逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - เพราะพวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานในการรับใช้พระเจ้า พวกคุณเป็นไร่นาของพระเจ้า และตึกของพระเจ้า
- 新标点和合本 - 因为我们是与 神同工的;你们是 神所耕种的田地,所建造的房屋。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 因为我们是上帝的同工,而你们是上帝的田地、上帝的房屋。
- 和合本2010(神版-简体) - 因为我们是 神的同工,而你们是 神的田地、 神的房屋。
- 当代译本 - 因为我们是上帝的同工,你们是上帝的园地和建筑。
- 圣经新译本 - 我们是 神的同工,你们是 神的田地, 神的房屋。
- 中文标准译本 - 实际上,我们是神的同工;你们是神的田地,是神的建筑物。
- 现代标点和合本 - 因为我们是与神同工的,你们是神所耕种的田地,所建造的房屋。
- 和合本(拼音版) - 因为我们是与上帝同工的;你们是上帝所耕种的田地,所建造的房屋。
- New International Version - For we are co-workers in God’s service; you are God’s field, God’s building.
- New International Reader's Version - We work together to serve God. You are like God’s field. You are like his building.
- English Standard Version - For we are God’s fellow workers. You are God’s field, God’s building.
- New Living Translation - For we are both God’s workers. And you are God’s field. You are God’s building.
- The Message - Or, to put it another way, you are God’s house. Using the gift God gave me as a good architect, I designed blueprints; Apollos is putting up the walls. Let each carpenter who comes on the job take care to build on the foundation! Remember, there is only one foundation, the one already laid: Jesus Christ. Take particular care in picking out your building materials. Eventually there is going to be an inspection. If you use cheap or inferior materials, you’ll be found out. The inspection will be thorough and rigorous. You won’t get by with a thing. If your work passes inspection, fine; if it doesn’t, your part of the building will be torn out and started over. But you won’t be torn out; you’ll survive—but just barely.
- Christian Standard Bible - For we are God’s coworkers. You are God’s field, God’s building.
- New American Standard Bible - For we are God’s fellow workers; you are God’s field, God’s building.
- New King James Version - For we are God’s fellow workers; you are God’s field, you are God’s building.
- Amplified Bible - For we are God’s fellow workers [His servants working together]; you are God’s cultivated field [His garden, His vineyard], God’s building.
- American Standard Version - For we are God’s fellow-workers: ye are God’s husbandry, God’s building.
- King James Version - For we are labourers together with God: ye are God's husbandry, ye are God's building.
- New English Translation - We are coworkers belonging to God. You are God’s field, God’s building.
- World English Bible - For we are God’s fellow workers. You are God’s farming, God’s building.
- 新標點和合本 - 因為我們是與神同工的;你們是神所耕種的田地,所建造的房屋。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 因為我們是上帝的同工,而你們是上帝的田地、上帝的房屋。
- 和合本2010(神版-繁體) - 因為我們是 神的同工,而你們是 神的田地、 神的房屋。
- 當代譯本 - 因為我們是上帝的同工,你們是上帝的園地和建築。
- 聖經新譯本 - 我們是 神的同工,你們是 神的田地, 神的房屋。
- 呂振中譯本 - 我們是上帝之同工,你們乃是上帝之耕地、上帝之建築物。
- 中文標準譯本 - 實際上,我們是神的同工;你們是神的田地,是神的建築物。
- 現代標點和合本 - 因為我們是與神同工的,你們是神所耕種的田地,所建造的房屋。
- 文理和合譯本 - 蓋我儕乃上帝同勞者、爾曹為上帝之田、上帝之室、○
- 文理委辦譯本 - 吾儕為上帝僕而同勞、爾曹乃上帝之稼穡、上帝所經營也、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 我儕與天主為同工者、爾乃天主所耕之田、天主所建之室、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 吾儕乃天主所假之手、爾等則為天主之田園、天主之第宅也。
- Nueva Versión Internacional - En efecto, nosotros somos colaboradores al servicio de Dios; y ustedes son el campo de cultivo de Dios, son el edificio de Dios.
- 현대인의 성경 - 우리는 하나님의 일을 하는 동역자들이요 여러분은 하나님의 밭이며 건물입니다.
- Новый Русский Перевод - Ведь мы сотрудники у Бога, а вы – Его поле, Его строение.
- Восточный перевод - Ведь мы сотрудники у Всевышнего, а вы – Его поле, Его строение.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Ведь мы сотрудники у Аллаха, а вы – Его поле, Его строение.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Ведь мы сотрудники у Всевышнего, а вы – Его поле, Его строение.
- La Bible du Semeur 2015 - Car nous travaillons ensemble au service de Dieu, et vous, vous êtes le champ qu’il cultive. Ou encore : vous êtes l’édifice qu’il construit.
- リビングバイブル - 私たちは神の協力者にすぎません。あなたがたは私たちの畑ではなく、神の畑です。私たちの建物ではなく、神の建物です。
- Nestle Aland 28 - θεοῦ γάρ ἐσμεν συνεργοί, θεοῦ γεώργιον, θεοῦ οἰκοδομή ἐστε.
- unfoldingWord® Greek New Testament - Θεοῦ γάρ ἐσμεν συνεργοί; Θεοῦ γεώργιον, Θεοῦ οἰκοδομή ἐστε.
- Nova Versão Internacional - Pois nós somos cooperadores de Deus; vocês são lavoura de Deus e edifício de Deus.
