逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - ข้าแต่พระเจ้า สั่งประจัญบานเลย ลุยเข้าไปรบกับสัตว์ร้ายที่อยู่ในพงอ้อ และกับชนชาติทั้งหลายที่รวมตัวกันเหมือนฝูงลูกวัวที่มีพวกวัวผู้นำอยู่ ขอให้พวกเขาถ่อมตัวลงและนำเงินมาเป็นเครื่องบรรณาการถวายต่อพระองค์ ขอให้ชนชาติเหล่านั้นที่กระหายสงครามถูกทำให้แตกกระเจิดกระเจิงไป
- 新标点和合本 - 求你叱喝芦苇中的野兽和群公牛, 并列邦中的牛犊。 把银块踹在脚下; 神已经赶散好争战的列邦。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 求你斥责芦苇中的野兽和公牛群, 并万民中的牛犊。 直到他们带着银块来朝贡 ; 上帝已经赶散好战的万民 。
- 和合本2010(神版-简体) - 求你斥责芦苇中的野兽和公牛群, 并万民中的牛犊。 直到他们带着银块来朝贡 ; 神已经赶散好战的万民 。
- 当代译本 - 求你斥责那芦苇中的野兽, 斥责成群的公牛和列邦的牛犊, 使他们俯首献上贡银。 求你驱散好战的列邦。
- 圣经新译本 - 求你斥责芦苇中的野兽、 成群的公牛和万民中的牛犊, 并且把 贪爱银块的人践踏在脚下; 求你赶散那些喜爱战争的民族。
- 中文标准译本 - 求你斥责芦苇中的野兽, 斥责壮牛群以及万民中的牛犊; 把贪爱银块的人践踏在脚下 , 驱散那喜好战斗的民众。
- 现代标点和合本 - 求你叱喝芦苇中的野兽和群公牛, 并列邦中的牛犊, 把银块踹在脚下; 神已经赶散好争战的列邦。
- 和合本(拼音版) - 求你叱喝芦苇中的野兽和群公牛, 并列邦中的牛犊; 把银块踹在脚下, 上帝已经赶散好争战的列邦。
- New International Version - Rebuke the beast among the reeds, the herd of bulls among the calves of the nations. Humbled, may the beast bring bars of silver. Scatter the nations who delight in war.
- New International Reader's Version - Give a strong warning to Egypt, that beast among the tall grass. It is like a herd of bulls among the calves. May that beast bow down before you with gifts of silver. Scatter the nations who like to make war.
- English Standard Version - Rebuke the beasts that dwell among the reeds, the herd of bulls with the calves of the peoples. Trample underfoot those who lust after tribute; scatter the peoples who delight in war.
- New Living Translation - Rebuke these enemy nations— these wild animals lurking in the reeds, this herd of bulls among the weaker calves. Make them bring bars of silver in humble tribute. Scatter the nations that delight in war.
- Christian Standard Bible - Rebuke the beast in the reeds, the herd of bulls with the calves of the peoples. Trample underfoot those with bars of silver. Scatter the peoples who take pleasure in war.
- New American Standard Bible - Rebuke the animals in the reeds, The herd of bulls with the calves of the peoples, Trampling the pieces of silver; He has scattered the peoples who delight in war.
- New King James Version - Rebuke the beasts of the reeds, The herd of bulls with the calves of the peoples, Till everyone submits himself with pieces of silver. Scatter the peoples who delight in war.
- Amplified Bible - Rebuke the beasts [living] among the reeds [in Egypt], The herd of bulls (the leaders) with the calves of the peoples; Trampling underfoot the pieces of silver; He has scattered the peoples who delight in war.
- American Standard Version - Rebuke the wild beast of the reeds, The multitude of the bulls, with the calves of the peoples, Trampling under foot the pieces of silver: He hath scattered the peoples that delight in war.
- King James Version - Rebuke the company of spearmen, the multitude of the bulls, with the calves of the people, till every one submit himself with pieces of silver: scatter thou the people that delight in war.
- New English Translation - Sound your battle cry against the wild beast of the reeds, and the nations that assemble like a herd of calves led by bulls! They humble themselves and offer gold and silver as tribute. God scatters the nations that like to do battle.
- World English Bible - Rebuke the wild animal of the reeds, the multitude of the bulls, with the calves of the peoples. Being humbled, may it bring bars of silver. Scatter the nations that delight in war.
- 新標點和合本 - 求你叱喝蘆葦中的野獸和羣公牛, 並列邦中的牛犢。 把銀塊踹在腳下; 神已經趕散好爭戰的列邦。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 求你斥責蘆葦中的野獸和公牛羣, 並萬民中的牛犢。 直到他們帶着銀塊來朝貢 ; 上帝已經趕散好戰的萬民 。
- 和合本2010(神版-繁體) - 求你斥責蘆葦中的野獸和公牛羣, 並萬民中的牛犢。 直到他們帶着銀塊來朝貢 ; 神已經趕散好戰的萬民 。
- 當代譯本 - 求你斥責那蘆葦中的野獸, 斥責成群的公牛和列邦的牛犢, 使他們俯首獻上貢銀。 求你驅散好戰的列邦。
- 聖經新譯本 - 求你斥責蘆葦中的野獸、 成群的公牛和萬民中的牛犢, 並且把 貪愛銀塊的人踐踏在腳下; 求你趕散那些喜愛戰爭的民族。
- 呂振中譯本 - 求你叱責蘆荻中的野獸、 雄壯的公牛羣、別族之民的領主 ; 將貪婪銀子的踹於腳下 ; 趕散喜好接戰的別族之民 。
- 中文標準譯本 - 求你斥責蘆葦中的野獸, 斥責壯牛群以及萬民中的牛犢; 把貪愛銀塊的人踐踏在腳下 , 驅散那喜好戰鬥的民眾。
- 現代標點和合本 - 求你叱喝蘆葦中的野獸和群公牛, 並列邦中的牛犢, 把銀塊踹在腳下; 神已經趕散好爭戰的列邦。
- 文理和合譯本 - 其叱葦中之獸、牡牛之羣、民眾之犢、踐其銀於足下、驅散好鬥之民兮、
- 文理委辦譯本 - 好鬥之人、如牛如犢、如葦間之獸、爾制伏之、爾離散之、俾輸金以歸附兮。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 願主叱喝葦叢之野獸、與群牡牛、及似牛犢之異邦人、使之皆攜銀叩伏、喜爭鬥之列國、天主均已擊散、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 以爾駐蹕。於我 瑟琳 。萬王賓貢。莫敢不勤。
- Nueva Versión Internacional - Reprende a esa bestia de los juncos, a esa manada de toros bravos entre naciones que parecen becerros. Haz que, humillada, te lleve barras de plata; dispersa a las naciones belicosas.
- 현대인의 성경 - 갈밭의 들짐승과 같은 이집트를 꾸짖으시고 송아지를 거느린 수소떼와 같은 온 세계 민족을 꾸짖어 그들이 은을 바치며 복종할 때까지 낮추소서. 전쟁을 즐기는 모든 민족을 흩으소서.
- Новый Русский Перевод - Я же угнетен и страдаю. Спасение Твое, Боже, пусть возвысит меня!
