逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - ลุกขึ้นแล้วเข้าไปในเมือง จะมีคนมาบอกเจ้าเองว่าจะต้องทำอะไรต่อไป”
- 新标点和合本 - 起来!进城去,你所当做的事,必有人告诉你。”
- 和合本2010(上帝版-简体) - 起来!进城去,你应该做的事,必有人告诉你。”
- 和合本2010(神版-简体) - 起来!进城去,你应该做的事,必有人告诉你。”
- 当代译本 - 起来!进城去,有人会告诉你该做的事。”
- 圣经新译本 - 起来,进城去!你应当作的事,一定有人告诉你。”
- 中文标准译本 - 你起来,进城去!有人会告诉你应该做什么。”
- 现代标点和合本 - 起来!进城去,你所当做的事,必有人告诉你。”
- 和合本(拼音版) - 起来!进城去,你所当作的事,必有人告诉你。”
- New International Version - “Now get up and go into the city, and you will be told what you must do.”
- New International Reader's Version - Now get up and go into the city. There you will be told what you must do.”
- English Standard Version - But rise and enter the city, and you will be told what you are to do.”
- New Living Translation - Now get up and go into the city, and you will be told what you must do.”
- Christian Standard Bible - “But get up and go into the city, and you will be told what you must do.”
- New American Standard Bible - but get up and enter the city, and it will be told to you what you must do.”
- New King James Version - So he, trembling and astonished, said, “Lord, what do You want me to do?” Then the Lord said to him, “Arise and go into the city, and you will be told what you must do.”
- Amplified Bible - now get up and go into the city, and you will be told what you must do.”
- American Standard Version - but rise, and enter into the city, and it shall be told thee what thou must do.
- King James Version - And he trembling and astonished said, Lord, what wilt thou have me to do? And the Lord said unto him, Arise, and go into the city, and it shall be told thee what thou must do.
- New English Translation - But stand up and enter the city and you will be told what you must do.”
- World English Bible - But rise up and enter into the city, then you will be told what you must do.”
- 新標點和合本 - 起來!進城去,你所當做的事,必有人告訴你。」
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 起來!進城去,你應該做的事,必有人告訴你。」
- 和合本2010(神版-繁體) - 起來!進城去,你應該做的事,必有人告訴你。」
- 當代譯本 - 起來!進城去,有人會告訴你該做的事。」
- 聖經新譯本 - 起來,進城去!你應當作的事,一定有人告訴你。”
- 呂振中譯本 - 你起來、進城,你所應該作的、就有人告訴你。』
- 中文標準譯本 - 你起來,進城去!有人會告訴你應該做什麼。」
- 現代標點和合本 - 起來!進城去,你所當做的事,必有人告訴你。」
- 文理和合譯本 - 起入城、爾當行者、將以示爾、
- 文理委辦譯本 - 掃羅戰慄曰、主、欲我何為、曰、爾起入城、將以當行者示爾、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 掃羅 戰懼曰、主、欲我何為、主曰、 有原文抄本從上節爾以足起至本節主曰止均缺 爾起入城、則所當行者、必示於爾、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 爾且起、入城、當示爾所當為。』
- Nueva Versión Internacional - Levántate y entra en la ciudad, que allí se te dirá lo que tienes que hacer.
- 현대인의 성경 - 너는 일어나 시내로 들어가거라. 네가 해야 할 일을 일러 줄 사람이 있을 것이다” 라고 대답하셨다.
- Новый Русский Перевод - – Вставай и иди в город, там тебе скажут, что ты должен делать.
- Восточный перевод - Вставай и иди в город, там тебе скажут, что ты должен делать.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Вставай и иди в город, там тебе скажут, что ты должен делать.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Вставай и иди в город, там тебе скажут, что ты должен делать.
- La Bible du Semeur 2015 - Mais relève-toi, entre dans la ville, et là on te dira ce que tu dois faire.
- リビングバイブル - さあ立って、町に入り、わたしの命令を待ちなさい」という答えが返ってきました。
- Nestle Aland 28 - ἀλλ’ ἀνάστηθι καὶ εἴσελθε εἰς τὴν πόλιν καὶ λαληθήσεταί σοι ὅ τί σε δεῖ ποιεῖν.
