทูลทัดทานว่า “ข้าแต่อุสซียาห์ ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่าพระบาทที่จะมาเผาเครื่องหอมถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่เป็นงานของปุโรหิตวงศ์วานอาโรนซึ่งผ่านการชำระตนเพื่อเผาเครื่องหอม ขอทรงเสด็จออกไปจากสถานนมัสการนี้เถิด เพราะฝ่าพระบาทไม่ซื่อสัตย์แล้ว และพระเจ้าพระยาห์เวห์จะไม่เชิดชูฝ่าพระบาทที่ทำเช่นนี้”
- 2พงศาวดาร 26:19 - อุสซียาห์ซึ่งถือกระถางไฟพร้อมที่จะเผาเครื่องหอมได้ยินดังนั้นก็โกรธ และเมื่อพระองค์เกรี้ยวกราดใส่ปุโรหิตที่หน้าแท่นเผาเครื่องหอมในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า โรคเรื้อน ก็ปรากฏขึ้นที่หน้าผากของพระองค์
- 2พงศาวดาร 26:20 - เมื่อหัวหน้าปุโรหิตอาซาริยาห์และปุโรหิตอื่นๆ เห็นโรคเรื้อนบนหน้าผากของพระองค์ก็ผลักไสพระองค์ออกไป อันที่จริงอุสซียาห์เองก็ร้อนพระทัยจะออกไปอยู่แล้วเพราะถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าลงโทษ
- 2พงศาวดาร 26:21 - กษัตริย์อุสซียาห์ทรงเป็นโรคเรื้อนจนสิ้นพระชนม์ และประทับแยกอยู่ในพระตำหนักต่างหาก ถูกตัดขาดจากพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า โยธามราชโอรสของพระองค์ทรงดูแลพระราชวังและปกครองประชาชนในแผ่นดินนั้น
- 2พงศาวดาร 26:22 - เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลอุสซียาห์ตั้งแต่ต้นจนจบมีบันทึกไว้โดยผู้เผยพระวจนะอิสยาห์บุตรอาโมศ
- 2พงศาวดาร 26:23 - อุสซียาห์ทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ พระศพถูกฝังไว้ในทุ่งที่ใช้ฝังศพซึ่งเป็นของกษัตริย์ เพราะประชาชนกล่าวว่า “พระองค์ทรงเป็นโรคเรื้อน” แล้วโยธามโอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน
- 2พงศาวดาร 17:1 - เยโฮชาฟัทราชโอรสของอาสาขึ้นครองราชย์ และทรงทำให้พระองค์เองแข็งแกร่งขึ้นเพื่อรบกับอิสราเอล
- 2พงศาวดาร 17:2 - เยโฮชาฟัททรงวางกำลังพลไว้ในหัวเมืองป้อมปราการทุกแห่งของยูดาห์ ในที่ต่างๆ ทั่วยูดาห์ และในหัวเมืองต่างๆ ของเอฟราอิมที่อาสาราชบิดาทรงยึดมา
- 2พงศาวดาร 17:3 - องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเยโฮชาฟัท เพราะในตอนต้นรัชกาล เยโฮชาฟัททรงเจริญรอยตามดาวิดผู้เป็นบรรพบุรุษ ไม่ได้นมัสการพระบาอัล
- 2พงศาวดาร 17:4 - แต่แสวงหาพระเจ้าของบรรพบุรุษและปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์ ไม่ได้ทรงทำตามอย่างชาวอิสราเอล
- 2พงศาวดาร 17:5 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสถาปนาอาณาจักรที่เยโฮชาฟัททรงปกครอง ชาวยูดาห์ทั้งปวงนำสิ่งของมาถวายแด่พระองค์ พระองค์จึงทรงร่ำรวยและมีเกียรติมาก
- 2พงศาวดาร 17:6 - เยโฮชาฟัททรงปักใจแน่วแน่ในทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า ยิ่งกว่านั้นพระองค์ทรงกำจัดสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลายและบรรดาเสาเจ้าแม่อาเชราห์ออกจากยูดาห์ด้วย
- 2พงศาวดาร 17:7 - ในปีที่สามแห่งรัชกาลของเยโฮชาฟัท พระองค์ได้ทรงส่งบรรดาเจ้าหน้าที่ได้แก่ เบนฮายิล โอบาดีห์ เศคาริยาห์ เนธันเอล และมีคายาห์ ไปสอนในเมืองต่างๆ ของยูดาห์
