逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - แต่คุณอาจจะเถียงว่า “ถ้าการที่ผมไม่ซื่อสัตย์นั้นทำให้เห็นความซื่อสัตย์ของพระองค์เด่นชัดขึ้น และทำให้พระองค์ได้รับเกียรติด้วย แล้วยังจะมาลงโทษผมอีกทำไม”
- 新标点和合本 - 若 神的真实,因我的虚谎越发显出他的荣耀,为什么我还受审判,好像罪人呢?
- 和合本2010(上帝版-简体) - 若上帝的真实因我的虚谎越发显出他的荣耀,为什么我还像罪人一样受审判呢?
- 和合本2010(神版-简体) - 若 神的真实因我的虚谎越发显出他的荣耀,为什么我还像罪人一样受审判呢?
- 当代译本 - 也许有人说:“如果我们的虚谎凸显出上帝的真实,增加祂的荣耀,为什么祂还要把我们当作罪人审判呢?”
- 圣经新译本 - 但是 神的诚实,如果因我的虚谎而更加显出他的荣耀来,为什么我还要像罪人一样受审判呢?
- 中文标准译本 - 那么,如果神的真实因我的虚谎使他的荣耀更加丰盛,为什么我还要像罪人一样被定罪呢?
- 现代标点和合本 - 若神的真实因我的虚谎越发显出他的荣耀,为什么我还受审判,好像罪人呢?
- 和合本(拼音版) - 若上帝的真实,因我的虚谎越发显出他的荣耀,为什么我还受审判,好像罪人呢?
- New International Version - Someone might argue, “If my falsehood enhances God’s truthfulness and so increases his glory, why am I still condemned as a sinner?”
- New International Reader's Version - Someone might argue, “When I lie, it becomes clearer that God is truthful. It makes his glory shine more brightly. Why then does he find me guilty of sin?”
- English Standard Version - But if through my lie God’s truth abounds to his glory, why am I still being condemned as a sinner?
- New Living Translation - “But,” someone might still argue, “how can God condemn me as a sinner if my dishonesty highlights his truthfulness and brings him more glory?”
- The Message - It’s simply perverse to say, “If my lies serve to show off God’s truth all the more gloriously, why blame me? I’m doing God a favor.” Some people are actually trying to put such words in our mouths, claiming that we go around saying, “The more evil we do, the more good God does, so let’s just do it!” That’s pure slander, as I’m sure you’ll agree.
- Christian Standard Bible - But if by my lie God’s truth abounds to his glory, why am I also still being judged as a sinner?
- New American Standard Bible - But if through my lie the truth of God abounded to His glory, why am I also still being judged as a sinner?
- New King James Version - For if the truth of God has increased through my lie to His glory, why am I also still judged as a sinner?
- Amplified Bible - But [as you might say] if through my lie God’s truth was magnified and abounded to His glory, why am I still being judged as a sinner?
- American Standard Version - But if the truth of God through my lie abounded unto his glory, why am I also still judged as a sinner?
- King James Version - For if the truth of God hath more abounded through my lie unto his glory; why yet am I also judged as a sinner?
- New English Translation - For if by my lie the truth of God enhances his glory, why am I still actually being judged as a sinner?
- World English Bible - For if the truth of God through my lie abounded to his glory, why am I also still judged as a sinner?
- 新標點和合本 - 若神的真實,因我的虛謊越發顯出他的榮耀,為甚麼我還受審判,好像罪人呢?
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 若上帝的真實因我的虛謊越發顯出他的榮耀,為甚麼我還像罪人一樣受審判呢?
- 和合本2010(神版-繁體) - 若 神的真實因我的虛謊越發顯出他的榮耀,為甚麼我還像罪人一樣受審判呢?
- 當代譯本 - 也許有人說:「如果我們的虛謊凸顯出上帝的真實,增加祂的榮耀,為什麼祂還要把我們當作罪人審判呢?」
- 聖經新譯本 - 但是 神的誠實,如果因我的虛謊而更加顯出他的榮耀來,為甚麼我還要像罪人一樣受審判呢?
- 呂振中譯本 - 但上帝的真實如果因我的虛假越發彰顯他的榮耀來,為甚麼我還被斷為罪人呢?
- 中文標準譯本 - 那麼,如果神的真實因我的虛謊使他的榮耀更加豐盛,為什麼我還要像罪人一樣被定罪呢?
- 現代標點和合本 - 若神的真實因我的虛謊越發顯出他的榮耀,為什麼我還受審判,好像罪人呢?