- unfoldingWord® Greek New Testament - ἀλλὰ ἀνάστηθι καὶ εἴσελθε εἰς τὴν πόλιν, καὶ λαληθήσεταί σοι ὅ τί σε δεῖ ποιεῖν.
- Nova Versão Internacional - Levante-se, entre na cidade; alguém dirá o que você deve fazer”.
- Hoffnung für alle - »Steh auf und geh in die Stadt. Dort wird man dir sagen, was du tun sollst.«
- Kinh Thánh Hiện Đại - Con hãy đứng dậy đi vào thành, người ta sẽ chỉ dẫn cho con điều phải làm.”
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - บัดนี้จงลุกขึ้นเข้าไปในเมืองและจะมีผู้บอกให้เจ้ารู้ว่าเจ้าต้องทำประการใด”
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - จงลุกขึ้นเถิด เข้าไปในเมือง และจะมีคนบอกว่าเจ้าจะต้องทำสิ่งใดบ้าง”
- Thai KJV - เซาโลก็ตัวสั่นและรู้สึกประหลาดใจจึงถามว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ประสงค์จะให้ข้าพระองค์ทำอะไร” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่เขาว่า “เจ้าจงลุกขึ้นเข้าไปในเมือง และเจ้าจะต้องทำประการใด จะมีคนบอกให้รู้”
交叉引用
- ยากอบ 4:6 - แต่พระเจ้าได้ให้ความเมตตามากยิ่งขึ้นไปอีก พระคัมภีร์ถึงได้พูดไว้ว่า “พระเจ้าต่อต้านคนหยิ่งยโส แต่พระองค์เมตตาปรานีกับคนที่อ่อนน้อมถ่อมตน”
- ฟีลิปปี 2:12 - เพื่อนๆที่รัก คุณก็เชื่อฟังเป็นอย่างดีมาตลอด ดังนั้นผมขอให้คุณทำงานหนักต่อไปด้วยใจที่เคารพและยำเกรงพระเจ้า จนกว่าคุณจะบรรลุถึงความรอด ตอนนี้ผมอยากให้คุณทำอย่างนี้ต่อไป ไม่ใช่แค่ตอนที่ผมอยู่ด้วยเท่านั้น แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่ผมไม่ได้อยู่ด้วย
- โรม 7:9 - ครั้งหนึ่งผมเคยมีชีวิตอยู่โดยไม่มีกฎ แต่พอมีกฎขึ้นมาบาปก็ฟื้นคืนชีพ
- สดุดี 25:8 - พระยาห์เวห์นั้นช่างดีและสัตย์ซื่อ พระองค์จึงสั่งสอนทางที่ถูกต้องให้กับพวกคนบาป
- สดุดี 25:9 - พระองค์นำคนถ่อมสุภาพให้ทำสิ่งที่ถูกต้องยุติธรรม พระองค์สอนทางของพระองค์ให้กับคนถ่อมสุภาพ
- ลูกา 3:10 - คนจึงถามว่า “แล้วพวกเราจะต้องทำยังไง”
- กิจการ 26:16 - แต่ลุกขึ้นยืนเถอะ เรามาปรากฏตัวกับเจ้าเพื่อแต่งตั้งเจ้าให้เป็นผู้รับใช้ เพื่อไปบอกคนอื่นถึงเรื่องที่เจ้าได้เห็นเรา และบอกเรื่องที่เราจะแสดงให้เจ้าดู
- กิจการ 9:15 - แต่องค์เจ้าชีวิตบอกกับอานาเนียว่า “ไปเถอะ เพราะเราได้เลือกชายคนนี้มาเป็นเครื่องมือที่จะไปส่งข่าวเรื่องของเราให้กับคนที่ไม่ใช่ยิว พวกกษัตริย์ และประชาชนชาวอิสราเอล