- Восточный перевод - Я же угнетён и страдаю. Спасение Твоё, Всевышний, пусть возвысит меня!
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Я же угнетён и страдаю. Спасение Твоё, Аллах, пусть возвысит меня!
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Я же угнетён и страдаю. Спасение Твоё, Всевышний, пусть возвысит меня!
- La Bible du Semeur 2015 - depuis ton sanctuaire ╵qui domine Jérusalem ! Des rois t’y apporteront leurs présents.
- リビングバイブル - ああ神よ、敵をしかりつけ、 進んで税を持って来るようにしてください。 争い事を好む連中を追い散らしてください。
- Nova Versão Internacional - Repreende a fera entre os juncos, a manada de touros entre os bezerros das nações. Humilhados, tragam barras de prata. Espalha as nações que têm prazer na guerra.
- Hoffnung für alle - Dein Tempel ragt hoch über Jerusalem. Dorthin bringen dir Könige ihren Tribut.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Xin quở trách đội quân các nước— là những thú dữ trong lau sậy, và đàn bò rừng giữa bò con của các dân tộc. Xin hạ nhục bọn người dâng bạc. Xin đánh tan các đoàn dân hiếu chiến.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ขอทรงลงโทษสัตว์ร้ายในพงอ้อ ขอทรงลงโทษฝูงโคถึกในหมู่ลูกวัวแห่งชนชาติทั้งหลาย ขอทรงกระทำให้พวกเขาสยบและนำเงินแท่งมา ขอทรงกระทำให้ชนชาติต่างๆ ที่ใฝ่สงครามกระจัดกระจายไป
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ห้ามพวกสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในดงอ้อ ห้ามฝูงกระทิงที่อยู่ท่ามกลางกระทิงน้อยของบรรดาชนชาติ พวกที่ใคร่จะได้เครื่องบรรณาการ ก็ขอให้ถูกทำให้ถ่อมลง และขอให้บรรดาชนชาติที่ชอบการสงครามกระเจิดกระเจิงไป
- Thai KJV - ขอทรงขนาบหมู่คนที่แทงด้วยหอก ฝูงวัวกับลูกวัวแห่งชนชาติทั้งหลาย จนเขาทุกคนยินยอมด้วยถวายเงินแผ่น ขอให้ชนชาติทั้งหลายผู้ปีติยินดีในสงครามได้กระจัดพลัดพรากไป
交叉引用
- เยเรมียาห์ 51:32 - ทางข้ามแม่น้ำถูกยึดแล้ว แหล่งน้ำต่างๆถูกไฟเผา และทหารก็ขวัญหนีดีฝ่อ”
- เยเรมียาห์ 51:33 - พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดว่า “ลูกสาวของบาบิโลนเป็นเหมือนลานนวดข้าวในช่วงที่คนเหยียบย่ำข้าวอยู่ อีกไม่นานก็จะถึงเวลาเก็บเกี่ยว”
- 2 พงศาวดาร 14:1 - อาบียาห์ก็ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและถูกฝังอยู่ในเมืองของดาวิด อาสาที่เป็นลูกชายของเขาขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา ในสมัยของอาสาแผ่นดินก็มีความสงบสุขอยู่ถึงสิบปี
- 2 พงศาวดาร 14:2 - อาสาทำสิ่งที่ดีและถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา
- 2 พงศาวดาร 14:3 - เขารื้อพวกแท่นบูชาของชาวต่างชาติและสถานที่นมัสการทั้งหลายออก เขาทุบหินศักดิ์สิทธิ์ ทิ้ง และโค่นพวกเสาของพระอาเชราห์ลง
- 2 พงศาวดาร 14:4 - เขาสั่งให้ชาวยูดาห์แสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา และให้พวกเขารักษากฎและคำสั่งทุกข้อของพระองค์
- 2 พงศาวดาร 14:5 - เขารื้อสถานนมัสการทั้งหลายและแท่นบูชาเครื่องหอมที่มีอยู่ในทุกๆเมืองของยูดาห์ทิ้ง และอาณาจักรแห่งนั้นก็สงบสุขอยู่ภายใต้การปกครองของเขา
- 2 พงศาวดาร 14:6 - เมื่อแผ่นดินสงบสุข เขาได้สร้างเมืองที่เป็นป้อมปราการของยูดาห์ไว้หลายเมือง ไม่มีการสู้รบเกิดขึ้นในช่วงนั้น เพราะพระยาห์เวห์ให้สันติภาพกับเขา
- 2 พงศาวดาร 14:7 - อาสาพูดกับชาวยูดาห์ว่า “เรามาสร้างเมืองเหล่านี้ขึ้นกันเถิด และสร้างกำแพงขึ้นล้อมรอบ มีหอคอย ประตูและกรงเหล็กด้วย แผ่นดินนี้ยังคงเป็นของพวกเรา เพราะพวกเราแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเรา พวกเราแสวงหาพระองค์และพระองค์ก็ให้พวกเรามีสันติภาพรอบด้าน” ดังนั้นพวกเขาจึงสร้างเมืองขึ้นและร่ำรวยมากขึ้นด้วย
- 2 พงศาวดาร 14:8 - อาสามีกองทัพชาวยูดาห์สามแสนคน ที่มีโล่ขนาดใหญ่และหอก และกองทัพชาวเบนยามินสองแสนแปดหมื่นคนมีโล่กับธนูเป็นอาวุธ พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นนักรบที่กล้าหาญ
- 2 พงศาวดาร 14:9 - เศราห์ที่เป็นชาวคูชยกทัพมาเป็นล้าน มาสู้รบกับพวกเขา พร้อมกับรถรบ สามร้อยคัน พวกเขาเดินทัพมาจนถึงเมืองมาเรชาห์
- 2 พงศาวดาร 14:10 - อาสาออกไปสู้รบกับเขา พวกเขาทั้งหมดสู้กันที่สนามรบในหุบเขาเศฟาธาห์ใกล้กับเมืองมาเรชาห์
