逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - ประชาชนของเรามาพบเจ้าอย่างที่เคยทำมา และมานั่งอยู่ต่อหน้าเจ้า เพื่อที่จะฟังคำพูดของเจ้า แต่พวกเขาไม่ทำตาม คำพูดกระตุ้นราคะอยู่ที่ริมฝีปากพวกเขา และใจของพวกเขาละโมบเอาแต่ได้
- 新标点和合本 - 他们来到你这里如同民来聚会,坐在你面前仿佛是我的民。他们听你的话却不去行;因为他们的口多显爱情,心却追随财利。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 他们如同百姓前来,来到你这里,坐在你面前仿佛是我的子民。他们听了你的话,却不实行;因为他们口里说爱,心却追随财利。
- 和合本2010(神版-简体) - 他们如同百姓前来,来到你这里,坐在你面前仿佛是我的子民。他们听了你的话,却不实行;因为他们口里说爱,心却追随财利。
- 当代译本 - 他们蜂拥而来,坐在你面前聆听你的话,俨然是我的子民。但他们不付诸实行,嘴里说的是甜言蜜语,心中却追求不义之财。
- 圣经新译本 - 他们成群来到你那里,坐在你面前,象是我的子民一样。其实他们听了你的话,却不去行;他们只是用口表示爱慕,他们的心却是追随不义之财。
- 现代标点和合本 - 他们来到你这里如同民来聚会,坐在你面前仿佛是我的民。他们听你的话却不去行,因为他们的口多显爱情,心却追随财利。
- 和合本(拼音版) - 他们来到你这里如同民来聚会,坐在你面前仿佛是我的民;他们听你的话却不去行,因为他们的口多显爱情,心却追随财利。
- New International Version - My people come to you, as they usually do, and sit before you to hear your words, but they do not put them into practice. Their mouths speak of love, but their hearts are greedy for unjust gain.
- New International Reader's Version - My people come to you, just as they usually do. They sit in front of you. They hear what you say. But they do not put it into practice. With their mouths they say they love me. But in their hearts they want what belongs to others. They try to get rich by cheating them.
- English Standard Version - And they come to you as people come, and they sit before you as my people, and they hear what you say but they will not do it; for with lustful talk in their mouths they act; their heart is set on their gain.
- New Living Translation - So my people come pretending to be sincere and sit before you. They listen to your words, but they have no intention of doing what you say. Their mouths are full of lustful words, and their hearts seek only after money.
- Christian Standard Bible - So my people come to you in crowds, sit in front of you, and hear your words, but they don’t obey them. Their mouths go on passionately, but their hearts pursue dishonest profit.
- New American Standard Bible - And they come to you as people come, and sit before you as My people and hear your words, but they do not do them; for they do the lustful desires expressed by their mouth, and their heart follows their unlawful gain.
- New King James Version - So they come to you as people do, they sit before you as My people, and they hear your words, but they do not do them; for with their mouth they show much love, but their hearts pursue their own gain.
- Amplified Bible - They come to you as people come, and they sit before you as My people, and they hear your words, but they do not practice them; for with their mouth they express loving devotion, but their heart goes after their (unlawful) gain.
- American Standard Version - And they come unto thee as the people cometh, and they sit before thee as my people, and they hear thy words, but do them not; for with their mouth they show much love, but their heart goeth after their gain.
- King James Version - And they come unto thee as the people cometh, and they sit before thee as my people, and they hear thy words, but they will not do them: for with their mouth they shew much love, but their heart goeth after their covetousness.
- New English Translation - They come to you in crowds, and they sit in front of you as my people. They hear your words, but do not obey them. For they talk lustfully, and their heart is set on their own advantage.
- World English Bible - They come to you as the people come, and they sit before you as my people, and they hear your words, but don’t do them; for with their mouth they show much love, but their heart goes after their gain.
