旧约
- ปฐมกาลปฐมกาล
- อพยพอพยพ
- เลวีนิติเลวีนิติ
- กันดารวิถีกันดารวิถี
- เฉลยธรรมบัญญัติเฉลยธรรมบัญญัติ
- โยชูวาโยชูวา
- ผู้วินิจฉัยผู้วินิจฉัย
- รูธรูธ
- 1 ซามูเอล1 ซามูเอล
- 2 ซามูเอล2 ซามูเอล
- 1 พงศ์กษัตริย์1 พงศ์กษัตริย์
- 2 พงศ์กษัตริย์2 พงศ์กษัตริย์
- 1 พงศาวดาร1 พงศาวดาร
- 2 พงศาวดาร2 พงศาวดาร
- เอสราเอสรา
- เนหะมีย์เนหะมีย์
- เอสเธอร์เอสเธอร์
- โยบโยบ
- สดุดีสดุดี
- สุภาษิตสุภาษิต
- ปัญญาจารย์ปัญญาจารย์
- เพลงซาโลมอนเพลงซาโลมอน
- อิสยาห์อิสยาห์
- เยเรมีย์เยเรมีย์
- เพลงคร่ำครวญเพลงคร่ำครวญ
- เอเสเคียลเอเสเคียล
- ดาเนียลดาเนียล
- โฮเชยาโฮเชยา
- โยเอลโยเอล
- อาโมสอาโมส
- โอบาดีห์โอบาดีห์
- โยนาห์โยนาห์
- มีคาห์มีคาห์
- นาฮูมนาฮูม
- ฮาบากุกฮาบากุก
- เศฟันยาห์เศฟันยาห์
- ฮักกัยฮักกัย
- เศคาริยาห์เศคาริยาห์
- มาลาคีมาลาคี
新约
- มัทธิวมัทธิว
- มาระโกมาระโก
- ลูกาลูกา
- ยอห์นยอห์น
- กิจการของอัครทูตกิจการของอัครทูต
- โรมโรม
- 1 โครินธ์1 โครินธ์
- 2 โครินธ์2 โครินธ์
- กาลาเทียกาลาเทีย
- เอเฟซัสเอเฟซัส
- ฟีลิปปีฟีลิปปี
- โคโลสีโคโลสี
- 1 เธสะโลนิกา1 เธสะโลนิกา
- 2 เธสะโลนิกา2 เธสะโลนิกา
- 1 ทิโมธี1 ทิโมธี
- 2 ทิโมธี2 ทิโมธี
- ทิตัสทิตัส
- ฟีเลโมนฟีเลโมน
- ฮีบรูฮีบรู
- ยากอบยากอบ
- 1 เปโตร1 เปโตร
- 2 เปโตร2 เปโตร
- 1 ยอห์น1 ยอห์น
- 2 ยอห์น2 ยอห์น
- 3 ยอห์น3 ยอห์น
- ยูดายูดา
- วิวรณ์วิวรณ์
圣经版本
设置
显示节号
显示标题
显示脚注
逐节分段
อิสราเอลสารภาพบาป
1ในวันที่ยี่สิบสี่ของเดือนนี้ ประชาชนอิสราเอลอดอาหาร และนุ่งห่มด้วยผ้ากระสอบ และมาชุมนุมกัน มีฝุ่นผงบนศีรษะ
2ชาวอิสราเอลแยกตนออกจากชาวต่างชาติ และยืนสารภาพบาปทั้งของตนและของบรรพบุรุษ
3เขาทั้งหลายยืนขึ้นอ่านจากหนังสือกฎบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา นานถึง 3 ชั่วโมง จากนั้นก็สารภาพและนมัสการพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขาอีก 3 ชั่วโมง
4ชาวเลวีที่ยืนบนขั้นบันไดคือ เยชูอา บานี ขัดมีเอล เช-บานิยาห์ บุนนี เชเรบิยาห์ บานี และเคนานี และพวกเขาร้องเสียงดังต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา
5เยชูอา ขัดมีเอล บานี ฮาชับเนยาห์ เชเรบิยาห์ โฮดียาห์ เช-บานิยาห์ และเปธาหิยาห์ ซึ่งเป็นชาวเลวี ก็พูดว่า “จงลุกขึ้นยืน และสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน จากนิรันดร์กาลจนถึงนิรันดร์กาล สรรเสริญพระนามอันยิ่งใหญ่ ซึ่งได้รับการยกย่องเหนือพระพรและคำสรรเสริญทั้งปวง
6พระองค์คือพระผู้เป็นเจ้า พระองค์เพียงผู้เดียว พระองค์ได้สร้างฟ้าสวรรค์ สวรรค์อันสูงสุดพร้อมด้วยหมู่ดาวทั้งปวง แผ่นดินโลกและทุกสิ่งที่อยู่ในนั้น ทะเลและทุกสิ่งที่มีอยู่ในที่เหล่านั้น พระองค์ให้ชีวิตแก่สิ่งทั้งปวง และหมู่ดาวก็นมัสการพระองค์