- 2 พงศาวดาร 14:11 - แล้วอาสาก็ร้องขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์สามารถช่วยได้ทั้งคนที่มีพลังมากหรือคนที่อ่อนแอ มันไม่แตกต่างอะไรกันเลยสำหรับพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา โปรดช่วยเราด้วยเถิด เพราะพวกเราพึ่งพระองค์และเรามาต่อสู้กับกองทัพมหึมาพวกนี้ในนามของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เป็นพระเจ้าของเรา อย่าให้มนุษย์มีชัยเหนือพระองค์เลย”
- 2 พงศาวดาร 14:12 - ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงทำลายพวกชาวคูชลงต่อหน้าอาสาและชาวยูดาห์ ชาวคูชต่างหลบหนีเอาตัวรอดไป
- 2 พงศาวดาร 14:13 - และอาสากับกองทัพของเขาก็ไล่ตามพวกนั้นไปไกลถึงเมืองเกราร์ ชาวคูชจำนวนมากมายมหาศาลนั้นต้องล้มลงอย่างไม่เป็นท่า และไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้อีก พวกเขาถูกทำลายลงต่อหน้าพระยาห์เวห์ และกองทัพของพระองค์ พวกคนของยูดาห์ได้ขนของกลับไปจำนวนมาก
- 2 พงศาวดาร 14:14 - อาสาและกองทัพของเขาได้ทำลายหมู่บ้านทั้งหมดรอบๆเมืองเกราร์ เพราะพระยาห์เวห์ทำให้คนเหล่านั้นกลัวพวกเขา พวกเขาปล้นเมืองเหล่านั้น เพราะมีทรัพย์สมบัติอยู่มากมายในนั้น
- 2 พงศาวดาร 14:15 - พวกเขายังโจมตีค่ายต่างๆของพวกคนเลี้ยงสัตว์และต้อนเอาฝูงแกะแพะและอูฐไป แล้วพวกเขาก็กลับเมืองเยรูซาเล็ม
- โยบ 40:21 - มันนอนอยู่ใต้ต้นบัว และแอบซ่อนอยู่ในหนองน้ำที่ปกคลุมไปด้วยต้นอ้อ
- สดุดี 120:7 - ข้าพเจ้าเป็นคนรักสันติภาพ แต่เมื่อข้าพเจ้าพูดให้เกิดสันติภาพ พวกเขาจะเอาแต่สงครามท่าเดียว
- สดุดี 18:44 - ทันทีที่พวกเขาได้ยินเรื่องของข้าพเจ้า พวกเขาต่างยอมสยบต่อข้าพเจ้า คนต่างชาติหมอบลงต่อหน้าข้าพเจ้า
- 2 พงศาวดาร 20:1 - หลังจากนั้นชาวโมอับและชาวอัมโมนพร้อมกับชาวเมอูนี ส่วนหนึ่งได้ยกทัพมาสู้รบกับเยโฮชาฟัท
- 2 พงศาวดาร 20:2 - มีคนมาบอกกับเยโฮชาฟัทว่า “มีกองทัพขนาดมหึมายกมาสู้รบกับท่าน พวกนั้นมาจากเอโดมจากอีกด้านหนึ่งของทะเลตาย ตอนนี้มาอยู่ที่ฮาซาโซน-ทามาร์แล้ว” (คือ เอนเกดี)
- 2 พงศาวดาร 20:3 - เยโฮชาฟัทตกใจมาก เขาตัดสินใจที่จะไปถามพระยาห์เวห์ว่าจะทำอย่างไรดี เขาประกาศให้มีการอดอาหารทั่วทั้งยูดาห์
- 2 พงศาวดาร 20:4 - ประชาชนของยูดาห์ได้มารวมกันเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์ พวกเขาพากันมาจากทุกเมืองในยูดาห์ เพื่อแสวงหาพระยาห์เวห์
- 2 พงศาวดาร 20:5 - แล้วเยโฮชาฟัทยืนขึ้นในที่ชุมนุมของชาวยูดาห์และของเมืองเยรูซาเล็มที่วิหารของพระยาห์เวห์ ตรงด้านหน้าของลานแห่งใหม่นั้น
- 2 พงศาวดาร 20:6 - และพูดว่า
- 2 พงศาวดาร 20:7 - ข้าแต่พระเจ้าของพวกเรา พระองค์ได้ขับไล่ประชาชนของแผ่นดินนี้ออกไปต่อหน้าชาวอิสราเอลที่เป็นประชาชนของพระองค์ และยกแผ่นดินนี้ให้กับลูกหลานของอับราฮัมตลอดไป อับราฮัมที่เป็นเพื่อนของพระองค์
- 2 พงศาวดาร 20:8 - ลูกหลานของเขาได้เข้ามาอาศัยอยู่ในดินแดนนี้ และได้สร้างวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ไว้เพื่อเป็นเกียรติให้กับชื่อของพระองค์ พวกเขาพูดว่า
- 2 พงศาวดาร 20:9 - ‘ถ้ามีความหายนะอย่างใหญ่หลวงเกิดขึ้นกับพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นดาบแห่งการตัดสิน หรือโรคระบาดหรือความอดอยาก พวกเราจะมายืนอยู่ต่อหน้าพระองค์ที่วิหารนี้ ซึ่งเป็นที่ที่ชื่อของพระองค์สถิตอยู่ และพวกเราจะร้องต่อพระองค์ถึงความทุกข์ของพวกเรา และพระองค์ก็จะได้ยินและช่วยกู้พวกเรา’
- 2 พงศาวดาร 20:10 - ตอนนี้ คนพวกนี้ที่มาจากอัมโมน โมอับและจากภูเขาเสอีร์ ซึ่งเป็นดินแดนที่พระองค์ห้ามไม่ให้ชาวอิสราเอลไปบุกรุก ตอนที่พวกเขาออกมาจากประเทศอียิปต์ ดังนั้น ชนชาติอิสราเอลจึงได้หันเหไปจากชนชาติเหล่านี้และไม่ได้ทำลายพวกมัน
- 2 พงศาวดาร 20:11 - ดูสิว่าพวกเขาตอบแทนพวกเราด้วยการมาขับไล่พวกเราออกจากแผ่นดินที่พระองค์ให้พวกเราไว้เป็นมรดก
- 2 พงศาวดาร 20:12 - ข้าแต่พระเจ้าของพวกเรา พระองค์จะไม่ตัดสินพวกเขาหรือ ลำพังพวกเราไม่มีพละกำลังเพียงพอที่จะไปเผชิญหน้ากับกองทัพขนาดมหึมาที่กำลังจะเข้ามาโจมตีพวกเราได้ พวกเราไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว แต่ตาของพวกเรามองหาความช่วยเหลือจากพระองค์”
- 2 พงศาวดาร 20:13 - ชาวยูดาห์ทั้งหมดกับเมียของพวกเขาและลูกๆรวมทั้งเด็กเล็กๆได้มายืนอยู่ที่นั่นต่อหน้าพระยาห์เวห์
- 2 พงศาวดาร 20:14 - แล้วพระวิญญาณของพระยาห์เวห์ก็ลงมาสถิตกับยาฮาซีเอลลูกชายของเศคาริยาห์ ผู้เป็นลูกชายของเบไนยาห์ ผู้เป็นลูกชายของเยอีเอล ผู้เป็นลูกชายของมัทธานิยาห์ ที่เป็นชาวเลวีและเป็นลูกหลานของอาสาฟ ในขณะที่ยาฮาซีเอล ยืนอยู่ท่ามกลางที่ประชุม
