Brand Logo
  • 圣经
  • 资源
  • 计划
  • 联系我们
  • APP下载
  • 圣经
  • 搜索
  • 原文研究
  • 逐节对照
我的
跟随系统浅色深色简体中文香港繁體台灣繁體English
奉献
5:20 TNCV
逐节对照
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - บทบัญญัติถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อที่การล่วงละเมิดจะมีมากขึ้น แต่ที่ใดมีบาปมากขึ้น พระคุณก็มีมากขึ้นยิ่งกว่านั้น
  • 新标点和合本 - 律法本是外添的,叫过犯显多;只是罪在哪里显多,恩典就更显多了。
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 而且加添了律法,使得过犯增加,只是罪在哪里增加,恩典就在哪里越发丰盛了。
  • 和合本2010(神版-简体) - 而且加添了律法,使得过犯增加,只是罪在哪里增加,恩典就在哪里越发丰盛了。
  • 当代译本 - 律法的颁布,使过犯更多地显出来,只是哪里的罪越多,哪里的恩典就越丰富。
  • 圣经新译本 - 律法的出现,是要叫过犯增多;然而罪在哪里增多,恩典就更加增多了。
  • 中文标准译本 - 律法出现,为要使过犯增多;可是,罪在哪里增多,恩典就在哪里格外增多。
  • 现代标点和合本 - 律法本是外添的,叫过犯显多;只是罪在哪里显多,恩典就更显多了。
  • 和合本(拼音版) - 律法本是外添的,叫过犯显多;只是罪在哪里显多,恩典就更显多了。
  • New International Version - The law was brought in so that the trespass might increase. But where sin increased, grace increased all the more,
  • New International Reader's Version - The law was given so that sin would increase. But where sin increased, God’s grace increased even more.
  • English Standard Version - Now the law came in to increase the trespass, but where sin increased, grace abounded all the more,
  • New Living Translation - God’s law was given so that all people could see how sinful they were. But as people sinned more and more, God’s wonderful grace became more abundant.
  • The Message - All that passing laws against sin did was produce more lawbreakers. But sin didn’t, and doesn’t, have a chance in competition with the aggressive forgiveness we call grace. When it’s sin versus grace, grace wins hands down. All sin can do is threaten us with death, and that’s the end of it. Grace, because God is putting everything together again through the Messiah, invites us into life—a life that goes on and on and on, world without end.
  • Christian Standard Bible - The law came along to multiply the trespass. But where sin multiplied, grace multiplied even more
  • New American Standard Bible - The Law came in so that the offense would increase; but where sin increased, grace abounded all the more,
  • New King James Version - Moreover the law entered that the offense might abound. But where sin abounded, grace abounded much more,
  • Amplified Bible - But the Law came to increase and expand [the awareness of] the trespass [by defining and unmasking sin]. But where sin increased, [God’s remarkable, gracious gift of] grace [His unmerited favor] has surpassed it and increased all the more,
  • American Standard Version - And the law came in besides, that the trespass might abound; but where sin abounded, grace did abound more exceedingly:
  • King James Version - Moreover the law entered, that the offence might abound. But where sin abounded, grace did much more abound:
  • New English Translation - Now the law came in so that the transgression may increase, but where sin increased, grace multiplied all the more,
  • World English Bible - The law came in that the trespass might abound; but where sin abounded, grace abounded more exceedingly;
  • 新標點和合本 - 律法本是外添的,叫過犯顯多;只是罪在哪裏顯多,恩典就更顯多了。
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 而且加添了律法,使得過犯增加,只是罪在哪裏增加,恩典就在哪裏越發豐盛了。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 而且加添了律法,使得過犯增加,只是罪在哪裏增加,恩典就在哪裏越發豐盛了。
  • 當代譯本 - 律法的頒佈,使過犯更多地顯出來,只是哪裡的罪越多,哪裡的恩典就越豐富。
  • 聖經新譯本 - 律法的出現,是要叫過犯增多;然而罪在哪裡增多,恩典就更加增多了。
  • 呂振中譯本 - 律法溜了進來,使過犯增多;但罪在哪裏增多,恩典也就在哪裏格外地滿溢;
  • 中文標準譯本 - 律法出現,為要使過犯增多;可是,罪在哪裡增多,恩典就在哪裡格外增多。
  • 現代標點和合本 - 律法本是外添的,叫過犯顯多;只是罪在哪裡顯多,恩典就更顯多了。
  • 文理和合譯本 - 且律既至、俾愆益增、罪既增、而恩愈洪矣、
  • 文理委辦譯本 - 律法立、而罪之多以顯、亦罪多、而恩之洪益彰、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 律法立、致罪增益、然罪增益之處、恩寵更裕、
  • 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 夫法之所至罪之所彰也;而罪之所彰、恩亦彌盛。
  • Nueva Versión Internacional - En lo que atañe a la ley, esta intervino para que aumentara la transgresión. Pero, allí donde abundó el pecado, sobreabundó la gracia,
  • 현대인의 성경 - 율법이 들어와서 범죄가 늘어나게 되었으나 죄가 늘어난 곳에는 은혜도 더욱 풍성하였습니다.
  • Новый Русский Перевод - Закон же пришел, чтобы умножилось преступление. Но там, где умножился грех, возникло и изобилие благодати,
  • Восточный перевод - Закон же пришёл, чтобы умножилось преступление. Но там, где умножился грех, возникло и изобилие благодати,
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Закон же пришёл, чтобы умножилось преступление. Но там, где умножился грех, возникло и изобилие благодати,
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Закон же пришёл, чтобы умножилось преступление. Но там, где умножился грех, возникло и изобилие благодати,
  • La Bible du Semeur 2015 - Quant à la Loi, elle est intervenue pour que le péché prolifère. Mais là où le péché a proliféré, la grâce a surabondé
  • リビングバイブル - 律法が与えられてから、すべての人は、自分がいかに神のおきてに従えない存在か、よくわかるようになりました。しかし、私たちは、自分の罪深さを知れば知るほど、赦してくださる神の満ちあふれる恵みが、いっそうわかるようになるのです。
  • Nestle Aland 28 - νόμος δὲ παρεισῆλθεν, ἵνα πλεονάσῃ τὸ παράπτωμα· οὗ δὲ ἐπλεόνασεν ἡ ἁμαρτία, ὑπερεπερίσσευσεν ἡ χάρις,
  • unfoldingWord® Greek New Testament - νόμος δὲ παρεισῆλθεν, ἵνα πλεονάσῃ τὸ παράπτωμα; οὗ δὲ ἐπλεόνασεν ἡ ἁμαρτία, ὑπερεπερίσσευσεν ἡ χάρις,
  • Nova Versão Internacional - A Lei foi introduzida para que a transgressão fosse ressaltada. Mas onde aumentou o pecado transbordou a graça,
  • Hoffnung für alle - Das Gesetz aber kam erst später hinzu. Es sollte das volle Ausmaß von Adams Verfehlung ans Licht bringen. Denn wo sich die ganze Macht der Sünde zeigte, da erwies sich auch Gottes Barmherzigkeit in ihrer ganzen Größe.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Luật pháp của Đức Chúa Trời vạch trần quá nhiều tội lỗi. Nhưng chúng ta càng nhận tội, ơn phước của Đức Chúa Trời càng gia tăng.
