逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - เหมือนกับที่ชายคนหนึ่งกำลังจะเดินทางไปที่อื่นพร้อมกับสั่งงานให้ทาสแต่ละคนในบ้านทำ และได้สั่งยามให้เฝ้าประตูบ้านดีๆ
- 新标点和合本 - 这事正如一个人离开本家,寄居外邦,把权柄交给仆人,分派各人当做的工,又吩咐看门的警醒。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 这事正如一个人离家远行,授权给仆人们,分派各人的工作,又吩咐看门的警醒。
- 和合本2010(神版-简体) - 这事正如一个人离家远行,授权给仆人们,分派各人的工作,又吩咐看门的警醒。
- 当代译本 - “这就好像一个人在出远门之前,把家中的事交给仆人,让他们各做各的工作,又吩咐守门的人要警醒。
- 圣经新译本 - 这就像一个人出外远行,把责任(“责任”原文作“权柄”)一一地交给他的仆人,又吩咐看门的要警醒。
- 中文标准译本 - 这就像一个人出外旅行,离开了家,把权柄交给了他的奴仆们,又把工作分给了每个人,他吩咐看门的人要警醒。
- 现代标点和合本 - 这事正如一个人离开本家,寄居外邦,把权柄交给仆人,分派各人当做的工,又吩咐看门的警醒。
- 和合本(拼音版) - 这事正如一个人离开本家,寄居外邦,把权柄交给仆人,分派各人当作的工,又吩咐看门的警醒。
- New International Version - It’s like a man going away: He leaves his house and puts his servants in charge, each with their assigned task, and tells the one at the door to keep watch.
- New International Reader's Version - It’s like a man going away. He leaves his house and puts his servants in charge. Each one is given a task to do. He tells the one at the door to keep watch.
- English Standard Version - It is like a man going on a journey, when he leaves home and puts his servants in charge, each with his work, and commands the doorkeeper to stay awake.
- New Living Translation - “The coming of the Son of Man can be illustrated by the story of a man going on a long trip. When he left home, he gave each of his slaves instructions about the work they were to do, and he told the gatekeeper to watch for his return.
- Christian Standard Bible - “It is like a man on a journey, who left his house, gave authority to his servants, gave each one his work, and commanded the doorkeeper to be alert.
- New American Standard Bible - It is like a man away on a journey, who upon leaving his house and putting his slaves in charge, assigning to each one his task, also commanded the doorkeeper to stay alert.
- New King James Version - It is like a man going to a far country, who left his house and gave authority to his servants, and to each his work, and commanded the doorkeeper to watch.
- Amplified Bible - It is like a man away on a journey, who when he left home put his servants in charge, each with his particular task, and also ordered the doorkeeper to be continually alert.
- American Standard Version - It is as when a man, sojourning in another country, having left his house, and given authority to his servants, to each one his work, commanded also the porter to watch.
- King James Version - For the Son of man is as a man taking a far journey, who left his house, and gave authority to his servants, and to every man his work, and commanded the porter to watch.
- New English Translation - It is like a man going on a journey. He left his house and put his slaves in charge, assigning to each his work, and commanded the doorkeeper to stay alert.
- World English Bible - “It is like a man, traveling to another country, having left his house, and given authority to his servants, and to each one his work, and also commanded the doorkeeper to keep watch.
- 新標點和合本 - 這事正如一個人離開本家,寄居外邦,把權柄交給僕人,分派各人當做的工,又吩咐看門的警醒。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 這事正如一個人離家遠行,授權給僕人們,分派各人的工作,又吩咐看門的警醒。
- 和合本2010(神版-繁體) - 這事正如一個人離家遠行,授權給僕人們,分派各人的工作,又吩咐看門的警醒。
- 當代譯本 - 「這就好像一個人在出遠門之前,把家中的事交給僕人,讓他們各做各的工作,又吩咐守門的人要警醒。
- 聖經新譯本 - 這就像一個人出外遠行,把責任(“責任”原文作“權柄”)一一地交給他的僕人,又吩咐看門的要警醒。
- 呂振中譯本 - 就如一個人出外、離開了家,把權柄給他的奴僕,把他的工作給各人,又囑咐看門的要儆醒。
- 中文標準譯本 - 這就像一個人出外旅行,離開了家,把權柄交給了他的奴僕們,又把工作分給了每個人,他吩咐看門的人要警醒。
- 現代標點和合本 - 這事正如一個人離開本家,寄居外邦,把權柄交給僕人,分派各人當做的工,又吩咐看門的警醒。
- 文理和合譯本 - 譬人去家遠遊、委權於僕、各有所司、命閽者儆醒、
- 文理委辦譯本 - 譬如一人、去家遠遊、委權於僕、各有所司、命閽者儆醒、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 譬諸一人、離家而遠遊、委權於僕、各任以事、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 猶人離鄉遠遊、授僕以權、分工治事、並戒司閽守望弗懈、
- Nueva Versión Internacional - Es como cuando un hombre sale de viaje y deja su casa al cuidado de sus siervos, cada uno con su tarea, y le manda al portero que vigile.
