逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - เมื่อถึงฤดูเก็บองุ่น เจ้าของสวนส่งพวกทาสของเขามารับส่วนแบ่งองุ่นจากพวกคนเช่า
- 新标点和合本 - 收果子的时候近了,就打发仆人到园户那里去收果子。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 收果子的时候快到了,他打发仆人到园户那里去收果子。
- 和合本2010(神版-简体) - 收果子的时候快到了,他打发仆人到园户那里去收果子。
- 当代译本 - 到了收获的季节,园主派奴仆去佃户那里收取他的那份果实。
- 圣经新译本 - 到了收成的时候,园主派了仆人到佃户那里,收取应该纳给他的果子。
- 中文标准译本 - 当收果子的季节近了,主人就派了奴仆们到那些农夫那里去收取他的果子。
- 现代标点和合本 - 收果子的时候近了,就打发仆人到园户那里去收果子。
- 和合本(拼音版) - 收果子的时候近了,就打发仆人到园户那里去收果子。
- New International Version - When the harvest time approached, he sent his servants to the tenants to collect his fruit.
- New International Reader's Version - When harvest time approached, he sent his slaves to the renters. He told the slaves to collect his share of the fruit.
- English Standard Version - When the season for fruit drew near, he sent his servants to the tenants to get his fruit.
- New Living Translation - At the time of the grape harvest, he sent his servants to collect his share of the crop.
- Christian Standard Bible - When the time came to harvest fruit, he sent his servants to the farmers to collect his fruit.
- New American Standard Bible - And when the harvest time approached, he sent his slaves to the vine-growers to receive his fruit.
- New King James Version - Now when vintage-time drew near, he sent his servants to the vinedressers, that they might receive its fruit.
- Amplified Bible - When the harvest time approached, he sent his servants to the tenants to get his [share of the] fruit.
- American Standard Version - And when the season of the fruits drew near, he sent his servants to the husbandmen, to receive his fruits.
- King James Version - And when the time of the fruit drew near, he sent his servants to the husbandmen, that they might receive the fruits of it.
- New English Translation - When the harvest time was near, he sent his slaves to the tenants to collect his portion of the crop.
- World English Bible - When the season for the fruit came near, he sent his servants to the farmers, to receive his fruit.
- 新標點和合本 - 收果子的時候近了,就打發僕人到園戶那裏去收果子。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 收果子的時候快到了,他打發僕人到園戶那裏去收果子。
- 和合本2010(神版-繁體) - 收果子的時候快到了,他打發僕人到園戶那裏去收果子。
- 當代譯本 - 到了收穫的季節,園主派奴僕去佃戶那裡收取他的那份果實。
- 聖經新譯本 - 到了收成的時候,園主派了僕人到佃戶那裡,收取應該納給他的果子。
- 呂振中譯本 - 果子節候將近的時候,主人就差遣他的奴僕去找園工,要拿他的果子。
- 中文標準譯本 - 當收果子的季節近了,主人就派了奴僕們到那些農夫那裡去收取他的果子。
- 現代標點和合本 - 收果子的時候近了,就打發僕人到園戶那裡去收果子。
- 文理和合譯本 - 果期將近、遣僕就農夫收果、
- 文理委辦譯本 - 果期、遣僕、就農夫收果、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 果期將至、遣僕就園夫收果、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 屆收菓之時、乃遣其僕向園戶取菓。
- Nueva Versión Internacional - Cuando se acercó el tiempo de la cosecha, mandó sus siervos a los labradores para recibir de estos lo que le correspondía.
- 현대인의 성경 - 포도철이 되어 주인은 자기 몫의 포도를 받아오라고 종들을 소작인들에게 보냈다.
- Новый Русский Перевод - Когда пришло время сбора винограда, он послал своих слуг к виноградарям, чтобы забрать его часть урожая.
- Восточный перевод - Когда пришло время сбора винограда, он послал своих рабов к виноградарям, чтобы забрать свою часть урожая.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Когда пришло время сбора винограда, он послал своих рабов к виноградарям, чтобы забрать свою часть урожая.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Когда пришло время сбора винограда, он послал своих рабов к виноградарям, чтобы забрать свою часть урожая.
- La Bible du Semeur 2015 - A l’approche des vendanges, il envoya ses serviteurs auprès de ces vignerons pour recevoir le produit qui lui revenait.
- リビングバイブル - さて、収穫の時期になったので、彼は自分の分を受け取ろうと、幾人かの代理人を送りました。
- Nestle Aland 28 - ὅτε δὲ ἤγγισεν ὁ καιρὸς τῶν καρπῶν, ἀπέστειλεν τοὺς δούλους αὐτοῦ πρὸς τοὺς γεωργοὺς λαβεῖν τοὺς καρποὺς αὐτοῦ.
