逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - และถ้าอาณาจักรแบ่งแยกกันเองแล้ว อาณาจักรนั้นจะตั้งอยู่ไม่ได้
- 新标点和合本 - 若一国自相纷争,那国就站立不住;
- 和合本2010(上帝版-简体) - 一国若自相纷争,那国就立不住;
- 和合本2010(神版-简体) - 一国若自相纷争,那国就立不住;
- 当代译本 - 一个国内部自相纷争,必无法坚立。
- 圣经新译本 - 一国若自相纷争,那国就站立不住;
- 中文标准译本 - 一个国家如果自相纷争,这个国家就站立不住;
- 现代标点和合本 - 若一国自相纷争,那国就站立不住;
- 和合本(拼音版) - 若一国自相纷争,那国就站立不住;
- New International Version - If a kingdom is divided against itself, that kingdom cannot stand.
- New International Reader's Version - If a kingdom fights against itself, it can’t stand.
- English Standard Version - If a kingdom is divided against itself, that kingdom cannot stand.
- New Living Translation - “A kingdom divided by civil war will collapse.
- Christian Standard Bible - If a kingdom is divided against itself, that kingdom cannot stand.
- New American Standard Bible - And if a kingdom is divided against itself, that kingdom cannot stand.
- New King James Version - If a kingdom is divided against itself, that kingdom cannot stand.
- Amplified Bible - If a kingdom is divided [split into factions and rebelling] against itself, that kingdom cannot stand.
- American Standard Version - And if a kingdom be divided against itself, that kingdom cannot stand.
- King James Version - And if a kingdom be divided against itself, that kingdom cannot stand.
- New English Translation - If a kingdom is divided against itself, that kingdom will not be able to stand.
- World English Bible - If a kingdom is divided against itself, that kingdom cannot stand.
- 新標點和合本 - 若一國自相紛爭,那國就站立不住;
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 一國若自相紛爭,那國就立不住;
- 和合本2010(神版-繁體) - 一國若自相紛爭,那國就立不住;
- 當代譯本 - 一個國內部自相紛爭,必無法堅立。
- 聖經新譯本 - 一國若自相紛爭,那國就站立不住;
- 呂振中譯本 - 一國若自相紛爭,那國就不能站立;
- 中文標準譯本 - 一個國家如果自相紛爭,這個國家就站立不住;
- 現代標點和合本 - 若一國自相紛爭,那國就站立不住;
- 文理和合譯本 - 夫國自相分爭、其國弗能立、
- 文理委辦譯本 - 若國自相分爭、則無以立國、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 若國自相分爭、其國不能立、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 國而自分、其國必亡;
- Nueva Versión Internacional - Si un reino está dividido contra sí mismo, ese reino no puede mantenerse en pie.
- 현대인의 성경 - 한 나라가 서로 싸워 갈라지면 망하고
- Новый Русский Перевод - Если царство разделится на враждующие части, оно не сможет устоять,
- Восточный перевод - Если царство разделится на враждующие части, оно не сможет устоять,
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Если царство разделится на враждующие части, оно не сможет устоять,
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Если царство разделится на враждующие части, оно не сможет устоять,
- La Bible du Semeur 2015 - Un royaume déchiré par la guerre civile ne peut pas subsister.
- リビングバイブル - 内部で分かれ争っている国は、結局自滅してしまいます。
- Nestle Aland 28 - καὶ ἐὰν βασιλεία ἐφ’ ἑαυτὴν μερισθῇ, οὐ δύναται σταθῆναι ἡ βασιλεία ἐκείνη·
- unfoldingWord® Greek New Testament - καὶ ἐὰν βασιλεία ἐφ’ ἑαυτὴν μερισθῇ, οὐ δύναται σταθῆναι ἡ βασιλεία ἐκείνη.
- Nova Versão Internacional - Se um reino estiver dividido contra si mesmo, não poderá subsistir.