- 2 พงศาวดาร 20:15 - เขาได้พูดว่า “ฟังให้ดี กษัตริย์เยโฮชาฟัท และทุกคนที่อาศัยอยู่ในยูดาห์ และเมืองเยรูซาเล็ม นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดกับพวกท่าน ‘พวกเจ้าไม่ต้องกลัวหรือท้อแท้ต่อกองทัพใหญ่นี้ เพราะการสู้รบไม่ใช่เป็นของพวกเจ้า แต่เป็นเรื่องของพระเจ้า
- 2 พงศาวดาร 20:16 - พรุ่งนี้ ให้ยกทัพไปสู้กับพวกเขา พวกเขาจะขึ้นไปที่ตำบลศิสและพวกเจ้าจะพบพวกเขาอยู่ที่ปลายทางของหุบเขาแคบๆในทะเลทรายเยรูเอล
- 2 พงศาวดาร 20:17 - พวกเจ้าจะไม่ต้องต่อสู้ในการรบครั้งนี้เลย แค่อยู่ประจำที่ของพวกเจ้า ยืนอยู่อย่างมั่นคงและคอยดูชัยชนะที่พระยาห์เวห์จะทำให้กับพวกเจ้า ยูดาห์และเยรูซาเล็มเอ๋ย อย่ากลัว อย่าท้อแท้ ออกไปเผชิญหน้ากับพวกเขาในวันพรุ่งนี้เถิด แล้วพระยาห์เวห์จะอยู่กับพวกเจ้า’”
- 2 พงศาวดาร 20:18 - เยโฮชาฟัทก้มกราบหน้าจดพื้น และประชาชนทั้งหมดของยูดาห์และเยรูซาเล็มก็คุกเข่าลงนมัสการอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์
- 2 พงศาวดาร 20:19 - แล้วชาวเลวีบางกลุ่มจากชาวโคฮาทและโคราห์ได้ยืนขึ้นและสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลด้วยเสียงอันดัง
- 2 พงศาวดาร 20:20 - เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น พวกเขาออกไปที่ทะเลทรายเทโคอา เมื่อพวกเขาออกเดินทาง เยโฮชาฟัทยืนขึ้นและพูดว่า “ชาวยูดาห์และประชาชนของเมืองเยรูซาเล็ม ฟังเราให้ดี ขอเพียงแต่เชื่อในพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเจ้า และพวกเจ้าก็จะตั้งมั่นคง ให้เชื่อพวกผู้พูดแทนพระเจ้า”
- 2 พงศาวดาร 20:21 - หลังจากที่ได้หารือร่วมกับประชาชนแล้ว เยโฮชาฟัทได้แต่งตั้งคนหลายคนให้เป็นผู้ร้องเพลงให้กับพระยาห์เวห์และสรรเสริญพระองค์ถึงความสง่างามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ในขณะที่พวกเขาออกไปที่ด้านหน้าของกองทัพ พวกเขาก็พูดว่า “ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์นั้นจะคงอยู่ตลอดไป”
- 2 พงศาวดาร 20:22 - เมื่อพวกเขาเริ่มร้องเพลงและสรรเสริญ พระยาห์เวห์ได้จัดกองกำลังไว้ซุ่มโจมตีพวกคนอัมโมน โมอับและพวกคนจากภูเขาเสอีร์ที่มาบุกรุกยูดาห์ และคนเหล่านั้นก็พ่ายแพ้ไป
- 2 พงศาวดาร 20:23 - คนของอัมโมนและโมอับได้ลุกขึ้นต่อสู้กับคนที่มาจากภูเขาเสอีร์เพื่อทำลายและกวาดล้างพวกเขา หลังจากที่พวกเขาฆ่าคนจากเสอีร์หมดแล้ว พวกคนอัมโมนและคนโมอับก็หันมาทำลายล้างกันเอง
- 2 พงศาวดาร 20:24 - เมื่อพวกคนของยูดาห์มาถึงจุดที่สามารถมองกว้างออกไปในทะเลทราย และสามารถมองเห็นกองทัพขนาดมหึมาของพวกนั้น ชาวยูดาห์ก็ได้เห็นแต่ซากศพนอนเกลื่อนกลาดบนพื้นดิน ไม่มีใครหนีรอดไปได้
- 2 พงศาวดาร 20:25 - เยโฮชาฟัทกับคนของเขาทั้งหมดจึงได้ลงไปยึดเอาสิ่งของของคนเหล่านั้นไว้ พวกเขาก็ได้พบฝูงสัตว์เลี้ยงมากมาย พบข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้าและของมีค่าจำนวนมากมายเกินกว่าที่พวกเขาจะเก็บได้หมด มีของมากจนกระทั่งพวกเขาต้องใช้เวลาเก็บถึงสามวัน
- 2 พงศาวดาร 20:26 - ในวันที่สี่ พวกเขาได้ชุมนุมกันอยู่ในหุบเขาเบราคาห์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้สรรเสริญพระยาห์เวห์ หุบเขาแห่งนั้นจึงมีชื่อว่าหุบเขาเบราคาห์จนถึงทุกวันนี้
- 2 พงศาวดาร 20:27 - แล้วพวกคนจากยูดาห์และเยรูซาเล็มทั้งหมด ที่เยโฮชาฟัทนำอยู่นั้น ต่างก็กลับเมืองเยรูซาเล็มด้วยความยินดี เพราะพระยาห์เวห์ทำให้พวกเขาชื่นชมยินดีที่มีชัยเหนือศัตรูของพวกเขา
- 2 พงศาวดาร 20:28 - พวกเขาเข้าเมืองเยรูซาเล็มและไปที่วิหารของพระยาห์เวห์พร้อมกับพวกพิณใหญ่ พิณเล็กและแตร
- 2 พงศาวดาร 20:29 - ผู้คนที่อยู่ในอาณาจักรรอบข้างต่างก็เกิดความเกรงกลัวพระเจ้า เมื่อพวกเขาได้ยินถึงสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้ทำต่อศัตรูของชนชาติอิสราเอล
- 2 พงศาวดาร 20:30 - และอาณาจักรของเยโฮชาฟัทก็สงบสุขเพราะพระเจ้าของเขาได้ให้เขาหยุดพักจากสงครามรอบด้าน
- 2 พงศาวดาร 20:31 - ดังนั้นเยโฮชาฟัทปกครองอยู่เหนือยูดาห์ เขามีอายุสามสิบห้าปีเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มยี่สิบห้าปี แม่ของเขาชื่ออาซูบาห์ นางเป็นลูกสาวของชิลหิ
- 2 พงศาวดาร 20:32 - เยโฮชาฟัทเดินตามทางของอาสาพ่อของเขาและไม่ออกนอกลู่นอกทางเลย เขาทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์
- 2 พงศาวดาร 20:33 - แต่เขาไม่ได้รื้อสถานนมัสการต่างๆทิ้ง และประชาชนก็ยังไม่ได้เทใจของเขาให้กับพระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา
- 2 พงศาวดาร 20:34 - ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในสมัยของเยโฮชาฟัท ตั้งแต่ต้นจนจบ ได้ถูกจดบันทึกไว้ในบันทึกประจำปีของเยฮูลูกชายของฮานานี ซึ่งได้ถูกบันทึกลงในหนังสือพงศ์กษัตริย์แห่งอิสราเอล
- 2 พงศาวดาร 20:35 - ในเวลาต่อมา กษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ไปคบค้ากับกษัตริย์อาหัสยาห์แห่งอิสราเอล อาหัสยาห์เป็นคนชั่วช้ามาก
- 2 พงศาวดาร 20:36 - เยโฮชาฟัทร่วมมือกับกษัตริย์อาหัสยาห์สร้างกองเรือเพื่อการค้าขายขึ้นในเมืองเอซีโอน-เกเบอร์
- 2 พงศาวดาร 20:37 - มีชายคนหนึ่งมาจากเมืองมาเรชาห์ ชื่อว่าเอลีเยเซอร์เขาเป็นลูกชายของโดดาวาหุ เอลีเยเซอร์ได้พูดต่อต้านเยโฮชาฟัทว่า “พระยาห์เวห์จะทำลายสิ่งที่ท่านสร้างขึ้นมา เพราะท่านไปคบค้ากับอาหัสยาห์” กองเรือนั้นก็อับปางลงและไม่สามารถที่จะใช้แล่นเพื่อค้าขายได้อีก
- โรม 7:22 - ในใจผมเห็นด้วยกับกฎของพระเจ้า
- อิสยาห์ 37:1 - เมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์ได้ยินอย่างนั้น พระองค์ก็ฉีกเสื้อผ้าด้วยความโศกเศร้า แล้วเอาผ้ากระสอบมาสวมแทน และพระองค์ก็เข้าไปในวิหารของพระยาห์เวห์
- อิสยาห์ 37:2 - พระองค์ได้ให้เอลียาคิมผู้ดูแลวัง เชบนาเลขานุการของพระองค์ และพวกนักบวชอาวุโส สวมผ้ากระสอบไปหาผู้พูดแทนพระเจ้าชื่ออิสยาห์ ลูกชายของอามอส
- อิสยาห์ 37:3 - พวกเขาพูดกับอิสยาห์ว่า “กษัตริย์เฮเซคียาห์พูดไว้อย่างนี้ว่า ‘นี่เป็นเวลาแห่งความเดือดร้อน การลงโทษ และความอับอาย พวกเราเป็นเหมือนผู้หญิงพร้อมคลอดแล้ว แต่ไม่มีแรงเบ่งลูกออกมา
- อิสยาห์ 37:4 - ไม่แน่นะ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ยินคำพูดของแม่ทัพนั้นแล้ว กษัตริย์อัสซีเรียเจ้านายของเขาได้ส่งเขามาเพื่อเยาะเย้ยพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ และไม่แน่นะ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอาจจะลงโทษเขาเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ได้ อย่างนั้นช่วยอธิษฐานสำหรับคนของเราที่ยังเหลือรอดอยู่’”
- อิสยาห์ 37:5 - เมื่อพวกข้าราชการของกษัตริย์เฮเซคียาห์มาหาอิสยาห์
- อิสยาห์ 37:6 - อิสยาห์บอกกับพวกเขาว่า “ให้บอกกับเจ้านายของพวกท่านว่า พระยาห์เวห์ได้พูดไว้ว่า ‘ไม่ต้องกลัวคำพูดต่างๆที่เจ้าได้ยินมา คือคำพูดที่พวกคนรับใช้ของกษัตริย์อัสซีเรียได้ลบหลู่เรานั้น
- อิสยาห์ 37:7 - ตัวเราเองจะทำให้กษัตริย์อัสซีเรียกังวลใจ เพื่อว่าเมื่อเขาได้ยินข่าวลือ เขาจะได้รีบกลับไปยังแผ่นดินของเขา แล้วเราจะทำให้เขาล้มตายลงด้วยดาบในแผ่นดินของเขาเอง’”
- อิสยาห์ 37:8 - กษัตริย์ของอัสซีเรียได้ออกจากเมืองลาคีชไปยังเมืองลิบนาห์ เมื่อแม่ทัพได้ยินอย่างนั้น เขาก็ไปยังเมืองลิบนาห์ และพบว่ากษัตริย์อัสซีเรียกำลังสู้รบอยู่กับเมืองนั้น
- อิสยาห์ 37:9 - ในเวลานั้น กษัตริย์อัสซีเรียได้ยินเกี่ยวกับกษัตริย์ทีระหะคาร์ แห่งเอธิโอเปียว่า “กษัตริย์ทีระหะคาร์ได้ยกทัพมาทำสงครามกับท่าน” เมื่อกษัตริย์อัสซีเรียได้ยินอย่างนั้น พระองค์ก็ส่งพวกผู้ถือสารไปหากษัตริย์เฮเซคียาห์ และสั่งพวกเขาว่า
- อิสยาห์ 37:10 - “ให้ไปบอกกับกษัตริย์เฮเซคียาห์ของยูดาห์ด้วยว่า อย่าให้พระเจ้าที่เจ้าไว้วางใจนั้น หลอกลวงพวกเจ้า เมื่อพระองค์พูดว่า ‘เยรูซาเล็มจะไม่มีวันตกไปอยู่ในเงื้อมมือของกษัตริย์อัสซีเรียหรอก’
- อิสยาห์ 37:11 - ดูสิ เจ้าก็ได้ยินถึงสิ่งที่พวกกษัตริย์ของอัสซีเรียได้ทำกับแผ่นดินทั้งหมดนั้นแล้ว พวกเขาได้ทำลายพวกมันจนราบคาบ แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีรอดพ้นหรือ
- อิสยาห์ 37:12 - มีพวกพระของชนชาติไหนบ้าง ที่ช่วยพวกเขาให้รอด ตอนที่ถูกบรรพบุรุษของข้าทำลาย พวกเขาได้ทำลายเมืองโกซาน ฮาราน เรเซฟ และประชาชนของเอเดน ที่อาศัยอยู่ในเทลอัสสาร์
- อิสยาห์ 37:13 - แล้วกษัตริย์ของฮามัท กษัตริย์ของอารปัด กษัตริย์ของเมืองเสฟารวาอิม กษัตริย์ของเฮนา หรือกษัตริย์ของอิฟวาห์ หายไปไหนกันหมดแล้ว”
- อิสยาห์ 37:14 - เฮเซคียาห์รับจดหมายจากพวกผู้ถือสารและอ่านมัน แล้วพระองค์ก็ขึ้นไปที่วิหารของพระยาห์เวห์ แล้วเขาก็คลี่จดหมายฉบับนั้นออกต่อหน้าพระยาห์เวห์
- อิสยาห์ 37:15 - แล้วเขาก็อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ว่า
- อิสยาห์ 37:16 - “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าของอิสราเอล ผู้นั่งประทับบนบัลลังก์เหนือพวกเครูบ มีแต่พระองค์ผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นพระเจ้าของอาณาจักรทั้งหมดในโลก พระองค์เป็นผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