- 2พงศาวดาร 17:8 - มีคนเลวีไปด้วยได้แก่ เชไมอาห์ เนธานิยาห์ เศบาดิยาห์ อาสาเฮล เชมิราโมท เยโฮนาธัน อาโดนียาห์ โทบียาห์ และโทบอาโดนิยาห์ พร้อมกับปุโรหิตคือเอลีชามาและเยโฮรัม
- 2พงศาวดาร 17:9 - คนเหล่านี้นำหนังสือบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าไปสอนประชาชนทั่วทุกหัวเมืองของยูดาห์
- 2พงศาวดาร 17:10 - ทุกอาณาจักรรอบๆ ยูดาห์ต่างก็เกรงกลัวองค์พระผู้เป็นเจ้า จึงไม่มีใครกล้ามาทำสงครามกับเยโฮชาฟัท
- 2พงศาวดาร 17:11 - ชาวฟีลิสเตียบางพวกนำของถวายและเงินมาเป็นเครื่องบรรณาการแก่เยโฮชาฟัท และชาวอาหรับถวายแกะผู้ 7,700 ตัว และแพะ 7,700 ตัว
- 2พงศาวดาร 17:12 - เยโฮชาฟัทยิ่งมีอำนาจมากขึ้น พระองค์ทรงสร้างป้อมกับเมืองคลังต่างๆ ในยูดาห์
- 2พงศาวดาร 17:13 - ทรงมีขุมกำลังใหญ่ในเมืองต่างๆ ของยูดาห์ ทั้งมีนักรบเจนศึกประจำอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม
- 2พงศาวดาร 17:14 - จัดกำลังพลตามครอบครัวดังนี้ จากยูดาห์มีผู้บังคับบัญชากองพันต่างๆ ได้แก่ แม่ทัพอัดนาห์คุมกำลังพล 300,000 คน
- 2พงศาวดาร 17:15 - ถัดมาคือแม่ทัพเยโฮฮานันคุมกำลังพล 280,000 คน
- 2พงศาวดาร 17:16 - ต่อมาคืออามัสยาห์บุตรศิครีเป็นอาสาสมัครรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าคุมกำลังพล 200,000 คน
- 2พงศาวดาร 17:17 - จากเบนยามินได้แก่ เอลียาดาซึ่งเป็นนักรบกล้าคุมกำลังพล 200,000 คน ถือธนูและโล่
- 2พงศาวดาร 17:18 - ถัดมาคือเยโฮซาบาดคุมกำลังพล 180,000 คน ถืออาวุธพร้อมทำสงคราม
- 2พงศาวดาร 17:19 - คนเหล่านี้คือผู้รับใช้กษัตริย์ นอกเหนือจากที่พระองค์ให้เข้าประจำการอยู่ในเมืองป้อมปราการต่างๆ ทั่วยูดาห์
- 2พงศ์กษัตริย์ 8:16 - ในขณะที่เยโฮชาฟัทยังคงเป็นกษัตริย์ยูดาห์อยู่ เยโฮรัมโอรสของพระองค์เริ่มขึ้นครองราชย์ ตรงกับปีที่ห้าแห่งรัชกาลกษัตริย์โยรัมแห่งอิสราเอลโอรสของอาหับ
- 2พงศ์กษัตริย์ 15:1 - อาซาริยาห์โอรสกษัตริย์อามาซิยาห์แห่งยูดาห์ขึ้นครองราชย์ตรงกับปีที่ยี่สิบเจ็ดของรัชกาลกษัตริย์เยโรโบอัมแห่งอิสราเอล
- 2พงศ์กษัตริย์ 15:2 - เมื่อพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ทรงมีพระชนมายุสิบหกพรรษา ทรงครองราชย์อยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม 52 ปี ราชมารดาคือเยโคลียาห์จากเยรูซาเล็ม
- 2พงศ์กษัตริย์ 15:3 - พระองค์ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับอามาซิยาห์ราชบิดา
- 2พงศ์กษัตริย์ 15:4 - แต่สถานบูชาบนที่สูงทั้งหลายยังไม่ได้ถูกทำลายไป ประชากรยังคงถวายเครื่องบูชาและเผาเครื่องหอมที่นั่น
- 2พงศ์กษัตริย์ 15:5 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้กษัตริย์อาซาริยาห์เป็นโรคเรื้อน จนสิ้นพระชนม์ อาซาริยาห์จึงแยกประทับอยู่ในพระตำหนักต่างหาก โยธามราชโอรสของพระองค์ทรงดูแลพระราชวังและปกครองประชาชนในแผ่นดินนั้น
- 2พงศ์กษัตริย์ 15:6 - เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลของอาซาริยาห์และพระราชกิจทั้งปวงมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งยูดาห์ไม่ใช่หรือ?
