逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - ถ้าอาณาจักรไหนแตกแยกกันเอง อาณาจักรนั้นก็จะตั้งอยู่ต่อไปไม่ได้
- 新标点和合本 - 若一国自相纷争,那国就站立不住;
- 和合本2010(上帝版-简体) - 一国若自相纷争,那国就立不住;
- 和合本2010(神版-简体) - 一国若自相纷争,那国就立不住;
- 当代译本 - 一个国内部自相纷争,必无法坚立。
- 圣经新译本 - 一国若自相纷争,那国就站立不住;
- 中文标准译本 - 一个国家如果自相纷争,这个国家就站立不住;
- 现代标点和合本 - 若一国自相纷争,那国就站立不住;
- 和合本(拼音版) - 若一国自相纷争,那国就站立不住;
- New International Version - If a kingdom is divided against itself, that kingdom cannot stand.
- New International Reader's Version - If a kingdom fights against itself, it can’t stand.
- English Standard Version - If a kingdom is divided against itself, that kingdom cannot stand.
- New Living Translation - “A kingdom divided by civil war will collapse.
- Christian Standard Bible - If a kingdom is divided against itself, that kingdom cannot stand.
- New American Standard Bible - And if a kingdom is divided against itself, that kingdom cannot stand.
- New King James Version - If a kingdom is divided against itself, that kingdom cannot stand.
- Amplified Bible - If a kingdom is divided [split into factions and rebelling] against itself, that kingdom cannot stand.
- American Standard Version - And if a kingdom be divided against itself, that kingdom cannot stand.
- King James Version - And if a kingdom be divided against itself, that kingdom cannot stand.
- New English Translation - If a kingdom is divided against itself, that kingdom will not be able to stand.
- World English Bible - If a kingdom is divided against itself, that kingdom cannot stand.
- 新標點和合本 - 若一國自相紛爭,那國就站立不住;
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 一國若自相紛爭,那國就立不住;
- 和合本2010(神版-繁體) - 一國若自相紛爭,那國就立不住;
- 當代譯本 - 一個國內部自相紛爭,必無法堅立。
- 聖經新譯本 - 一國若自相紛爭,那國就站立不住;
- 呂振中譯本 - 一國若自相紛爭,那國就不能站立;
- 中文標準譯本 - 一個國家如果自相紛爭,這個國家就站立不住;
- 現代標點和合本 - 若一國自相紛爭,那國就站立不住;
- 文理和合譯本 - 夫國自相分爭、其國弗能立、
- 文理委辦譯本 - 若國自相分爭、則無以立國、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 若國自相分爭、其國不能立、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 國而自分、其國必亡;
- Nueva Versión Internacional - Si un reino está dividido contra sí mismo, ese reino no puede mantenerse en pie.
- 현대인의 성경 - 한 나라가 서로 싸워 갈라지면 망하고
- Новый Русский Перевод - Если царство разделится на враждующие части, оно не сможет устоять,
- Восточный перевод - Если царство разделится на враждующие части, оно не сможет устоять,
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Если царство разделится на враждующие части, оно не сможет устоять,
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Если царство разделится на враждующие части, оно не сможет устоять,
- La Bible du Semeur 2015 - Un royaume déchiré par la guerre civile ne peut pas subsister.
- リビングバイブル - 内部で分かれ争っている国は、結局自滅してしまいます。
- Nestle Aland 28 - καὶ ἐὰν βασιλεία ἐφ’ ἑαυτὴν μερισθῇ, οὐ δύναται σταθῆναι ἡ βασιλεία ἐκείνη·
- unfoldingWord® Greek New Testament - καὶ ἐὰν βασιλεία ἐφ’ ἑαυτὴν μερισθῇ, οὐ δύναται σταθῆναι ἡ βασιλεία ἐκείνη.
- Nova Versão Internacional - Se um reino estiver dividido contra si mesmo, não poderá subsistir.