- กิจการ 9:16 - เราเองจะทำให้เซาโลรู้ว่าเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานเพราะเราขนาดไหน”
- เอเสเคียล 16:6 - แล้วเราเดินผ่านมา เห็นเจ้านอนดิ้นอยู่ในกองเลือด เราพูดกับเจ้าว่า “จงมีชีวิตอยู่ต่อไป” ในขณะที่เจ้านอนอยู่ในกองเลือดนั้น เราพูดกับเจ้าว่า “จงมีชีวิตอยู่ต่อไป”
- เอเสเคียล 16:7 - เราได้เลี้ยงดูเจ้า แล้วเจ้าก็เจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนพืชในท้องทุ่ง เจ้าได้เติบโตและเจริญวัย เจ้าเริ่มแตกเนื้อสาว มีประจำเดือน มีหน้าอกใหญ่ขึ้น เริ่มมีขนขึ้นตามตัว แต่เจ้ายังเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่
- เอเสเคียล 16:8 - ต่อมา เราได้สังเกตเห็นว่าเจ้าโตพอที่จะมีความรักได้แล้ว เราจึงได้กางเสื้อผ้าของเราออกคลุมตัวเจ้า และคลุมร่างที่เปลือยเปล่าของเจ้า เราได้ปฏิญาณผูกมัดตัวเองกับเจ้าและร่วมคำมั่นสัญญา กับเจ้า และเจ้าได้กลายเป็นของเรา’” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- มัทธิว 19:30 - แต่คนที่เป็นใหญ่เป็นโตที่สุดในตอนนี้จะกลายเป็นคนที่ต่ำต้อยที่สุด ส่วนคนที่ต่ำต้อยที่สุดในตอนนี้ จะกลายเป็นคนใหญ่คนโตที่สุด
- กิจการ 22:10 - ผมถามว่า ‘แล้วข้าพเจ้าจะต้องทำอะไร องค์เจ้าชีวิต’ องค์เจ้าชีวิตก็บอกว่า ‘ลุกขึ้นและเข้าไปในเมืองดามัสกัส ที่นั่นจะมีคนบอกเองว่าเจ้าจะต้องทำอะไรบ้าง’
- กิจการ 16:29 - ผู้คุมจึงร้องขอคบไฟ แล้วเขาก็วิ่งเข้าไปข้างในตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัว เขาหมอบลงต่อหน้าเปาโลและสิลาส
- กิจการ 16:30 - แล้วนำคนทั้งสองออกมาจากคุกและถามว่า “ท่านครับ ผมต้องทำอย่างไร ถึงจะรอดได้”
- กาลาเทีย 1:15 - แต่พระเจ้ามีความเมตตากรุณาต่อผม พระองค์เลือกผมตั้งแต่ผมยังอยู่ในท้องแม่ซะอีก แล้วพระองค์ก็เรียกให้ผมมารับใช้พระองค์
- กาลาเทีย 1:16 - พระองค์พอใจที่จะเปิดเผยพระบุตรของพระองค์กับผม เพื่อผมจะได้ประกาศข่าวดีเรื่องพระบุตรนั้นกับคนที่ไม่ใช่ยิว ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ปรึกษาใครเลย
- สดุดี 25:12 - พระยาห์เวห์จะสั่งสอนคนที่ยำเกรงพระองค์ พระองค์จะนำคนนั้นไปตามทางที่พระองค์เลือกไว้
- กิจการ 10:32 - ให้เจ้าส่งคนไปเมืองยัฟฟา เพื่อเชิญซีโมนที่คนเรียกว่าเปโตรมาที่นี่ เขาพักอยู่ที่บ้านของซีโมนช่างฟอกหนัง ที่ติดทะเลนั้น’
- กิจการ 10:22 - พวกเขาตอบว่า “นายร้อยโครเนลิอัส เป็นคนส่งพวกเรามา เขาเป็นคนดี แล้วเขาเคารพยำเกรงพระเจ้า ชาวยิวยกย่องนับถือเขาทุกคน ทูตสวรรค์ที่ศักดิ์สิทธิ์บอกให้เขามาเชิญท่านไปที่บ้าน เพื่อจะได้ฟังเรื่องที่ท่านจะเล่า”
