逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - ความโง่ของคนย่อมทำลายชีวิตของเขาเอง แต่ใจของเขากลับมาโกรธพระยาห์เวห์
- 新标点和合本 - 人的愚昧倾败他的道; 他的心也抱怨耶和华。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 人因愚昧自毁前途, 他的心却埋怨耶和华。
- 和合本2010(神版-简体) - 人因愚昧自毁前途, 他的心却埋怨耶和华。
- 当代译本 - 人因愚昧而自毁前程, 他的心却抱怨耶和华。
- 圣经新译本 - 人的愚妄毁灭自己的道路; 他的心却恼怒耶和华。
- 中文标准译本 - 人的愚妄倾覆自己的道路, 他的心却对耶和华恼怒。
- 现代标点和合本 - 人的愚昧倾败他的道, 他的心也抱怨耶和华。
- 和合本(拼音版) - 人的愚昧倾败他的道, 他的心也抱怨耶和华。
- New International Version - A person’s own folly leads to their ruin, yet their heart rages against the Lord.
- New International Reader's Version - A person’s own foolish acts destroy their life. But their heart is angry with the Lord.
- English Standard Version - When a man’s folly brings his way to ruin, his heart rages against the Lord.
- New Living Translation - People ruin their lives by their own foolishness and then are angry at the Lord.
- The Message - People ruin their lives by their own stupidity, so why does God always get blamed?
- Christian Standard Bible - A person’s own foolishness leads him astray, yet his heart rages against the Lord.
- New American Standard Bible - The foolishness of a person ruins his way, And his heart rages against the Lord.
- New King James Version - The foolishness of a man twists his way, And his heart frets against the Lord.
- Amplified Bible - The foolishness of man undermines his way [ruining whatever he undertakes]; Then his heart is resentful and rages against the Lord [for, being a fool, he blames the Lord instead of himself].
- American Standard Version - The foolishness of man subverteth his way; And his heart fretteth against Jehovah.
- King James Version - The foolishness of man perverteth his way: and his heart fretteth against the Lord.
- New English Translation - A person’s folly subverts his way, and his heart rages against the Lord.
- World English Bible - The foolishness of man subverts his way; his heart rages against Yahweh.
- 新標點和合本 - 人的愚昧傾敗他的道; 他的心也抱怨耶和華。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 人因愚昧自毀前途, 他的心卻埋怨耶和華。
- 和合本2010(神版-繁體) - 人因愚昧自毀前途, 他的心卻埋怨耶和華。
- 當代譯本 - 人因愚昧而自毀前程, 他的心卻抱怨耶和華。
- 聖經新譯本 - 人的愚妄毀滅自己的道路; 他的心卻惱怒耶和華。
- 呂振中譯本 - 人的愚妄使他所行的敗倒, 他的心就向永恆主生氣。
- 中文標準譯本 - 人的愚妄傾覆自己的道路, 他的心卻對耶和華惱怒。
- 現代標點和合本 - 人的愚昧傾敗他的道, 他的心也抱怨耶和華。
- 文理和合譯本 - 人因愚而敗其途、其心遂怨耶和華、
- 文理委辦譯本 - 愚人失足、遂怨耶和華。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 人愚而道不通、心遂怨主、
- Nueva Versión Internacional - La necedad del hombre le hace perder el rumbo, y para colmo su corazón se irrita contra el Señor.
- 현대인의 성경 - 사람은 자기가 미련해서 앞길을 망치고서도 마음으로는 하나님을 원망한다.
- Новый Русский Перевод - Человек своей же глупостью губит себе жизнь, а сердце его злится на Господа.
- Восточный перевод - Человек своей же глупостью губит себе жизнь, а сердце его злится на Вечного.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Человек своей же глупостью губит себе жизнь, а сердце его злится на Вечного.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Человек своей же глупостью губит себе жизнь, а сердце его злится на Вечного.