- Hoffnung für alle - Ein Staat kann nicht bestehen, wenn in ihm verschiedene Herrscher um die Macht kämpfen.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Một nước chia rẽ phải sụp đổ,
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - หากอาณาจักรใดแตกแยกกันเองอาณาจักรนั้นย่อมตั้งอยู่ไม่ได้
交叉引用
- 2 ซามูเอล 20:6 - ดาวิดกล่าวกับอาบีชัยว่า “บัดนี้เชบะบุตรของบิครีจะเป็นภัยต่อเราเสียยิ่งกว่าอับซาโลม จงใช้ทหารรับใช้ของเจ้านายของเจ้าให้ไปตามล่าเขา มิฉะนั้นเขาจะหลบหนีเรา ไปอยู่ในเมืองที่มีการคุ้มกันอย่างแข็งแกร่งได้”
- เศคาริยาห์ 11:14 - และข้าพเจ้าหักไม้เท้าอันที่สองที่ชื่อ สหภาพ ทำให้ความเป็นพี่น้องระหว่างยูดาห์และอิสราเอลเป็นโมฆะ
- ผู้วินิจฉัย 12:1 - ชายชาวเอฟราอิมรวมกำลังศึก แล้วข้ามไปยังศาโฟน พวกเขาพูดกับเยฟธาห์ว่า “ทำไมท่านจึงข้ามไปต่อสู้กับชาวอัมโมนโดยไม่เรียกพวกเราให้ไปด้วย พวกเราจะเผาบ้านของท่านพร้อมกับตัวท่านด้วย”
- ผู้วินิจฉัย 12:2 - เยฟธาห์พูดตอบว่า “เรากับพรรคพวกโต้แย้งกับชาวอัมโมนอย่างหนัก เมื่อเราเรียกพวกท่าน ท่านก็ไม่ได้ช่วยเราให้พ้นจากมือพวกเขาเลย
- ผู้วินิจฉัย 12:3 - ครั้นเราเห็นว่าพวกท่านจะไม่ช่วยเราให้รอดปลอดภัย เราจึงเสี่ยงชีวิตเราเอง และข้ามไปสู้รบกับชาวอัมโมน และพระผู้เป็นเจ้ามอบพวกเขาไว้ในมือเรา แล้วทำไมพวกท่านจึงขึ้นมาสู้รบกับเราถึงนี่ในวันนี้เล่า”
- ผู้วินิจฉัย 12:4 - เยฟธาห์ได้รวบรวมพวกผู้ชายชาวกิเลอาด และช่วยกันต่อสู้กับชาวเอฟราอิม ชายชาวกิเลอาดฆ่าชาวเอฟราอิมเพราะพวกเขาพูดว่า “พวกชาวกิเลอาด เจ้าเป็นพวกลี้ภัยของเอฟราอิม เจ้าอยู่ท่ามกลางชาวเอฟราอิมและมนัสเสห์”
- ผู้วินิจฉัย 12:5 - ชาวกิเลอาดยึดเขตลำน้ำจอร์แดนที่ลุยข้ามได้ เข้าไปถึงตัวชาวเอฟราอิมได้ และเมื่อใดที่พวกลี้ภัยของเอฟราอิมพูดว่า “ให้เราข้ามไปเถิด” พวกผู้ชายชาวกิเลอาดก็ถามเขาว่า “เจ้าเป็นชาวเอฟราอิมหรือ” เมื่อเขาตอบว่า “ไม่ใช่”
- ผู้วินิจฉัย 12:6 - พวกเขาก็บอกเขาว่า “จงพูดคำว่า ชิบโบเลท” เขาก็พูดคำว่า “สิบโบเลท” เพราะเขาออกเสียงไม่ชัด ดังนั้นพวกเขาจึงจับตัวและฆ่าชายคนนั้นที่เขตลำน้ำจอร์แดนที่ลุยข้ามได้ ในเวลานั้นชาวเอฟราอิมล้มตาย 42,000 คน
- ยอห์น 17:21 - พระบิดา เพื่อเขาทุกคนจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันดังที่พระองค์อยู่ในข้าพเจ้า และข้าพเจ้าอยู่ในพระองค์ เพื่อพวกเขาจะได้อยู่ในพระองค์และอยู่ในข้าพเจ้าด้วย และเพื่อโลกจะได้เชื่อว่าพระองค์ได้ส่งข้าพเจ้ามา