- 文理和合譯本 - 若上帝之誠、因我之偽而益致其榮、則我何仍見鞫如罪人乎、
- 文理委辦譯本 - 曰、若我之偽、益彰上帝之誠以致其榮、則我何反見擬如罪人乎、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 若天主之真、因我之偽、而愈顯以致其榮、則我何又見擬如罪人乎、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 曰:今夫天主之真、既賴吾人之偽、而發揚光大、則吾之被判為罪人、不亦枉乎?
- Nueva Versión Internacional - Alguien podría objetar: «Si mi mentira destaca la verdad de Dios y así aumenta su gloria, ¿por qué todavía se me juzga como pecador?
- 현대인의 성경 - 또 어떤 사람들은 “나의 거짓말로 하나님의 진리가 더욱 드러나서 그분께 영광이 되었다면 왜 내가 죄인 취급을 받아야 하느냐?” 고 주장하고 있습니다.
- Новый Русский Перевод - Но если моя ложь делает ярче истину Божью и, таким образом, умножает Его славу, то почему же я судим как грешник?
- Восточный перевод - Но если моя ложь делает ярче истину Всевышнего и, таким образом, умножает Его славу, то почему же я судим как грешник?
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Но если моя ложь делает ярче истину Аллаха и, таким образом, умножает Его славу, то почему же я судим как грешник?
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Но если моя ложь делает ярче истину Всевышнего и, таким образом, умножает Его славу, то почему же я судим как грешник?
- La Bible du Semeur 2015 - Ou, dira-t-on encore, si mon mensonge fait d’autant mieux éclater que Dieu est véridique et contribue ainsi à sa gloire, pourquoi serais-je encore condamné comme pécheur ?
- リビングバイブル - もし、私がうそをついたとします。それによって神の真実がはっきりと際立ち、私の不真実が、かえって神の栄光を輝かしたとしたら、神は私を罪人としてさばくことなどできなくなってしまいます。
- Nestle Aland 28 - εἰ δὲ ἡ ἀλήθεια τοῦ θεοῦ ἐν τῷ ἐμῷ ψεύσματι ἐπερίσσευσεν εἰς τὴν δόξαν αὐτοῦ, τί ἔτι κἀγὼ ὡς ἁμαρτωλὸς κρίνομαι;
- unfoldingWord® Greek New Testament - εἰ δὲ ἡ ἀλήθεια τοῦ Θεοῦ ἐν τῷ ἐμῷ ψεύσματι ἐπερίσσευσεν εἰς τὴν δόξαν αὐτοῦ, τί ἔτι κἀγὼ ὡς ἁμαρτωλὸς κρίνομαι?
- Nova Versão Internacional - Alguém pode alegar ainda: “Se a minha mentira ressalta a veracidade de Deus, aumentando assim a sua glória, por que sou condenado como pecador?”
- Hoffnung für alle - Aber fragen wir noch einmal: Wie kann Gott mich als Sünder ansehen und verurteilen, wenn doch erst durch meine Falschheit seine Wahrheit in ihrer ganzen Größe aufstrahlt?
- Kinh Thánh Hiện Đại - Cũng theo lập luận trên, có người thắc mắc: nếu sự lừa dối của tôi làm sáng tỏ đức chân thật của Đức Chúa Trời, sao tôi còn bị Ngài xét xử như người có tội?
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - บางคนอาจแย้งว่า “ในเมื่อความอสัตย์ของข้าพเจ้าทำให้เห็นความสัตย์จริงของพระเจ้าเด่นชัดยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มพูนพระเกียรติสิริของพระองค์ แล้วทำไมข้าพเจ้ายังถูกตัดสินลงโทษว่าเป็นคนบาปเล่า?”
