逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - พวกเขาได้ดับไฟที่โหมไหม้อย่างรุนแรง และรอดตายจากคมดาบ เขาได้รับกำลังจากพระเจ้าเมื่ออ่อนแอ และมีกำลังในสนามรบ และขับไล่กองทัพต่างชาติให้แตกกระเจิดกระเจิงไป
- 新标点和合本 - 灭了烈火的猛势,脱了刀剑的锋刃;软弱变为刚强,争战显出勇敢,打退外邦的全军。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 灭了烈火的威力,在锋利的刀剑下逃生,从软弱变为刚强,争战中显出勇猛,打退外邦的全军。
- 和合本2010(神版-简体) - 灭了烈火的威力,在锋利的刀剑下逃生,从软弱变为刚强,争战中显出勇猛,打退外邦的全军。
- 当代译本 - 熄灭了猛烈的火焰,刀下逃生,由软弱变为刚强,作战勇猛,击退外敌。
- 圣经新译本 - 消灭了烈火的威力,逃脱了刀剑的锋刃,软弱变成刚强,在战争中显出大能,把外国的军队击退。
- 中文标准译本 - 灭了烈火的威力,逃脱了刀剑的锋刃,从软弱中得以刚强,在战争中得以强大,击败了外国的军队。
- 现代标点和合本 - 灭了烈火的猛势,脱了刀剑的锋刃,软弱变为刚强,争战显出勇敢,打退外邦的全军。
- 和合本(拼音版) - 灭了烈火的猛势,脱了刀剑的锋刃,软弱变为刚强,争战显出勇敢,打退外邦的全军。
- New International Version - quenched the fury of the flames, and escaped the edge of the sword; whose weakness was turned to strength; and who became powerful in battle and routed foreign armies.
- New International Reader's Version - They put out great fires. They escaped being killed by swords. Their weakness was turned to strength. They became powerful in battle. They beat back armies from other countries.
- English Standard Version - quenched the power of fire, escaped the edge of the sword, were made strong out of weakness, became mighty in war, put foreign armies to flight.
- New Living Translation - quenched the flames of fire, and escaped death by the edge of the sword. Their weakness was turned to strength. They became strong in battle and put whole armies to flight.
- Christian Standard Bible - quenched the raging of fire, escaped the edge of the sword, gained strength in weakness, became mighty in battle, and put foreign armies to flight.
- New American Standard Bible - quenched the power of fire, escaped the edge of the sword, from weakness were made strong, became mighty in war, put foreign armies to flight.
- New King James Version - quenched the violence of fire, escaped the edge of the sword, out of weakness were made strong, became valiant in battle, turned to flight the armies of the aliens.
- Amplified Bible - extinguished the power of [raging] fire, escaped the edge of the sword, out of weakness were made strong, became mighty and unbeatable in battle, putting enemy forces to flight.
- American Standard Version - quenched the power of fire, escaped the edge of the sword, from weakness were made strong, waxed mighty in war, turned to flight armies of aliens.
- King James Version - Quenched the violence of fire, escaped the edge of the sword, out of weakness were made strong, waxed valiant in fight, turned to flight the armies of the aliens.
- New English Translation - quenched raging fire, escaped the edge of the sword, gained strength in weakness, became mighty in battle, put foreign armies to flight,
- World English Bible - quenched the power of fire, escaped the edge of the sword, from weakness were made strong, grew mighty in war, and caused foreign armies to flee.
- 新標點和合本 - 滅了烈火的猛勢,脫了刀劍的鋒刃;軟弱變為剛強,爭戰顯出勇敢,打退外邦的全軍。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 滅了烈火的威力,在鋒利的刀劍下逃生,從軟弱變為剛強,爭戰中顯出勇猛,打退外邦的全軍。
- 和合本2010(神版-繁體) - 滅了烈火的威力,在鋒利的刀劍下逃生,從軟弱變為剛強,爭戰中顯出勇猛,打退外邦的全軍。
- 當代譯本 - 熄滅了猛烈的火焰,刀下逃生,由軟弱變為剛強,作戰勇猛,擊退外敵。
- 聖經新譯本 - 消滅了烈火的威力,逃脫了刀劍的鋒刃,軟弱變成剛強,在戰爭中顯出大能,把外國的軍隊擊退。
- 呂振中譯本 - 撲滅了烈火之威力,躲脫了刀劍的鋒刃,從軟弱中得了能力,在戰爭中顯為勇猛,使外國的隊伍掉頭逃竄。
- 中文標準譯本 - 滅了烈火的威力,逃脫了刀劍的鋒刃,從軟弱中得以剛強,在戰爭中得以強大,擊敗了外國的軍隊。
- 現代標點和合本 - 滅了烈火的猛勢,脫了刀劍的鋒刃,軟弱變為剛強,爭戰顯出勇敢,打退外邦的全軍。
- 文理和合譯本 - 滅火勢、避鋒刃、弱而強、戰而勇、破異邦軍、
- 文理委辦譯本 - 使火燄不傷、鋒刃可避、弱而強、戰而勇、破敵陳、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 滅火燄之勢、避刀之鋒刃、由弱成強、於戰則勇、攻退異邦人隊伍、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 撲滅燎原、脫免刀兵、轉弱為強、奮勇作戰、所向披靡、無一而不憑信德也。
- Nueva Versión Internacional - apagaron la furia de las llamas y escaparon del filo de la espada; sacaron fuerzas de flaqueza; se mostraron valientes en la guerra y pusieron en fuga a ejércitos extranjeros.
- 현대인의 성경 - 또 불 가운데서 구원을 받았고 칼날도 피했으며 약한 사람이 강해지고 싸움터에서 용감하게 외국 군대를 무찌르기도 하였습니다.
- Новый Русский Перевод - гасили яростное пламя, спасались от острия меча. Их слабость становилась силой, они были крепкими в битве и обращали в бегство чужеземные армии.