- 2พงศ์กษัตริย์ 3:1 - โยรัม โอรสของอาหับขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอลในสะมาเรีย ตรงกับปีที่สิบแปดของรัชกาลกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ ทรงครองราชย์อยู่สิบสองปี
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:2 - แต่ในปีที่สามกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์เสด็จมาเยือนกษัตริย์อิสราเอล
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:3 - กษัตริย์อิสราเอลตรัสกับข้าราชบริพารว่า “พวกเจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าราโมทกิเลอาดเป็นของเรา แต่เราก็ไม่ทำอะไรเพื่อชิงคืนจากกษัตริย์อารัมเลย?”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:4 - อาหับจึงตรัสถามเยโฮชาฟัทว่า “ท่านจะช่วยข้าพเจ้ารบกับราโมทกิเลอาดไหม?” เยโฮชาฟัทตรัสตอบกษัตริย์อิสราเอลว่า “เราสองคนเป็นพวกเดียวกัน คนของข้าพเจ้าก็เหมือนเป็นคนของท่าน ม้าของข้าพเจ้าก็เหมือนเป็นม้าของท่าน”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:5 - แต่เยโฮชาฟัทตรัสกับกษัตริย์อิสราเอลอีกว่า “เราควรทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าก่อน”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:6 - กษัตริย์อิสราเอลจึงทรงเรียกผู้เผยพระวจนะราวสี่ร้อยคนมาเข้าเฝ้า และตรัสถามว่า “เราควรจะไปรบกับราโมทกิเลอาด หรือเราควรจะยับยั้งไว้?” เขาเหล่านั้นทูลว่า “ไปเลยพระเจ้าข้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมอบดินแดนนั้นไว้ในพระหัตถ์ของฝ่าพระบาท”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:7 - แต่เยโฮชาฟัทตรัสถามว่า “ที่นี่ไม่มีผู้เผยพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ถามเลยหรือ?”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:8 - กษัตริย์อิสราเอลตรัสตอบเยโฮชาฟัทว่า “ยังมีอยู่คนหนึ่งซึ่งเราจะทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าผ่านทางเขาได้ แต่ข้าพเจ้าเกลียดเขา เพราะเขาไม่เคยพยากรณ์เรื่องดีๆ เกี่ยวกับข้าพเจ้าเลย มีแต่เรื่องร้ายๆ เขาคือมีคายาห์บุตรอิมลาห์” เยโฮชาฟัทตรัสว่า “พระองค์อย่าตรัสเช่นนั้นเลย”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:9 - ดังนั้นกษัตริย์อิสราเอลจึงทรงเรียกมหาดเล็กคนหนึ่งมาและสั่งว่า “จงนำตัวมีคายาห์บุตรอิมลาห์มาเดี๋ยวนี้”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:10 - ทั้งกษัตริย์อิสราเอลและกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ทรงฉลองพระองค์เต็มยศประทับอยู่บนพระที่นั่งในลานนวดข้าวใกล้ประตูเมืองสะมาเรีย ในขณะที่กลุ่มผู้เผยพระวจนะก็กล่าวพยากรณ์ไปต่อหน้า
