逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - พระเยซูจึงบอกเขาว่า “อย่าไปเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง แต่ไปให้นักบวชตรวจดูและให้ถวายเครื่องบูชาตามที่โมเสสสั่งไว้ คนอื่นจะได้รู้ว่าเจ้าหายแล้ว”
- 新标点和合本 - 耶稣对他说:“你切不可告诉人,只要去把身体给祭司察看,献上摩西所吩咐的礼物,对众人作证据。”
- 和合本2010(上帝版-简体) - 耶稣对他说:“你要注意,不可告诉任何人,只要去,让祭司为你检查,并献上摩西所吩咐的祭物,作为证据给众人看。”
- 和合本2010(神版-简体) - 耶稣对他说:“你要注意,不可告诉任何人,只要去,让祭司为你检查,并献上摩西所吩咐的祭物,作为证据给众人看。”
- 当代译本 - 耶稣对他说:“切勿把这事告诉别人,要去让祭司察看你的身体,并照摩西的规定献祭,向众人证明你已经洁净了。”
- 圣经新译本 - 耶稣对他说:“你千万不可告诉别人,只要去给祭司检查,并且照着摩西所规定的献上供物,好向大家作证。”
- 中文标准译本 - 耶稣对他说:“你要注意,不可告诉任何人,只要去把自己给祭司看,并且献上摩西所吩咐的祭物,好对他们做见证。”
- 现代标点和合本 - 耶稣对他说:“你切不可告诉人,只要去把身体给祭司察看,献上摩西所吩咐的礼物,对众人做证据。”
- 和合本(拼音版) - 耶稣对他说:“你切不可告诉人,只要去把身体给祭司察看 ,献上摩西所吩咐的礼物 ,对众人作证据。”
- New International Version - Then Jesus said to him, “See that you don’t tell anyone. But go, show yourself to the priest and offer the gift Moses commanded, as a testimony to them.”
- New International Reader's Version - Then Jesus said to him, “Don’t tell anyone. Go and show yourself to the priest, and offer the gift Moses commanded. It will be a witness to everyone.”
- English Standard Version - And Jesus said to him, “See that you say nothing to anyone, but go, show yourself to the priest and offer the gift that Moses commanded, for a proof to them.”
- New Living Translation - Then Jesus said to him, “Don’t tell anyone about this. Instead, go to the priest and let him examine you. Take along the offering required in the law of Moses for those who have been healed of leprosy. This will be a public testimony that you have been cleansed.”
- Christian Standard Bible - Then Jesus told him, “See that you don’t tell anyone; but go, show yourself to the priest, and offer the gift that Moses commanded, as a testimony to them.”
- New American Standard Bible - And Jesus *said to him, “See that you tell no one; but go, show yourself to the priest and present the offering that Moses commanded, as a testimony to them.”
- New King James Version - And Jesus said to him, “See that you tell no one; but go your way, show yourself to the priest, and offer the gift that Moses commanded, as a testimony to them.”
- Amplified Bible - And Jesus said to him, “See that you tell no one [about this]; but go, show yourself to the priest [for inspection] and present the offering that Moses commanded, as a testimony (evidence) to them [of your healing].”
- American Standard Version - And Jesus saith unto him, See thou tell no man; but go, show thyself to the priest, and offer the gift that Moses commanded, for a testimony unto them.
- King James Version - And Jesus saith unto him, See thou tell no man; but go thy way, shew thyself to the priest, and offer the gift that Moses commanded, for a testimony unto them.
- New English Translation - Then Jesus said to him, “See that you do not speak to anyone, but go, show yourself to a priest, and bring the offering that Moses commanded, as a testimony to them.”
- World English Bible - Jesus said to him, “See that you tell nobody, but go, show yourself to the priest, and offer the gift that Moses commanded, as a testimony to them.”
- 新標點和合本 - 耶穌對他說:「你切不可告訴人,只要去把身體給祭司察看,獻上摩西所吩咐的禮物,對眾人作證據。」
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 耶穌對他說:「你要注意,不可告訴任何人,只要去,讓祭司為你檢查,並獻上摩西所吩咐的祭物,作為證據給眾人看。」
- 和合本2010(神版-繁體) - 耶穌對他說:「你要注意,不可告訴任何人,只要去,讓祭司為你檢查,並獻上摩西所吩咐的祭物,作為證據給眾人看。」
- 當代譯本 - 耶穌對他說:「切勿把這事告訴別人,要去讓祭司察看你的身體,並照摩西的規定獻祭,向眾人證明你已經潔淨了。」
- 聖經新譯本 - 耶穌對他說:“你千萬不可告訴別人,只要去給祭司檢查,並且照著摩西所規定的獻上供物,好向大家作證。”
- 呂振中譯本 - 耶穌對他說:『你要小心,不可告訴人,只要去,把你本身指給祭司看,又供獻 摩西 所規定的禮物,對眾人做證據。』
- 中文標準譯本 - 耶穌對他說:「你要注意,不可告訴任何人,只要去把自己給祭司看,並且獻上摩西所吩咐的祭物,好對他們做見證。」
- 現代標點和合本 - 耶穌對他說:「你切不可告訴人,只要去把身體給祭司察看,獻上摩西所吩咐的禮物,對眾人做證據。」
- 文理和合譯本 - 耶穌語之曰、慎勿告人、但往示身於祭司、獻摩西所命之禮、以證於眾、○
- 文理委辦譯本 - 耶穌曰、慎勿告人、但往示祭司、依摩西命獻禮為眾證、○
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 耶穌謂之曰、慎勿告人、往見祭司、使彼驗爾身、且獻 摩西 所命之禮物、以為證於眾、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 耶穌謂之曰:『慎毋告人、第往自陳於司祭、獻 摩西 定儀、為若輩證。』
- Nueva Versión Internacional - —Mira, no se lo digas a nadie —le dijo Jesús—; solo ve, preséntate al sacerdote, y lleva la ofrenda que ordenó Moisés, para que les sirva de testimonio.