- อิสยาห์ 37:17 - ข้าแต่พระยาห์เวห์ ช่วยเงี่ยหูของพระองค์ฟังด้วยเถิด ข้าแต่พระยาห์เวห์ ช่วยเปิดตาของพระองค์ดูด้วยเถิด ช่วยฟังคำพูดทั้งหมดของเซนนาเคอริบที่เขาได้ส่งมา เพื่อเยาะเย้ยพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ด้วยเถิด
- อิสยาห์ 37:18 - ข้าแต่พระยาห์เวห์ ก็จริงอยู่ที่พวกกษัตริย์อัสซีเรียได้ทำลายชนชาติทั้งหลายรวมทั้งแผ่นดินของพวกเขาด้วย
- อิสยาห์ 37:19 - และได้โยนพวกพระของพวกนั้นลงในไฟ แต่พระพวกนั้นไม่ได้เป็นพระเจ้าจริง แต่เป็นฝีมือมนุษย์ที่ทำขึ้นมาจากไม้และหิน พวกมันก็เลยถูกทำลายไป
- อิสยาห์ 37:20 - ดังนั้น ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเรา ตอนนี้ช่วยกู้พวกเราให้พ้นจากมือของกษัตริย์อัสซีเรียด้วยเถิด เพื่ออาณาจักรทั้งหมดในโลกนี้จะได้รู้ว่า พระองค์ พระยาห์เวห์คือพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว”
- อิสยาห์ 37:21 - จากนั้นอิสยาห์ลูกชายของอามอส ได้ส่งคนไปบอกเฮเซคียาห์ว่า “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลพูด คือ ‘เจ้าได้อธิษฐานถึงเราเกี่ยวกับเซนนาเคอริบกษัตริย์ของอัสซีเรีย’
- อิสยาห์ 37:22 - ดังนั้น ให้รู้ว่านี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับเขาว่า ‘เซนนาเคอริบเอ๋ย ศิโยนสาวพรหมจรรย์ได้ดูถูกเจ้า เธอหัวเราะเยาะเจ้า นางสาวเยรูซาเล็มส่ายหัวเยาะเย้ยเจ้าในขณะที่เจ้าวิ่งหนี
- อิสยาห์ 37:23 - เจ้าดูถูกใครหรือพูดหมิ่นประมาทใครรู้รึเปล่า เจ้าขึ้นเสียงใส่ใครรู้รึเปล่า เจ้าเหยียดตาใส่ใครรู้รึเปล่า เจ้าได้ทำใส่เราผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอล
- อิสยาห์ 37:24 - เจ้าได้เย้ยองค์เจ้าชีวิตผ่านทางพวกผู้รับใช้ที่เจ้าส่งมา เจ้าพูดว่า “ข้าได้ปีนขึ้นไปถึงยอดเขา ยอดที่สูงที่สุดในเลบานอนด้วยรถรบมากมายของข้า ข้าได้โค่นพวกต้นซีดาร์ที่สูงที่สุดของมันและต้นสนที่ดีที่สุดของมัน ข้าได้ไปถึงยอดเขาที่ไกลลิบลิ่วของมัน ข้าไปถึงป่าที่ดีที่สุดของมัน
- อิสยาห์ 37:25 - ข้าได้ขุดบ่อน้ำไปทั่วในต่างแดน และดื่มจากบ่อน้ำพวกนั้น ข้าได้เหยียบย่ำน้ำในลำธารทั้งหลายของอียิปต์จนมันเหือดแห้งไป”
- อิสยาห์ 37:26 - กษัตริย์ของอัสซีเรีย เจ้าไม่เคยได้ยินหรือเรื่องที่เราได้กำหนดไว้นานมาแล้ว เรื่องที่เราได้วางแผนตั้งแต่สมัยโบราณ แล้วตอนนี้เรากำลังทำให้มันเกิดขึ้น คือเราได้ให้เจ้าทำลายป้อมปราการของเมืองต่างๆให้กลายเป็นกองซากปรักหักพัง
- อิสยาห์ 37:27 - ในขณะที่พลเมืองที่ขาดกำลังของเมืองเหล่านั้นกำลังตกใจกลัวและอับอาย พวกเขาเป็นเหมือนพืชที่ท้องทุ่ง เป็นเหมือนหญ้าอ่อน เป็นเหมือนหญ้าที่ขึ้นบนดาดฟ้า และถูกเผาแห้งไปด้วยลมตะวันออก
- อิสยาห์ 37:28 - เรารู้แม้กระทั่งเวลาที่เจ้ายืนขึ้นหรือนั่งลง เวลาที่เจ้าออกไปหรือเข้ามา และเราก็รู้ตอนที่เจ้าเกรี้ยวกราดใส่เรา
- อิสยาห์ 37:29 - เพราะเจ้าเกรี้ยวกราดใส่เรา เราได้ยินคำพูดที่หยิ่งยโสของเจ้า อย่างนั้น เราจะเอาขอเกี่ยวจมูกของเจ้า เอาบังเหียนของเราใส่ปากเจ้า และเราจะนำเจ้ากลับไปตามทางที่เจ้ามา’”
- อิสยาห์ 37:30 - เฮเซคียาห์ นี่จะเป็นเรื่องที่พิสูจน์ว่าสิ่งที่เราพูดนี้จะเกิดขึ้นจริง คือในปีแรกนี้จะปลูกอะไรไม่ได้เลย ก็ให้กินข้าวที่งอกขึ้นมาเองก่อน ในปีที่สอง ก็ให้กินสิ่งที่เกิดขึ้นเองอีก ในปีที่สาม ก็ให้เจ้าหว่านข้าว และเก็บเกี่ยวมันและให้ปลูกสวนองุ่นและกินผลของมัน
- อิสยาห์ 37:31 - คนในครอบครัวยูดาห์ที่ยังหลงเหลืออยู่ จะเป็นเหมือนต้นไม้หยั่งรากลงข้างล่างและออกผลขึ้นข้างบน
- อิสยาห์ 37:32 - แล้วคนที่ยังเหลืออยู่ก็จะแผ่ขยายออกไปจากเยรูซาเล็ม คนที่ยังรอดชีวิตบางคนก็จะออกมาจากภูเขาศิโยน ความรักอันแรงกล้าของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นก็จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ
- อิสยาห์ 37:33 - แล้วนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับกษัตริย์อัสซีเรีย “เขาจะไม่ได้เข้ามาในเมืองเยรูซาเล็ม เขาจะไม่ได้ยิงธนูใส่เมืองนี้หรอก เขาจะไม่ได้ถือโล่มาเผชิญหน้ากับเมืองนี้ เขาจะไม่ได้สร้างเนินดินบุกขึ้นกำแพง
- อิสยาห์ 37:34 - เขาจะต้องกลับไปทางเดิมที่เขามา เขาจะไม่ได้เข้าเมืองหรอกพระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้
- อิสยาห์ 37:35 - เพราะเราจะป้องกันเมืองนี้ เพื่อให้มันรอด เราจะทำสิ่งนี้เพื่อเห็นแก่เราเอง และเพื่อเห็นแก่ดาวิดคนรับใช้ของเรา”