- unfoldingWord® Greek New Testament - ὅτε δὲ ἤγγισεν ὁ καιρὸς τῶν καρπῶν, ἀπέστειλεν τοὺς δούλους αὐτοῦ πρὸς τοὺς γεωργοὺς, λαβεῖν τοὺς καρποὺς αὐτοῦ.
- Nova Versão Internacional - Aproximando-se a época da colheita, enviou seus servos aos lavradores, para receber os frutos que lhe pertenciam.
- Hoffnung für alle - Als die Zeit der Weinlese kam, beauftragte er seine Knechte, den vereinbarten Anteil an der Ernte abzuholen.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Đến mùa hái nho, chủ sai người nhà về thu hoa lợi.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวเขาก็ส่งคนรับใช้ไปหาผู้เช่าเพื่อรับผลผลิตของเขา
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เมื่อถึงเวลาเก็บพืชผล เขาใช้บรรดาคนรับใช้ของเขาไปหาพวกคนเช่าสวน เพื่อรับส่วนปันผลของเขา
- Thai KJV - ครั้นฤดูเก็บผลองุ่นใกล้เข้ามา เขาจึงใช้พวกผู้รับใช้ไปหาคนเช่าสวน เพื่อจะรับผลองุ่น
交叉引用
- เศคาริยาห์ 1:3 - ดังนั้น เจ้าควรจะบอกคนของเจ้าว่า “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด ‘กลับมาหาเราซะ แล้วเราจะกลับมาหาเจ้า’
- เศคาริยาห์ 1:4 - อย่าเป็นเหมือนกับพวกบรรพบุรุษของพวกเจ้า ที่พวกผู้พูดแทนพระเจ้ารุ่นก่อนหน้านี้ได้พูดกับพวกเขาว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด “หันกลับจากทางชั่วและการทำชั่วพวกนั้นของเจ้าซะ” แต่พวกเขาก็ไม่ยอมฟัง และไม่สนใจเราด้วย’” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
- เศคาริยาห์ 1:5 - “ส่วนพวกบรรพบุรุษของเจ้า ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนแล้ว แล้วพวกผู้พูดแทนพระเจ้าละ พวกเขาอยู่ค้ำฟ้าหรือยังไง
- เศคาริยาห์ 1:6 - แต่พวกคำเตือนและกฎต่างๆของเรา ที่เราได้สั่งผ่านมาทางพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ซึ่งเป็นพวกผู้รับใช้ของเรานั้น ก็ไล่ทันพวกบรรพบุรุษของพวกเจ้าไม่ใช่หรือ พวกเขาถึงได้กลับใจเสียใหม่ และพูดว่า ‘พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น วางแผนไว้ว่าจะทำอย่างไรกับพวกเรา เพื่อให้สาสมกับวิถีทางและการกระทำต่างๆของพวกเรา และพระองค์ก็ได้ทำอย่างนั้นกับพวกเราแล้ว’”
- เยเรมียาห์ 25:3 - “ตั้งแต่ปีที่สิบสามที่โยสิยาห์ลูกของกษัตริย์อาโมนแห่งยูดาห์ปกครองประเทศมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เป็นเวลายี่สิบสามปีแล้ว ผมได้รับพระคำของพระยาห์เวห์มา แล้วผมก็ได้พูดพระคำของพระองค์ให้กับพวกคุณฟัง ผมพูดแล้วพูดอีก แต่พวกคุณก็ไม่เคยฟัง
- เยเรมียาห์ 25:4 - พระยาห์เวห์ได้ส่งพวกผู้พูดแทนพระเจ้าซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์มาหาพวกคุณ พระองค์ส่งพวกเขามาแล้วมาอีก แต่คุณก็ไม่ยอมฟัง คุณไม่ได้เงี่ยหูฟังเลย
- เยเรมียาห์ 25:5 - พระองค์พูดอยู่เสมอว่า ‘กลับมา พวกเจ้าแต่ละคน ให้หันกลับมาจากวิถีชีวิตที่ชั่วร้าย และหันกลับมาจากการกระทำต่างๆที่ชั่วช้าของเจ้า และให้มาอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ยกให้กับเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้าตลอดไป