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เมื่อ​มี​กฎ​บัญญัติ​ขึ้น ผล​ที่​ตาม​มา​คือ​การ​ละเมิด​เพิ่ม​ขึ้น แต่​ที่​ใด​มี​บาป​เพิ่ม​ขึ้น ที่​นั้น​พระ​คุณ​ก็​มี​เพิ่ม​มาก​ยิ่ง​ขึ้น
交叉引用
  • 1ทิโมธี 1:13 - ถึงแม้ว่าครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยหมิ่นประมาทพระองค์ ข่มเหงผู้เชื่อและก่อความรุนแรง แต่พระองค์ทรงกรุณาข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้าได้ทำไปด้วยความไม่รู้และไม่เชื่อ
  • 1ทิโมธี 1:14 - พระคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้หลั่งลงมาแก่ข้าพเจ้าอย่างเหลือล้น พร้อมด้วยความเชื่อและความรักซึ่งอยู่ในพระเยซูคริสต์
  • 1ทิโมธี 1:15 - ข้อความนี้เป็นความจริงซึ่งสมควรแก่การยอมรับโดยไม่มีข้อกังขา คือพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในโลกเพื่อช่วยคนบาปให้รอด และในบรรดาคนบาปข้าพเจ้าเป็นตัวร้ายที่สุด
  • 1ทิโมธี 1:16 - แต่เนื่องด้วยเหตุนี้เองจึงทรงกรุณาข้าพเจ้าผู้เป็นตัวร้ายที่สุดในบรรดาคนบาป เพื่อพระเยซูคริสต์จะได้ทรงสำแดงความอดกลั้นพระทัยอันไม่จำกัดให้เป็นตัวอย่างแก่คนทั้งปวงที่จะเชื่อในพระองค์และรับชีวิตนิรันดร์
  • ลูกา 23:39 - อาชญากรคนหนึ่งที่ถูกตรึงอยู่ที่นั่นพูดสบประมาทพระองค์ว่า “เจ้าเป็นพระคริสต์ไม่ใช่หรือ? จงช่วยตนเองกับเราให้รอด!”
  • ลูกา 23:40 - แต่อีกคนตำหนิเขาว่า “เจ้าไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือในเมื่อเจ้าเองก็ต้องโทษสถานเดียวกัน?
  • ลูกา 23:41 - เราถูกลงโทษอย่างยุติธรรมเพราะเราได้รับสิ่งที่สมควรกับการกระทำของเราแล้ว แต่ท่านผู้นี้ไม่ได้ทำอะไรผิด”
  • ลูกา 23:42 - แล้วเขาทูลว่า “พระเยซูเจ้าข้า ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงเข้าสู่ราชอาณาจักรของพระองค์”
  • ลูกา 23:43 - พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า วันนี้ท่านจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม” ( มธ.27:45-56 ; มก.15:33-41 )
  • เยเรมีย์ 3:8 - เราจึงทำหนังสือหย่าขาดจากอิสราเอลผู้นอกใจและไล่นางไปเพราะการคบชู้ทั้งหมดของนาง แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ได้เห็นว่ายูดาห์น้องสาวผู้ไร้สัตย์ของนางไม่ขยาดกลัวเลย ยูดาห์เองก็ออกไปคบชู้ด้วย
  • เยเรมีย์ 3:9 - เพราะนางเห็นว่าความเสื่อมศีลธรรมของอิสราเอลเป็นเรื่องเล็กน้อย นางจึงทำให้แผ่นดินเป็นมลทิน และคบชู้โดยไปนมัสการรูปเคารพซึ่งทำจากไม้และหิน
  • เยเรมีย์ 3:10 - ถึงขนาดนี้แล้ว ยูดาห์น้องสาวผู้ไร้สัตย์ของนางก็ยังไม่หวนกลับมาหาเราอย่างสุดใจ มีแต่เสแสร้งแกล้งทำ” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
  • เยเรมีย์ 3:11 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอลผู้ไม่ซื่อก็ยังชอบธรรมกว่ายูดาห์ผู้ไร้สัตย์
  • เยเรมีย์ 3:12 - บัดนี้จงไปประกาศแก่พวกทางเหนือว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ‘อิสราเอลผู้ไม่ซื่อเอ๋ย กลับมาเถิด เราจะไม่หน้าบึ้งใส่เจ้าอีกต่อไป เพราะเราเปี่ยมด้วยเมตตา’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ ‘เราจะไม่โกรธขึ้งตลอดไป
  • เยเรมีย์ 3:13 - เพียงแต่เจ้ายอมรับผิด ว่าเจ้าได้กบฏต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เจ้าได้ปันใจให้พระต่างชาติทั้งหลาย ใต้ต้นไม้ใบดกทุกต้น และไม่ได้เชื่อฟังเรา’ ” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
  • เยเรมีย์ 3:14 - “หันกลับมาเถิด ประชากรที่ไม่ซื่อสัตย์” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “เพราะเราเป็นสามีของเจ้า เราจะเลือกสรรเจ้าคนหนึ่งจากเมืองหนึ่งและสองคนจากตระกูลหนึ่ง และจะนำเจ้ากลับมายังศิโยน
  • 2พงศาวดาร 33:9 - แต่มนัสเสห์กลับชักนำชาวยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มให้หลงผิดไป ทรงทำสิ่งที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าชนชาติต่างๆ ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำลายไปให้พ้นหน้าชนอิสราเอลเสียอีก
  • 2พงศาวดาร 33:10 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเตือนมนัสเสห์กับประชากร แต่พวกเขาไม่สนใจ
  • 2พงศาวดาร 33:11 - ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงส่งแม่ทัพของกษัตริย์อัสซีเรียมาสู้รบ และจับมนัสเสห์ไปเป็นเชลย เอาเบ็ดเกี่ยวจมูกของพระองค์ พันธนาการด้วยโซ่ตรวนทองสัมฤทธิ์ และคุมตัวไปยังบาบิโลน
  • 2พงศาวดาร 33:12 - ในความทุกข์ลำบาก มนัสเสห์ทรงถ่อมพระทัยลงอย่างยิ่งและทรงร้องขอความเมตตาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษ
  • 2พงศาวดาร 33:13 - เมื่อมนัสเสห์อธิษฐาน พระองค์ก็ทรงสดับฟังและทรงตอบคำทูลวิงวอนพระองค์ให้มนัสเสห์ได้กลับคืนสู่กรุงเยรูซาเล็มและราชอาณาจักรอีกครั้งหนึ่ง มนัสเสห์จึงทรงสำนึกว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า
  • มัทธิว 9:13 - จงไปศึกษาให้เข้าใจความหมายของข้อความที่ว่า ‘เราประสงค์ความเมตตา ไม่ใช่เครื่องบูชา’ เพราะเราไม่ได้มาเพื่อเรียกคนชอบธรรม แต่มาเพื่อเรียกคนบาป” ( มก.2:18-22 ; ลก.5:33-39 )
  • เอเสเคียล 16:52 - เจ้าจงทนรับความอับอายขายหน้าไป เพราะเจ้าทำให้พี่สาวน้องสาวของเจ้าดูดีกว่า เนื่องจากบาปของเจ้าชั่วช้าเลวทรามยิ่งกว่าของพวกเขา พวกเขาจึงดูเป็นฝ่ายชอบธรรม ฉะนั้นจงละอายแก่ใจและทนรับความอัปยศอดสูของเจ้าไปเถิด เพราะเจ้าทำให้พี่สาวน้องสาวของเจ้าดูชอบธรรม
  • ยอห์น 15:22 - หากเราไม่ได้มาบอกกล่าวแก่พวกเขา พวกเขาก็คงจะไม่มีความผิดบาป แต่บัดนี้พวกเขาไม่มีข้อแก้ตัวให้กับบาปของตนแล้ว
  • 2โครินธ์ 3:7 - ถ้าพันธกิจซึ่งนำความตายมา ที่จารึกด้วยตัวอักษรบนแผ่นศิลา ยังมากับรัศมี แม้รัศมีนี้จะจางหายไป แต่ก็เป็นเหตุทำให้ชนอิสราเอลไม่กล้ามองหน้าโมเสส
  • 2โครินธ์ 3:8 - แล้วพันธกิจแห่งพระวิญญาณจะไม่ยิ่งเปี่ยมด้วยรัศมีกว่านั้นหรือ?
  • 2โครินธ์ 3:9 - หากพันธกิจที่ตัดสินโทษมนุษย์ยังเปล่งรัศมี พันธกิจที่นำความชอบธรรมมาให้จะเปล่งรัศมีเจิดจ้ายิ่งกว่านั้นสักเท่าใด!