- Hoffnung für alle - Ein Staat kann nicht bestehen, wenn in ihm verschiedene Herrscher um die Macht kämpfen.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Một nước chia rẽ phải sụp đổ,
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - หากอาณาจักรใดแตกแยกกันเองอาณาจักรนั้นย่อมตั้งอยู่ไม่ได้
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - และถ้าอาณาจักรแบ่งแยกกันเองแล้ว อาณาจักรนั้นจะตั้งอยู่ไม่ได้
- Thai KJV - ถ้าราชอาณาจักรใดๆเกิดแตกแยกกันแล้ว ราชอาณาจักรนั้นจะตั้งอยู่ไม่ได้
交叉引用
- 2 ซามูเอล 20:6 - ดาวิดพูดกับอาบีชัยว่า “ตอนนี้ เชบาลูกชายบิครีจะเป็นอันตรายกับเรามากกว่าอับซาโลม เอาคนของเราไปตามล่าเขา ไม่อย่างนั้นเขาจะหลบหนีพวกเราไปอยู่ในเมืองที่เป็นป้อมปราการได้”
- เศคาริยาห์ 11:14 - จากนั้นผมได้หักไม้เท้าอันที่สองที่มีชื่อว่า “ความเป็นหนึ่งเดียว” เพื่อให้เห็นว่าผมได้ทำลายความเป็นพี่น้องกันระหว่างชาวยูดาห์กับชาวอิสราเอลแล้ว
- ผู้วินิจฉัย 12:1 - ชาวเอฟราอิมได้รวมพล แล้วข้ามไปถึงศาโฟน พวกเขาพูดกับเยฟธาห์ว่า “ทำไมท่านไปสู้รบกับคนอัมโมน แต่ไม่เรียกพวกเราไปด้วย เราจะเผาบ้านท่านเสีย”
- ผู้วินิจฉัย 12:2 - เยฟธาห์ตอบพวกเขาว่า “คนอัมโมนสร้างปัญหาให้กับข้าและคนของข้ามาก ข้าได้เรียกพวกท่าน แต่พวกท่านไม่ยอมมาช่วยกู้ข้าให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกเขา
- ผู้วินิจฉัย 12:3 - เมื่อข้าเห็นพวกท่านไม่ช่วยข้า ข้าก็เสี่ยงชีวิตตัวเองไปสู้รบกับชาวอัมโมน และพระยาห์เวห์ได้มอบพวกนั้นไว้ในมือข้า แล้ววันนี้พวกท่านจะมาสู้รบกับข้าทำไมกันเล่า”
- ผู้วินิจฉัย 12:4 - เยฟธาห์ก็ได้รวบรวมผู้ชายทั้งหมดของกิเลอาด มาสู้รบกับเอฟราอิม เพราะชาวเอฟราอิมเหยียดหยามพวกเขาว่า “พวกแกชาวกิเลอาดก็เป็นแค่ผู้อพยพในเอฟราอิม ที่มาเกาะกินอยู่ในเขตแดนของเอฟราอิมและมนัสเสห์” แล้วคนของกิเลอาดก็มีชัยเหนือชาวเอฟราอิม
- ผู้วินิจฉัย 12:5 - ชาวกิเลอาดก็เข้ายึดตรงบริเวณน้ำตื้นที่ลุยข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปได้ แล้วไม่ให้ชาวเอฟราอิมข้ามกลับไป เมื่อชาวเอฟราอิมที่รอดชีวิตพูดว่า “ขอข้าข้ามไปเถอะ” ชาวกิเลอาดก็จะถามว่า “ท่านเป็นชาวเอฟราอิมหรือเปล่า” พวกเขาก็บอกว่า “ไม่ใช่”
- ผู้วินิจฉัย 12:6 - แต่ชาวกิเลอาดก็จะบอกเขาว่า ให้พูดคำว่า “ชิบโบเลท” พวกเขาก็พูดว่า “สิบโบเลท” คนเอฟราอิมจะออกเสียงคำนี้ไม่ชัดเจน ดังนั้นพวกเขาจึงถูกจับฆ่าทิ้งเสียที่บริเวณน้ำตื้นนั้น ในครั้งนี้มีชาวเอฟราอิมถูกฆ่าตายทั้งหมดสี่หมื่นสองพันคน