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แต่ถ้าการมดเท็จของข้าพเจ้าทำให้ความสัตย์จริงของพระเจ้าปรากฏชัดยิ่งขึ้น และเพิ่มพูนพระบารมีของพระองค์แล้ว ทำไมข้าพเจ้าจึงยังถูกกล่าวโทษเช่นคนบาปเล่า
- Thai KJV - เพราะถ้าความจริงของพระเจ้าปรากฏมากยิ่งขึ้นเพราะเหตุความอสัตย์ของข้าพเจ้าเป็นที่ให้เกิดเกียรติยศแด่พระองค์แล้ว ทำไมเขาจึงยังลงโทษข้าพเจ้าว่าเป็นคนบาป
交叉引用
- ปฐมกาล 37:8 - พวกพี่ชายของเขาพูดกับเขาว่า “นี่เจ้าคิดว่าเจ้าจะได้เป็นกษัตริย์ปกครองเหนือพวกเราจริงๆล่ะซินะ” หลังจากนั้นพี่ชายของเขาก็ยิ่งเกลียดเขามากขึ้น เพราะความฝันและสิ่งที่โยเซฟเล่าเกี่ยวกับความฝันนั้น
- ปฐมกาล 37:9 - ต่อมาโยเซฟได้ฝันอีก และเขาก็เล่าให้พวกพี่ชายฟังอีกว่า “ดูสิ ผมฝันอีกแล้ว คราวนี้ฝันว่า มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดาวสิบเอ็ดดวง ต่างมาโค้งคำนับผม”
- อพยพ 3:19 - แต่เรารู้ว่ากษัตริย์อียิปต์จะไม่ยอมปล่อยพวกเจ้าไป นอกจากเขาจะถูกบังคับให้ต้องปล่อยพวกเจ้าไป
- อพยพ 14:5 - เมื่อมีคนมาบอกกษัตริย์อียิปต์ว่า ชาวอิสราเอลหนีไปแล้ว ฟาโรห์และพวกข้าราชการของเขาก็เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาเกี่ยวกับคนอิสราเอลนั้น และพูดว่า “นี่เราทำอะไรลงไป เราปล่อยคนอิสราเอลไปจากการเป็นทาสของเราได้ยังไง”
- ปฐมกาล 44:1 - โยเซฟได้สั่งคนใช้ที่ดูแลบ้านของเขาว่า “ให้เอาอาหารใส่กระสอบของพวกเขาแต่ละคนให้มากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะขนไปได้ แล้วเอาเงินของพวกเขาใส่เข้าไปบนปากกระสอบของแต่ละคนด้วย
- ปฐมกาล 44:2 - ให้เอาชามเงินของเราใส่เข้าไปบนปากกระสอบของน้องคนสุดท้อง พร้อมกับเงินค่าข้าวสารของเขาด้วย” คนรับใช้ก็ทำตามที่โยเซฟบอก
- ปฐมกาล 44:3 - เช้าวันต่อมา พวกพี่น้องของโยเซฟและลาก็ได้ถูกส่งกลับบ้านไป
- ปฐมกาล 44:4 - พวกเขาออกจากเมืองไปไม่ไกลนัก โยเซฟบอกกับคนรับใช้ที่ดูแลบ้านของเขาว่า “ให้ติดตามพวกเขาไปทันที เมื่อเจ้าตามทัน ให้พูดกับพวกเขาว่า ‘ทำไมพวกท่านถึงได้ทำชั่วตอบแทนความดี ทำไมท่านถึงได้ขโมยชามเงินของเราไป
- ปฐมกาล 44:5 - มันเป็นชามเงินที่เจ้านายข้าใช้ดื่ม และใช้มันในการทำนาย ด้วย พวกท่านแย่มากที่ทำอย่างนี้’”
- ปฐมกาล 44:6 - เมื่อคนใช้ของเขาติดตามพวกนั้นทัน เขาก็พูดตามที่โยเซฟบอก
- ปฐมกาล 44:7 - พวกพี่น้องของโยเซฟได้พูดกับคนใช้ว่า “ทำไมนายของเราถึงพูดอย่างนี้ พวกเราคนใช้ของท่าน จะไม่มีวันทำอย่างนั้นเด็ดขาด
- ปฐมกาล 44:8 - ดูเถิด ขนาดเงินที่พวกเราเจอที่ปากกระสอบของพวกเรา พวกเรายังเอามาจากแผ่นดินคานาอัน มาคืนให้กับท่านเลย แล้วเราจะไปขโมยเงินหรือทองจากบ้านของเจ้านายท่านทำไมกัน
- ปฐมกาล 44:9 - ถ้าท่านพบมันอยู่กับใครในพวกเราที่เป็นทาสของท่านนี้ คนๆนั้นจะต้องตาย และพวกเราที่เหลือก็จะกลายเป็นทาสของท่านด้วย”