  • เอเสเคียล 36:25 - เราจะประพรมน้ำชำระลงบนเจ้า แล้วเจ้าจะสะอาด เราจะชำระล้างเจ้าจากมลทินโสโครกทั้งปวง และจากรูปเคารพทั้งปวงของเจ้า
  • เอเสเคียล 36:26 - เราจะให้จิตใจใหม่แก่เจ้าและใส่วิญญาณใหม่ในเจ้า เราจะขจัดใจหินออกจากเจ้าและให้เจ้ามีใจเนื้อ
  • เอเสเคียล 36:27 - เราจะใส่วิญญาณของเราไว้ในเจ้า โน้มนำเจ้าให้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา และใส่ใจรักษาบทบัญญัติของเรา
  • เอเสเคียล 36:28 - เจ้าจะเลี้ยงชีพอยู่ในดินแดนซึ่งเรายกให้บรรพบุรุษของเจ้า เจ้าจะเป็นประชากรของเราและเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า
  • เอเสเคียล 36:29 - เราจะช่วยเจ้าให้พ้นจากมลทินทั้งปวง เราจะระดมเมล็ดข้าวและทำให้มันอุดมสมบูรณ์ และจะไม่นำการกันดารอาหารมายังเจ้า
  • เอเสเคียล 36:30 - เราจะทวีผลของต้นหมากรากไม้และพืชพันธุ์ธัญญาหารเพื่อเจ้าจะไม่ต้องทนอับอายในหมู่ประชาชาติเพราะการกันดารอาหารอีกต่อไป
  • เอเสเคียล 36:31 - เมื่อนั้นเจ้าจะสำนึกในวิถีบาปและการประพฤติชั่วร้ายของตน เจ้าจะเกลียดตัวเองเพราะบาปและการกระทำอันน่าชิงชังต่างๆ
  • เอเสเคียล 36:32 - เราประสงค์ให้เจ้ารู้ว่า เราทำการนี้ไม่ใช่เพราะเห็นแก่เจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนี้ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย! จงอัปยศอดสูและละอายใจในความประพฤติของเจ้า
  • โรม 7:5 - เพราะเมื่อก่อนเราถูกวิสัยบาป ควบคุมอยู่จึงถูกบทบัญญัติกระตุ้นตัณหาชั่วให้ออกฤทธิ์ในกายของเรา เพื่อให้เราเกิดผลอันนำไปสู่ความตาย
  • โรม 7:6 - แต่บัดนี้โดยการตายต่อสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยผูกมัดเรา เราก็ได้รับการปลดปล่อยจากบทบัญญัติแล้ว เพื่อรับใช้ตามแนวทางใหม่คือตามพระวิญญาณ ไม่ใช่ตามแนวทางเดิมคือตามบทบัญญัติที่เป็นลายลักษณ์อักษร
  • โรม 7:7 - เช่นนี้แล้วเราจะว่าอย่างไร? บทบัญญัติคือบาปหรือ? ไม่ใช่อย่างแน่นอน! อันที่จริงถ้าไม่ใช่เพราะบทบัญญัติ ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่าอะไรคือบาป เพราะถ้าบทบัญญัติไม่ได้กล่าวว่า “อย่าโลภ” ข้าพเจ้าคงไม่รู้ว่าอะไรคือความโลภ
  • โรม 7:8 - แต่บาปฉวยโอกาสจากพระบัญญัติมาก่อความโลภทุกชนิดขึ้นในตัวข้าพเจ้า เพราะถ้าไม่มีบทบัญญัติ บาปก็ตายแล้ว
  • โรม 7:9 - ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าดำเนินชีวิตโดยไม่มีบทบัญญัติ แต่พอมีพระบัญญัติ บาปก็มีชีวิตขึ้นมาและข้าพเจ้าก็ตาย
  • โรม 7:10 - ข้าพเจ้าพบว่าพระบัญญัตินั้นเองที่มุ่งหมายให้นำชีวิตมาแท้จริงกลับนำความตายมา
  • โรม 7:11 - เพราะบาปฉวยโอกาสจากพระบัญญัติมาล่อลวงข้าพเจ้า และบาปทำให้ข้าพเจ้าตายโดยทางพระบัญญัตินั้น
  • โรม 7:12 - ดังนั้นแล้วบทบัญญัติจึงบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์และพระบัญญัติก็บริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ ชอบธรรม และดีงาม
  • โรม 7:13 - ก็แล้วสิ่งที่ดีงามกลับเป็นความตายสำหรับข้าพเจ้าหรือ? เปล่าเลย! แต่เพื่อให้รู้จักว่าบาปคือบาป บาปจึงก่อความตายขึ้นในข้าพเจ้าผ่านทางสิ่งที่ดี เพื่อว่าโดยทางพระบัญญัติจะได้เห็นว่าบาปนั้นเลวร้ายอย่างยิ่ง
  • เอเสเคียล 16:60 - ถึงกระนั้นเราก็จะระลึกถึงพันธสัญญาที่เราให้ไว้กับเจ้าเมื่อครั้งเจ้ายังเยาว์วัย และเราจะสถาปนาพันธสัญญานิรันดร์กับเจ้า
  • เอเสเคียล 16:61 - แล้วเจ้าจะระลึกถึงวิถีทางของเจ้าและละอายใจ เมื่อเรายกพี่สาวน้องสาวของเจ้าให้เป็นลูกสาวของเจ้า แต่ไม่ใช่ตามพันธสัญญาที่เราให้ไว้กับเจ้า
  • เอเสเคียล 16:62 - ดังนั้นเราจะสถาปนาพันธสัญญาของเราไว้กับเจ้า แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์
  • เอเสเคียล 16:63 - เมื่อนั้นเราจะลบล้างมลทินบาปให้เจ้าสำหรับทุกสิ่งที่เจ้าทำลงไป เจ้าจะจำได้และละอายใจ ไม่กล้าปริปากอีกเลยเนื่องจากความละอายของเจ้า’ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น”
  • เอเฟซัส 1:6 - เพื่อเป็นการสรรเสริญพระคุณสูงส่งซึ่งพระองค์ประทานให้เราเปล่าๆ อย่างเหลือล้นในพระองค์ผู้ทรงเป็นที่รักของพระเจ้า
  • เอเฟซัส 1:7 - ในพระเยซู เราได้รับการไถ่บาปโดยพระโลหิตของพระองค์ คือได้รับการอภัยโทษบาปตามพระคุณอันอุดมของพระเจ้า
  • เอเฟซัส 1:8 - ซึ่งพระองค์ได้ประทานแก่เราอย่างเหลือล้นด้วยสติปัญญาและความเข้าใจทั้งปวง
  • 1โครินธ์ 6:9 - ท่านไม่รู้หรือว่าคนชั่วจะไม่มีส่วนในอาณาจักรของพระเจ้า? อย่าหลงผิดเลย ไม่ว่าคนผิดศีลธรรมทางเพศ หรือคนกราบไหว้รูปเคารพ หรือคนคบชู้ หรือผู้ชายขายตัว หรือคนรักร่วมเพศ
  • 1โครินธ์ 6:10 - หรือขโมย หรือคนโลภ หรือคนขี้เมา หรือคนชอบนินทาว่าร้าย หรือคนฉ้อฉล จะไม่มีส่วนในอาณาจักรของพระเจ้า
  • 1โครินธ์ 6:11 - และพวกท่านบางคนเคยเป็นเช่นนั้น แต่ท่านได้รับการล้าง ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ และได้ถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้าและโดยพระวิญญาณของพระเจ้าของเรา
  • มีคาห์ 7:18 - ผู้ใดเป็นพระเจ้าเสมอเหมือนพระองค์ ผู้ทรงยกบาปและอภัยการล่วงละเมิดของชนหยิบมือที่เหลือ อันเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์? พระองค์ไม่ได้ทรงพระพิโรธอยู่เนืองนิตย์ แต่ทรงปีติยินดีที่จะแสดงพระเมตตา