- 현대인의 성경 - 그때 예수님은 그에게 “너는 아무에게도 이 일을 말하지 말고 제사장에게 가서 네 몸을 보이고 모세가 명령한 예물을 드려 네가 깨끗해진 것을 사람들에게 증거하여라” 하고 말씀하셨다.
- Новый Русский Перевод - Иисус тогда сказал ему: – Смотри, никому не говори об этом, но пойди, покажись священнику и принеси в жертву дар, как это повелел Моисей . Так твое исцеление будет удостоверено перед людьми. ( Лк. 7:1-10 ; Лк. 13:28-29 )
- Восточный перевод - Тогда Иса сказал ему: – Смотри, никому не говори об этом, но пойди, покажись священнослужителю и принеси дар, какой повелел Муса . Так люди удостоверятся, что ты исцелён .
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Тогда Иса сказал ему: – Смотри, никому не говори об этом, но пойди, покажись священнослужителю и принеси дар, какой повелел Муса . Так люди удостоверятся, что ты исцелён .
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Тогда Исо сказал ему: – Смотри, никому не говори об этом, но пойди, покажись священнослужителю и принеси дар, какой повелел Мусо . Так люди удостоверятся, что ты исцелён .
- La Bible du Semeur 2015 - – Attention, lui dit Jésus, ne le dis à personne ; mais va te faire examiner par le prêtre et apporte l’offrande prescrite par Moïse. Cela leur servira de témoignage .
- リビングバイブル - 「さあ、まっすぐ祭司のところに行き、体を調べてもらいなさい。モーセの律法にあるとおり、ツァラアトが治った時のささげ物をしなさい。完全に治ったことを人々の前で証明するのです。」
- Nestle Aland 28 - καὶ λέγει αὐτῷ ὁ Ἰησοῦς· ὅρα μηδενὶ εἴπῃς, ἀλλ’ ὕπαγε σεαυτὸν δεῖξον τῷ ἱερεῖ καὶ προσένεγκον τὸ δῶρον ὃ προσέταξεν Μωϋσῆς, εἰς μαρτύριον αὐτοῖς.
- unfoldingWord® Greek New Testament - καὶ λέγει αὐτῷ ὁ Ἰησοῦς, ὅρα μηδενὶ εἴπῃς, ἀλλὰ ὕπαγε σεαυτὸν, δεῖξον τῷ ἱερεῖ καὶ προσένεγκον τὸ δῶρον ὃ προσέταξεν Μωϋσῆς, εἰς μαρτύριον αὐτοῖς.
- Nova Versão Internacional - Em seguida Jesus lhe disse: “Olhe, não conte isso a ninguém. Mas vá mostrar-se ao sacerdote e apresente a oferta que Moisés ordenou, para que sirva de testemunho”. ( Lc 7.1-10 )
- Hoffnung für alle - Da befahl ihm Jesus nachdrücklich: »Sag niemandem etwas, sondern geh sofort zum Priester und lass dich von ihm untersuchen. Danach bring das Opfer dar, wie es Mose vorgeschrieben hat. So werden die Menschen sehen, dass ich im Auftrag Gottes handle.« ( Lukas 7,1‒10 ; 13,28‒30 )
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chúa Giê-xu phán với anh: “Con đừng cho ai biết, nhưng cứ đến ngay thầy tế lễ xin khám bệnh và dâng lễ vật như luật pháp Môi-se ấn định, để chứng tỏ cho mọi người biết con được lành.”