- Восточный перевод - гасили яростное пламя, спасались от острия меча. Их слабость становилась силой, они были крепкими в битве и обращали в бегство чужеземные армии.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - гасили яростное пламя, спасались от острия меча. Их слабость становилась силой, они были крепкими в битве и обращали в бегство чужеземные армии.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - гасили яростное пламя, спасались от острия меча. Их слабость становилась силой, они были крепкими в битве и обращали в бегство чужеземные армии.
- La Bible du Semeur 2015 - Ils ont éteint des feux violents, ont échappé au tranchant de l’épée. Ils ont été remplis de force alors qu’ils étaient faibles. Ils se sont montrés vaillants dans les batailles, ils ont mis en fuite des armées ennemies ;
- リビングバイブル - 燃えさかる炉に投げ込まれても、やけど一つしませんでした。ある者は、危うく切り殺されるところを救われました。ある者は病弱の身であったのに、健康な体に変えられました。ある者は戦いでめざましい力を与えられ、攻め寄せる敵の軍隊をことごとく退け、大勝利を収めました。
- Nestle Aland 28 - ἔσβεσαν δύναμιν πυρός, ἔφυγον στόματα μαχαίρης, ἐδυναμώθησαν ἀπὸ ἀσθενείας, ἐγενήθησαν ἰσχυροὶ ἐν πολέμῳ, παρεμβολὰς ἔκλιναν ἀλλοτρίων.
- unfoldingWord® Greek New Testament - ἔσβεσαν δύναμιν πυρός, ἔφυγον στόματα μαχαίρης, ἐδυναμώθησαν ἀπὸ ἀσθενείας, ἐγενήθησαν ἰσχυροὶ ἐν πολέμῳ, παρεμβολὰς ἔκλιναν ἀλλοτρίων.
- Nova Versão Internacional - apagaram o poder do fogo e escaparam do fio da espada; da fraqueza tiraram força, tornaram-se poderosos na batalha e puseram em fuga exércitos estrangeiros.
- Hoffnung für alle - und selbst das Feuer konnte ihnen nichts anhaben. Sie entgingen dem Schwert ihrer Verfolger. Als sie schwach waren, gab Gott ihnen neue Kraft. Weil sie sich auf Gott verließen, vollbrachten sie wahre Heldentaten und schlugen die feindlichen Heere in die Flucht.
- Kinh Thánh Hiện Đại - tắt đám lửa hừng, thoát lưỡi gươm địch, chuyển bại thành thắng. Họ đã dũng cảm chiến đấu, quét sạch quân thù.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ได้ดับเปลวไฟร้อนแรง และได้แคล้วคลาดจากคมดาบ ผู้ซึ่งความอ่อนแอของเขากลับเป็นความเข้มแข็ง และผู้ได้กลายเป็นคนแข็งกล้าในการสงคราม และได้ไล่ล่ากองทัพจากต่างแดน
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ดับไฟที่ไหม้โหมกระหน่ำ หลุดพ้นจากคมดาบ จากคนอ่อนแอก็กลายเป็นคนเข้มแข็งได้ กลายเป็นคนแข็งแกร่งในสงคราม ตีกองทัพชาติอื่นๆ จนแตกพ่ายไป
- Thai KJV - ได้ดับไฟที่ไหม้อย่างรุนแรง ได้พ้นจากคมดาบ ความอ่อนแอของท่านก็กลับเป็นความเข้มแข็ง มีกำลังความสามารถในการทำสงคราม ได้ตีกองทัพประเทศอื่นๆแตกพ่ายไป
交叉引用
- ผู้วินิจฉัย 8:4 - เมื่อกิเดโอนมาถึงแม่น้ำจอร์แดน เขาและพวกอีกสามร้อยคนได้ข้ามแม่น้ำไป พวกเขาเหนื่อยล้า แต่ก็ยังไล่ติดตามศัตรูไป
- ผู้วินิจฉัย 8:5 - กิเดโอนพูดกับชาวสุคคทว่า “ขอขนมปังให้กับทหารที่ติดตามข้ามากินหน่อยเถอะ เพราะพวกเขาหิวจนหมดเรี่ยวแรงแล้ว ข้ากำลังไล่ตามเศบาห์และศัลมุนนา กษัตริย์ของมีเดียนอยู่”
- ผู้วินิจฉัย 8:6 - แต่พวกเจ้าหน้าที่ของสุคคทพูดกับเขาว่า “เศบาห์และศัลมุนนาอยู่ในกำมือเจ้าแล้วหรือยังไง เราถึงจะต้องให้ขนมปังกับทหารของเจ้า”
- ผู้วินิจฉัย 8:7 - กิเดโอนพูดว่า “ฝากไว้ก่อนเถอะ เมื่อไหร่ที่พระยาห์เวห์มอบเศบาห์และศัลมุนนาไว้ในมือของข้าแล้วละก็ ข้าจะกลับมาเฆี่ยนพวกเจ้าด้วยหนามจากทะเลทรายและพวกต้นหนามต่างๆ”