- 현대인의 성경 - 그것은 마치 어떤 사람이 여행을 떠나면서 종들에게 각각 일을 맡기고 문지기에게 잘 지키라고 명령하는 것과 같다.
- Новый Русский Перевод - Вот с чем можно сравнить это ожидание: человек, отправляясь в далекое путешествие, оставляет свой дом под присмотром слуг и каждому слуге дает особое поручение, а привратнику наказывает бодрствовать.
- Восточный перевод - Вот с чем можно сравнить это ожидание: человек, отправляясь в далёкое путешествие, оставляет свой дом под присмотром рабов и каждому рабу даёт особое поручение, а привратнику наказывает бодрствовать.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Вот с чем можно сравнить это ожидание: человек, отправляясь в далёкое путешествие, оставляет свой дом под присмотром рабов и каждому рабу даёт особое поручение, а привратнику наказывает бодрствовать.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Вот с чем можно сравнить это ожидание: человек, отправляясь в далёкое путешествие, оставляет свой дом под присмотром рабов и каждому рабу даёт особое поручение, а привратнику наказывает бодрствовать.
- La Bible du Semeur 2015 - Les choses se passeront comme lorsqu’un homme quitte sa maison pour un long voyage et en laisse la responsabilité à ses serviteurs, en confiant à chacun sa tâche. Il commande au portier de veiller.
- リビングバイブル - こう言えば、もっとはっきりわかるでしょう。ちょうど、外国旅行に出かける人が、使用人たちに留守中の仕事の手配をし、門番には、主人の帰りを見張っているようにと命じて出かけるのと同じです。
- Nestle Aland 28 - Ὡς ἄνθρωπος ἀπόδημος ἀφεὶς τὴν οἰκίαν αὐτοῦ καὶ δοὺς τοῖς δούλοις αὐτοῦ τὴν ἐξουσίαν ἑκάστῳ τὸ ἔργον αὐτοῦ καὶ τῷ θυρωρῷ ἐνετείλατο ἵνα γρηγορῇ.
- unfoldingWord® Greek New Testament - ὡς ἄνθρωπος ἀπόδημος, ἀφεὶς τὴν οἰκίαν αὐτοῦ, καὶ δοὺς τοῖς δούλοις αὐτοῦ τὴν ἐξουσίαν, ἑκάστῳ τὸ ἔργον αὐτοῦ, καὶ τῷ θυρωρῷ ἐνετείλατο ἵνα γρηγορῇ.
- Nova Versão Internacional - É como um homem que sai de viagem. Ele deixa sua casa, encarrega de tarefas cada um dos seus servos e ordena ao porteiro que vigie.
- Hoffnung für alle - Es wird dann so sein wie bei einem Mann, der vorhat, ins Ausland zu reisen. Bevor er sein Haus verlässt, überträgt er seinen Dienern die Verantwortung: Er weist jedem eine bestimmte Arbeit zu und befiehlt dem Pförtner, wachsam zu sein.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Như trường hợp chủ nhà đi xa, giao cho đầy tớ mỗi người một việc, và bảo người gác cổng phải thức canh.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ก็เหมือนชายคนหนึ่งออกจากบ้านไป เขาตั้งคนรับใช้ให้รับผิดชอบหน้าที่ต่างๆ ตามที่แต่ละคนได้รับมอบหมายและบอกคนเฝ้าประตูให้เฝ้าระวังไว้