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - แล้วพระเยซูตรัสกับเขาว่า “จงระวังอย่าบอกผู้ใดเลย แต่จงไปแสดงตัวต่อปุโรหิตและถวายเครื่องบูชาตามที่โมเสสสั่งไว้เพื่อเป็นพยานแก่คนทั้งหลายว่าท่านหายโรคแล้ว” ( ลก.7:1-10 )
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระเยซูกล่าวกับเขาว่า “จงระวังว่าเจ้าจะไม่บอกใครเลย แต่ขอให้ไปแสดงตนต่อปุโรหิต และมอบเครื่องสักการะ ตามที่โมเสสได้สั่งไว้ เพื่อเป็นการยืนยันแก่คนทั่วไป”
- Thai KJV - ฝ่ายพระเยซูตรัสสั่งเขาว่า “อย่าบอกเล่าให้ผู้ใดฟังเลย แต่จงไปสำแดงตัวแก่ปุโรหิต และถวายเครื่องถวายตามซึ่งโมเสสได้สั่งไว้ เพื่อเป็นหลักฐานต่อคนทั้งหลาย”
交叉引用
- อิสยาห์ 42:21 - ตอนนั้นพระยาห์เวห์ต้องการที่จะทำให้คำสั่งสอนของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่และได้รับเกียรติ เพื่อคนจะได้เห็นว่าพระองค์นั้นยุติธรรม
- มัทธิว 16:20 - แล้วพระเยซูได้สั่งพวกศิษย์ ห้ามไม่ให้บอกใครว่าพระองค์เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่
- ยอห์น 8:50 - เราไม่ได้อยากเด่นอยากดัง แต่พระเจ้าต้องการให้เรายิ่งใหญ่และพระองค์เป็นผู้ตัดสิน
- มาระโก 8:30 - พระองค์จึงเตือนพวกศิษย์ไม่ให้บอกคนอื่นว่าพระองค์เป็นใคร
- ลูกา 21:13 - นี่จะเป็นโอกาสดีของคุณที่จะได้พูดเรื่องของเราให้พวกเขาฟัง
- มัทธิว 12:16 - พระองค์สั่งพวกนั้นว่า ห้ามบอกคนอื่นว่าพระองค์เป็นใคร
- มัทธิว 12:17 - เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อให้เป็นจริงตามที่อิสยาห์ ผู้พูดแทนพระเจ้า ได้พูดว่า
- มัทธิว 12:18 - “นี่คือผู้รับใช้ที่เราได้เลือกไว้ เรารักเขาและภูมิใจเขามาก เราจะให้วิญญาณของเรากับเขา เขาจะประกาศความยุติธรรมต่อชนทุกชาติ
- มัทธิว 12:19 - เขาจะไม่ทะเลาะวิวาท และไม่มีปากมีเสียง ไม่มีใครจะได้ยินเสียงของเขาตามท้องถนน
- มาระโก 13:9 - ระวังตัวให้ดี พวกคุณจะถูกจับไปขึ้นศาล จะถูกเฆี่ยนในที่ประชุมของชาวยิว และพวกคุณจะต้องยืนอยู่ต่อหน้าเจ้าเมืองและกษัตริย์เพราะคุณเป็นศิษย์ของเรา คุณจะต้องเป็นพยานเล่าเรื่องของเราให้พวกเขาฟัง
- ยอห์น 5:41 - เราไม่สนใจคำชมจากมนุษย์
- มัทธิว 3:15 - แต่พระเยซูตอบว่า “ตอนนี้ ให้เป็นอย่างนี้ไปก่อน เพราะพวกเราควรทำทุกอย่างตามที่พระเจ้าต้องการ” ยอห์นถึงยอมทำพิธีจุ่มน้ำ ให้พระองค์
- มัทธิว 5:17 - อย่าคิดว่าเรามายกเลิกกฎปฏิบัติของโมเสส หรือมายกเลิกข้อความที่ผู้พูดแทนพระเจ้าเขียนไว้ เราไม่ได้มายกเลิกแต่มาทำให้มันสำเร็จ
- ยอห์น 7:18 - คนที่พูดตามใจตัวเองก็พยายามหาชื่อเสียงใส่ตัว แต่คนที่พยายามหาชื่อเสียงให้กับผู้ที่ส่งเขามา คนนั้นแหละเป็นคนที่จริงใจที่ไม่หลอกลวงใคร
- มัทธิว 10:18 - พวกคุณจะถูกนำตัวไปยืนต่อหน้าเจ้าเมืองและกษัตริย์ เพราะคุณเป็นศิษย์ของเรา พวกคุณจะต้องเป็นพยานเล่าเรื่องของเราให้กษัตริย์ เจ้าเมือง และคนที่ไม่ใช่ชาวยิวฟัง
- 2 พงศ์กษัตริย์ 5:7 - ทันทีที่กษัตริย์ของอิสราเอลอ่านจดหมายฉบับนั้น เขาก็ฉีกเสื้อคลุมของเขาและพูดว่า “เราเป็นพระเจ้าหรือยังไง คิดว่าเรามีฤทธิ์เหนือความตายและชีวิตหรือ ทำไมชายคนนี้ถึงได้ส่งคนผู้นี้ที่เป็นโรคผิวหนังร้ายแรงมาให้เรารักษา ดูสิ เขากำลังหาเรื่องกับเราชัดๆ”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 5:8 - เมื่อเอลีชาคนของพระเจ้าได้ยินว่ากษัตริย์ของอิสราเอลได้ฉีกเสื้อคลุมของเขา เขาจึงส่งข้อความนี้มาให้ว่า “ทำไมท่านถึงต้องฉีกเสื้อผ้าของท่านด้วยเล่า ให้ชายคนนั้นมาหาข้าพเจ้าเถิด และเขาจะได้รู้ว่า ในอิสราเอล ยังมีผู้พูดแทนพระเจ้าหลงเหลืออยู่อีกคนหนึ่ง”