- ปฐมกาล 44:10 - คนใช้จึงพูดว่า “ดีแล้ว ตกลงตามที่ท่านพูด ถ้าเราเจอมันที่ใคร คนนั้นจะต้องเป็นทาสของเรา และพวกท่านที่เหลือก็จะเป็นอิสระ”
- ปฐมกาล 44:11 - ทุกคนรีบเอากระสอบวางลงกับพื้น และเปิดกระสอบออก
- ปฐมกาล 44:12 - คนใช้ก็ค้นหา เริ่มจากพี่ชายคนโตก่อน จนถึงคนสุดท้อง แล้วเขาก็พบชามเงินนั้นอยู่ในกระสอบของเบนยามิน
- ปฐมกาล 44:13 - พวกพี่ๆฉีกเสื้อผ้าของพวกเขาแสดงถึงความเสียใจ จากนั้นทุกคนได้เอากระสอบขึ้นบรรทุกหลังลา กลับเข้ามาในเมืองอีกครั้ง
- ปฐมกาล 44:14 - เมื่อยูดาห์และพี่น้องคนอื่นๆของเขามาถึงบ้านของโยเซฟ โยเซฟยังอยู่ที่นั่น พวกเขากราบลงถึงพื้นต่อหน้าโยเซฟ
- ปฐมกาล 50:18 - พวกพี่ชายได้มาคุกเข่าลงต่อหน้าเขาและพูดว่า “ดูเถิด เราเป็นทาสของท่าน”
- ปฐมกาล 50:19 - แต่โยเซฟพูดกับพวกเขาว่า “อย่ากลัวเลย พวกพี่คิดว่าผมเป็นพระเจ้าหรือยังไง
- ปฐมกาล 50:20 - พวกพี่ตั้งใจจะทำร้ายผมก็จริง แต่พระเจ้าตั้งใจให้มันออกมาดี เพื่อจะได้มีวันนี้เกิดขึ้น เพื่อที่จะรักษาชีวิตของคนมากมาย
- ปฐมกาล 37:20 - มาเถอะ ช่วยกันฆ่ามัน แล้วโยนมันทิ้งในบ่อน้ำแห้งๆพวกนี้ แล้วให้เราบอกว่ามันถูกสัตว์ป่าขย้ำกิน แล้วมาดูสิว่าฝันพวกนั้นของมันจะเป็นยังไง”
- อพยพ 14:30 - ในวันนั้นเอง พระยาห์เวห์ได้ช่วยชาวอิสราเอลให้พ้นจากอำนาจของชาวอียิปต์ ชาวอิสราเอลเห็นศพของชาวอียิปต์ตายเกลื่อนกลาดไปหมดบนฝั่งทะเล
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:17 - พระยาห์เวห์ได้บอกกับเราไว้ว่า ‘เจ้าต้องไม่กินหรือดื่มที่นั่นหรือกลับทางเส้นเดิมที่ใช้มานั้น’”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:18 - ผู้พูดแทนพระเจ้าแก่ๆคนนั้นตอบว่า “เราก็เป็นผู้พูดแทนพระเจ้าคนหนึ่งเหมือนกับท่าน และทูตสวรรค์องค์หนึ่งได้พูดกับเราด้วยคำพูดของพระยาห์เวห์ว่า ‘นำเขากลับบ้านไปกับท่าน เพื่อให้เขาได้กินและดื่ม’” (แต่จริงๆแล้วผู้พูดแทนพระเจ้าแก่ๆคนนี้โกหกเขา)
- โรม 9:19 - เมื่อเป็นอย่างนี้ คุณคงจะพูดกับผมว่า “ถ้าอย่างนั้น พระองค์ยังจะมาโทษเราอีกทำไม เพราะใครจะไปขัดขืนความต้องการของพระองค์ได้”
- โรม 9:20 - โธ่มนุษย์เอ๋ย คุณคิดว่าคุณเป็นใคร สิ่งที่ถูกปั้นจะย้อนถามคนปั้นได้หรือว่า “ทำไมถึงปั้นเราแบบนี้”
- กิจการ 13:27 - ส่วนพวกที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม ตลอดจนพวกผู้นำของเขาก็ไม่รู้ว่าพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ที่พวกเขาได้ประณามพระองค์นั้น ก็ได้เป็นจริงตามคำพูดของพวกผู้พูดแทนพระเจ้าที่อ่านกันทุกครั้งในวันหยุดทางศาสนา
- กิจการ 13:28 - ถึงแม้พวกเขาจะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะประหารชีวิตพระองค์ แต่พวกเขาก็ยังร้องขอให้ปีลาตฆ่าพระองค์อยู่ดี
