逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “ชาวฟีลิสเตียทำตัวเป็นศัตรูกับยูดาห์มาตลอดตั้งแต่สมัยโบราณ พวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น และได้ทำการแก้แค้นอย่างโหดเหี้ยม ด้วยจิตใจที่มุ่งร้ายหมายทำลาย”
- 新标点和合本 - 主耶和华如此说:“因非利士人向犹大人报仇,就是以恨恶的心报仇雪恨,永怀仇恨,要毁灭他们,
- 和合本2010(上帝版-简体) - “主耶和华如此说:因非利士人报仇,就是心存轻蔑报仇;他们永怀仇恨,意图毁灭,
- 和合本2010(神版-简体) - “主耶和华如此说:因非利士人报仇,就是心存轻蔑报仇;他们永怀仇恨,意图毁灭,
- 当代译本 - “主耶和华说,‘非利士人心存仇恨,为了报世仇要毁灭犹大,
- 圣经新译本 - 主耶和华这样说:“因为非利士人向犹大人报仇雪恨,心存轻蔑报仇雪恨,他们永远怀恨,要毁灭犹大,
- 现代标点和合本 - “主耶和华如此说:因非利士人向犹大人报仇,就是以恨恶的心报仇雪恨,永怀仇恨,要毁灭他们,
- 和合本(拼音版) - 主耶和华如此说:“因非利士人向犹大人报仇,就是以恨恶的心报仇雪恨,永怀仇恨,要毁灭他们。
- New International Version - “This is what the Sovereign Lord says: ‘Because the Philistines acted in vengeance and took revenge with malice in their hearts, and with ancient hostility sought to destroy Judah,
- New International Reader's Version - The Lord and King says, “Deep down inside them, the Philistines hated Judah. So the Philistines tried to get even with them. They had been Judah’s enemies for many years. So they tried to destroy them.”
- English Standard Version - “Thus says the Lord God: Because the Philistines acted revengefully and took vengeance with malice of soul to destroy in never-ending enmity,
- New Living Translation - “This is what the Sovereign Lord says: The people of Philistia have acted against Judah out of bitter revenge and long-standing contempt.
- The Message - “God, the Master, says: Because the Philistines were so spitefully vengeful—all those centuries of stored-up malice!—and did their best to destroy Judah, therefore I, God, the Master, will oppose the Philistines and cut down the Cretans and anybody else left along the seacoast. Huge acts of vengeance, massive punishments! When I bring vengeance, they’ll realize that I am God.”
- Christian Standard Bible - “‘This is what the Lord God says: Because the Philistines acted in vengeance and took revenge with deep contempt, destroying because of their perpetual hatred,
- New American Standard Bible - ‘This is what the Lord God says: “Because the Philistines have acted in revenge, and have taken vengeance with malice in their souls to destroy with everlasting hostility,”
- New King James Version - ‘Thus says the Lord God: “Because the Philistines dealt vengefully and took vengeance with a spiteful heart, to destroy because of the old hatred,”
- Amplified Bible - ‘Thus says the Lord God, “Because the Philistines have acted revengefully and have taken vengeance [contemptuously] with malice in their hearts to destroy with everlasting hostility and hatred,”
- American Standard Version - Thus saith the Lord Jehovah: Because the Philistines have dealt by revenge, and have taken vengeance with despite of soul to destroy with perpetual enmity;
- King James Version - Thus saith the Lord God; Because the Philistines have dealt by revenge, and have taken vengeance with a despiteful heart, to destroy it for the old hatred;
- New English Translation - “This is what the sovereign Lord says: ‘The Philistines have exacted merciless revenge, showing intense scorn in their effort to destroy Judah with unrelenting hostility.
- World English Bible - “‘The Lord Yahweh says: “Because the Philistines have taken revenge, and have taken vengeance with contempt of soul to destroy with perpetual hostility;”
- 新標點和合本 - 主耶和華如此說:「因非利士人向猶大人報仇,就是以恨惡的心報仇雪恨,永懷仇恨,要毀滅他們,
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 「主耶和華如此說:因非利士人報仇,就是心存輕蔑報仇;他們永懷仇恨,意圖毀滅,
- 和合本2010(神版-繁體) - 「主耶和華如此說:因非利士人報仇,就是心存輕蔑報仇;他們永懷仇恨,意圖毀滅,
- 當代譯本 - 「主耶和華說,『非利士人心存仇恨,為了報世仇要毀滅猶大,
- 聖經新譯本 - 主耶和華這樣說:“因為非利士人向猶大人報仇雪恨,心存輕蔑報仇雪恨,他們永遠懷恨,要毀滅猶大,
- 呂振中譯本 - 『永恆主這麼說: 非利士 人 對 猶大 人 既行了報仇的事,既 滿 心懷着輕蔑之意而報仇,以永存的仇恨心要毁滅 他們 ,
- 現代標點和合本 - 「主耶和華如此說:因非利士人向猶大人報仇,就是以恨惡的心報仇雪恨,永懷仇恨,要毀滅他們,
- 文理和合譯本 - 主耶和華曰、非利士人心存蔑視、而行報復、從其永憾、圖滅我民、
- 文理委辦譯本 - 主耶和華曰、非利士人藏匿舊怨、中心叵測、以害我民、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 主天主如是云、 非利士 人攻我民、狂傲復仇、欲翦滅之、乃從其舊恨、
- Nueva Versión Internacional - «Así dice el Señor omnipotente: Los filisteos se vengaron con alevosía; con profundo desprecio intentaron destruir a Judá por causa de una antigua enemistad.
- 현대인의 성경 - “나 주 여호와가 말한다. 블레셋 사람들이 옛날부터 복수하고자 앙심을 품고 악의와 적대감으로 유다를 멸망시키려고 하였다.
- Новый Русский Перевод - Так говорит Владыка Господь: – Филистимляне были мстительными; они мстили из-за злобы в сердце и стремились погубить Иуду по давней вражде.
- Восточный перевод - Так говорит Владыка Вечный: – Филистимляне были мстительными; они мстили из-за злобы в сердце и стремились погубить Иудею по давней вражде.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Так говорит Владыка Вечный: – Филистимляне были мстительными; они мстили из-за злобы в сердце и стремились погубить Иудею по давней вражде.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Так говорит Владыка Вечный: – Филистимляне были мстительными; они мстили из-за злобы в сердце и стремились погубить Иудею по давней вражде.
- La Bible du Semeur 2015 - Voici ce que déclare le Seigneur, l’Eternel : Puisque les Philistins ont agi par vengeance, et qu’ils se sont vengés, le cœur plein de mépris, au point de tout détruire dans leur haine ancestrale,
- リビングバイブル - 神である主はこう語ります。「ペリシテ人は昔からユダに恨みを抱き、復讐の念に燃えて攻めて来た。
- Nova Versão Internacional - “Assim diz o Soberano, o Senhor: Uma vez que a Filístia agiu por vingança e com maldade no coração e, com antiga hostilidade, buscou destruir Judá,
- Hoffnung für alle - »So spricht Gott, der Herr: Auch die Philister haben sich grausam an meinem Volk gerächt. Voller Hass und Verachtung wollten sie ihre Erzfeinde vernichten.