- มัทธิว 6:1 - ระวังให้ดี อย่าทำความดีเพื่ออวดคนอื่น เพราะคุณจะไม่ได้รับรางวัลจากพระบิดาของคุณที่อยู่บนสวรรค์
- ยอห์น 10:37 - ถ้าเราไม่ได้ทำงานที่พระบิดาเรามอบให้เราทำ ก็ไม่ต้องเชื่อเรา
- ยอห์น 10:38 - แต่ถ้าเราทำงานนั้น ถึงคุณจะไม่เชื่อเรา อย่างน้อยก็ให้เชื่อในงานอัศจรรย์ที่เราได้ทำ เพื่อคุณจะได้รู้แน่ๆว่าพระบิดาอยู่ในตัวเราและเราก็อยู่ในพระบิดา”
- เลวีนิติ 13:2 - “ถ้าคนๆหนึ่งเกิดมีแผล ตกสะเก็ดหรือตุ่มน้ำใสๆขึ้นบนผิวหนัง และลุกลามกลายเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง เขาต้องถูกนำตัวมาพบอาโรนหรือลูกชายอาโรนที่เป็นนักบวชคนใดคนหนึ่ง
- เลวีนิติ 13:3 - นักบวชจะตรวจดูแผลที่ผิวหนังตามร่างกายของเขา ถ้าขนที่แผลเปลี่ยนเป็นสีขาว และแผลก็กินลึกเข้าไปในเนื้อชั้นในแล้ว นั่นหมายถึงเขาเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง เมื่อนักบวชตรวจดูเสร็จแล้ว เขาต้องประกาศออกมาว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:4 - แต่ถ้าผิวหนังตามร่างกายของคนๆนั้นเป็นจุดขาวๆแต่ไม่มีแผลที่กินลึกเข้าไปในเนื้อ และขนก็ไม่เปลี่ยนเป็นสีขาว นักบวชจะต้องแยกคนๆนั้นออกจากประชาชนเป็นเวลาเจ็ดวัน
- เลวีนิติ 13:5 - ในวันที่เจ็ดนักบวชต้องกลับมาตรวจดูคนๆนั้นอีกครั้ง ถ้ารอยแผลนั้นไม่เปลี่ยนแปลงและไม่ลุกลามไปบนผิวหนัง นักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกจากประชาชนอีกเจ็ดวัน
- เลวีนิติ 13:6 - ในวันที่เจ็ดกลับมาตรวจดูอีกครั้ง ถ้ารอยแผลจางลงและแผลไม่กระจายลุกลามบนผิวหนัง นักบวชต้องประกาศให้คนๆนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ รอยแผลนั้นเป็นเพียงสะเก็ดแผล คนๆนั้นต้องซักล้างเสื้อผ้าของเขา หลังจากนั้นเขาก็จะเป็นผู้บริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:7 - แต่ถ้าสะเก็ดแผลนั้นเกิดลุกลามไปบนผิวหนัง หลังจากที่นักบวชป่าวประกาศให้คนๆนั้นบริสุทธิ์แล้ว เขาต้องกลับไปพบนักบวชอีกครั้ง
- เลวีนิติ 13:8 - ถ้านักบวชตรวจดูแล้วพบว่าแผลลุกลามจริง นักบวชต้องประกาศใหม่ว่าคนๆนั้นเป็นคนไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคผิวหนังเรื้อรัง
- เลวีนิติ 13:9 - เมื่อคนๆหนึ่งเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง คนๆนั้นจะถูกนำตัวมาพบนักบวช
- เลวีนิติ 13:10 - ถ้านักบวชตรวจดูและพบแผลพุพองสีขาวบนผิวหนัง ขนบางส่วนรอบๆกลายเป็นสีขาวและมีแผ่นเนื้อสดอยู่ในแผลพุพองนั้น
- เลวีนิติ 13:11 - มันคือโรคผิวหนังชนิดเรื้อรัง นักบวชจะต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ โดยไม่ต้องแยกออกมาคอยดูอาการ เพราะเขาเป็นคนที่ไม่บริสุทธิ์อยู่แล้ว
- เลวีนิติ 13:12 - ถ้าโรคผิวหนังเรื้อรังนั้น เกิดลุกลามไปบนผิวหนังส่วนอื่น จนเกิดเป็นโรคติดเชื้อไปทั่วผิวหนังของคนๆนั้น ตั้งแต่หัวจรดเท้า นักบวชต้องตรวจดูทุกส่วนของร่างกาย
- เลวีนิติ 13:13 - นักบวชต้องดู ถ้าหากโรคมันลุกลามจนทั่วร่างกายของคนผู้นั้น จนตัวเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวทั้งหมด นักบวชต้องประกาศให้คนที่ติดเชื้อนั้น เป็นผู้บริสุทธิ์เพราะตัวเขาบริสุทธิ์แล้ว เพราะผิวหนังได้เปลี่ยนเป็นสีขาวหมดแล้ว
- เลวีนิติ 13:14 - แต่ทันทีที่มีแผลสดเกิดขึ้น เขาจะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์ทันที
- เลวีนิติ 13:15 - นักบวชต้องตรวจดูแผลสด และประกาศว่าคนๆนั้นเป็นคนไม่บริสุทธิ์ เพราะแผลสดเป็นสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ มันคือโรคผิวหนังเรื้อรัง
- เลวีนิติ 13:16 - ถ้าแผลสดนั้นหายดีแล้วเหลือแต่จุดขาว คนๆนั้นต้องไปพบนักบวช