- 新標點和合本 - 他們來到你這裏如同民來聚會,坐在你面前彷彿是我的民。他們聽你的話卻不去行;因為他們的口多顯愛情,心卻追隨財利。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 他們如同百姓前來,來到你這裏,坐在你面前彷彿是我的子民。他們聽了你的話,卻不實行;因為他們口裏說愛,心卻追隨財利。
- 和合本2010(神版-繁體) - 他們如同百姓前來,來到你這裏,坐在你面前彷彿是我的子民。他們聽了你的話,卻不實行;因為他們口裏說愛,心卻追隨財利。
- 當代譯本 - 他們蜂擁而來,坐在你面前聆聽你的話,儼然是我的子民。但他們不付諸實行,嘴裡說的是甜言蜜語,心中卻追求不義之財。
- 聖經新譯本 - 他們成群來到你那裡,坐在你面前,像是我的子民一樣。其實他們聽了你的話,卻不去行;他們只是用口表示愛慕,他們的心卻是追隨不義之財。
- 呂振中譯本 - 他們來見你、如同人民之來;他們坐在你面前 彷彿是 我的人民;其實他們聽你的話,卻不去行;因為他們只是用口表示着愛,他們的心卻追求着不義之財。
- 現代標點和合本 - 他們來到你這裡如同民來聚會,坐在你面前彷彿是我的民。他們聽你的話卻不去行,因為他們的口多顯愛情,心卻追隨財利。
- 文理和合譯本 - 彼詣爾所、如民來集、坐於爾前、若為我民、聽爾言而不行之、其口多顯仁愛、心則逐利、
- 文理委辦譯本 - 彼既至、坐於爾前、若我民然、聽爾言而不行、口所言則愛爾不置、其心貪婪、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 彼就爾來、若民之會集、坐於爾前、如為我民、聽爾言而不行、口言親愛、心向利欲、
- Nueva Versión Internacional - Y se te acercan en masa, y se sientan delante de ti y escuchan tus palabras, pero luego no las practican. Me halagan de labios para afuera, pero después solo buscan las ganancias injustas.
- 현대인의 성경 - 그들이 평소 때와 마찬가지로 네 앞에 앉아서 네 말을 듣지만 그들은 네 말대로 실천하지 않는다. 그들이 입으로는 사랑을 말하지만 그들의 마음은 사리 사욕을 채우는 데 급급하다.
- Новый Русский Перевод - Мой народ ходит к тебе, как обычно, и садится пред тобой слушать твои слова, но не исполняет их. На устах у них – лесть, а сердца тянутся к нечестной наживе.
- Восточный перевод - Мой народ ходит к тебе, как обычно, и садится пред тобой слушать твои слова, но не исполняет их. На устах у них – лесть, а сердца тянутся к нечестной поживе.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Мой народ ходит к тебе, как обычно, и садится пред тобой слушать твои слова, но не исполняет их. На устах у них – лесть, а сердца тянутся к нечестной поживе.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Мой народ ходит к тебе, как обычно, и садится пред тобой слушать твои слова, но не исполняет их. На устах у них – лесть, а сердца тянутся к нечестной поживе.
- La Bible du Semeur 2015 - Puis ils accourent en foule chez toi. Les gens de mon peuple s’assoient devant toi, ils écoutent bien tes paroles mais ne les traduisent pas en actes, car ils ne parlent que de choses plaisantes, et dans leur cœur, ils ne recherchent que leur intérêt.
- リビングバイブル - 彼らはもっともらしい顔をしてやって来る。そして、あなたの前に座って聞くだろう。だが、わたしの言うとおりにする気はさらさらない。口では、いかにも調子よく、わたしを愛しているようなことを言うが、心は金銭欲でいっぱいだ。
- Nova Versão Internacional - O meu povo vem a você, como costuma fazer, e se assenta para ouvir as suas palavras, mas não as põe em prática. Com a boca eles expressam devoção, mas o coração deles está ávido de ganhos injustos.