7พระองค์คือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้เลือกอับราม และนำท่านออกไปจากเมืองเออร์ของชาวเคลเดีย และตั้งชื่อท่านว่า อับราฮัม
8พระองค์พบว่าท่านมีใจภักดี ณ เบื้องหน้าพระองค์ และทำพันธสัญญากับท่าน เพื่อมอบดินแดนของชาวคานาอัน ชาวฮิต ชาวอาโมร์ ชาวเปริส ชาวเยบุส และชาวเกอร์กาช ให้แก่ผู้สืบเชื้อสายของท่าน และพระองค์ได้รักษาคำสัญญา เพราะพระองค์มีความชอบธรรม
9และพระองค์เห็นความทุกข์ทรมานของบรรพบุรุษของเราในอียิปต์ และได้ยินเสียงร้องของพวกเขาที่ทะเลแดง
10และแสดงปรากฏการณ์และสิ่งมหัศจรรย์ต่อต้านฟาโรห์และบรรดาผู้รับใช้ และประชาชนทั้งปวงในแผ่นดินของเขา เพราะพระองค์ทราบว่า พวกเขาประพฤติด้วยความยโสต่อบรรพบุรุษของเรา และพระองค์ทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่เลื่องลือ อย่างที่เป็นมาจนถึงทุกวันนี้
11และพระองค์ทำให้ทะเลแยกออกจากกันต่อหน้าพวกเขา เพื่อให้พวกเขาผ่านน้ำทะเลไปได้บนพื้นดินแห้ง และพระองค์เหวี่ยงพวกที่ตามล่าให้จมลงในน้ำลึก ดั่งก้อนหินที่จมดิ่งลงในกระแสน้ำอันแรงกล้า
12พระองค์นำพวกเขาในตอนกลางวันในรูปลักษณ์ของเมฆก้อนมหึมาดั่งเสาหลัก และในตอนกลางคืนในรูปลักษณ์ของเพลิงไฟขนาดมหึมาดั่งเสาหลัก เพื่อส่องสว่างนำพวกเขาให้เดินตามทางที่ควรจะไป
13พระองค์ลงมาบนภูเขาซีนาย และกล่าวแก่พวกเขาจากท้องฟ้า และให้การตัดสินที่ถูกต้อง กฎบัญญัติที่แท้ กฎเกณฑ์และพระบัญญัติที่ดีแก่พวกเขา
14และพระองค์ให้พวกเขาทราบถึงวันสะบาโตอันบริสุทธิ์ของพระองค์ และบัญชาพวกเขาในเรื่องพระบัญญัติ กฎเกณฑ์ และกฎบัญญัติ ผ่านทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์
15เมื่อพวกเขาหิว พระองค์ก็ให้อาหารตกลงมาจากฟ้าแก่พวกเขา เมื่อพวกเขากระหาย พระองค์ก็ให้น้ำไหลออกมาจากหิน และพระองค์บัญชาพวกเขาให้เข้าไปยึดครองแผ่นดินที่พระองค์ได้ปฏิญาณว่าจะมอบให้แก่พวกเขา
16แต่พวกเขาและบรรพบุรุษของเราต่างยโสและดื้อด้าน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์
17พวกเขาไม่ยอมฟัง และไม่ระลึกถึงสิ่งอัศจรรย์ที่พระองค์กระทำในหมู่พวกเขา แต่หัวดื้อและแต่งตั้งหัวหน้าเพื่อให้นำพวกเขากลับไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระองค์เป็นพระเจ้าพร้อมจะยกโทษ พระองค์มีพระคุณและความสงสาร ไม่โกรธง่าย เปี่ยมด้วยความรักอันมั่นคง และไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา
18แม้เวลาที่พวกเขาได้หล่อรูปลูกโคทองคำ และพูดว่า ‘นี่คือพระเจ้าของพวกเจ้า ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์’ และก็ได้พูดหมิ่นประมาทพระองค์อย่างร้ายแรง
19พระองค์มีความเมตตายิ่งนัก และไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขาในถิ่นทุรกันดาร เมฆก้อนมหึมาดั่งเสาหลักนำทางล่วงหน้าพวกเขาในตอนกลางวันไม่ได้ห่างไปจากพวกเขา เพลิงไฟขนาดมหึมาดั่งเสาหลักในตอนกลางคืน เพื่อส่องความสว่างช่วยให้พวกเขาเดินตามทางที่ควรจะไป
20พระองค์ประทานพระวิญญาณประเสริฐของพระองค์เพื่อสอนพวกเขา และไม่ขยักมานาของพระองค์จากปากของพวกเขา และให้น้ำแก่พวกเขาเมื่อกระหาย
21พระองค์ช่วยพวกเขาให้อยู่รอดในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาไม่ขาดเหลือสิ่งใด เสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่ไม่ฉีกขาด และเท้าก็ไม่บวม
22พระองค์มอบบรรดาอาณาจักรและประชาชาติให้แก่พวกเขา และพระองค์จัดเขตที่ดินอันแสนไกลให้ด้วย พวกเขาจึงยึดแผ่นดินของสิโหนกษัตริย์แห่งเฮชโบน และแผ่นดินของโอกกษัตริย์แห่งบาชาน
23พระองค์เพิ่มบุตรหลานมากมายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าให้แก่พวกเขา พระองค์นำพวกเขาไปในแผ่นดินที่พระองค์ได้บอกแก่บรรพบุรุษ เพื่อให้เข้าไปยึดครอง
24ดังนั้นบรรดาผู้สืบเชื้อสายจึงเข้าไปยึดครองแผ่นดิน และพระองค์ทำให้บรรดาผู้อยู่อาศัยในแผ่นดินคานาอันพ่ายแพ้ต่อหน้าเขาทั้งปวง และมอบไว้ในมือของพวกเขา รวมทั้งบรรดากษัตริย์และประชาชนของแผ่นดิน และกระทำต่อคนเหล่านั้นตามที่ต้องการ
25พวกเขายึดเมืองต่างๆ ที่คุ้มกันไว้อย่างแข็งแกร่ง และแผ่นดินอันอุดม และยึดบ้านเรือนซึ่งมีข้าวของเครื่องใช้พร้อม บ่อก็ขุดไว้แล้ว สวนองุ่น สวนมะกอก และต้นไม้ชนิดมีผลจำนวนมาก ดังนั้น พวกเขารับประทานอย่างอิ่มหนำ ได้สุขสำราญกับความประเสริฐเลิศล้ำของพระองค์
26แม้กระนั้น พวกเขาก็ยังดื้อดึงและขัดขืนต่อพระองค์ และหันหลังให้กฎบัญญัติของพระองค์ และฆ่าบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระองค์ ซึ่งได้เตือนพวกเขาให้หันกลับเข้าหาพระองค์ และพวกเขาพูดหมิ่นประมาทมาก
27ฉะนั้นพระองค์มอบพวกเขาไว้ในมือของพวกศัตรูซึ่งกดขี่ข่มเหง และในเวลาที่พวกเขาทนทุกข์ พวกเขาก็ร่ำร้องต่อพระองค์ และพระองค์ได้ยินจากฟ้าสวรรค์ และเนื่องจากความเมตตาเป็นล้นพ้นของพระองค์ พระองค์มอบบรรดาผู้ช่วยให้พ้นภัยแก่พวกเขาให้พ้นจากมือของพวกศัตรู
28แต่หลังจากที่บรรพบุรุษมีโอกาสได้พักชั่วครู่ พวกเขาก็กระทำสิ่งชั่วร้ายต่อหน้าพระองค์อีก พระองค์ปล่อยพวกเขาไว้ในมือของพวกศัตรู จนต้องตกอยู่ใต้การปกครองของเหล่าศัตรูด้วย เมื่อพวกเขาหันมาและร้องต่อพระองค์ พระองค์ได้ยินจากสวรรค์ และเนื่องจากความเมตตาของพระองค์ พระองค์ก็ช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นไปได้หลายครั้ง
29พระองค์เตือนพวกเขาเพื่อให้กลับมาปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระองค์ แต่พวกเขาก็ยังยโส และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ แต่กลับทำผิดต่อคำบัญชาของพระองค์ ถ้าผู้ใดกระทำตาม ผู้นั้นก็จะมีชีวิต และพวกเขาหันหลังให้พระองค์ และดื้อด้านไม่ยอมเชื่อฟัง
30เป็นเวลาหลายปีที่พระองค์ทนต่อพวกเขา และเตือนพวกเขาผ่านทางบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าด้วยพระวิญญาณของพระองค์ แต่พวกเขาก็ยังไม่เงี่ยหูฟัง ฉะนั้นพระองค์จึงมอบพวกเขาไว้ในมือของประชาชาติในแผ่นดิน
31แม้กระนั้น พระองค์ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาจบชีวิตลง หรือทอดทิ้งพวกเขา เนื่องจากพระองค์มีความเมตตายิ่งนัก พระองค์เป็นพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณและความเมตตา
32ฉะนั้น บัดนี้ พระเจ้าของพวกเรา พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ พร้อมด้วยอานุภาพและน่าเกรงขาม พระองค์รักษาพันธสัญญาและความรักอันมั่นคง ขอพระองค์อย่าเห็นว่าความลำบากทั้งสิ้นที่เกิดขึ้นกับพวกเรา กับบรรดากษัตริย์ เหล่าเจ้านาย ปุโรหิต ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า บรรพบุรุษ และกับชนชาติทั้งปวงของพระองค์ เป็นสิ่งเล็กน้อยเลย นับตั้งแต่สมัยกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย มาจนถึงทุกวันนี้
33พระองค์ได้ให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นแก่พวกเราด้วยความชอบธรรม เพราะพระองค์รักษาคำมั่นสัญญา ในขณะที่พวกเราได้ประพฤติอย่างชั่วร้าย
34บรรดากษัตริย์ของพวกเรา เหล่าเจ้านาย ปุโรหิต และบรรพบุรุษของพวกเราไม่ได้รักษากฎบัญญัติ และไม่เอาใจใส่ต่อพระบัญญัติและคำสั่งของพระองค์ ซึ่งพระองค์ให้แก่พวกเขา
35แม้พวกเขาจะอยู่ในอาณาจักรของตนเอง มีความสุขท่ามกลางสิ่งดีๆ ที่พระองค์มอบให้ ในแผ่นดินอันกว้างใหญ่และบริบูรณ์ซึ่งพระองค์เตรียมให้ที่ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาก็ยังไม่ได้รับใช้พระองค์ หรือหันจากการกระทำที่ชั่วร้าย
36ดูเถิด พวกเราเป็นทาสในวันนี้ ในแผ่นดินที่พระองค์มอบให้แก่บรรพบุรุษของเราเพื่อได้รับผลประโยชน์และสิ่งดีๆ จากแผ่นดิน ดูเถิด พวกเราเป็นทาส
37ผลเก็บเกี่ยวที่ได้รับอย่างอุดมสมบูรณ์ก็ตกถึงมือของกษัตริย์ ผู้ที่พระองค์ประสงค์ให้ปกครองเหนือพวกเรา เนื่องจากบาปของเรา พวกเขาควบคุมทั้งตัวเราและสัตว์เลี้ยงตามใจปรารถนาของพวกเขา พวกเราจึงเป็นทุกข์ยิ่งนัก
38เป็นเพราะสิ่งดังกล่าวนี้ พวกเราจึงเขียนคำสัญญาเป็นข้อผูกมัด มีชื่อของเหล่าเจ้านาย ชาวเลวี และปุโรหิตของพวกเรากำกับไว้
New Thai Version Foundation