- กิจการ 13:29 - เมื่อพวกเขาทำทุกอย่างสำเร็จตามที่พระคัมภีร์เขียนไว้เกี่ยวกับพระเยซูแล้ว พวกเขาเอาร่างของพระองค์ลงมาจากไม้กางเขน และเอาไปวางไว้ในอุโมงค์ฝังศพ
- มัทธิว 26:34 - พระเยซูจึงตอบเปโตรว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า คืนนี้ก่อนไก่ขัน คุณจะพูดว่าไม่รู้จักเราถึงสามครั้ง”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:26 - เมื่อผู้พูดแทนพระเจ้าแก่ๆคนนี้ ที่ไปรับชายคนนั้นกลับมาจากการเดินทางของเขาได้ยินเรื่องนี้เข้า เขาพูดว่า “นั่นคือคนของพระเจ้าที่ขัดคำสั่งของพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์ได้มอบเขาให้กับสิงห์ตัวนั้นซึ่งมันก็ได้ขย้ำเขาและฆ่าเขา เหมือนกับคำพูดของพระยาห์เวห์ที่ได้เตือนเขาไว้”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:27 - ผู้พูดแทนพระเจ้าแก่ๆคนนี้ พูดกับพวกลูกชายของเขาว่า “ผูกอานลาให้กับพ่อหน่อย” พวกเขาก็ทำตาม
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:28 - แล้วเขาก็ออกไปดูศพของชายคนนั้นที่ถูกโยนทิ้งอยู่บนถนน โดยมีลาและสิงห์ตัวนั้นยืนอยู่ข้างๆ สิงห์ตัวนั้นไม่ได้กินศพนั้นและไม่ได้ขย้ำลาตัวนั้นด้วย
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:29 - ผู้พูดแทนพระเจ้าแก่ๆคนนั้น จึงเอาศพของชายคนนั้นที่เป็นคนของพระเจ้า ขึ้นวางบนหลังลา และนำเขากลับมาที่เมือง เพื่อไว้ทุกข์ให้เขาและฝังเขา
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:30 - แล้วคนแก่คนนี้ ก็วางศพนั้นไว้ในหลุมฝังศพของเขาเอง พวกเขาก็ไว้ทุกข์ให้ชายคนนั้นและพูดว่า “โถ่ น้องชายของเรา”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:31 - หลังจากที่ได้ฝังศพชายคนนั้นแล้ว ผู้พูดแทนพระเจ้าแก่ๆคนนี้พูดกับพวกลูกชายของเขาว่า “เมื่อพ่อตาย ให้ฝังศพของพ่อไว้ในหลุมเดียวกับที่ได้ฝังคนของพระเจ้าคนนั้น วางกระดูกของพ่อไว้ข้างๆกระดูกของเขา
- 1 พงศ์กษัตริย์ 13:32 - เพราะสิ่งที่เขาได้ประกาศ โดยคำพูดของพระยาห์เวห์ ที่ต่อต้านแท่นบูชาในเบธเอลและต่อต้านศาลเจ้าตามสถานนมัสการตามเมืองต่างๆของเมืองสะมาเรียนั้น จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
- อิสยาห์ 10:6 - เราได้ส่งอัสซีเรียไปต่อสู้กับชนชาติที่ไม่เคารพพระเจ้า และเราสั่งให้พวกเขาต่อสู้กับคนเหล่านั้นที่ทำให้เราโกรธ เพื่อจะริบเอาทรัพย์สมบัติของพวกนั้น และจะเหยียบย่ำพวกนั้นเหมือนโคลนตมบนถนนต่างๆ
- อิสยาห์ 10:7 - แต่อัสซีเรียไม่รู้หรอกว่าเรากำลังใช้พวกเขาอยู่ ในใจของพวกเขาไม่ได้คิดอย่างนั้น ในใจพวกเขาคิดแต่จะทำลายล้าง และกำจัดชนชาติจำนวนมากให้สิ้นซากไป
- กิจการ 2:23 - พระเจ้าได้วางแผนไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ที่จะมอบพระเยซูให้กับพวกคุณ พวกคุณได้ฆ่าพระองค์ด้วยความช่วยเหลือของพวกคนชั่วนอกกฎหมาย คือได้ตรึงพระองค์ไว้ที่กางเขน