- ผู้วินิจฉัย 8:8 - จากที่นั่น กิเดโอนได้ขึ้นไปที่เปนูเอล และเขาได้ขอพวกนั้นอย่างเดียวกัน และชาวเปนูเอลก็ตอบเขาเหมือนกับที่ชาวสุคคทตอบ
- ผู้วินิจฉัย 8:9 - ดังนั้นกิเดโอนจึงพูดกับชาวเปนูเอลด้วยว่า “เมื่อข้าได้ชัยชนะกลับมา ข้าจะรื้อหอคอยนี้ลง”
- ผู้วินิจฉัย 8:10 - ฝ่ายเศบาห์และศัลมุนนาได้หนีไปอาศัยอยู่ในเมืองคารโกรกับกองทัพของเขา เป็นกองทัพของชาวตะวันออกที่เหลืออยู่ประมาณหนึ่งหมื่นห้าพันคน หลังจากที่ทหารหนึ่งแสนสองหมื่นคนที่ถือดาบพร้อมมือถูกฆ่าตายไปหมดแล้ว
- 1 ซามูเอล 20:1 - จากนั้นดาวิดได้หนีจากนาโยทที่รามาห์ไปหาโยนาธาน และถามว่า “ข้าทำอะไรลงไปหรือ ความผิดของข้าคืออะไร ข้าได้ทำผิดอะไรต่อพ่อเจ้าหรือ เขาถึงได้พยายามมาเอาชีวิตของข้า”
- ผู้วินิจฉัย 15:14 - เมื่อแซมสันมาถึงเลฮี ชาวฟีลิสเตียก็เดินตรงมาที่เขา และโห่ร้องด้วยความดีใจ ขณะนั้นพระวิญญาณของพระยาห์เวห์ก็พุ่งเข้าสิงแซมสัน พวกเชือกที่มัดแขนเขาอยู่กลายเป็นเหมือนป่านที่ถูกไฟไหม้ เครื่องจองจำนั้นก็สลายไปจากมือของเขา
- ผู้วินิจฉัย 15:15 - เขาเจอกระดูกขากรรไกรลาที่ยังสดๆอยู่ เขาเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา และใช้มันฆ่าคนเหล่านั้นไปหนึ่งพันคน
- ผู้วินิจฉัย 15:16 - แล้วแซมสันพูดว่า “ด้วยกระดูกขากรรไกรลา ฉันฆ่าพวกเขาเป็นกองๆ ด้วยกระดูกขากรรไกรลา ฉันฆ่าคนไปหนึ่งพันคน”
- ผู้วินิจฉัย 15:17 - เมื่อพูดจบเขาก็เหวี่ยงกระดูกขากรรไกรลาทิ้งไปที่ตรงนั้น ต่อมาที่นั่นถูกเรียกว่า รามาท-เลฮี
- ผู้วินิจฉัย 15:18 - เขารู้สึกหิวน้ำจึงร้องขอกับพระยาห์เวห์ว่า “พระองค์ให้ชัยชนะอันยิ่งใหญ่กับผู้รับใช้ของพระองค์คนนี้ ตอนนี้พระองค์จะปล่อยให้ข้าพเจ้าหิวน้ำตาย และตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกที่ไม่ได้ทำพิธีขลิบหรือ”
- ผู้วินิจฉัย 15:19 - พระเจ้าจึงเปิดช่องที่เลฮี ให้น้ำไหลออกมา แซมสันก็ได้กินน้ำจนสดชื่นและตาน้ำนั้นได้ชื่อว่า เอนหักโคร์ และมันก็ยังคงอยู่ที่เมืองเลฮีจนถึงทุกวันนี้
- ผู้วินิจฉัย 15:20 - แซมสันนำอิสราเอลในสมัยของชาวฟีลิสเตีย เป็นเวลายี่สิบปี
- เยเรมียาห์ 26:24 - แต่อาหิคัมลูกชายของชาฟานป้องกันไม่ให้เยเรมียาห์ถูกชาวบ้านฆ่าตาย)
- โยบ 42:10 - เมื่อโยบอธิษฐานให้กับเพื่อนๆของเขา พระยาห์เวห์ทำให้โยบกลับคืนสู่สภาพดี และพระองค์ให้โยบมีมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า
- 2 ซามูเอล 8:1 - ต่อมา ดาวิดได้ชัยชนะเหนือชาวฟีลิสเตียและทำให้พวกนั้นอยู่ใต้บังคับ และได้ยึดเมืองเมเธก-ฮัมมาห์ที่ชาวฟีลิสเตียเคยครอบครองอยู่
- 2 ซามูเอล 8:2 - ดาวิดยังเอาชนะชาวโมอับ และได้บังคับให้คนโมอับนอนราบไปกับพื้นดิน และแบ่งพวกเขาออกมาเป็นแถวๆตามความยาวของเชือกเส้นหนึ่ง คนในสองแถวแรกที่ถูกเชือกแบ่งออกมาจะถูกฆ่าตายหมด ส่วนแถวที่สามจะได้รับการไว้ชีวิต ดังนั้น ชาวโมอับจึงกลายเป็นทาสของดาวิดและยอมส่งส่วย ให้เขา
- 2 ซามูเอล 8:3 - ดาวิดได้รบชนะฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์เมืองโศบาห์ ลูกชายของเรโหบ ตอนที่ดาวิดไปตั้งอนุสาวรีย์ ให้กับตนเองที่ลุ่มแม่น้ำยูเฟรติส
- 2 ซามูเอล 8:4 - ดาวิดได้ยึดรถม้าศึกหนึ่งพันคัน คนขับรถม้าศึกเจ็ดพันคน และทหารเดินเท้าสองหมื่นคน ดาวิดได้ตัดเส้นเอ็นที่ขาของพวกม้าทั้งหมด ยกเว้นม้าหนึ่งร้อยตัวสำหรับรถรบ
- 2 ซามูเอล 8:5 - ชาวอารัมจากเมืองดามัสกัสได้มาช่วยฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์เมืองโศบาห์รบ แต่ดาวิดได้ฆ่าพวกเขาตายไปสองหมื่นสองพันคน
- 2 ซามูเอล 8:6 - ดาวิดส่งทหารขึ้นไปประจำป้อมในเมืองดามัสกัสของชาวอารัม และชาวอารัมก็กลายเป็นทาสของเขาและส่งส่วยให้เขา พระยาห์เวห์ได้ให้ชัยชนะกับดาวิดในทุกๆที่ที่เขาไป
- 2 ซามูเอล 8:7 - ดาวิดยึดเอาโล่ทองคำที่ทหารของกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ถือ และขนพวกมันกลับไปไว้ที่เมืองเยรูซาเล็ม