- ยอห์น 17:21 - ลูกขอให้พวกเขาทั้งหมดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เหมือนกับพระองค์พระบิดาอยู่ในตัวลูก และลูกอยู่ในพระองค์ ขอให้พวกเขาอยู่ในพวกเราด้วย เพื่อโลกจะได้เชื่อว่าพระองค์ส่งลูกมา
- ผู้วินิจฉัย 9:23 - แต่พระเจ้าได้ส่งวิญญาณชั่วมาทำให้อาบีเมเลคกับพวกผู้นำชาวเชเคมเกลียดกัน และพวกผู้นำเชเคมก็ก่อการกบฏต่อเขา
- ผู้วินิจฉัย 9:24 - ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะพระเจ้าต้องการให้เกิดความรุนแรงขึ้นกับพวกเขา เหมือนที่เขาทำกับลูกของเยรุบบาอัลทั้งเจ็ดสิบคนนั้น และพระเจ้าต้องการให้เลือดของทั้งเจ็ดสิบคนนั้นตกลงบนอาบีเมเลคพี่น้องของพวกเขา เพราะอาบีเมเลคเป็นคนฆ่าพี่น้องพวกนั้นของเขา และพระเจ้าต้องการให้เลือดนั้นตกกับพวกผู้นำของเชเคมด้วย เพราะมีส่วนสนับสนุนให้อาบีเมเลคฆ่าพวกพี่น้องของตัวเอง
- ผู้วินิจฉัย 9:25 - ดังนั้นพวกผู้นำของเชเคม จึงได้วางคนไว้ซุ่มโจมตีอาบีเมเลคบนพวกยอดเขา และพวกเขาก็ปล้นทุกคนที่ผ่านมาทางนั้น และมีคนไปแจ้งเรื่องนี้ให้อาบีเมเลครู้
- ผู้วินิจฉัย 9:26 - เมื่อกาอัลลูกชายของเอเบคกับญาติๆของเขาย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองเชเคม พวกผู้นำของเชเคมก็ไว้ใจเขา
- ผู้วินิจฉัย 9:27 - วันหนึ่งชาวเชเคมก็ออกไปในทุ่งนา แล้วไปเก็บผลองุ่นจากสวนองุ่นของพวกเขาและย่ำองุ่นเพื่อทำเหล้าองุ่น และพวกเขาก็เฉลิมฉลองกัน พวกเขาเข้าไปในวิหารของพระของพวกเขาและดื่มกินกัน และสาปแช่งอาบีเมเลค
- ผู้วินิจฉัย 9:28 - กาอัลลูกชายเอเบคพูดว่า “อาบีเมเลคเป็นใครกัน เราชาวเชเคมถึงต้องไปรับใช้มัน มันเป็นลูกของเยรุบบาอัลไม่ใช่หรือ และเศบุลก็เป็นเจ้าหน้าที่ของมัน มารับใช้คนของฮาโมร์ พ่อของเชเคมกันดีกว่า ทำไมเราต้องไปรับใช้อาบีเมเลคด้วย
- ผู้วินิจฉัย 9:29 - ถ้าคนเมืองนี้อยู่ใต้การปกครองของข้า ข้าจะถอดอาบีเมเลค” แล้วเขาก็ท้าอาบีเมเลคว่า “เตรียมกองทัพของเจ้า แล้วออกมาสู้กับข้า”
- ผู้วินิจฉัย 9:30 - เศบุล เจ้าเมืองได้ยินสิ่งที่กาอัลลูกชายเอเบคพูดก็โกรธ
- ผู้วินิจฉัย 9:31 - เขาจึงส่งพวกผู้ส่งข่าวไปหาอาบีเมเลคที่เมืองอารูมาห์ พวกเขาบอกว่า
- ผู้วินิจฉัย 9:32 - ดังนั้น ตอนนี้ ให้ท่านและกองทัพที่อยู่กับท่าน ลุกขึ้นในตอนกลางคืน และให้มานอนคอยดักซุ่มอยู่ในท้องทุ่ง
- ผู้วินิจฉัย 9:33 - พอถึงตอนเช้า ทันทีที่ดวงอาทิตย์ขึ้น ก็ให้ท่านจัดแจงรีบบุกเข้าไปในเมือง และเมื่อกาอัลกับกองทัพที่อยู่กับเขา ออกมาต่อสู้กับท่าน ก็จัดการกับเขาได้ตามใจชอบเลย”
- ผู้วินิจฉัย 9:34 - ดังนั้นอาบีเมเลคและกองทัพของเขาจึงลุกขึ้นในตอนกลางคืน และแบ่งออกเป็นสี่กอง ไปคอยดักซุ่มชาวเชเคมอยู่