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เหมือนกับชายคนหนึ่งที่ออกเดินทางไป เมื่อถึงเวลาที่เขาจะจากบ้านไป เขาให้พวกทาสรับใช้ดูแล มอบหมายงานให้แต่ละคนและสั่งให้นายประตูเฝ้าไว้
- Thai KJV - ด้วยว่าบุตรมนุษย์เปรียบเหมือนเจ้าของบ้านคนหนึ่งที่ออกจากบ้านไปทางไกล มอบสิทธิอำนาจให้แก่พวกผู้รับใช้ของเขา และให้รู้การงานของตนว่ามีหน้าที่อะไรและได้สั่งนายประตูให้เฝ้าบ้านอยู่
交叉引用
- โรม 13:6 - นี่เป็นเหตุที่คุณต้องเสียภาษี เพราะผู้มีอำนาจพวกนี้เป็นคนรับใช้ของพระเจ้า ที่ดูแลเรื่องเหล่านี้เสมอ
- วิวรณ์ 3:7 - ให้เขียนถึงทูตสวรรค์ของหมู่ประชุมในเมืองฟิลาเดลเฟียว่า
- ลูกา 19:12 - พระองค์เล่าว่า “มีเชื้อพระวงศ์องค์หนึ่งกำลังจะเดินทางไปแดนไกลเพื่อไปรับการแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ แล้วเขาจะกลับมา
- ลูกา 19:13 - ก่อนไป เขาก็เรียกทาสมาสิบคน มอบเงินให้สิบมินา และสั่งว่า ‘เอาไปทำการค้าจนกว่าเราจะกลับมา’
- ลูกา 19:14 - แต่คนเมืองนั้นเกลียดเขา จึงส่งตัวแทนตามหลังเขาไปเพื่อบอกว่า ‘เราไม่อยากได้คนนี้มาเป็นกษัตริย์ของพวกเรา’
- ลูกา 19:15 - แต่สุดท้ายเขาก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ และได้เดินทางกลับมา เขาเรียกพวกทาสที่เขาฝากเงินมาพบ เพราะอยากรู้ว่าพวกเขาทำกำไรได้เท่าไหร่
- ลูกา 19:16 - คนแรกมาถึงและบอกว่า ‘เจ้านายครับ เงินหนึ่งมินาของท่าน ผมเอาไปทำกำไร ได้สิบมินาครับ’
- ลูกา 19:17 - เจ้านายชมเขาว่า ‘เยี่ยมมาก เจ้าเป็นทาสที่ดี ไว้ใจได้แม้แต่เรื่องเล็กๆเราจะให้เจ้าดูแลเมืองสิบเมือง’
- 1 โครินธ์ 3:5 - อปอลโลเป็นใคร และเปาโลเป็นใคร เราก็แค่คนรับใช้ที่ช่วยให้พวกคุณมาเชื่อ เราแค่ทำตามหน้าที่ของเราแต่ละคนตามที่องค์เจ้าชีวิตมอบหมายให้เท่านั้น
- 1 โครินธ์ 3:6 - ผมเป็นคนปลูก อปอลโลเป็นคนรดน้ำ แต่พระเจ้าเป็นผู้ทำให้เติบโต
- 1 โครินธ์ 3:7 - ดังนั้นทั้งคนปลูก และคนรดน้ำก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลย แต่พระเจ้าผู้ทำให้เติบโตต่างหากที่สำคัญ
- 1 โครินธ์ 3:8 - ทั้งคนปลูกและคนรดน้ำก็มีเป้าหมายเดียวกัน และแต่ละคนก็จะได้รับรางวัลตามผลงานที่เขาได้ทำไว้
- 1 โครินธ์ 3:9 - เพราะพวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานในการรับใช้พระเจ้า พวกคุณเป็นไร่นาของพระเจ้า และตึกของพระเจ้า
- 1 โครินธ์ 3:10 - ผมได้วางรากฐานเหมือนหัวหน้าวิศวกรผู้ชำนาญตามหน้าที่ที่พระเจ้ามอบให้กับผม แล้วคนอื่นก็มาก่อขึ้นบนรากฐานนั้น แต่ให้แต่ละคนระวังว่าเขาจะก่อขึ้นมาอย่างไร