- 2 ซามูเอล 8:8 - กษัตริย์ดาวิดได้ยึดเอาทองสัมฤทธิ์ที่ได้มาจากเมืองเทบาห์ และเมืองเบโรธัยที่เคยเป็นของกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ ไว้เป็นจำนวนมาก
- 2 ซามูเอล 8:9 - เมื่อโทอิกษัตริย์เมืองฮามัทได้ยินว่าดาวิดเอาชนะกองทัพทั้งหมดของกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ได้
- 2 ซามูเอล 8:10 - เขาได้ส่งโยรัม ลูกชายของเขาไปพบดาวิด เพื่อถามทุกข์สุขดาวิดและแสดงความยินดีกับดาวิดที่รบชนะกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ เพราะกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์เคยทำสงครามกับกษัตริย์โทอิอยู่บ่อยๆ โยรัมนำของขวัญที่ทำจากเงิน ทองและทองสัมฤทธิ์ไปให้กับดาวิดด้วย
- 2 ซามูเอล 8:11 - กษัตริย์ดาวิดได้อุทิศของเหล่านั้นให้พระยาห์เวห์ เหมือนกับที่เขาเคยอุทิศเงินและทองที่ยึดมาได้จากชาติต่างๆที่เขาเคยไปปราบปรามมา
- 2 ซามูเอล 8:12 - คือ เอโดม โมอับ ชาวอัมโมน ชาวฟีลิสเตีย และชาวอามาเลค ในทำนองเดียวกัน ดาวิดก็ได้อุทิศของที่ยึดมาได้จากฮาดัดเอเซอร์ กษัตริย์เมืองโศบาห์ลูกชายของเรโหบ ให้กับพระเจ้าด้วย
- 2 ซามูเอล 8:13 - หลังจากที่ดาวิดกลับมาจากการโจมตีชาวเอโดมหนึ่งหมื่นแปดพันคนในหุบเขาเกลือแล้ว เขาก็มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้น
- 2 ซามูเอล 8:14 - ดาวิดได้ให้กองทหารเข้าประจำการอยู่ตามป้อมต่างๆทั่วเมืองเอโดม และชาวเมืองเอโดมทั้งหมดก็ตกเป็นทาสของดาวิด พระยาห์เวห์ได้ให้ชัยชนะกับดาวิดในทุกๆที่ที่เขาไป
- 2 ซามูเอล 8:15 - ดาวิดได้ปกครองทั่วทั้งอิสราเอล เขาได้ให้ความยุติธรรมและความถูกต้องกับประชาชนทั้งหมดของเขา
- 2 ซามูเอล 8:16 - โยอาบลูกชายของนางเศรุยาห์ได้เป็นแม่ทัพ เยโฮชาฟัทลูกชายอาหิลูดเป็นผู้จดบันทึกเหตุการณ์
- 2 ซามูเอล 8:17 - ศาโดกลูกชายอาหิทูบและอาหิเมเลคลูกชายอาบียาธาร์เป็นนักบวช เสไรอาห์เป็นเลขา
- 2 ซามูเอล 8:18 - เบไนยาห์ลูกชายเยโฮยาดาเป็นผู้ควบคุมชาวเคเรธีและชาวเปเลท และบรรดาลูกชายของดาวิดเป็นที่ปรึกษากษัตริย์
- สดุดี 6:8 - พวกเจ้าที่ทำชั่วทั้งหลาย ไปให้ห่างจากข้าพเจ้าซะ เพราะพระยาห์เวห์ได้ยินเสียงร่ำไห้ของข้าพเจ้า
- ดาเนียล 3:19 - ถึงตอนนี้ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ยิ่งโกรธจัด หน้าตาของพระองค์ก็บูดเบี้ยวไปต่อชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก และพระองค์ก็สั่งให้เพิ่มไฟในเตาให้ร้อนแรงขึ้นกว่าของเดิมเป็นเจ็ดเท่า
- ดาเนียล 3:20 - และพระองค์สั่งทหารบางคนที่แข็งแรงมากในกองทัพของพระองค์ มัดตัวชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก และให้โยนพวกเขาลงไปในเตาไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่
- ดาเนียล 3:21 - ทั้งสามคนก็เลยถูกมัด ในขณะที่ยังมีเสื้อคลุม กางเกง หมวก รวมทั้งเสื้อผ้าอื่นๆสวมใส่อยู่ แล้วพวกทหารก็โยนทั้งสามคนลงไปในเตาไฟที่ร้อนแรง
- ดาเนียล 3:22 - เป็นเพราะกษัตริย์สั่งอย่างเฉียบขาด ให้คนทำเตาไฟให้ร้อนกว่าเดิมมาก พวกทหารที่โยนชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก ลงไปในเตา ก็ถูกเปลวไฟเผาตาย
- ดาเนียล 3:23 - ชายทั้งสามคน คือชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก หล่นลงไปในเตาไฟ ในขณะที่ถูกมัดอยู่
- ดาเนียล 3:24 - แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็สะดุ้งสุดตัว ลุกพรวดพราดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และร้องถามพวกที่ปรึกษาที่อยู่ข้างๆว่า “เรามัดแค่สามคนโยนลงไปในเตาไฟไม่ใช่หรือ” พวกเขาตอบว่า “ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์พูดถูกแล้ว”