- ผู้วินิจฉัย 9:35 - เมื่อกาอัลลูกชายเอเบคออกมายืนที่ประตูทางเข้าเมือง อาบีเมเลคและกองทัพของเขาก็ลุกขึ้นจากที่ซ่อน
- ผู้วินิจฉัย 9:36 - เมื่อกาอัลเห็นกองทัพ เขาพูดกับเศบุลว่า “ดูสิ มีคนกำลังวิ่งลงมาจากยอดเขา” เศบุลตอบเขาว่า “ท่านเห็นเงาของภูเขาเป็นคน”
- ผู้วินิจฉัย 9:37 - กาอัลพูดอีกว่า “ดูสิ มีคนกำลังวิ่งลงมาจากสะดือแผ่นดิน และอีกกลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งมาจากต้นโอ๊กของพวกหมอดู”
- ผู้วินิจฉัย 9:38 - เศบุลพูดกับเขาว่า “ปากที่ขี้คุยของท่านหายไปไหนแล้ว ท่านพูดว่าอาบีเมเลคเป็นใคร เราถึงจะต้องไปรับใช้มัน คนพวกนี้ไม่ใช่หรือ ที่ท่านเยาะเย้ย ออกไปสู้กับพวกเขาสิ”
- ผู้วินิจฉัย 9:39 - ดังนั้นกาอัลจึงนำหน้าพวกผู้นำของเชเคม ออกไปต่อสู้กับอาบีเมเลค
- ผู้วินิจฉัย 9:40 - อาบีเมเลคไล่ตามกาอัล และกาอัลก็หนีไปต่อหน้าเขา มีคนล้มตายเป็นจำนวนมาก ตลอดไปจนถึงประตูทางเข้าเมือง
- ผู้วินิจฉัย 9:41 - ดังนั้นอาบีเมเลคจึงนั่งปกครองอยู่ที่เมืองอารูมาห์ และเศบุลก็ขับไล่กาอัลกับพวกญาติๆของเขาออกไปจากเชเคม
- ผู้วินิจฉัย 9:42 - วันต่อมาชาวเมืองได้ออกไปที่ท้องทุ่ง และมีคนเอาเรื่องนี้มาบอกอาบีเมเลค
- ผู้วินิจฉัย 9:43 - เขาจึงแบ่งกองทัพของเขาออกเป็นสามกลุ่ม ไปคอยแอบซุ่มอยู่ในท้องทุ่ง เมื่อเขามองเห็นชาวเมืองออกมาจากเมือง เขาก็ลุกขึ้นมาโจมตีพวกเขา
- ผู้วินิจฉัย 9:44 - อาบีเมเลคกับทหารอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่กับเขาก็รีบบุกเข้าไป และยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าเมือง ส่วนทหารอีกสองกลุ่มก็รุกเข้าโจมตีคนทั้งหมดที่อยู่ในท้องทุ่ง
- ผู้วินิจฉัย 9:45 - อาบีเมเลคได้ต่อสู้กับเมืองเชเคมตลอดทั้งวัน ในที่สุดเขาก็ยึดเมืองได้ และฆ่าคนที่อยู่ในเมืองนั้น พร้อมกับทำลายเมืองทิ้งไป และโปรยเกลือลงไป
- ผู้วินิจฉัย 9:46 - เมื่อผู้นำที่อยู่ในหอคอยเชเคมได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาก็หนีเข้าไปอยู่ในส่วนที่แข็งแรงกว่าในวิหารของเอลเบรีท
- ผู้วินิจฉัย 9:47 - มีคนมาบอกอาบีเมเลคว่าพวกผู้นำของหอคอยเชเคมรวมตัวกันอยู่
- ผู้วินิจฉัย 9:48 - ดังนั้นอาบีเมเลคพร้อมกับทหารที่อยู่กับเขา จึงขึ้นไปบนภูเขาศัลโมน เขาเอาพวกขวานไปด้วย และเขาก็ตัดไม้มากองหนึ่ง แล้วแบกไว้บนบ่ากลับมา เขาบอกกับทหารที่อยู่กับเขาว่า “รีบๆทำตามอย่างข้า”
- ผู้วินิจฉัย 9:49 - แล้วทหารทุกคนก็ตัดไม้มาคนละกอง และตามอาบีเมเลคไป แล้วพวกเขาก็เอาไม้ไปวางพิงไว้ตรงห้องที่แข็งแรงที่สุดของวิหารของเอลเบรีท แล้วจุดไฟเผา ทำให้คนเชเคมที่อยู่ในห้องที่แข็งแรงนั้นตายกันหมด ทั้งชายและหญิงประมาณหนึ่งพันคน