- 2 พงศ์กษัตริย์ 8:10 - เอลีชาตอบว่า “ให้ไปบอกเขาว่า ‘ท่านจะหายป่วยแน่’ แต่พระยาห์เวห์ได้เปิดเผยให้เรารู้ว่าจริงๆแล้วเขาจะตาย”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 8:11 - เอลีชาจ้องมองฮาซาเอลด้วยสายตาเขม็งไม่ขยับเขยื้อนอยู่นานจนกระทั่งฮาซาเอลเริ่มรู้สึกอึดอัด แล้วคนของพระเจ้าก็เริ่มร้องไห้ออกมา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 8:12 - ฮาซาเอลถามเขาว่า “เจ้านายของเราร้องไห้ทำไม” เขาตอบว่า “ก็เพราะเรารู้ว่าท่านจะเป็นอันตรายกับชาวอิสราเอลทั้งหลายอย่างไรบ้างนะสิ ท่านจะเผาป้อมปราการทุกแห่ง ท่านจะฆ่าคนหนุ่มของพวกเขาด้วยดาบ ท่านจะฟาดเด็กเล็กลงบนพื้นเป็นชิ้นๆและจะแหวกท้องหญิงที่มีครรภ์”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 8:13 - ฮาซาเอลพูดว่า “ผู้รับใช้ของท่านที่เป็นเพียงหมาตัวหนึ่งจะทำร้ายพวกท่านถึงขนาดนั้นได้อย่างไรกัน” เอลีชาตอบไปว่า “พระยาห์เวห์ได้แสดงให้เราเห็นว่าท่านจะได้เป็นกษัตริย์ของชาวอารัม”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 8:14 - แล้วฮาซาเอลก็จากเอลีชาและกลับไปหาเจ้านายของเขา เมื่อเบนฮาดัดถามเขาว่า “เอลีชาได้พูดอะไรกับเจ้าบ้าง” ฮาซาเอลตอบเขาไปว่า “เขาบอกกับข้าพเจ้าว่าท่านจะหายป่วยอย่างแน่นอน”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 8:15 - แต่ในวันต่อมา ฮาซาเอลเอาผ้าหนาๆชุบน้ำจนเปียกชุ่มและเอามันโปะไว้บนหน้าของกษัตริย์จนกระทั่งเขาขาดใจตาย แล้วฮาซาเอลก็ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากเบนฮาดัด
- มัทธิว 26:69 - ในขณะเดียวกัน เปโตรกำลังนั่งอยู่ข้างนอกที่ลานบ้าน และสาวใช้คนหนึ่งเข้ามาทักเขาว่า “แกก็อยู่กับเยซูคนกาลิลีด้วยนี่นา”
- มัทธิว 26:70 - แต่เปโตรพูดต่อหน้าทุกคนว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร”
- มัทธิว 26:71 - แล้วเขาก็เดินออกไปที่ประตูบ้าน สาวใช้อีกคนที่เห็นเขาก็บอกกับทุกคนที่อยู่ตรงนั้นว่า “คนนี้อยู่กับเยซูชาวนาซาเร็ธด้วย”
- มัทธิว 26:72 - เปโตรปฏิเสธว่า “สาบานได้เลย ผมไม่เคยรู้จักชายคนนั้น”
- มัทธิว 26:73 - อีกสักครู่หนึ่ง คนที่ยืนอยู่ที่นั่นก็เดินเข้ามาหาเปโตร และพูดว่า “แกเป็นหนึ่งในพวกนั้นแน่ๆ สำเนียงของแกมันฟ้องอยู่ชัดๆ”
- มัทธิว 26:74 - เปโตรขอให้ตัวเองถูกสาปแช่งถ้าโกหก แล้วเขาสาบานว่า “ผมไม่รู้จักชายคนนี้” ทันใดนั้นไก่ก็ขัน
- มัทธิว 26:75 - เปโตรจึงนึกขึ้นได้ถึงคำพูดที่พระเยซูเคยบอกกับเขาว่า “ก่อนไก่ขัน คุณจะพูดว่าไม่รู้จักเราสามครั้ง” เปโตรออกไปข้างนอก แล้วร้องไห้อย่างขมขื่น
- โรม 3:4 - ไม่มีทาง ถึงแม้มนุษย์จะโกหกกันหมด พระองค์ก็ยังซื่อสัตย์ตลอดไป เหมือนกับที่พระคัมภีร์ ได้เขียนไว้ว่า “เมื่อพระองค์พูด ปรากฏว่าพระองค์ถูก และเมื่อศาลตัดสินคดีของพระองค์ พระองค์ก็จะชนะ”