- 1 โครินธ์ 12:4 - พรสวรรค์มีหลายอย่าง แต่มาจากพระวิญญาณองค์เดียวกัน
- 1 โครินธ์ 12:5 - งานรับใช้ก็มีหลายแบบ แต่ก็รับใช้องค์เจ้าชีวิตองค์เดียวกัน
- 1 โครินธ์ 12:6 - การงานมีหลายอย่าง แต่เป็นพระเจ้าองค์เดียวกันที่ได้ทำงานทั้งหมดนี้ผ่านทางทุกคน
- 1 โครินธ์ 12:7 - พระเจ้าให้พระวิญญาณทำงานในแต่ละคนเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
- 1 โครินธ์ 12:8 - พระวิญญาณให้คนหนึ่งสามารถพูดอย่างชาญฉลาด และพระวิญญาณองค์เดียวกันนี้ทำให้อีกคนหนึ่งพูดด้วยความรอบรู้
- 1 โครินธ์ 12:9 - พระวิญญาณนี้ก็ให้อีกคนหนึ่งมีความเชื่ออันยิ่งใหญ่ และให้อีกคนหนึ่งรักษาโรคได้ ซึ่งก็มาจากพระวิญญาณองค์เดียวกัน
- 1 โครินธ์ 12:10 - แล้วพระองค์ก็ให้อีกคนหนึ่งทำการอัศจรรย์ได้ และให้อีกคนหนึ่งพูดแทนพระเจ้าได้ และให้อีกคนหนึ่งแยกแยะออกว่า สิ่งที่คนนั้นพูดมาจากพระเจ้าหรือเปล่า และให้อีกคนหนึ่งพูดภาษาแปลกๆได้ และให้อีกคนหนึ่งแปลภาษาเหล่านั้นได้
- 1 โครินธ์ 12:11 - แต่ทั้งหมดนี้ก็สำเร็จได้ด้วยพระวิญญาณองค์เดียวกัน และพระองค์ก็ให้พรสวรรค์กับแต่ละคนตามที่พระองค์เห็นสมควร
- 1 โครินธ์ 12:12 - พวกเรามีร่างกายเดียวแต่มีอวัยวะหลายส่วน และถึงแม้จะมีอวัยวะหลายส่วน อวัยวะทั้งหมดก็ประกอบขึ้นเป็นร่างกายเดียวกัน พระคริสต์ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน
- 1 โครินธ์ 12:13 - เพราะพวกเราทุกคนได้รับการจุ่มน้ำด้วยพระวิญญาณองค์เดียว เพื่อจะได้เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเดียวกัน ไม่ว่าเราจะเป็นใครก็ตาม คนยิวหรือไม่ใช่คนยิว เป็นทาสหรือเป็นคนอิสระ พวกเราก็ได้รับพระวิญญาณองค์เดียวกัน
- 1 โครินธ์ 12:14 - ร่างกายของมนุษย์นั้นไม่ได้มีแค่อวัยวะเดียว แต่มีหลายอวัยวะ
- 1 โครินธ์ 12:15 - ถึงเท้าจะพูดว่า “เพราะฉันไม่ใช่มือ ฉันก็เลยไม่เป็นของร่างกายนี้” นั่นก็ไม่ได้ทำให้เท้าเลิกเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายหรอกนะ
- 1 โครินธ์ 12:16 - ถึงหูจะพูดว่า “เพราะฉันไม่ใช่ตา ฉันก็เลยไม่เป็นของร่างกายนี้” นั่นก็ไม่ได้ทำให้หูเลิกเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายนี้หรอกนะ
- 1 โครินธ์ 12:17 - ถ้าทั้งร่างเป็นตาหมด แล้วเราจะได้ยินได้อย่างไร ถ้าทั้งร่างเป็นหูหมด แล้วเราจะได้กลิ่นได้อย่างไร
- 1 โครินธ์ 12:18 - แต่ความจริงแล้ว พระเจ้าก็ได้จัดอวัยวะแต่ละชิ้นในร่างกาย ตามที่พระองค์เห็นว่าเหมาะสมแล้ว
- 1 โครินธ์ 12:19 - ถ้าทั้งร่างมีอวัยวะเดียวเหมือนกันหมด แล้วจะมีร่างกายได้อย่างไร
- 1 โครินธ์ 12:20 - เราจะเห็นว่ามีอวัยวะตั้งหลายส่วนก็จริง แต่มีกายแค่กายเดียว