- ผู้วินิจฉัย 9:50 - จากนั้นอาบีเมเลคก็ไปเมืองเธเบศ และล้อมเมืองและยึดเมืองเอาไว้ได้
- ผู้วินิจฉัย 9:51 - แต่ในเมืองมีป้อมที่แข็งแรงอยู่ ชาวเมืองทั้งชายและหญิงรวมทั้งผู้นำของเมืองนั้นก็หนีกันไปอยู่ที่นั่น และปิดประตูขังตัวเองอยู่ข้างใน และพวกเขาก็ขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าของป้อม
- ผู้วินิจฉัย 9:52 - อาบีเมเลคมาถึงป้อมและต่อสู้กัน และเข้าปะชิดทางเข้าของป้อมเพื่อเอาไฟเผามัน
- ผู้วินิจฉัย 9:53 - แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งโยนโม่หินลงมาบนหัวของอาบีเมเลคและทำให้กะโหลกของเขาแตก
- ผู้วินิจฉัย 9:54 - อาบีเมเลครีบเรียกชายหนุ่มที่ถืออาวุธของเขาเข้ามาและบอกกับชายหนุ่มนั้นว่า “ชักดาบของเจ้าออกมาฆ่าเราซะ เพื่อคนจะได้ไม่พูดถึงเราว่า ‘เขาถูกผู้หญิงฆ่าตาย’” ดังนั้นคนรับใช้หนุ่มคนนั้นของเขาก็แทงเขาและเขาก็ตาย
- ผู้วินิจฉัย 9:55 - เมื่อชาวอิสราเอลเห็นว่าอาบีเมเลคตายแล้ว พวกเขาต่างก็พากันแยกย้ายกลับไปที่อยู่ของตน
- ผู้วินิจฉัย 9:56 - ดังนั้นพระเจ้าได้ตอบแทนความชั่วร้ายของอาบีเมเลคที่เขาทำต่อพ่อของเขา ตอนที่ฆ่าพี่น้องทั้งเจ็ดสิบคนของเขาเอง
- ผู้วินิจฉัย 9:57 - และพระเจ้าได้ตอบแทนความชั่วร้ายทั้งหมดของชาวเชเคม คำสาปแช่งของโยธามบุตรเยรุบบาอัลก็เกิดขึ้นจริง
- อิสยาห์ 9:20 - ประชาชนหันไปทางขวาและกินอย่างตะกละตะกลามแต่ก็ยังหิวอยู่ พวกเขาก็เลยหันไปทางซ้ายและเขมือบเข้าไปแต่ก็ยังไม่พอ แต่ละคนก็เลยหันไปกินเนื้อลูกหลานของตัวเอง
- อิสยาห์ 9:21 - มนัสเสห์กัดกินเอฟราอิม เอฟราอิมก็กัดกินมนัสเสห์ และทั้งสองก็ไปต่อสู้กับยูดาห์ ถึงจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ตาม พระองค์ก็ยังไม่หายโกรธอยู่ดี มือของพระองค์ก็ยังคงเงื้อขึ้นมาฟาดพวกเขา
- เอเสเคียล 37:22 - เราจะทำให้พวกเขากลายเป็นชนชาติเดียวในแผ่นดินที่อยู่ท่ามกลางเนินเขาทั้งหลายของอิสราเอล และพวกเขาจะได้มีกษัตริย์องค์เดียวปกครองอยู่เหนือพวกเขาทั้งหมด พวกเขาจะไม่มีวันแตกแยกออกเป็นสองชาติหรือเป็นสองอาณาจักรได้อีก
- 1 พงศ์กษัตริย์ 12:16 - เมื่อคนอิสราเอลทั้งหมดเห็นว่ากษัตริย์ไม่ยอมฟังพวกเขา พวกเขาจึงได้ตอบกษัตริย์ไปว่า “พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวดาวิดอย่างนั้นหรือ พวกเราได้ส่วนแบ่งจากที่ดินของเจสซีหรือ เปล่าเลย อิสราเอลเอ๋ย กลับบ้านของพวกเรากันเถอะ ปล่อยให้ ลูกของดาวิด ดูแลคนของพวกเขาเอง”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 12:17 - แต่สำหรับชาวอิสราเอลที่อาศัยอยู่ในเมืองทั้งหลายของยูดาห์ เรโหโบอัมยังคงเป็นคนปกครองพวกเขาอยู่