- ดาเนียล 3:25 - พระองค์จึงถามว่า “แล้วทำไมเราถึงเห็นสี่คนเดินไปเดินมาอยู่ในกองไฟนั้นละ แล้วยังไม่ถูกมัดอีกต่างหาก และไม่เป็นอันตรายอะไรเลย แถมคนที่สี่ก็ดูเหมือนเป็นเทพเจ้าอีกด้วย”
- ดาเนียล 3:26 - แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็เข้าไปใกล้ๆประตูของเตาไฟและพูดว่า “ชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก ผู้รับใช้ของพระเจ้าสูงสุด ออกมาเถิด” จากนั้นชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก ก็ออกมาจากเตาไฟ
- ดาเนียล 3:27 - แล้วพวกผู้นำภาค พวกผู้นำจังหวัด พวกผู้นำอำเภอ และพวกที่ปรึกษาของกษัตริย์ ต่างก็เข้ามามุงดู แล้วก็เห็นว่าไฟไม่ได้ทำอันตรายกับร่างกายของพวกเขาเลย ผมบนหัวก็ไม่ไหม้ เสื้อผ้าก็ไม่ไหม้ ไม่มีแม้แต่กลิ่นไหม้ติดตัวพวกเขาเสียด้วยซ้ำ
- ดาเนียล 3:28 - แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็พูดว่า “ขอสรรเสริญพระเจ้าของชัดรัค เมชาค และ เอเบดเนโก พระองค์ได้ส่งทูตสวรรค์ลงมาช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ ที่ไว้วางใจในพระองค์ พวกเขากล้าขัดคำสั่งของกษัตริย์ ถึงขนาดยอมเสี่ยงชีวิตของพวกเขาเอง แทนที่จะรับใช้หรือนมัสการเทพเจ้าองค์ใดนอกเหนือจากพระเจ้าของพวกเขา
- ผู้วินิจฉัย 16:19 - เธอปล่อยให้แซมสันนอนหลับอยู่บนตักเธอ และเรียกชายคนหนึ่งออกมาโกนผมเจ็ดปอยบนหัวของเขา เธอเริ่มแกล้งรบกวนเขาและกำลังของเขาก็หายไป
- ผู้วินิจฉัย 16:20 - เธอพูดว่า “พี่แซมสัน ชาวฟีลิสเตียมาจับพี่แล้ว” เขาตื่นขึ้นและคิดว่า “ข้าจะออกไปเหมือนครั้งก่อนและสลัดตัวหลุดออกมา” แต่เขาไม่รู้ว่าพระยาห์เวห์ได้ไปจากเขาแล้ว
- ผู้วินิจฉัย 16:21 - พวกชาวฟีลิสเตียจับตัวเขาและควักลูกตาของเขาออก แล้วพาเขาลงมาที่กาซา พวกเขาล่ามแซมสันด้วยโซ่สัมฤทธิ์ และใช้เขาโม่แป้งอยู่ในคุก
- ผู้วินิจฉัย 16:22 - แต่ผมของแซมสันก็เริ่มงอกขึ้นมาใหม่หลังจากถูกโกน
- ผู้วินิจฉัย 16:23 - พวกผู้ครอบครองของฟีลิสเตียมาประชุมกัน เพื่อจัดพิธีบวงสรวงอันยิ่งใหญ่ให้กับพระดาโกน และเพื่อเฉลิมฉลองกัน พวกเขาพูดว่า “พระของเราได้ยกแซมสันศัตรูของเราไว้ในกำมือของพวกเราแล้ว”
- ผู้วินิจฉัย 16:24 - เมื่อประชาชนเห็นแซมสัน พวกเขาก็เลยสรรเสริญพระของพวกเขาว่า “พระของเราทำให้ศัตรูตกอยู่ในกำมือเรา คือคนที่ทำลายบ้านเมืองของเรา และเคยฆ่าพวกเราไปหลายคน”
- ผู้วินิจฉัย 16:25 - ขณะที่พวกเขากำลังสนุกสนานกันอยู่ ก็มีคนพูดว่า “เรียกแซมสันออกมาทำอะไรสนุกๆให้พวกเราดูหน่อย” แซมสันจึงถูกนำออกมาจากคุก เพื่อมาแสดงต่อหน้าพวกเขา เมื่อพวกเขาปล่อยให้แซมสันยืนอยู่ระหว่างเสา
- ผู้วินิจฉัย 16:26 - แซมสันพูดกับเด็กรับใช้ที่เป็นคนจูงมือเขาว่า “พาเราไปที่เสาค้ำตึกหน่อย เราจะได้พิงเสาเหล่านั้น”
- ผู้วินิจฉัย 16:27 - ตึกนี้มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายเต็มไปหมด และพวกผู้ครอบครองชาวฟีลิสเตียทุกคนก็อยู่ที่นั่นด้วย มีชายหญิงประมาณสามพันคนที่กำลังดูการแสดงของแซมสันอยู่บนดาดฟ้าตึก
- ผู้วินิจฉัย 16:28 - จากนั้นแซมสันได้ร้องขอต่อพระยาห์เวห์ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า โปรดระลึกถึงข้าพเจ้า ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้พละกำลังมหาศาลแก่ข้าพเจ้าอีกครั้งหนึ่ง เพื่อข้าพเจ้าจะได้แก้แค้นชาวฟีลิสเตียทดแทนตาทั้งสองข้างของข้าพเจ้า”
- ผู้วินิจฉัย 16:29 - แซมสันเข้าไปจับเสากลางสองต้นที่รองรับตึกนั้นไว้ และพิงที่เสานั้น มือขวายันเสาต้นหนึ่งและมือซ้ายก็ยันอีกต้นหนึ่ง แล้วเขาก็พูดว่า “ปล่อยให้ข้าตายกับชาวฟีลิสเตียเถิด”
- ผู้วินิจฉัย 16:30 - แล้วเขาก็ผลักเสาทั้งสองต้นด้วยกำลังมหาศาล ตัวตึกก็พังทลายลงมาบนพวกผู้ครอบครองชาวฟีลิสเตีย และทุกคนที่อยู่ในตึกนั้น ดังนั้นคนที่เขาฆ่าตอนที่เขาตาย ก็มีมากกว่าคนที่เขาฆ่าตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่