- La Bible du Semeur 2015 - La sottise d’un homme cause son naufrage, alors il s’en prend à l’Eternel.
- リビングバイブル - 人は自分の不注意でチャンスを逃しては、 それを主のせいにします。
- Nova Versão Internacional - É a insensatez do homem que arruína a sua vida, mas o seu coração se ira contra o Senhor.
- Hoffnung für alle - Manch einer ruiniert sich durch eigene Dummheit, ereifert sich dann aber über den Herrn!
- Kinh Thánh Hiện Đại - Đường lối người hư hỏng bởi sự ngu dại mình, nhưng nó lại u mê oán hận Chúa Hằng Hữu.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ความโง่ของคนทำลายชีวิตตนเอง แต่ใจของเขากลับโกรธโทษองค์พระผู้เป็นเจ้า
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ความโง่ของมนุษย์ทำลายวิถีทางของตนเอง และใจของเขาเกรี้ยวกราดต่อพระผู้เป็นเจ้า
- Thai KJV - ความโง่ของคนใดนำความพินาศมาถึงเขา และใจของเขาเกรี้ยวกราดต่อพระเยโฮวาห์
交叉引用
- กันดารวิถี 17:12 - แต่ประชาชนชาวอิสราเอลพูดกับโมเสสว่า “ดูสิ พวกเราจะตาย พวกเราจะถูกทำลาย พวกเราจะถูกทำลายกันหมด
- กันดารวิถี 17:13 - ทุกคนที่แค่เข้าไปใกล้เต็นท์ที่เก็บข้อตกลงของพระยาห์เวห์ ก็ต้องตายแล้ว พวกเราจะตายกันหมดหรือเปล่านี่”
- 1 ซามูเอล 13:13 - ซามูเอลพูดว่า “ท่านได้ทำสิ่งที่โง่ๆลงไปแล้ว ท่านไม่ได้ทำตามคำสั่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่านได้สั่งท่านไว้ ถ้าท่านได้ทำตาม พระองค์จะก่อตั้งอาณาจักรของท่านเหนือคนอิสราเอลตลอดไป
- สดุดี 37:1 - อย่าได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเพราะคนชั่ว อย่าได้อิจฉาคนที่ทำสิ่งชั่วร้าย
- ปฐมกาล 3:6 - หญิงนั้นมองดู และเห็นว่าต้นไม้นั้นมีผลน่ากินมาก มันช่างสวยงาม และยั่วยวนใจเหลือเกิน เพราะมันสามารถทำให้คนเฉลียวฉลาดได้ หญิงนั้นจึงเด็ดเอาผลของมันมากิน แล้วเธอก็ส่งให้สามีของเธอกินด้วย และเขาก็กินมัน
- ปฐมกาล 3:7 - แล้วตาของพวกเขาก็สว่างขึ้น พวกเขารู้ตัวว่ากำลังเปลือยกายอยู่ พวกเขาจึงเอาใบไม้มาเย็บเข้าด้วยกัน แล้วเอามาใส่ปกปิดร่างกาย
- ปฐมกาล 3:8 - ในเวลาเย็นของวันนั้น พวกเขาได้ยินเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าเดินมาในสวน ทั้งชายนั้นและเมียของเขา ต่างพากันไปหลบซ่อนจากหน้าของพระยาห์เวห์พระเจ้า พวกเขาแอบอยู่ตามต้นไม้ในสวน