- Hoffnung für alle - Wir sind Gottes Mitarbeiter, ihr aber seid Gottes Ackerland und sein Bauwerk.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chúng tôi là bạn đồng sự phục vụ Đức Chúa Trời, còn anh chị em là ruộng, là nhà của Ngài.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ด้วยว่าเราเป็นผู้ร่วมงานกับพระเจ้า ท่านทั้งหลายเป็นไร่นาของพระเจ้า เป็นตึกของพระเจ้า
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เพราะเราเป็นผู้ร่วมงานของพระเจ้า ท่านเป็นไร่นาและเป็นเรือนของพระเจ้า
- Thai KJV - เพราะว่าเราทั้งหลายเป็นผู้ร่วมทำการด้วยกันกับพระเจ้า ท่านทั้งหลายเป็นไร่นาของพระเจ้า และเป็นตึกของพระเจ้า
交叉引用
- มัทธิว 20:1 - อาณาจักรแห่งสวรรค์เปรียบเหมือนกับเจ้าของสวนคนหนึ่ง ที่ออกจากบ้านไปแต่เช้าตรู่ เพื่อไปจ้างคนงานมาทำงานในสวนองุ่นของเขา
- มัทธิว 20:2 - เขาตกลงที่จะจ่ายค่าแรงหนึ่งเหรียญเงิน ต่อวัน เขาก็ส่งพวกคนงานเข้าไปทำงานในสวนองุ่น
- มัทธิว 20:3 - ประมาณเก้าโมงเช้า เจ้าของสวนเข้าไปที่ตลาดอีก และเห็นบางคนยืนอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไร
- มัทธิว 20:4 - เขาพูดว่า ‘ถ้าพวกเจ้าไปทำงานในสวนองุ่นของข้า ข้าจะให้ค่าจ้างอย่างยุติธรรม’
- มัทธิว 20:5 - คนพวกนั้นตกลงไป และเจ้าของสวนได้ออกไปอีกตอนประมาณเที่ยงและบ่ายสามโมง แล้วทำเหมือนเดิม
- มัทธิว 20:6 - ประมาณห้าโมงเย็น เจ้าของสวนออกไปตลาดอีกครั้งหนึ่ง และเห็นบางคนยืนอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไร เขาเข้าไปถามว่า ‘ทำไมพวกเจ้าถึงยืนอยู่เฉยๆทั้งวันแบบนี้’
- มัทธิว 20:7 - คนเหล่านั้นตอบว่า ‘ไม่มีใครจ้างพวกเรา’ เจ้าของสวนก็เลยชวนว่า ‘ไปทำงานที่สวนองุ่นของข้าสิ’
- มัทธิว 20:8 - เย็นวันนั้นเจ้าของสวนสั่งหัวหน้าคนงานว่า ‘ไปเรียกคนงานมา แล้วจ่ายค่าแรงให้พวกเขา จ่ายคนที่เพิ่งมาทำทีหลังนี้ก่อน แล้วค่อยๆจ่ายไปจนถึงคนแรก’
- มัทธิว 20:9 - คนงานที่เพิ่งจ้างมาตอนห้าโมงเย็นได้ค่าแรงไปคนละหนึ่งเหรียญเงิน
- มัทธิว 20:10 - แล้วพวกคนงานที่จ้างมาก่อนก็เข้ามารับค่าแรง เขาคิดว่าจะได้มากกว่าคนอื่นๆแต่กลับได้แค่คนละหนึ่งเหรียญเงินเท่ากัน
- มัทธิว 20:11 - เมื่อรับค่าแรงแล้ว พวกเขาก็ไปต่อว่าเจ้าของสวนว่า
- มัทธิว 20:12 - ‘พวกนั้นทำงานแค่ชั่วโมงเดียว แต่นายจ่ายค่าแรงให้เท่ากับพวกเราที่ทำงานกลางแดดร้อนๆมาทั้งวัน’
- มัทธิว 20:13 - เจ้าของไร่ตอบคนหนึ่งไปว่า ‘เพื่อนเอ๋ย ข้าไม่ได้โกงเจ้านะ เจ้าตกลงค่าแรงไว้หนึ่งเหรียญเงินไม่ใช่หรือ
- มัทธิว 20:14 - รับค่าแรงของเจ้าแล้วไปซะ ข้าพอใจจะจ่ายคนที่ข้าจ้างมาหลังสุดเท่ากับที่ข้าจ่ายเจ้า
- 3 ยอห์น 1:8 - ดังนั้นพวกเราจึงควรจะช่วยเหลือคนเช่นนี้ เพื่อจะได้ร่วมมือกับพวกเขาในการเผยแพร่ความจริงด้วย
- เอเฟซัส 2:10 - เพราะเราเป็นผลงานของพระเจ้าที่พระองค์สร้างผ่านมาทางพระเยซูคริสต์ เพื่อให้เราทำสิ่งดีๆที่พระเจ้าได้เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วให้เราทำ
- สดุดี 72:16 - ขอให้มีต้นข้าวขึ้นอุดมและชูรวงไหวพลิ้วไปมาแม้บนยอดเขา ขอให้ผลไม้งอกงามดุจดังป่าแห่งเลบานอน ขอให้ผู้คนบานสะพรั่งเต็มเมืองเหมือนกับหญ้าในท้องทุ่ง
- เยเรมียาห์ 2:21 - แต่เราปลูกเจ้าขึ้นมาเหมือนเถาองุ่นอย่างดีจากเมล็ดที่ดีที่สุดที่มีอยู่ แล้วนี่เจ้ากลายพันธุ์ไปเป็นองุ่นป่าได้ยังไงกัน