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:11 - ฝ่ายเศเดคียาห์บุตรเคนาอะนาห์ได้ทำเขาเหล็กขึ้นมาและประกาศว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘เจ้าจะขวิดพวกอารัมด้วยเขาเหล็กนี้จนพวกเขาย่อยยับไป’ ”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:12 - ผู้เผยพระวจนะคนอื่นๆ ทั้งหมดก็กำลังพยากรณ์อย่างเดียวกันว่า “จงบุกเข้าโจมตีราโมทกิเลอาดและมีชัยชนะเถิด เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมอบเมืองนั้นไว้ในพระหัตถ์ของฝ่าพระบาท”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:13 - คนที่ไปตามตัวมีคายาห์ได้กล่าวกับเขาว่า “ดูเถิด ผู้เผยพระวจนะคนอื่นๆ ล้วนแต่ทำนายเป็นเสียงเดียวกันว่ากษัตริย์จะชนะ ขอให้ท่านกล่าวไปในทางที่ดีเช่นเดียวกับพวกเขา”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:14 - แต่มีคายาห์กล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ข้าพเจ้าจะพูดแต่สิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสฉันนั้น”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:15 - เมื่อเขามาถึง กษัตริย์ตรัสถามว่า “มีคายาห์เอ๋ย เราควรจะไปรบกับราโมทกิเลอาดหรือเราควรจะยับยั้งไว้?” มีคายาห์ทูลว่า “จงบุกเข้าโจมตีราโมทกิเลอาดและมีชัยชนะเถิด เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมอบเมืองนั้นไว้ในพระหัตถ์ของฝ่าพระบาท”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:16 - กษัตริย์ตรัสว่า “เราจะต้องให้เจ้าสาบานกี่ครั้งกี่หนว่าจะบอกแต่ความจริงแก่เราในพระนามพระยาห์เวห์?”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:17 - มีคายาห์จึงทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าเห็นอิสราเอลทั้งปวงกระจัดกระจายไปตามภูเขาต่างๆ เหมือนแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘คนเหล่านี้ไม่มีนาย ให้ทุกคนกลับบ้านโดยสวัสดิภาพเถิด’ ”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:18 - กษัตริย์อิสราเอลตรัสกับเยโฮชาฟัทว่า “ข้าพเจ้าบอกท่านแล้วไม่ใช่หรือว่าเขาไม่เคยพยากรณ์เรื่องดีๆ เกี่ยวกับข้าพเจ้าเลย มีแต่เรื่องร้ายทั้งนั้น?”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:19 - มีคายาห์กล่าวต่อไปว่า “ฉะนั้นจงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพเจ้าเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับบนพระที่นั่งของพระองค์ ทูตสวรรค์ทั้งปวงยืนเฝ้าอยู่รอบพระองค์ทั้งซ้ายและขวา
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:20 - แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘ใครจะหลอกล่ออาหับให้ไปโจมตีราโมทกิเลอาดและตายที่นั่น?’ “มีผู้ทูลเสนอต่างๆ นานา
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:21 - ในที่สุดมีวิญญาณดวงหนึ่งก้าวออกมายืนต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและกราบทูลว่า ‘ข้าพระองค์จะหลอกล่อเขา’
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:22 - “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถามว่า ‘ทำอย่างไร?’ “วิญญาณนั้นทูลว่า ‘ข้าพระองค์จะไปเป็นวิญญาณมุสาในปากของผู้เผยพระวจนะทุกคนของอาหับ’ “พระองค์จึงตรัสว่า ‘เจ้าจะหลอกล่อเขาสำเร็จ ไปทำตามนั้นเถิด’