- เลวีนิติ 13:17 - ถ้านักบวชตรวจดูและพบว่าแผลนั้นได้เปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว นักบวชต้องประกาศให้คนที่ติดเชื้อนั้นเป็นคนบริสุทธิ์และคนๆนั้นก็จะบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:18 - เมื่อมีฝีเกิดขึ้นบนผิวหนังตามร่างกายของคนๆหนึ่ง และมันก็ได้รับการรักษาจนหาย
- เลวีนิติ 13:19 - และมีรอยแผลพุพองหรือจุดขาวออกสีแดงเรื่อๆเกิดขึ้นในที่ที่เคยเป็นฝี คนๆนั้นต้องไปพบนักบวช
- เลวีนิติ 13:20 - นักบวชจะตรวจดู ถ้าแผลนั้นกินลึกเข้าในผิวหนัง และขนบริเวณรอบๆเปลี่ยนเป็นสีขาว นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ มันคือโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดจากฝี
- เลวีนิติ 13:21 - แต่ถ้านักบวชตรวจดูแผลแล้ว ไม่พบขนสีขาว แผลก็ไม่กินลึกลงไปและยังเริ่มจางลง นักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกเป็นเวลาเจ็ดวัน
- เลวีนิติ 13:22 - ถ้าแผลยังลุกลามไปตามผิวหนัง นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือแผลติดเชื้อ
- เลวีนิติ 13:23 - แต่ถ้าจุดใสๆนั้นยังมีอยู่ที่เดิมและไม่กระจายลุกลาม มันเป็นเพียงสะเก็ดแผลจากฝี นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:24 - หรือเมื่อคนใดคนหนึ่งมีแผลไฟไหม้บนผิวหนัง และเกิดแผลรอยไหม้เป็นจุดสีขาวหรือสีออกแดงเรื่อๆ
- เลวีนิติ 13:25 - นักบวชต้องตรวจแผลดู ถ้าขนที่บริเวณแผลเปลี่ยนเป็นสีขาวและมันเกิดเป็นแผลลึกเข้าไปในเนื้อ มันคือโรคผิวหนังอันตราย ที่เกิดจากแผลไฟไหม้ นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคผิวหนังอันตราย
- เลวีนิติ 13:26 - แต่ถ้านักบวชตรวจดูแล้ว ไม่มีขนสีขาวบริเวณแผลและแผลก็ไม่กินลึกลงในเนื้อ ทั้งยังค่อยๆจางลง นักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกมาเป็นเวลาเจ็ดวัน
- เลวีนิติ 13:27 - ในวันที่เจ็ดถ้านักบวชไปตรวจดูคนๆนั้นอีก แล้วถ้าเห็นว่าแผลลุกลามไปบนผิวหนัง นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคผิวหนังเรื้อรัง
- เลวีนิติ 13:28 - แต่ถ้าแผลนั้นยังอยู่แบบเดิมไม่ลุกลามออกไป และเริ่มจางลง มันเป็นเพียงแผลพุพองจากไฟไหม้ นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์ เพราะนั่นคือสะเก็ดแผลที่เกิดจากแผลไฟไหม้
- เลวีนิติ 13:29 - ถ้าผู้ชายหรือผู้หญิงมีแผลติดเชื้อบนหนังหัวหรือที่คาง
- เลวีนิติ 13:30 - แล้วนักบวชดูที่แผลติดเชื้อนั้น แล้วพบว่ามันกินลึกลงไปถึงเนื้อ และผมเริ่มบางลงและกลายเป็นสีเหลือง นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นเป็นคนไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคหิด เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังต่อหนังหัวและคาง
- เลวีนิติ 13:31 - ถ้านักบวชตรวจดูแผลหิดนั้น แล้วพบว่ามันไม่ถึงกับเป็นแผลลึกเข้าไปในหนัง และไม่มีผมสีดำในแผล นักบวชต้องแยกคนติดเชื้อคนนั้นออกจากประชาชนเป็นเวลาเจ็ดวัน
- เลวีนิติ 13:32 - ในวันที่เจ็ดนักบวชจะมาตรวจดูแผลอีกครั้ง ถ้าเห็นแผลไม่ลุกลาม ไม่มีผมสีเหลืองๆในแผล อีกทั้งเชื้อหิดไม่ได้กินลึกเข้าไปในเนื้อ
- เลวีนิติ 13:33 - คนๆนั้นต้องโกนผมหรือหนวดทิ้ง แต่อย่าให้ถูกแผล แล้วนักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกมาเป็นเวลาอีกเจ็ดวัน
- เลวีนิติ 13:34 - ในวันที่เจ็ดนักบวชจะตรวจดูแผลหิดอีก ถ้าเห็นเชื้อไม่ลุกลามไปบนผิวหนังและไม่มีแผลกินลึกไปในเนื้อ นักบวชจะต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์ เขาต้องเอาเสื้อผ้าไปซักล้าง แล้วเขาจะกลายเป็นคนบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:35 - แต่ถ้าเชื้อหิดนั้นเกิดลุกลามหลังจากที่นักบวชได้ประกาศว่าเขาเป็นคนบริสุทธิ์แล้ว