- เยเรมียาห์ 25:6 - อย่าได้ไปติดตามและรับใช้พระอื่นๆ อย่าได้ไปกราบไหว้พระอื่นเลย และอย่าได้ยั่วโมโหเราด้วยสิ่งที่เจ้าสร้างขึ้นมากับมือของเจ้าเองเลย แล้วเราจะไม่ทำอันตรายเจ้า
- เยเรมียาห์ 25:7 - แต่เจ้าก็ไม่ยอมฟังเรา’” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “เจ้าก็เลยยั่วเราด้วยสิ่งที่เจ้าสร้างขึ้นมากับมือเจ้าเอง ทำให้เราต้องทำร้ายเจ้า”
- เศคาริยาห์ 7:9 - “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด ‘ให้ตัดสินอย่างยุติธรรม ให้มีน้ำใจต่อกันและเห็นอกเห็นใจกัน
- เศคาริยาห์ 7:10 - อย่ากดขี่ข่มเหงแม่หม้าย เด็กกำพร้า คนต่างชาติ หรือคนจน อย่าวางแผนชั่วในใจต่อกัน’
- เศคาริยาห์ 7:11 - แต่คนพวกนั้นก็ไม่ยอมฟัง พวกเขาทำเป็นเมิน ดื้อดึง และยังอุดหูไม่ยอมฟัง
- เศคาริยาห์ 7:12 - เขาทำให้ใจตัวเองแข็งเหมือนเพชรเพื่อจะไม่ได้ยินกฎและคำสั่งต่างๆ ที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นส่งผ่านมาทางพระวิญญาณของพระองค์ โดยพวกผู้พูดแทนพระเจ้าในสมัยก่อน พระยาห์เวห์จึงโกรธแค้นมาก
- เศคาริยาห์ 7:13 - ดังนั้นพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า ‘ตอนที่เราเรียกพวกเขา พวกเขาก็ไม่ยอมฟังเรา ดังนั้น ตอนนี้พวกเขาขอความช่วยเหลือจากเรา เราก็จะไม่ยอมฟังพวกเขาเหมือนกัน
- มัทธิว 22:3 - แล้วกษัตริย์ได้เชิญแขกเหรื่อมากมาย เมื่อเตรียมงานเสร็จแล้ว กษัตริย์ส่งทาสไปบอกแขกเหล่านั้นว่า มาได้แล้ว แต่กลับไม่มีใครมา
- 2 พงศาวดาร 36:15 - พระยาห์เวห์ พระเจ้าของบรรพบุรุษพวกเขา ส่งคำพูดมาถึงพวกเขาผ่านทางพวกผู้ส่งข่าวของพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะพระองค์ไม่อยากทำลายประชาชนของพระองค์และสถานที่อาศัยของพระองค์
- 2 พงศาวดาร 36:16 - แต่พวกเขากลับล้อเลียนพวกผู้ส่งข่าวพระเจ้าเหล่านั้น พวกเขาดูถูกคำพูดของพระองค์ เย้ยหยันพวกผู้พูดแทนพระเจ้า จนในที่สุดพระยาห์เวห์ก็ทนไม่ไหว พระองค์โกรธประชาชนของพระองค์จนไม่มีอะไรสามารถหยุดความโกรธของพระองค์ได้
- มาระโก 12:2 - เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลองุ่นเขาก็ส่งทาสคนหนึ่งมารับส่วนแบ่งจากผลองุ่นนั้น
- มาระโก 12:3 - แต่พวกคนเช่ากลับจับทาสคนนั้นทุบตีและไล่กลับไปมือเปล่า
- มาระโก 12:4 - เจ้าของสวนส่งทาสคนใหม่มาอีก แต่คราวนี้พวกคนเช่าก็ได้รุมกันทุบหัวเขาและแกล้งเขาจนอับอาย
- มาระโก 12:5 - เจ้าของสวนส่งอีกคนหนึ่งมาแต่ก็ถูกฆ่า แล้วเขาก็ยังส่งคนมาอีกเรื่อยๆ คนที่เขาส่งมาก็ถูกตีบ้าง ถูกฆ่าบ้าง
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:13 - พระยาห์เวห์เคยเตือนอิสราเอลและยูดาห์ ผ่านทางพวกผู้พูดแทนพระเจ้าและพวกผู้ที่เห็นมิมิตทุกคนว่า “ให้หันไปจากทางที่ชั่วร้ายทั้งหลายของเจ้า และรักษาคำสั่งต่างๆและกฎทั้งหลายของเรา ให้ทำตามกฎทั้งหมดที่เราได้สั่งให้บรรพบุรุษของเจ้าเชื่อฟัง ที่เราได้ส่งให้กับเจ้าผ่านมาทางพวกผู้พูดแทนพระเจ้าที่เป็นผู้รับใช้ของเรา”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:14 - แต่พวกเขาไม่ยอมฟังและยังดื้อดึงเหมือนกับบรรพบุรุษของพวกเขาที่ไม่ยอมไว้วางใจในพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:15 - พวกเขาดูหมิ่นกฎต่างๆของพระองค์และข้อตกลงที่พระองค์เคยทำไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา รวมทั้งคำเตือนต่างที่พระองค์เคยให้กับเขา พวกเขาได้ไปติดตามพวกรูปเคารพที่ไร้ค่าเหล่านั้นซึ่งทำให้ตัวพวกเขาเองไร้ค่าไปด้วย พวกเขาไปเลียนแบบชนชาติต่างๆที่อยู่รอบๆ ถึงแม้พระยาห์เวห์จะเคยสั่งไว้แล้วว่า “อย่าทำตัวเหมือนกับที่พวกนั้นทำกัน”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:16 - พวกเขาละทิ้งคำสั่งทั้งหลายของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา และได้หล่อรูปเคารพสำหรับตัวพวกเขาเองเป็นลูกวัวสองตัว และยังมีเสาเจ้าแม่อาเชราห์ด้วย พวกเขาไปก้มกราบพวกดวงดาวทั้งหลายและไปบูชาพระบาอัล
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:17 - พวกเขาเอาลูกชายลูกสาวของตัวเองมาเผาไฟเป็นเครื่องบูชายัญ พวกเขาได้ดูหมอ ใช้เวทมนตร์ และยอมขายตัวเองเพื่อทำในสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระยาห์เวห์ ซึ่งยุให้พระองค์โกรธ
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:18 - ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงโกรธอิสราเอลมาก และไล่พวกเขาให้พ้นไปจากสายตาของพระองค์ เหลือแต่คนเผ่ายูดาห์เท่านั้น
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:19 - และแม้แต่ยูดาห์เองก็ไม่ยอมรักษาคำสั่งต่างๆของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา พวกเขาได้ไปทำตามธรรมเนียมประเพณีที่อิสราเอลนำเข้ามา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:20 - พระยาห์เวห์ได้ละทิ้งชาวอิสราเอลทั้งหมด พระองค์ลงโทษพวกเขา และมอบพวกเขาไว้ในกำมือของคนที่มาปล้นพวกเขา ในที่สุดพระองค์ได้ผลักไสโยนพวกเขาออกไปจากหน้าพระองค์จนหมด
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:21 - ตอนที่พระองค์ได้ฉีกอิสราเอลไปจากครอบครัวของดาวิด พวกเขาก็ได้ตั้งเยโรโบอัมลูกชายของเนบัทขึ้นเป็นกษัตริย์ของพวกเขา เยโรโบอัมได้ชักนำอิสราเอลให้หันเหไปจากพระยาห์เวห์ และทำให้พวกอิสราเอลทำบาปอย่างใหญ่หลวง
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:22 - ชาวอิสราเอลทั้งหลายยืนกรานที่จะทำบาปทั้งสิ้นของเยโรโบอัม และไม่ยอมหันออกจากบาปเหล่านั้น
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:23 - จนกระทั่งพระยาห์เวห์ได้ไล่อิสราเอลให้พ้นไปจากสายตาพระองค์ ตามที่พระองค์เคยพูดไว้ล่วงหน้าแล้วผ่านทางพวกผู้พูดแทนพระเจ้าทั้งหลาย ที่เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ประชาชนอิสราเอลจึงถูกกวาดต้อนไปจากแผ่นดินของพวกตนไปเป็นเชลยในประเทศอัสซีเรีย และพวกเขาก็ยังคงอยู่ที่นั่นจนถึงทุกวันนี้
- บทเพลงไพเราะ 8:11 - ซาโลมอนมีสวนองุ่นอยู่แปลงหนึ่งที่บาอัลฮาโมน และเขาก็ให้คนเช่าสวนองุ่นนั้น และทุกๆปี คนเช่าสวนจะต้องจ่ายเขาคนละหนึ่งพันเหรียญเงินจากเงินที่ได้จากการขายผลองุ่นนั้น
- บทเพลงไพเราะ 8:12 - แต่ฉันมีสวนองุ่นส่วนตัวของฉันเอง ซาโลมอนเอ๋ย ท่านเก็บพันเหรียญเงินของท่านไว้เถิด แล้วก็จ่ายคนเฝ้าสวนของท่านคนละสองร้อยเหรียญเงินด้วย