- 1 โครินธ์ 12:21 - ตาจะบอกกับมือว่า “ฉันไม่ต้องการเธอ” ก็ไม่ได้ หรือหัวจะบอกกับเท้าว่า “ฉันไม่ต้องการพวกเธอ” ก็ไม่ได้
- 1 โครินธ์ 12:22 - อวัยวะของร่างกายที่เราคิดว่าอ่อนแอกลับเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก
- 1 โครินธ์ 12:23 - อวัยวะที่เราเห็นว่าไม่ค่อยสำคัญเท่าไรกลับต้องดูแลเป็นพิเศษ และอวัยวะที่เราอายที่จะอวด กลับต้องดูแลเป็นอย่างดี
- 1 โครินธ์ 12:24 - แต่อวัยวะที่อวดได้นั้น กลับไม่จำเป็นต้องดูแลมากนัก พระเจ้าได้ประกอบอวัยวะต่างๆเข้าด้วยกันในแบบที่ว่า อวัยวะส่วนไหนที่ดูเหมือนต่ำต้อย พระองค์ก็ให้เกียรติส่วนนั้นมากขึ้น
- 1 โครินธ์ 12:25 - เพื่อจะได้ไม่เกิดการแตกแยกกันขึ้นในร่างกาย แต่ให้อวัยวะทุกส่วนเอาใจใส่ซึ่งกันและกันอย่างเท่าเทียมกันหมด
- 1 โครินธ์ 12:26 - ถ้าอวัยวะหนึ่งเจ็บ อวัยวะทุกส่วนของร่างกายก็เจ็บด้วย ถ้าอวัยวะหนึ่งได้รับเกียรติ อวัยวะทุกส่วนก็จะร่วมฉลองด้วย
- 1 โครินธ์ 12:27 - ดังนั้น พวกคุณเป็นร่างกายของพระคริสต์ และแต่ละคนก็เป็นอวัยวะของร่างกายนั้น
- 1 โครินธ์ 12:28 - ยิ่งกว่านั้น ในหมู่ประชุมของพระเจ้า พระองค์ได้แต่งตั้งศิษย์เอกเป็นอันดับแรก อันดับที่สองผู้พูดแทนพระเจ้า อันดับที่สามครูสอน จากนั้นก็คนทำสิ่งอัศจรรย์ คนที่รักษาโรคได้ คนที่ช่วยเหลือผู้อื่นได้ คนที่เป็นผู้นำ คนที่พูดภาษาแปลกๆได้
- 1 โครินธ์ 12:29 - ทุกคนเป็นศิษย์เอกหรือ ทุกคนเป็นผู้พูดแทนพระเจ้าหรือ ทุกคนเป็นครูสอนหรือ ทุกคนทำสิ่งอัศจรรย์ได้หรือ
- 1 โครินธ์ 12:30 - ทุกคนรักษาโรคได้หรือ ทุกคนพูดภาษาแปลกๆได้หรือ ทุกคนแปลภาษาพวกนั้นได้หรือ
- 1 โครินธ์ 12:31 - แต่ขอให้พวกคุณขวนขวายพรสวรรค์ต่างๆที่ยิ่งใหญ่ ตอนนี้ ผมจะชี้หนทางที่ดีที่สุดให้คุณเห็น
- โคโลสี 4:1 - พวกคุณที่เป็นนาย ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องและยุติธรรมกับทาสของตัวเอง จำไว้ว่าคุณก็มีเจ้านายองค์หนึ่งบนสวรรค์เหมือนกัน
- โรม 12:4 - เหมือนกับที่เรามีร่างเดียวแต่มีอวัยวะหลายส่วน และอวัยวะทั้งหลายก็ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเดียวกัน
- โรม 12:5 - เช่นเดียวกันพวกเราที่เป็นเหมือนอวัยวะต่างๆประกอบกันขึ้นมาเป็นร่างเดียวกันในพระคริสต์ และเราก็เป็นอวัยวะของกันและกันด้วย
- โรม 12:6 - พระเจ้ามีเมตตากรุณามอบพรสวรรค์ให้กับเราแต่ละคนแตกต่างกันไป ถ้าคนไหนมีพรสวรรค์ในเรื่องที่จะพูดแทนพระเจ้า ก็ให้เขาพูดตามรูปแบบความเชื่อที่เขาได้รับมา
- โรม 12:7 - ถ้าคนไหนมีพรสวรรค์ในการรับใช้ ก็ให้เขาอุทิศตัวในการรับใช้ ถ้าคนไหนมีพรสวรรค์ในการสั่งสอน ก็ให้เขาอุทิศตัวในการสั่งสอน