- ปฐมกาล 3:9 - พระยาห์เวห์พระเจ้า ได้ส่งเสียงเรียกชายคนนั้น และพูดกับเขาว่า “เจ้าอยู่ที่ไหน”
- ปฐมกาล 3:10 - ชายคนนั้นตอบว่า “ข้าพเจ้าได้ยินเสียงของพระองค์ในสวนนี้ ข้าพเจ้าเกรงกลัว เพราะข้าพเจ้าเปลือยกายอยู่ ข้าพเจ้าจึงมาแอบซ่อนตัวอยู่”
- ปฐมกาล 3:11 - พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงตอบว่า “ใครบอกเจ้าว่าเจ้าเปลือยกายอยู่ นี่เจ้ากินจากต้นที่เราสั่งห้ามไม่ให้เจ้ากินแล้วใช่ไหม”
- ปฐมกาล 3:12 - ชายคนนั้นตอบว่า “หญิงที่พระองค์ได้มอบให้กับข้าพเจ้า เป็นคนเอาผลไม้จากต้นนั้นมาให้ข้าพเจ้าแล้วข้าพเจ้าก็กินมัน”
- 1 ซามูเอล 15:23 - เพราะการกบฏ เป็นบาปอย่างกับไปดูหมอ ความดื้อดึง เลวอย่างกับการกราบไหว้รูปเคารพ ท่านได้ละทิ้งคำพูดของพระยาห์เวห์ พระองค์ก็เลยละทิ้งท่านไม่ให้เป็นกษัตริย์”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 3:9 - กษัตริย์ของอิสราเอลจึงออกเดินทางไปกับกษัตริย์ของยูดาห์พร้อมกับกษัตริย์ของเอโดม หลังจากที่เดินทางไปได้เจ็ดวัน ในกองทัพก็ไม่มีน้ำเหลืออยู่เลยไม่ว่าสำหรับคนหรือสัตว์ที่มากับกองทัพ
- 2 พงศ์กษัตริย์ 3:10 - กษัตริย์ของอิสราเอลอุทานออกมาว่า “อะไรกันนี่ นี่พระยาห์เวห์เรียกพวกเราที่เป็นกษัตริย์ทั้งสามคนให้มาอยู่ด้วยกันก็เพื่อที่จะมอบพวกเราให้กับพวกโมอับอย่างนั้นหรือ”
- สุภาษิต 11:3 - ความสัตย์ซื่อจะนำทางคนซื่อตรง แต่ความปลิ้นปล้อนของคนทรยศจะทำลายตัวเขาเอง
- วิวรณ์ 16:9 - ความร้อนอันแรงกล้าได้แผดเผาคนทั้งหลาย และพวกเขาก็สาปแช่งพระนามของพระเจ้าผู้มีฤทธิ์อำนาจเหนือภัยพิบัติเหล่านี้ แต่พวกเขาก็ยังไม่กลับตัวกลับใจเลิกทำบาป และไม่ได้สรรเสริญพระเจ้า
- วิวรณ์ 16:10 - ทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเทขันของตนลงบนบัลลังก์ของสัตว์ร้าย และแผ่นดินของมันก็ตกอยู่ในความมืด คนพวกนั้นกัดลิ้นของตนเองเพราะความเจ็บปวด
- วิวรณ์ 16:11 - พวกเขาสาปแช่งพระเจ้าแห่งสวรรค์ เพราะความเจ็บปวดจากแผลพุพองของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่ได้หันไปจากสิ่งผิดๆที่เขากำลังทำอยู่
- กิจการ 13:45 - เมื่อชาวยิวเห็นฝูงชนมากันแน่นขนัด ก็เกิดความอิจฉา จึงพูดดูถูกดูแคลนและคัดค้านคำพูดของเปาโล