  • มีคาห์ 7:19 - พระองค์จะทรงเอ็นดูสงสารเราอีก จะทรงเหยียบบาปทั้งหลายของเราไว้ใต้พระบาท และเหวี่ยงความชั่วช้าทั้งหมดของเราลงสู่ทะเลลึก
  • อิสยาห์ 43:24 - เจ้าไม่ได้ซื้อเครื่องหอมมาให้เรา ทั้งไม่ได้ทำให้เราพอใจด้วยไขมันเผาบูชา แต่เจ้าได้วางภาระเรื่องบาปของเจ้าแก่เรา และทำให้เราเอือมระอาด้วยการละเมิดทั้งหลายของเจ้า
  • อิสยาห์ 43:25 - “เรานี่แหละ คือผู้ที่ลบล้างการล่วงละเมิดของเจ้าเพื่อเห็นแก่เราเอง และจะไม่จดจำบาปของเจ้าอีกต่อไป
  • โรม 3:19 - เรารู้อยู่ว่าสิ่งใดๆ ที่บทบัญญัติกล่าวไว้ล้วนกล่าวแก่ผู้ที่อยู่ใต้บทบัญญัติ เพื่อปิดปากทุกคนไม่ให้มีข้อแก้ตัวและให้ทั้งโลกอยู่ภายใต้การพิพากษาของพระเจ้า
  • โรม 3:20 - ฉะนั้นไม่มีใครได้ชื่อว่าเป็นผู้ชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้าโดยการรักษาบทบัญญัติ บทบัญญัติเพียงแต่ทำให้เรารู้ตัวว่ามีบาป
  • อิสยาห์ 1:18 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “มาเถิด เรามาตกลงกัน แม้บาปของเจ้าจะเป็นสีแดงก่ำ ก็จะขาวสะอาดเหมือนหิมะ แม้บาปเหล่านั้นเป็นสีแดงเข้ม ก็จะขาวเหมือนสำลี
  • ยอห์น 10:10 - ขโมยนั้นมาเพียงเพื่อลัก ฆ่า และทำลาย เราได้มาเพื่อเขาทั้งหลายจะมีชีวิตและมีชีวิตอย่างครบบริบูรณ์
  • โรม 4:15 - เพราะบทบัญญัติย่อมนำพระพิโรธมาถึง และที่ใดไม่มีบทบัญญัติ ที่นั่นก็ไม่มีการล่วงละเมิด
  • เอเฟซัส 2:1 - ส่วนท่านทั้งหลายได้ตายแล้วในการล่วงละเมิดและในบาปทั้งหลาย
  • เอเฟซัส 2:2 - ซึ่งท่านเคยทำเมื่อดำเนินชีวิตตามวิถีของโลกนี้ และวิถีของเจ้าแห่งย่านฟ้าอากาศซึ่งเป็นวิญญาณที่บัดนี้ทำการอยู่ในบรรดาผู้ที่ไม่เชื่อฟัง
  • เอเฟซัส 2:3 - ครั้งหนึ่งเราเคยใช้ชีวิตร่วมกับพวกนั้นบำเรอตัณหาแห่งวิสัยบาปของเรา สนองความอยากกับความคิดของมันตามวิสัย เราจึงควรแก่พระพิโรธเหมือนคนอื่น
  • เอเฟซัส 2:4 - แต่เนื่องด้วยความรักใหญ่หลวงที่ทรงมีต่อเรา พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระเมตตาอันอุดม
  • เอเฟซัส 2:5 - จึงทรงให้เรามีชีวิตอยู่กับพระคริสต์แม้เมื่อเราได้ตายแล้วในบาป คือท่านทั้งหลายได้รับความรอดโดยพระคุณ
  • ลูกา 7:47 - เหตุฉะนั้นเราบอกท่านว่าบาปมากมายของนางได้รับการอภัยแล้วตามที่ได้เห็นจากความรักมากมายของนาง แต่ผู้ที่ได้รับการอภัยน้อยก็รักน้อย”
  • กาลาเทีย 3:19 - ถ้าเช่นนั้นบทบัญญัติมีไว้เพื่ออะไร? การที่มีบทบัญญัติเพิ่มขึ้นมาก็เพราะการล่วงละเมิดทั้งหลาย และบทบัญญัตินี้คงอยู่จนกว่า “พงศ์พันธุ์” นั้นซึ่งพระสัญญาระบุไว้มาถึง บทบัญญัติมีผลบังคับใช้ผ่านทางเหล่าทูตสวรรค์โดยคนกลาง
  • กาลาเทีย 3:20 - อย่างไรก็ตามคนกลางไม่ได้เป็นตัวแทนของฝ่ายเดียวเท่านั้น แต่พระเจ้าทรงเป็นฝ่ายเดียว
  • กาลาเทีย 3:21 - ถ้าเช่นนั้นบทบัญญัติขัดกับพระสัญญาของพระเจ้าหรือ? ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน! เพราะถ้าทรงให้มีบทบัญญัติซึ่งให้ชีวิต ความชอบธรรมย่อมมีได้โดยบทบัญญัติ
  • กาลาเทีย 3:22 - แต่พระคัมภีร์ประกาศว่าทั้งโลกตกเป็นนักโทษของบาป เพื่อว่าสิ่งที่ทรงสัญญาไว้นั้นจะประทานแก่บรรดาผู้เชื่อโดยทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์
  • กาลาเทีย 3:23 - ก่อนที่ความเชื่อนี้จะมีมา เราตกเป็นนักโทษของบทบัญญัติ ถูกกักขังไว้จนกว่าความเชื่อจะถูกเปิดเผย
  • กาลาเทีย 3:24 - ดังนั้นบทบัญญัติได้รับมอบหมายหน้าที่ให้นำเรามาถึงพระคริสต์ เพื่อเราจะได้ถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมโดยความเชื่อ
  • กาลาเทีย 3:25 - บัดนี้ความเชื่อนั้นมาถึงแล้ว เราจึงไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของบทบัญญัติอีกต่อไป
  • โรม 6:14 - เพราะบาปจะไม่เป็นนายของท่านอีกต่อไป ด้วยว่าท่านไม่ได้อยู่ใต้บทบัญญัติแต่อยู่ใต้พระคุณ
  • สดุดี 25:11 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โดยเห็นแก่พระนามของพระองค์ ขอทรงอภัยความชั่วช้าของข้าพระองค์เถิด แม้มันจะใหญ่หลวง
  • ทิตัส 3:3 - ครั้งหนึ่งเราเองก็โง่เขลา ไม่เชื่อฟัง หลงผิด ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหาและความสนุกบันเทิงทุกชนิด เราใช้ชีวิตแบบเลวร้าย อิจฉา เป็นที่ชิงชังและเกลียดชังกันและกัน
  • ทิตัส 3:4 - แต่เมื่อพระกรุณาและความรักของพระเจ้าองค์พระผู้ช่วยให้รอดของเราปรากฏ
  • ทิตัส 3:5 - พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดไม่ใช่เพราะความชอบธรรมที่เราได้ทำ แต่เพราะพระเมตตาของพระองค์ พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดผ่านทางการชำระแห่งการบังเกิดใหม่ และการทรงสร้างขึ้นใหม่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์
  • ทิตัส 3:6 - พระเจ้าทรงเทพระวิญญาณบริสุทธิ์นี้ลงมาบนเราอย่างล้นเหลือผ่านทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา
  • ทิตัส 3:7 - เพื่อว่าเมื่อเราถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมโดยพระคุณของพระองค์แล้ว เราก็จะกลายเป็นทายาท มีความหวังในชีวิตนิรันดร์
  • โรม 6:1 - เช่นนี้แล้วเราจะว่าอย่างไร? เราควรจะทำบาปต่อไปเพื่อพระคุณจะได้มีมากยิ่งขึ้นหรือ?