- ฮีบรู 3:6 - แต่พระคริสต์นั้นซื่อสัตย์ในฐานะที่เป็นบุตรที่อยู่เหนือครัวเรือนของพระเจ้า แล้วเรานั่นแหละคือครัวเรือนของพระองค์ ถ้าหากเรายังยึดมั่นในความกล้าหาญและในความภาคภูมิใจของเราที่เกิดจากความหวังที่เรามีอยู่นั้น
- สดุดี 118:22 - ก้อนหินที่พวกผู้ก่อสร้างโยนทิ้งไป ตอนนี้กลายเป็นหินหัวมุมไปเสียแล้ว
- อิสยาห์ 5:1 - ตอนนี้ผมขอร้องเพลงหนึ่งให้กับเพื่อนของผม เป็นเพลงเกี่ยวกับเขาและสวนองุ่นของเขา เพื่อนของผมมีสวนองุ่นบนเนินเขาที่อุดมสมบูรณ์มาก
- อิสยาห์ 5:2 - เขาเตรียมดินและโยนก้อนหินออกไปจนหมด แล้วเขาก็ปลูกต้นองุ่นคุณภาพดีเลิศลงไปที่นั่น เขาได้สร้างหอคอยเฝ้ามองกลางสวนนั้น และเขาขุดบ่อย่ำองุ่นไว้ด้วย เขาคาดหวังว่าสวนนี้จะออกลูกองุ่นรสดี แต่มันกลับออกผลองุ่นเปรี้ยวมา
- อิสยาห์ 5:3 - ดังนั้นเพื่อนคนนี้จึงพูดว่า “ตอนนี้ พวกเจ้าที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็มและพวกเจ้าคนยูดาห์ ให้ตัดสินเอาระหว่างเรากับสวนองุ่นของเรา
- อิสยาห์ 5:4 - มีอะไรอีกหรือที่เราควรจะทำกับสวนองุ่นของเราแต่ยังไม่ได้ทำ เราคาดหวังว่ามันจะออกลูกองุ่นรสดีแต่ทำไมมันกลับออกลูกเปรี้ยว
- อิสยาห์ 5:5 - ตอนนี้เราจะบอกพวกเจ้าว่าเราจะจัดการยังไงกับสวนองุ่นนี้ของเรา เราจะรื้อรั้วพุ่มหนามออก สวนนี้จะถูกทำลายไป เราจะรื้อกำแพงหินลง สวนนี้ก็จะได้ถูกเหยียบย่ำ
- อิสยาห์ 5:6 - เราจะให้มันเป็นที่ดินรกร้าง จะไม่มีใครตัดแต่งกิ่งหรือพรวนดิน จะมีทั้งหญ้าคาและหนามขึ้นเต็มไปหมด และเราจะสั่งก้อนเมฆว่าอย่าปล่อยให้มีน้ำฝนตกลงมาบนมัน”
- อิสยาห์ 5:7 - สวนองุ่นของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นนี้ ก็คือครอบครัวอิสราเอลนั่นเอง ส่วนต้นองุ่น ที่พระองค์รักนี้ก็คือคนยูดาห์ พระองค์เฝ้ามองหาความยุติธรรมกลับเห็นแต่การนองเลือด พระองค์เฝ้ามองหาการใช้ชีวิตที่ถูกต้องกลับได้ยินแต่เสียงร้องให้ช่วย
- มัทธิว 13:36 - พระเยซูจากฝูงชนมา แล้วเข้าไปในบ้าน พวกศิษย์เข้ามาบอกพระองค์ว่า “ช่วยอธิบายเรื่องต้นวัชพืชในนานั้นให้หน่อยครับ”
- มัทธิว 13:37 - พระองค์ตอบว่า “คนที่หว่านเมล็ดพืชพันธุ์ดีคือ บุตรมนุษย์
- มัทธิว 13:38 - ไร่นาคือโลกนี้ เมล็ดพืชพันธุ์ดีคือคนของอาณาจักรของพระเจ้า ต้นวัชพืชคือคนของมารร้าย
- มัทธิว 13:39 - ศัตรูที่เข้ามาหว่านวัชพืชคือมารร้าย ฤดูเก็บเกี่ยวคือวันสิ้นยุค และพวกคนงานที่เก็บเกี่ยวก็คือพวกทูตสวรรค์
- มัทธิว 13:40 - ต้นวัชพืชถูกถอนไปเผาไฟอย่างไร เมื่อวันสิ้นยุคมาถึงก็จะเป็นอย่างนั้น
- มัทธิว 13:41 - บุตรมนุษย์จะส่งทูตสวรรค์ของพระองค์ออกไปรวบรวมทุกอย่างที่ทำให้คนทำบาปและคนที่ทำชั่ว ให้ออกไปจากอาณาจักรของพระองค์
- มัทธิว 13:42 - ทูตสวรรค์จะเอาคนพวกนี้ ไปโยนลงในเตาไฟที่ร้อนแรง ที่มีแต่เสียงร้องไห้โหยหวนอย่างเจ็บปวด
- ฮีบรู 3:3 - จะเห็นว่าพระเยซูนั้นสมควรที่จะได้รับเกียรติมากกว่าโมเสสเสียอีก เหมือนกับคนที่สร้างบ้านได้รับเกียรติมากกว่าตัวบ้านเอง
- ฮีบรู 3:4 - แน่นอน บ้านทุกหลังจะต้องมีคนสร้าง แต่พระเจ้าเป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง
- อิสยาห์ 61:5 - คนต่างชาติก็จะยืนเฝ้าเลี้ยงดูฝูงแพะแกะของเจ้า และคนต่างชาติพวกนี้ก็จะทำงานในทุ่งนาและในสวนองุ่นของเจ้า