- กิจการ 13:46 - แต่เปาโลและบารนาบัสก็พูดอย่างกล้าหาญว่า “เราจำเป็นที่จะต้องประกาศพระคำของพระเจ้าให้พวกคุณฟังก่อน แต่เมื่อคุณไม่ยอมเชื่อและตัดสินว่าตนเองไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่กับพระเจ้าตลอดไป ตอนนี้เราก็จะหันไปหาคนที่ไม่ใช่ยิว
- 2 พงศาวดาร 16:9 - เพราะตาของพระยาห์เวห์มองไปทั่วทั้งพื้นโลก เพื่อที่จะทำให้คนมีใจสัตย์ซื่อกับพระองค์เข้มแข็ง แต่เที่ยวนี้ท่านได้ทำเรื่องโง่เขลา และต่อไปนี้ท่านจะต้องทำสงคราม”
- 2 พงศาวดาร 16:10 - อาสาจึงโกรธผู้ที่เห็นนิมิตคนนั้น และสั่งให้ล่ามโซ่เขาและเอาไปขังไว้ในคุก เพราะเรื่องนี้ทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกับคนนั้น ในช่วงนั้นอาสาเริ่มกดขี่ประชาชนบางคนอย่างโหดร้าย
- ปฐมกาล 4:5 - แต่พระองค์ไม่ยอมรับคาอินกับเครื่องบูชาของเขา ทำให้คาอินโกรธมาก ไม่พอใจ หน้าบึ้งอยู่
- ปฐมกาล 4:6 - พระยาห์เวห์พูดกับคาอินว่า “เจ้าโกรธทำไม เจ้าหน้าบึ้งทำไม
- ปฐมกาล 4:7 - ถ้าเจ้าทำในสิ่งที่ถูก เราก็จะยอมรับเจ้า แต่ถ้าเจ้าทำสิ่งที่ผิด ความบาปก็ดักซุ่มโจมตีเจ้าอยู่ที่ประตู มันอยากควบคุมเจ้า แต่เจ้าจะต้องเป็นฝ่ายที่ครอบงำมัน”
- ปฐมกาล 4:8 - คาอินบอกกับอาเบลน้องชายว่า ให้เราไปในทุ่งกันเถอะ ตอนที่พวกเขาอยู่ในทุ่งนั้น คาอินก็โถมเข้าใส่อาเบลน้องชายและฆ่าเขา
- ปฐมกาล 4:9 - พระยาห์เวห์ถามคาอินว่า “น้องชายของเจ้าอยู่ไหน” คาอินตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่รู้ ข้าพเจ้าเป็นคนดูแลน้องชายหรือยังไง”
- ปฐมกาล 4:10 - พระยาห์เวห์จึงพูดว่า “เจ้าได้ทำอะไรลงไป เลือดของน้องชายเจ้าที่ผืนดินนั้นได้ร้องออกมาถึงเรา
- ปฐมกาล 4:11 - ตอนนี้เจ้าถูกสาปแช่งจากแผ่นดินที่อ้าปากของมันดื่มกินเลือดของน้องชายเจ้าจากมือของเจ้า
- ปฐมกาล 4:12 - เมื่อเจ้าทำงานบนผืนดิน มันจะไม่ให้พืชผลกับเจ้าอีกแล้ว เจ้าจะกลายเป็นคนเร่ร่อนไม่มีหลักแหล่งในโลกนี้”
- ปฐมกาล 4:13 - คาอินพูดกับพระยาห์เวห์ว่า “โทษของข้าพเจ้าหนักเกินกว่าที่ข้าพเจ้าจะทนได้
- ปฐมกาล 4:14 - ดูเถิดในวันนี้พระองค์ได้ขับไล่ข้าพเจ้าออกไปจากแผ่นดิน แล้วข้าพเจ้าจะถูกซ่อนไปจากพระองค์ ข้าพเจ้าจะต้องกลายเป็นคนเร่ร่อนไม่มีหลักแหล่งในโลกนี้ และใครก็ตามที่พบข้าพเจ้าจะฆ่าข้าพเจ้า”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 6:33 - ในขณะที่เขากำลังคุยอยู่กับผู้ใหญ่เหล่านั้น คนที่กษัตริย์ส่งมานั้น ก็มาถึง และกษัตริย์ก็พูดว่า “เหตุร้ายในครั้งนี้มาจากพระยาห์เวห์ แล้วเราจะยังฝากความหวังไว้กับพระยาห์เวห์อีกทำไม”