- Kinh Thánh Hiện Đại - “Đây là điều Chúa Hằng Hữu Chí Cao phán: Người Phi-li-tin đã báo thù với lòng nham hiểm và khinh miệt vì chuyện ghen ghét cũ để tiêu diệt Giu-đa.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - “พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า ‘เนื่องจากชาวฟีลิสเตียอาฆาตและแก้แค้นด้วยใจชั่วร้าย และมุ่งทำลายยูดาห์เพราะเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่โบราณ
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวว่า เพราะฟีลิสเตียแก้แค้นด้วยจิตใจที่มุ่งร้าย ต้องการทำให้ยูดาห์พินาศและเป็นอริกันอย่างไม่จบสิ้น
- Thai KJV - องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เพราะว่าคนฟีลิสเตียได้กระทำอย่างแก้แค้น และทำการแก้แค้นด้วยใจคิดร้ายหมายทำลาย เพราะเกลียดชังแต่หนหลัง
交叉引用
- สดุดี 83:7 - คนเกบาล คนอัมโมน คนอามาเลค คนฟีลิสเตีย และชาวเมืองไทระ”
- 1 พงศาวดาร 7:21 - ลูกชายของทาหัทคือศาบาด ลูกชายของศาบาดคือชูเธลาห์ และลูกชายคนอื่นของเอฟราอิมก็คือเอเซอร์และเอเลอัด
- 1 ซามูเอล 4:1 - แล้วข่าวคราวเกี่ยวกับซามูเอลก็ได้แผ่กระจายไปทั่วอิสราเอล เอลีแก่มากแล้ว ลูกทั้งสองของเขาก็ยังคงทำสิ่งที่ชั่วร้ายทั้งหลายต่อหน้าพระยาห์เวห์
- 1 ซามูเอล 4:2 - ชาวฟีลิสเตียได้จัดทหารเพื่อออกไปสู้รบกับอิสราเอล และเมื่อการรบเริ่มขึ้น คนอิสราเอลก็พ่ายแพ้คนฟีลิสเตีย และถูกฆ่าตายไปประมาณสี่พันคนในสนามรบนั้น
- 1 ซามูเอล 4:3 - เมื่อทหารที่เหลือกลับมาที่ค่าย ผู้นำอาวุโสของอิสราเอลทั้งหลายก็พูดกันว่า “ทำไมพระยาห์เวห์ปล่อยให้พวกเราพ่ายแพ้ชาวฟีลิสเตียในวันนี้ ให้พวกเราไปเอาหีบแห่งข้อตกลงของพระยาห์เวห์มาจากชิโลห์กันเถิด เพื่อว่าหีบนั้นจะได้ไปกับพวกเรา และจะได้ช่วยพวกเราให้พ้นจากมือของศัตรู”
- 1 ซามูเอล 4:4 - พวกเขาจึงส่งคนไปชิโลห์ เพื่อนำหีบแห่งข้อตกลงของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นผู้ซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์ระหว่างทูตสวรรค์เครูบ ลูกชายทั้งสองของเอลี คือโฮฟนี และฟีเนหัสก็อยู่ที่นั่นกับหีบข้อตกลงของพระเจ้า
- 1 ซามูเอล 4:5 - เมื่อหีบข้อตกลงของพระยาห์เวห์มาถึงค่าย คนอิสราเอลทั้งหมดก็ได้โห่ร้องเสียงดังจนแผ่นดินสะเทือน
- 1 ซามูเอล 4:6 - เมื่อชาวฟีลิสเตียได้ยินก็ถามกันว่า “ค่ายคนฮีบรู โห่ร้องตะโกนเรื่องอะไรกัน”
- เศคาริยาห์ 9:5 - เมืองอัชเคโลน จะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับไทระและจะกลัว เมืองกาซาก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เหมือนกัน และจะดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เมืองเอโครนก็จะดิ้นทุรนทุรายเหมือนกัน เพราะความคาดหวังของเธอเหือดแห้งไปเสียแล้ว จะไม่มีกษัตริย์ในกาซาอีกแล้ว และอัชเคโลนก็จะไม่มีผู้คนอาศัยอีกต่อไป
- เศคาริยาห์ 9:6 - พวกลูกผสมจะมาอาศัยอยู่ในอัชโดด และเราจะทำลายความเย่อหยิ่งจองหองของคนฟีลิสเตียให้หมดไป
- เศคาริยาห์ 9:7 - เราจะเอาเนื้อที่ยังมีเลือดติดอยู่ออกจากปากของเขา เราจะเอาของที่น่าขยะแขยงออกจากซี่ฟันของเขา และคนฟีลิสเตียที่ยังเหลืออยู่จะเป็นของพระเจ้าของเรา พวกเขาจะมีฐานะเหมือนกับตระกูลหนึ่งของยูดาห์และชาวเอโครนจะเป็นเหมือนคนเยบุส
- เศคาริยาห์ 9:8 - เราจะตั้งค่ายที่วิหารของเราเหมือนเป็นเมืองหน้าด่าน เราจะคอยป้องกันไม่ให้คนบุกรุกเข้ามา และผู้กดขี่จะไม่มีวันได้เข้ามาข่มเหงพวกเขาอีกต่อไป เพราะตอนนี้เรากำลังเฝ้าดูอยู่ด้วยตาของเราเอง
- 1 ซามูเอล 13:1 - เมื่อซาอูลขึ้นเป็นกษัตริย์ เขามีอายุ … ปี และเขาได้ปกครองอิสราเอลอยู่เป็นเวลา … สองปี
- 1 ซามูเอล 13:2 - ซาอูลเลือกผู้ชายอิสราเอลมาสามพันคน ให้สองพันคนอยู่กับเขาที่มิคมาช และในเขตเทือกเขาของเบธเอล ส่วนอีกหนึ่งพันคนให้อยู่กับโยนาธานที่เมืองกิเบอาห์ในเขตแดนของเบนยามิน คนที่เหลือนอกจากนั้นเขาก็ปล่อยให้กลับบ้านตัวเอง
- 1 ซามูเอล 13:3 - โยนาธานได้โจมตีกองหน้าของฟีลิสเตียที่เกบา และคนฟีลิสเตียก็ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาพูดว่า “คนอิสราเอลก่อการกบฏแล้ว”
- 1 ซามูเอล 13:4 - คนอิสราเอลทั้งหมดจึงได้ยินข่าวว่า “ซาอูลได้ตีกองหน้าของฟีลิสเตียที่เกบา คราวนี้แหละคนฟีลิสเตียจะเหม็นขี้หน้าคนอิสราเอลแน่”
- 1 ซามูเอล 13:5 - คนฟีลิสเตียได้รวมพลกันเพื่อสู้รบกับอิสราเอล พวกเขามีรถรบสามพัน คัน และทหารม้าหกพันคน และมีทหารมากมายเหมือนกับทรายที่ชายฝั่งทะเล พวกเขาขึ้นไปตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาช ทางทิศตะวันออกของเบธาเวน
- 1 ซามูเอล 13:6 - เมื่อคนอิสราเอลเห็นว่า พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน และกองทัพของพวกเขาก็ถูกกดดันอย่างหนัก พวกเขาจึงซ่อนตัวอยู่ตามถ้ำ ตามพงไม้ ตามซอกหิน ตามอุโมงค์ และตามบ่อเก็บน้ำ