- เลวีนิติ 13:36 - นักบวชจะต้องตรวจสอบคนๆนั้น และถ้าพบว่าเชื้อหิดนั้นลุกลามกระจายไปบนผิวหนังจริง นักบวชไม่จำเป็นต้องตรวจหาผมสีเหลืองอีกต่อไป คนๆนั้นจะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:37 - แต่ถ้าเชื้อหิดไม่มีการเปลี่ยนแปลงและมีผมสีดำเกิดขึ้นในนั้น แสดงว่าเชื้อนั้นกำลังจะหาย คนๆนั้นจะเป็นผู้บริสุทธิ์และนักบวชจะต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:38 - ถ้าผู้ชายหรือผู้หญิงเกิดมีจุดขาวๆขึ้นเต็มตัว
- เลวีนิติ 13:39 - นักบวชต้องตรวจสอบดู ถ้าพบว่าจุดขาวเหล่านั้นเป็นเพียงสีขาวหม่นๆแสดงว่าเป็นผื่นคันธรรมดาที่ไม่เป็นอันตรายบนผิวหนัง และคนๆนั้นก็ยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:40 - ถ้าผู้ชายผมร่วงจนหัวล้าน เขาจะยังคงบริสุทธิ์อยู่
- เลวีนิติ 13:41 - ถ้าผมเขาร่วงจากด้านหน้าไปจนหัวเขาเถิก เขาจะยังคงบริสุทธิ์อยู่
- เลวีนิติ 13:42 - แต่ถ้าเกิดมีแผลออกสีแดงเรื่อๆเกิดขึ้นบนหัวหรือบริเวณที่ผมร่วงบนหน้าผาก มันคือโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดบนหัวและหน้าผาก
- เลวีนิติ 13:43 - นักบวชต้องตรวจดูแผลเหล่านั้น ถ้าพบว่ามีแผลสดเกิดขึ้นบนหัวหรือบนหน้าผาก ที่กลายเป็นสีแดงเรื่อๆและมีลักษณะเหมือนแผลของโรคผิวหนังชนิดอันตรายที่เกิดบนร่างกายแล้ว
- เลวีนิติ 13:44 - แสดงว่าชายผู้นั้นเป็นโรคผิวหนังอันตราย เขาคือคนที่ไม่บริสุทธิ์ นักบวชต้องประกาศว่าเขาคือคนไม่บริสุทธิ์ เพราะเขาติดเชื้อที่หัว
- เลวีนิติ 13:45 - ถ้าคนๆหนึ่งเป็นโรคผิวหนังชนิดอันตราย เขาต้องฉีกเสื้อผ้าตัวเองให้ขาดและต้องไว้ผมยาว และปล่อยให้หนวดยาวรุงรัง และคอยตะโกนว่า ‘ไม่สะอาด ไม่สะอาด’
- เลวีนิติ 13:46 - คนๆนั้นจะไม่บริสุทธิ์ตลอดเวลาที่เขายังมีแผลติดเชื้อ เขาจะเป็นคนไม่บริสุทธิ์ และต้องไปอยู่คนเดียวที่นอกค่าย
- มาระโก 1:43 - ก่อนที่พระเยซูจะให้เขาไป พระองค์สั่งกำชับว่า
- มาระโก 1:44 - “อย่าไปเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง แต่ไปให้นักบวชตรวจดู และให้ถวายเครื่องบูชาตามที่โมเสส สั่งด้วย เพื่อคนอื่นจะได้รู้ว่าคุณหายแล้ว”
- มาระโก 6:11 - แต่ถ้าที่ไหนไม่ต้อนรับหรือไม่ฟังพวกคุณ ก็ให้ออกไปจากที่นั่น และให้สะบัดฝุ่นออกจากเท้า ด้วย เพื่อเป็นการเตือนพวกเขา”
- มัทธิว 17:9 - ขณะที่พวกเขากำลังเดินลงมาจากภูเขา พระองค์สั่งพวกเขาว่า “อย่าบอกใครว่าพวกคุณได้เห็นอะไร จนกว่าบุตรมนุษย์จะฟื้นขึ้นมาจากความตาย”
- มาระโก 5:43 - พระเยซูสั่งพวกเขาไม่ให้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง และบอกให้หาอะไรมาให้เด็กกินด้วย
- มัทธิว 9:30 - แล้วพวกเขาก็มองเห็น พระเยซูสั่งพวกเขาว่า “อย่าบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้เป็นอันขาด”
- มาระโก 7:36 - พระองค์สั่งพวกเขาไม่ให้เล่าเรื่องพวกนี้ให้ใครฟัง แต่ยิ่งพระองค์สั่งห้ามมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งร่ำลือกันมากขึ้นเท่านั้น
- ลูกา 5:14 - แล้วพระเยซูสั่งว่า “อย่าไปเล่าให้ใครฟัง แต่ไปให้นักบวชตรวจดู และถวายเครื่องบูชาตามที่โมเสสสั่งไว้ให้คนที่หายจากโรคผิวหนังร้ายแรงต้องทำเพื่อคนอื่นจะได้รู้ว่าคุณหายแล้ว”
- ลูกา 17:14 - พระองค์ก็มองพวกเขา แล้วพูดว่า “ไปแสดงตัวให้พวกนักบวช ดูสิ” ในระหว่างทางที่ไปนั้น พวกเขาก็หายจากโรค