- Hoffnung für alle - Dann kommen sie in großen Scharen und setzen sich vor dich hin, ganz so, wie es sich für mein Volk gehört. Sie hören dann zwar, was du ihnen sagst, doch sie richten sich nicht danach. Sie tun so, als würden sie deine Worte begierig aufnehmen, aber insgeheim sind sie nur auf unrechten Gewinn aus.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Vậy, dân Ta làm ra vẻ chân thành đến ngồi trước mặt con. Chúng lắng nghe lời con, nhưng không làm theo những gì con nói. Miệng chúng thốt lời yêu mến, nhưng trong lòng chỉ tìm kiếm tư lợi.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ประชากรของเรามาหาเจ้าอย่างที่พวกเขามักจะทำ มานั่งอยู่ตรงหน้าเพื่อฟังคำพูดของเจ้า แต่ไม่เคยนำไปปฏิบัติ เขาแสดงความจงรักภักดีด้วยริมฝีปาก แต่จิตใจโลภหวังผลกำไรอธรรม
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - และพวกเขามาหาเจ้าอย่างฝูงชน พวกเขานั่งตรงหน้าเจ้าอย่างเป็นชนชาติของเรา พวกเขาได้ยินสิ่งที่เจ้าพูดแต่กลับไม่ปฏิบัติตาม พวกเขากระทำตามปากที่ตนพูดซึ่งเต็มด้วยตัณหา ใจของพวกเขามุ่งมั่นในสินบน
- Thai KJV - และเข้ามาหาเจ้าอย่างที่ชาวตลาดมา และเขามานั่งข้างหน้าเจ้าอย่างประชาชนของเรา เขาฟังคำพูดของเจ้า แต่เขาไม่ยอมกระทำตาม เพราะว่าเขาแสดงความรักมากด้วยปากของเขา แต่จิตใจของเขามุ่งอยู่ตามความโลภของเขา
交叉引用
- มัทธิว 19:22 - เมื่อชายหนุ่มได้ยินอย่างนั้น ก็จากไปด้วยความเศร้า เพราะเขาร่ำรวยมาก
- มัทธิว 6:24 - ไม่มีใครรับใช้นายสองนายได้ เพราะเขาจะเกลียดนายคนหนึ่ง และรักอีกคนหนึ่ง หรือไม่ก็จะทุ่มเทให้กับนายคนหนึ่ง และจะดูถูกนายอีกคนหนึ่ง คุณจะรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมๆกันไม่ได้หรอก
- เอเฟซัส 5:5 - ให้พวกคุณรู้เอาไว้เลยว่าทุกคนที่ทำผิดบาปทางเพศ ไม่บริสุทธิ์ หรือมักมากในกาม ซึ่งเป็นการบูชารูปเคารพ จะไม่มีส่วนในอาณาจักรของพระคริสต์และของพระเจ้า
- เยเรมียาห์ 44:16 - “สิ่งที่แกพูดต่อว่าเรา โดยอ้างว่ามาจากพระยาห์เวห์นั้น พวกเราไม่ฟังแกหรอก
- กิจการ 10:33 - ผมจึงส่งคนไปเชิญท่านมาทันที และท่านก็กรุณามากที่มา ตอนนี้พวกเราก็ได้อยู่กันพร้อมแล้วที่นี่ต่อหน้าพระเจ้า เพื่อฟังทุกสิ่งที่องค์เจ้าชีวิตสั่งให้ท่านพูด”
- ลูกา 10:39 - มารีย์ซึ่งเป็นน้องสาวของมารธา มานั่งอยู่ที่เท้าขององค์เจ้าชีวิต และฟังพระองค์พูดอย่างตั้งใจ
- มัทธิว 7:24 - คนที่ได้ยินและทำตามคำสอนนี้ของเรา ก็เหมือนกับคนฉลาดที่สร้างบ้านอยู่บนฐานที่เป็นหิน
- มัทธิว 7:25 - ถึงแม้ฝนจะตกหนัก น้ำจะไหลเชี่ยว และมีลมพายุแรงพัดปะทะตัวบ้าน แต่บ้านก็ไม่พัง เพราะมีรากฐานอยู่บนหินที่มั่นคง
- มัทธิว 7:26 - แต่คนที่ได้ฟังคำสอนเหล่านี้ของเรา แล้วไม่ทำตาม เขาก็เหมือนกับคนโง่ที่สร้างบ้านอยู่บนทราย
- มัทธิว 7:27 - เมื่อฝนตกหนัก น้ำไหลเชี่ยว และมีลมพายุแรงพัดมาปะทะตัวบ้าน บ้านนั้นก็พังทลายลงอย่างราบคาบ”
- ลูกา 16:14 - ฝ่ายพวกฟาริสีที่เห็นแก่เงิน เมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมดนี้ก็หัวเราะเยาะพระเยซู
- ลูกา 8:21 - พระองค์ตอบไปว่า “แม่และน้องๆของเราก็คือคนเหล่านั้นที่ฟังถ้อยคำของพระเจ้า แล้วทำตาม”
- เยเรมียาห์ 6:16 - นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด คือ “ยืนอยู่ริมถนน ให้มองดูแล้วถามหาทางเก่าแก่ ถามดูว่า ‘ถนนที่ดีสายนั้นอยู่ที่ไหน’ จากนั้นให้เดินไปบนถนนสายนั้น และจะพบกับความสงบสุขให้ตัวเอง แต่พวกเขากลับพูดว่า ‘พวกเราจะไม่ไปบนถนนสายนั้น’
- เยเรมียาห์ 6:17 - พระยาห์เวห์พูดว่า ‘เราจะตั้งยามไว้ให้กับเจ้า เพื่อให้เขาเตือนว่า “ให้ตั้งใจฟังเสียงแตรให้ดี” แต่พวกเขากลับบอกว่า “พวกเราจะไม่ฟังหรอก”’
- เอเสเคียล 22:27 - พวกเจ้าหน้าที่ในเมืองเป็นเหมือนพวกหมาป่าที่ฉีกเนื้อเหยื่อของพวกมัน พวกเขาทำให้เกิดการนองเลือด และฆ่าประชาชน เพื่อคดโกงหาผลประโยชน์ใส่ตัว
- เยเรมียาห์ 23:33 - “และถ้าคนพวกนี้ หรือผู้พูดแทนพระเจ้า หรือนักบวชถามเจ้าว่า ‘พระยาห์เวห์ฝากภาระอะไรให้เจ้าแบกมา’ เจ้าก็บอกพวกมันไปว่า ‘พระยาห์เวห์พูดว่า “ก็พวกแกนี่แหละคือภาระ และเราจะโยนพวกแกทิ้ง”’”
- เยเรมียาห์ 23:34 - “ผู้พูดแทนพระเจ้า หรือนักบวช หรือคนที่พูดว่า ‘นี่แหละคือภาระที่พระยาห์เวห์ฝากมา’ พวกที่พูดว่าอย่างนั้น เราจะลงโทษพวกที่พูดอย่างนั้นรวมทั้งคนในบ้านเรือนของพวกเขาด้วย”
- เยเรมียาห์ 23:35 - “แต่นี่ต่างหากที่พวกเจ้าควรจะถามกับเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องของเจ้า คือ ‘พระยาห์เวห์ตอบว่าอะไร หรือพระยาห์เวห์พูดว่าอะไร’
- เยเรมียาห์ 23:36 - และเจ้าจะต้องไม่พูดอย่างนี้อีกต่อไปว่า ‘นี่คือภาระที่พระยาห์เวห์ให้แบกมา’ เพราะภาระนั้นเป็นแค่คำพูดของแต่ละคน และโดยวิธีนี้ เจ้าก็ได้บิดเบือนคำพูดของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพระเจ้าของพวกเรา
- เยเรมียาห์ 23:37 - ดังนั้นเจ้าควรจะถามผู้พูดแทนพระเจ้าอย่างนี้ว่า ‘พระยาห์เวห์ตอบว่าอะไร พระยาห์เวห์พูดว่าอะไร’
- เยเรมียาห์ 23:38 - แต่ถ้าพวกเจ้าพูดประโยคนี้ว่า ‘นี่คือภาระที่พระยาห์เวห์ให้แบกมา’ ซึ่งพระยาห์เวห์ได้บอกไว้แล้วว่า อย่าพูดประโยคนี้ที่ว่า ‘นี่คือภาระที่พระยาห์เวห์ให้แบกมา’ และพวกเจ้าก็ยังพูดอย่างนั้น
- เอเสเคียล 14:1 - แล้วพวกผู้นำอาวุโสของอิสราเอลบางคนได้มาหาผม และมานั่งอยู่ต่อหน้าผม
- เยเรมียาห์ 43:1 - พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาได้ส่งเยเรมียาห์มาบอกถ้อยคำของพระองค์กับประชาชนทุกคน เมื่อเยเรมียาห์ได้บอกทุกอย่างที่พระยาห์เวห์สั่งให้มาบอกกับพวกเขาเสร็จแล้ว
- เยเรมียาห์ 43:2 - อาซาริยาห์ลูกชายของโฮชายาห์ และโยฮานันลูกชายของคาเรอาห์ และพวกประชาชนที่โอหังทุกคน พูดกับเยเรมียาห์ว่า “แกพูดโกหก พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราไม่ได้ส่งแกมาให้พูดกับเราว่า ‘อย่าไปอียิปต์เพื่อไปอยู่เหมือนคนต่างชาติที่นั่นเลย’
- เยเรมียาห์ 43:3 - ที่แกพูดอย่างนี้ก็เพราะบารุคลูกชายของเนริยาห์กำลังยุแหย่ให้แกต่อต้านพวกเรา เพื่อจะได้จับพวกเราส่งไปให้อยู่ในเงื้อมมือของพวกบาบิโลน เพื่อให้มันฆ่าพวกเราทิ้งและกวาดต้อนพวกเราไปที่บาบิโลน”
- เยเรมียาห์ 43:4 - โยฮานันลูกชายของคาเรอาห์ และพวกแม่ทัพนายกองทั้งหมด และคนทั้งหมด ก็ไม่ยอมเชื่อฟังพระยาห์เวห์ ผู้ที่บอกให้พวกเขาอยู่ในแผ่นดินยูดาห์
- เยเรมียาห์ 43:5 - โยฮานันลูกชายของคาเรอาห์ และพวกแม่ทัพนายกองทั้งหมดก็พาคนยูดาห์ที่เหลือไปอาศัยอยู่ในอียิปต์ในฐานะคนต่างชาติ คนยูดาห์ที่เหลืออยู่นี้คือคนที่แต่ก่อนเคยถูกขับไล่ออกไป แต่ตอนนี้กลับมาอยู่ในยูดาห์แล้ว
- เยเรมียาห์ 43:6 - คนที่เดินทางไปอียิปต์ก็มีทั้งชายหญิง เด็กๆและพวกลูกสาวของกษัตริย์ อันที่จริงคนพวกนี้เป็นคนที่เนบูซาระดานหัวหน้าองครักษ์ได้ให้เกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัมเป็นผู้ดูแล อาหิคัมเป็นลูกชายของชาฟาน โยฮานันก็พาเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าและบารุคลูกชายของเนริยาห์ไปอียิปต์ด้วย
- เยเรมียาห์ 43:7 - พวกเขาทั้งหมดก็เดินทางไปอียิปต์ เพราะพวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังพระยาห์เวห์ แล้วพวกเขาก็เดินทางไปไกลถึงทาปานเหส
- เอเสเคียล 20:1 - ในวันที่สิบของเดือนที่ห้า ปีที่เจ็ด พวกผู้นำอาวุโสบางคนของอิสราเอลได้มาขอคำปรึกษาจากพระยาห์เวห์ พวกเขามานั่งลงตรงหน้าผม
- เอเสเคียล 20:2 - แล้วคำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า
- เอเสเคียล 20:3 - “เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดกับพวกผู้นำอาวุโสของอิสราเอลอย่างนี้ว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อขอคำปรึกษากับเราหรือ เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะไม่ตอบคำถามของพวกเจ้า’” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- เอเสเคียล 20:4 - “เจ้าลูกมนุษย์ เจ้าจะดำเนินคดีต่อพวกเขาหรือ เจ้าจะดำเนินคดีต่อพวกเขาหรือ ถ้าอย่างนั้น ชี้ให้เขาเห็นการกระทำอันน่าขยะแขยงของบรรพบุรุษของพวกเขาสิ
- เอเสเคียล 20:5 - เจ้าต้องบอกกับพวกเขาว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ในวันที่เราได้เลือกอิสราเอล ตอนที่เราได้เปิดเผยตัวเองให้กับพวกเขารู้จักในแผ่นดินอียิปต์นั้น เราได้ยกมือขึ้นสาบานต่อพวกลูกหลานของยาโคบว่า “เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า”
- เอเสเคียล 20:6 - ในวันนั้นเราได้สาบานไว้กับพวกเขาว่า เราจะนำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ไปยังแผ่นดินที่เราได้ค้นหามาให้กับพวกเขา เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ และสวยงามที่สุดในบรรดาดินแดนทั้งหลาย’”
- เอเสเคียล 20:7 - และเราได้พูดกับพวกเขาว่า “พวกเจ้าทุกคน ให้กำจัดรูปปั้นที่น่าขยะแขยง ที่เจ้าชอบมองเพื่อขอความช่วยเหลือจากมันนั้น อย่าทำตัวของพวกเจ้าให้แปดเปื้อนด้วยรูปเคารพทั้งหลายของอียิปต์ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า”
- เอเสเคียล 20:8 - แต่พวกเขากลับกบฏต่อเราและไม่ยอมฟังเรา พวกเขาไม่ยอมโยนพวกรูปปั้นชั่วที่ขยะแขยงทิ้ง ที่พวกเขาจ้องมองเพื่อขอความช่วยเหลือนั้น และไม่ยอมละทิ้งพวกรูปเคารพขี้ๆของอียิปต์ ดังนั้นเราจึงพูดว่า ‘เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขาและแสดงความโกรธใส่พวกเขาในแผ่นดินอียิปต์’
- เอเสเคียล 20:9 - แต่เพื่อไม่ให้เราเสียชื่อ ต่อชนชาติทั้งหลายรอบข้าง ที่ได้เห็นเรานำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เราจึงไม่ได้ทำลายพวกเขา
- เอเสเคียล 20:10 - เราได้นำชาวอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์ไปที่ทะเลทราย
- เอเสเคียล 20:11 - เราได้ให้ข้อบังคับต่างๆของเรากับพวกเขา และให้พวกเขารู้จักกฎต่างๆของเรา เพราะคนเหล่านั้นที่เชื่อฟังกฎพวกนั้น จะมีชีวิตต่อไป
- เอเสเคียล 20:12 - เรายังให้วันหยุดพักผ่อนต่างๆกับพวกเขา เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจให้ระลึกถึงสายสัมพันธ์ที่เรามีต่อกัน พวกเขาจึงรู้ว่าเราคือยาห์เวห์ที่ทำให้พวกเขาเป็นของเราโดยเฉพาะ
- เอเสเคียล 20:13 - แต่ประชาชนชาวอิสราเอลได้กบฏต่อเราในทะเลทราย พวกเขาไม่ยอมทำตามข้อบังคับทั้งหลายของเรา พวกเขาไม่ยอมรับกฎต่างๆของเรา ทั้งๆที่การเชื่อฟังกฎเหล่านั้นทำให้มีชีวิต พวกเขาทำให้พวกวันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป เราจึงบอกว่า ‘เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขา และทำลายพวกเขาในทะเลทราย’
- เอเสเคียล 20:14 - แต่เพื่อไม่ให้เราเสียชื่อ ต่อชนชาติทั้งหลายที่ได้เห็นเรานำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เราจึงไม่ได้ทำลายพวกเขา
- เอเสเคียล 20:15 - ที่ทะเลทรายนั้น เราได้ยกมือขึ้นสาบานกับพวกเขาว่า ‘เราจะไม่นำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่เราสัญญาว่าจะให้กับพวกเขา ซึ่งเป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามที่สุดในบรรดาแผ่นดินทั้งหมด’
- เอเสเคียล 20:16 - เพราะพวกเขาไม่ยอมรับกฎต่างๆของเราและไม่ทำตามข้อบังคับของเรา และยังทำให้วันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย เพราะพวกเขาได้มอบใจของพวกเขาให้กับพวกรูปเคารพทั้งหลายเหล่านั้นไป
- เอเสเคียล 20:17 - แต่เราได้มองดูพวกเขาด้วยความสงสารและไม่ได้ทำลายพวกเขาหรือทำให้พวกเขาจบสิ้นไปที่ทะเลทรายนั้น
- เอเสเคียล 20:18 - เราได้พูดกับลูกๆของพวกเขาในทะเลทรายว่า ‘อย่าทำตามข้อบังคับต่างๆของพวกพ่อเจ้า อย่ารักษากฎทั้งหลายของพวกเขา อย่าทำตัวของพวกเจ้าให้แปดเปื้อนไปด้วยรูปเคารพของพวกเขา
- เอเสเคียล 20:19 - เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า ให้ทำตามข้อบังคับของเรา และให้รักษากฎของเราอย่างเคร่งครัด
- เอเสเคียล 20:20 - ให้รักษาพวกวันหยุดพักผ่อนที่เราให้กับเจ้าไว้ให้ศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นสิ่งเตือนใจให้ระลึกถึงสายสัมพันธ์ที่เรามีต่อกัน แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า’
- เอเสเคียล 20:21 - แต่ลูกๆพวกนั้นได้กบฏต่อเราอีก พวกเขาไม่ยอมทำตามข้อบังคับทั้งหลายของเรา พวกเขาไม่ได้รักษากฎของเราอย่างเคร่งครัด ทั้งๆที่การเชื่อฟังกฎเหล่านั้นทำให้มีชีวิต พวกเขายังทำให้วันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ด้วย ดังนั้น เราจึงบอกว่า ‘เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขา และแสดงความโกรธใส่พวกเขาในทะเลทราย’
- เอเสเคียล 20:22 - แต่เราได้ยั้งมือไว้ เพื่อไม่ให้เราเสียชื่อต่อชนชาติทั้งหลายที่ได้เห็นเรานำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
- เอเสเคียล 20:23 - ที่ทะเลทรายนั้น เราได้ยกมือขึ้นสาบานกับพวกเขาว่า ‘เราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปอยู่ตามชนชาติต่างๆและทำให้พวกเขาแตกกระเจิงไปอยู่ตามประเทศทั้งหลาย’
- เอเสเคียล 20:24 - เพราะพวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังกฎต่างๆของเรา พวกเขาไม่ยอมรับข้อบังคับต่างๆของเรา และยังทำให้วันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป สายตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่พวกรูปเคารพของบรรพบุรุษของพวกเขา
- เอเสเคียล 20:25 - ดังนั้นเราจึงให้กฎระเบียบที่ห่วยๆกับพวกเขาและให้กฎที่ไม่สามารถช่วยให้พวกเขามีชีวิตรอดได้
- เอเสเคียล 20:26 - เราทำให้พวกเขาแปดเปื้อนไป ด้วยของถวายของพวกเขาเอง คือการสังเวยลูกชายหัวปี เพื่อเราจะได้ทำลายพวกเขาและให้พวกเขารู้ว่าเราคือยาห์เวห์
- เอเสเคียล 20:27 - ดังนั้น เจ้าลูกมนุษย์ ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ‘พวกพ่อของเจ้าได้ทรยศเรา ซึ่งเป็นการลบหลู่เรา
- เอเสเคียล 20:28 - เราได้นำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่เราได้สาบานไว้ว่าจะให้กับพวกเขา แต่พอพวกเขาเห็นเนินเขาสูงลูกใดหรือต้นไม้ต้นไหนที่ให้ร่มเงา พวกเขาก็จะถวายเครื่องบูชาของพวกเขาที่นั่น พวกเขาได้ยั่วยุให้เราโกรธ ด้วยการถวายเครื่องบูชาอันมีกลิ่นหอม และเทเครื่องดื่มบูชาให้กับพระปลอมที่นั่น
- เอเสเคียล 20:29 - เราจึงถามพวกเขาว่า “ศาลเจ้าอะไรหรือที่พวกเจ้าไปกัน” มันถึงเรียกว่า บามาห์ มาจนถึงทุกวันนี้’
- เอเสเคียล 20:30 - ดังนั้นให้บอกกับครอบครัวชาวอิสราเอลว่า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
- เอเสเคียล 20:31 - การที่พวกเจ้ายังถวายเครื่องบูชา ด้วยการเอาลูกๆของพวกเจ้าใส่เข้าไปในไฟ พวกเจ้าก็ได้ทำให้ตัวเองแปดเปื้อนด้วยรูปเคารพทั้งหลายของพวกเจ้ามาจนถึงทุกวันนี้ แล้วเจ้ายังมีหน้ามาขอคำปรึกษาจากเราอีกหรือ ครอบครัวอิสราเอลเอ๋ย เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะไม่ตอบคำถามพวกเจ้าแม้แต่ข้อเดียว” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- เอเสเคียล 20:32 - พวกเจ้าพูดว่า “พวกเราอยากเป็นเหมือนชนเผ่าอื่นๆในโลกนี้ ที่นมัสการพระเจ้าที่เป็นไม้หรือหิน” แต่สิ่งที่พวกเจ้าคิดนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นหรอก
- ลูกา 12:15 - พระเยซูพูดอีกว่า “ระวังความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตที่แท้จริงนั้นไม่ได้อยู่ที่การมีทรัพย์สมบัติมากมาย”
- ลูกา 12:16 - แล้วพระองค์เล่าเรื่องเปรียบเทียบนี้ให้ฟังว่า “มีชายที่ร่ำรวยคนหนึ่ง ไร่นาของเขาให้พืชผลดีมาก
- ลูกา 12:17 - เขาคิดในใจว่า ‘ข้าจะทำยังไงดี ไม่มีที่จะเก็บพืชผลพวกนี้ของข้าแล้ว’
- ลูกา 12:18 - เขาจึงคิดว่า ‘อ๋อ รู้แล้ว ข้าจะรื้อยุ้งฉางพวกนี้ของข้าทิ้งแล้วสร้างขึ้นใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม เพื่อจะได้เก็บพืชผลและสิ่งของทั้งหมดของข้าไว้ที่นั่น’
- ลูกา 12:19 - แล้วจะบอกกับตัวเองว่า ‘ข้าได้เก็บสะสมของดีๆไว้ตั้งมากมายแล้ว มีพอสำหรับหลายปี ไปกิน ดื่มและใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานดีกว่า’
- ลูกา 12:20 - แต่พระเจ้าบอกกับเขาว่า ‘ไอ้โง่ คืนนี้เจ้าก็จะตายแล้ว แล้วของที่เจ้าสะสมไว้จะตกไปเป็นของใครกัน’
- ลูกา 12:21 - มันก็จะเป็นอย่างนี้แหละ สำหรับคนที่ชอบสะสมความร่ำรวยให้กับตัวเอง แต่ไม่ร่ำรวยในสายตาพระเจ้า”
- เฉลยธรรมบัญญัติ 5:28 - พระยาห์เวห์ได้ยินสิ่งที่พวกท่านพูดกับเรา พระองค์พูดกับเราว่า ‘เราได้ยินคำพูดที่ประชาชนพวกนี้พูดกับเจ้า สิ่งที่พวกเขาพูดนั้นดี
- เฉลยธรรมบัญญัติ 5:29 - เราอยากให้พวกเขาทั้งหลายเกรงกลัวเรา และเชื่อฟังคำสั่งทั้งหมดของเราเสมอ เพื่อทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี ทั้งกับตัวพวกเขาเองและกับลูกหลานของพวกเขาตลอดไป
- อิสยาห์ 28:13 - ดังนั้น เมื่อคนต่างชาติบุกเข้ามา เมื่อนั้นแหละข่าวสารจากพระยาห์เวห์ก็จะเป็นเหมือนเสียงพูดอ้อแอ้กับพวกเขา ที่ว่า “ซอ ราซอ ซอ ราซอ คอ ราคอ คอ ราคอ ซีเออร์แชม ซีเออร์แชม” แล้วพวกเขาจะไป และล้มหงายหลัง ได้รับบาดเจ็บ ติดกับ และถูกจับไปเป็นเชลย
- 1 ทิโมธี 6:9 - ส่วนคนที่อยากจะร่ำรวย ก็ตกลงไปในการทดลองและกับดัก ความอยากได้ที่โง่ๆและเต็มไปด้วยอันตรายทั้งหลาย ทำให้เขาจมดิ่งลงสู่ความพินาศและสูญสิ้นไป
- 1 ทิโมธี 6:10 - เพราะการรักเงินทอง เป็นรากเหง้าของความชั่วทุกชนิด ความอยากรวยนี้ทำให้บางคนทิ้งความเชื่อไป และทั่วทั้งร่างกายก็ถูกทิ่มแทงอย่างเจ็บปวด
- 1 ยอห์น 3:17 - คนที่มีทรัพย์สมบัติมากมายในโลกนี้ เมื่อเห็นพี่น้องของเขาขัดสนและต้องการความช่วยเหลือ แต่ใจจืดใจดำไม่ช่วย ก็แสดงว่าความรักของพระเจ้าไม่ได้อยู่ในคนๆนี้เลย
- 1 ยอห์น 3:18 - ลูกเล็กๆที่รัก อย่าให้เรารักกันแค่คำพูดหรือรักแต่ปากเท่านั้น แต่ให้เรารักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริงใจ
- ลูกา 6:48 - ก็เปรียบเหมือนคนสร้างบ้าน ที่ขุดดินลงไปลึก และวางรากฐานไว้บนหิน เมื่อน้ำท่วม กระแสน้ำไหลเชี่ยวมาพัดบ้าน บ้านก็ไม่สั่นคลอน เพราะสร้างไว้อย่างมั่นคง
- ลูกา 6:49 - แต่คนที่ได้ฟัง แล้วไม่ทำตาม ก็เปรียบเหมือนกับคนที่สร้างบ้านไว้บนดิน ไม่มีรากฐาน เมื่อกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาพัดบ้าน บ้านก็พังราบคาบ เสียหายยับเยินทันที”
- เอเสเคียล 8:1 - ในวันที่ห้า เดือนที่หกปีที่หก ในขณะที่ผมกำลังนั่งอยู่ในบ้านและพวกผู้นำอาวุโสของยูดาห์ก็นั่งอยู่ต่อหน้าผม มือของพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตได้มาอยู่บนตัวผมที่นั่น
- ลูกา 11:28 - แต่พระองค์พูดว่า “ใช่ แต่คนที่ฟังและทำตามถ้อยคำของพระเจ้า ก็มีเกียรติยิ่งกว่า”
- ยากอบ 1:22 - ให้ทำตามคำสั่งสอนของพระเจ้าอยู่เสมอ อย่าเอาแต่ฟังเฉยๆเพราะนั่นเป็นการหลอกตัวเอง
- ยากอบ 1:23 - เพราะคนที่ฟังคำสั่งสอนของพระเจ้า แล้วไม่ทำตาม ก็เหมือนกับคนที่ส่องหน้าตัวเองในกระจก
- ยากอบ 1:24 - พอส่องเสร็จ เดินไปก็ลืมแล้วว่าหน้าตาเป็นอย่างไร
- ยากอบ 2:14 - พี่น้องครับ มันจะมีประโยชน์อะไรกันถ้าคนหนึ่งอ้างว่า เขามีความเชื่อ แต่เขาไม่ทำอะไรเลย แล้วความเชื่อนั้นจะช่วยให้เขารอดได้หรือ เป็นไปไม่ได้
- ยากอบ 2:15 - ถ้าพี่น้องไม่มีเสื้อผ้าใส่ และไม่มีอาหารกิน
- ยากอบ 2:16 - แล้วคุณคนหนึ่งพูดว่า “ขอให้มีความสุข ขอให้อบอุ่นกายและขอให้อิ่มหนำสำราญ” แต่ไม่ช่วยอะไรเลย แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร
- อิสยาห์ 29:13 - องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “คนพวกนี้เข้ามาใกล้เราด้วยปากของเขาเท่านั้น พวกเขาให้เกียรติเราด้วยริมฝีปากเท่านั้น แต่หัวใจของพวกเขาห่างไกลจากเรา และที่พวกเขามานมัสการเรานั้นก็เป็นแค่ทำตามกฎของมนุษย์ที่ท่องจำกันมาเท่านั้น
- มัทธิว 13:22 - เมล็ดพืชที่ตกลงในพงหนามนั้น คือคนที่ฟังถ้อยคำ แต่ยังเป็นห่วงกังวลเกี่ยวกับชีวิตในโลกนี้ และหลงไหลในทรัพย์สมบัติ สิ่งเหล่านี้มาคลุมถ้อยคำไว้ เลยไม่เกิดผล
- สดุดี 78:36 - พวกเขาพยายามหลอกพระองค์ด้วยปาก และโกหกพระองค์ด้วยลิ้น
- สดุดี 78:37 - พวกเขาไม่จริงใจต่อพระเจ้า และไม่สัตย์ซื่อต่อข้อตกลงที่ทำไว้กับพระองค์