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:23 - “ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงใส่วิญญาณมุสาในปากผู้เผยพระวจนะเหล่านี้ของฝ่าพระบาท องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีประกาศิตให้ฝ่าพระบาทถึงแก่หายนะแล้ว”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:24 - แล้วเศเดคียาห์บุตรเคนาอะนาห์จึงเข้ามาตบหน้ามีคายาห์และถามว่า “พระวิญญาณจาก องค์พระผู้เป็นเจ้าออกจากข้าไปพูดกับเจ้าได้อย่างไร?”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:25 - มีคายาห์ตอบว่า “ท่านจะรู้คำตอบในวันที่ท่านไปหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องชั้นใน”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:26 - กษัตริย์อิสราเอลจึงตรัสสั่งว่า “จงคุมตัวมีคายาห์กลับไปหาอาโมนผู้ว่าการของเมืองนี้และโยอาชบุตรของเรา
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:27 - บอกสองคนนั้นว่า ‘กษัตริย์ตรัสดังนี้ว่า จงขังชายผู้นี้ไว้ในคุก ให้แต่ขนมปังกับน้ำประทังชีวิตจนกว่าเราจะกลับมาอย่างปลอดภัย’ ”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:28 - มีคายาห์ประกาศว่า “หากฝ่าพระบาทกลับมาอย่างปลอดภัย ก็แสดงว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ตรัสผ่านทางข้าพเจ้า” แล้วเขากล่าวอีกว่า “ทุกคนจงจำคำพูดของข้าพเจ้าไว้!” ( 2พศด.18:28-34 )
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:29 - ดังนั้นกษัตริย์อาหับแห่งอิสราเอลและกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์จึงเสด็จไปยังราโมทกิเลอาด
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:30 - กษัตริย์อิสราเอลตรัสกับเยโฮชาฟัทว่า “ข้าพเจ้าจะปลอมตัวไปออกรบ ส่วนท่านแต่งเครื่องทรงกษัตริย์ของท่านเถิด” แล้วกษัตริย์อิสราเอลก็ทรงปลอมพระองค์และเสด็จออกรบ
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:31 - ฝ่ายกษัตริย์อารัมได้ทรงบัญชาผู้บัญชาการรถรบ 32 คนของพระองค์ว่า “อย่าต่อสู้กับใคร ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อย แต่จงต่อสู้กับกษัตริย์อิสราเอลเพียงองค์เดียวเท่านั้น”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:32 - เมื่อผู้บัญชาการรถรบเหล่านั้นเห็นเยโฮชาฟัท พวกเขาก็คิดว่า “นี่เป็นกษัตริย์อิสราเอลแน่ๆ” จึงหันมาโจมตี แต่เมื่อเยโฮชาฟัทร้องตะโกนออกมา
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:33 - ผู้บัญชาการรถรบเหล่านั้นเห็นว่าไม่ใช่กษัตริย์อิสราเอล ก็เลิกไล่ล่าพระองค์
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:34 - แต่มีคนหนึ่งยิงธนูสุ่มไปถูกกษัตริย์อิสราเอลตรงช่วงรอยต่อของเสื้อเกราะ พระองค์จึงตรัสกับพลขับว่า “จงกลับรถพาเราออกจากสนามรบ เราบาดเจ็บแล้ว”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:35 - สงครามดำเนินไปอย่างดุเดือดตลอดทั้งวัน กษัตริย์ทรงประคองตัวไว้ในรถม้าศึกให้ประจันหน้ากับชาวอารัม พระโลหิตจากบาดแผลไหลนองพื้นรถ ครั้นตกเย็นก็สิ้นพระชนม์
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:36 - ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังลับไป มีเสียงร้องบอกไปทั่วกองทัพว่า “ทุกคนกลับบ้านเมืองของตนเถิด!”