- 1 ซามูเอล 13:7 - คนฮีบรูบางคนถึงกับข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปที่เมืองกาดและกิเลอาด ส่วนซาอูลยังคงอยู่ที่กิลกาลและกองทหารทั้งหมดที่อยู่กับเขาต่างกลัวจนตัวสั่น
- 1 ซามูเอล 13:8 - ซาอูลได้เฝ้าคอยอยู่เจ็ดวัน ตามเวลาที่ซามูเอลได้กำหนดไว้ แต่ซามูเอลก็ไม่ได้มาที่กิลกาล และประชาชนที่อยู่กับซาอูลก็เริ่มกระจัดกระจายไป
- 1 ซามูเอล 13:9 - ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “เอาเครื่องเผาบูชา และเครื่องสังสรรค์บูชามาให้เรา” และซาอูลก็ได้ถวายเครื่องเผาบูชา
- 1 ซามูเอล 13:10 - ทันทีที่ซาอูลถวายเครื่องเผาบูชาเสร็จสิ้นลง ซามูเอลก็มาถึง ซาอูลจึงออกไปต้อนรับเขา
- 1 ซามูเอล 13:11 - ซามูเอลถามว่า “ท่านได้ทำอะไรลงไป”
- 1 ซามูเอล 13:12 - เราคิดว่า ‘ตอนนี้คนฟีลิสเตียจะลงมาต่อสู้กับเราที่กิลกาล และเราก็ยังไม่ได้ขอให้พระยาห์เวห์ช่วยเหลือ ดังนั้นเราจึงฝืนใจถวายเครื่องเผาบูชาเอง’”
- 1 ซามูเอล 13:13 - ซามูเอลพูดว่า “ท่านได้ทำสิ่งที่โง่ๆลงไปแล้ว ท่านไม่ได้ทำตามคำสั่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่านได้สั่งท่านไว้ ถ้าท่านได้ทำตาม พระองค์จะก่อตั้งอาณาจักรของท่านเหนือคนอิสราเอลตลอดไป
- 1 ซามูเอล 13:14 - แต่ ตอนนี้ อาณาจักรของท่านจะไม่ยั่งยืนอีกแล้ว พระยาห์เวห์ได้ค้นหาผู้ชายอีกคนหนึ่งที่จะทำตามใจพระองค์ และได้แต่งตั้งเขาให้เป็นผู้นำประชาชนของพระองค์แล้ว เพราะท่านไม่ได้รักษาคำสั่งของพระยาห์เวห์”
- 2 ซามูเอล 8:1 - ต่อมา ดาวิดได้ชัยชนะเหนือชาวฟีลิสเตียและทำให้พวกนั้นอยู่ใต้บังคับ และได้ยึดเมืองเมเธก-ฮัมมาห์ที่ชาวฟีลิสเตียเคยครอบครองอยู่
- 2 ซามูเอล 8:2 - ดาวิดยังเอาชนะชาวโมอับ และได้บังคับให้คนโมอับนอนราบไปกับพื้นดิน และแบ่งพวกเขาออกมาเป็นแถวๆตามความยาวของเชือกเส้นหนึ่ง คนในสองแถวแรกที่ถูกเชือกแบ่งออกมาจะถูกฆ่าตายหมด ส่วนแถวที่สามจะได้รับการไว้ชีวิต ดังนั้น ชาวโมอับจึงกลายเป็นทาสของดาวิดและยอมส่งส่วย ให้เขา
- 2 ซามูเอล 8:3 - ดาวิดได้รบชนะฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์เมืองโศบาห์ ลูกชายของเรโหบ ตอนที่ดาวิดไปตั้งอนุสาวรีย์ ให้กับตนเองที่ลุ่มแม่น้ำยูเฟรติส
- 2 ซามูเอล 8:4 - ดาวิดได้ยึดรถม้าศึกหนึ่งพันคัน คนขับรถม้าศึกเจ็ดพันคน และทหารเดินเท้าสองหมื่นคน ดาวิดได้ตัดเส้นเอ็นที่ขาของพวกม้าทั้งหมด ยกเว้นม้าหนึ่งร้อยตัวสำหรับรถรบ
- 2 ซามูเอล 8:5 - ชาวอารัมจากเมืองดามัสกัสได้มาช่วยฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์เมืองโศบาห์รบ แต่ดาวิดได้ฆ่าพวกเขาตายไปสองหมื่นสองพันคน
- 2 ซามูเอล 8:6 - ดาวิดส่งทหารขึ้นไปประจำป้อมในเมืองดามัสกัสของชาวอารัม และชาวอารัมก็กลายเป็นทาสของเขาและส่งส่วยให้เขา พระยาห์เวห์ได้ให้ชัยชนะกับดาวิดในทุกๆที่ที่เขาไป
- 2 ซามูเอล 8:7 - ดาวิดยึดเอาโล่ทองคำที่ทหารของกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ถือ และขนพวกมันกลับไปไว้ที่เมืองเยรูซาเล็ม
- 2 ซามูเอล 8:8 - กษัตริย์ดาวิดได้ยึดเอาทองสัมฤทธิ์ที่ได้มาจากเมืองเทบาห์ และเมืองเบโรธัยที่เคยเป็นของกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ ไว้เป็นจำนวนมาก
- 2 ซามูเอล 8:9 - เมื่อโทอิกษัตริย์เมืองฮามัทได้ยินว่าดาวิดเอาชนะกองทัพทั้งหมดของกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ได้
- 2 ซามูเอล 8:10 - เขาได้ส่งโยรัม ลูกชายของเขาไปพบดาวิด เพื่อถามทุกข์สุขดาวิดและแสดงความยินดีกับดาวิดที่รบชนะกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ เพราะกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์เคยทำสงครามกับกษัตริย์โทอิอยู่บ่อยๆ โยรัมนำของขวัญที่ทำจากเงิน ทองและทองสัมฤทธิ์ไปให้กับดาวิดด้วย
- 2 ซามูเอล 8:11 - กษัตริย์ดาวิดได้อุทิศของเหล่านั้นให้พระยาห์เวห์ เหมือนกับที่เขาเคยอุทิศเงินและทองที่ยึดมาได้จากชาติต่างๆที่เขาเคยไปปราบปรามมา
- 2 ซามูเอล 8:12 - คือ เอโดม โมอับ ชาวอัมโมน ชาวฟีลิสเตีย และชาวอามาเลค ในทำนองเดียวกัน ดาวิดก็ได้อุทิศของที่ยึดมาได้จากฮาดัดเอเซอร์ กษัตริย์เมืองโศบาห์ลูกชายของเรโหบ ให้กับพระเจ้าด้วย
- 2 ซามูเอล 8:13 - หลังจากที่ดาวิดกลับมาจากการโจมตีชาวเอโดมหนึ่งหมื่นแปดพันคนในหุบเขาเกลือแล้ว เขาก็มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้น
- 2 ซามูเอล 8:14 - ดาวิดได้ให้กองทหารเข้าประจำการอยู่ตามป้อมต่างๆทั่วเมืองเอโดม และชาวเมืองเอโดมทั้งหมดก็ตกเป็นทาสของดาวิด พระยาห์เวห์ได้ให้ชัยชนะกับดาวิดในทุกๆที่ที่เขาไป
- 2 ซามูเอล 8:15 - ดาวิดได้ปกครองทั่วทั้งอิสราเอล เขาได้ให้ความยุติธรรมและความถูกต้องกับประชาชนทั้งหมดของเขา
- 2 ซามูเอล 8:16 - โยอาบลูกชายของนางเศรุยาห์ได้เป็นแม่ทัพ เยโฮชาฟัทลูกชายอาหิลูดเป็นผู้จดบันทึกเหตุการณ์
- 2 ซามูเอล 8:17 - ศาโดกลูกชายอาหิทูบและอาหิเมเลคลูกชายอาบียาธาร์เป็นนักบวช เสไรอาห์เป็นเลขา
- 2 ซามูเอล 8:18 - เบไนยาห์ลูกชายเยโฮยาดาเป็นผู้ควบคุมชาวเคเรธีและชาวเปเลท และบรรดาลูกชายของดาวิดเป็นที่ปรึกษากษัตริย์
- 1 ซามูเอล 17:1 - ขณะที่คนฟีลิสเตียรวบรวมพล เพื่อทำสงครามที่โสโคห์ในยูดาห์ พวกเขาได้ตั้งค่ายอยู่ที่เอเฟสดัมมิม ซึ่งอยู่ระหว่างโสโคห์และอาเซคาห์
- 1 ซามูเอล 17:2 - ซาอูลและคนอิสราเอลก็รวมพลตั้งค่ายอยู่ในหุบเขาเอลาห์ และวางแนวเตรียมสู้รบกับคนฟีลิสเตีย
- 1 ซามูเอล 17:3 - คนฟีลิสเตียยึดภูเขาลูกหนึ่ง ส่วนคนอิสราเอลก็ยึดภูเขาอีกลูกหนึ่ง โดยมีหุบเขาคั่นกลางพวกเขา
- 1 ซามูเอล 17:4 - มีทหารฝีมือเยี่ยมคนหนึ่งชื่อโกลิอัท ซึ่งมาจากเมืองกัท เขาสูงหกศอกหนึ่งคืบ เขาออกมานอกค่ายฟีลิสเตีย
- 1 ซามูเอล 17:5 - โกลิอัทสวมหมวกทองสัมฤทธิ์ไว้บนหัว และใส่เกราะทองสัมฤทธิ์น้ำหนักห้าสิบเจ็ดกิโลกรัม
- 1 ซามูเอล 17:6 - ที่ขาก็ใส่สนับแข้งทองสัมฤทธิ์ และมีหลาว ทองสัมฤทธิ์ไขว้หลังอยู่
- 1 ซามูเอล 17:7 - เขามีหอกที่ด้ามใหญ่พอๆกับไม้ที่ใช้ทอผ้า ซึ่งมีหัวหอกทำจากเหล็กหนักเจ็ดกิโลกรัม และมีทหารถือโล่ของเขาเดินนำหน้าเขาไป
- 1 ซามูเอล 17:8 - โกลิอัทยืนตะโกนใส่พวกทหารของอิสราเอลว่า “พวกเจ้าทั้งหลายออกมาตั้งแนวรบอยู่ทำไม ข้าไม่ใช่คนฟีลิสเตียหรอกหรือ และพวกเจ้าไม่ใช่ผู้รับใช้ของซาอูลหรือ เลือกชายคนหนึ่งลงมาสู้กับข้าหน่อย
- 1 ซามูเอล 17:9 - ถ้าเขามีฝีมือและฆ่าข้าได้ พวกเราจะยอมเป็นทาสของคนอิสราเอล แต่ถ้าข้าชนะและฆ่าเขาได้ คนอิสราเอลก็จะกลายเป็นทาสและรับใช้พวกเรา”
- 1 ซามูเอล 17:10 - แล้วโกลิอัทก็พูดว่า “วันนี้ข้าขอท้าให้กองทัพอิสราเอลหาคนมาสู้กับข้า”
- 1 ซามูเอล 17:11 - เมื่อซาอูลและคนอิสราเอลทั้งหมดได้ยินคำพูดของคนฟีลิสเตียคนนั้น ต่างก็กลัวและท้อแท้
- 1 ซามูเอล 17:12 - ดาวิดเป็นลูกชายของเจสซีคนเอฟราธาห์ ผู้มาจากเบธเลเฮมในยูดาห์ เจสซีมีลูกชายแปดคน และในช่วงที่ซาอูลปกครอง เจสซีเองก็แก่มากแล้ว
- 1 ซามูเอล 17:13 - ลูกชายคนโตสามคนของเขาตามซาอูลไปสงคราม คนแรกชื่อเอลีอับ คนที่สองชื่ออาบีนาดับ และคนที่สามชื่อชัมมาห์
- 1 ซามูเอล 17:14 - ดาวิดเป็นน้องคนสุดท้อง พี่ชายทั้งสามได้ตามซาอูลไปรบ
- 1 ซามูเอล 17:15 - แต่ดาวิดก็จะไปๆมาๆจากซาอูลเป็นครั้งคราว เพื่อไปช่วยเลี้ยงฝูงแกะของพ่อที่เบธเลเฮม
- 1 ซามูเอล 17:16 - โกลิอัทออกมายืนท้าทายอยู่ทุกเช้าเย็นเป็นเวลาสี่สิบวัน
- 1 ซามูเอล 17:17 - วันหนึ่ง เจสซีพูดกับดาวิดลูกชายเขาว่า “รีบเอาข้าวคั่วประมาณยี่สิบสองลิตร และขนมปังสิบก้อน ไปให้พวกพี่ชายของเจ้าที่ค่าย
- 1 ซามูเอล 17:18 - และให้เอาเนยแข็งสิบก้อนนี้ไปให้ผู้บังคับกองพันของพวกพี่ชายเจ้าด้วย ไปดูสิว่าพวกพี่ชายเจ้าเป็นยังไง แล้วให้เอาของจากพวกเขาติดมือเจ้ามาด้วยเพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาสบายดี
- 1 ซามูเอล 17:19 - เพราะพวกพี่ชายเจ้าอยู่กับซาอูลและคนอิสราเอลอื่นๆในหุบเขาเอลาห์ เพื่อสู้รบกับคนฟีลิสเตีย”
- 1 ซามูเอล 17:20 - ตอนเช้ามืด ดาวิดก็ทิ้งแกะไว้ให้ผู้เลี้ยงแกะ แล้วบรรทุกข้าวของทั้งหมดออกเดินทางตามที่เจสซีบอก เขาถึงค่ายในขณะที่พวกทหารกำลังออกไปสู่แนวรบ และกำลังโห่ร้องทำศึก
- 1 ซามูเอล 17:21 - อิสราเอลและฟีลิสเตียต่างยกออกมาประจันหน้ากัน
- 1 ซามูเอล 17:22 - ดาวิดได้ฝากข้าวของของเขาไว้กับคนคุมเสบียง แล้ววิ่งไปหาพวกพี่ชายของเขาในแนวรบ
- 1 ซามูเอล 17:23 - ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น โกลิอัทนักรบฝีมือกล้าของฟีลิสเตียจากเมืองกัท ก็ออกมาจากกองทัพของฟีลิสเตีย ตะโกนท้ารบอย่างครั้งก่อน ดาวิดเองก็ได้ยิน
- 1 ซามูเอล 17:24 - เมื่อคนอิสราเอลเห็นโกลิอัทก็พากันวิ่งหนีด้วยความกลัว
- 1 ซามูเอล 17:25 - คนอิสราเอลพูดกันว่า “เห็นชายที่ออกมานั้นหรือเปล่า เขามาท้ารบกับคนอิสราเอล ถ้าใครฆ่าเขาได้ กษัตริย์ซาอูลจะให้ทรัพย์สินเงินทองมากมาย และยกลูกสาวของท่านให้แต่งงานด้วย แล้วครอบครัวของเขาก็ยังจะได้รับการยกเว้นภาษีในอิสราเอลอีกด้วย”
- 1 ซามูเอล 17:26 - ดาวิดถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆเขาว่า “คนที่ฆ่าคนฟีลิสเตียคนนี้ได้ และเอาความอัปยศอดสูนี้ไปจากคนอิสราเอลได้ จะได้อะไรเป็นรางวัลหรือ แล้วคนฟีลิสเตียที่ไม่ได้เข้าพิธีขลิบคนนี้เป็นใครกัน ถึงกล้ามาท้ารบกับกองทัพของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่”
- 1 ซามูเอล 17:27 - พวกเขาก็ตอบดาวิดเหมือนกับที่พวกเขาได้บอกไปแล้ว “ผู้ที่ฆ่าโกลิอัทคนฟีลิสเตียนี้ได้ จะได้รับรางวัลอย่างที่พูดไปนั่นแหละ”
- 1 ซามูเอล 17:28 - ฝ่ายเอลีอับพี่ชายคนโตของดาวิด เมื่อได้ยินสิ่งที่ดาวิดพูดกับพวกทหาร เขาก็โกรธดาวิด และถามว่า “เจ้าลงมาที่นี่ทำไม ทิ้งแกะไม่กี่ตัวนั้นไว้ในถิ่นแห้งแล้งกับใคร เรารู้ดีถึงความอวดดีของเจ้า และความคิดชั่วของเจ้า ที่เจ้าลงมานี่ก็แค่อยากจะมาดูเขาสู้รบกัน”
- 1 ซามูเอล 17:29 - ดาวิดตอบว่า “อ้าว ผมทำอะไรผิดหรือ แค่ถามก็ไม่ได้หรือ”
- 1 ซามูเอล 17:30 - แล้วดาวิดก็หันไปถามคนอื่นด้วยคำถามเดิมๆ แล้วคนเหล่านั้นก็ตอบเหมือนที่เคยบอกไปแล้ว
- 1 ซามูเอล 17:31 - มีคนได้ยินเรื่องที่ดาวิดพูด แล้วไปรายงานต่อซาอูล ซาอูลก็เลยเรียกดาวิดมาพบ
- 1 ซามูเอล 17:32 - ดาวิดพูดกับซาอูลว่า “อย่าปล่อยให้ผู้คนต้องเสียขวัญและกำลังใจกับเรื่องของชาวฟีลิสเตียคนนี้ ให้ผู้รับใช้ของท่านคนนี้ออกไปสู้กับมันเถอะ”
- 1 ซามูเอล 17:33 - ซาอูลตอบว่า “เจ้าออกไปสู้กับคนฟีลิสเตียคนนั้นไม่ได้หรอก เจ้าเป็นแค่เด็กหนุ่ม คนหนึ่งเท่านั้น แต่เขาเป็นชายที่ชำนาญศึกมาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มๆ”
- 1 ซามูเอล 17:34 - แต่ดาวิดตอบซาอูลว่า “ข้าพเจ้า ผู้รับใช้ของท่านคนนี้ เคยดูแลแกะให้กับพ่อของข้าพเจ้า เมื่อมีสิงโตหรือหมีมาจับแกะไปจากฝูง
- 1 ซามูเอล 17:35 - ข้าพเจ้าก็ไล่ตามไปช่วยชีวิตแกะจากปากของมัน เมื่อสัตว์พวกนั้นย้อนกลับมา ข้าพเจ้าก็ดึงหนวดเครามัน แล้วฆ่ามันเสีย
- 1 ซามูเอล 17:36 - ข้าพเจ้าเคยฆ่าทั้งสิงโตและหมี ส่วนคนฟีลิสเตียที่ไม่ได้เข้าพิธีขลิบคนนี้ ก็จะเป็นเหมือนกับสัตว์พวกนั้น เพราะเขาได้ท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่
- 1 ซามูเอล 17:37 - พระยาห์เวห์ได้ช่วยกู้ข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากเขี้ยวเล็บสิงโตและหมี พระองค์ก็จะช่วยกู้ข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของคนฟีลิสเตียคนนี้ด้วยเหมือนกัน”
- 1 ซามูเอล 17:38 - จากนั้นซาอูลก็เอาเสื้อของเขามาสวมให้กับดาวิดและเอาหมวกทองสัมฤทธิ์มาใส่ไว้บนหัวของดาวิด และยังให้เสื้อคลุมชุดเกราะกับเขาอีกด้วย
- 1 ซามูเอล 17:39 - ดาวิดเอาดาบของซาอูลมาคาดทับเสื้อคลุมแล้วลองเดินดู เพราะไม่ชินกับพวกมัน แล้วดาวิดพูดกับซาอูลว่า “ข้าพเจ้าใส่ชุดพวกนี้ไม่ได้หรอก เพราะข้าพเจ้าไม่ชินกับพวกมัน” เขาจึงถอดพวกมันออก
- 1 ซามูเอล 17:40 - จากนั้นดาวิดก็หยิบไม้เท้ามาถือ แล้วเลือกลูกหินเกลี้ยงๆมาห้าก้อนจากลำธารแห้ง แล้วเอาใส่ไว้ในถุงที่ใช้เลี้ยงแกะของเขา กับถือสลิงในมือของเขา เพื่อไปพบคนฟีลิสเตีย
- 1 ซามูเอล 17:41 - ชาวฟีลิสเตียคนนั้นได้เดินเข้ามาใกล้ดาวิด โดยมีคนถือโล่ของเขาเดินนำหน้า
- 1 ซามูเอล 17:42 - เขามองดูดาวิดและดูถูก เพราะเห็นเป็นแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง มีผิวแดง และหน้าตาหล่อเหลา
- 1 ซามูเอล 17:43 - คนฟีลิสเตียพูดกับดาวิดว่า “ข้าเป็นหมาหรือยังไง เจ้าถึงได้ถือไม้มาหาข้า” และเขายังอ้างชื่อพวกพระของเขาแช่งด่าดาวิด
- 1 ซามูเอล 17:44 - เขาพูดว่า “มานี่มา ข้าจะเอาเนื้อเจ้าเป็นอาหารเลี้ยงนกบนฟ้า และเลี้ยงสัตว์ในทุ่งหญ้า”
- 1 ซามูเอล 17:45 - ดาวิดพูดกับคนฟีลิสเตียคนนั้นว่า “เจ้ามาสู้กับข้าด้วยดาบและหอกและหลาว แต่ข้าจะสู้กับเจ้าในนามของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอล ผู้ที่เจ้าท้าทาย
- 1 ซามูเอล 17:46 - วันนี้แหละ พระยาห์เวห์จะให้เจ้าตกอยู่ในกำมือของข้า ข้าจะโค่นเจ้าและตัดหัวเจ้าทิ้ง วันนี้ข้าจะเอาซากศพของกองทัพฟีลิสเตียเลี้ยงนกบนท้องฟ้าและสัตว์ป่าแห่งแผ่นดิน เพื่อทั้งโลกจะได้รู้ว่ามีพระเจ้าอยู่ในอิสราเอล
- 1 ซามูเอล 17:47 - ทุกคนที่มาอยู่รวมกันที่นี่จะได้รู้ว่าพระยาห์เวห์ไม่ได้ช่วยกู้ โดยใช้ดาบหรือหอก เพราะการศึกเป็นของพระยาห์เวห์ และพระยาห์เวห์จะมอบพวกเจ้าไว้ในกำมือของพวกเรา”
- 1 ซามูเอล 17:48 - และชาวฟีลิสเตียคนนั้นได้เข้ามาใกล้เพื่อสู้รบกับดาวิด ดาวิดก็วิ่งอย่างเร็วจากแนวรบเข้าหาเขา
- 1 ซามูเอล 17:49 - และล้วงหินก้อนหนึ่งจากถุง แล้วเหวี่ยงหินก้อนนั้นด้วยสายสลิงโดนหน้าผากของคนฟีลิสเตียคนนั้น ก้อนหินจมเข้าไปในหน้าผากของเขา และเขาก็ล้มหน้าคว่ำลงกับพื้น
- 1 ซามูเอล 17:50 - ดาวิดก็ชนะชาวฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิง และก้อนหิน โดยไม่มีดาบอยู่ในมือ ดาวิดก็โค่นคนฟีลิสเตียคนนั้นและฆ่าเขาได้
- 1 ซามูเอล 17:51 - ดาวิดวิ่งไปยืนบนตัวของเขา และดึงดาบของคนฟีลิสเตียคนนั้นออกจากฝัก แล้วดาวิดก็ใช้ดาบนั้นฆ่าเขาและตัดหัวของเขาไป
- 1 ซามูเอล 17:52 - คนอิสราเอลกับคนยูดาห์ก็โห่ร้องไล่ตามคนฟีลิสเตียไปถึงทางเข้าเมืองกัทและไปถึงประตูเมืองเอโครน คนฟีลิสเตียล้มตายเกลื่อนกลาดตามทางจากถนนธาราอิมไปจนถึงเมืองกัทและเมืองเอโครน
- 1 ซามูเอล 17:53 - เมื่อชาวอิสราเอลกลับจากการไล่ตามคนฟีลิสเตีย ก็มาปล้นของจากค่ายของพวกเขา
- 1 ซามูเอล 17:54 - ดาวิดเอาหัวของคนฟีลิสเตียคนนั้นมาที่เยรูซาเล็ม ส่วนอาวุธต่างๆของเขา ดาวิดทิ้งไว้ที่เต็นท์ของตัวเอง
- 1 ซามูเอล 17:55 - เมื่อซาอูลเห็นดาวิดออกไปสู้รบกับชาวฟีลิสเตียคนนั้น เขาก็ถามอับเนอร์แม่ทัพของเขาว่า “อับเนอร์ เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นลูกใคร” อับเนอร์ตอบว่า “ข้าแต่กษัตริย์ บอกท่านตามตรง ข้าพเจ้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
- 1 ซามูเอล 17:56 - ซาอูลพูดว่า “ไปสืบดูสิว่า พ่อหนุ่มคนนี้เป็นลูกใคร”
- 1 ซามูเอล 17:57 - พอดาวิดกลับมาจากการฆ่าคนฟีลิสเตียนั้น อับเนอร์ได้พาเขามาเฝ้าซาอูล พร้อมกับหัวของคนฟีลิสเตียคนนั้นที่ดาวิดถืออยู่
- 1 ซามูเอล 17:58 - ซาอูลถามเขาว่า “พ่อหนุ่ม เจ้าเป็นลูกของใคร” ดาวิดตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นลูกของเจสซี ผู้รับใช้ท่าน จากเมืองเบธเลเฮม”
- อาโมส 1:6 - พระยาห์เวห์บอกว่า “เราจะลงโทษคนกาซาอย่างแน่นอน เพราะพวกเขาทำผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก ถึงขนาดกวาดต้อนคนทั้งชุมชน ให้ไปเป็นทาสที่ประเทศเอโดม
- อาโมส 1:7 - ดังนั้น เราจะส่งไฟลงมาที่กำแพงเมืองกาซา และมันจะเผาผลาญพวกป้อมปราการต่างๆของมันอย่างราบคาบ
- อาโมส 1:8 - และเราจะกำจัดผู้ที่นั่งบนบัลลังก์ของเมืองอัชโดด และเราก็จะทำลายคนที่ถือคทาของเมืองอัชเคโลน และเราจะลงมือจัดการกับเมืองเอโครน แล้วคนฟีลิสเตียที่จะหลงเหลืออยู่ก็จะตาย” พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดไว้อย่างนั้น
- เศฟันยาห์ 2:4 - แน่นอนเลยว่า เมืองกาซาจะถูกทอดทิ้ง และเมืองอัชเคโลนจะถูกทำลาย ชาวเมืองอัชโดดจะถูกขับไล่ออกไปในตอนเที่ยงวัน และเมืองเอโครนจะถูกถอนรากถอนโคน
- เศฟันยาห์ 2:5 - ความหายนะจะเกิดกับพวกเจ้า ไอ้พวกที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเล และไอ้พวกเจ้าชนชาติเคเรธี พระยาห์เวห์ได้พูดต่อต้านเจ้าไอ้คานาอัน แผ่นดินของชาวฟีลิสเตีย พระองค์พูดว่า “เราจะทำลายเจ้าจนไม่เหลือใครสักคนเลย”
- เศฟันยาห์ 2:6 - แล้วชายฝั่งทะเลก็จะกลายเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ เหมาะสำหรับพวกคนเลี้ยงแกะ และคอกของฝูงแพะแกะ
- เศฟันยาห์ 2:7 - ชายฝั่งทะเลนั้นจะตกเป็นของคนยูดาห์ที่ยังเหลืออยู่ คนยูดาห์ก็จะเลี้ยงฝูงสัตว์ของพวกเขาที่นั่น ในตอนกลางคืนคนยูดาห์ก็จะนอนในบ้านที่ว่างเปล่าของพวกอัชเคโลน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาจะมาหาพวกเขา และจะอยู่กับพวกเขา และทำให้พวกเขากลับมามีสภาพดีเหมือนเดิม
- โยเอล 3:4 - ไทระ ไซดอน และพวกเขตแดนต่างๆของฟีลิสเตีย พวกเจ้าจะเอายังไงกับเรา พวกเจ้ากำลังแก้แค้นเราหรือ พวกเจ้ากำลังทำอะไรเพื่อทำร้ายเราหรือ เราจะคืนสิ่งที่เจ้าได้ทำกับเราลงบนหัวเจ้าเองในทันทีทันใด
- โยเอล 3:5 - พวกเจ้าได้เอาเงินและทองคำของเราไป และพวกเจ้าได้เอาพวกของที่มีค่าที่สุดของเราไปไว้ตามวัดต่างๆของพวกเจ้า
- โยเอล 3:6 - พวกเจ้าได้ขายคนหนุ่มสาวชาวยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มให้พวกกรีก เพื่อให้พวกเขาไปอยู่ห่างไกลจากเขตแดนของพวกเขา
- โยเอล 3:7 - ดูให้ดี เราจะเอาพวกเขาขึ้นมาจากดินแดนที่พวกเจ้าขายพวกเขาไปนั้น และเราจะตอบแทนการกระทำต่างๆของพวกเจ้าลงบนหัวของพวกเจ้าเอง
- โยเอล 3:8 - เราจะขายลูกชายและลูกสาวของเจ้าให้กับชาวยูดาห์ และชาวยูดาห์จะขายพวกเขาต่อไปให้กับชาวเสบา ซึ่งเป็นชาติที่อยู่ห่างไกลออกไป เพราะเรายาห์เวห์ได้พูดไว้ว่าอย่างนั้น”
- โยเอล 3:9 - ให้ประกาศสิ่งนี้ต่อชนชาติทั้งหลาย ให้เตรียมตัวกันเข้าสู่สงครามศักดิ์สิทธิ์ ไปปลุกทหารทั้งหลาย ให้พวกนักรบบุกโจมตี
- โยเอล 3:10 - ให้ตีคันไถของเจ้าให้เป็นดาบ และตีขอสำหรับลิดกิ่งของเจ้าให้เป็นทวน ให้คนอ่อนแอพูดว่า “ข้าเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง”
- โยเอล 3:11 - มาเร็วๆทุกชนชาติที่อยู่รอบๆ มารวมตัวกันที่นั่น ข้าแต่พระยาห์เวห์ ได้โปรดนำพวกทหารของพระองค์ลงมา
- โยเอล 3:12 - พระยาห์เวห์พูดว่า ปลุกให้ชนชาติต่างๆตื่นตัว และมุ่งหน้าสู่หุบเขาเยโฮชาฟัท เพราะเราจะนั่งอยู่ที่นั่นตัดสินทุกๆชนชาติที่อยู่รอบๆยูดาห์
- โยเอล 3:13 - ส่งเคียวมาได้แล้ว เพราะพืชผลสุกงอมให้เก็บเกี่ยวแล้ว มาย่ำผลองุ่นได้แล้ว เพราะมีองุ่นเต็มบ่อย่ำแล้ว ถังเก็บเหล้าองุ่นก็เต็มจนล้น เพราะความเจ็บปวดที่พวกเขาก่อขึ้นนั้นมันมากมายนัก
- โยเอล 3:14 - มีฝูงชนจำนวนมากในหุบเขาแห่งการตัดสิน เพราะวันของพระยาห์เวห์ใกล้มาถึงแล้วอย่างแน่นอนในหุบเขาแห่งการตัดสิน
- โยเอล 3:15 - ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์จะมืดไป และดวงดาวทั้งหลายจะหยุดส่องแสง
- โยเอล 3:16 - พระยาห์เวห์จะคำรามจากภูเขาศิโยน พระองค์จะร้องตะโกนก้องจากเยรูซาเล็ม ทำให้ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกสั่นสะเทือน แต่พระยาห์เวห์จะเป็นที่คุ้มภัยให้กับคนของพระองค์ และจะเป็นที่กำบังที่เข้มแข็งให้กับชาวอิสราเอล
- โยเอล 3:17 - แล้วพวกเจ้าจะรู้ว่าเราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า ผู้ที่อาศัยอยู่บนศิโยน ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา เมืองเยรูซาเล็มจะเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ และคนต่างชาติจะไม่ได้บุกเข้ามาอีก
- โยเอล 3:18 - เมื่อถึงตอนนั้นจะมีน้ำองุ่นอันหอมหวานหยดออกมาจากภูเขาต่างๆ จะมีน้ำนมไหลออกมาจากเนินเขาต่างๆ จะมีน้ำไหลไปทั่วหุบเขาต่างๆของยูดาห์ จะมีน้ำพุไหลพุ่งออกมาจากพระวิหารของพระยาห์เวห์ และจะให้ความชุ่มชื่นกับหุบเขาอาคาเซีย
- โยเอล 3:19 - อียิปต์จะกลายเป็นดินแดนรกร้าง และเมืองเอโดมจะกลายเป็นทะเลทรายร้าง เพราะพวกเขาโหดร้ายต่อชาวยูดาห์ และทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์ตกไปทั่วแผ่นดินยูดาห์
- โยเอล 3:20 - จะมีคนอาศัยอยู่ในยูดาห์ตลอดไป และจะมีคนอาศัยอยู่ในเยรูซาเล็มตลอดชั่วลูกชั่วหลาน
- โยเอล 3:21 - เราจะไม่ลงโทษพวกที่ทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์ไหลนองหรือ พระยาห์เวห์สถิตอยู่ที่ศิโยนแน่ขนาดไหน เราก็จะลงโทษพวกมันแน่ขนาดนั้น
- อิสยาห์ 9:12 - มีคนอารามจากทางตะวันออกและคนฟีลิสเตียจากทางตะวันตก และพวกเขาก็ได้อ้าปากกว้างกลืนกินอิสราเอลเข้าไป ถึงจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ตาม พระองค์ก็ยังไม่หายโกรธอยู่ดี มือของพระองค์ก็ยังคงเงื้อขึ้นมาฟาดพวกเขา
- 1 ซามูเอล 21:1 - ดาวิดไปเมืองโนบเพื่อพบกับนักบวชอาหิเมเลค อาหิเมเลคกลัวจนตัวสั่นเมื่อออกมาพบเขา แล้วพูดว่า “ทำไมท่านถึงมาคนเดียว ทำไมถึงไม่มีใครมากับท่านด้วย”
- 1 ซามูเอล 21:2 - ดาวิดตอบนักบวชอาหิเมเลคว่า “กษัตริย์สั่งให้เรามาทำงานสำคัญและกำชับว่า ‘อย่าให้ใครรู้ถึงงานที่เราส่งเจ้าไปทำ และหน้าที่ที่เราได้มอบหมายให้กับเจ้า’ ส่วนพวกคนหนุ่มๆของเรานั้น เราได้นัดพบกับพวกเขาไว้แล้วในที่แห่งหนึ่ง
- 1 ซามูเอล 21:3 - ตอนนี้ท่านมีอะไรในมือบ้าง ขอขนมปังให้เราสักห้าก้อน หรืออะไรก็ได้ที่ท่านสามารถหาได้”
- 1 ซามูเอล 21:4 - แต่อาหิเมเลคตอบดาวิดว่า “ข้าพเจ้าไม่มีขนมปังธรรมดาอยู่เลย มีแต่ขนมปังศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ซึ่งถ้าหนุ่มๆทั้งหลายไม่ได้ไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงมาก็กินได้”
- 1 ซามูเอล 21:5 - ดาวิดตอบว่า “ตามปกติเมื่อเราออกเดินทางพวกผู้หญิงก็จะถูกแยกออกจากพวกเราอยู่แล้ว ขนาดงานที่ธรรมดาๆร่างกายของพวกผู้ชายก็ยังบริสุทธิ์เลย ยิ่งงานพิเศษอย่างนี้ เราก็ต้องรักษาร่างกายให้บริสุทธิ์แน่”
- 1 ซามูเอล 21:6 - นักบวชจึงให้ขนมปังศักดิ์สิทธิ์นั้นกับดาวิด เพราะไม่มีขนมปังอื่นนอกจากขนมปังนี้ที่เคยตั้งถวายอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ แต่ถูกเอาออกมาจากหน้าพระยาห์เวห์ ในวันที่เอาขนมปังใหม่ๆร้อนๆมาแทน
- 1 ซามูเอล 21:7 - ในวันนั้นมีหัวหน้าคนเลี้ยงแกะ ของซาอูลชื่อโดเอก ซึ่งเป็นชาวเมืองเอโดม เฝ้าอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ด้วย
- 1 ซามูเอล 21:8 - ดาวิดถามอาหิเมเลคว่า “ที่นี่ท่านไม่มีหอกหรือดาบสักเล่มเลยหรือ เราไม่ได้เอาดาบหรืออาวุธอื่นๆติดตัวมาเลย เพราะธุระที่กษัตริย์ให้ทำเป็นเรื่องเร่งด่วน”
- 1 ซามูเอล 21:9 - นักบวชอาหิเมเลคก็ตอบว่า “ดาบของโกลิอัทชาวฟีลิสเตีย ที่ถูกท่านฆ่าตายในหุบเขาเอลาห์อยู่ที่นี่ ดาบนั้นห่อผ้าวางอยู่ด้านหลังเอโฟด ถ้าท่านต้องการก็เอาไปเลย ที่นี่ก็ไม่มีดาบอื่นแล้ว” ดาวิดตอบว่า “ไม่มีดาบไหนเหมือนดาบนั้นอีกแล้ว เอามาให้เราหน่อย”
- 1 ซามูเอล 21:10 - ในวันนั้นดาวิดได้หนีจากซาอูลไปหาอาคีชกษัตริย์เมืองกัท
- 1 ซามูเอล 21:11 - แต่พวกข้าราชการของอาคีชพูดกับดาวิดว่า “ท่านไม่ใช่กษัตริย์ดาวิดของอิสราเอลหรอกหรือ คนเดียวกับที่เขาร้องเพลงยกย่องกันว่า ‘ซาอูลฆ่าคนเป็นพันๆ ส่วนดาวิดฆ่าคนเป็นหมื่นๆ’”
- 1 ซามูเอล 21:12 - ดาวิดได้ยินคำพูดอย่างนั้น เขาก็กลัวกษัตริย์อาคีชเมืองกัทมาก
- 1 ซามูเอล 21:13 - ดาวิดจึงแกล้งทำเป็นบ้าต่อหน้าผู้คน ขณะที่เขาถูกจับไปนั้นเขาก็ทำท่าเหมือนคนบ้าขีดเขียนตามประตูเมือง และปล่อยให้น้ำลายไหลเปรอะเปื้อนเครา
- 1 ซามูเอล 21:14 - อาคีชพูดกับพวกข้าราชการของเขาว่า “ดูชายคนนี้ซิ เป็นคนบ้าชัดๆเจ้าพามาพบเราทำไม
- 1 ซามูเอล 21:15 - เจ้าเห็นว่าเราขาดแคลนคนบ้าหรือ ถึงได้พามันมาทำบ้าๆบอๆให้เราดู สมควรให้ไอ้บ้านี้เข้ามาในบ้านของเราหรือ”
- เยเรมียาห์ 47:1 - นี่คือถ้อยคำของพระยาห์เวห์ที่มีมาถึงเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า เกี่ยวกับชาวฟีลิสเตีย ก่อนที่ฟาโรห์จะโจมตีเมืองกาซา
- เยเรมียาห์ 47:2 - พระยาห์เวห์พูดว่า “น้ำกำลังหลากมาจากทางเหนือ และมันจะกลายเป็นน้ำหลากในธารน้ำแห้งขอด ซึ่งจะท่วมแผ่นดินและคนที่อาศัยอยู่ น้ำจะท่วมเมืองและคนที่อาศัยอยู่ในเมือง ผู้คนจะร้องทุกข์ และทุกคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินจะร้องโหยหวน
- เยเรมียาห์ 47:3 - เมื่อพวกพ่อได้ยินเสียงย่ำพื้นของม้าศึก เสียงรถรบดังกระทบกัน และล้อรถดังสนั่นหวั่นไหว พวกเขาจะไม่หันกลับมาช่วยลูกๆ เพราะพวกเขาสิ้นหวังเสียแล้ว
- เยเรมียาห์ 47:4 - เรื่องนี้จะเกิดขึ้นเมื่อวันนั้นมาถึง วันที่ชาวฟีลิสเตียทั้งหมดจะถูกทำลาย และพันธมิตรชุดสุดท้ายของไทระและไซดอนจะถูกกำจัดไป เพราะพระยาห์เวห์จะทำลายชาวฟีลิสเตีย ซึ่งเป็นชาวเกาะคัฟโทร์ที่เหลือ
- เยเรมียาห์ 47:5 - ชาวกาซาโกนหัวแล้ว ชาวอัชเคโลนก็ถูกทำลายแล้ว ชาวอานาคที่เหลือเอ๋ย เจ้าจะเชือดเฉือนตัวเองไปอีกนานแค่ไหน
- เยเรมียาห์ 47:6 - ดาบของพระยาห์เวห์เอ๋ย เธอจะฟาดฟันไปอีกนานแค่ไหนก่อนที่เธอจะหยุดพัก สอดตัวเจ้าเองลงในฝักเถอะ หยุดพักอยู่เฉยๆบ้างเถอะ
- เยเรมียาห์ 47:7 - แต่มันจะอยู่เฉยๆได้ยังไง พระยาห์เวห์สั่งให้มันโจมตี พระองค์กำหนดให้มันแทงอัชเคโลนและชายฝั่งทะเลเสีย”
- ผู้วินิจฉัย 14:1 - แซมสันลงไปที่เมืองทิมนาห์ และได้เห็นสาวชาวฟีลิสเตียคนหนึ่งในเมืองนั้น
- ผู้วินิจฉัย 14:2 - เขาก็กลับมาบอกพ่อแม่ของเขาว่า “ลูกไปพบสาวชาวฟีลิสเตียในเมืองทิมนาห์ ช่วยไปขอนางมาเป็นเมียลูกหน่อย”
- ผู้วินิจฉัย 14:3 - พ่อแม่ของเขาพูดว่า “ไม่มีผู้หญิงท่ามกลางพวกลูกสาวของญาติลูกแล้วหรือ หรือท่ามกลางชนเผ่าของเราแล้วหรือ ลูกถึงต้องไปหาเมียจากชาวฟีลิสเตียที่ไม่เคยเข้าพิธีขลิบ”
- ผู้วินิจฉัย 14:4 - พ่อแม่ของแซมสันไม่รู้ว่าพระยาห์เวห์ทำให้เกิดเรื่องนี้ เพราะพระองค์หาช่องที่จะสู้รบกับชาวฟีลิสเตีย ซึ่งมีอำนาจเหนือชาวอิสราเอลอยู่
- ผู้วินิจฉัย 14:5 - ดังนั้นแซมสันและพ่อแม่ของเขาจึงเดินทางไปทิมนาห์ เมื่อมาถึงไร่องุ่น ทันใดนั้นมีสิงโตหนุ่มตัวหนึ่งคำรามกระโจนเข้าใส่แซมสัน
- ผู้วินิจฉัย 14:6 - พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ก็พุ่งเข้าสิงแซมสัน เขาฉีกสิงโตออกเหมือนฉีกลูกแพะด้วยมือเปล่า แต่เขาไม่ได้บอกสิ่งที่เขาทำให้พ่อแม่รู้
- ผู้วินิจฉัย 14:7 - แซมสันได้ไปพูดกับหญิงคนนั้น เธอทำให้เขาถูกใจมาก
- ผู้วินิจฉัย 14:8 - หลังจากนั้นไม่นาน แซมสันได้กลับมาเพื่อแต่งงานกับเธอ เขาได้แวะไปดูซากสิงโต และก็แปลกใจ เมื่อมีฝูงผึ้งอยู่ในซากสิงโตนั้นและมีน้ำผึ้งด้วย
- ผู้วินิจฉัย 14:9 - เขาจึงกวาดน้ำผึ้งมาไว้ในมือเดินกินมาตามทาง จนเจอพ่อแม่ของเขา เขาจึงแบ่งให้พ่อแม่กินด้วย แต่ไม่ได้เล่าว่าเขาได้น้ำผึ้งมาจากซากสิงโต
- ผู้วินิจฉัย 14:10 - พ่อของเขาได้ลงไปหาหญิงนั้น และแซมสันก็ได้จัดงานเลี้ยงใหญ่โตที่นั่น เหมือนกับที่ชายหนุ่มคนอื่นๆเขาทำกัน
- ผู้วินิจฉัย 14:11 - เมื่อชาวฟีลิสเตียเห็นแซมสันจัดงานเลี้ยง พวกเขาก็ได้ส่งผู้ชายสามสิบคนมาอยู่เป็นเพื่อนเขา
- ผู้วินิจฉัย 14:12 - แซมสันพูดกับชายสามสิบคนนั้นว่า “ให้ข้าเล่าปริศนาให้พวกเจ้าสักข้อหนึ่ง ถ้าพวกเจ้าตอบได้ภายในเจ็ดวันของงานเลี้ยงฉลอง ข้าจะให้เสื้อผ้าลินินสามสิบชุด และเสื้อผ้าใส่เที่ยวงานอีกสามสิบชุด
- ผู้วินิจฉัย 14:13 - แต่ถ้าพวกเจ้าไม่สามารถอธิบายให้กับข้าได้ ก็ต้องให้เสื้อผ้าลินินสามสิบชุด และเสื้อใส่เที่ยวงานสามสิบชุดกับข้า” ชายเหล่านั้นก็พูดกับเขาว่า “เล่าปริศนาของเจ้าให้พวกเราฟังสิ”
- ผู้วินิจฉัย 14:14 - แซมสันก็เล่าว่า “จากตัวที่กิน มีของกินออกมา จากตัวที่แข็งแรง มีของหวานออกมา” แต่ผ่านไปสามวันแล้ว พวกเขาก็ยังแก้ปริศนานี้ไม่ได้
- ผู้วินิจฉัย 14:15 - ในวันที่สี่ พวกเขาได้ไปขอร้องเมียของแซมสันว่า “ไปเกลี้ยกล่อมผัวของเธอให้แก้คำปริศนานั้นกับพวกเราซะ ไม่อย่างนั้นเราจะเผาบ้านเธอและบ้านของพ่อเธอด้วย เธอเชิญพวกเรามาเพื่อทำให้พวกเราจนลงหรือยังไง”
- ผู้วินิจฉัย 14:16 - เมียของแซมสันจึงซบบนแซมสันและร้องไห้ ต่อว่าเขาว่า “เธอเกลียดฉัน เธอไม่รักฉัน เธอถึงได้ทายคำปริศนาให้กับชาวเมืองของฉัน และเธอก็ไม่เคยแก้คำปริศนานั้นให้ฉันฟัง” แซมสันตอบภรรยาว่า “ดูสิ ขนาดพ่อแม่ฉัน ฉันยังไม่บอก แล้วจะบอกเธอได้ยังไง”
- 2 พงศาวดาร 28:18 - พวกชาวฟีลิสเตียโจมตีเมืองต่างๆที่ตั้งอยู่แถบเชิงเขาและในเนเกบของยูดาห์ พวกเขายึดเมืองเบธเชเมช เมืองอัยยาโลน เมืองเกเดโรท เมืองโสโค เมืองทิมนาห์และกิมโซ รวมทั้งหมู่บ้านที่อยู่รอบๆเมืองเหล่านั้นไว้
- เยเรมียาห์ 25:20 - พวกชาวบ้านตามชายแดน และกษัตริย์ทุกองค์ของอูส พวกกษัตริย์ทุกองค์ของฟีลิสเตีย ซึ่งก็มี กษัตริย์ต่างๆของเมืองอัชเคโลน กาซา เอโครน และที่เหลือของเมืองอัชโดด
- อิสยาห์ 14:29 - “พวกเจ้าคนฟีลิสเตียทุกคน อย่าได้ดีใจเลยที่ไม้ตะบองที่ตีพวกเจ้านั้นได้หักไปแล้ว เพราะจากครอบครัวของงูตัวนั้นก็จะเกิดงูพิษที่อันตรายกว่าตัวมันขึ้นมา และลูกของมันนั้นก็จะเป็นงูไฟที่บินได้
- อิสยาห์ 14:30 - คนยากจนที่สุดจะมีกินอย่างเหลือเฟือเหมือนแกะเล็มหญ้า และคนขัดสนก็จะนอนลงอย่างปลอดภัย แต่เราจะทำให้ครอบครัวของเจ้าอดอาหารตาย และคนที่เหลืออยู่ของเจ้า เราจะฆ่าเสีย
- อิสยาห์ 14:31 - ประตูเมืองเอ๋ย ร้องคร่ำครวญเถิด เมืองเอ๋ย ร้องไห้ออกมา คนฟีลิสเตียทุกคนเอ๋ย ให้พวกเจ้ากลัวจนหลอมละลายไป ดูทางเหนือนั้นซิ มีควันตลบฟุ้งขึ้นมาแล้ว และกองทัพที่กำลังลงมานั้น ไม่มีใครในพวกเขาที่ตามไม่ทัน”
- เอเสเคียล 25:12 - นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เอโดมได้แก้แค้นอย่างโหดเหี้ยมต่อครอบครัวชาวยูดาห์ พวกเขาจึงมีความผิดอย่างร้ายแรง”
- เอเสเคียล 25:6 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “พวกเจ้าตบมือและกระทืบเท้าด้วยความรื่นเริงยินดี ด้วยจิตใจที่มุ่งร้ายต่อแผ่นดินอิสราเอล