เซาโลมาเป็นลูกศิษย์พระเยซู
1ในระหว่างนั้นเซาโลยังคงขู่ฆ่าพวกศิษย์ขององค์เจ้าชีวิต เขาไปหาหัวหน้านักบวชสูงสุด
2เพื่อขอจดหมายแนะนำตัวต่อผู้นำในที่ประชุมต่างๆของชาวยิวในเมืองดามัสกัส เพื่อว่าถ้าเขาพบคนที่ติดตามแนวทางขององค์เจ้าชีวิต ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เขาก็จะได้จับกุมตัวกลับมาที่เมืองเยรูซาเล็ม
3ทันทีที่เซาโลเดินทางใกล้ถึงเมืองดามัสกัส ก็มีแสงสว่างจ้าจากท้องฟ้าส่องลงมารอบตัวเขา
4เขาล้มลงกับพื้น และได้ยินเสียงพูดว่า “เซาโล เซาโล เจ้าข่มเหงเราทำไม”
5เซาโลพูดว่า “ท่านเป็นใครกัน” พระองค์ตอบว่า “เราคือเยซู คนที่เจ้าข่มเหงไง
6ลุกขึ้นแล้วเข้าไปในเมือง จะมีคนมาบอกเจ้าเองว่าจะต้องทำอะไรต่อไป”
7พวกคนที่เดินทางมากับเซาโลยืนงงพูดอะไรไม่ออกเพราะได้ยินเสียง แต่ไม่เห็นตัวคนพูด
8เซาโลลุกขึ้น แต่เมื่อลืมตาเขากลับมองอะไรไม่เห็นเลย พวกนั้นจึงจูงมือเซาโลพาไปที่เมืองดามัสกัส
9เซาโลมองอะไรไม่เห็นและไม่ได้กินหรือดื่มอะไรเป็นเวลาสามวัน
10ในเมืองดามัสกัส มีศิษย์คนหนึ่งของพระเยซู ชื่ออานาเนีย องค์เจ้าชีวิตได้พูดกับเขาทางนิมิตว่า “อานาเนีย” แล้วเขาก็ตอบว่า “ผมอยู่นี่ครับ องค์เจ้าชีวิต”
11พระองค์สั่งว่า “ลุกขึ้น ไปที่บ้านของยูดาส9:11 ยูดาส เป็นคนละคนกับศิษย์เอกที่ชื่อยูดาสที่อยู่บนถนนตรง ถามหาชายที่ชื่อเซาโลที่มาจากทาร์ซัส ซึ่งตอนนี้เขากำลังอธิษฐานอยู่
12เซาโลก็เห็นนิมิตเหมือนกัน เขาเห็นชายชื่ออานาเนีย กำลังเข้ามาในบ้านและวางมือบนตัวเขา เพื่อเขาจะกลับมามองเห็นได้อีก”
13อานาเนียตอบว่า “องค์เจ้าชีวิต ผมได้ยินเกี่ยวกับเรื่องชั่วๆที่ชายคนนี้ทำกับคนที่เป็นของพระองค์ในเมืองเยรูซาเล็มจากปากของหลายคนแล้ว
14เขาได้รับอำนาจจากพวกผู้นำนักบวชให้มาจับกุมทุกคนที่ไว้วางใจในพระองค์9:14 คนที่ไว้วางใจในพระองค์ หรือแปลอีกอย่างหนึ่งว่า “คนที่เรียกชื่อของพระองค์” คือการแสดงความเชื่อในพระเยซู โดยการกราบไหว้บูชาหรืออธิษฐานต่อพระองค์ที่นี่”
15แต่องค์เจ้าชีวิตบอกกับอานาเนียว่า “ไปเถอะ เพราะเราได้เลือกชายคนนี้มาเป็นเครื่องมือที่จะไปส่งข่าวเรื่องของเราให้กับคนที่ไม่ใช่ยิว พวกกษัตริย์ และประชาชนชาวอิสราเอล
16เราเองจะทำให้เซาโลรู้ว่าเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานเพราะเราขนาดไหน”
17แล้วอานาเนียก็ไป เขาได้เข้าไปในบ้าน วางมือลงบนเซาโลแล้วพูดว่า “น้องเซาโล พระเยซูเจ้าผู้ที่ได้ปรากฏตัวให้น้องเห็นในระหว่างทางที่มานั้น ได้ส่งผมมาเพื่อทำให้น้องกลับมองเห็นได้อีก และทำให้น้องเต็มไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์”
18มีบางสิ่งดูเหมือนกับเกล็ดตกลงมาจากตาของเซาโลทันที และเขาก็มองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นมาเข้าพิธีจุ่มน้ำ
19หลังจากกินอาหารแล้ว เขาก็รู้สึกดีขึ้น
เซาโลสั่งสอนในเมืองดามัสกัส
20แล้วเขาก็ตรงรี่ไปที่ประชุมชาวยิว เริ่มประกาศเรื่องของพระเยซู เขาบอกว่า “พระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้า”
21ทุกคนที่ได้ยินเซาโลพูดอย่างนั้น ก็แปลกใจและพูดกันว่า “ไอ้หมอนี่ไม่ใช่หรือ ที่พยายามจะทำลายคนที่เชื่อเยซูที่เมืองเยรูซาเล็ม แล้วที่เขามาที่นี่ ก็เพราะตั้งใจจะมาจับคนพวกนั้นกลับไปให้กับพวกผู้นำนักบวชไม่ใช่หรือ”
22เซาโลเทศนาอย่างมีพลังมากยิ่งขึ้นว่าพระเยซูคือกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ จนทำให้คนยิวในเมืองดามัสกัสถึงกับเถียงไม่ออก
23ต่อมาหลายวัน พวกยิววางแผนที่จะฆ่าเซาโล
24แต่เซาโลรู้แผนนั้นเสียก่อน พวกนั้นคอยเฝ้าอยู่ที่ประตูเมืองทั้งกลางวันกลางคืนเพื่อจะฆ่าเซาโล
25แต่พวกศิษย์บางคนที่เซาโลเคยสอนได้พาเขาหนีไปตอนกลางคืน โดยให้เขานั่งในเข่ง แล้วค่อยๆหย่อนเข่งนั้นผ่านช่องกำแพงเมืองลงไปข้างล่าง
เซาโลอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม
26เมื่อเซาโลกลับมาถึงเมืองเยรูซาเล็ม เขาพยายามจะเข้าร่วมกับพวกศิษย์ของพระเยซู แต่พวกนั้นต่างหวาดกลัว เพราะไม่เชื่อว่าเซาโลเป็นศิษย์ของพระเยซูจริง
27แต่บารนาบัสพาเขาไปพบพวกศิษย์เอก และอธิบายให้ฟังว่า ในระหว่างทางเซาโลเจอองค์เจ้าชีวิตได้อย่างไร แล้วพระองค์พูดอะไรกับเซาโลบ้าง บารนาบัสยังเล่าอีกว่า ตอนอยู่ที่เมืองดามัสกัสนั้น เซาโลสอนเรื่องของพระเยซูด้วยความกล้าขนาดไหน
28พวกศิษย์ก็เลยยอมรับเซาโลมาอยู่ด้วย เขาไปไหนมาไหนอย่างอิสระในเมืองเยรูซาเล็ม และสอนเรื่องขององค์เจ้าชีวิตอย่างกล้าหาญ
29เขาพูดโต้แย้งกับพวกยิวที่พูดภาษากรีก แต่พวกนั้นกลับพยายามที่จะฆ่าเขา
30เมื่อพวกพี่น้องรู้เรื่องนี้เข้าก็พาเซาโลลงไปที่เมืองซีซารียา และส่งเขาต่อไปที่เมืองทาร์ซัส
31จากนั้นหมู่ประชุมของพระเจ้าทั่วทั้งแคว้นยูเดีย กาลิลีและสะมาเรีย ก็อยู่ในช่วงเวลาที่สงบสุข และมีกำลังเข้มแข็งขึ้น เพราะหมู่ประชุมของพระเจ้ามีความเคารพยำเกรงองค์เจ้าชีวิต และได้รับกำลังใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ จึงทำให้มีคนที่เชื่อในพระเยซูเพิ่มมากขึ้น
เปโตรเยี่ยมเมืองลิดดาและยัฟฟา
32เมื่อเปโตรเดินทางไปทั่วทุกหนทุกแห่งแล้ว เขาได้ไปเยี่ยมคนที่เป็นของพระเจ้าที่อยู่ในเมืองลิดดา
33ที่นั่นเขาพบชายคนหนึ่งชื่อไอเนอัส ซึ่งเป็นอัมพาตนอนอยู่บนที่นอนมาแปดปีแล้ว
34เปโตรพูดกับเขาว่า “ไอเนอัส พระเยซูผู้เป็นพระคริสต์ได้รักษาคุณแล้ว ลุกขึ้นมาเก็บที่นอนเถอะ” แล้วไอเนอัสก็ลุกขึ้นมาทันที
35เมื่อทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองลิดดาและเมืองชาโรนเห็นไอเนอัส พวกเขาก็หันมาติดตามองค์เจ้าชีวิต
36ที่เมืองยัฟฟา มีศิษย์คนหนึ่งชื่อทาบิธา ตามภาษากรีกเรียกว่า “โดรคัส”9:36 โดรคัส เป็นภาษากรีกและทาบิธาเป็นภาษาอารเมค ทั้งสองคำนี้แปลว่า กวางเธอหมั่นทำความดีอยู่เสมอและให้ทานกับคนยากจน
37ในช่วงนั้น เธอไม่สบายและตายไป พวกเขาจึงอาบน้ำศพ และวางร่างเธอไว้ในห้องชั้นบนเพื่อรอจะเอาไปฝัง
38เมืองลิดดาอยู่ใกล้กับเมืองยัฟฟา เมื่อพวกศิษย์ของพระเยซูได้ยินว่าเปโตรอยู่ในเมืองลิดดา พวกเขาก็ส่งชายสองคนไปอ้อนวอนเขาว่า “ช่วยมากับเราเร็วๆด้วยเถิด”
39เปโตรจึงจัดของและเดินทางไปกับพวกเขา เมื่อไปถึง พวกเขาก็พาเปโตรขึ้นไปที่ห้องชั้นบน มีพวกแม่ม่ายยืนร้องไห้รอบๆเปโตรอยู่ และชี้ให้เปโตรดูเสื้อคลุมและเสื้อผ้าต่างๆที่โดรคัสทำไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
40เปโตรจึงให้ทุกคนออกไปนอกห้อง แล้วเขาก็คุกเข่าลงอธิษฐาน โดยหันหน้าไปที่ศพแล้วพูดว่า “ทาบิธา ลุกขึ้น” เธอก็ลืมตาขึ้นมาทันที และเมื่อเห็นเปโตรเธอก็ลุกขึ้นนั่ง
41เปโตรจึงยื่นมือช่วยพยุงเธอลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เรียกพวกคนที่เป็นของพระเจ้าและพวกแม่ม่ายเข้ามา และให้พวกเขาเห็นว่าโดรคัสฟื้นจากความตายแล้ว
42เรื่องนี้รู้กันไปทั่วเมืองยัฟฟาทำให้มีคนมาไว้วางใจในองค์เจ้าชีวิตเป็นจำนวนมาก
43เปโตรอยู่บ้านของซีโมนช่างฟอกหนังในเมืองยัฟฟาต่อไปอีกหลายวัน
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง)
© 2015 Bible League International
แผนที่, รูปภาพ © 2012-2013 Bible League International
ข้อมูลอื่นๆ ที่เพิ่มเติม © Bible League International
สงวนลิขสิทธิ์