- ผู้วินิจฉัย 9:23 - พระเจ้าให้วิญญาณร้ายก่อปัญหาระหว่างอาบีเมเลคกับบรรดาผู้นำของเชเคม บรรดาผู้นำของเชเคมจึงทรยศต่ออาบีเมเลค
- ผู้วินิจฉัย 9:24 - เพื่อว่าสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับบุตรชายของเยรุบบาอัล 70 คนจะสนองกลับคืน และโลหิตของพวกเขาจะตกอยู่กับอาบีเมเลคตัวฆาตกรผู้เป็นพี่น้องของเขาเอง และกับชาวเมืองเชเคมที่ช่วยอาบีเมเลคในการฆ่าพี่น้องของเขา
- ผู้วินิจฉัย 9:25 - บรรดาผู้นำของเชเคมให้คนดักซุ่มบนยอดภูเขาเพื่อต่อต้านเขา และได้ปล้นคนที่เดินผ่านไปทางนั้น และมีคนเอาเรื่องนี้ไปบอกอาบีเมเลค
- ผู้วินิจฉัย 9:26 - กาอัลบุตรของเอเบดกับญาติของเขาย้ายไปอยู่ในเมืองเชเคม บรรดาผู้นำของเมืองเชเคมก็เชื่อมั่นในตัวเขา
- ผู้วินิจฉัย 9:27 - พวกเขาออกไปที่สวนองุ่น เก็บองุ่นมาย่ำ แล้วจัดงานฉลองในวิหารของเทพเจ้าของพวกเขา กินและดื่มกันไปพลางสาปแช่งอาบีเมเลคไป
- ผู้วินิจฉัย 9:28 - แล้วกาอัลบุตรของเอเบดพูดขึ้นว่า “อาบีเมเลคเป็นใคร และพวกเราชาวเชเคมเป็นใครที่จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เขาไม่ใช่บุตรของเยรุบบาอัลหรือ เศบุลเป็นผู้แทนของเขาไม่ใช่หรือ เราจงรับใช้คนของฮาโมร์บิดาของเชเคม ควรแล้วหรือที่เราจะรับใช้อาบีเมเลค
- ผู้วินิจฉัย 9:29 - หากว่าคนเหล่านี้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเรา เราก็จะกำจัดอาบีเมเลคเสียสิ้น เราจะพูดกับอาบีเมเลคว่า ‘เพิ่มกำลังทัพของท่าน และออกมาเถิด’”
- ผู้วินิจฉัย 9:30 - เมื่อเศบุลผู้ปกครองเมืองได้ยินว่ากาอัลบุตรของเอเบดพูดดังนั้นก็โกรธ
- ผู้วินิจฉัย 9:31 - เขาจึงให้บรรดาผู้ส่งข่าวไปยังอาบีเมเลคเป็นการลับ และบอกว่า “ดูเถิด กาอัลบุตรของเอเบดมาอยู่ที่เมืองเชเคมกับพวกญาติๆ ของเขาแล้ว พวกเขากำลังก่อกวนคนในเมืองให้ต่อต้านท่าน
- ผู้วินิจฉัย 9:32 - ฉะนั้น บัดนี้ท่านกับคนของท่านที่อยู่กับท่านควรออกไปในเวลากลางคืน และดักซุ่มอยู่ในทุ่งนา
- ผู้วินิจฉัย 9:33 - พอรุ่งเช้า ทันทีที่ดวงอาทิตย์ขึ้น ตื่นแต่เช้าตรู่รีบไปในเมือง และเวลากาอัลกับพรรคพวกออกมาต่อต้านท่าน ท่านก็ใช้กำลังต้านพวกเขากลับไปได้”
- ผู้วินิจฉัย 9:34 - ดังนั้นอาบีเมเลคและทุกคนที่อยู่กับเขาจึงไปกันในเวลากลางคืน และแบ่งคนเป็น 4 กองดักซุ่มคอยโจมตีเชเคม
- ผู้วินิจฉัย 9:35 - ฝ่ายกาอัลบุตรของเอเบดก็ออกไปยืนอยู่ที่ทางเข้าประตูเมือง ขณะที่อาบีเมเลคและพรรคพวกที่อยู่กับเขาออกมาจากที่ซ่อน