- โรม 5:20 - เมื่อกฎของโมเสสเข้ามา ทำให้คนผิดกฎกันมากขึ้น แต่เมื่อบาปเพิ่มขึ้น ความเมตตากรุณาก็ยิ่งเพิ่มมากกว่านั้นอีก
- กิจการ 24:25 - แต่เมื่อเปาโลพูดถึงการทำตามใจพระเจ้า การควบคุมตนเอง และการพิพากษาที่กำลังจะมาถึง เฟลิกส์ก็เกิดความกลัวขึ้นมา จึงตัดบทว่า “วันนี้พอแค่นี้ก่อน ไปได้แล้ว ไว้เรามีเวลาแล้วจะเรียกมาใหม่”
- กิจการ 24:26 - ในขณะเดียวกัน เฟลิกส์ก็หวังว่าเปาโลจะให้เงินติดสินบนเขา จึงเรียกเปาโลมาพูดคุยด้วยบ่อยๆ
- สดุดี 94:12 - ข้าแต่พระยาห์เวห์ คนที่พระองค์ตีสอนนั้น ถือว่ามีเกียรติจริงๆ คือคนที่พระองค์ต่อว่าด้วยกฎของพระองค์
- ฮาบากุก 3:16 - ผมได้ยินเรื่องนี้ ทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด เมื่อได้ยินเสียง ริมฝีปากผมก็สั่นระริก รู้สึกเหมือนกับกระดูกจะผุพัง และเท้าก็สั่นไปหมด ผมจะคอยอย่างเงียบๆ ถึงเวลานั้นที่คนที่มาโจมตีเราจะได้รับความทุกข์ยาก
- โรม 9:15 - เพราะพระองค์พูดกับโมเสสว่า “เราอยากจะเมตตาใคร เราก็จะเมตตาคนนั้น เราอยากจะสงสารใคร เราก็จะสงสารคนนั้น”
- โรม 9:16 - ดังนั้นสิ่งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความอยากได้หรือความพยายามของมนุษย์หรอก แต่ขึ้นอยู่กับความเมตตาของพระเจ้าต่างหาก
- โรม 9:17 - เพราะในพระคัมภีร์พระเจ้าบอกฟาโรห์ว่า “ที่เราได้ยกเจ้าเป็นกษัตริย์นั้น ก็เพื่อว่าคนจะได้เห็นฤทธิ์เดชของเราในวิธีที่เราใช้จัดการกับเจ้า และชื่อเสียงของเราจะได้โด่งดังไปทั่วโลก”
- โรม 9:18 - ดังนั้นพระเจ้าเลือกที่จะเมตตาคนไหน พระองค์ก็จะเมตตาคนนั้น พระเจ้าเลือกที่จะทำให้คนไหนดื้อด้าน พระองค์ก็จะทำให้คนนั้นดื้อด้าน
- โรม 9:19 - เมื่อเป็นอย่างนี้ คุณคงจะพูดกับผมว่า “ถ้าอย่างนั้น พระองค์ยังจะมาโทษเราอีกทำไม เพราะใครจะไปขัดขืนความต้องการของพระองค์ได้”
- โรม 9:20 - โธ่มนุษย์เอ๋ย คุณคิดว่าคุณเป็นใคร สิ่งที่ถูกปั้นจะย้อนถามคนปั้นได้หรือว่า “ทำไมถึงปั้นเราแบบนี้”
- โรม 9:21 - ช่างปั้นหม้อไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาดินเหนียวก้อนเดียวกันมาปั้นเป็นภาชนะหรูหราอันหนึ่งและภาชนะธรรมดาอีกอันหนึ่งหรืออย่างไร
- โรม 9:22 - แล้วเรื่องนี้จะว่าไง พระเจ้าตั้งใจจะลงโทษและแสดงฤทธิ์อำนาจของพระองค์ พระองค์ต้องอดทนอดกลั้นอย่างมากกับคนพวกนั้นที่สมควรถูกลงโทษและถูกทำลาย