- อาโมส 9:11 - ในวันนั้น เราก็จะตั้งเต็นท์ของดาวิดที่ล้มไปแล้วขึ้นมาใหม่ เราก็จะซ่อมแซมช่องกำแพงที่แตกร้าว เราจะซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย และสร้างมันขึ้นมาใหม่ให้เหมือนกับในอดีต
- อาโมส 9:12 - เพื่อที่ว่าคนอิสราเอลก็จะได้ยึดครองส่วนที่เหลือของประเทศเอโดม และชนชาติทั้งหลายที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของเรา” พระยาห์เวห์ ผู้ที่จะทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นพูดไว้อย่างนั้น
- อิสยาห์ 32:20 - แต่พวกเจ้าจะมีเกียรติขึ้นและจะได้หว่านเมล็ดพืชไว้ข้างๆลำธารทุกสาย และปล่อยวัวปล่อยลาให้เดินหากินไปมาอย่างอิสระ
- อิสยาห์ 27:2 - ในเวลานั้นจะมีสวนองุ่นที่น่าชื่นชมอยู่สวนหนึ่ง ให้ร้องเพลงเกี่ยวกับสวนองุ่นนั้นกันเถอะ
- อิสยาห์ 27:3 - “เรา ยาห์เวห์ เป็นคนเฝ้าดูแลมันเอง เรารดน้ำมันสม่ำเสมอ เราเฝ้ามันทั้งวันทั้งคืน เพื่อจะได้ไม่มีใครมาทำร้ายมัน
- มัทธิว 13:18 - ฟังให้ดี นี่คือความหมายของเรื่องชาวนาที่หว่านเมล็ดพืช
- มัทธิว 13:19 - เมล็ดพืชที่ตกตามถนนหนทาง คือคนที่ฟังเรื่องอาณาจักรของพระเจ้าแต่ไม่เข้าใจ มารร้ายก็มาฉกฉวยเอาพืชที่หว่านอยู่ในใจของเขาไป
- มัทธิว 13:20 - เมล็ดพืชที่ตกบนดินตื้นๆที่มีหินอยู่ข้างล่าง คือคนที่เมื่อได้ยินถ้อยคำแล้ว ก็รีบรับไว้ทันทีและมีความสุขทีเดียว
- มัทธิว 13:21 - แต่ถ้อยคำไม่ได้ฝังลึกเข้าไปในจิตใจ จึงอยู่ได้ไม่นาน เมื่อเกิดเรื่องทุกข์ร้อนหรือถูกข่มเหงรังแกเพราะถ้อยคำนั้น ก็รีบทิ้งถ้อยคำนั้นทันที
- มัทธิว 13:22 - เมล็ดพืชที่ตกลงในพงหนามนั้น คือคนที่ฟังถ้อยคำ แต่ยังเป็นห่วงกังวลเกี่ยวกับชีวิตในโลกนี้ และหลงไหลในทรัพย์สมบัติ สิ่งเหล่านี้มาคลุมถ้อยคำไว้ เลยไม่เกิดผล
- มัทธิว 13:23 - ส่วนเมล็ดพืชที่ตกลงในดินดีนั้น คือคนที่ได้ฟังถ้อยคำแล้วเข้าใจ จึงเกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง”
- มัทธิว 13:24 - พระเยซูเล่าเรื่องเปรียบเทียบอีกเรื่องหนึ่งให้ฟังว่า “อาณาจักรแห่งสวรรค์ เปรียบเหมือนกับคนที่หว่านเมล็ดพันธุ์ดีในนาของเขา
- มัทธิว 13:25 - แต่ในคืนนั้น เมื่อทุกคนหลับหมด ศัตรูของเขาได้เข้ามาหว่านเมล็ดวัชพืชลงไปในนาข้าวสาลี แล้วก็ไป
- มัทธิว 13:26 - เมื่อต้นข้าวสาลีออกรวง ต้นวัชพืชก็งอกงามขึ้นมาด้วย
- มัทธิว 13:27 - พวกคนใช้มาถามเขาว่า ‘นายครับ นายหว่านเมล็ดพันธุ์ดีลงไปในนานี่ครับ แล้วต้นวัชพืชโผล่มาได้อย่างไรครับ’
- มัทธิว 13:28 - เขาตอบไปว่า ‘เป็นฝีมือของศัตรู’ คนใช้ถามต่อว่า ‘นายจะให้พวกเราไปถอนต้นวัชพืชทิ้งไหมครับ’
- มัทธิว 13:29 - เขาตอบว่า ‘ไม่ต้องหรอก เพราะกลัวว่าจะถอนข้าวสาลีติดไปกับต้นวัชพืชด้วย
- มัทธิว 13:30 - ปล่อยให้มันเติบโตไปด้วยกันจนถึงฤดูเก็บเกี่ยว แล้วข้าจะสั่งให้คนงานเก็บต้นวัชพืชก่อน แล้วมัดเข้าด้วยกัน เอาไปเผาไฟ แล้วจึงค่อยมาเก็บข้าวสาลีไปไว้ในยุ้งฉางของข้า’”
- อิสยาห์ 28:24 - คนที่ไถนาเพื่อหว่านนั้น เขาไถไปเรื่อยๆโดยไม่หว่านสักทีเลยหรือ พวกเขาเบิกหน้าดินและลงคราดไปเรื่อยๆโดยไม่ปลูกสักทีเลยหรือ
- อิสยาห์ 28:25 - เมื่อเขาปรับหน้าดินแล้ว เขาจะไม่โปรยเมล็ดผักชีฝรั่งและหว่านยี่หร่าลงไปหรือ เขาจะไม่ปลูกข้าวสาลีเป็นแถวๆและข้าวบาร์เลย์ในที่ของมันหรือ เขาจะไม่ปลูกข้าวสแปลต์ล้อมรอบทุ่งนาหรือ
- อิสยาห์ 28:26 - พระเจ้าของพวกเขาก็ได้สอนพวกเขา พวกเขาก็เลยรู้วิธีทำงานของเขา
- อิสยาห์ 28:27 - ชาวนาไม่ใช้เลื่อนนวดข้าวมานวดเมล็ดผักชีเล็กๆหรอก หรือใช้ล้อเกวียนมากลิ้งทับเมล็ดยี่หร่าเล็กๆหรอก แต่เขาจะเอาไม้เล็กๆมาตีเมล็ดผักชีให้มันแตก และใช้ไม้ตะบองเล็กๆตีเมล็ดยี่หร่าให้แตกออก
- อิสยาห์ 28:28 - เมล็ดข้าวเขาเอามาบดทำขนมปังกัน จะไม่มีใครโง่นวดมันตลอดไปเรื่อยๆหรอก ถ้าคนเอาเกวียนเทียมม้ามานวดเมล็ดข้าว เขาก็ไม่นวดไปเรื่อยๆจนมันบี้เป็นผงหรอก
- อิสยาห์ 28:29 - ความรู้นี้ก็มาจากพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นด้วยเหมือนกัน พระองค์ให้คำแนะนำที่ยอดเยี่ยมและพระองค์ก็ให้ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
- 1 ทิโมธี 3:15 - เพื่อว่าถ้าผมมาช้า คุณจะได้รู้ว่าสมาชิกในบ้านเรือนของพระเจ้านั้นจะต้องทำตัวอย่างไรบ้าง บ้านเรือนนี้คือหมู่ประชุมของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ และหมู่ประชุมนี้เป็นเสาหลักและรากฐานแห่งความจริง
- มัทธิว 13:3 - แล้วพระองค์ใช้เรื่องเปรียบเทียบต่างๆสอนพวกเขาหลายอย่าง พระองค์เล่าว่า “มีชาวนาคนหนึ่งออกไปหว่านเมล็ดพืช
- มัทธิว 13:4 - ในขณะที่กำลังหว่านอยู่นั้น พืชบางเมล็ดตกบนทางเดิน นกก็มาจิกกินหมด
- มัทธิว 13:5 - บางเมล็ดตกลงบนดินที่ชั้นล่างเป็นหิน มีดินไม่มากนัก เมล็ดพวกนั้นก็งอกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากดินไม่ลึก
- มัทธิว 13:6 - เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น พืชพวกนั้นก็ถูกแดดแผดเผา พวกมันมีรากตื้นๆก็เลยเหี่ยวแห้งตายไป
- มัทธิว 13:7 - บางเมล็ดตกลงกลางพงหนาม หนามก็งอกขึ้นมาปกคลุมพืชนั้นหมด
- มัทธิว 13:8 - บางเมล็ดตกลงบนดินดี จึงงอกงามเกิดดอกออกผลมากมาย ร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง และสามสิบเท่าบ้าง
- มัทธิว 13:9 - ใครมีหู ก็ฟังไว้ให้ดี”
- 2 โครินธ์ 6:16 - วิหารของพระเจ้า กับพวกรูปเคารพจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร เพราะเรานี่แหละคือวิหารของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ เหมือนกับที่พระเจ้าพูดไว้ว่า “เราจะอยู่กับพวกเขา และจะเดินอยู่กับเขา เราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา และเขาก็จะเป็นคนของเรา”
- สดุดี 65:9 - ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเอาใจใส่แผ่นดินและรดน้ำให้มัน พระองค์ทำให้ลำธารเต็มไปด้วยน้ำซึ่งทำให้แผ่นดินอุดมสมบูรณ์ พระองค์จัดหาเมล็ดข้าวให้กับผู้คนกินกัน พระองค์เตรียมแผ่นดินให้เกิดพืชผล
- สดุดี 65:10 - พระองค์ส่งฝนห่าใหญ่ลงมาในทุ่งนาที่ไถพรวนแล้ว น้ำฝนทำให้ก้อนดินที่พรวนแล้วนั้นอ่อนนุ่มราบเรียบเสมอกัน พระองค์อวยพรให้ต้นพืชในทุ่งนั้นเจริญเติบโต
- สดุดี 65:11 - พระองค์สวมมงกุฎให้กับปีนั้นด้วยพืชผลอย่างล้นหลาม ไม่ว่าพระองค์จะไปที่ไหนก็ตาม พระองค์ก็ทิ้งความอุดมสมบูรณ์ไว้ให้
- สดุดี 65:12 - ทุ่งหญ้าในชนบท มีน้ำค้างหยาดเยิ้ม เนินเขาก็ปกคลุมไปด้วยความชื่นชมยินดี
- สดุดี 65:13 - ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ เต็มไปด้วยฝูงแกะ หุบเขาถูกปกคลุมไปด้วยเมล็ดข้าว พวกมันต่างเปล่งเสียงร้องออกมาเป็นเพลง
- มัทธิว 16:18 - เราจะบอกให้รู้ว่า คุณคือเปโตร และบนหินก้อนนี้ เราจะสร้างหมู่ประชุมของเราขึ้นมา และอำนาจทั้งหมดของความตาย จะไม่สามารถเอาชนะหมู่ประชุมของเราได้