- เยเรมียาห์ 35:15 - เราส่งพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่เป็นพวกผู้รับใช้เราไปหาเจ้าอย่างไม่หยุดหย่อน ให้พวกเขาบอกกับเจ้าว่า ‘พวกเจ้าแต่ละคน ให้หันกลับจากทางชั่วๆของเจ้าและทำตัวให้ดีๆได้แล้ว ถ้าพวกเจ้าไม่ไปติดตามรับใช้พระอื่นๆ พวกเจ้าจะได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินที่เราได้ให้กับเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้าไว้’ แต่เจ้าก็ทำหูทวนลม ไม่ยอมฟังเรา
- เนหะมียาห์ 9:29 - พระองค์เตือนพวกเขาเพื่อให้พวกเขากลับมาหาคำสอนของพระองค์ แต่พวกเขากลับเย่อหยิ่งจองหองและไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งต่างๆของพระองค์ พวกเขาทำบาปต่อกฎของพระองค์ซึ่งเป็นกฎที่นำชีวิตมาให้กับคนที่รักษากฎเหล่านั้น พวกเขายักไหล่อย่างดื้อรั้นและหัวแข็งดื้อดึง และไม่ยอมฟัง
- เนหะมียาห์ 9:30 - พระองค์อดทนกับพวกเขาอยู่หลายปี และพระองค์ได้เตือนพวกเขาด้วยพระวิญญาณผ่านทางพวกผู้พูดแทนพระองค์ แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมฟัง จนในที่สุดพระองค์ได้มอบพวกเขาให้กับพวกชนชาติต่างๆ
- ลูกา 20:10 - เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว เขาส่งทาสคนหนึ่งมารับส่วนแบ่งจากผลองุ่น แต่พวกคนเช่ากลับทำร้ายทุบตีทาสคนนั้น และไล่กลับไปมือเปล่า
- ลูกา 20:11 - เจ้าของสวนองุ่นก็เลยส่งทาสอีกคนหนึ่งไป พวกคนเช่าก็ทำร้ายทุบตีเขาและทำให้เขาอับอายขายหน้า แล้วไล่กลับไปมือเปล่าอีก
- ลูกา 20:12 - เจ้าของสวนก็ส่งคนที่สามไปอีก พวกคนเช่าก็ทำเหมือนเดิม ทำเขาจนบาดเจ็บสาหัสแล้วโยนออกไปนอกสวน
- ลูกา 20:13 - เจ้าของสวนองุ่นพูดกับตัวเองว่า ‘จะทำยังไงดี รู้แล้ว เราจะส่งลูกชายสุดที่รักของเราไป พวกนั้นจะต้องเคารพยำเกรงลูกชายเราแน่ๆ’
- ลูกา 20:14 - แต่พอพวกคนเช่าเห็นลูกชายของเขา ก็ปรึกษากันว่า ‘นี่ไงผู้รับมรดก ให้พวกเราฆ่ามันเลย สวนนี้จะได้ตกเป็นของพวกเรา’
- ลูกา 20:15 - พวกเขาก็เลยจับลูกชายเจ้าของสวนโยนออกไปนอกสวนและฆ่าเขา พวกคุณคิดว่า เจ้าของสวนจะทำยังไงกับพวกคนเช่าเหล่านั้น
- ลูกา 20:16 - เขาจะกลับไปฆ่าพวกคนเช่าสวนเหล่านั้น และยกสวนองุ่นให้กับคนอื่นๆ” เมื่อผู้คนได้ยินอย่างนั้น ก็พูดขึ้นว่า “อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย”
- ลูกา 20:17 - แต่พระเยซูก็จ้องมองเขาและพูดว่า “ถ้างั้น ข้อความนี้ในพระคัมภีร์หมายถึงอะไร ‘หินก้อนนี้ที่ช่างก่อสร้างทิ้งแล้ว กลับกลายมาเป็นหินก้อนที่สำคัญที่สุด’
- ลูกา 20:18 - คนที่ล้มทับหินก้อนนั้น ร่างกายก็จะหักเป็นท่อนๆ แต่ถ้าถูกหินนี้ล้มทับ คนนั้นก็จะแหลกละเอียด”
- ลูกา 20:19 - เมื่อพวกครูสอนกฎปฏิบัติ และพวกหัวหน้านักบวชรู้ตัวว่าพระเยซูกำลังเปรียบพวกเขาว่าเป็นคนเช่าสวนพวกนั้น พวกเขาก็เลยหาทางที่จะจับพระเยซูตอนนั้นเลย แต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวประชาชน
- อิสยาห์ 5:4 - มีอะไรอีกหรือที่เราควรจะทำกับสวนองุ่นของเราแต่ยังไม่ได้ทำ เราคาดหวังว่ามันจะออกลูกองุ่นรสดีแต่ทำไมมันกลับออกลูกเปรี้ยว