- เลวีนิติ 14:2 - “ต่อไปนี้จะเป็นกฎสำหรับคนที่เคยเป็นโรคผิวหนังร้ายแรงแต่หายดีแล้ว เขาต้องถูกนำตัวมาหานักบวช
- เลวีนิติ 14:3 - นักบวชต้องออกไปพบคนๆนั้นที่นอกค่าย และถ้าเขาตรวจดูคนๆนั้นแล้วพบว่า โรคผิวหนังของคนๆนั้นหายดีแล้ว
- เลวีนิติ 14:4 - นักบวชต้องสั่งให้เขานำนกป่าบริสุทธิ์มาสองตัว ไม้สนซีดาร์หนึ่งชิ้น เชือกสีแดงหนึ่งเส้น กิ่งหุสบ หนึ่งกิ่ง สำหรับใช้ในพิธีชำระล้างให้เขาบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 14:5 - นักบวชต้องสั่งให้เอานกตัวหนึ่งมาฆ่าและให้เลือดของมันไหลลงไปในชามดินเผาที่อยู่เหนือน้ำที่ไหลอยู่
- เลวีนิติ 14:6 - แล้วสั่งให้เอานกอีกตัวที่เหลือ มาพร้อมกับ ไม้สน เชือกแดง และกิ่งหุสบ แล้วเอานกตัวนั้นจุ่มลงในเลือดของนกตัวที่ถูกฆ่า ที่อยู่เหนือน้ำที่กำลังไหลนั้น
- เลวีนิติ 14:7 - ให้พรมเลือดลงไปเจ็ดครั้งบนตัวคนที่เข้าพิธีชำระจากโรคผิวหนังนั้น แล้วประกาศว่าคนๆนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วนักบวชจะปล่อยนกตัวที่เหลืออยู่นั้นเป็นอิสระกลางท้องทุ่ง
- เลวีนิติ 14:8 - แล้วคนที่ได้รับการประกาศให้เป็นคนบริสุทธิ์แล้ว ต้องเอาเสื้อของเขาไปซักล้าง โกนผมให้เกลี้ยงและอาบน้ำ แล้วเขาจะกลายเป็นคนบริสุทธิ์ หลังจากนั้นเขาจะได้รับอนุญาตให้เข้ามาในค่ายได้ แต่ต้องอยู่นอกเต็นท์เป็นเวลาเจ็ดวัน
- เลวีนิติ 14:9 - ในวันที่เจ็ดเขาต้องโกนผม โกนหนวดและขนคิ้วออกให้หมด และต้องซักเสื้อผ้าใหม่ และอาบน้ำชำระร่างกาย แล้วเขาจะเป็นคนบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 14:10 - ในวันที่แปด คนๆนั้นต้องเอาลูกแกะตัวผู้สองตัวที่ไม่มีตำหนิ และลูกแกะตัวเมียอายุหนึ่งปีที่ไม่มีตำหนิมาตัวหนึ่ง แป้งสาลีอย่างดีประมาณหกลิตรครึ่งผสมกับน้ำมันสำหรับเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร
- เลวีนิติ 14:11 - นักบวชที่จะทำพิธีชำระล้าง ต้องนำคนที่จะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ พร้อมกับเครื่องบูชาเหล่านี้ มาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ
- เลวีนิติ 14:12 - แล้วนักบวชต้องเอาลูกแกะตัวผู้มาตัวหนึ่ง ถวายเป็นของถวายชดใช้ และนำน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร มายกขึ้นให้เป็นเครื่องยื่นบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์
- เลวีนิติ 14:13 - เขาต้องฆ่าลูกแกะตัวนั้นในบริเวณพื้นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ใช้สำหรับฆ่าเครื่องบูชาชำระล้างและเครื่องเผาบูชา เพราะของถวายชดใช้นี้เป็นเหมือนเครื่องบูชาชำระล้าง มันจะเป็นของนักบวช เป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
- เลวีนิติ 14:14 - นักบวชจะเอาเลือดส่วนหนึ่งจากของถวายชดใช้ มาแต้มที่ติ่งหูข้างขวา พร้อมกับหัวแม่มือกับหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง
- เลวีนิติ 14:15 - นักบวชจะแบ่งน้ำมันมะกอกที่มีอยู่ประมาณหนึ่งในสามลิตรนั้น แล้วเทใส่ฝ่ามือซ้ายของตัวเขาเอง
- เลวีนิติ 14:16 - แล้วนักบวชจะเอานิ้วข้างขวาของเขาจุ่มลงในน้ำมันที่อยู่บนฝ่ามือซ้ายของเขา แล้วเอาไปพรมต่อหน้าพระยาห์เวห์เจ็ดครั้ง
- เลวีนิติ 14:17 - น้ำมันที่เหลือบนฝ่ามือนักบวช เขาก็จะเอาไปแต้มที่ติ่งหูด้านขวา นิ้วหัวแม่มือด้านขวา และนิ้วหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง โดยแต้มทับรอยเลือดจากของถวายชดใช้ที่แต้มไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