- โรม 12:8 - ถ้าคนไหนมีพรสวรรค์ในการให้กำลังใจ ก็ให้เขาอุทิศตัวในการให้กำลังใจ คนที่มีพรสวรรค์ในการให้ ก็ให้เขาให้อย่างเต็มใจ คนที่มีพรสวรรค์ในเรื่องการช่วยเหลือ ก็ให้ทำอย่างเอาจริงเอาจัง คนที่มีพรสวรรค์ในเรื่องการแสดงความเมตตา ก็ให้แสดงความเมตตาด้วยความยินดี
- มัทธิว 16:19 - เราจะให้กุญแจของอาณาจักรแห่งสวรรค์กับคุณ อะไรก็ตามที่คุณห้ามไม่ให้ทำบนโลกนี้ พระเจ้าที่อยู่บนสวรรค์ก็จะห้ามไม่ให้ทำด้วย ส่วนอะไรก็ตามที่คุณให้ทำบนโลกนี้ พระเจ้าที่อยู่บนสวรรค์ก็จะให้ทำด้วย”
- เอเสเคียล 3:17 - “เจ้าลูกมนุษย์ เราได้ตั้งให้เจ้าเป็นยามเฝ้าดู ครอบครัวอิสราเอล ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าได้ยินคำพูดจากปากของเรา เจ้าจะต้องไปเตือนพวกเขาให้กับเรา
- เอเสเคียล 3:18 - ถ้าเราพูดกับคนชั่วคนหนึ่งว่า ‘เจ้าจะต้องตายแน่ๆ’ แล้วเจ้าไม่เตือนเขาหรือพูดให้เขากลับใจเลิกทำชั่ว เพื่อช่วยชีวิตเขา คนชั่วคนนั้นก็จะตายเพราะบาปของเขา และเราจะถือว่าเจ้าต้องรับผิดชอบต่อการตายนั้น
- เอเสเคียล 3:19 - แต่ถ้าเจ้าได้เตือนคนชั่วคนนั้น แล้วเขาไม่ยอมกลับใจเลิกทำชั่ว เขาก็จะตายเพราะบาปของเขา แต่เจ้าได้ช่วยชีวิตของตัวเจ้าเองไว้
- เอเสเคียล 3:20 - ถ้าคนดีคนหนึ่งหันจากการทำดีไปทำชั่วแทน เราจะวางอุปสรรคไว้ตรงหน้าเขา เพื่อให้เขาสะดุดล้ม แล้วเขาจะตาย เขาจะตายเพราะบาปของเขา เพราะเจ้าไม่ได้เตือนเขา เราจะมองข้ามสิ่งดีๆที่เขาเคยทำนั้น อย่างนี้เราถือว่าเจ้าจะต้องรับผิดชอบต่อการตายของเขา
- เอเสเคียล 3:21 - แต่ถ้าเจ้าเตือนคนที่ทำดีคนนั้นไม่ให้ไปทำบาป แล้วเขาก็ไม่ได้ทำบาป เขาก็จะมีชีวิตแน่ เพราะเขาฟังคำเตือนของเจ้า และเจ้าก็จะได้ช่วยชีวิตของตัวเจ้าเองด้วย”
- เอเสเคียล 33:2 - “เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดกับคนของเจ้าและบอกพวกเขาว่า ‘เมื่อเรานำกองทัพศัตรูมาต่อสู้กับแผ่นดินหนึ่งและประชาชนของแผ่นดินนั้นได้เลือกคนหนึ่งในพวกเขาให้เป็นยามเฝ้าดูเมือง
- เอเสเคียล 33:3 - และถ้ายามคนนั้นมองเห็นกองทัพศัตรูบุกเข้ามาโจมตีแผ่นดินนั้น เขาจะเป่าแตรเตือนประชาชน
- เอเสเคียล 33:4 - แล้วถ้ามีใครได้ยินเสียงแตรนั้น แต่เมินเฉยต่อเสียงเตือนนั้น กองทัพศัตรูนั้นก็จะมาคร่าเอาชีวิตเขาไป เขาแส่หาที่ตายเอง
- เอเสเคียล 33:5 - เขาแส่หาที่ตายเอง เพราะเขาได้ยินเสียงแตร แต่ทำเป็นเมินเฉยไม่สนใจต่อเสียงเตือนนั้น แต่ถ้าหากเขาฟังเสียงเตือน เขาก็จะรักษาชีวิตของเขาไว้ได้
- เอเสเคียล 33:6 - แต่ถ้ายามเห็นกองทัพศัตรูกำลังบุกมา แต่ไม่ยอมเป่าแตรเตือนประชาชน แล้วกองทัพศัตรูบุกมาถึงและได้คร่าเอาชีวิตคนหนึ่งคนใดไป คนเหล่านั้นต้องตายไปเพราะบาปของพวกเขา แต่เราจะให้ยามคนนั้นต้องรับผิดชอบต่อเลือดของพวกเขาด้วย’”
- เอเสเคียล 33:7 - “เจ้าลูกมนุษย์ เราได้ให้เจ้าเป็นยามเฝ้าดูครอบครัวอิสราเอล ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าได้ยินคำเตือนจากเรา เจ้าจะต้องไปเตือนพวกเขา
- เอเสเคียล 33:8 - ถ้าเราพูดกับคนชั่วว่า ‘ไอ้ชาติชั่ว เจ้าจะต้องตายแน่’ แล้วเจ้ากลับไม่เอาสิ่งนี้ไปเตือนเขา เพื่อหันเขาไปจากทางชั่วของเขา คนชั่วนั้นจะต้องตายเพราะบาปของเขา แต่เราจะให้เจ้าต้องรับผิดชอบต่อเลือดของเขาด้วย
- เอเสเคียล 33:9 - แต่ถ้าเจ้าเตือนคนชั่วนั้นให้หันไปจากสิ่งที่เขาทำอยู่ แต่เขาไม่ยอมฟังเจ้า เขาจะตายเพราะบาปของเขาเอง แต่เจ้าจะได้รักษาชีวิตของเจ้าไว้”
- กิจการ 20:29 - ผมรู้ว่าเมื่อผมจากไป จะมีคนอื่นที่เป็นเหมือนฝูงหมาป่าดุร้ายเข้ามาทำร้ายฝูงชนของพระเจ้า
- กิจการ 20:30 - แม้แต่พวกคุณเองบางคน ก็จะพูดบิดเบือนความจริง เพื่อล่อพวกศิษย์ของพระเยซูให้ไปติดตามพวกเขาแทน
- กิจการ 20:31 - ฉะนั้น ระวังตัวไว้ให้ดี จำไว้ว่าตลอดเวลาสามปีมานี้ ผมได้ตักเตือนพวกคุณแต่ละคนด้วยน้ำตามาตลอด ไม่เคยหยุดเลยทั้งกลางวันและกลางคืน
- มัทธิว 24:45 - ใครเป็นทาสที่ซื่อสัตย์และฉลาด ที่เจ้านายมอบหมายให้ดูแลพวกทาสคนอื่นๆในบ้านเรือนของเขา และให้จัดหาอาหารให้ทาสพวกนั้นกินตามเวลา
- มัทธิว 24:46 - เมื่อนายกลับมาเห็นทาสคนนั้นทำงานอย่างดี ทาสคนนั้นก็จะได้รับเกียรติจริงๆ
- มัทธิว 24:47 - เราจะบอกให้รู้ว่า เจ้านายจะแต่งตั้งให้เขาดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขา
- โคโลสี 3:24 - เพราะคุณรู้ว่าจะได้รับมรดกจากองค์เจ้าชีวิตเป็นรางวัล เป็นพระคริสต์เจ้านี่แหละที่คุณกำลังรับใช้อยู่
- ลูกา 12:36 - เหมือนกับคนที่กำลังคอยเจ้านายของตนกลับมาจากงานแต่งงาน เมื่อเขามาเคาะประตูเรียก ก็จะได้เปิดให้ทันที
- ลูกา 12:37 - พวกคนใช้ที่เจ้านายกลับมาพบว่ายังคงตื่นคอยเขาอยู่ ก็ถือว่ามีเกียรติจริงๆ เราจะบอกให้รู้ว่า นายคนนั้นจะพาพวกคนใช้ไปนั่งที่โต๊ะ และเขาก็จะใส่ผ้ากันเปื้อน มาคอยให้บริการพวกคนใช้ที่นั่งกินอยู่
- ลูกา 12:38 - ถ้านายกลับมาตอนเที่ยงคืนหรือดึกกว่านั้น แล้วพบว่าคนใช้ยังอยู่เตรียมพร้อมอย่างนั้น พวกเขาก็มีเกียรติจริงๆ
- ลูกา 12:39 - แต่ให้รู้นะว่า ถ้าเจ้าของบ้านรู้ตัวว่า ขโมยจะมาเวลาไหน เขาคงไม่ปล่อยให้ขโมยงัดเข้ามาในบ้านแน่
- ลูกา 12:40 - พวกคุณก็เหมือนกัน ให้เตรียมพร้อมอยู่เสมอ เพราะบุตรมนุษย์จะมาตอนที่คุณคาดไม่ถึง”
- 1 โครินธ์ 15:58 - ดังนั้น พี่น้องที่รัก ให้มั่นคง อย่าหวั่นไหว และให้ทุ่มเทกับงานขององค์เจ้าชีวิตตลอดเวลา เพราะคุณก็รู้ว่าจะได้รับรางวัลสำหรับงานหนักที่คุณทำเพื่อองค์เจ้าชีวิตนั้นแน่
- มัทธิว 25:14 - หรือเราอาจจะเปรียบอาณาจักรนั้นเหมือนกับชายคนหนึ่งที่กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศ จึงเรียกพวกทาสมาและฝากทรัพย์สินให้พวกเขาดูแล
- มัทธิว 25:15 - เขาให้เงินห้าถุงกับทาสคนหนึ่ง ให้เงินสองถุงกับทาสอีกคนหนึ่ง และให้เงินหนึ่งถุง กับทาสคนสุดท้าย โดยได้แบ่งให้ตามความสามารถของแต่ละคน แล้วเขาก็ออกเดินทางไป
- มัทธิว 25:16 - ทาสที่ได้รับเงินห้าถุง เอาเงินไปค้าขายทันที และได้กำไรมาอีกห้าถุง
- มัทธิว 25:17 - ทาสที่ได้เงินสองถุง เอาเงินไปค้าขายเหมือนกัน และได้กำไรมาอีกสองถุง
- มัทธิว 25:18 - แต่ทาสที่ได้เงินหนึ่งถุงได้ขุดหลุมซ่อนเงินของเจ้านายไว้ในพื้นดิน
- มัทธิว 25:19 - หลังจากเวลาผ่านไปนาน เจ้านายกลับมาและเรียกพวกเขามาถามว่าเอาเงินไปทำอะไรกันบ้าง
- มัทธิว 25:20 - ทาสที่ได้เงินไปห้าถุงได้นำเงินกำไรอีกห้าถุงมาให้นาย และบอกว่า ‘เจ้านายครับ ท่านให้ผมดูแลเงินห้าถุง และนี่ผมได้กำไรมาอีกห้าถุง’
- มัทธิว 25:21 - นายจึงพูดกับเขาว่า ‘เยี่ยมมาก เจ้าเป็นทาสที่ดีและซื่อสัตย์ เจ้าได้ซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กๆน้อยๆเราจะตั้งให้เจ้าดูแลของจำนวนมาก มาร่วมฉลองกับเรา’
- มัทธิว 25:22 - แล้วทาสที่ได้รับเงินสองถุงก็มา และพูดว่า ‘เจ้านายครับ ท่านให้ผมดูแลเงินสองถุง ดูสิครับ ผมได้กำไรมาอีกสองถุง’
- มัทธิว 25:23 - นายพูดกับเขาว่า ‘เจ้าทำดีมาก เจ้าเป็นทาสที่ดีและซื่อสัตย์ เจ้าซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กๆน้อยๆ เราจะตั้งให้เจ้าดูแลของจำนวนมาก มาร่วมฉลองกับเรา’
- มัทธิว 25:24 - แล้วทาสที่ได้รับเงินถุงเดียวก็มา และพูดว่า ‘เจ้านายครับ ผมรู้ว่าท่านเป็นคนที่โหดร้ายทารุณ ท่านเก็บเกี่ยวในที่ดินซึ่งท่านไม่ได้ปลูก และเก็บพืชผลที่ท่านไม่ได้หว่าน
- มัทธิว 25:25 - ผมกลัวท่าน ก็เลยเอาถุงเงินไปฝังดินซ่อนไว้ นี่ไงถุงเงินของท่าน’
- มัทธิว 25:26 - นายจึงด่าเขาว่า ‘ไอ้ทาสชาติชั่วจอมขี้เกียจ ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าเก็บเกี่ยวในที่ดินซึ่งข้าไม่ได้ปลูก และเก็บพืชผลที่ข้าไม่ได้หว่าน
- มัทธิว 25:27 - ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็น่าจะเอาเงินของข้าไปฝากธนาคารไว้ เพื่อว่าเมื่อข้ากลับมา ข้าก็จะได้เงินกลับมาพร้อมทั้งดอกเบี้ยด้วย’
- มัทธิว 25:28 - แล้วเจ้านายก็บอกให้เอาถุงเงินจากเขาไปให้คนที่มีถุงเงินสิบถุง
- มัทธิว 25:29 - เพราะคนที่ทำประโยชน์จากสิ่งที่เขามีอยู่ ก็จะได้รับเพิ่มมากขึ้นจนเหลือเฟือ แต่คนที่ไม่ได้ทำประโยชน์จากสิ่งที่เขามีอยู่ ทุกสิ่งที่เขามีจะถูกริบไปจนหมดด้วย
- มัทธิว 25:30 - จากนั้นเขาก็สั่งให้เอาตัวทาสที่ไร้ประโยชน์นี้โยนออกไปที่มืดข้างนอก ที่นั่นจะมีเสียงร้องไห้โหยหวนด้วยความเจ็บปวด
- ยอห์น 10:3 - คนเฝ้าประตูก็เปิดประตูให้เขาและแกะก็ฟังเสียงของเขา เขารู้จักแกะแต่ละตัว เรียกแกะตามชื่อของมันเอง และเขานำพวกแกะออกจากคอก