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:37 - ดังนั้นกษัตริย์อาหับก็สิ้นพระชนม์ และพระศพถูกนำกลับมาฝังไว้ที่สะมาเรีย
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:38 - เมื่อพวกเขาล้างรถม้าศึกที่สระในสะมาเรีย (ซึ่งพวกหญิงโสเภณีมาอาบน้ำ) สุนัขก็มาเลียพระโลหิตของกษัตริย์ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลั่นวาจาไว้แล้ว
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:39 - เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลของอาหับ พระราชกิจทุกอย่าง พระราชวังที่ทรงสร้างและตกแต่งด้วยงาช้าง และเมืองต่างๆ ที่ทรงเสริมปราการ มีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งอิสราเอลไม่ใช่หรือ?
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:40 - อาหับทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและอาหัสยาห์โอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน ( 2พศด.20:31—21:1 )
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:41 - เยโฮชาฟัทโอรสของอาสาขึ้นครองราชย์ในยูดาห์ ตรงกับปีที่สี่ของรัชกาลกษัตริย์อาหับแห่งอิสราเอล
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:42 - เยโฮชาฟัทมีพระชนมายุ 35 พรรษาเมื่อขึ้นครองราชย์ และทรงปกครองในกรุงเยรูซาเล็มอยู่ 25 ปี ราชมารดาคืออาซูบาห์ธิดาของชิลหิ
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:43 - เยโฮชาฟัททรงดำเนินตามแบบอย่างของอาสาราชบิดาทุกประการโดยไม่หันเห ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ไม่ได้ทรงทำลายสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย ประชากรจึงยังคงถวายเครื่องบูชาและเผาเครื่องหอมที่นั่น
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:44 - เยโฮชาฟัทได้ทรงมีสัมพันธไมตรีกับกษัตริย์อิสราเอลด้วย
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:45 - เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลเยโฮชาฟัท พระราชกิจและวีรกรรมในการสงครามมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งยูดาห์ไม่ใช่หรือ?
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:46 - เยโฮชาฟัททรงกำจัดโสเภณีชายในเทวสถานซึ่งยังหลงเหลืออยู่จากสมัยของอาสาราชบิดาให้หมดไปจากแผ่นดิน
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:47 - ในสมัยนั้นเอโดมไม่มีกษัตริย์ปกครอง มีแต่ผู้สำเร็จราชการ
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:48 - เยโฮชาฟัททรงสร้างกองเรือพาณิชย์ เพื่อไปขนทองคำจากเมืองโอฟีร์ แต่เรือเหล่านั้นไม่ได้ไป เพราะอับปางลงที่เอซีโอนเกเบอร์
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:49 - ครั้งนั้นอาหัสยาห์โอรสของอาหับกล่าวกับเยโฮชาฟัทว่า “ขอให้คนของเราแล่นเรือไปกับคนของท่าน” แต่เยโฮชาฟัททรงปฏิเสธ
- 1พงศ์กษัตริย์ 22:50 - แล้วเยโฮชาฟัททรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและถูกฝังไว้ด้วยกันในเมืองดาวิด และเยโฮรัมโอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน
- 1พงศ์กษัตริย์ 15:24 - แล้วอาสาก็ทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ และถูกฝังไว้ด้วยกันในเมืองดาวิด และเยโฮชาฟัทโอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน
- 1พงศาวดาร 3:11 - ซึ่งมีบุตรคือเยโฮรัม ซึ่งมีบุตรคืออาหัสยาห์ ซึ่งมีบุตรคือโยอาช