- ผู้วินิจฉัย 9:36 - เมื่อกาอัลเห็นพวกเขา จึงพูดกับเศบุลว่า “ดูสิ มีคนกำลังลงมาจากยอดเขา” เศบุลพูดตอบเขาว่า “ท่านเข้าใจผิดว่าเงาภูเขาเป็นคน”
- ผู้วินิจฉัย 9:37 - กาอัลพูดอีกว่า “ดูสิ มีคนกำลังลงมาจากใจกลางแผ่นดิน และคนจำนวนกองหนึ่งกำลังมาจากทางต้นโอ๊กของบรรดาผู้ทำนาย”
- ผู้วินิจฉัย 9:38 - เศบุลพูดกับเขาว่า “เวลานี้ปากของท่านอยู่ที่ไหน ท่านเป็นคนพูดว่า ‘อาบีเมเลคเป็นใครกันที่เราควรจะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา’ เขาเหล่านี้ไม่ใช่คนที่ท่านหมิ่นประมาทหรอกหรือ ออกไปต่อสู้กับพวกเขาเดี๋ยวนี้”
- ผู้วินิจฉัย 9:39 - ดังนั้นกาอัลจึงนำหน้าชาวเชเคมออกไป และต่อสู้กับอาบีเมเลค
- ผู้วินิจฉัย 9:40 - อาบีเมเลคไล่ตามกาอัล จนเขาต้องหนีไป หลายคนบาดเจ็บขณะวิ่งหนีไปจนถึงทางเข้าประตูเมือง
- ผู้วินิจฉัย 9:41 - อาบีเมเลคอาศัยอยู่ที่อารูมาห์ เศบุลขับไล่กาอัลและญาติพี่น้องของเขาไป และไม่ให้พวกเขาอยู่ที่เชเคม
- ผู้วินิจฉัย 9:42 - วันรุ่งขึ้น ชาวเมืองเชเคมออกไปที่ทุ่งนา และมีคนไปบอกอาบีเมเลค
- ผู้วินิจฉัย 9:43 - เขาแบ่งคนของเขาออกเป็น 3 พวกไปดักซุ่มที่ทุ่งนา เขาเห็นว่ามีคนกำลังออกมาจากเมือง เขาจึงลุกขึ้นโจมตีและฆ่าเสีย
- ผู้วินิจฉัย 9:44 - อาบีเมเลคและพวกที่ติดตามเขาไปจำนวน 1 กองรีบรุดออกไปยืนที่ทางเข้าประตูเมือง ขณะที่พรรคพวกอีก 2 กองรุดโจมตีทุกคนที่อยู่ในทุ่งนาและฆ่าเสีย
- ผู้วินิจฉัย 9:45 - อาบีเมเลคโจมตีเมืองนั้นตลอดทั้งวัน เขายึดเมืองและฆ่าคนที่อยู่ในเมือง ทำลายเมืองและหว่านเกลือทั่วเมือง
- ผู้วินิจฉัย 9:46 - เมื่อชาวบ้านหอคอยเชเคมทราบเรื่อง จึงเข้าไปหลบอยู่ในที่หลบภัยของวิหารของเอลเบรีท
- ผู้วินิจฉัย 9:47 - มีคนบอกอาบีเมเลคว่าชาวบ้านทุกคนของหอคอยเชเคมรวมอยู่ด้วยกัน
- ผู้วินิจฉัย 9:48 - อาบีเมเลคกับพรรคพวกที่อยู่ด้วยกันจึงขึ้นไปยังภูเขาศัลโมน เขาใช้ขวานตัดกิ่งไม้และหามไว้บนบ่า พูดกับพวกที่อยู่ด้วยว่า “เจ้าเห็นเราทำอะไร ก็จงทำตามที่เราทำ”
- ผู้วินิจฉัย 9:49 - ดังนั้นทุกคนจึงตัดกิ่งไม้ตามอาบีเมเลคไป และกองไว้ที่หลบภัย แล้วจุดไฟเผาที่หลบภัยให้ไหม้พวกชาวบ้าน ชายและหญิงประมาณ 1,000 คนที่หอคอยเชเคมนั้นตายสิ้นทุกคน
- ผู้วินิจฉัย 9:50 - จากนั้นอาบีเมเลคไปยังเมืองเธเบศ ใช้กำลังล้อมเมืองและยึดไว้ได้
- ผู้วินิจฉัย 9:51 - แต่ภายในเมืองมีหอคอยที่มั่นคงอยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งบรรดาชายหญิงและชาวเมืองทุกคนได้หลบหนีไปอยู่ โดยได้ใส่กุญแจประตู และปีนขึ้นไปอยู่บนหลังคาหอคอยนั้น
- ผู้วินิจฉัย 9:52 - ฝ่ายอาบีเมเลคมาถึงหอคอย และโจมตีเข้าใกล้ประตูหอคอยเพื่อจะใช้ไฟเผา
- ผู้วินิจฉัย 9:53 - หญิงคนหนึ่งทุ่มหินโม่ลงที่ศีรษะของอาบีเมเลคจนกะโหลกแตก
- ผู้วินิจฉัย 9:54 - เขาจึงรีบร้องบอกให้ชายหนุ่มที่ถืออาวุธของเขาว่า “ชักดาบของเจ้า แล้วฆ่าเราเสีย มิฉะนั้นคนจะพูดถึงเราว่า ‘ผู้หญิงฆ่าเขา’” ชายหนุ่มของเขาก็แทงเขาทะลุจนสิ้นชีวิต
- ผู้วินิจฉัย 9:55 - เมื่อชาวอิสราเอลเห็นว่าอาบีเมเลคสิ้นชีวิตแล้ว ต่างก็กลับบ้านไป
- ผู้วินิจฉัย 9:56 - เช่นนั้นแหละพระเจ้าสนองกลับความชั่วร้ายของอาบีเมเลค ที่เขากระทำต่อบิดาของเขาด้วยการฆ่าพี่น้อง 70 คน
- ผู้วินิจฉัย 9:57 - พระเจ้าทำให้ชายชาวเชเคมรับผลจากความชั่วที่กระทำด้วย คือคำสาปแช่งของโยธามบุตรของเยรุบบาอัลก็เป็นจริง
- อิสยาห์ 9:20 - พวกเขาเฉือนเนื้อทางด้านขวา แต่ก็ยังหิวอยู่ พวกเขากัดกินทางด้านซ้าย แต่ก็ไม่อิ่มหนำ แต่ละคนกัดกินเชื้อสายของตนเอง
- อิสยาห์ 9:21 - มนัสเสห์เขมือบเอฟราอิม และเอฟราอิมเขมือบมนัสเสห์ พวกเขาร่วมกันต่อสู้ยูดาห์ พระองค์ก็ยังไม่หายกริ้วกับเรื่องเหล่านี้ และมือของพระองค์จึงยังเหยียดออกไป
- เอเสเคียล 37:22 - และเราจะทำให้พวกเขาเป็นประชาชาติเดียวในแผ่นดิน บนภูเขาของอิสราเอล และกษัตริย์ผู้เดียวเท่านั้นที่จะเป็นกษัตริย์ปกครองทุกคน และพวกเขาจะไม่เป็นสองประชาชาติอีกต่อไป และจะไม่ถูกแบ่งออกเป็นสองอาณาจักรอีกต่อไป
- 1 พงศ์กษัตริย์ 12:16 - ครั้นชาวอิสราเอลทั้งปวงเห็นว่ากษัตริย์ไม่ได้ฟังพวกเขา ประชาชนจึงตอบกษัตริย์ว่า “พวกเรามีส่วนร่วมอะไรด้วยกับดาวิดหรือ เราไม่ได้รับอะไรที่ตกทอดมาจากบุตรของเจสซี โอ อิสราเอลเอ๋ย จงกลับไปยังกระโจมของตนเถิด บัดนี้ โอ ดาวิดเอ๋ย ดูแลพงศ์พันธุ์ของท่านไปเถิด” ดังนั้นชาวอิสราเอลจึงกลับไปยังกระโจมของตน
- 1 พงศ์กษัตริย์ 12:17 - แต่เรโหโบอัมก็ปกครองลูกหลานของอิสราเอลที่อาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ ของยูดาห์
- 1 พงศ์กษัตริย์ 12:18 - และกษัตริย์เรโหโบอัมให้อาโดรามควบคุมพวกที่ถูกเกณฑ์มาทำงานหนัก ชาวอิสราเอลทั้งปวงก็ใช้หินขว้างเขาจนตาย กษัตริย์เรโหโบอัมจึงรีบขึ้นรถศึกของท่านหนีกลับไปยังเมืองเยรูซาเล็ม
- 1 พงศ์กษัตริย์ 12:19 - ดังนั้นอิสราเอลจึงได้แข็งข้อต่อพงศ์พันธุ์ของดาวิดเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
- 1 พงศ์กษัตริย์ 12:20 - และเมื่อชาวอิสราเอลทั้งปวงทราบว่าเยโรโบอัมได้กลับมาแล้ว จึงให้คนไปเชิญท่านมายังที่ประชุม เพื่อแต่งตั้งท่านให้เป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอลทั้งหมด ไม่มีใครอื่นนอกจากเผ่ายูดาห์เท่านั้นที่ยังคงติดตามพงศ์พันธุ์ของดาวิดอยู่
- 2 ซามูเอล 20:1 - บังเอิญที่นั่นมีคนพาลชื่อ เชบะ บุตรของบิครีชาวเบนยามิน เขาเป่าแตรงอนและพูดว่า “พวกเราไม่มีสิทธิ์ในดาวิด และพวกเราไม่มีมรดกในบุตรของเจสซี โอ อิสราเอลเอ๋ย กลับไปบ้านของตนเถิด”
- อิสยาห์ 19:2 - “และเราจะทำให้ชาวอียิปต์เกิดโกลาหลกันเอง พวกเขาจะต่อสู้กัน และต่อสู้กับเพื่อนบ้าน เมืองต่อสู้กับเมือง อาณาจักรต่อสู้กับอาณาจักร
- อิสยาห์ 19:3 - จิตวิญญาณของชาวอียิปต์จะเข็ดขยาด และเราจะทำให้แผนการของพวกเขาล้มเหลว และพวกเขาจะหาคำปรึกษาจากรูปเคารพและบรรดาผู้ใช้เวทมนตร์ คนทรงและพ่อมดหมอผี
- เอเฟซัส 4:3 - เพียรพยายามรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันซึ่งพระวิญญาณมอบให้ โดยสันติสุขที่เชื่อมโยงพวกท่านไว้
- เอเฟซัส 4:4 - มีเพียงกายเดียวและพระวิญญาณเดียว เหมือนเวลาที่พระองค์เรียกท่านให้มีความหวังเดียว
- เอเฟซัส 4:5 - พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อเดียว บัพติศมาเดียว
- เอเฟซัส 4:6 - พระเจ้าองค์เดียวผู้เป็นพระบิดาของเราทุกคน เป็นเจ้านายเหนือเราทุกคน ดำเนินงานผ่านเราทุกคนและดำรงอยู่ในเราทุกคน
- 1 โครินธ์ 1:10 - ข้าพเจ้าขอร้องพี่น้องในพระนามของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราว่า ทุกท่านควรมีความเห็นพ้องต้องกัน เพื่อไม่ให้มีการแตกแยกกัน แต่ให้มีแนวคิดและจุดมุ่งหมายเดียวกันในหมู่พวกท่าน
- 1 โครินธ์ 1:11 - พี่น้องที่รัก คนของนางคะโลเอได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังถึงการทะเลาะวิวาทในหมู่พวกท่าน
- 1 โครินธ์ 1:12 - ข้าพเจ้าหมายความถึงบางคนในพวกท่านได้พูดว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนของเปาโล” บางคนก็ว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนของอปอลโล” บ้างก็ว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนของเคฟาส” และบ้างก็ยังว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนของพระคริสต์”
- 1 โครินธ์ 1:13 - พระคริสต์ถูกแบ่งแยกออกหรือ เปาโลถูกตรึงเพื่อท่านหรือ ท่านได้รับบัพติศมาในนามของเปาโลหรือ