- 1 ซามูเอล 22:13 - ซาอูลพูดกับอาหิเมเลคว่า “ทำไมเจ้ากับไอ้ลูกชายของเจสซีถึงคบคิดกันต่อต้านเรา เจ้าให้ขนมปังและดาบกับมัน เจ้าได้ปรึกษาพระเจ้าเพื่อมัน ซึ่งทำให้มันลุกขึ้นกบฏต่อเรา และคอยดักซุ่มโจมตีเราอย่างที่มันทำอยู่ทุกวันนี้”
- 1 ซามูเอล 22:14 - อาหิเมเลคตอบกษัตริย์ว่า “มีใครในหมู่พวกข้าราชการของท่าน ที่จงรักภักดีต่อท่านเท่ากับดาวิดบ้าง ดาวิดเป็นลูกเขยของท่าน เป็นหัวหน้าองครักษ์ของท่าน และเป็นที่นับถืออย่างยิ่งในครอบครัวของท่าน
- 1 ซามูเอล 22:15 - แล้วนี่เป็นครั้งแรกหรือ ที่ข้าพเจ้าได้ปรึกษาพระเจ้าเพื่อดาวิด ไม่ใช่เลย ขอท่านอย่าได้กล่าวหาข้าพเจ้าผู้รับใช้ของท่านหรือเครือญาติฝ่ายพ่อข้าพเจ้าเลย เพราะข้าพเจ้าคนรับใช้ของท่านไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้”
- 1 ซามูเอล 22:16 - แต่กษัตริย์พูดว่า “อาหิเมเลค ทั้งเจ้าและเครือญาติฝ่ายพ่อเจ้า จะต้องตายแน่”
- 1 ซามูเอล 22:17 - กษัตริย์สั่งพวกทหารยามที่ยืนอยู่ข้างๆว่า “พาพวกนักบวชของพระยาห์เวห์เหล่านี้ไปฆ่าซะ เพราะพวกมันเข้าข้างดาวิด พวกมันรู้ว่ามันหนีไปแต่ไม่ยอมบอกเรา” แต่พวกข้าราชการของกษัตริย์ไม่ยอมลงมือต่อพวกนักบวชของพระยาห์เวห์
- 1 ซามูเอล 22:18 - กษัตริย์สั่งโดเอกว่า “เจ้าหันไปฟันพวกนักบวชเหล่านั้นเสียให้ตาย” โดเอกชาวเมืองเอโดมจึงหันไปฟันพวกนักบวช ในวันนั้นเขาได้ฆ่าชายที่สวมผ้าป่านเอโฟดตายถึงแปดสิบห้าคน
- 1 ซามูเอล 22:19 - เขาใช้ดาบฆ่าฟันคนในเมืองโนบซึ่งเป็นเมืองของนักบวช เขาใช้ดาบฆ่าฟันทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทั้งเด็กและทารก ทั้งวัว ลาและแกะ
- 1 ซามูเอล 22:20 - แต่อาบียาธาร์ ลูกชายของอาหิเมเลค ที่เป็นลูกชายของอาหิทูบ หนีรอดไปหาดาวิด
- 1 ซามูเอล 22:21 - เขาได้บอกกับดาวิดว่าซาอูลได้ฆ่าพวกนักบวชของพระยาห์เวห์
- 1 ซามูเอล 22:22 - ดาวิดพูดกับอาบียาธาร์ว่า “ในวันนั้น เมื่อโดเอกชาวเอโดมอยู่ที่นั่น เรารู้ว่าเขาต้องบอกกับซาอูลแน่ เราเองเป็นผู้ที่นำความตายมาสู่ทุกคนในครอบครัวของพ่อเจ้า
- 1 ซามูเอล 22:23 - อยู่กับเราที่นี่แหละ เจ้าไม่ต้องกลัว คนที่ตามล่าชีวิตเจ้าก็ตามล่าชีวิตเราเหมือนกัน เจ้าจะปลอดภัยเมื่ออยู่กับเรา”
- อิสยาห์ 8:21 - พวกเขาจะเดินไปมาในแผ่นดิน ด้วยความทุกข์และความหิวโหย เมื่อเขาหิวโหยและโกรธ เขาก็จะเงยหน้าขึ้นมาสาปแช่ง กษัตริย์ของเขาและพวกพระของเขาด้วย