- อิสยาห์ 37:36 - แล้วทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ก็ออกไป และฆ่าทหารในค่ายของอัสซีเรียไปหนึ่งแสนแปดหมื่นห้าพันคน เมื่อคนตื่นขึ้นในตอนเช้า ก็เห็นศพเกลื่อนกลาดไปหมด
- อิสยาห์ 37:37 - ดังนั้นเซนนาเคอริบ กษัตริย์ของอัสซีเรียก็กลับบ้าน และไปอาศัยอยู่ที่นีนะเวห์
- อิสยาห์ 37:38 - วันหนึ่ง ในขณะที่ท่านกำลังนมัสการอยู่ในวัดของนิสรคพระของท่านอยู่นั้น พวกลูกชายของท่านคืออัดรัมเมเลค และชาเรเซอร์ ก็ได้ฆ่าท่านด้วยดาบ และพวกเขาก็หนีไปที่แผ่นดินอารารัต แล้วลูกของท่านคือ เอสารฮัดโดน ก็ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอัสซีเรียแทนท่าน
- อิสยาห์ 34:7 - วัวป่า จะล้มไปด้วย และลูกวัวผู้จะล้มไปกับวัวผู้อันแข็งแรง แผ่นดินของพวกเขาจะโชกไปด้วยเลือด และพื้นดินของเขาก็จะอาบไปด้วยไขมันสัตว์
- ยากอบ 4:1 - รู้หรือเปล่าว่า ที่พวกคุณทะเลาะวิวาทกันนั้น มันเกิดมาจากอะไร ก็เกิดจากกิเลสตัณหาที่ต่อสู้กันอยู่ในจิตใจของพวกคุณไง
- 2 ซามูเอล 8:1 - ต่อมา ดาวิดได้ชัยชนะเหนือชาวฟีลิสเตียและทำให้พวกนั้นอยู่ใต้บังคับ และได้ยึดเมืองเมเธก-ฮัมมาห์ที่ชาวฟีลิสเตียเคยครอบครองอยู่
- 2 ซามูเอล 8:2 - ดาวิดยังเอาชนะชาวโมอับ และได้บังคับให้คนโมอับนอนราบไปกับพื้นดิน และแบ่งพวกเขาออกมาเป็นแถวๆตามความยาวของเชือกเส้นหนึ่ง คนในสองแถวแรกที่ถูกเชือกแบ่งออกมาจะถูกฆ่าตายหมด ส่วนแถวที่สามจะได้รับการไว้ชีวิต ดังนั้น ชาวโมอับจึงกลายเป็นทาสของดาวิดและยอมส่งส่วย ให้เขา
- 2 ซามูเอล 8:3 - ดาวิดได้รบชนะฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์เมืองโศบาห์ ลูกชายของเรโหบ ตอนที่ดาวิดไปตั้งอนุสาวรีย์ ให้กับตนเองที่ลุ่มแม่น้ำยูเฟรติส
- 2 ซามูเอล 8:4 - ดาวิดได้ยึดรถม้าศึกหนึ่งพันคัน คนขับรถม้าศึกเจ็ดพันคน และทหารเดินเท้าสองหมื่นคน ดาวิดได้ตัดเส้นเอ็นที่ขาของพวกม้าทั้งหมด ยกเว้นม้าหนึ่งร้อยตัวสำหรับรถรบ
- 2 ซามูเอล 8:5 - ชาวอารัมจากเมืองดามัสกัสได้มาช่วยฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์เมืองโศบาห์รบ แต่ดาวิดได้ฆ่าพวกเขาตายไปสองหมื่นสองพันคน
- 2 ซามูเอล 8:6 - ดาวิดส่งทหารขึ้นไปประจำป้อมในเมืองดามัสกัสของชาวอารัม และชาวอารัมก็กลายเป็นทาสของเขาและส่งส่วยให้เขา พระยาห์เวห์ได้ให้ชัยชนะกับดาวิดในทุกๆที่ที่เขาไป
- 2 ซามูเอล 8:7 - ดาวิดยึดเอาโล่ทองคำที่ทหารของกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ถือ และขนพวกมันกลับไปไว้ที่เมืองเยรูซาเล็ม
- 2 ซามูเอล 8:8 - กษัตริย์ดาวิดได้ยึดเอาทองสัมฤทธิ์ที่ได้มาจากเมืองเทบาห์ และเมืองเบโรธัยที่เคยเป็นของกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ ไว้เป็นจำนวนมาก
- 2 ซามูเอล 8:9 - เมื่อโทอิกษัตริย์เมืองฮามัทได้ยินว่าดาวิดเอาชนะกองทัพทั้งหมดของกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ได้
- 2 ซามูเอล 8:10 - เขาได้ส่งโยรัม ลูกชายของเขาไปพบดาวิด เพื่อถามทุกข์สุขดาวิดและแสดงความยินดีกับดาวิดที่รบชนะกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ เพราะกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์เคยทำสงครามกับกษัตริย์โทอิอยู่บ่อยๆ โยรัมนำของขวัญที่ทำจากเงิน ทองและทองสัมฤทธิ์ไปให้กับดาวิดด้วย
- 2 ซามูเอล 8:11 - กษัตริย์ดาวิดได้อุทิศของเหล่านั้นให้พระยาห์เวห์ เหมือนกับที่เขาเคยอุทิศเงินและทองที่ยึดมาได้จากชาติต่างๆที่เขาเคยไปปราบปรามมา
- 2 ซามูเอล 8:12 - คือ เอโดม โมอับ ชาวอัมโมน ชาวฟีลิสเตีย และชาวอามาเลค ในทำนองเดียวกัน ดาวิดก็ได้อุทิศของที่ยึดมาได้จากฮาดัดเอเซอร์ กษัตริย์เมืองโศบาห์ลูกชายของเรโหบ ให้กับพระเจ้าด้วย
- 2 ซามูเอล 8:13 - หลังจากที่ดาวิดกลับมาจากการโจมตีชาวเอโดมหนึ่งหมื่นแปดพันคนในหุบเขาเกลือแล้ว เขาก็มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้น
- 2 ซามูเอล 8:14 - ดาวิดได้ให้กองทหารเข้าประจำการอยู่ตามป้อมต่างๆทั่วเมืองเอโดม และชาวเมืองเอโดมทั้งหมดก็ตกเป็นทาสของดาวิด พระยาห์เวห์ได้ให้ชัยชนะกับดาวิดในทุกๆที่ที่เขาไป
- 2 ซามูเอล 8:15 - ดาวิดได้ปกครองทั่วทั้งอิสราเอล เขาได้ให้ความยุติธรรมและความถูกต้องกับประชาชนทั้งหมดของเขา
- 2 ซามูเอล 8:16 - โยอาบลูกชายของนางเศรุยาห์ได้เป็นแม่ทัพ เยโฮชาฟัทลูกชายอาหิลูดเป็นผู้จดบันทึกเหตุการณ์
- 2 ซามูเอล 8:17 - ศาโดกลูกชายอาหิทูบและอาหิเมเลคลูกชายอาบียาธาร์เป็นนักบวช เสไรอาห์เป็นเลขา
- 2 ซามูเอล 8:18 - เบไนยาห์ลูกชายเยโฮยาดาเป็นผู้ควบคุมชาวเคเรธีและชาวเปเลท และบรรดาลูกชายของดาวิดเป็นที่ปรึกษากษัตริย์