- โยบ 5:20 - ในยามขาดแคลนอาหาร พระองค์จะไถ่ท่านให้รอดจากความตาย ในยามสงคราม พระองค์จะไถ่ท่านให้พ้นจากคมดาบ
- 1 ซามูเอล 14:13 - โยนาธานปีนขึ้นไปด้วยมือและเท้าของเขา คนถืออาวุธของเขาปีนตามมาอย่างติดๆ โยนาธานสู้รบกับคนฟีลิสเตีย และคนฟีลิสเตียก็ล้มลงต่อหน้าโยนาธาน คนถืออาวุธของเขาก็ตามมาติดๆและได้ฆ่าฟันพวกนั้นอยู่ข้างหลังเขา
- 1 ซามูเอล 14:14 - ในการปะทะกันครั้งแรก พวกเขาสองคนฆ่าคนฟีลิสเตียตายประมาณยี่สิบคนในพื้นที่ประมาณสองไร่
- 1 ซามูเอล 14:15 - จากนั้นทหารทั้งกองทัพของฟีลิสเตียก็ตกใจกลัวจนตัวสั่น คือพวกที่อยู่ในค่าย ในสนามรบ พวกที่อยู่ตามป้อมต่างๆและพวกที่อยู่ในกองกำลังย่อย ได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น มันเป็นความหวาดกลัวที่พระเจ้าส่งมา
- 2 พงศาวดาร 20:6 - และพูดว่า
- 2 พงศาวดาร 20:7 - ข้าแต่พระเจ้าของพวกเรา พระองค์ได้ขับไล่ประชาชนของแผ่นดินนี้ออกไปต่อหน้าชาวอิสราเอลที่เป็นประชาชนของพระองค์ และยกแผ่นดินนี้ให้กับลูกหลานของอับราฮัมตลอดไป อับราฮัมที่เป็นเพื่อนของพระองค์
- 2 พงศาวดาร 20:8 - ลูกหลานของเขาได้เข้ามาอาศัยอยู่ในดินแดนนี้ และได้สร้างวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ไว้เพื่อเป็นเกียรติให้กับชื่อของพระองค์ พวกเขาพูดว่า
- 2 พงศาวดาร 20:9 - ‘ถ้ามีความหายนะอย่างใหญ่หลวงเกิดขึ้นกับพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นดาบแห่งการตัดสิน หรือโรคระบาดหรือความอดอยาก พวกเราจะมายืนอยู่ต่อหน้าพระองค์ที่วิหารนี้ ซึ่งเป็นที่ที่ชื่อของพระองค์สถิตอยู่ และพวกเราจะร้องต่อพระองค์ถึงความทุกข์ของพวกเรา และพระองค์ก็จะได้ยินและช่วยกู้พวกเรา’
- 2 พงศาวดาร 20:10 - ตอนนี้ คนพวกนี้ที่มาจากอัมโมน โมอับและจากภูเขาเสอีร์ ซึ่งเป็นดินแดนที่พระองค์ห้ามไม่ให้ชาวอิสราเอลไปบุกรุก ตอนที่พวกเขาออกมาจากประเทศอียิปต์ ดังนั้น ชนชาติอิสราเอลจึงได้หันเหไปจากชนชาติเหล่านี้และไม่ได้ทำลายพวกมัน
- 2 พงศาวดาร 20:11 - ดูสิว่าพวกเขาตอบแทนพวกเราด้วยการมาขับไล่พวกเราออกจากแผ่นดินที่พระองค์ให้พวกเราไว้เป็นมรดก
- 2 พงศาวดาร 20:12 - ข้าแต่พระเจ้าของพวกเรา พระองค์จะไม่ตัดสินพวกเขาหรือ ลำพังพวกเราไม่มีพละกำลังเพียงพอที่จะไปเผชิญหน้ากับกองทัพขนาดมหึมาที่กำลังจะเข้ามาโจมตีพวกเราได้ พวกเราไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว แต่ตาของพวกเรามองหาความช่วยเหลือจากพระองค์”
- 2 พงศาวดาร 20:13 - ชาวยูดาห์ทั้งหมดกับเมียของพวกเขาและลูกๆรวมทั้งเด็กเล็กๆได้มายืนอยู่ที่นั่นต่อหน้าพระยาห์เวห์
- 2 พงศาวดาร 20:14 - แล้วพระวิญญาณของพระยาห์เวห์ก็ลงมาสถิตกับยาฮาซีเอลลูกชายของเศคาริยาห์ ผู้เป็นลูกชายของเบไนยาห์ ผู้เป็นลูกชายของเยอีเอล ผู้เป็นลูกชายของมัทธานิยาห์ ที่เป็นชาวเลวีและเป็นลูกหลานของอาสาฟ ในขณะที่ยาฮาซีเอล ยืนอยู่ท่ามกลางที่ประชุม
- 2 พงศาวดาร 20:15 - เขาได้พูดว่า “ฟังให้ดี กษัตริย์เยโฮชาฟัท และทุกคนที่อาศัยอยู่ในยูดาห์ และเมืองเยรูซาเล็ม นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดกับพวกท่าน ‘พวกเจ้าไม่ต้องกลัวหรือท้อแท้ต่อกองทัพใหญ่นี้ เพราะการสู้รบไม่ใช่เป็นของพวกเจ้า แต่เป็นเรื่องของพระเจ้า
- 2 พงศาวดาร 20:16 - พรุ่งนี้ ให้ยกทัพไปสู้กับพวกเขา พวกเขาจะขึ้นไปที่ตำบลศิสและพวกเจ้าจะพบพวกเขาอยู่ที่ปลายทางของหุบเขาแคบๆในทะเลทรายเยรูเอล
- 2 พงศาวดาร 20:17 - พวกเจ้าจะไม่ต้องต่อสู้ในการรบครั้งนี้เลย แค่อยู่ประจำที่ของพวกเจ้า ยืนอยู่อย่างมั่นคงและคอยดูชัยชนะที่พระยาห์เวห์จะทำให้กับพวกเจ้า ยูดาห์และเยรูซาเล็มเอ๋ย อย่ากลัว อย่าท้อแท้ ออกไปเผชิญหน้ากับพวกเขาในวันพรุ่งนี้เถิด แล้วพระยาห์เวห์จะอยู่กับพวกเจ้า’”