- อิสยาห์ 8:22 - แล้วเมื่อพวกเขามองไปที่แผ่นดิน พวกเขาจะเห็นแต่ความทุกข์ยากและความมืด และมีแต่ความกลัดกลุ้มอย่างแสนสาหัส และพวกเขาก็จะถูกผลักไสให้เข้าไปสู่ความมืดมิด
- กันดารวิถี 16:19 - โคราห์รวบรวมคนในชุมชนทั้งหมดให้มาต่อต้านพวกเขาที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ แล้วรัศมีของพระยาห์เวห์ ก็ปรากฏแก่คนทั้งชุมชน
- กันดารวิถี 16:20 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า
- กันดารวิถี 16:21 - “ถอยห่างจากชุมชนนี้ เราจะทำลายพวกมันทันที”
- กันดารวิถี 16:22 - โมเสสและอาโรนก้มกราบลงและพูดว่า “พระเจ้า พระองค์เป็นพระเจ้าเหนือวิญญาณของคนทั้งหมด เมื่อมีคนหนึ่งทำบาป พระองค์จะโกรธคนทั้งชุมชนหรือ”
- กันดารวิถี 16:23 - พระยาห์เวห์จึงพูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 16:24 - “ให้บอกกับคนในชุมชนว่า ‘ย้ายออกไปให้ห่างจากเต็นท์ของโคราห์ ดาธานและอาบีรัม’”
- กันดารวิถี 16:25 - โมเสสยืนขึ้นและตรงไปที่ดาธาน อาบีรัมและพวกผู้ใหญ่ของชาวอิสราเอลที่ติดตามเขา
- กันดารวิถี 16:26 - โมเสสบอกกับชุมชนว่า “ย้ายออกให้ห่างจากเต็นท์ของคนชั่วพวกนี้ และอย่าไปแตะต้องอะไรก็ตามที่เป็นของพวกเขา ไม่อย่างนั้น ท่านจะถูกทำลาย เพราะความบาปทั้งหมดของพวกเขา”
- กันดารวิถี 16:27 - ประชาชนจึงย้ายออกห่างจากเต็นท์ของโคราห์ ดาธานและอาบีรัม ตอนนี้ ดาธานและอาบีรัมได้ออกมายืนอยู่ที่ทางเข้าเต็นท์ของพวกเขา พร้อมกับลูกเมียและเด็กทารกของพวกเขา
- กันดารวิถี 16:28 - โมเสสพูดว่า “อย่างนี้พวกท่านจะได้รู้ว่า พระยาห์เวห์ได้ส่งเรามาทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ เราไม่ได้คิดพวกมันขึ้นมาเอง
- กันดารวิถี 16:29 - คือ ถ้าคนพวกนี้ตายธรรมดาๆเหมือนกับที่คนอื่นๆเขาตายกัน และถ้าเรื่องที่เกิดกับคนอื่นก็เกิดขึ้นกับพวกเขาด้วย แสดงว่าพระยาห์เวห์ไม่ได้ส่งเรามา
- กันดารวิถี 16:30 - แต่ถ้าพระยาห์เวห์ทำในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ให้พื้นดินอ้าปากกลืนพวกเขาและทุกสิ่งที่เขามีลงไป และพวกนี้ถูกฝังทั้งเป็น แล้วท่านก็จะได้รู้ว่า พวกเขาได้ดูหมิ่นพระยาห์เวห์”
- กันดารวิถี 16:31 - เมื่อโมเสสพูดจบ พื้นดินที่อยู่ใต้คนพวกนั้นก็แยกออก