- 2 ซามูเอล 10:1 - ในเวลาต่อมา กษัตริย์ของชาวอัมโมนได้ตายไป ลูกชายของเขาชื่อฮานูนได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากพ่อของเขา
- 2 ซามูเอล 10:2 - ดาวิดคิดว่า “เราจะดีต่อฮานูนลูกชายของนาหาชเหมือนกับที่พ่อของเขาเคยดีต่อเรา”
- 2 ซามูเอล 10:3 - พวกผู้นำของชาวอัมโมนพูดกับฮานูนนายของพวกเขาว่า “ท่านคิดว่าดาวิดกำลังให้เกียรติพ่อของท่านหรือ ที่ส่งคนมาเพื่อปลอบโยนท่านอย่างนี้ ดาวิดส่งคนของเขามา เพื่อสำรวจ สอดแนมเมือง และเตรียมทำสงครามกับท่าน”
- 2 ซามูเอล 10:4 - ฮานูนจึงจับพวกคนของดาวิดไว้ แล้วโกนเคราของพวกเขาออกข้างหนึ่ง และตัดเสื้อผ้าของพวกเขาออกข้างหนึ่งตั้งแต่สะโพกลงไปและไล่พวกเขาออกไป
- 2 ซามูเอล 10:5 - เมื่อมีคนมาบอกดาวิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดาวิดส่งคนส่งข่าวมาพบคนเหล่านั้น เพราะพวกเขารู้สึกอับอายมาก กษัตริย์พูดว่า “ให้อยู่ที่เมืองเยริโคจนกว่าเคราของพวกท่านจะงอกขึ้นมาใหม่ แล้วค่อยกลับมา”
- 2 ซามูเอล 10:6 - เมื่อชาวอัมโมนรู้ว่าพวกเขาทำให้ดาวิดเกลียดชังเสียแล้ว พวกเขาจึงจ้างทหารเดินเท้าชาวอารัมสองหมื่นคนมาจากเมืองเบธเรโหบและเมืองโศบาห์ รวมทั้งจ้างกษัตริย์มาอาคาห์กับคนของเขาอีกหนึ่งพันคน และจ้างชาวเมืองโทบอีกหนึ่งหมื่นสองพันคน
- 2 ซามูเอล 10:7 - เมื่อดาวิดรู้เรื่องนี้ เขาได้ส่งโยอาบพร้อมกับกองทัพนักรบทั้งหมดของเขาออกไป
- 2 ซามูเอล 10:8 - ชาวอัมโมนออกมาเตรียมรบอยู่ที่ทางเข้าประตูเมือง ขณะที่ชาวอารัมจากเมืองโศบาห์และเมืองเรโหบ และคนของเมืองโทบกับของมาอาคาห์อยู่ในทุ่งกว้าง
- 2 ซามูเอล 10:9 - เมื่อโยอาบเห็นว่ามีกองทัพล้อมเขาอยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เขาจึงเลือกทหารที่ดีที่สุดในกองทหารของอิสราเอลออกมากองหนึ่ง และสั่งให้พวกเขาออกไปต่อสู้กับชาวอารัม
- 2 ซามูเอล 10:10 - เขาจัดกองทัพที่เหลือภายใต้การบัญชาการของอาบีชัยน้องชายของเขาให้เข้าไปต่อสู้กับชาวอัมโมน
- 2 ซามูเอล 10:11 - โยอาบพูดกับอาบีชัยว่า “ถ้าชาวอารัมแข็งแกร่งเกินไปสำหรับเรา ท่านต้องมาช่วยเหลือเรา แต่ถ้าชาวอัมโมนแข็งแกร่งเกินไปสำหรับท่าน เราจะมาช่วยเหลือท่าน
- 2 ซามูเอล 10:12 - กล้าหาญไว้ และสู้ให้สมกับเป็นชายชาติทหารเพื่อคนของพวกเรา และเพื่อเมืองต่างๆของพระเจ้าของพวกเรา ขอให้พระยาห์เวห์จัดการตามที่พระองค์เห็นสมควรเถิด”
- 2 ซามูเอล 10:13 - แล้วโยอาบและกองทัพที่ไปกับเขา ก็ได้บุกเข้าสู้รบกับชาวอารัม และชาวอารัมได้ถอยหนีไปต่อหน้าเขา
- 2 ซามูเอล 10:14 - เมื่อชาวอัมโมนเห็นว่าชาวอารัมกำลังหลบหนี พวกเขาจึงหลบหนีไปต่อหน้าอาบีชัยและกลับเข้าไปในเมือง โยอาบก็กลับมาจากการสู้รบกับชาวอัมโมนและมาถึงเมืองเยรูซาเล็ม
- 2 ซามูเอล 10:15 - หลังจากที่ชาวอารัมเห็นว่าพวกเขาถูกอิสราเอลตีแตก พวกเขาจึงรวมตัวกันอีกครั้ง
- 2 ซามูเอล 10:16 - ฮาดัด-เอเซอร์ นำชาวอารัมมาจากอีกฝั่งของแม่น้ำ พวกเขาไปที่เฮลามโดยมีโชบัคแม่ทัพของกษัตริย์ฮาดัด-เอเซอร์เป็นผู้นำทัพ
- 2 ซามูเอล 10:17 - เมื่อมีคนมาบอกดาวิดถึงเรื่องนี้ ดาวิดจึงรวบรวมอิสราเอลทั้งหมดข้ามแม่น้ำจอร์แดน และไปที่เฮลาม
- 2 ซามูเอล 10:18 - แต่ดาวิดรบชนะพวกเขา และพวกเขาหลบหนีไปต่อหน้าอิสราเอล ดาวิดได้ฆ่าคนขับรถรบของพวกเขาไปเจ็ดร้อยคนและทหารเดินเท้า อีกสี่หมื่นคน ดาวิดได้ทำให้โชบัคแม่ทัพของชาวอารัมบาดเจ็บ เขาจึงตายที่นั่นด้วย
- 2 ซามูเอล 10:19 - เมื่อกษัตริย์ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้อำนาจของฮาดัดเอเซอร์ เห็นว่าพวกเขาพ่ายแพ้ต่ออิสราเอลแล้ว พวกเขาจึงทำสัญญาสงบศึกและยอมตกเป็นทาสของอิสราเอล ชาวอารัมจึงกลัวและไม่กล้าช่วยชาวอัมโมนอีกต่อไป
- เยเรมียาห์ 50:11 - “บาบิโลน ถึงแม้พวกเจ้าจะเฉลิมฉลอง ถึงแม้เจ้าจะชื่นชมยินดี เพราะปล้นมรดกของเราไป ถึงพวกเจ้าจะเต้นระบำเหมือนวัวกระทืบ และร้องเหมือนม้าหนุ่มที่แข็งแกร่ง
- เอเสเคียล 29:3 - ให้บอกเขาว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด เจ้ากษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์ เราต่อต้านเจ้า เจ้าจระเข้ยักษ์ เจ้านอนหมอบอยู่ในลำธารทั้งหลายของแม่น้ำไนล์ เจ้าพูดว่า “แม่น้ำไนล์เป็นของข้า ข้าสร้างมันขึ้นมาเพื่อตัวข้าเอง”
- สดุดี 89:10 - พระองค์บดขยี้สัตว์ประหลาดในทะเลที่ชื่อ ราหับ พระองค์ทำให้พวกศัตรูของพระองค์แตกกระเจิงด้วยแขนอันทรงพลังของพระองค์
- สดุดี 22:12 - มีวัวตัวผู้จำนวนมากที่ล้อมรอบข้าพเจ้าอยู่ วัวตัวผู้ที่ดุร้ายของบาชานกำลังรายล้อมข้าพเจ้าอยู่
- สดุดี 22:13 - พวกมันอ้าปากกว้างใส่ข้าพเจ้า เหมือนกับสิงโตที่กำลังร้องคำรามฉีกกินเหยื่อของมัน