逐节对照交叉引用
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - บทบัญญัติถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อที่การล่วงละเมิดจะมีมากขึ้น แต่ที่ใดมีบาปมากขึ้น พระคุณก็มีมากขึ้นยิ่งกว่านั้น
  • 新标点和合本 - 律法本是外添的,叫过犯显多;只是罪在哪里显多,恩典就更显多了。
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 而且加添了律法,使得过犯增加,只是罪在哪里增加,恩典就在哪里越发丰盛了。
  • 和合本2010(神版-简体) - 而且加添了律法,使得过犯增加,只是罪在哪里增加,恩典就在哪里越发丰盛了。
  • 当代译本 - 律法的颁布,使过犯更多地显出来,只是哪里的罪越多,哪里的恩典就越丰富。
  • 圣经新译本 - 律法的出现,是要叫过犯增多;然而罪在哪里增多,恩典就更加增多了。
  • 中文标准译本 - 律法出现,为要使过犯增多;可是,罪在哪里增多,恩典就在哪里格外增多。
  • 现代标点和合本 - 律法本是外添的,叫过犯显多;只是罪在哪里显多,恩典就更显多了。
  • 和合本(拼音版) - 律法本是外添的,叫过犯显多;只是罪在哪里显多,恩典就更显多了。
  • New International Version - The law was brought in so that the trespass might increase. But where sin increased, grace increased all the more,
  • New International Reader's Version - The law was given so that sin would increase. But where sin increased, God’s grace increased even more.
  • English Standard Version - Now the law came in to increase the trespass, but where sin increased, grace abounded all the more,
  • New Living Translation - God’s law was given so that all people could see how sinful they were. But as people sinned more and more, God’s wonderful grace became more abundant.
  • The Message - All that passing laws against sin did was produce more lawbreakers. But sin didn’t, and doesn’t, have a chance in competition with the aggressive forgiveness we call grace. When it’s sin versus grace, grace wins hands down. All sin can do is threaten us with death, and that’s the end of it. Grace, because God is putting everything together again through the Messiah, invites us into life—a life that goes on and on and on, world without end.
  • Christian Standard Bible - The law came along to multiply the trespass. But where sin multiplied, grace multiplied even more
  • New American Standard Bible - The Law came in so that the offense would increase; but where sin increased, grace abounded all the more,
  • New King James Version - Moreover the law entered that the offense might abound. But where sin abounded, grace abounded much more,
  • Amplified Bible - But the Law came to increase and expand [the awareness of] the trespass [by defining and unmasking sin]. But where sin increased, [God’s remarkable, gracious gift of] grace [His unmerited favor] has surpassed it and increased all the more,
  • American Standard Version - And the law came in besides, that the trespass might abound; but where sin abounded, grace did abound more exceedingly:
  • King James Version - Moreover the law entered, that the offence might abound. But where sin abounded, grace did much more abound:
  • New English Translation - Now the law came in so that the transgression may increase, but where sin increased, grace multiplied all the more,
  • World English Bible - The law came in that the trespass might abound; but where sin abounded, grace abounded more exceedingly;
  • 新標點和合本 - 律法本是外添的,叫過犯顯多;只是罪在哪裏顯多,恩典就更顯多了。
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 而且加添了律法,使得過犯增加,只是罪在哪裏增加,恩典就在哪裏越發豐盛了。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 而且加添了律法,使得過犯增加,只是罪在哪裏增加,恩典就在哪裏越發豐盛了。
  • 當代譯本 - 律法的頒佈,使過犯更多地顯出來,只是哪裡的罪越多,哪裡的恩典就越豐富。
  • 聖經新譯本 - 律法的出現,是要叫過犯增多;然而罪在哪裡增多,恩典就更加增多了。
  • 呂振中譯本 - 律法溜了進來,使過犯增多;但罪在哪裏增多,恩典也就在哪裏格外地滿溢;
  • 中文標準譯本 - 律法出現,為要使過犯增多;可是,罪在哪裡增多,恩典就在哪裡格外增多。
  • 現代標點和合本 - 律法本是外添的,叫過犯顯多;只是罪在哪裡顯多,恩典就更顯多了。
  • 文理和合譯本 - 且律既至、俾愆益增、罪既增、而恩愈洪矣、
  • 文理委辦譯本 - 律法立、而罪之多以顯、亦罪多、而恩之洪益彰、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 律法立、致罪增益、然罪增益之處、恩寵更裕、
  • 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 夫法之所至罪之所彰也;而罪之所彰、恩亦彌盛。
  • Nueva Versión Internacional - En lo que atañe a la ley, esta intervino para que aumentara la transgresión. Pero, allí donde abundó el pecado, sobreabundó la gracia,
  • 현대인의 성경 - 율법이 들어와서 범죄가 늘어나게 되었으나 죄가 늘어난 곳에는 은혜도 더욱 풍성하였습니다.
  • Новый Русский Перевод - Закон же пришел, чтобы умножилось преступление. Но там, где умножился грех, возникло и изобилие благодати,
  • Восточный перевод - Закон же пришёл, чтобы умножилось преступление. Но там, где умножился грех, возникло и изобилие благодати,
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Закон же пришёл, чтобы умножилось преступление. Но там, где умножился грех, возникло и изобилие благодати,
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Закон же пришёл, чтобы умножилось преступление. Но там, где умножился грех, возникло и изобилие благодати,
  • La Bible du Semeur 2015 - Quant à la Loi, elle est intervenue pour que le péché prolifère. Mais là où le péché a proliféré, la grâce a surabondé
  • リビングバイブル - 律法が与えられてから、すべての人は、自分がいかに神のおきてに従えない存在か、よくわかるようになりました。しかし、私たちは、自分の罪深さを知れば知るほど、赦してくださる神の満ちあふれる恵みが、いっそうわかるようになるのです。
  • Nestle Aland 28 - νόμος δὲ παρεισῆλθεν, ἵνα πλεονάσῃ τὸ παράπτωμα· οὗ δὲ ἐπλεόνασεν ἡ ἁμαρτία, ὑπερεπερίσσευσεν ἡ χάρις,
  • unfoldingWord® Greek New Testament - νόμος δὲ παρεισῆλθεν, ἵνα πλεονάσῃ τὸ παράπτωμα; οὗ δὲ ἐπλεόνασεν ἡ ἁμαρτία, ὑπερεπερίσσευσεν ἡ χάρις,
  • Nova Versão Internacional - A Lei foi introduzida para que a transgressão fosse ressaltada. Mas onde aumentou o pecado transbordou a graça,
  • Hoffnung für alle - Das Gesetz aber kam erst später hinzu. Es sollte das volle Ausmaß von Adams Verfehlung ans Licht bringen. Denn wo sich die ganze Macht der Sünde zeigte, da erwies sich auch Gottes Barmherzigkeit in ihrer ganzen Größe.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Luật pháp của Đức Chúa Trời vạch trần quá nhiều tội lỗi. Nhưng chúng ta càng nhận tội, ơn phước của Đức Chúa Trời càng gia tăng.
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เมื่อ​มี​กฎ​บัญญัติ​ขึ้น ผล​ที่​ตาม​มา​คือ​การ​ละเมิด​เพิ่ม​ขึ้น แต่​ที่​ใด​มี​บาป​เพิ่ม​ขึ้น ที่​นั้น​พระ​คุณ​ก็​มี​เพิ่ม​มาก​ยิ่ง​ขึ้น
  • 1ทิโมธี 1:13 - ถึงแม้ว่าครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยหมิ่นประมาทพระองค์ ข่มเหงผู้เชื่อและก่อความรุนแรง แต่พระองค์ทรงกรุณาข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้าได้ทำไปด้วยความไม่รู้และไม่เชื่อ
  • 1ทิโมธี 1:14 - พระคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้หลั่งลงมาแก่ข้าพเจ้าอย่างเหลือล้น พร้อมด้วยความเชื่อและความรักซึ่งอยู่ในพระเยซูคริสต์
  • 1ทิโมธี 1:15 - ข้อความนี้เป็นความจริงซึ่งสมควรแก่การยอมรับโดยไม่มีข้อกังขา คือพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในโลกเพื่อช่วยคนบาปให้รอด และในบรรดาคนบาปข้าพเจ้าเป็นตัวร้ายที่สุด
  • 1ทิโมธี 1:16 - แต่เนื่องด้วยเหตุนี้เองจึงทรงกรุณาข้าพเจ้าผู้เป็นตัวร้ายที่สุดในบรรดาคนบาป เพื่อพระเยซูคริสต์จะได้ทรงสำแดงความอดกลั้นพระทัยอันไม่จำกัดให้เป็นตัวอย่างแก่คนทั้งปวงที่จะเชื่อในพระองค์และรับชีวิตนิรันดร์
  • ลูกา 23:39 - อาชญากรคนหนึ่งที่ถูกตรึงอยู่ที่นั่นพูดสบประมาทพระองค์ว่า “เจ้าเป็นพระคริสต์ไม่ใช่หรือ? จงช่วยตนเองกับเราให้รอด!”
  • ลูกา 23:40 - แต่อีกคนตำหนิเขาว่า “เจ้าไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือในเมื่อเจ้าเองก็ต้องโทษสถานเดียวกัน?
  • ลูกา 23:41 - เราถูกลงโทษอย่างยุติธรรมเพราะเราได้รับสิ่งที่สมควรกับการกระทำของเราแล้ว แต่ท่านผู้นี้ไม่ได้ทำอะไรผิด”
  • ลูกา 23:42 - แล้วเขาทูลว่า “พระเยซูเจ้าข้า ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงเข้าสู่ราชอาณาจักรของพระองค์”
  • ลูกา 23:43 - พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า วันนี้ท่านจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม” ( มธ.27:45-56 ; มก.15:33-41 )
  • เยเรมีย์ 3:8 - เราจึงทำหนังสือหย่าขาดจากอิสราเอลผู้นอกใจและไล่นางไปเพราะการคบชู้ทั้งหมดของนาง แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ได้เห็นว่ายูดาห์น้องสาวผู้ไร้สัตย์ของนางไม่ขยาดกลัวเลย ยูดาห์เองก็ออกไปคบชู้ด้วย
  • เยเรมีย์ 3:9 - เพราะนางเห็นว่าความเสื่อมศีลธรรมของอิสราเอลเป็นเรื่องเล็กน้อย นางจึงทำให้แผ่นดินเป็นมลทิน และคบชู้โดยไปนมัสการรูปเคารพซึ่งทำจากไม้และหิน
  • เยเรมีย์ 3:10 - ถึงขนาดนี้แล้ว ยูดาห์น้องสาวผู้ไร้สัตย์ของนางก็ยังไม่หวนกลับมาหาเราอย่างสุดใจ มีแต่เสแสร้งแกล้งทำ” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
  • เยเรมีย์ 3:11 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอลผู้ไม่ซื่อก็ยังชอบธรรมกว่ายูดาห์ผู้ไร้สัตย์
  • เยเรมีย์ 3:12 - บัดนี้จงไปประกาศแก่พวกทางเหนือว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ‘อิสราเอลผู้ไม่ซื่อเอ๋ย กลับมาเถิด เราจะไม่หน้าบึ้งใส่เจ้าอีกต่อไป เพราะเราเปี่ยมด้วยเมตตา’ องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ ‘เราจะไม่โกรธขึ้งตลอดไป
  • เยเรมีย์ 3:13 - เพียงแต่เจ้ายอมรับผิด ว่าเจ้าได้กบฏต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เจ้าได้ปันใจให้พระต่างชาติทั้งหลาย ใต้ต้นไม้ใบดกทุกต้น และไม่ได้เชื่อฟังเรา’ ” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
  • เยเรมีย์ 3:14 - “หันกลับมาเถิด ประชากรที่ไม่ซื่อสัตย์” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “เพราะเราเป็นสามีของเจ้า เราจะเลือกสรรเจ้าคนหนึ่งจากเมืองหนึ่งและสองคนจากตระกูลหนึ่ง และจะนำเจ้ากลับมายังศิโยน
  • 2พงศาวดาร 33:9 - แต่มนัสเสห์กลับชักนำชาวยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มให้หลงผิดไป ทรงทำสิ่งที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าชนชาติต่างๆ ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำลายไปให้พ้นหน้าชนอิสราเอลเสียอีก
  • 2พงศาวดาร 33:10 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเตือนมนัสเสห์กับประชากร แต่พวกเขาไม่สนใจ
  • 2พงศาวดาร 33:11 - ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงส่งแม่ทัพของกษัตริย์อัสซีเรียมาสู้รบ และจับมนัสเสห์ไปเป็นเชลย เอาเบ็ดเกี่ยวจมูกของพระองค์ พันธนาการด้วยโซ่ตรวนทองสัมฤทธิ์ และคุมตัวไปยังบาบิโลน
  • 2พงศาวดาร 33:12 - ในความทุกข์ลำบาก มนัสเสห์ทรงถ่อมพระทัยลงอย่างยิ่งและทรงร้องขอความเมตตาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษ
  • 2พงศาวดาร 33:13 - เมื่อมนัสเสห์อธิษฐาน พระองค์ก็ทรงสดับฟังและทรงตอบคำทูลวิงวอนพระองค์ให้มนัสเสห์ได้กลับคืนสู่กรุงเยรูซาเล็มและราชอาณาจักรอีกครั้งหนึ่ง มนัสเสห์จึงทรงสำนึกว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า
  • มัทธิว 9:13 - จงไปศึกษาให้เข้าใจความหมายของข้อความที่ว่า ‘เราประสงค์ความเมตตา ไม่ใช่เครื่องบูชา’ เพราะเราไม่ได้มาเพื่อเรียกคนชอบธรรม แต่มาเพื่อเรียกคนบาป” ( มก.2:18-22 ; ลก.5:33-39 )
  • เอเสเคียล 16:52 - เจ้าจงทนรับความอับอายขายหน้าไป เพราะเจ้าทำให้พี่สาวน้องสาวของเจ้าดูดีกว่า เนื่องจากบาปของเจ้าชั่วช้าเลวทรามยิ่งกว่าของพวกเขา พวกเขาจึงดูเป็นฝ่ายชอบธรรม ฉะนั้นจงละอายแก่ใจและทนรับความอัปยศอดสูของเจ้าไปเถิด เพราะเจ้าทำให้พี่สาวน้องสาวของเจ้าดูชอบธรรม
  • ยอห์น 15:22 - หากเราไม่ได้มาบอกกล่าวแก่พวกเขา พวกเขาก็คงจะไม่มีความผิดบาป แต่บัดนี้พวกเขาไม่มีข้อแก้ตัวให้กับบาปของตนแล้ว
  • 2โครินธ์ 3:7 - ถ้าพันธกิจซึ่งนำความตายมา ที่จารึกด้วยตัวอักษรบนแผ่นศิลา ยังมากับรัศมี แม้รัศมีนี้จะจางหายไป แต่ก็เป็นเหตุทำให้ชนอิสราเอลไม่กล้ามองหน้าโมเสส
  • 2โครินธ์ 3:8 - แล้วพันธกิจแห่งพระวิญญาณจะไม่ยิ่งเปี่ยมด้วยรัศมีกว่านั้นหรือ?
  • 2โครินธ์ 3:9 - หากพันธกิจที่ตัดสินโทษมนุษย์ยังเปล่งรัศมี พันธกิจที่นำความชอบธรรมมาให้จะเปล่งรัศมีเจิดจ้ายิ่งกว่านั้นสักเท่าใด!
  • เอเสเคียล 36:25 - เราจะประพรมน้ำชำระลงบนเจ้า แล้วเจ้าจะสะอาด เราจะชำระล้างเจ้าจากมลทินโสโครกทั้งปวง และจากรูปเคารพทั้งปวงของเจ้า
  • เอเสเคียล 36:26 - เราจะให้จิตใจใหม่แก่เจ้าและใส่วิญญาณใหม่ในเจ้า เราจะขจัดใจหินออกจากเจ้าและให้เจ้ามีใจเนื้อ
  • เอเสเคียล 36:27 - เราจะใส่วิญญาณของเราไว้ในเจ้า โน้มนำเจ้าให้ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา และใส่ใจรักษาบทบัญญัติของเรา
  • เอเสเคียล 36:28 - เจ้าจะเลี้ยงชีพอยู่ในดินแดนซึ่งเรายกให้บรรพบุรุษของเจ้า เจ้าจะเป็นประชากรของเราและเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า
  • เอเสเคียล 36:29 - เราจะช่วยเจ้าให้พ้นจากมลทินทั้งปวง เราจะระดมเมล็ดข้าวและทำให้มันอุดมสมบูรณ์ และจะไม่นำการกันดารอาหารมายังเจ้า
  • เอเสเคียล 36:30 - เราจะทวีผลของต้นหมากรากไม้และพืชพันธุ์ธัญญาหารเพื่อเจ้าจะไม่ต้องทนอับอายในหมู่ประชาชาติเพราะการกันดารอาหารอีกต่อไป
  • เอเสเคียล 36:31 - เมื่อนั้นเจ้าจะสำนึกในวิถีบาปและการประพฤติชั่วร้ายของตน เจ้าจะเกลียดตัวเองเพราะบาปและการกระทำอันน่าชิงชังต่างๆ
  • เอเสเคียล 36:32 - เราประสงค์ให้เจ้ารู้ว่า เราทำการนี้ไม่ใช่เพราะเห็นแก่เจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนี้ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย! จงอัปยศอดสูและละอายใจในความประพฤติของเจ้า
  • โรม 7:5 - เพราะเมื่อก่อนเราถูกวิสัยบาป ควบคุมอยู่จึงถูกบทบัญญัติกระตุ้นตัณหาชั่วให้ออกฤทธิ์ในกายของเรา เพื่อให้เราเกิดผลอันนำไปสู่ความตาย
  • โรม 7:6 - แต่บัดนี้โดยการตายต่อสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยผูกมัดเรา เราก็ได้รับการปลดปล่อยจากบทบัญญัติแล้ว เพื่อรับใช้ตามแนวทางใหม่คือตามพระวิญญาณ ไม่ใช่ตามแนวทางเดิมคือตามบทบัญญัติที่เป็นลายลักษณ์อักษร
  • โรม 7:7 - เช่นนี้แล้วเราจะว่าอย่างไร? บทบัญญัติคือบาปหรือ? ไม่ใช่อย่างแน่นอน! อันที่จริงถ้าไม่ใช่เพราะบทบัญญัติ ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่าอะไรคือบาป เพราะถ้าบทบัญญัติไม่ได้กล่าวว่า “อย่าโลภ” ข้าพเจ้าคงไม่รู้ว่าอะไรคือความโลภ
  • โรม 7:8 - แต่บาปฉวยโอกาสจากพระบัญญัติมาก่อความโลภทุกชนิดขึ้นในตัวข้าพเจ้า เพราะถ้าไม่มีบทบัญญัติ บาปก็ตายแล้ว
  • โรม 7:9 - ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าดำเนินชีวิตโดยไม่มีบทบัญญัติ แต่พอมีพระบัญญัติ บาปก็มีชีวิตขึ้นมาและข้าพเจ้าก็ตาย
  • โรม 7:10 - ข้าพเจ้าพบว่าพระบัญญัตินั้นเองที่มุ่งหมายให้นำชีวิตมาแท้จริงกลับนำความตายมา
  • โรม 7:11 - เพราะบาปฉวยโอกาสจากพระบัญญัติมาล่อลวงข้าพเจ้า และบาปทำให้ข้าพเจ้าตายโดยทางพระบัญญัตินั้น
  • โรม 7:12 - ดังนั้นแล้วบทบัญญัติจึงบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์และพระบัญญัติก็บริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ ชอบธรรม และดีงาม
  • โรม 7:13 - ก็แล้วสิ่งที่ดีงามกลับเป็นความตายสำหรับข้าพเจ้าหรือ? เปล่าเลย! แต่เพื่อให้รู้จักว่าบาปคือบาป บาปจึงก่อความตายขึ้นในข้าพเจ้าผ่านทางสิ่งที่ดี เพื่อว่าโดยทางพระบัญญัติจะได้เห็นว่าบาปนั้นเลวร้ายอย่างยิ่ง
  • เอเสเคียล 16:60 - ถึงกระนั้นเราก็จะระลึกถึงพันธสัญญาที่เราให้ไว้กับเจ้าเมื่อครั้งเจ้ายังเยาว์วัย และเราจะสถาปนาพันธสัญญานิรันดร์กับเจ้า
  • เอเสเคียล 16:61 - แล้วเจ้าจะระลึกถึงวิถีทางของเจ้าและละอายใจ เมื่อเรายกพี่สาวน้องสาวของเจ้าให้เป็นลูกสาวของเจ้า แต่ไม่ใช่ตามพันธสัญญาที่เราให้ไว้กับเจ้า
  • เอเสเคียล 16:62 - ดังนั้นเราจะสถาปนาพันธสัญญาของเราไว้กับเจ้า แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์
  • เอเสเคียล 16:63 - เมื่อนั้นเราจะลบล้างมลทินบาปให้เจ้าสำหรับทุกสิ่งที่เจ้าทำลงไป เจ้าจะจำได้และละอายใจ ไม่กล้าปริปากอีกเลยเนื่องจากความละอายของเจ้า’ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น”
  • เอเฟซัส 1:6 - เพื่อเป็นการสรรเสริญพระคุณสูงส่งซึ่งพระองค์ประทานให้เราเปล่าๆ อย่างเหลือล้นในพระองค์ผู้ทรงเป็นที่รักของพระเจ้า
  • เอเฟซัส 1:7 - ในพระเยซู เราได้รับการไถ่บาปโดยพระโลหิตของพระองค์ คือได้รับการอภัยโทษบาปตามพระคุณอันอุดมของพระเจ้า
  • เอเฟซัส 1:8 - ซึ่งพระองค์ได้ประทานแก่เราอย่างเหลือล้นด้วยสติปัญญาและความเข้าใจทั้งปวง
  • 1โครินธ์ 6:9 - ท่านไม่รู้หรือว่าคนชั่วจะไม่มีส่วนในอาณาจักรของพระเจ้า? อย่าหลงผิดเลย ไม่ว่าคนผิดศีลธรรมทางเพศ หรือคนกราบไหว้รูปเคารพ หรือคนคบชู้ หรือผู้ชายขายตัว หรือคนรักร่วมเพศ
  • 1โครินธ์ 6:10 - หรือขโมย หรือคนโลภ หรือคนขี้เมา หรือคนชอบนินทาว่าร้าย หรือคนฉ้อฉล จะไม่มีส่วนในอาณาจักรของพระเจ้า
  • 1โครินธ์ 6:11 - และพวกท่านบางคนเคยเป็นเช่นนั้น แต่ท่านได้รับการล้าง ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ และได้ถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้าและโดยพระวิญญาณของพระเจ้าของเรา
  • มีคาห์ 7:18 - ผู้ใดเป็นพระเจ้าเสมอเหมือนพระองค์ ผู้ทรงยกบาปและอภัยการล่วงละเมิดของชนหยิบมือที่เหลือ อันเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์? พระองค์ไม่ได้ทรงพระพิโรธอยู่เนืองนิตย์ แต่ทรงปีติยินดีที่จะแสดงพระเมตตา
  • มีคาห์ 7:19 - พระองค์จะทรงเอ็นดูสงสารเราอีก จะทรงเหยียบบาปทั้งหลายของเราไว้ใต้พระบาท และเหวี่ยงความชั่วช้าทั้งหมดของเราลงสู่ทะเลลึก
  • อิสยาห์ 43:24 - เจ้าไม่ได้ซื้อเครื่องหอมมาให้เรา ทั้งไม่ได้ทำให้เราพอใจด้วยไขมันเผาบูชา แต่เจ้าได้วางภาระเรื่องบาปของเจ้าแก่เรา และทำให้เราเอือมระอาด้วยการละเมิดทั้งหลายของเจ้า
  • อิสยาห์ 43:25 - “เรานี่แหละ คือผู้ที่ลบล้างการล่วงละเมิดของเจ้าเพื่อเห็นแก่เราเอง และจะไม่จดจำบาปของเจ้าอีกต่อไป
  • โรม 3:19 - เรารู้อยู่ว่าสิ่งใดๆ ที่บทบัญญัติกล่าวไว้ล้วนกล่าวแก่ผู้ที่อยู่ใต้บทบัญญัติ เพื่อปิดปากทุกคนไม่ให้มีข้อแก้ตัวและให้ทั้งโลกอยู่ภายใต้การพิพากษาของพระเจ้า
  • โรม 3:20 - ฉะนั้นไม่มีใครได้ชื่อว่าเป็นผู้ชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้าโดยการรักษาบทบัญญัติ บทบัญญัติเพียงแต่ทำให้เรารู้ตัวว่ามีบาป
  • อิสยาห์ 1:18 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “มาเถิด เรามาตกลงกัน แม้บาปของเจ้าจะเป็นสีแดงก่ำ ก็จะขาวสะอาดเหมือนหิมะ แม้บาปเหล่านั้นเป็นสีแดงเข้ม ก็จะขาวเหมือนสำลี
  • ยอห์น 10:10 - ขโมยนั้นมาเพียงเพื่อลัก ฆ่า และทำลาย เราได้มาเพื่อเขาทั้งหลายจะมีชีวิตและมีชีวิตอย่างครบบริบูรณ์
  • โรม 4:15 - เพราะบทบัญญัติย่อมนำพระพิโรธมาถึง และที่ใดไม่มีบทบัญญัติ ที่นั่นก็ไม่มีการล่วงละเมิด
  • เอเฟซัส 2:1 - ส่วนท่านทั้งหลายได้ตายแล้วในการล่วงละเมิดและในบาปทั้งหลาย
  • เอเฟซัส 2:2 - ซึ่งท่านเคยทำเมื่อดำเนินชีวิตตามวิถีของโลกนี้ และวิถีของเจ้าแห่งย่านฟ้าอากาศซึ่งเป็นวิญญาณที่บัดนี้ทำการอยู่ในบรรดาผู้ที่ไม่เชื่อฟัง
  • เอเฟซัส 2:3 - ครั้งหนึ่งเราเคยใช้ชีวิตร่วมกับพวกนั้นบำเรอตัณหาแห่งวิสัยบาปของเรา สนองความอยากกับความคิดของมันตามวิสัย เราจึงควรแก่พระพิโรธเหมือนคนอื่น
  • เอเฟซัส 2:4 - แต่เนื่องด้วยความรักใหญ่หลวงที่ทรงมีต่อเรา พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระเมตตาอันอุดม
  • เอเฟซัส 2:5 - จึงทรงให้เรามีชีวิตอยู่กับพระคริสต์แม้เมื่อเราได้ตายแล้วในบาป คือท่านทั้งหลายได้รับความรอดโดยพระคุณ
  • ลูกา 7:47 - เหตุฉะนั้นเราบอกท่านว่าบาปมากมายของนางได้รับการอภัยแล้วตามที่ได้เห็นจากความรักมากมายของนาง แต่ผู้ที่ได้รับการอภัยน้อยก็รักน้อย”
  • กาลาเทีย 3:19 - ถ้าเช่นนั้นบทบัญญัติมีไว้เพื่ออะไร? การที่มีบทบัญญัติเพิ่มขึ้นมาก็เพราะการล่วงละเมิดทั้งหลาย และบทบัญญัตินี้คงอยู่จนกว่า “พงศ์พันธุ์” นั้นซึ่งพระสัญญาระบุไว้มาถึง บทบัญญัติมีผลบังคับใช้ผ่านทางเหล่าทูตสวรรค์โดยคนกลาง
  • กาลาเทีย 3:20 - อย่างไรก็ตามคนกลางไม่ได้เป็นตัวแทนของฝ่ายเดียวเท่านั้น แต่พระเจ้าทรงเป็นฝ่ายเดียว
  • กาลาเทีย 3:21 - ถ้าเช่นนั้นบทบัญญัติขัดกับพระสัญญาของพระเจ้าหรือ? ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน! เพราะถ้าทรงให้มีบทบัญญัติซึ่งให้ชีวิต ความชอบธรรมย่อมมีได้โดยบทบัญญัติ
  • กาลาเทีย 3:22 - แต่พระคัมภีร์ประกาศว่าทั้งโลกตกเป็นนักโทษของบาป เพื่อว่าสิ่งที่ทรงสัญญาไว้นั้นจะประทานแก่บรรดาผู้เชื่อโดยทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์
  • กาลาเทีย 3:23 - ก่อนที่ความเชื่อนี้จะมีมา เราตกเป็นนักโทษของบทบัญญัติ ถูกกักขังไว้จนกว่าความเชื่อจะถูกเปิดเผย
  • กาลาเทีย 3:24 - ดังนั้นบทบัญญัติได้รับมอบหมายหน้าที่ให้นำเรามาถึงพระคริสต์ เพื่อเราจะได้ถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมโดยความเชื่อ
  • กาลาเทีย 3:25 - บัดนี้ความเชื่อนั้นมาถึงแล้ว เราจึงไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของบทบัญญัติอีกต่อไป
  • โรม 6:14 - เพราะบาปจะไม่เป็นนายของท่านอีกต่อไป ด้วยว่าท่านไม่ได้อยู่ใต้บทบัญญัติแต่อยู่ใต้พระคุณ
  • สดุดี 25:11 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โดยเห็นแก่พระนามของพระองค์ ขอทรงอภัยความชั่วช้าของข้าพระองค์เถิด แม้มันจะใหญ่หลวง
  • ทิตัส 3:3 - ครั้งหนึ่งเราเองก็โง่เขลา ไม่เชื่อฟัง หลงผิด ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหาและความสนุกบันเทิงทุกชนิด เราใช้ชีวิตแบบเลวร้าย อิจฉา เป็นที่ชิงชังและเกลียดชังกันและกัน
  • ทิตัส 3:4 - แต่เมื่อพระกรุณาและความรักของพระเจ้าองค์พระผู้ช่วยให้รอดของเราปรากฏ
  • ทิตัส 3:5 - พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดไม่ใช่เพราะความชอบธรรมที่เราได้ทำ แต่เพราะพระเมตตาของพระองค์ พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดผ่านทางการชำระแห่งการบังเกิดใหม่ และการทรงสร้างขึ้นใหม่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์
  • ทิตัส 3:6 - พระเจ้าทรงเทพระวิญญาณบริสุทธิ์นี้ลงมาบนเราอย่างล้นเหลือผ่านทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา
  • ทิตัส 3:7 - เพื่อว่าเมื่อเราถูกนับเป็นผู้ชอบธรรมโดยพระคุณของพระองค์แล้ว เราก็จะกลายเป็นทายาท มีความหวังในชีวิตนิรันดร์
  • โรม 6:1 - เช่นนี้แล้วเราจะว่าอย่างไร? เราควรจะทำบาปต่อไปเพื่อพระคุณจะได้มีมากยิ่งขึ้นหรือ?
圣经
资源
计划
奉献