- โรม 9:23 - ที่พระองค์ทำอย่างนี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่มหาศาลต่อคนพวกนั้นที่พระองค์เมตตาและที่พระองค์ได้เตรียมไว้รับสง่าราศี
- โรม 9:24 - คนพวกนั้นที่พระองค์เรียกมาก็คือพวกเรานี่เอง พระองค์ไม่ได้เรียกเราจากพวกยิวเท่านั้น แต่จากคนที่ไม่ใช่ยิวด้วย
- กิจการ 11:13 - โครเนลิอัสบอกพวกเราว่า เขาได้เห็นทูตสวรรค์ยืนอยู่ในบ้านของเขาและพูดว่า ‘ให้ส่งคนไปที่เมืองยัฟฟา ไปพาซีโมนที่คนเรียกว่าเปโตรมา
- กิจการ 11:14 - เขาจะบอกข่าวสารที่จะทำให้ท่านและสมาชิกในครอบครัวของท่านได้รับความรอด’
- อิสยาห์ 66:2 - มือของเราเองได้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก และสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดเป็นของเรา” พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ “แต่นี่ต่างหากที่เราให้ความสนใจ คือคนที่ถ่อมสุภาพ คนที่สำนึกผิดในใจ คนที่สั่นกลัวเมื่อได้ยินคำพูดทั้งหลายของเรา
- กิจการ 2:37 - เมื่อคนพวกนั้นได้ยินอย่างนี้ ก็รู้สึกเหมือนถูกแทงทะลุใจ พวกเขาจึงพูดกับเปโตรและศิษย์เอกคนอื่นๆว่า “พี่ๆน้องๆ พวกเราจะทำอย่างไรดี”
- 1 ซามูเอล 28:5 - เมื่อซาอูลเห็นกองทัพของคนฟีลิสเตียเขาก็กลัวและใจก็เต้นแรง
- อิสยาห์ 57:18 - เราได้เห็นทางของพวกเขาแล้ว แต่เราจะรักษาพวกเขาไว้ เราจะนำทางพวกเขาและปลอบโยนพวกเขาคือคนเหล่านั้นที่ไว้ทุกข์ และเราจะให้ปากพวกเขากลับพูดคำสรรเสริญแทน”
- โรม 10:3 - พวกเขาไม่รู้จักความซื่อสัตย์สุจริตของพระเจ้า เขาพยายามที่จะยึดฐานะที่เป็นคนของพระเจ้าไว้ เขาจึงไม่ยอมรับแผนงานอันซื่อสัตย์สุจริตของพระองค์
- กิจการ 10:6 - เขาพักอยู่กับช่างฟอกหนังชื่อซีโมน บ้านอยู่ริมทะเล”
- โรม 10:20 - ต่อมาพระเจ้าพูดผ่านทางอิสยาห์ และอิสยาห์กล้าพูดว่า “คนที่ไม่ได้แสวงหาเรา ได้พบเรา เราได้ปรากฏตัวให้กับคนที่ไม่สนใจเรา”
- 1 ทิโมธี 1:14 - องค์เจ้าชีวิตของเราได้มอบความเมตตาพร้อมกับความเชื่อ และความรักที่มีอยู่ในพระเยซูคริสต์ให้กับผมอย่างล้นเหลือ
- 1 ทิโมธี 1:15 - คำพูดนี้เชื่อถือได้และคุ้มค่าที่จะรับเอาไว้ ซึ่งคำพูดนี้ก็คือ พระเยซูคริสต์ได้มาในโลกนี้เพื่อช่วยให้คนบาปหลุดพ้น และผมเองก็เลวที่สุดในพวกคนบาปนั้น
- 1 ทิโมธี 1:16 - แต่ก็เพราะอย่างนี้ พระเจ้าถึงได้เมตตาผม พระเยซูคริสต์ได้แสดงความอดทนอย่างถึงที่สุดต่อคนเลวที่สุดอย่างผม เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับคนทั้งหลายที่จะมาไว้วางใจในพระองค์ และมีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไป