逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระองค์กล่าวดังนี้ “บุตรมนุษย์เอ๋ย เราส่งเจ้าไปยังชาวอิสราเอล ยังบรรดาประชาชาติที่ขัดขืนซึ่งได้ขัดขืนต่อคำบัญชาของเรา ทั้งพวกเขาและบรรพบุรุษของเขาได้กระทำบาปต่อเรามาจนถึงทุกวันนี้
- 新标点和合本 - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆的国民以色列人那里去。他们是悖逆我的,他们和他们的列祖违背我,直到今日。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆我的国家,以色列人那里去,他们是悖逆我的。他们和他们的祖先违背我,直到今日。
- 和合本2010(神版-简体) - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆我的国家,以色列人那里去,他们是悖逆我的。他们和他们的祖先违背我,直到今日。
- 当代译本 - “人子啊,我派你去那背叛我的国民以色列人那里。他们和他们的祖先至今仍背叛我。
- 圣经新译本 - 他对我说:“人子啊!我差派你到以色列人那里去,就是到那背叛我的叛逆国民那里去!他们和他们的列祖都得罪了我,直到今日。
- 现代标点和合本 - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆的国民以色列人那里去。他们是悖逆我的,他们和他们的列祖违背我直到今日。
- 和合本(拼音版) - 他对我说:“人子啊,我差你往悖逆的国民以色列人那里去。他们是悖逆我的,他们和他们的列祖违背我,直到今日。
- New International Version - He said: “Son of man, I am sending you to the Israelites, to a rebellious nation that has rebelled against me; they and their ancestors have been in revolt against me to this very day.
- New International Reader's Version - He said, “Son of man, I am sending you to the people of Israel. That nation has refused to obey me. They have turned against me. They and their people of long ago have been against me to this day.
- English Standard Version - And he said to me, “Son of man, I send you to the people of Israel, to nations of rebels, who have rebelled against me. They and their fathers have transgressed against me to this very day.
- New Living Translation - “Son of man,” he said, “I am sending you to the nation of Israel, a rebellious nation that has rebelled against me. They and their ancestors have been rebelling against me to this very day.
- The Message - He said, “Son of man, I’m sending you to the family of Israel, a rebellious nation if there ever was one. They and their ancestors have fomented rebellion right up to the present. They’re a hard case, these people to whom I’m sending you—hardened in their sin. Tell them, ‘This is the Message of God, the Master.’ They are a defiant bunch. Whether or not they listen, at least they’ll know that a prophet’s been here. But don’t be afraid of them, son of man, and don’t be afraid of anything they say. Don’t be afraid when living among them is like stepping on thorns or finding scorpions in your bed. Don’t be afraid of their mean words or their hard looks. They’re a bunch of rebels. Your job is to speak to them. Whether they listen is not your concern. They’re hardened rebels.
- Christian Standard Bible - He said to me, “Son of man, I am sending you to the Israelites, to the rebellious pagans who have rebelled against me. The Israelites and their ancestors have transgressed against me to this day.
- New American Standard Bible - Then He said to me, “Son of man, I am sending you to the sons of Israel, to a rebellious people who have rebelled against Me; they and their fathers have revolted against Me to this very day.
- New King James Version - And He said to me: “Son of man, I am sending you to the children of Israel, to a rebellious nation that has rebelled against Me; they and their fathers have transgressed against Me to this very day.
- Amplified Bible - And He said to me, “I am sending you, son of man, to the children of Israel, to a rebellious people [in both the north and the south] that have rebelled against Me; they and their fathers have sinned and revolted against Me to this very day.
- American Standard Version - And he said unto me, Son of man, I send thee to the children of Israel, to nations that are rebellious, which have rebelled against me: they and their fathers have transgressed against me even unto this very day.
- King James Version - And he said unto me, Son of man, I send thee to the children of Israel, to a rebellious nation that hath rebelled against me: they and their fathers have transgressed against me, even unto this very day.
- New English Translation - He said to me, “Son of man, I am sending you to the house of Israel, to rebellious nations who have rebelled against me; both they and their fathers have revolted against me to this very day.
- World English Bible - He said to me, “Son of man, I send you to the children of Israel, to a nation of rebels who have rebelled against me. They and their fathers have transgressed against me even to this very day.
- 新標點和合本 - 他對我說:「人子啊,我差你往悖逆的國民以色列人那裏去。他們是悖逆我的,他們和他們的列祖違背我,直到今日。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 他對我說:「人子啊,我差你往悖逆我的國家,以色列人那裏去,他們是悖逆我的。他們和他們的祖先違背我,直到今日。
- 和合本2010(神版-繁體) - 他對我說:「人子啊,我差你往悖逆我的國家,以色列人那裏去,他們是悖逆我的。他們和他們的祖先違背我,直到今日。
- 當代譯本 - 「人子啊,我派你去那背叛我的國民以色列人那裡。他們和他們的祖先至今仍背叛我。
- 聖經新譯本 - 他對我說:“人子啊!我差派你到以色列人那裡去,就是到那背叛我的叛逆國民那裡去!他們和他們的列祖都得罪了我,直到今日。
- 呂振中譯本 - 他對我說:『人子啊,我差遣你去找背叛之國 以色列 人,就是背叛我的:他們和他們的列祖都悖逆了我、直到今天這日子。
- 現代標點和合本 - 他對我說:「人子啊,我差你往悖逆的國民以色列人那裡去。他們是悖逆我的,他們和他們的列祖違背我直到今日。
- 文理和合譯本 - 人子歟、我遣爾詣以色列人、彼乃悖逆之邦、悖逆乎我、彼與列祖、獲罪於我、迄至今日、
- 文理委辦譯本 - 曰、人子、我遣汝至以色列族、彼所行忤逆、自列祖迄今、干犯罪戾、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 諭我曰、人子、我遣爾就 以色列 人、即悖逆之族、悖逆我者、彼與其列祖獲罪於我、迄於今日、
- Nueva Versión Internacional - Me dijo: «Hijo de hombre, te voy a enviar a los israelitas. Es una nación rebelde que se ha sublevado contra mí. Ellos y sus antepasados se han rebelado contra mí hasta el día de hoy.
- 현대인의 성경 - 그는 나에게 이렇게 말씀하셨다. “사람의 아들아, 내가 너를 이스라엘 백성, 곧 나를 배반하는 민족에게 보낸다. 그들은 그 조상들처럼 범죄하여 오늘날까지도 나를 거역하고 있다.
- Новый Русский Перевод - Он сказал: – Сын человеческий, Я посылаю тебя к израильтянам, мятежному народу, который восстал против Меня; они сами и их предки были мятежниками против Меня до этого самого дня.
- Восточный перевод - Он сказал: – Смертный, Я посылаю тебя к народу Исраила, мятежному народу, который восстал против Меня; как их предки, так и они сами бунтуют против Меня до сих пор.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Он сказал: – Смертный, Я посылаю тебя к народу Исраила, мятежному народу, который восстал против Меня; как их предки, так и они сами бунтуют против Меня до сих пор.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Он сказал: – Смертный, Я посылаю тебя к народу Исроила, мятежному народу, который восстал против Меня; как их предки, так и они сами бунтуют против Меня до сих пор.
- La Bible du Semeur 2015 - Il me dit : Fils d’homme, je t’envoie vers les Israélites, vers cette foule de rebelles qui se sont révoltés contre moi. Jusqu’à ce jour, eux et leurs ancêtres se sont soulevés contre moi.
- リビングバイブル - 「人の子よ、あなたをイスラエルの国、すなわち、わたしに反逆している国に遣わす。彼らも、彼らの先祖も、この時までわたしに罪を犯し続けてきた。
- Nova Versão Internacional - Ele disse: “Filho do homem, vou enviá-lo aos israelitas, nação rebelde que se revoltou contra mim; até hoje eles e os seus antepassados têm se revoltado contra mim.
- Hoffnung für alle - »Du Mensch, ich sende dich zu den Israeliten, diesem widerspenstigen Volk, das sich immer wieder gegen mich auflehnt. Schon ihre Vorfahren haben sich von mir abgewandt, und daran hat sich bis heute nichts geändert.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chúa phán: “Hỡi con người, Ta sai con đến với dân tộc Ít-ra-ên, một dân tộc phản loạn đã phản bội chống lại Ta. Chúng và tổ phụ của chúng đã phạm tội với Ta cho đến ngày nay.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระองค์ตรัสว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย เราจะส่งเจ้าไปยังชนชาติอิสราเอล ไปยังชนชาติที่ชอบกบฏซึ่งได้ทรยศเรา เขากับบรรพบุรุษกบฏต่อเราจนถึงทุกวันนี้
交叉引用
- เนหะมีย์ 9:26 - แม้กระนั้น พวกเขาก็ยังดื้อดึงและขัดขืนต่อพระองค์ และหันหลังให้กฎบัญญัติของพระองค์ และฆ่าบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระองค์ ซึ่งได้เตือนพวกเขาให้หันกลับเข้าหาพระองค์ และพวกเขาพูดหมิ่นประมาทมาก
- ลูกา 24:47 - การกลับใจและการยกโทษบาปจะถูกประกาศแก่ชนทุกชาติในพระนามของพระองค์ เริ่มจากเมืองเยรูซาเล็ม
- ลูกา 24:48 - พวกเจ้าเป็นพยานของสิ่งเหล่านี้
- อิสยาห์ 6:8 - ข้าพเจ้าได้ยินเสียงของพระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ “เราจะส่งใครไป และใครจะไปเพื่อเรา” ข้าพเจ้าตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่นี่ โปรดส่งข้าพเจ้าไปเถิด”
- อิสยาห์ 6:9 - พระองค์กล่าวว่า “จงไป และบอกชนชาตินี้ว่า ‘ได้ยินเรื่อยไป แต่ไม่มีวันที่จะเข้าใจ มองดูเรื่อยไป แต่ไม่มีวันที่จะเห็น’
- อิสยาห์ 6:10 - จงทำให้ใจของคนเหล่านี้แข็งกระด้าง หูตึง และปิดตา มิฉะนั้นแล้วตาของเขาจะมองเห็น หูจะได้ยิน และจิตใจของเขาจะเข้าใจ และหันกลับมา และได้รับการรักษาให้หายขาด”
- สดุดี 106:28 - พวกเขาเทียมแอกกับเทพเจ้าบาอัลแห่งเปโอร์ และกินของที่นำไปบูชาสิ่งไม่มีชีวิต
- เอเสเคียล 20:1 - ในวันที่สิบของเดือนห้า ปีที่เจ็ด หัวหน้าชั้นผู้ใหญ่บางคนของอิสราเอลมาถามพระผู้เป็นเจ้า และพวกเขานั่งที่ตรงหน้าข้าพเจ้า
- เอเสเคียล 20:2 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า
- เอเสเคียล 20:3 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจงบอกบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของอิสราเอลว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ‘พวกเจ้ามาหาเราเพื่อจะถามเราหรือ ตราบที่เรามีชีวิตอยู่ฉันใด เราจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้ามาถามเรา’” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 20:4 - “เจ้าจะตัดสินโทษพวกเขาไหม บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจะตัดสินโทษพวกเขาไหม จงบอกให้พวกเขาทราบถึงการกระทำอันน่าชังของบรรพบุรุษของเขา
- เอเสเคียล 20:5 - จงบอกพวกเขาว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ‘ในวันที่เราเลือกอิสราเอล เรายกมือปฏิญาณกับบรรดาผู้สืบเชื้อสายของพงศ์พันธุ์ของยาโคบ และเผยให้พวกเขารู้ในแผ่นดินอียิปต์ เรายกมือและพูดกับพวกเขาดังนี้ “เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเจ้า”
- เอเสเคียล 20:6 - ในวันนั้น เราปฏิญาณกับพวกเขาว่า เราจะนำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ ไปยังดินแดนที่เราได้เลือกให้พวกเขา ซึ่งอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง เป็นดินแดนอันงดงามที่สุด
- เอเสเคียล 20:7 - และเราบอกพวกเขาว่า “จงกำจัดสิ่งอันน่ารังเกียจซึ่งเจ้าเชยชม พวกเจ้าทุกคนจงอย่าทำตนให้มีมลทินด้วยรูปเคารพของอียิปต์ เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเจ้า”
- เอเสเคียล 20:8 - แต่พวกเขาขัดขืน และไม่ยอมเชื่อฟังเรา ไม่มีใครในหมู่พวกเขาทิ้งสิ่งอันน่ารังเกียจที่พวกเขาเชยชม และไม่ละทิ้งรูปเคารพของอียิปต์’ ดังนั้น เรากล่าวว่า เราจะกระหน่ำการลงโทษของเราลงบนพวกเขา และเราจะให้ความกริ้วของเราลงที่พวกเขาในแผ่นดินอียิปต์
- เอเสเคียล 20:9 - แต่เพื่อนามของเรา เรากระทำเพื่อไม่ให้เป็นที่ดูหมิ่นในสายตาของบรรดาประชาชาติที่อาศัยอยู่ในหมู่พวกเขา เราทำให้พวกเขาเห็นว่า เรานำชาวอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์
- เอเสเคียล 20:10 - ดังนั้นเรานำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ และพาไปยังถิ่นทุรกันดาร
- เอเสเคียล 20:11 - เราให้กฎเกณฑ์และคำบัญชาแก่พวกเขา และให้พวกเขารู้ด้วยว่า ถ้าผู้ใดกระทำตาม เขาจะมีชีวิตอยู่
- เอเสเคียล 20:12 - และยิ่งกว่านั้น เราให้พวกเขามีวันสะบาโต เป็นเครื่องเตือนใจระหว่างเรากับพวกเขา เพื่อจะได้รู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้าที่ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์
- เอเสเคียล 20:13 - แต่พงศ์พันธุ์อิสราเอลขัดขืนเราในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาไม่ได้ดำเนินชีวิตตามกฎเกณฑ์ของเรา และไม่ยอมรับคำบัญชาของเรา ซึ่งถ้าผู้ใดกระทำตาม เขาจะมีชีวิตอยู่ พวกเขาดูหมิ่นวันสะบาโตของเรายิ่งนัก เราจึงกล่าวว่า เราจะกระหน่ำการลงโทษของเราลงบนพวกเขาในถิ่นทุรกันดารให้พินาศเสีย
- เอเสเคียล 20:14 - แต่เพื่อนามของเรา เรากระทำเพื่อไม่ให้เป็นที่ดูหมิ่นในสายตาของบรรดาประชาชาติ เราทำให้พวกเขาเห็นว่า เรานำพวกเขาออกมา
- เอเสเคียล 20:15 - และยิ่งกว่านั้น เราปฏิญาณกับพวกเขาในถิ่นทุรกันดารว่า เราจะไม่นำพวกเขาเข้าไปในดินแดนที่เราได้มอบให้แก่พวกเขา ดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง เป็นดินแดนอันงดงามที่สุด
- เอเสเคียล 20:16 - เพราะพวกเขาไม่ยอมรับคำบัญชาของเรา และไม่ดำเนินชีวิตตามกฎเกณฑ์ของเรา และดูหมิ่นวันสะบาโตของเรา เนื่องจากได้มอบใจให้กับรูปเคารพเสียแล้ว
- เอเสเคียล 20:17 - ถึงกระนั้น เราก็ยังมองดูพวกเขาด้วยความสงสาร และไม่ได้กำจัดหรือทำให้พวกเขาสิ้นไปในถิ่นทุรกันดาร
- เอเสเคียล 20:18 - และเรากล่าวกับบุตรหลานของพวกเขาในถิ่นทุรกันดารว่า ‘อย่าดำเนินตามกฎเกณฑ์ของบรรพบุรุษของเจ้า หรือรักษาคำบัญชาของพวกเขา หรือทำตนให้เป็นมลทินด้วยรูปเคารพของพวกเขา
- เอเสเคียล 20:19 - เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเจ้า จงดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเรา และจงระมัดระวังเชื่อฟังคำบัญชาของเรา
- เอเสเคียล 20:20 - และรักษาวันสะบาโตของเราให้บริสุทธิ์เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจระหว่างเรากับพวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้รู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเจ้า’
- เอเสเคียล 20:21 - แต่บรรดาบุตรหลานขัดขืนเรา พวกเขาไม่ได้ดำเนินชีวิตตามกฎเกณฑ์ของเรา และไม่ระมัดระวังเชื่อฟังคำบัญชาของเรา ถ้าผู้ใดกระทำตาม เขาจะมีชีวิตอยู่ แต่พวกเขากลับดูหมิ่นวันสะบาโตของเรา เราจึงกล่าวว่า เราจะกระหน่ำการลงโทษของเราลงบนพวกเขา และเราจะให้ความกริ้วของเราลงที่พวกเขาในถิ่นทุรกันดาร
- เอเสเคียล 20:22 - แต่เรายั้งมือของเราไว้ และเรากระทำเพื่อไม่ให้เป็นที่ดูหมิ่นในสายตาของบรรดาประชาชาติ เราทำให้พวกเขาเห็นว่าเรานำพวกเขาออกมา
- เอเสเคียล 20:23 - และยิ่งกว่านั้น เราปฏิญาณในถิ่นทุรกันดารว่า เราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปในท่ามกลางบรรดาประชาชาติ และกระจายไปยังหลายดินแดน
- เอเสเคียล 20:24 - เพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังคำบัญชาของเรา ไม่ยอมรับกฎเกณฑ์ของเรา และดูหมิ่นวันสะบาโตของเรา และสิ่งที่เขามองเห็นทำให้เกิดกิเลสในรูปเคารพของบรรพบุรุษของพวกเขา
- เอเสเคียล 20:25 - และยิ่งกว่านั้น เราได้ปล่อยให้พวกเขาอยู่ใต้กฎเกณฑ์ที่ไม่ดี และคำบัญชาซึ่งไม่สามารถให้ชีวิตแก่พวกเขาได้
- เอเสเคียล 20:26 - และเราได้ประกาศว่าพวกเขาทำตนเป็นมลทินเพราะของถวายของพวกเขา เมื่อเขาถวายบุตรหัวปีทุกคนเป็นเครื่องสักการะ เราจะทำให้พวกเขาหายนะ เพื่อพวกเขาจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า
- เอเสเคียล 20:27 - ฉะนั้น บุตรมนุษย์เอ๋ย จงบอกพงศ์พันธุ์อิสราเอลว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ ‘บรรพบุรุษของพวกเจ้าหมิ่นประมาทเรา ด้วยการทรยศต่อเรา
- เอเสเคียล 20:28 - เพราะเวลาที่เราได้นำพวกเขาเข้าไปในแผ่นดินที่เราปฏิญาณว่าจะมอบให้ และไม่ว่าที่ไหนก็ตามที่พวกเขาเห็นเนินเขาสูงหรือต้นไม้เขียวชอุ่ม พวกเขาก็ถวายเครื่องสักการะและมอบของถวายซึ่งเป็นการยั่วโทสะเรา ด้วยการมอบเครื่องหอมและเทเครื่องดื่มบูชา
- เอเสเคียล 20:29 - เราพูดกับพวกเขาว่า สถานบูชาบนภูเขาสูงที่พวกเจ้าไปนั้นคืออะไร’ (ที่นั่นมีชื่อว่า บามาห์ มาจนถึงทุกวันนี้)
- เอเสเคียล 20:30 - ฉะนั้น จงบอกพงศ์พันธุ์อิสราเอลว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ‘พวกเจ้าจะทำตนเป็นมลทินตามอย่างบรรพบุรุษของพวกเจ้า และทำตามกิเลสโดยเชื่อสิ่งที่น่ารังเกียจของพวกเขาหรือ
- เอเสเคียล 20:31 - เมื่อพวกเจ้ามอบของถวายและถวายบุตรของตนในไฟ พวกเจ้าทำตนให้เป็นมลทินด้วยรูปเคารพทั้งสิ้นมาจนถึงทุกวันนี้ แล้วเราจะปล่อยให้เจ้าถามเราหรือ โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย ตราบที่เรามีชีวิตอยู่ฉันใด เราจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้ามาถามเรา’” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 20:32 - “พวกเจ้าคิดในใจว่า ‘ให้พวกเราเป็นอย่างบรรดาประชาชาติ อย่างตระกูลของหลายดินแดนที่นมัสการไม้และหิน’ สิ่งที่อยู่ในความคิดของพวกเจ้าจะไม่มีวันเกิดขึ้น”
- เอเสเคียล 20:33 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนี้ว่า “ตราบที่เรามีชีวิตอยู่ฉันใด เราจะเป็นกษัตริย์ปกครองพวกเจ้า ด้วยอานุภาพและพลานุภาพ และด้วยการลงโทษที่หลั่งออก
- เอเสเคียล 20:34 - เราจะนำพวกเจ้าออกมาจากบรรดาชนชาติ และรวบรวมพวกเจ้าจากดินแดนทั้งหลายที่เจ้ากระจัดกระจายไปอยู่ ด้วยอานุภาพและพลานุภาพ และด้วยการลงโทษที่หลั่งออก
- เอเสเคียล 20:35 - และเราจะนำพวกเจ้าเข้าไปในถิ่นทุรกันดารของบรรดาชนชาติ และเราจะลงโทษพวกเจ้าที่นั่นต่อหน้า
- เอเสเคียล 20:36 - เราจะลงโทษพวกเจ้า อย่างที่เราลงโทษบรรพบุรุษของเจ้าในถิ่นทุรกันดารของแผ่นดินอียิปต์” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 20:37 - “เราจะทำให้พวกเจ้าลอดใต้ไม้เท้าของเรา และเราจะให้พวกเจ้าผูกพันกับเราในพันธสัญญา
- เอเสเคียล 20:38 - เราจะกำจัดพวกที่ไม่ยอมอยู่ใต้การปกครองและขัดขืนเราให้ออกไปจากพวกเจ้า เราจะนำพวกเขาออกจากแผ่นดินที่เร่ร่อนไปอาศัยอยู่ แต่จะไม่ได้เข้าไปยังแผ่นดินของอิสราเอล แล้วพวกเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า
- เอเสเคียล 20:39 - ส่วนเจ้าเอง โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวว่า พวกเจ้าทุกคนไปบูชารูปเคารพของตนเอง แต่หลังจากนั้นพวกเจ้าจะฟังเราอย่างแน่นอน เจ้าจะไม่ดูหมิ่นนามอันบริสุทธิ์ของเราด้วยของถวายและรูปเคารพของพวกเจ้าอีกต่อไป”
- เอเสเคียล 20:40 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนี้ว่า “พงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมดจะรับใช้เราบนภูเขาอันบริสุทธิ์ซึ่งเป็นภูเขาสูงในแผ่นดินของอิสราเอล เราจะรับสิ่งที่นำมามอบให้เราที่นั่น และเจ้าต้องนำของถวาย และมอบส่วนที่ดีที่สุด พร้อมกับเครื่องสักการะอันบริสุทธิ์ทั้งสิ้น
- เอเสเคียล 20:41 - เราจะรับพวกเจ้าอย่างเครื่องหอมอันเป็นที่น่าพอใจ เมื่อเรานำเจ้าออกมาจากหลายดินแดน และรวบรวมพวกเจ้าจากบรรดาชนชาติที่เจ้ากระจัดกระจายไปอยู่ และเราจะให้ความบริสุทธิ์ของเราปรากฏในหมู่พวกเจ้า ให้บรรดาประชาชาติเห็น
- เอเสเคียล 20:42 - และพวกเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้าเมื่อเรานำพวกเจ้าเข้าไปในแผ่นดินของอิสราเอลซึ่งเป็นดินแดนที่เราปฏิญาณจะมอบให้แก่บรรพบุรุษของพวกเจ้า
- เอเสเคียล 20:43 - และเจ้าจะนึกถึงความประพฤติและการกระทำของเจ้าทั้งสิ้น ซึ่งได้ทำให้เจ้าเป็นมลทิน และพวกเจ้าจะเกลียดตนเองที่ได้กระทำสิ่งชั่วร้ายทั้งสิ้น
- เอเสเคียล 20:44 - และพวกเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้าเมื่อเรากระทำต่อเจ้าเพื่อนามของเรา มิใช่กระทำต่อเจ้าตามวิถีทางอันชั่วของเจ้า หรือตามความประพฤติอันเสื่อมทรามของเจ้า โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 20:45 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า
- เอเสเคียล 20:46 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงหันหน้าไปทางใต้ เทศนากล่าวโทษดินแดนทางใต้และเผยความกล่าวโทษแดนป่าไม้ในเนเกบ
- เอเสเคียล 20:47 - จงพูดกับแดนป่าไม้ของเนเกบดังนี้ ‘จงฟังคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวว่า ดูเถิด เรากำลังจะก่อไฟในตัวเจ้า และมันจะลุกผลาญต้นไม้ทุกต้นที่ทั้งเขียวชอุ่มและต้นที่แห้ง เปลวไฟที่ลุกโพลงจะไม่ถูกดับ ใบหน้าทุกหน้าจากทิศใต้ถึงทิศเหนือจะถูกไฟลวก
- เอเสเคียล 20:48 - ทุกคนจะเห็นว่า เราผู้เป็นพระผู้เป็นเจ้าได้จุดไฟให้ลุกขึ้น และมันจะไม่ถูกดับ’”
- เอเสเคียล 20:49 - แล้วข้าพเจ้าพูดว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขากำลังพูดถึงข้าพเจ้าว่า ‘เขาเพียงแต่พูดเป็นอุปมาใช่ไหม’”
- เยเรมีย์ 44:21 - “พวกท่านและบรรพบุรุษของท่าน บรรดากษัตริย์และผู้นำของท่าน และประชาชนในแผ่นดินได้เผาเครื่องหอมในเมืองต่างๆ ของยูดาห์และที่ถนนในเยรูซาเล็มนั้น ท่านคิดว่า พระผู้เป็นเจ้าจำไม่ได้และไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นหรือ
- 2 พงศาวดาร 36:15 - พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขาส่งบรรดาผู้นำข่าวของพระองค์ มายังพวกเขาอย่างไม่ลดละ เพราะพระองค์สงสารชนชาติและพระตำหนักของพระองค์
- 2 พงศาวดาร 36:16 - แต่พวกเขาล้อเลียนบรรดาผู้นำข่าวของพระเจ้าเรื่อยไป ดูหมิ่นคำกล่าวของพระองค์ และเยาะเย้ยบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระองค์ จนกระทั่งความโกรธกริ้วของพระผู้เป็นเจ้าพลุ่งขึ้นต่อชนชาติของพระองค์ จนแก้ไขไม่ได้
- เอเสเคียล 16:1 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า
- เอเสเคียล 16:2 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงให้เยรูซาเล็มรู้การกระทำอันน่าชังของตน
- เอเสเคียล 16:3 - จงไปบอกว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวแก่เยรูซาเล็มดังนี้ว่า ‘บรรพบุรุษและแหล่งกำเนิดของพวกเจ้าอยู่ในแผ่นดินของชาวคานาอัน บิดาของเจ้าเป็นชาวอาโมร์ และมารดาของเจ้าเป็นชาวฮิต
- เอเสเคียล 16:4 - วันที่เจ้าเกิด สายสะดือก็ไม่ได้ตัด และเจ้าไม่มีใครใช้น้ำชำระล้างเจ้าให้สะอาด ไม่ได้ใช้เกลือถูตัวหรือพันผ้าให้เจ้า
- เอเสเคียล 16:5 - ไม่มีใครมองดูตัวเจ้าหรือมีเมตตาต่อเจ้าด้วยความสงสารพอที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้เจ้า แต่เจ้ากลับถูกโยนออกไปในทุ่งนากว้าง เพราะวันที่เจ้าเกิด เจ้าถูกดูหมิ่น
- เอเสเคียล 16:6 - เมื่อเราเดินผ่านเจ้า และเห็นเจ้าขยับตัวอยู่ในเมือกเลือด เราพูดกับเจ้าซึ่งอยู่ในเมือกเลือดของเจ้าว่า “จงมีชีวิตเถิด” เราพูดกับเจ้าว่า “จงมีชีวิตเถิด”
- เอเสเคียล 16:7 - เราทำให้เจ้าเติบโตอย่างพืชในทุ่งนา และเจ้าเติบโตขึ้นและเติบใหญ่ กลายเป็นพลอยเม็ดงาม เจ้าถูกบันดาลให้มีหน้าอก และผมของเจ้ายาว แต่เจ้าก็ยังเปลือยกายและไร้เครื่องนุ่งห่ม
- เอเสเคียล 16:8 - เมื่อเราเดินผ่านเจ้าไปอีก ดูเถิด เราแลดูเจ้า และเห็นว่า เจ้ามีอายุที่จะมีความรัก และเรากางชายเสื้อของเราให้เจ้าได้ห่มและปิดกายที่เปลือยของเจ้า เราปฏิญาณกับเจ้าและทำพันธสัญญากับเจ้า และเจ้าก็เป็นของเรา’” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:9 - “แล้วเราใช้น้ำชำระล้างเจ้า ล้างเลือดออก และเจิมน้ำมันให้เจ้า
- เอเสเคียล 16:10 - เราสวมเสื้อให้เจ้าด้วยผ้าปักลวดลาย และสวมรองเท้าหนังให้เจ้า เราให้เจ้านุ่งห่มด้วยผ้าป่านเนื้อดีและคลุมด้วยผ้าไหม
- เอเสเคียล 16:11 - เราตกแต่งตัวเจ้าด้วยเครื่องประดับ และสวมกำไลมือและสร้อยคอให้แก่เจ้า
- เอเสเคียล 16:12 - เราคล้องห่วงที่จมูกและสวมตุ้มหูให้แก่เจ้า อีกทั้งสวมมงกุฎงามบนศีรษะของเจ้า
- เอเสเคียล 16:13 - เจ้าได้รับการตกแต่งด้วยเงินและทองดังกล่าว และเสื้อผ้าของเจ้าเป็นผ้าป่านเนื้อดี ผ้าไหม และผ้าปักลวดลาย เจ้ารับประทานแป้งชั้นเยี่ยม น้ำผึ้ง และน้ำมัน เจ้ากลายเป็นผู้ที่งดงามยิ่งนัก และเลื่อนระดับสู่ความเป็นเจ้าหญิง
- เอเสเคียล 16:14 - กิตติศัพท์ของเจ้าเป็นที่เลื่องลือในบรรดาประชาชาติเพราะความงามของเจ้า เพราะความงามตระการที่เราได้มอบให้แก่เจ้าได้ทำให้เจ้างามอย่างหาที่ติมิได้” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:15 - “แต่ว่าเจ้าวางใจในความงามของเจ้า และทำตนเป็นหญิงแพศยาเพราะเจ้ามีกิตติศัพท์ และแสดงความโปรดปรานแก่ผู้ที่ผ่านมาเพื่อทำให้เขาพอใจ ความงามของเจ้าทำให้เจ้ากลายเป็นของเขา
- เอเสเคียล 16:16 - เจ้าเอาเสื้อผ้าของเจ้าไปจัดสถานบูชาบนภูเขาสูงให้ฉูดฉาด และเป็นที่ซึ่งเจ้ากระทำตนเป็นหญิงแพศยาเรื่อยมา การกระทำเช่นนี้ไม่เคยเป็นมาก่อน และจะไม่มีวันเป็นเช่นนี้อีก
- เอเสเคียล 16:17 - เครื่องประดับเงินและทองคำอันงดงามของเจ้าที่เราให้เจ้า เจ้าเอาไปหล่อเป็นรูปเคารพซึ่งเป็นร่างของผู้ชาย และกระทำตนเป็นหญิงแพศยาต่อรูปเคารพเหล่านั้น
- เอเสเคียล 16:18 - และเจ้าเอาเสื้อผ้าที่ปักลวดลายไปห่มรูปเคารพ และมอบน้ำมันและเครื่องหอมของเราที่ตรงหน้ารูปเคารพ
- เอเสเคียล 16:19 - ขนมปังที่เราให้แก่เจ้า เราให้เจ้ารับประทานแป้งชั้นเยี่ยม น้ำมัน และน้ำผึ้ง เจ้าก็เอาไปมอบให้ที่ตรงหน้าเขาด้วย ให้ส่งกลิ่นหอม นั่นเป็นสิ่งที่เจ้าทำ” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:20 - “เจ้าเอาบุตรชายและบุตรหญิงที่เจ้าได้ให้กำเนิดและมอบให้แก่เราแล้ว เจ้ากลับมอบพวกเขาเป็นเครื่องสักการะดั่งเป็นอาหารสำหรับรูปเคารพ เจ้ากระทำตนเป็นหญิงแพศยาเท่านั้นยังไม่เพียงพออีกหรือ
- เอเสเคียล 16:21 - เจ้าจึงได้ฆ่าลูกๆ ของเรา และมอบให้เป็นของถวายด้วยไฟแก่รูปเคารพ
- เอเสเคียล 16:22 - เมื่อเจ้ากระทำสิ่งอันน่ารังเกียจ และทำตนเป็นหญิงแพศยา เจ้าไม่ได้นึกถึงสมัยที่เจ้ายังเยาว์ ในเวลาที่เจ้าเปลือยกายและปราศจากเครื่องนุ่งห่ม ขยับตัวอยู่ในเมือกเลือดของเจ้า
- เอเสเคียล 16:23 - วิบัติ วิบัติจงเกิดแก่เจ้า” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น “นอกจากความชั่วร้ายทั้งสิ้นของเจ้าแล้ว
- เอเสเคียล 16:24 - เจ้าก่อเนินขึ้นและสร้างวิหารอันตระหง่านที่ลานเมืองทุกแห่ง
- เอเสเคียล 16:25 - ที่หัวถนนทุกแห่ง เจ้าสร้างวิหารอันตระหง่าน และใช้ความงามของเจ้ากระทำสิ่งอันน่าชัง ขายตัวให้แก่ทุกคนที่ผ่านมา และทำตนเป็นหญิงแพศยามากขึ้น
- เอเสเคียล 16:26 - เจ้าทำตนเป็นหญิงแพศยาให้กับชาวอียิปต์ เพื่อนบ้านที่บ้ากาม ทำตนเป็นหญิงแพศยามากขึ้น เพื่อยั่วโทสะเรา
- เอเสเคียล 16:27 - ฉะนั้น ดูเถิด เราจะยื่นมือของเราออกเพื่อลงโทษเจ้า และลดอาณาเขตที่เป็นส่วนแบ่งของเจ้าให้น้อยลง และมอบเจ้าให้แก่ความโลภของศัตรูของเจ้า บรรดาบุตรหญิงของชาวฟีลิสเตียซึ่งอับอายต่อการมักมากในกามของเจ้า
- เอเสเคียล 16:28 - เจ้าทำตนเป็นหญิงแพศยาต่อชาวอัสซีเรียด้วย เพราะเจ้าไม่หนำใจ และแม้แต่จากนั้นแล้ว เจ้าก็ยังไม่หนำใจอีก
- เอเสเคียล 16:29 - เจ้าทำตนเป็นหญิงแพศยามากขึ้นด้วยกับดินแดนพ่อค้าแห่งเคลเดีย และถึงกระนั้นเจ้าก็ไม่หนำใจ”
- เอเสเคียล 16:30 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนี้ว่า “เจ้าช่างใจง่ายอะไรเช่นนี้ เป็นเพราะเจ้ากระทำสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเป็นการกระทำของผู้ที่บ่งบอกว่าเป็นหญิงแพศยา
- เอเสเคียล 16:31 - เมื่อเจ้าก่อเนินขึ้นที่หัวถนนทุกแห่ง และสร้างวิหารอันตระหง่านที่ลานเมืองทุกแห่ง แต่เจ้าไม่เป็นอย่างหญิงแพศยาเพราะเจ้าดูหมิ่นการจ่ายค่าตัว
- เอเสเคียล 16:32 - ภรรยาผู้ผิดประเวณี เจ้าต้อนรับบรรดาคนแปลกหน้าแทนสามีของตน
- เอเสเคียล 16:33 - หญิงแพศยาทุกคนรับค่าบริการ แต่เจ้าให้ของกำนัลแก่คนรักของเจ้าทุกคน ใช้สินบนกับพวกเขาเพื่อให้มาหาเจ้าจากทุกแห่งหนด้วยความแพศยาของเจ้า
- เอเสเคียล 16:34 - ฉะนั้น เจ้าต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ในการทำตนเป็นหญิงแพศยา ไม่มีผู้ใดวิ่งไล่ตามเจ้าและทำตนเป็นหญิงแพศยาต่อเจ้า และเจ้าเองที่เป็นฝ่ายจ่ายค่าจ้าง ในขณะที่ไม่มีใครจ่ายค่าจ้างให้แก่เจ้า เจ้าต่างจากคนอื่นในข้อนี้”
- เอเสเคียล 16:35 - ฉะนั้น โอ หญิงแพศยาเอ๋ย จงฟังคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า
- เอเสเคียล 16:36 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “เพราะเจ้าปล่อยราคะออกมา เปิดกายอันเปลือยเปล่าของเจ้าให้เห็นเมื่อทำตนเป็นหญิงแพศยากับบรรดาคนรักของเจ้า และกับรูปเคารพอันน่ารังเกียจทั้งสิ้นของเจ้า และเพราะเลือดของลูกๆ ของเจ้าที่เจ้าถวายให้แก่รูปเคารพ
- เอเสเคียล 16:37 - ฉะนั้น เราจะรวบรวมบรรดาคนรักทั้งสิ้นของเจ้าที่เจ้าสนุกสนานด้วย ทุกคนที่เจ้ารักและทุกคนที่เจ้าเกลียด เราจะรวบรวมพวกเขาจากทุกแห่งหนเพื่อมากล่าวโทษเจ้า และจะเปลื้องกายของเจ้าต่อหน้าพวกเขา เพื่อให้พวกเขาเห็นความเปลือยเปล่าของเจ้า
- เอเสเคียล 16:38 - และเราจะตัดสินเจ้าให้รับโทษสำหรับผู้หญิงที่ประพฤติผิดประเวณีและเป็นเหตุให้มีการหลั่งเลือด เราจะนำเลือดแห่งการลงโทษและความหวงแหนของเรามาลงที่ตัวเจ้า
- เอเสเคียล 16:39 - และเราจะมอบเจ้าไว้ในมือของบรรดาคู่รักของเจ้า และพวกเขาจะพังเนินและวิหารอันสูงตระหง่านของเจ้าให้ทลายลง พวกเขาจะเปลื้องเสื้อผ้าของเจ้า และเอาเครื่องประดับอันสวยงามของเจ้าไป ปล่อยให้กายของเจ้าเปลือยเปล่า
- เอเสเคียล 16:40 - พวกเขาจะนำฝูงชนมาโจมตีเจ้า พวกเขาจะใช้หินขว้างเจ้า และใช้ดาบฟันให้ขาดเป็นท่อนๆ
- เอเสเคียล 16:41 - พวกเขาจะเผาบ้านเรือนของเจ้า และลงโทษเจ้าต่อหน้าบรรดาผู้หญิง เราจะทำให้เจ้าหยุดทำตนเป็นหญิงแพศยา และเจ้าจะไม่จ่ายค่าจ้างบรรดาคนรักของเจ้าอีกต่อไป
- เอเสเคียล 16:42 - แล้วความกริ้วของเราที่มีต่อเจ้าก็จะสงบลง และความโกรธอันเกิดจากความหวงแหนจะหายไปจากเจ้า เราจะสงบลงและจะไม่โกรธกริ้วเจ้าอีกต่อไป
- เอเสเคียล 16:43 - เพราะเจ้าไม่ได้นึกถึงสมัยที่เจ้ายังเยาว์ แต่ได้ทำให้เรากริ้วด้วยสิ่งเหล่านี้ สิ่งใดที่เจ้าได้กระทำ เจ้าจะได้รับสนองตอบอย่างแน่นอน พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น นอกจากการกระทำที่น่าชังดังกล่าวแล้ว เจ้ายังจะมักมากในกามอีกมิใช่หรือ
- เอเสเคียล 16:44 - ดูเถิด ทุกคนที่ใช้คำในสุภาษิต จะใช้สุภาษิตนี้อ้างถึงเจ้าคือ ‘มารดาเป็นอย่างไร บุตรหญิงก็เป็นอย่างนั้น’
- เอเสเคียล 16:45 - เจ้าเป็นบุตรหญิงของมารดาของเจ้า ซึ่งดูหมิ่นสามีและลูกๆ และเจ้าเป็นหนึ่งในบรรดาพี่น้องผู้หญิงของเจ้า ซึ่งดูหมิ่นสามีและลูกๆ ของพวกเขา มารดาของเจ้าเป็นชาวฮิต และบิดาของเจ้าเป็นชาวอาโมร์
- เอเสเคียล 16:46 - พี่สาวของเจ้าคือสะมาเรีย ซึ่งอาศัยอยู่กับบรรดาบุตรหญิงของนางทางเหนือของเจ้า และน้องสาวของเจ้าอาศัยอยู่ทางใต้ของเจ้า คือโสโดม
- เอเสเคียล 16:47 - เจ้าไม่เพียงดำเนินในวิถีทางของพวกเขา แต่กระทำตามแบบอย่างอันน่ารังเกียจของพวกเขา แต่ในเวลาอันสั้นเจ้าปฏิบัติอย่างเสื่อมทรามยิ่งกว่าพวกเขาในทุกเรื่อง”
- เอเสเคียล 16:48 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนี้ว่า “ตราบที่เรามีชีวิตอยู่ฉันใด โสโดมน้องสาวของเจ้ากับบรรดาบุตรหญิงของนางไม่เคยกระทำอย่างที่เจ้าและบรรดาบุตรหญิงของเจ้าได้กระทำ
- เอเสเคียล 16:49 - ดูเถิด บาปของโสโดมน้องสาวของเจ้าคือ ทั้งนางและบรรดาบุตรหญิงของนางหยิ่งยโส รับประทานเกินขนาด สุขสบายไร้กังวล แต่ไม่ได้ช่วยผู้ขัดสนและผู้ยากไร้
- เอเสเคียล 16:50 - พวกเขาหยิ่งยโสและกระทำสิ่งอันน่ารังเกียจต่อหน้าเรา เราจึงจัดการกับพวกเขาเมื่อเราแลเห็น
- เอเสเคียล 16:51 - สะมาเรียทำบาปไม่ถึงครึ่งของบาปที่เจ้าทำ เจ้าได้กระทำสิ่งอันน่ารังเกียจมากกว่าพวกเขา และเจ้าทำให้พี่น้องผู้หญิงของเจ้าดูเหมือนมีความชอบธรรม เพราะสิ่งเหล่านี้ที่เจ้าได้กระทำ
- เอเสเคียล 16:52 - จงแบกรับความอัปยศของเจ้า เพราะเจ้าได้ช่วยทำให้พี่น้องผู้หญิงของเจ้าพ้นผิด เพราะบาปของเจ้ามีมลทินมากกว่าของพวกเขา พวกเขาจึงดูเหมือนมีความชอบธรรมมากกว่าเจ้า ฉะนั้นเจ้าควรจะอับอายและแบกรับความอัปยศของเจ้า เพราะเจ้าได้ทำให้พี่น้องผู้หญิงของเจ้าดูเหมือนมีความชอบธรรม
- เอเสเคียล 16:53 - เราจะทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของโสโดมและบรรดาบุตรหญิงของนาง และของสะมาเรียและบรรดาบุตรหญิงของนางคืนสู่สภาพเดิม เราจะทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของเจ้าคืนสู่สภาพเดิมในท่ามกลางพวกเขา
- เอเสเคียล 16:54 - เพื่อให้เจ้าแบกรับความอัปยศ และอับอายต่อทุกสิ่งที่เจ้าได้กระทำโดยเป็นที่ปลอบใจของพวกเขา
- เอเสเคียล 16:55 - บรรดาพี่น้องผู้หญิงของเจ้าคือ โสโดมและบรรดาบุตรหญิงของนาง สะมาเรียและบรรดาบุตรหญิงของนาง จะกลับไปสู่สภาพที่พวกเขาเคยเป็นมาก่อน ทั้งตัวเจ้าและบรรดาบุตรหญิงของเจ้าก็จะกลับไปสู่สภาพที่เจ้าเคยเป็นมาก่อน
- เอเสเคียล 16:56 - เจ้าเคยพูดเปรียบเปรยโสโดมน้องสาวของเจ้าในครั้งที่เจ้าหยิ่งยโส
- เอเสเคียล 16:57 - ก่อนที่ความชั่วร้ายของเจ้าถูกเปิดโปง บัดนี้เจ้ากลายเป็นที่ดูหมิ่นของบรรดาบุตรหญิงของเอโดมและประชาชาติรอบข้างนาง และของบรรดาบุตรหญิงของชาวฟีลิสเตีย บรรดาผู้ที่อยู่รอบข้างเจ้าที่ดูหมิ่นเจ้า
- เอเสเคียล 16:58 - เจ้าจะแบกรับโทษของการมักมากในกามและการปฏิบัติสิ่งอันน่าชัง” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 16:59 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “เราจะกระทำต่อเจ้าอย่างที่เจ้าได้กระทำแล้ว เพราะเจ้าดูหมิ่นคำสาบานของเราเมื่อเจ้ายกเลิกพันธสัญญา
- เอเสเคียล 16:60 - แต่เราก็ยังระลึกถึงพันธสัญญาที่เราได้ทำไว้กับเจ้าในครั้งที่เจ้ายังเยาว์ และเราจะทำพันธสัญญาอันชั่วนิรันดร์กับเจ้า
- เอเสเคียล 16:61 - แล้วเจ้าจะระลึกถึงวิถีทางของเจ้าและอับอายเมื่อเจ้ารับพี่น้องผู้หญิงซึ่งมีอายุมากกว่าและอ่อนกว่า เราจะมอบพวกเขาให้เป็นบุตรหญิงแก่เจ้า แต่ไม่ใช่ในฐานะของพันธสัญญาของเราที่มีกับเจ้า
- เอเสเคียล 16:62 - ดังนั้น เราจะทำพันธสัญญากับเจ้า และเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า
- เอเสเคียล 16:63 - และเมื่อเรายกโทษบาปให้แก่เจ้าสำหรับทุกสิ่งที่เจ้าได้กระทำ เจ้าจะระลึกได้และละอายใจ และเจ้าจะไม่มีวันเปิดปากของเจ้าอีกเพราะความอับอายของเจ้า” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 25:3 - เป็นเวลา 23 ปี นับจากปีที่สิบสามของโยสิยาห์บุตรอาโมนกษัตริย์แห่งยูดาห์ จนถึงวันนี้พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้บอกพวกท่านเสมอมา แต่ท่านก็ไม่ฟัง
- เยเรมีย์ 25:4 - ท่านไม่ได้ฟังและไม่แม้แต่จะเงี่ยหูฟัง และแม้ว่าพระผู้เป็นเจ้าส่งบรรดาผู้รับใช้ผู้เป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้ามายังพวกท่าน
- เยเรมีย์ 25:5 - ด้วยการบอกท่านว่า “บัดนี้ พวกเจ้าทุกคนจงกลับใจจากวิถีทางอันชั่วร้าย จากการกระทำความชั่ว และอาศัยอยู่บนแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้าได้มอบให้แก่พวกเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้าตั้งแต่โบราณกาล ไปจนชั่วนิรันดร์
- เยเรมีย์ 25:6 - อย่าไปติดตามปวงเทพเจ้าเพื่อบูชาหรือนมัสการ หรือยั่วโทสะเราด้วยสิ่งที่พวกเจ้าทำขึ้น แล้วเราจะไม่ทำอันตรายแก่พวกเจ้า”
- เยเรมีย์ 25:7 - พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “แต่พวกเจ้าก็ยังไม่ฟังเรา เจ้าก็ยังจะยั่วโทสะเราด้วยสิ่งที่พวกเจ้าทำขึ้นซึ่งเป็นอันตรายต่อพวกเจ้าเอง”
- เยเรมีย์ 26:2 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “จงยืนที่ลานพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และพูดกับประชาชนจากทุกเมืองแห่งยูดาห์ที่มานมัสการในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ให้พวกเขาฟังทุกคำที่เราบัญชาเจ้าให้พูด อย่าเว้นแม้แต่คำเดียว
- เยเรมีย์ 26:3 - พวกเขาอาจจะฟังและหันจากวิถีทางอันชั่วร้าย เราจะได้เปลี่ยนใจเรื่องความวิบัติที่เราตั้งใจจะให้เกิดขึ้นกับพวกเขา เพราะการกระทำอันชั่วร้ายของพวกเขา
- เยเรมีย์ 26:4 - เจ้าจงพูดกับพวกเขาว่า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ ‘ถ้าพวกเจ้าไม่ฟัง ที่เราให้ดำเนินชีวิตตามกฎบัญญัติของเราซึ่งตั้งไว้ให้เจ้าแล้ว
- เยเรมีย์ 26:5 - และให้เจ้าฟังคำของบรรดาผู้รับใช้ผู้เป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า เราส่งพวกเขามายังพวกเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกเจ้าก็ไม่ฟัง
- เยเรมีย์ 26:6 - ฉะนั้นเราจะทำให้ตำหนักนี้เป็นอย่างชิโลห์ และเราจะทำให้เมืองนี้เป็นคำสาปแช่งแก่ประชาชาติทั้งปวงของแผ่นดินโลก’”
- มาระโก 12:2 - เมื่อถึงเวลาเก็บผล เขาใช้คนรับใช้คนหนึ่งไปหาพวกคนเช่าสวน เพื่อรับส่วนปันผลจากคนเช่าสวนบ้าง
- มาระโก 12:3 - พวกคนเช่าสวนจับตัวเขาไว้ ทุบตี แล้วก็ไล่เขากลับไปมือเปล่า
- มาระโก 12:4 - ชายเจ้าของสวนจึงส่งคนรับใช้อีกคนไป พวกเขาก็ทำร้ายที่ศีรษะและลบหลู่เขา
- มาระโก 12:5 - เขาใช้อีกคนไปซึ่งพวกเขาก็ฆ่าเสีย คนอื่นๆ อีกจำนวนมากก็เช่นกัน บ้างก็ถูกเฆี่ยน บ้างก็ถูกฆ่า
- สดุดี 106:16 - พวกเขาอิจฉาโมเสสในค่ายที่พัก และอิจฉาอาโรนคนบริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า
- สดุดี 106:17 - แผ่นดินแยกออกจากกันและกลืนดาธาน และฝังอะบีรามกับพรรคพวกจนมิด
- สดุดี 106:18 - ไฟเผาผลาญคนทั้งกลุ่ม เปลวไฟเผาไหม้คนชั่วเหล่านั้น
- สดุดี 106:19 - พวกเขาปั้นรูปลูกโคขึ้นที่โฮเรบ และบูชารูปเคารพที่ได้หลอมไว้
- สดุดี 106:20 - พวกเขาเอาพระบารมีของพระเจ้า แลกกับรูปปั้นของโคที่กินหญ้า
- สดุดี 106:21 - พวกเขาลืมพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดพ้นของเขา ผู้กระทำสิ่งอันยิ่งใหญ่ในอียิปต์
- เอสรา 9:7 - นับจากสมัยของบรรพบุรุษของเราจนถึงวันนี้ เรามีความผิดที่ยิ่งใหญ่เรื่อยมา และเป็นเพราะการผิดบาปของเรา บรรดากษัตริย์และปุโรหิตของเราจึงถูกมอบไว้ในมือของบรรดากษัตริย์ของแผ่นดินเหล่านั้น ถูกฆ่าฟัน ถูกจับไปเป็นเชลย ถูกริบข้าวของ และถูกเหยียดหยามเป็นที่สุด อย่างทุกวันนี้
- สดุดี 106:32 - พวกเขาทำให้พระองค์กริ้วที่แหล่งน้ำเมรีบาห์ และเป็นเหตุให้โมเสสเดือดร้อน
- สดุดี 106:33 - พวกเขากดดันจิตวิญญาณของพระองค์ ท่านจึงพูดโดยไม่ได้ตรึกตรอง
- สดุดี 106:34 - พวกเขาไม่ได้ทำลายบรรดาชนชาติ ตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้บัญชา
- สดุดี 106:35 - แต่กลับไปใช้ชีวิตร่วมกับบรรดาประชาชาติ และรับวิถีทางของพวกเขามา
- สดุดี 106:36 - อีกทั้งยังได้บูชารูปเคารพของคนเหล่านั้น ซึ่งต่อมาก็คือบ่วงแร้วสำหรับตนเอง
- สดุดี 106:37 - พวกเขายกบุตรชายบุตรหญิงของตนให้เป็น เครื่องสักการะแก่พวกมาร
- สดุดี 106:38 - และฆ่าคนไร้ความผิด เลือดของบุตรชายบุตรหญิงของตน ถูกใช้เป็นเครื่องสักการะให้แก่บรรดารูปเคารพแห่งคานาอัน และแผ่นดินแปดเปื้อนด้วยเลือด
- สดุดี 106:39 - พวกเขาจึงไม่ใช่คนบริสุทธิ์เนื่องจากสิ่งที่ตัวเองกระทำ และความประพฤติของเขาเป็นเช่นของหญิงแพศยา
- สดุดี 106:40 - ฉะนั้น ความโกรธของพระผู้เป็นเจ้าพลุ่งขึ้นต่อชนชาติของพระองค์ และพระองค์ชิงชังผู้สืบมรดกของพระองค์
- เอเสเคียล 23:1 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า
- เอเสเคียล 23:2 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย มีผู้หญิง 2 คนซึ่งเป็นบุตรหญิงของมารดาเดียวกัน
- เอเสเคียล 23:3 - ทั้งสองคนนี้ทำตัวเป็นหญิงใจง่ายในอียิปต์ เขาใจง่ายตั้งแต่วัยสาว อกของนางถูกจับต้องและหน้าอกอันบริสุทธิ์ถูกสัมผัส
- เอเสเคียล 23:4 - หญิงผู้พี่ชื่อโอโฮลาห์ และน้องสาวของนางชื่อโอโฮลีบาห์ ทั้งสองเป็นของเรา และนางทั้งสองให้กำเนิดบุตรชายและบุตรหญิง โอโฮลาห์คือสะมาเรีย และโอโฮลีบาห์คือเยรูซาเล็ม
- เอเสเคียล 23:5 - โอโฮลาห์ทำตนเป็นหญิงใจง่ายขณะที่นางเป็นของเรา และนางต้องตาต้องใจในบรรดาชู้ของนางคือชาวอัสซีเรียผู้เป็นนักรบ
- เอเสเคียล 23:6 - พวกเขาสวมผ้าสีม่วง เป็นบรรดาเจ้าเมืองและผู้บังคับบัญชา ทุกคนล้วนเป็นชายหนุ่มที่พึงปรารถนา และเป็นทหารม้า
- เอเสเคียล 23:7 - นางมอบตนด้วยความใจง่ายให้กับบรรดาผู้ชายที่เลอเลิศของอัสซีเรียทั้งสิ้น และนางเป็นมลทินเพราะนางต้องตาต้องใจในรูปเคารพทั้งหลายของทุกๆ คน
- เอเสเคียล 23:8 - นางไม่เลิกล้มทำตนเป็นหญิงใจง่ายซึ่งได้เริ่มขึ้นในอียิปต์ บรรดาผู้ชายได้นอนกับนางตั้งแต่ครั้งที่นางยังสาว และสัมผัสหน้าอกอันบริสุทธิ์ของนาง และกระทำกลับต่อนางด้วยตัณหาของพวกเขา
- เอเสเคียล 23:9 - ฉะนั้น เรามอบนางไว้ในมือของบรรดาชู้ของนาง ในมือของชาวอัสซีเรียซึ่งนางต้องตาต้องใจด้วย
- เอเสเคียล 23:10 - คนเหล่านั้นเปลื้องกายนาง และจับตัวบุตรชายและบุตรหญิงของนางไป และใช้ดาบฆ่านาง และนางกลายเป็นที่หัวเราะเยาะในหมู่ผู้หญิงหลังจากที่นางถูกตัดสินลงโทษแล้ว
- เอเสเคียล 23:11 - โอโฮลีบาห์น้องของนางเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น นางกลับทำตนเลวยิ่งกว่าพี่สาวของนางในเรื่องตัณหาและการเป็นหญิงใจง่าย
- เอเสเคียล 23:12 - นางต้องตาต้องใจในบรรดาชาวอัสซีเรีย เจ้าเมือง และผู้บังคับบัญชา นักรบที่สวมเกราะป้องกันตัวครบครัน ทหารม้า พวกเขาทุกคนล้วนเป็นชายหนุ่มที่พึงปรารถนา
- เอเสเคียล 23:13 - และเราเห็นว่านางถูกทำให้เป็นมลทิน ทั้งสองคนกระทำตนในวิถีทางเดียวกัน
- เอเสเคียล 23:14 - แต่ความใจง่ายของนางถลำลึกลงยิ่งกว่า นางเห็นรูปพวกผู้ชายที่กำแพง รูปสลักของชาวเคลเดียที่มีโครงร่างเป็นรูปสีแดงสด
- เอเสเคียล 23:15 - มีผ้าคาดเอว ผ้าโพกศีรษะ ทุกคนมีลักษณะเหมือนผู้บังคับการรถศึก คุณลักษณะของชาวบาบิโลนซึ่งมีเคลเดียเป็นถิ่นกำเนิด
- เอเสเคียล 23:16 - เมื่อนางเห็นพวกเขา นางต้องตาต้องใจในพวกเขา และให้บรรดาผู้ส่งข่าวไปหาพวกเขาที่เคลเดีย
- เอเสเคียล 23:17 - และชาวบาบิโลนมาหานางที่เตียงแห่งความรัก และพวกเขาทำให้นางเป็นมลทินด้วยตัณหาของตน และหลังจากที่พวกเขาทำให้นางเป็นมลทินแล้ว นางก็หันไปจากพวกเขาด้วยความขยะแขยง
- เอเสเคียล 23:18 - เมื่อนางกระทำตนเป็นคนใจง่ายต่อไปอย่างเปิดเผยและเปลือยร่างของนาง เราหันไปจากนางด้วยความขยะแขยง เหมือนกับที่เราได้หันไปจากพี่สาวของนางด้วยความขยะแขยง
- เอเสเคียล 23:19 - แม้กระนั้น นางยังกระทำตนเป็นคนใจง่ายมากยิ่งขึ้นในขณะที่นึกถึงวัยสาวของนาง เวลานางทำตัวเป็นหญิงใจง่ายในแผ่นดินอียิปต์
- เอเสเคียล 23:20 - และต้องตาต้องใจในบรรดาชู้ของนางที่นั่น ซึ่งมีเลือดเนื้อเหมือนกับของลา และมีสิ่งไหลออกเหมือนกับของม้า
- เอเสเคียล 23:21 - เจ้าจึงใคร่หาความมักมากในกามของวัยสาวของเจ้าเมื่อชาวอียิปต์สัมผัสหน้าอกของเจ้าและจับต้องอกสาวของเจ้า”
- เอเสเคียล 23:22 - ฉะนั้น โอโฮลีบาห์เอ๋ย พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “ดูเถิด เราจะทำให้บรรดาชู้ของเจ้าที่เจ้าหันจากไปด้วยความขยะแขยงนั้นมาแข็งข้อกับเจ้า เราจะนำพวกเขามาจากทุกทิศเพื่อบุกรุกเจ้า
- เอเสเคียล 23:23 - ชาวบาบิโลนและชาวเคลเดียทั้งหมด ชาวเปโขด โชอา โคอา และชาวอัสซีเรียทั้งหมด ชายหนุ่มที่พึงปรารถนาทั้งหลาย บรรดาเจ้าเมืองและผู้บังคับการรถศึกทุกคน ผู้บังคับการและบรรดาผู้มีชื่อเสียง พวกเขาทุกคนขี่ม้ามา
- เอเสเคียล 23:24 - พวกเขาจะมาบุกรุกเจ้าจากทางเหนือด้วยรถศึก รถพ่วง และคนอีกจำนวนมาก พวกเขาพร้อมที่จะประจันหน้ากับเจ้าในทุกทิศทุกทาง ด้วยเครื่องป้องกันตัว โล่ และหมวกเหล็ก และเราจะมอบสิทธิในการตัดสินโทษแก่พวกเขา พวกเขาจะตัดสินโทษเจ้าตามมาตรฐานของการตัดสินโทษของพวกเขาเอง
- เอเสเคียล 23:25 - เราจะเบนความกริ้วอันเกิดจากความหวงแหนมาที่ตัวเจ้า เพื่อพวกเขาจะกระทำต่อเจ้าด้วยความฉุนเฉียว พวกเขาจะตัดจมูกและหูของเจ้า และบรรดาผู้ที่รอดชีวิตมาได้จะตายด้วยคมดาบ พวกเขาจะจับตัวบรรดาบุตรชายและบุตรหญิงของเจ้า และบรรดาผู้ที่รอดชีวิตมาได้จะถูกไฟเผา
- เอเสเคียล 23:26 - พวกเขาจะเปลื้องเสื้อผ้าของเจ้า และเอาเครื่องประดับอันสวยงามของเจ้าไป
- เอเสเคียล 23:27 - ความมักมากในกามและความใจง่ายที่เจ้าเริ่มมีขึ้นในแผ่นดินอียิปต์นั้น เราจะทำให้ยุติลง เพื่อเจ้าจะไม่ใส่ใจกับมันหรือคิดถึงอียิปต์อีกต่อไป”
- เอเสเคียล 23:28 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “ดูเถิด เราจะมอบเจ้าไว้ในมือของบรรดาผู้ที่เจ้าเกลียดชัง ในมือของบรรดาผู้ที่เจ้าหันจากไปด้วยความขยะแขยง
- เอเสเคียล 23:29 - และพวกเขาจะกระทำต่อเจ้าด้วยความเกลียดชัง และเอาผลจากแรงงานทั้งหมดของเจ้าไป และทิ้งให้เจ้าเปลือยเปล่า และความใจง่ายของเจ้าจะถูกเปิดโปง ความมักมากในกามและความใจง่ายของเจ้านั่นแหละ
- เอเสเคียล 23:30 - ที่ทำให้เจ้ามาถึงจุดนี้ เพราะเจ้าทำตัวเป็นคนใจง่ายกับบรรดาประชาชาติและทำตัวเองให้เป็นมลทินเพราะรูปเคารพของพวกเขา
- เอเสเคียล 23:31 - เจ้าเดินตามวิถีทางของพี่สาวของเจ้า ฉะนั้นเราจะยื่นถ้วยที่เขาใช้ดื่มให้กับเจ้า”
- เอเสเคียล 23:32 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ “เจ้าจะดื่มจากถ้วยของพี่สาวของเจ้า เป็นถ้วยที่ลึกและใหญ่ เจ้าจะถูกหัวเราะเยาะและล้อเลียน เพราะเป็นถ้วยที่บรรจุได้มาก
- เอเสเคียล 23:33 - เจ้าจะเมาไม่สร่างและเศร้าใจ ถ้วยแห่งความพินาศและความวิบัติ เป็นถ้วยของพี่สาวของเจ้า คือสะมาเรีย
- เอเสเคียล 23:34 - เจ้าจะดื่มจนหยดสุดท้าย ไม่เหลือแม้ก้นตะกอน และจะตีอกชกหัว เพราะเราได้กล่าวแล้ว” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 23:35 - ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ “เพราะเจ้าได้ลืมเราแล้ว และหันหลังให้เรา เจ้าจะต้องรับผิดในเรื่องความมักมากในกามและความใจง่ายของเจ้า”
- เอเสเคียล 23:36 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจะตัดสินโทษโอโฮลาห์และโอโฮลีบาห์ไหม จงบอกพวกนางเรื่องการกระทำอันน่าชังทั้งสิ้นของพวกนาง
- เอเสเคียล 23:37 - เพราะพวกนางผิดประเวณี และมือของนางเปื้อนเลือด พวกนางผิดประเวณีกับรูปเคารพ และบรรดาบุตรที่นางให้กำเนิดซึ่งเป็นของเรา นางถึงกับถวายเป็นอาหารให้แก่รูปเคารพ
- เอเสเคียล 23:38 - และยิ่งกว่านั้น สิ่งที่พวกนางได้กระทำต่อเราคือ พวกนางได้ทำให้ที่พำนักของเราเป็นมลทินในวันเดียวกัน และดูหมิ่นวันสะบาโตของเรา
- เอเสเคียล 23:39 - เพราะเมื่อพวกนางได้ฆ่าบุตรของพวกนางเพื่อถวายแก่รูปเคารพ ในวันเดียวกันพวกนางเข้าไปในที่พำนักของเราและดูหมิ่นที่ของเรา นั่นแหละที่พวกนางทำในตำหนักของเรา
- เอเสเคียล 23:40 - นางทั้งสองให้ผู้ส่งข่าวไปยังแดนไกลเพื่อหาผู้ชาย เมื่อพวกเขามาถึง เจ้าก็ชำระตัว เขียนตา สวมเครื่องประดับ
- เอเสเคียล 23:41 - เจ้านั่งบนเตียงหรู และมีโต๊ะวางตรงหน้า ซึ่งเจ้าจัดเครื่องหอมและน้ำมันของเราไว้บนโต๊ะ
- เอเสเคียล 23:42 - คนจำนวนมากที่อยู่กับนางส่งเสียงสนุกสนาน รวมถึงบรรดาผู้ชายจากทุกแห่งหน มีคนเมาเหล้าที่มาจากถิ่นทุรกันดาร พวกเขาสวมกำไลมือให้พวกผู้หญิง และสวมมงกุฎงามบนศีรษะของพวกนาง
- เอเสเคียล 23:43 - แล้วเราพูดถึงผู้หญิงที่เหนื่อยอ่อนจากการผิดประเวณี พวกเขาจะใช้นางดั่งหญิงแพศยา คือรวมทั้งนางด้วย
- เอเสเคียล 23:44 - เพราะพวกเขาได้นอนกับนาง อย่างกับผู้ชายที่ไปหาหญิงโสเภณี พวกเขาเข้าไปหาโอโฮลาห์และโอโฮลีบาห์ ซึ่งเป็นหญิงที่มักมากในกาม
- เอเสเคียล 23:45 - แต่ผู้ชายคนอื่นๆ ที่มีความชอบธรรมจะตัดสินโทษพวกนางในฐานะหญิงล่วงประเวณีและฆ่าคน เพราะพวกเขาเป็นหญิงล่วงประเวณีและมือเปื้อนเลือด”
- เอเสเคียล 23:46 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ “จงนำฝูงชนมาโจมตีพวกนาง และทำให้พวกนางต้องหวาดหวั่นและถูกปล้น
- เอเสเคียล 23:47 - และฝูงชนจะขว้างก้อนหินใส่พวกนาง และใช้ดาบฟันนาง พวกเขาจะฆ่าบรรดาบุตรชายและบุตรหญิงของพวกนาง และเผาบ้านเรือนของพวกนางจนหมดสิ้น
- เอเสเคียล 23:48 - เราจะทำให้ความมักมากในกามยุติลงในแผ่นดิน เพื่อเป็นการเตือนบรรดาผู้หญิงทุกคน และจะได้ไม่ประพฤติตามแบบอย่างของเจ้า
- เอเสเคียล 23:49 - ฝูงชนจะกระทำกลับต่อเจ้าด้วยความมักมากในกาม เจ้าจะแบกรับโทษเพราะบาปในเรื่องรูปเคารพ และเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่”
- เยเรมีย์ 7:2 - “จงยืนที่ประตูพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และประกาศคำกล่าวว่า ชาวยูดาห์ทั้งปวงที่เข้าทางประตู เพื่อนมัสการพระผู้เป็นเจ้า จงฟังคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า”
- กันดารวิถี 32:13 - พระผู้เป็นเจ้ากริ้วอิสราเอลมาก และพระองค์ทำให้พวกเขาต้องพเนจรไปในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลา 40 ปี จนกระทั่งทุกคนในยุคที่ทำความชั่วในสายตาของพระผู้เป็นเจ้าพากันวอดวายหมดแล้ว
- กันดารวิถี 32:14 - และดูเถิด พวกท่านลุกขึ้นมาแทนที่บรรพบุรุษของท่านแล้ว พวกชาติมนุษย์ผู้บาปหนา เพื่อกระตุ้นความโกรธมหันต์ของพระผู้เป็นเจ้าต่ออิสราเอล
- เนหะมีย์ 9:16 - แต่พวกเขาและบรรพบุรุษของเราต่างยโสและดื้อด้าน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:17 - พวกเขาไม่ยอมฟัง และไม่ระลึกถึงสิ่งอัศจรรย์ที่พระองค์กระทำในหมู่พวกเขา แต่หัวดื้อและแต่งตั้งหัวหน้าเพื่อให้นำพวกเขากลับไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระองค์เป็นพระเจ้าพร้อมจะยกโทษ พระองค์มีพระคุณและความสงสาร ไม่โกรธง่าย เปี่ยมด้วยความรักอันมั่นคง และไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา
- เนหะมีย์ 9:18 - แม้เวลาที่พวกเขาได้หล่อรูปลูกโคทองคำ และพูดว่า ‘นี่คือพระเจ้าของพวกเจ้า ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์’ และก็ได้พูดหมิ่นประมาทพระองค์อย่างร้ายแรง
- ยอห์น 20:21 - พระเยซูจึงกล่าวกับพวกเขาอีกว่า “สันติสุขจงอยู่กับพวกเจ้า พระบิดาได้ส่งเรามาเช่นใด เราก็ส่งเจ้าไปเช่นนั้น”
- ยอห์น 20:22 - เมื่อพระองค์กล่าวดังนั้นแล้วก็ระบายลมหายใจใส่พวกเขา และกล่าวว่า “จงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด
- กิจการของอัครทูต 7:51 - พวกคนหัวรั้นเอ๋ย ท่านใจแข็งต่อพระเจ้า ทั้งยังทำหูทวนลม พวกท่านเหมือนกับบรรพบุรุษของท่านที่ไม่เชื่อฟังพระวิญญาณบริสุทธิ์เลย
- โรม 10:15 - และพวกเขาจะประกาศได้อย่างไร นอกจากว่าจะมีผู้ส่งเขาไป ตามที่มีบันทึกไว้ว่า “ดีเหลือเกินที่พวกเขามาพร้อมกับข่าวประเสริฐ”
- เยเรมีย์ 1:7 - แต่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าว่า “อย่าพูดว่า ‘ข้าพเจ้าอายุยังน้อย’ เพราะเจ้าจงไปยังทุกคนที่เราส่งให้เจ้าไป และเจ้าจงพูดสิ่งที่เราสั่งให้เจ้าพูด
- เอเสเคียล 3:4 - และพระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงไปยังพงศ์พันธุ์อิสราเอล และบอกพวกเขาถึงสิ่งที่เราพูด
- เอเสเคียล 3:5 - ด้วยว่า เจ้าไม่ได้ถูกส่งไปยังชนชาติที่ใช้คำพูดของชนต่างชาติและภาษาที่ยาก แต่จะไปยังพงศ์พันธุ์อิสราเอล
- เอเสเคียล 3:6 - ไม่ได้ให้ไปยังหลายชนชาติซึ่งใช้คำพูดของชนต่างชาติและภาษาที่ยาก จึงจะทำให้เจ้าไม่เข้าใจภาษาของเขา แต่เราได้ส่งเจ้าไปยังชนชาติเหล่านั้น พวกเขาก็ควรจะฟังเจ้าอย่างแน่นอน
- เอเสเคียล 3:7 - แต่พงศ์พันธุ์อิสราเอลจะไม่ต้องการฟังเจ้า เพราะพวกเขาไม่ต้องการฟังเรา เพราะพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งปวงหัวรั้นและใจดื้อด้าน
- เอเสเคียล 3:8 - ดูเถิด เราได้ทำให้หน้าของเจ้าขมึงทึงและหัวรั้นเหมือนกับที่พวกเขาเป็น
- กันดารวิถี 20:10 - โมเสสและอาโรนเรียกประชุมกันที่หิน และท่านพูดกับพวกเขาว่า “ท่านพวกแข็งข้อ จงฟังเถิด เราต้องเอาน้ำออกจากหินนี้มาให้พวกท่านหรือ”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:27 - โปรดระลึกถึงบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์คืออับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ขออย่าใส่ใจในความดื้อรั้น ความชั่วร้าย หรือบาปของคนเหล่านี้เลย
- เนหะมีย์ 9:33 - พระองค์ได้ให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นแก่พวกเราด้วยความชอบธรรม เพราะพระองค์รักษาคำมั่นสัญญา ในขณะที่พวกเราได้ประพฤติอย่างชั่วร้าย
- เนหะมีย์ 9:34 - บรรดากษัตริย์ของพวกเรา เหล่าเจ้านาย ปุโรหิต และบรรพบุรุษของพวกเราไม่ได้รักษากฎบัญญัติ และไม่เอาใจใส่ต่อพระบัญญัติและคำสั่งของพระองค์ ซึ่งพระองค์ให้แก่พวกเขา
- เนหะมีย์ 9:35 - แม้พวกเขาจะอยู่ในอาณาจักรของตนเอง มีความสุขท่ามกลางสิ่งดีๆ ที่พระองค์มอบให้ ในแผ่นดินอันกว้างใหญ่และบริบูรณ์ซึ่งพระองค์เตรียมให้ที่ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาก็ยังไม่ได้รับใช้พระองค์ หรือหันจากการกระทำที่ชั่วร้าย
- เยเรมีย์ 16:11 - เจ้าจงบอกพวกเขาว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า เพราะบรรพบุรุษของเจ้าได้ทอดทิ้งเรา และได้ไปติดตามปวงเทพเจ้า ไปบูชาและนมัสการสิ่งเหล่านั้น และได้ทอดทิ้งเราและไม่ได้รักษากฎบัญญัติของเรา
- เยเรมีย์ 16:12 - และเพราะเจ้าได้กระทำเลวร้ายกว่าบรรพบุรุษของเจ้า ดูเถิด พวกเจ้าทุกคนกระทำตามความดื้อรั้น ตามความตั้งใจที่ชั่วร้ายของตน และไม่ยอมฟังเรา
- เยเรมีย์ 36:2 - “จงหยิบหนังสือม้วนมาและเขียนทุกคำที่เราได้พูดกับเจ้าถึงอิสราเอล ยูดาห์ และประชาชาติทั้งปวงนับจากเวลาที่เราเริ่มพูดกับเจ้าในสมัยโยสิยาห์จนถึงเวลานี้
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:17 - เขาเผาบุตรของตนเป็นของถวาย ใช้การทำนายและเวทมนตร์ ปักใจกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเป็นการยั่วโทสะของพระองค์
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:18 - ฉะนั้นพระผู้เป็นเจ้าจึงโกรธกริ้วอิสราเอล และไล่พวกเขาไปให้พ้นหน้าพระองค์ ไม่มีใครเหลืออยู่ นอกจากเผ่ายูดาห์เท่านั้น
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:19 - ส่วนยูดาห์เองก็ไม่รักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา แต่ดำเนินรอยตามสิ่งชั่วที่อิสราเอลได้กระทำ
- 2 พงศ์กษัตริย์ 17:20 - พระผู้เป็นเจ้าปฏิเสธบรรดาผู้สืบเชื้อสายของอิสราเอล และให้พวกเขารับทุกข์ทรมาน และมอบไว้ในมือของเหล่านักปล้นสะดม จนกระทั่งพระองค์ได้ขับไล่พวกเขาไปให้พ้นหน้าพระองค์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:24 - ตั้งแต่วันที่เรารู้จักพวกท่าน พวกท่านก็ขัดขืนพระผู้เป็นเจ้าเสมอมา
- ดาเนียล 9:5 - พวกเรากระทำบาป กระทำผิด ประพฤติอย่างชั่วร้าย และขัดขืน พวกเราได้หันเหไปจากพระบัญญัติและคำสั่งของพระองค์
- ดาเนียล 9:6 - พวกเราไม่ได้เชื่อฟังผู้รับใช้ของพระองค์คือ บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ซึ่งท่านเหล่านั้นได้พูดในพระนามของพระองค์ กับบรรดากษัตริย์ของพวกเรา กับบรรดาผู้นำ บรรพบุรุษ และกับประชาชนทั้งปวงของแผ่นดิน
- ดาเนียล 9:7 - โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์มีความชอบธรรม แต่พวกเรากระทำสิ่งที่น่าอับอายมาจนถึงทุกวันนี้ ปวงชนชาวยูดาห์ ผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็มและอิสราเอลทั้งปวง ทุกคนที่อยู่ใกล้และไกล พระองค์ได้ทำให้พวกเรากระจัดกระจายออกไปในทุกดินแดน ก็เพราะความไม่ภักดีของพวกเราที่มีต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:8 - โอ พระผู้เป็นเจ้า พวกเราและบรรดากษัตริย์ของเรา บรรดาผู้นำและบรรพบุรุษของเราต้องอับอายเพราะพวกเราได้กระทำบาปต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:9 - พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรากอปรด้วยความเมตตาและการให้อภัย แม้ว่าพวกเราจะขัดขืนต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:10 - และพวกเราไม่ได้เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราในการดำเนินตามกฎบัญญัติของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้มอบให้แก่พวกเราผ่านบรรดาผู้รับใช้ คือผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า
- ดาเนียล 9:11 - ชาวอิสราเอลทั้งปวงได้ละเมิดกฎบัญญัติของพระองค์ ฝ่าฝืนและไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์ ฉะนั้นคำสาปแช่งและคำปฏิญาณที่เขียนไว้ในกฎบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้า จึงตกอยู่กับพวกเราเพราะเราได้ทำบาปต่อพระองค์
- ดาเนียล 9:12 - พระองค์ให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นตามที่พระองค์กล่าวไว้ว่าจะเกิดขึ้นกับพวกเราและผู้ที่ปกครองพวกเรา ด้วยการนำความวิบัติมาสู่พวกเรา สิ่งที่เกิดขึ้นกับเยรูซาเล็มไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนภายใต้ฟ้าสวรรค์
- ดาเนียล 9:13 - อย่างที่เขียนไว้ในกฎบัญญัติของโมเสส ความวิบัติเช่นนั้นเกิดขึ้นกับพวกเรา แต่พวกเราก็ไม่ได้ทำสิ่งซึ่งเป็นที่พอใจของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา ด้วยการหยุดทำบาป และเอาใจใส่ในความจริงของพระองค์
- 1 ซามูเอล 8:7 - พระผู้เป็นเจ้าจึงกล่าวกับท่านว่า “จงฟังทุกสิ่งที่ประชาชนพูดกับเจ้า พวกเขาไม่ได้ปฏิเสธเจ้า แต่ปฏิเสธเราว่า เราไม่ใช่กษัตริย์ของพวกเขา
- 1 ซามูเอล 8:8 - พวกเขากำลังกระทำต่อเจ้าเหมือนอย่างที่พวกเขาได้กระทำมาแล้ว นับจากวันที่เรานำพวกเขาออกมาจากประเทศอียิปต์จนกระทั่งวันนี้ เขาทอดทิ้งเรา และไปบูชาบรรดาเทพเจ้า
- เยเรมีย์ 3:25 - ให้พวกเรานอนลงกับความอับอายของเราเถิด และให้ความอัปยศปกคลุมพวกเรา เพราะพวกเราและบรรพบุรุษของเราได้ทำบาปต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา ตั้งแต่ครั้งโบราณกาลมาจนถึงบัดนี้ และพวกเราไม่ได้เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา