逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - ลูกสาวคนเล็กคลอดลูกชายเหมือนกัน เธอตั้งชื่อเขาว่าเบน-อัมมี เขาเป็นบรรพบุรุษของชาวอัมโมนจนทุกวันนี้
- 新标点和合本 - 小女儿也生了儿子,给他起名叫便亚米,就是现今亚扪人的始祖。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 小女儿也生了儿子,给他起名叫便‧亚米,就是现今亚扪人的始祖。
- 和合本2010(神版-简体) - 小女儿也生了儿子,给他起名叫便‧亚米,就是现今亚扪人的始祖。
- 当代译本 - 小女儿也生了一个儿子,给他取名叫便·亚米 ,他是今天亚扪人的祖先。
- 圣经新译本 - 小女儿也生了一个儿子,给他起名叫便.亚米,就是现在亚扪人的始祖。
- 中文标准译本 - 至于小女儿,她也生了一个儿子,给他起名为便亚米,他就是今天亚扪子孙的始祖。
- 现代标点和合本 - 小女儿也生了儿子,给他起名叫便亚米,就是现今亚扪人的始祖。
- 和合本(拼音版) - 小女儿也生了儿子,给他起名叫便亚米,就是现今亚扪人的始祖。
- New International Version - The younger daughter also had a son, and she named him Ben-Ammi ; he is the father of the Ammonites of today.
- New International Reader's Version - The younger daughter also had a son. She named him Ben-Ammi. He’s the father of the Ammonites of today.
- English Standard Version - The younger also bore a son and called his name Ben-ammi. He is the father of the Ammonites to this day.
- New Living Translation - When the younger daughter gave birth to a son, she named him Ben-ammi. He became the ancestor of the nation now known as the Ammonites.
- Christian Standard Bible - The younger also gave birth to a son, and she named him Ben-ammi. He is the father of the Ammonites of today.
- New American Standard Bible - As for the younger, she also gave birth to a son, and named him Ben-ammi; he is the father of the sons of Ammon to this day.
- New King James Version - And the younger, she also bore a son and called his name Ben-Ammi; he is the father of the people of Ammon to this day.
- Amplified Bible - The younger also gave birth to a son and named him Ben-ammi (son of my people); he is the father of the Ammonites to this day.
- American Standard Version - And the younger, she also bare a son, and called his name Ben-ammi: the same is the father of the children of Ammon unto this day.
- King James Version - And the younger, she also bare a son, and called his name Ben–ammi: the same is the father of the children of Ammon unto this day.
- New English Translation - The younger daughter also gave birth to a son and named him Ben-Ammi. He is the ancestor of the Ammonites of today.
- World English Bible - The younger also bore a son, and called his name Ben Ammi. He is the father of the children of Ammon to this day.
- 新標點和合本 - 小女兒也生了兒子,給他起名叫便‧亞米,就是現今亞捫人的始祖。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 小女兒也生了兒子,給他起名叫便‧亞米,就是現今亞捫人的始祖。
- 和合本2010(神版-繁體) - 小女兒也生了兒子,給他起名叫便‧亞米,就是現今亞捫人的始祖。
- 當代譯本 - 小女兒也生了一個兒子,給他取名叫便·亞米 ,他是今天亞捫人的祖先。
- 聖經新譯本 - 小女兒也生了一個兒子,給他起名叫便.亞米,就是現在亞捫人的始祖。
- 呂振中譯本 - 小女兒也生個兒子,她給他起名叫 便亞米 ,就是今日 亞捫 人的始祖。
- 中文標準譯本 - 至於小女兒,她也生了一個兒子,給他起名為便亞米,他就是今天亞捫子孫的始祖。
- 現代標點和合本 - 小女兒也生了兒子,給他起名叫便亞米,就是現今亞捫人的始祖。
- 文理和合譯本 - 季女亦生子、命名便亞米、為亞捫族之祖、
- 文理委辦譯本 - 季女亦生子、命名便亞米、為亞捫族之祖。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 季女亦生子、命名 便亞米 、即今 亞捫 族之祖、
- Nueva Versión Internacional - La hija menor también tuvo un hijo, a quien llamó Ben Amí, padre de los actuales amonitas.
- 현대인의 성경 - 그리고 작은 딸도 아들을 낳아 이름을 벤 – 암미라고 지었으며 그는 오늘날 암몬 사람들의 조상이 되었다.
- Новый Русский Перевод - Младшая дочь тоже родила сына и назвала его Бен-Амми ; он – отец нынешних аммонитян.
- Восточный перевод - Младшая дочь тоже родила сына и назвала его Бен-Амми («сын моего народа»); он отец нынешних аммонитян.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Младшая дочь тоже родила сына и назвала его Бен-Амми («сын моего народа»); он отец нынешних аммонитян.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Младшая дочь тоже родила сына и назвала его Бен-Амми («сын моего народа»); он отец нынешних аммонитян.
- La Bible du Semeur 2015 - La cadette aussi eut un fils, qu’elle appela Ben-Ammi (Fils de mon parent) ; c’est l’ancêtre des Ammonites qui existent encore aujourd’hui.
- リビングバイブル - 妹の子はベン・アミという名で、アモン人の先祖です。
- Nova Versão Internacional - A mais nova também teve um filho e deu-lhe o nome de Ben-Ami ; este é o pai dos amonitas de hoje.
- Hoffnung für alle - Auch die Jüngere bekam einen Sohn und nannte ihn Ben-Ammi (»Sohn meines Verwandten«). Er wurde der Stammvater der Ammoniter.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Cô em cũng sinh con trai và đặt tên Bên Am-mi. Ông là tổ phụ của dân tộc Am-môn ngày nay.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - บุตรสาวคนเล็กก็มีบุตรชายคนหนึ่งด้วย นางตั้งชื่อเขาว่าเบนอัมมี เขาเป็นบรรพบุรุษของชาวอัมโมน ในปัจจุบัน
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - คนน้องได้บุตรชายเช่นกัน และตั้งชื่อเขาว่า เบนอัมมี เขาเป็นบิดาต้นตระกูลของชาวอัมโมนมาจนถึงทุกวันนี้
- Thai KJV - ส่วนน้องสาว เธอคลอดบุตรชายคนหนึ่งด้วยและเรียกชื่อของเขาว่า เบน-อัมมี เขาเป็นบรรพบุรุษของคนอัมโมนมาจนถึงทุกวันนี้
交叉引用
- เศฟันยาห์ 2:9 - พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าของอิสราเอล จึงพูดว่า “เรามีชีวิตอยู่แน่นอนฉันใด โมอับจะเป็นเหมือนเมืองโสโดม และคนอัมโมนก็จะเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์ คือจะเป็นผืนดินที่มีแต่วัชพืชขึ้น เป็นบ่อเกลือ และเป็นที่รกร้างตลอดไป และคนของเราที่เหลืออยู่จะปล้นทรัพย์สมบัติของพวกเขา ผู้ที่รอดชีวิตของชนชาติเราจะยึดเอาที่ดินทั้งหลายของพวกเขา”
- เนหะมียาห์ 13:23 - ในครั้งนั้นผมเห็นชายชาวยูดาห์ แต่งงานกับหญิงชาวอัชโดด ชาวอัมโมน และชาวโมอับ
- เนหะมียาห์ 13:24 - ครึ่งหนึ่งของลูกๆพวกเขา พูดภาษาอัชโดด หรือภาษาของชนชาติอื่น พวกเด็กๆเหล่านั้นพูดภาษายูดาห์ไม่เป็น
- เนหะมียาห์ 13:25 - ผมจึงบอกคนเหล่านั้นว่าพวกเขาทำผิด และสาปแช่งพวกเขา และผมได้ทุบตีพวกเขาบางคนและดึงผมของพวกเขา และทำให้พวกเขาสาบานในนามของพระเจ้า ผมพูดว่า “พวกเจ้าจะต้องไม่ยกลูกสาวให้เป็นเมียลูกชายของคนพวกนั้น และเจ้าเองก็ต้องไม่รับเอาลูกสาวของพวกเขามาเป็นเมียลูกชายของเจ้า หรือเป็นเมียเจ้าเอง
- เนหะมียาห์ 13:26 - ที่กษัตริย์ซาโลมอน แห่งอิสราเอลได้ทำบาปนั้นเป็นเพราะพวกผู้หญิงอย่างพวกนี้ไม่ใช่หรือ ในพวกประเทศทั้งหลาย ไม่มีกษัตริย์องค์ไหนที่เป็นเหมือนกับกษัตริย์ซาโลมอน ที่พระเจ้าของพระองค์ได้รักพระองค์มากขนาดนั้น พระเจ้าทำให้ซาโลมอนเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลทั้งหมด แต่เมียต่างชาติพวกนั้นทำให้พระองค์ทำบาป
- เนหะมียาห์ 13:27 - แล้วอย่างนี้พวกเราควรฟังเจ้าหรือ และทำความชั่วที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ และทรยศต่อพระเจ้าของเราโดยแต่งงานกับพวกหญิงต่างชาติอย่างนั้นหรือ”
- เนหะมียาห์ 13:28 - เอลียาชีบผู้เป็นนักบวชสูงสุดมีลูกชายคนหนึ่งชื่อว่าเยโฮยาดา ที่เป็นลูกเขยของสันบาลลัทชาวโฮโรนาอิม ผมได้ไล่เยโฮยาดาให้ไปอยู่ห่างไกลจากผม
- ผู้วินิจฉัย 10:6 - ชาวอิสราเอลได้ทำสิ่งชั่วร้ายในสายตาพระยาห์เวห์อีก พวกเขาไปรับใช้พระบาอัล และพระอัชทาโรท รวมทั้งไปรับใช้พระต่างๆของชาวอาราม ชาวไซดอน ชาวโมอับ ชาวอัมโมน และชาวฟีลิสเตีย พวกเขาได้ละทิ้งพระยาห์เวห์ และไม่รับใช้พระองค์
- ผู้วินิจฉัย 10:7 - พระยาห์เวห์ก็เลยโกรธพวกชาวอิสราเอล พระองค์จึงขายชาวอิสราเอลให้ไปตกอยู่ในมือของชาวฟีลิสเตียและชาวอัมโมน
- ผู้วินิจฉัย 10:8 - พวกนี้จึงข่มเหงและบีบบังคับชาวอิสราเอล ตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมา พวกนี้ได้ข่มเหงชาวอิสราเอลทั้งหมดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำจอร์แดน ในแผ่นดินของคนอาโมไรต์ ที่อยู่ในกิเลอาด เป็นเวลาถึงสิบแปดปี
- ผู้วินิจฉัย 10:9 - และชาวอัมโมนก็ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปสู้กับชาวยูดาห์ด้วย และยังไปสู้กับชาวเบนยามิน และชาวเมืองของเอฟราอิมด้วยเหมือนกัน ดังนั้นชาวอิสราเอลจึงทุกข์ร้อนอย่างหนัก
- ผู้วินิจฉัย 10:10 - ชาวอิสราเอลจึงร้องต่อพระยาห์เวห์ว่า “พวกเราได้ทำบาปต่อพระองค์แล้ว ที่พวกเราได้ละทิ้งพระเจ้าของเราและไปรับใช้พระบาอัล”
- ผู้วินิจฉัย 10:11 - แล้วพระยาห์เวห์ได้พูดกับชาวอิสราเอลว่า “ไม่ใช่เราหรอกหรือ ที่ได้ช่วยกู้พวกเจ้าจากชาวอียิปต์ ชาวอาโมไรต์ ชาวอัมโมน และชาวฟีลิสเตีย
- ผู้วินิจฉัย 10:12 - แล้วตอนที่พวกชาวไซดอน ชาวอามาเลค และชาวมาโอน ได้ข่มเหงเจ้า พวกเจ้าก็ได้ร้องขอให้เราช่วย และเราก็ได้ช่วยเจ้าให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกมัน
- ผู้วินิจฉัย 10:13 - แต่พวกเจ้าได้ละทิ้งเราไป และไปรับใช้พระอื่นๆ อย่างนั้นเราจะไม่ช่วยเจ้าอีกแล้ว
- ผู้วินิจฉัย 10:14 - ไปร้องขอความช่วยเหลือจากพระพวกนั้นที่เจ้าได้เลือกสิ ให้พวกมันมาช่วยพวกเจ้า ตอนที่พวกเจ้าทุกข์ร้อนอยู่นี้”
- ผู้วินิจฉัย 10:15 - ชาวอิสราเอลพูดกับพระยาห์เวห์ว่า “พวกเราทำบาปไปแล้ว พระองค์จะทำอะไรกับเราก็ได้ ที่พระองค์เห็นว่าสมควร แต่ตอนนี้ ได้โปรดช่วยเหลือพวกเราด้วยเถิด”
- ผู้วินิจฉัย 10:16 - พวกเขาก็เลยเอาพระของคนต่างชาติพวกนั้นไปโยนทิ้ง และหันกลับมารับใช้พระยาห์เวห์ แล้วพระยาห์เวห์ก็ใจอ่อน ทนไม่ไหวที่จะเห็นพวกอิสราเอลต้องทนทุกข์อีกต่อไป
- ผู้วินิจฉัย 10:17 - พวกชาวอัมโมนถูกเรียกให้มารวมตัวกันเพื่อทำสงคราม และพวกเขาตั้งค่ายอยู่ที่กิเลอาด ส่วนชาวอิสราเอลก็รวมตัวกัน และตั้งค่ายอยู่ที่มิสปาห์
- ผู้วินิจฉัย 10:18 - พวกผู้นำของกองทัพของกิเลอาดพูดกันว่า “ใครก็ตามที่นำหน้าพวกเราเข้าสู้รบกับชาวอัมโมน เขาก็จะได้เป็นหัวหน้าของชาวกิเลอาดทั้งหมด”
- อิสยาห์ 11:14 - แต่ทั้งอิสราเอลและยูดาห์ ก็จะโฉบเข้าโจมตีด้านหลังของคนฟีลิสเตีย ไปทางด้านตะวันตก และพวกเขาก็จะร่วมกันปล้นทรัพย์สมบัติของผู้คนทางตะวันออกด้วย รวมทั้งเมืองเอโดม และโมอับ ที่จะตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกเขา และคนอัมโมนก็จะเชื่อฟังพวกเขา
- 2 ซามูเอล 10:1 - ในเวลาต่อมา กษัตริย์ของชาวอัมโมนได้ตายไป ลูกชายของเขาชื่อฮานูนได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากพ่อของเขา
- 2 ซามูเอล 10:2 - ดาวิดคิดว่า “เราจะดีต่อฮานูนลูกชายของนาหาชเหมือนกับที่พ่อของเขาเคยดีต่อเรา”
- 2 ซามูเอล 10:3 - พวกผู้นำของชาวอัมโมนพูดกับฮานูนนายของพวกเขาว่า “ท่านคิดว่าดาวิดกำลังให้เกียรติพ่อของท่านหรือ ที่ส่งคนมาเพื่อปลอบโยนท่านอย่างนี้ ดาวิดส่งคนของเขามา เพื่อสำรวจ สอดแนมเมือง และเตรียมทำสงครามกับท่าน”
- 2 ซามูเอล 10:4 - ฮานูนจึงจับพวกคนของดาวิดไว้ แล้วโกนเคราของพวกเขาออกข้างหนึ่ง และตัดเสื้อผ้าของพวกเขาออกข้างหนึ่งตั้งแต่สะโพกลงไปและไล่พวกเขาออกไป
- 2 ซามูเอล 10:5 - เมื่อมีคนมาบอกดาวิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดาวิดส่งคนส่งข่าวมาพบคนเหล่านั้น เพราะพวกเขารู้สึกอับอายมาก กษัตริย์พูดว่า “ให้อยู่ที่เมืองเยริโคจนกว่าเคราของพวกท่านจะงอกขึ้นมาใหม่ แล้วค่อยกลับมา”
- 2 ซามูเอล 10:6 - เมื่อชาวอัมโมนรู้ว่าพวกเขาทำให้ดาวิดเกลียดชังเสียแล้ว พวกเขาจึงจ้างทหารเดินเท้าชาวอารัมสองหมื่นคนมาจากเมืองเบธเรโหบและเมืองโศบาห์ รวมทั้งจ้างกษัตริย์มาอาคาห์กับคนของเขาอีกหนึ่งพันคน และจ้างชาวเมืองโทบอีกหนึ่งหมื่นสองพันคน
- 2 ซามูเอล 10:7 - เมื่อดาวิดรู้เรื่องนี้ เขาได้ส่งโยอาบพร้อมกับกองทัพนักรบทั้งหมดของเขาออกไป
- 2 ซามูเอล 10:8 - ชาวอัมโมนออกมาเตรียมรบอยู่ที่ทางเข้าประตูเมือง ขณะที่ชาวอารัมจากเมืองโศบาห์และเมืองเรโหบ และคนของเมืองโทบกับของมาอาคาห์อยู่ในทุ่งกว้าง
- 2 ซามูเอล 10:9 - เมื่อโยอาบเห็นว่ามีกองทัพล้อมเขาอยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เขาจึงเลือกทหารที่ดีที่สุดในกองทหารของอิสราเอลออกมากองหนึ่ง และสั่งให้พวกเขาออกไปต่อสู้กับชาวอารัม
- 2 ซามูเอล 10:10 - เขาจัดกองทัพที่เหลือภายใต้การบัญชาการของอาบีชัยน้องชายของเขาให้เข้าไปต่อสู้กับชาวอัมโมน
- 2 ซามูเอล 10:11 - โยอาบพูดกับอาบีชัยว่า “ถ้าชาวอารัมแข็งแกร่งเกินไปสำหรับเรา ท่านต้องมาช่วยเหลือเรา แต่ถ้าชาวอัมโมนแข็งแกร่งเกินไปสำหรับท่าน เราจะมาช่วยเหลือท่าน
- 2 ซามูเอล 10:12 - กล้าหาญไว้ และสู้ให้สมกับเป็นชายชาติทหารเพื่อคนของพวกเรา และเพื่อเมืองต่างๆของพระเจ้าของพวกเรา ขอให้พระยาห์เวห์จัดการตามที่พระองค์เห็นสมควรเถิด”
- 2 ซามูเอล 10:13 - แล้วโยอาบและกองทัพที่ไปกับเขา ก็ได้บุกเข้าสู้รบกับชาวอารัม และชาวอารัมได้ถอยหนีไปต่อหน้าเขา
- 2 ซามูเอล 10:14 - เมื่อชาวอัมโมนเห็นว่าชาวอารัมกำลังหลบหนี พวกเขาจึงหลบหนีไปต่อหน้าอาบีชัยและกลับเข้าไปในเมือง โยอาบก็กลับมาจากการสู้รบกับชาวอัมโมนและมาถึงเมืองเยรูซาเล็ม
- 2 ซามูเอล 10:15 - หลังจากที่ชาวอารัมเห็นว่าพวกเขาถูกอิสราเอลตีแตก พวกเขาจึงรวมตัวกันอีกครั้ง
- 2 ซามูเอล 10:16 - ฮาดัด-เอเซอร์ นำชาวอารัมมาจากอีกฝั่งของแม่น้ำ พวกเขาไปที่เฮลามโดยมีโชบัคแม่ทัพของกษัตริย์ฮาดัด-เอเซอร์เป็นผู้นำทัพ
- 2 ซามูเอล 10:17 - เมื่อมีคนมาบอกดาวิดถึงเรื่องนี้ ดาวิดจึงรวบรวมอิสราเอลทั้งหมดข้ามแม่น้ำจอร์แดน และไปที่เฮลาม
- 2 ซามูเอล 10:18 - แต่ดาวิดรบชนะพวกเขา และพวกเขาหลบหนีไปต่อหน้าอิสราเอล ดาวิดได้ฆ่าคนขับรถรบของพวกเขาไปเจ็ดร้อยคนและทหารเดินเท้า อีกสี่หมื่นคน ดาวิดได้ทำให้โชบัคแม่ทัพของชาวอารัมบาดเจ็บ เขาจึงตายที่นั่นด้วย