- กันดารวิถี 16:32 - มันเหมือนกับพื้นดินกำลังอ้าปากของมันและกลืนเอาคนพวกนั้น ครอบครัวของพวกเขาและคนของโคราห์ รวมทั้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขา
- กันดารวิถี 16:33 - พวกเขาจึงถูกฝังทั้งเป็นพร้อมสิ่งของของพวกเขา แล้วพื้นดินก็ปิดทับพวกเขาและพวกเขาก็หายไปจากชุมชน
- กันดารวิถี 16:34 - คนอิสราเอลอื่นๆที่อยู่รอบๆต่างวิ่งหนี เมื่อได้ยินเสียงร้องของพวกเขา คนเหล่านั้นพูดว่า “เดี๋ยวแผ่นดินจะกลืนพวกเราไปด้วย”
- กันดารวิถี 16:35 - พระยาห์เวห์ได้ส่งไฟลงมาทำลายสองร้อยห้าสิบคนที่กำลังบูชาเครื่องหอมอยู่
- กันดารวิถี 16:36 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 16:37 - “บอกเอเลอาซาร์ลูกชายของนักบวชอาโรนว่า ให้เอากระถางไฟพวกนั้นออกมาจากกองไฟที่ยังเผาอยู่ และเขี่ยถ่านไฟและขี้เถ้าให้กระจายไปทั่วๆ กระถางไฟได้กลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เพราะพวกเขาได้เอากระถางไฟพวกนี้มาถวายพระยาห์เวห์ ให้เอากระถางไฟของคนพวกนี้ที่ทำบาปจนทำให้พวกเขาต้องตาย ไปตีให้แบนๆ แล้วเอามาทาบเข้ากับแท่นบูชา มันจะเป็นสิ่งเตือนใจสำหรับประชาชนชาวอิสราเอล”
- กันดารวิถี 16:39 - นักบวชเอเลอาซาร์จึงเอากระถางไฟทองสัมฤทธิ์ ที่คนพวกนั้นที่ถูกเผาไปแล้วนำมาถวาย เอามาตีเป็นแผ่นบางๆ มาทาบไปบนแท่นบูชาตามที่พระยาห์เวห์ได้บอกกับเขาผ่านทางโมเสส
- กันดารวิถี 16:40 - แผ่นทองสัมฤทธิ์นี้จะเป็นสิ่งที่เตือนประชาชนชาวอิสราเอล เพื่อไม่ให้คนที่ไม่มีสิทธิ์ ที่ไม่ใช่ลูกหลานของอาโรนเข้าไปใกล้แท่นบูชาเพื่อเผาเครื่องหอมต่อหน้าพระยาห์เวห์ จะได้ไม่เป็นเหมือนโคราห์และพรรคพวกของเขา
- กันดารวิถี 16:41 - วันต่อมา ชุมชนชาวอิสราเอลทั้งหมด ต่างบ่นต่อว่าโมเสสและอาโรนว่า “ท่านได้ทำให้คนของพระยาห์เวห์ต้องตาย”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 20:42 - เขาพูดกับกษัตริย์ว่า “พระยาห์เวห์พูดไว้อย่างนี้ ‘เจ้าปล่อยคนหนึ่งที่เรากำหนดให้ตาย อย่างนั้น เจ้าต้องชดใช้ชีวิตของเจ้าแทนชีวิตของเขา และชดใช้ชีวิตของประชาชนของเจ้าแทนชีวิตประชาชนของเขา’”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 20:43 - กษัตริย์ก็ขุ่นเคืองและโกรธ และเดินทางกลับวังในเมืองสะมาเรีย
- สดุดี 37:7 - ให้อดทนและรอคอยพระยาห์เวห์ลงมือ ไม่ต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เมื่อคนชั่วประสบความสำเร็จตามแผนชั่วของเขา