- สดุดี 80:8 - พระองค์นำพวกเราที่เป็นเถาองุ่นของพระองค์ออกจากอียิปต์ พระองค์ขับไล่ชาวต่างชาติออกไปและปลูกพวกเราที่เป็นต้นองุ่นของพระองค์แทน
- สดุดี 80:9 - พระองค์กำจัดหินและหญ้ารกให้ต้นองุ่นนั้นมีที่เติบโต แล้วต้นองุ่นนั้นก็หยั่งรากลึกและแผ่ขยายไปทั่วแผ่นดิน
- สดุดี 80:10 - เงาของมันปกคลุมไปทั่วเนินเขาต่างๆ ส่วนกิ่งก้านของมันปกคลุมต้นสนซีดาร์อันสูงใหญ่
- สดุดี 80:11 - เถาองุ่นได้แตกกิ่งก้านแผ่ขยายออกไปทางทิศตะวันตกสู่ทะเล ทางทิศตะวันออกสู่แม่น้ำยูเฟรติส
- อิสยาห์ 61:3 - พระองค์ส่งผมให้เอามาลัยไปให้กับคนที่โศกเศร้าในศิโยน เพื่อใส่แทนขี้เถ้า บนหัว ใส่น้ำมันแห่งความชื่นชมยินดีแทนชุดไว้ทุกข์ และให้ชุดงานเลี้ยงแทนจิตใจที่ท้อแท้ พวกเขาจะได้ชื่อว่า ต้นโอ๊กแห่งความรอด ต้นไม้ของพระยาห์เวห์ที่แสดงว่าพระองค์นั้นยิ่งใหญ่
- เศคาริยาห์ 6:12 - และให้บอกกับโยชูวาว่า พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า ‘ดูสิ นี่คือชายชื่อ “กิ่ง” เขาจะแผ่กิ่งของเขาออกมาในที่ที่เขาอยู่ และเขาจะสร้างวิหารของพระยาห์เวห์
- เศคาริยาห์ 6:13 - คนนี้แหละจะเป็นคนสร้างวิหารของพระยาห์เวห์ คนนี้แหละจะเป็นคนได้รับเกียรติ เขาจะนั่งและปกครองอยู่บนบัลลังก์ของเขา และจะมีนักบวชคนหนึ่งอยู่ข้างๆบัลลังก์ของเขา ชายทั้งสองคนนี้จะทำงานร่วมกันอย่างกลมเกลียว’
- มัทธิว 21:23 - พระเยซูเข้าไปในวิหาร เมื่อพระองค์กำลังสอนอยู่นั้น พวกหัวหน้านักบวชและพวกผู้นำอาวุโส เข้ามาถามพระองค์ว่า “แกมีสิทธิ์อะไรไปไล่พวกพ่อค้านั้น ใครให้สิทธิ์นี้กับแก”
- มัทธิว 21:24 - พระเยซูตอบว่า “เราขอถามคุณเรื่องหนึ่งเหมือนกัน ถ้าคุณตอบเรา แล้วเราจะบอกว่าเราใช้สิทธิ์ของใครทำอย่างนี้
- มัทธิว 21:25 - ตอบหน่อยสิว่า พิธีจุ่มน้ำของยอห์นมาจากสวรรค์หรือมาจากมนุษย์” พวกหัวหน้านักบวชและพวกผู้นำอาวุโสต่างก็ปรึกษากันว่า “ถ้าเราตอบว่า ‘มาจากสวรรค์’ มันก็จะย้อนถามเราว่า ‘แล้วทำไมพวกคุณถึงไม่เชื่อยอห์นละ’
- มัทธิว 21:26 - แต่ถ้าเราตอบว่า ‘มาจากมนุษย์’ เราก็กลัวฝูงชนจะโกรธ เพราะพวกนั้นต่างก็เชื่อว่า ยอห์นเป็นผู้พูดแทนพระเจ้า”
- มัทธิว 21:27 - พวกเขาจึงตอบพระเยซูว่า “ไม่รู้สิ” พระเยซูก็เลยบอกว่า “ถ้าอย่างนั้น เราก็จะไม่บอกเหมือนกัน ว่าเราใช้สิทธิ์ของใครในการทำสิ่งเหล่านี้”
- มัทธิว 21:28 - “บอกหน่อยว่า คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชายคนหนึ่งมีลูกสองคน เขาบอกลูกชายคนโตว่า ‘ลูกพ่อ วันนี้ไปทำงานในไร่องุ่นของพ่อนะ’
- มัทธิว 21:29 - เขาตอบว่า ‘ไม่ได้ครับ’ แต่ต่อมาเขาเปลี่ยนใจ แล้วไปทำงานในไร่องุ่น
- มัทธิว 21:30 - จากนั้นพ่อไปบอกลูกชายอีกคนว่า ‘ลูกพ่อ วันนี้ไปทำงานในไร่องุ่นของพ่อนะ’ เขาตอบว่า ‘ครับพ่อ ผมจะไป’ แต่เขาก็ไม่ได้ไป”
- มัทธิว 21:31 - “ลูกสองคนนี้ คนไหนที่เชื่อฟังพ่อของเขา” พวกหัวหน้าชาวยิวตอบว่า “ลูกคนแรก” พระเยซูจึงบอกพวกเขาว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า คนเก็บภาษีและโสเภณีกำลังเข้าไปในอาณาจักรของพระเจ้าก่อนพวกคุณเสียอีก
- มัทธิว 21:32 - ยอห์นได้มาชี้ให้เห็นว่า จะใช้ชีวิตที่ถูกต้องกับพระเจ้าได้อย่างไร พวกคุณก็ไม่ยอมเชื่อเขา แต่คนเก็บภาษีและโสเภณีกลับเชื่อยอห์น ถึงแม้คุณเห็นพวกเขาทำอย่างนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมกลับตัวกลับใจมาเชื่อยอห์นเลย