- 2 ซามูเอล 10:19 - เมื่อกษัตริย์ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้อำนาจของฮาดัดเอเซอร์ เห็นว่าพวกเขาพ่ายแพ้ต่ออิสราเอลแล้ว พวกเขาจึงทำสัญญาสงบศึกและยอมตกเป็นทาสของอิสราเอล ชาวอารัมจึงกลัวและไม่กล้าช่วยชาวอัมโมนอีกต่อไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 2:9 - พระยาห์เวห์ได้พูดกับเราว่า ‘อย่าไปรังควานพวกโมอับและอย่าทำสงครามกับพวกเขา เพราะเราจะไม่ยกแผ่นดินของพวกโมอับให้เจ้าครอบครอง เพราะเราได้ยกเมืองอาร์ให้ลูกหลานของโลท ครอบครองไปแล้ว’”
- เนหะมียาห์ 13:1 - ในวันนั้นพวกเขาอ่านหนังสือของโมเสสให้ประชาชนฟัง พวกเขาพบข้อความซึ่งเขียนไว้ว่า ไม่ควรให้ชาวอัมโมนหรือชาวโมอับเข้าในที่ประชุมเพื่อนมัสการพระเจ้า
- เนหะมียาห์ 13:2 - เพราะชาวอัมโมนและชาวโมอับไม่ได้ให้ขนมปังและน้ำกับชาวอิสราเอล แต่กลับจ้างบาลาอัมมาสาปแช่งพวกอิสราเอล แต่พระเจ้าได้เปลี่ยนคำสาปแช่งเป็นคำอวยพร
- เนหะมียาห์ 13:3 - เมื่อประชาชนได้ยินกฎบัญญัติ พวกเขาก็แยกคนต่างชาติออกจากคนอิสราเอล
- เฉลยธรรมบัญญัติ 23:3 - ชาวอัมโมนหรือชาวโมอับจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของประชาชนอิสราเอล และลูกหลานของเขาอีกสิบชั่วรุ่นก็จะไม่เป็นส่วนหนึ่งด้วยเหมือนกัน และจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป
- 1 ซามูเอล 11:1 - ประมาณหนึ่งเดือนผ่านไป นาหาชคนอัมโมนได้ขึ้นมาล้อมเมืองยาเบช-กิเลอาด ชาวเมืองยาเบชจึงพูดกับนาหาชว่า “ทำสัญญาสงบศึกกับพวกเราเถอะ และพวกเราจะยอมรับใช้ท่าน”
- 1 ซามูเอล 11:2 - แต่นาหาชชาวอัมโมนตอบว่า “เราจะทำสัญญาสงบศึกกับพวกเจ้า ก็ต่อเมื่อเราได้ควักดวงตาข้างขวาของพวกเจ้าออกทุกคน เพื่อคนอิสราเอลทั้งหมดจะได้รับความอับอายขายหน้า”
- 1 ซามูเอล 11:3 - พวกผู้นำของเมืองยาเบชพูดกับเขาว่า “ขอเวลาพวกเราสักเจ็ดวัน เพื่อจะได้ส่งข่าวไปให้ทั่วทุกแห่งที่คนอิสราเอลอยู่ แต่ถ้าไม่มีใครมาช่วยพวกเรา เราก็จะยอมจำนนต่อท่าน”
- 1 ซามูเอล 11:4 - เมื่อพวกคนส่งข่าวมาถึงเมืองกิเบอาห์ของซาอูล พร้อมกับแจ้งข่าวที่เกิดขึ้นให้กับชาวเมือง ชาวเมืองต่างพากันร้องไห้เสียงดัง
- 1 ซามูเอล 11:5 - พอดีซาอูลที่เพิ่งกลับมาจากท้องทุ่งกำลังต้อนฝูงวัวมา เขาจึงถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับประชาชนหรือ ทำไมพวกเขาถึงร้องไห้กันใหญ่”
- 1 ซามูเอล 11:6 - เมื่อซาอูลได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้น พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ก็พุ่งเข้าไปอยู่ในตัวซาอูล และทำให้เขาโกรธมาก
- 1 ซามูเอล 11:7 - เขาเอาวัวมาสองตัวสับเป็นชิ้นๆและให้คนส่งชิ้นส่วนของวัวไปให้คนอิสราเอลทั้งหมด พร้อมประกาศว่า “ใครที่ไม่ยอมตามซาอูลและซามูเอลมา วัวของพวกเขาก็จะถูกสับเป็นชิ้นๆเหมือนวัวตัวนี้”
- 1 ซามูเอล 11:8 - เมื่อซาอูลรวบรวมพลอยู่ที่เมืองเบเซก นับคนอิสราเอลได้จำนวนสามแสนคนและคนยูดาห์สามหมื่นคน
- 1 ซามูเอล 11:9 - ซาอูลและคนอิสราเอลทั้งหมดบอกคนส่งข่าวที่มาว่า “ไปบอกคนยาเบช-กิเลอาดว่า ‘เที่ยงของวันพรุ่งนี้ พวกท่านจะได้รับการช่วยกู้’”
- 1 ซามูเอล 11:10 - และพวกเขาก็บอกกับคนอัมโมนว่า “พรุ่งนี้เราจะยอมจำนนต่อท่าน และพวกท่านสามารถทำกับพวกเราชาวยาเบช-กิเลอาดตามที่ท่านเห็นดี”
- 1 ซามูเอล 11:11 - วันรุ่งขึ้นซาอูลแบ่งคนออกเป็นสามกลุ่ม ในระหว่างการเฝ้าเวรในตอนเช้า พวกเขาก็บุกเข้าไปทำลายค่ายของคนอัมโมนและฆ่าพวกเขา จนกระทั่งถึงเวลาเที่ยง พวกที่รอดชีวิตก็หนีกระเจิดกระเจิงตัวใครตัวมัน
- 1 ซามูเอล 11:12 - แล้วประชาชนก็พูดกับซามูเอลว่า “คนที่พูดว่า ‘ไอ้ซาอูลคนนั้นจะมาครอบครองเหนือพวกเราอย่างนั้นหรือ’ ให้นำคนเหล่านั้นมาให้พวกเรา เพื่อจะได้ฆ่าซะ”
- 1 ซามูเอล 11:13 - แต่ซาอูลพูดว่า “จะไม่มีใครถูกฆ่าตายในวันนี้ เพราะเป็นวันที่พระยาห์เวห์ได้ช่วยกู้คนอิสราเอลให้รอดพ้น”
- 1 ซามูเอล 11:14 - ดังนั้นซามูเอลจึงพูดกับประชาชนว่า “มาเถอะพวกเราไปที่กิลกาลกัน เพื่อจะได้ไปยืนยันอีกครั้งหนึ่งในเรื่องการปกครองด้วยกษัตริย์”
- 1 ซามูเอล 11:15 - แล้วประชาชนอิสราเอลทั้งหมดก็ไปที่กิลกาล และยืนยันให้ซาอูลเป็นกษัตริย์ต่อหน้าพระยาห์เวห์ แล้วพวกเขาก็ถวายเครื่องสังสรรค์บูชาให้กับพระยาห์เวห์ ซาอูลและคนอิสราเอลทั้งหมดก็ได้เฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่
- สดุดี 83:4 - พวกเขาพูดว่า “มาเถิด ไปกวาดล้างพวกมันให้สิ้นจนไม่เหลือเป็นชนชาติอีกต่อไป จนไม่มีใครจดจำชื่อของอิสราเอลได้อีก”
- สดุดี 83:5 - พวกเขาเห็นด้วยกันต่อแผนร้ายที่วางนั้น และทำข้อตกลงร่วมกันที่จะต่อต้านพระองค์
- สดุดี 83:6 - “คนพวกนี้คือตระกูลต่างๆของเอโดม คนอิชมาเอล คนโมอับ และคนฮาการ์
- สดุดี 83:7 - คนเกบาล คนอัมโมน คนอามาเลค คนฟีลิสเตีย และชาวเมืองไทระ”
- สดุดี 83:8 - แม้แต่อัสซีเรียก็ร่วมกับพวกเขา และเสริมกำลังให้กับลูกหลานของโลท เซลาห์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 2:19 - เจ้าจะเข้าไปใกล้กับลูกหลานของอัมโมน ‘อย่าไปยุ่งกับพวกเขาและอย่าต่อสู้กับพวกเขา เพราะเราจะไม่ยกแผ่นดินของลูกหลานอัมโมนให้เจ้าครอบครอง เพราะเราได้ยกแผ่นดินนั้นให้ลูกหลานของโลทครอบครองแล้ว’”