- 1 พงศ์กษัตริย์ 12:18 - กษัตริย์เรโหโบอัมได้ส่งอาโดรัม ซึ่งทำหน้าที่ผู้ควบคุมคนงานไปพูดกับคนอิสราเอล แต่กลับถูกคนอิสราเอลทั้งหมดขว้างก้อนหินใส่จนตาย แต่กษัตริย์เรโหโบอัมรีบขึ้นรถรบของเขาหนีกลับเข้าเมืองเยรูซาเล็ม
- 1 พงศ์กษัตริย์ 12:19 - จากนั้นอิสราเอลต่างก็ต่อต้านครอบครัวของดาวิดจนถึงทุกวันนี้
- 1 พงศ์กษัตริย์ 12:20 - เมื่อชาวอิสราเอลทั้งหมดได้ยินว่าเยโรโบอัมกลับมาแล้ว พวกเขาได้ส่งคนไปเรียกตัวเขาให้เข้าร่วมชุมนุมและแต่งตั้งให้เขาเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล ยกเว้นเผ่ายูดาห์เพียงเผ่าเดียวที่ยังคงติดตามครอบครัวของดาวิด
- 2 ซามูเอล 20:1 - ตอนนั้น เผอิญมีอันธพาลอยู่คนหนึ่งชื่อเชบาลูกชายบิครีชาวเบนยามินอยู่ที่นั่น เขาเป่าแตรขึ้นและตะโกนว่า “พวกเราไม่มีส่วนแบ่งในดาวิด ไม่มีส่วนในลูกชายของเจสซี อิสราเอลเอ๋ย ขอให้ต่างคนต่างกลับไปยังเต็นท์ของตัวเองเถิด”
- อิสยาห์ 19:2 - พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะยุแหย่ให้คนอียิปต์ต่อสู้กันเอง พี่น้องรบกันเอง เพื่อนบ้านรบกันเอง เมืองนี้จะรบกับเมืองนั้น อาณาจักรนี้จะรบกับอาณาจักรนั้น
- อิสยาห์ 19:3 - คนอียิปต์จะท้อแท้ เราจะทำให้แผนต่างๆของพวกเขาสับสน พวกเขาจะขอคำปรึกษาจากพวกรูปเคารพ จากพวกวิญญาณของคนตาย จากพวกคนทรงเจ้า จากพวกหมอดู
- เอเฟซัส 4:3 - ให้พยายามสุดความสามารถที่จะรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่ได้รับจากพระวิญญาณ ด้วยการใช้สันติภาพเป็นเชือกผูกมัดพวกคุณไว้ด้วยกัน
- เอเฟซัส 4:4 - มีเพียงกายเดียวและพระวิญญาณเดียว เหมือนที่พระเจ้าเรียกพวกคุณมาให้มีความหวังเดียว
- เอเฟซัส 4:5 - มีองค์เจ้าชีวิตองค์เดียว ความเชื่อเดียว พิธีจุ่มน้ำเดียว
- เอเฟซัส 4:6 - และมีพระเจ้าองค์เดียว ผู้เป็นพระบิดาของทุกสิ่ง อยู่เหนือทุกสิ่ง อยู่ทั่วทุกสิ่ง และอยู่ในทุกสิ่ง
- 1 โครินธ์ 1:10 - พี่น้องครับ ผมขอร้องพวกคุณในนามของพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา ขอให้สามัคคีกันไว้ อย่าแบ่งพรรคแบ่งพวกกันเลย แต่ขอให้มีแนวความคิดและเป้าหมายเดียวกัน
- 1 โครินธ์ 1:11 - เพราะมีบางคนในพวกของนางคะโลเอ มาบอกผมว่า พวกคุณทะเลาะวิวาทกัน
- 1 โครินธ์ 1:12 - ผมหมายถึงว่า พวกคุณต่างคนต่างก็พูดกันว่า “ผมเป็นของเปาโล” หรือ “ผมเป็นของอปอลโล” หรือ “ผมเป็นของเปโตร” หรือ “ผมเป็นของพระคริสต์”
- 1 โครินธ์ 1:13 - พระคริสต์ถูกแยกออกเป็นกลุ่มๆแล้วหรือ เปาโลถูกตรึงบนไม้กางเขนเพื่อพวกคุณหรืออย่างไร พวกคุณเข้าพิธีจุ่มน้ำเพื่อจะเป็นของเปาโลหรืออย่างไร