- เลวีนิติ 14:18 - น้ำมันที่เหลือทั้งหมดบนฝ่ามือของนักบวช เขาก็จะเอาไปลูบบนหัวของคนที่จะรับการชำระล้าง ด้วยวิธีนี้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ นักบวชจะกำจัดบาปหนึ่งบาปใดแทนคนๆนั้นที่เขาได้ทำไปต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์
- เลวีนิติ 14:19 - แล้วนักบวชจะถวายเครื่องบูชาชำระล้าง เพื่อชำระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แทนคนๆนั้นที่กำลังได้รับการชำระจากความไม่บริสุทธิ์ของเขา หลังจากนั้น นักบวชก็จะฆ่าเครื่องเผาบูชา
- เลวีนิติ 14:20 - แล้วนักบวชก็จะถวายเครื่องเผาบูชา และเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชบนแท่นบูชา และด้วยวิธีนี้นักบวชจะทำให้เกิดการคืนดีขึ้นสำหรับคนนั้น และคนนั้นก็จะบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 14:21 - แต่ถ้าคนที่จะรับการชำระล้างนั้นยากจน ไม่สามารถหาของถวายพวกนั้นมาได้ ก็ให้เขาเอาลูกแกะมาตัวหนึ่ง เป็นของถวายชดใช้ มันจะเป็นเครื่องยื่นบูชาสำหรับเขา เพื่อกำจัดบาปหนึ่งบาปใดที่เขาทำต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์ เขาต้องเอาแป้งอย่างดีมาประมาณสองลิตร ผสมน้ำมัน เป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช พร้อมกับน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร
- เลวีนิติ 14:22 - และเอานกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว อย่างใดอย่างหนึ่งที่เขาสามารถให้ได้ ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง อีกตัวใช้เป็นเครื่องเผาบูชา
- เลวีนิติ 14:23 - คนที่จะรับการชำระล้าง ต้องนำเครื่องบูชาเหล่านี้มาให้นักบวชในวันที่แปด เพื่อนักบวชจะทำพิธีชำระล้างให้กับเขา ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบต่อหน้าพระยาห์เวห์
- เลวีนิติ 14:24 - แล้วนักบวชจะเอาลูกแกะมาเป็นของถวายชดใช้ พร้อมกับน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร และนักบวชจะถวายพวกมันเป็นเครื่องยื่นบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์
- เลวีนิติ 14:25 - แล้วนักบวชก็จะฆ่าลูกแกะที่เป็นของถวายชดใช้ตัวนั้น นักบวชจะเอาเลือดส่วนหนึ่งของมัน มาแต้มที่ติ่งหูข้างขวา หัวแม่มือข้างขวา และหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง
- เลวีนิติ 14:26 - จากนั้นนักบวชจะเทน้ำมันส่วนหนึ่งใส่ฝ่ามือซ้ายของตนเอง
- เลวีนิติ 14:27 - แล้วใช้นิ้วมือข้างขวาจุ่มน้ำมันที่อยู่ในฝ่ามือซ้ายของเขา แล้วเอาไปพรมต่อหน้าพระยาห์เวห์เจ็ดครั้ง
- เลวีนิติ 14:28 - แล้วนักบวชจะเอาน้ำมันส่วนหนึ่งจากฝ่ามือ ไปแต้มที่ติ่งหูข้างขวา หัวแม่มือข้างขวาและหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง โดยแต้มทับไปบนรอยเลือดที่มาจากของถวายชดใช้ ที่แต้มอยู่ก่อนแล้ว
- เลวีนิติ 14:29 - น้ำมันที่เหลือบนฝ่ามือของนักบวช เขาจะเอาไปลูบบนหัวของคนที่จะรับการชำระล้าง เพื่อกำจัดบาปหนึ่งบาปใดที่เขาทำต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์แทนเขาต่อหน้าพระยาห์เวห์
- เลวีนิติ 14:30 - จากนั้นนักบวชจะถวายนกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่คนนั้นสามารถให้ได้
- เลวีนิติ 14:31 - ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง อีกตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องเผาบูชา พร้อมๆกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ด้วยวิธีนี้ ต่อหน้าพระยาห์เวห์ นักบวชจะทำให้เกิดการคืนดีกันขึ้นเพื่อเขาคนนั้นที่กำลังได้รับการชำระล้าง
- เลวีนิติ 14:32 - นั่นคือกฎสำหรับคนที่เป็นโรคผิวหนังร้ายแรง ที่ไม่สามารถหาเครื่องบูชาที่ใช้กันตามปกติสำหรับพิธีการชำระล้างของเขา”