- มัทธิว 21:33 - ฟังเรื่องเปรียบเทียบนี้ให้ดี เจ้าของที่แปลงหนึ่งได้ทำสวนองุ่นไว้ ล้อมรั้วไว้รอบ ขุดบ่อย่ำองุ่น และสร้างหอคอย แล้วให้ชาวสวนมาเช่าสวนองุ่นนั้น ส่วนตัวเขาเดินทางไปต่างประเทศ
- มัทธิว 21:34 - เมื่อถึงฤดูเก็บองุ่น เจ้าของสวนส่งพวกทาสของเขามารับส่วนแบ่งองุ่นจากพวกคนเช่า
- มัทธิว 21:35 - แต่พวกคนเช่าจับทาสของเขาไว้ ทุบตีคนหนึ่ง ฆ่าอีกคนหนึ่ง แล้วเอาหินขว้างอีกคนหนึ่ง
- มัทธิว 21:36 - เจ้าของสวนจึงส่งพวกทาสมามากกว่าครั้งแรก แต่ก็ถูกพวกคนเช่าสวน ทำเหมือนเดิม
- มัทธิว 21:37 - สุดท้าย เจ้าของสวนจึงส่งลูกชายของเขามาเอง เขาว่า ‘พวกนั้นจะต้องเคารพยำเกรงลูกชายของเราแน่ๆ’
- มัทธิว 21:38 - แต่เมื่อพวกคนเช่าเห็นลูกชายของเขามา ก็พูดกันว่า ‘นี่ไง ผู้รับมรดก เร็วเข้าพวกเรา ฆ่ามันซะ สวนนี้จะได้ตกเป็นของพวกเรา’
- มัทธิว 21:39 - พวกคนเช่าสวนจึงจับตัวลูกชายเจ้าของสวนโยนออกไปนอกสวนแล้วฆ่าเขา
- มัทธิว 21:40 - เมื่อเจ้าของสวนมา เขาจะทำอย่างไรกับคนเช่าพวกนี้”
- มัทธิว 21:41 - พวกหัวหน้านักบวชและพวกผู้นำอาวุโสตอบว่า “เขาจะต้องฆ่าคนชั่วพวกนั้นอย่างโหดเหี้ยม และให้ชาวสวนคนอื่นที่ยอมแบ่งองุ่นให้กับเขาเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวมาเช่าต่อ”
- มัทธิว 21:42 - พระเยซูบอกพวกเขาว่า “พวกคุณไม่เคยอ่านพระคัมภีร์ข้อนี้หรือที่ว่า ‘หินก้อนนี้ที่ช่างก่อสร้างทิ้งแล้ว กลับกลายมาเป็นหินก้อนที่สำคัญที่สุด องค์เจ้าชีวิตทำให้เป็นอย่างนั้น สำหรับเราแล้วนี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ’
- มัทธิว 21:43 - เราจะบอกให้รู้ว่า อาณาจักรของพระเจ้าจะถูกริบเอาไปจากคุณ และยกไปให้กับคนที่ทำตามความต้องการของพระเจ้า
- มัทธิว 21:44 - คนที่ล้มทับหินนี้ ร่างกายก็จะหักเป็นชิ้นๆ แต่ถ้าถูกหินนี้ล้มทับ คนนั้นก็จะแหลกละเอียด”
- อิสยาห์ 61:11 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตจะทำให้ความรอดอันยุติธรรมของพระองค์และคำสรรเสริญจากมนุษย์งอกขึ้นมาต่อหน้าชนชาติทั้งหลาย เหมือนกับพืชที่งอกขึ้นมาจากดิน เหมือนกับเมล็ดที่โผล่ขึ้นมาในสวน
- 1 โครินธ์ 3:6 - ผมเป็นคนปลูก อปอลโลเป็นคนรดน้ำ แต่พระเจ้าเป็นผู้ทำให้เติบโต
- 1 โครินธ์ 6:19 - พวกคุณไม่รู้หรือว่าร่างกายของพวกคุณเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าให้พระวิญญาณนี้อยู่ในตัวพวกคุณ พวกคุณก็เลยไม่ได้เป็นเจ้าของตัวเองอีกต่อไป
- มาระโก 4:26 - พระองค์พูดต่อว่า “อาณาจักรของพระเจ้าเปรียบเหมือนกับชายคนหนึ่งที่หว่านเมล็ดพืชลงในดิน
- มาระโก 4:27 - ไม่ว่าชายคนนั้นจะหลับหรือตื่น พืชนั้นก็แตกหน่อและเจริญงอกงามขึ้นเรื่อยๆทุกวันทุกคืน โดยที่ชายคนนี้ไม่รู้ว่ามันงอกขึ้นมาได้ยังไง
- มาระโก 4:28 - เพราะดินเป็นตัวที่ทำให้เมล็ดพืชนั้นงอกขึ้นเป็นลำต้น เริ่มจากต้นอ่อนก่อนแล้วต่อมาก็เป็นรวง และมีเมล็ดเต็มรวง
- มาระโก 4:29 - เมื่อเมล็ดสุกเหลืองอร่ามชาวนาก็รีบเอาเคียวมาเกี่ยวพืชทันที เพราะถึงฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว”
- ยอห์น 4:35 - เมื่อหว่านเมล็ดพืช คุณพูดว่า ‘ต้องคอยอีกสี่เดือนถึงจะเก็บเกี่ยว’ แต่เราบอกให้คุณลืมตาขึ้นมาดูทุ่งนาที่เต็มไปด้วยพืชผล ซึ่งพร้อมแล้วที่จะให้เก็บเกี่ยวเดี๋ยวนี้
- ยอห์น 4:36 - ตอนนี้คนเก็บเกี่ยวก็รับค่าจ้างอยู่ และพืชผลที่เก็บรวบรวมมานี้ก็คือคนที่จะได้รับชีวิตที่อยู่กับพระเจ้าตลอดไป ดังนั้นทั้งคนปลูกและคนเก็บเกี่ยวก็จะมีความสุขร่วมกัน
- ยอห์น 4:37 - จะได้เป็นไปตามคำพูดที่ว่า ‘คนหนึ่งปลูก และอีกคนหนึ่งเก็บเกี่ยว’
- ยอห์น 4:38 - เราได้ส่งคุณไปเก็บเกี่ยวสิ่งที่คุณไม่ได้ลงแรงปลูก คนอื่นเป็นคนลงแรงและคุณก็ได้ผลประโยชน์จากน้ำพักน้ำแรงของเขา”
- มัทธิว 9:37 - พระองค์พูดกับพวกศิษย์ว่า “พืชผลที่จะให้เก็บเกี่ยวนั้นมีมากมาย แต่คนงานมีน้อย
- กิจการ 4:11 - พระเยซูเป็น ‘หิน ที่พวกคุณคนก่อสร้างเห็นว่าไร้ค่า แต่กลับกลายมาเป็นหินก้อนที่สำคัญที่สุด’
- มาระโก 16:20 - ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกศิษย์ได้ออกไปประกาศทุกหนทุกแห่ง องค์เจ้าชีวิตได้ทำงานร่วมกับพวกเขาด้วย และให้ฤทธิ์อำนาจกับพวกเขาที่จะทำสิ่งอัศจรรย์ต่างๆได้ เพื่อรับรองว่าสิ่งที่พวกเขาพูดนั้นเป็นความจริง
- ยอห์น 15:1 - “เราเป็นเถาองุ่นที่แท้จริง และพระบิดาของเราเป็นผู้ดูแลสวน
- ยอห์น 15:2 - พระองค์จะตัดกิ่ง ของเราที่ไม่ออกลูกทิ้งไป และจะแต่งกิ่งที่ออกลูกให้สะอาดเพื่อให้ออกลูกมากขึ้น
- ยอห์น 15:3 - พวกคุณก็สะอาดแล้วเพราะคำสั่งสอนของเรา
- ยอห์น 15:4 - ให้ติดสนิทกับเราและเราก็จะติดสนิทกับคุณ กิ่งจะออกผลเองไม่ได้นอกจากจะติดสนิทกับเถาเท่านั้น คุณก็เหมือนกับกิ่ง คุณจะออกผลเองไม่ได้นอกจากจะติดสนิทกับเรา
- ยอห์น 15:5 - เราเป็นเถาองุ่น พวกคุณเป็นกิ่ง ถ้าคุณติดสนิทกับเราและเราติดสนิทกับคุณ คุณจะออกลูกมาก ถ้าไม่มีเราคุณจะทำอะไรไม่ได้เลย
- ยอห์น 15:6 - ถ้าใครไม่ได้ติดสนิทกับเรา เขาก็จะเหมือนกับกิ่งที่ถูกตัดทิ้งให้เหี่ยวแห้งตาย และถูกเก็บไปเผาไฟ
- ยอห์น 15:7 - ถ้าพวกคุณติดสนิทกับเรา และคำสั่งสอนของเราติดสนิทกับคุณ ไม่ว่าคุณจะขออะไรมันก็จะเป็นอย่างนั้น
- ยอห์น 15:8 - เมื่อคุณเกิดผลมาก แสดงว่าคุณเป็นศิษย์ของเรา และคุณได้ทำให้คนเห็นความยิ่งใหญ่ของพระบิดาของเรา
- โคโลสี 2:7 - คือคุณได้หยั่งรากลงไปในพระองค์แล้ว ให้พระองค์เป็นรากฐานของคุณต่อไป ให้ยึดมั่นในความเชื่อต่อไปเหมือนกับที่คุณได้รับคำสั่งสอนมาแล้ว และให้ขอบคุณพระเจ้าอย่างล้นเหลือต่อไป
- 2 โครินธ์ 6:1 - ในฐานะผู้ร่วมงานกับพระเจ้า เราขอร้องพวกคุณทุกคนว่าอย่ารับความเมตตากรุณาของพระเจ้ามาเปล่าๆ
- 1 โครินธ์ 3:16 - พวกคุณไม่รู้หรือว่าพวกคุณเป็นวิหารของพระเจ้า และพระวิญญาณของพระเจ้าก็อยู่ในหมู่พวกคุณ
- 1 เปโตร 2:5 - พวกคุณก็เหมือนกัน พวกคุณเป็นเหมือนหินที่มีชีวิตอยู่ ที่กำลังถูกสร้างขึ้นเป็นวิหารสำหรับพระวิญญาณ พวกคุณเป็นคนเหล่านั้นที่ถูกอุทิศไว้ให้เป็นนักบวชที่ทำหน้าที่ถวายเครื่องบูชาฝ่ายพระวิญญาณ พระเจ้าชอบใจกับเครื่องบูชาแบบนี้ก็เพราะถวายผ่านทางพระเยซูคริสต์
- เอเฟซัส 2:20 - พวกคุณคืออาคารที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา รากฐานของอาคารนี้เป็นพวกศิษย์เอกของพระเยซู และพวกผู้พูดแทนพระเจ้า และมีพระเยซูคริสต์เป็นหินก้อนที่สำคัญที่สุด
- เอเฟซัส 2:21 - ในพระคริสต์นั้น ทุกส่วนของอาคารถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน และเจริญขึ้นเป็นวิหารศักดิ์สิทธิ์ให้กับองค์เจ้าชีวิต
- เอเฟซัส 2:22 - ในพระคริสต์นั้น พวกคุณกำลังถูกก่อขึ้นมาด้วยกันกับคนอื่นๆให้เป็นที่อยู่ของพระวิญญาณของพระเจ้า