- 2 พงศาวดาร 20:18 - เยโฮชาฟัทก้มกราบหน้าจดพื้น และประชาชนทั้งหมดของยูดาห์และเยรูซาเล็มก็คุกเข่าลงนมัสการอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์
- 2 พงศาวดาร 20:19 - แล้วชาวเลวีบางกลุ่มจากชาวโคฮาทและโคราห์ได้ยืนขึ้นและสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลด้วยเสียงอันดัง
- 2 พงศาวดาร 20:20 - เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น พวกเขาออกไปที่ทะเลทรายเทโคอา เมื่อพวกเขาออกเดินทาง เยโฮชาฟัทยืนขึ้นและพูดว่า “ชาวยูดาห์และประชาชนของเมืองเยรูซาเล็ม ฟังเราให้ดี ขอเพียงแต่เชื่อในพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเจ้า และพวกเจ้าก็จะตั้งมั่นคง ให้เชื่อพวกผู้พูดแทนพระเจ้า”
- 2 พงศาวดาร 20:21 - หลังจากที่ได้หารือร่วมกับประชาชนแล้ว เยโฮชาฟัทได้แต่งตั้งคนหลายคนให้เป็นผู้ร้องเพลงให้กับพระยาห์เวห์และสรรเสริญพระองค์ถึงความสง่างามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ในขณะที่พวกเขาออกไปที่ด้านหน้าของกองทัพ พวกเขาก็พูดว่า “ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์นั้นจะคงอยู่ตลอดไป”
- 2 พงศาวดาร 20:22 - เมื่อพวกเขาเริ่มร้องเพลงและสรรเสริญ พระยาห์เวห์ได้จัดกองกำลังไว้ซุ่มโจมตีพวกคนอัมโมน โมอับและพวกคนจากภูเขาเสอีร์ที่มาบุกรุกยูดาห์ และคนเหล่านั้นก็พ่ายแพ้ไป
- 2 พงศาวดาร 20:23 - คนของอัมโมนและโมอับได้ลุกขึ้นต่อสู้กับคนที่มาจากภูเขาเสอีร์เพื่อทำลายและกวาดล้างพวกเขา หลังจากที่พวกเขาฆ่าคนจากเสอีร์หมดแล้ว พวกคนอัมโมนและคนโมอับก็หันมาทำลายล้างกันเอง
- 2 พงศาวดาร 20:24 - เมื่อพวกคนของยูดาห์มาถึงจุดที่สามารถมองกว้างออกไปในทะเลทราย และสามารถมองเห็นกองทัพขนาดมหึมาของพวกนั้น ชาวยูดาห์ก็ได้เห็นแต่ซากศพนอนเกลื่อนกลาดบนพื้นดิน ไม่มีใครหนีรอดไปได้
- 2 พงศาวดาร 20:25 - เยโฮชาฟัทกับคนของเขาทั้งหมดจึงได้ลงไปยึดเอาสิ่งของของคนเหล่านั้นไว้ พวกเขาก็ได้พบฝูงสัตว์เลี้ยงมากมาย พบข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้าและของมีค่าจำนวนมากมายเกินกว่าที่พวกเขาจะเก็บได้หมด มีของมากจนกระทั่งพวกเขาต้องใช้เวลาเก็บถึงสามวัน
- 2 พงศ์กษัตริย์ 20:7 - แล้วอิสยาห์ก็พูดว่า “ให้เอามะเดื่อมาบี้เข้าด้วยกัน แล้วโปะเข้าไปที่แผลเปื่อยของเขา แล้วเขาก็จะหาย”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 20:8 - แล้วเฮเซคียาห์ได้ถามอิสยาห์ว่า “จะมีเหตุการณ์พิเศษอะไรที่พิสูจน์ว่าพระยาห์เวห์จะรักษาเรา แล้วเราจะได้ลุกขึ้นไปที่วิหารของพระยาห์เวห์ในอีกสามวัน”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 20:9 - อิสยาห์ตอบว่า “ท่านต้องการอย่างไหนละ จะให้เงาทอดไปข้างหน้าสิบขั้น หรืออยากให้มันย้อนกลับไปข้างหลังสิบขั้น เพราะนี่คือเหตุการณ์พิเศษที่พระยาห์เวห์จะทำให้กับท่านดู เพื่อท่านจะได้แน่ใจว่าพระองค์จะทำในสิ่งที่พระองค์ได้สัญญาไว้”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 20:10 - เฮเซคียาห์ตอบว่า “จะให้เงาทอดไปข้างหน้าสิบขั้นนั้นง่ายกว่าที่จะให้มันย้อนกลับไปข้างหลังสิบขั้น”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 20:11 - แล้วอิสยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าได้ร้องขอต่อพระยาห์เวห์ และพระองค์ก็ทำให้เงาย้อนกลับไปด้านหลังสิบขั้น มันย้อนกลับไปบนขั้นบันไดของอาหัส
- สดุดี 66:12 - พระองค์ทำให้รถรบของศัตรูวิ่งทับหัวเราไป พวกเราลุยน้ำลุยไฟ แต่ในที่สุด พระองค์นำพวกเราไปสู่ที่โล่งกว้างอันปลอดภัย
- 2 โครินธ์ 12:9 - แต่พระองค์ก็บอกว่า “ความเมตตากรุณาของเรามีเพียงพอแล้วสำหรับเจ้า เมื่อเจ้าอ่อนแอฤทธิ์อำนาจของเราก็ทำงานได้อย่างเต็มที่” ดังนั้นผมจึงยินดีที่จะโอ้อวดถึงความอ่อนแอของผม เพื่อฤทธิ์เดชของพระคริสต์จะได้อยู่ในผม
- 2 โครินธ์ 12:10 - ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมอ่อนแอ ถูกดูหมิ่น เจอกับความทุกข์ยาก ถูกข่มเหงและเจอกับความยุ่งยากต่างๆเพื่อพระคริสต์ ผมก็ยินดี เพราะผมอ่อนแอเมื่อไหร่ เมื่อนั้นผมก็กลับเข้มแข็ง
- 2 พงศาวดาร 32:20 - กษัตริย์เฮเซคียาห์กับอิสยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าลูกชายของอามอสอธิษฐานต่อสวรรค์เกี่ยวกับเรื่องนี้
- 2 พงศาวดาร 32:21 - และพระยาห์เวห์ได้ส่งทูตสวรรค์องค์หนึ่ง มาทำลายพวกนักรบ พวกผู้นำและพวกเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในค่ายของกษัตริย์อัสซีเรีย ดังนั้นเขาจึงต้องถอยทัพกลับแผ่นดินของเขาด้วยความอับอายขายหน้า และเมื่อเขาเข้าไปในวัดของพระของเขา พวกลูกชายบางคนของเขาก็เอาดาบฆ่าเขา
- 2 พงศาวดาร 32:22 - ดังนั้นพระยาห์เวห์ได้ช่วยเฮเซคียาห์และประชาชนชาวเยรูซาเล็ม ให้พ้นจากเงื้อมมือของกษัตริย์เซนนาเคอริบของอัสซีเรีย และจากเงื้อมมือของศัตรูทั้งหลายของเขาด้วย พระองค์ให้เขาพักจากการสู้รบรอบด้าน
- 1 เปโตร 4:12 - เพื่อนรัก อย่าเพิ่งแปลกใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับพวกคุณ มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย แต่ปัญหาก็คือการลองใจคุณ
- 2 ซามูเอล 21:16 - อิชบีเบโนบเชื้อสายคนหนึ่งของพวกยักษ์ เขาใช้หอกที่มีหัวทำจากทองสัมฤทธิ์หนักสามร้อยเชเขล และพกดาบใหม่มาด้วย เขาพูดว่าเขาจะฆ่าดาวิดเสีย
- 2 ซามูเอล 21:17 - แต่อาบีชัยลูกชายนางเศรุยาห์ได้มาช่วยดาวิดไว้ และเขาก็ได้สู้รบกับชายฟีลิสเตียคนนั้นและฆ่าเขา บรรดาคนของดาวิดจึงได้สาบานกับดาวิดว่า “ท่านอย่าออกไปสู้รบกับพวกเราอีกเลย เพื่อว่าตะเกียงของอิสราเอลจะได้ไม่ดับลง”
- อิสยาห์ 43:2 - เมื่อเจ้าต้องลุยน้ำลึกไป เราจะอยู่กับเจ้า เมื่อเจ้าต้องข้ามแม่น้ำ เจ้าก็จะไม่จมลงไป เมื่อเจ้าต้องเดินลุยไฟ เจ้าก็จะไม่ไหม้ และเปลวเพลิงก็จะไม่เผาผลาญเจ้า
- 2 พงศาวดาร 14:11 - แล้วอาสาก็ร้องขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์สามารถช่วยได้ทั้งคนที่มีพลังมากหรือคนที่อ่อนแอ มันไม่แตกต่างอะไรกันเลยสำหรับพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา โปรดช่วยเราด้วยเถิด เพราะพวกเราพึ่งพระองค์และเรามาต่อสู้กับกองทัพมหึมาพวกนี้ในนามของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เป็นพระเจ้าของเรา อย่าให้มนุษย์มีชัยเหนือพระองค์เลย”
- 2 พงศาวดาร 14:12 - ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงทำลายพวกชาวคูชลงต่อหน้าอาสาและชาวยูดาห์ ชาวคูชต่างหลบหนีเอาตัวรอดไป
- 2 พงศาวดาร 14:13 - และอาสากับกองทัพของเขาก็ไล่ตามพวกนั้นไปไกลถึงเมืองเกราร์ ชาวคูชจำนวนมากมายมหาศาลนั้นต้องล้มลงอย่างไม่เป็นท่า และไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้อีก พวกเขาถูกทำลายลงต่อหน้าพระยาห์เวห์ และกองทัพของพระองค์ พวกคนของยูดาห์ได้ขนของกลับไปจำนวนมาก
- 2 พงศาวดาร 14:14 - อาสาและกองทัพของเขาได้ทำลายหมู่บ้านทั้งหมดรอบๆเมืองเกราร์ เพราะพระยาห์เวห์ทำให้คนเหล่านั้นกลัวพวกเขา พวกเขาปล้นเมืองเหล่านั้น เพราะมีทรัพย์สมบัติอยู่มากมายในนั้น
- 2 พงศาวดาร 16:1 - ในปีที่สามสิบหกที่อาสาเป็นกษัตริย์ กษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอลยกขึ้นมาสู้รบกับชาวยูดาห์และสร้างป้อมรามาห์ขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้าออกในดินแดนของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์
- 2 พงศาวดาร 16:2 - อาสาจึงเอาเงินและทองคำออกมาจากคลังสมบัติของวิหารของพระยาห์เวห์ และจากวังของเขาเอง และส่งไปให้กับกษัตริย์เบนฮาดัดแห่งอารัม ซึ่งปกครองอยู่ในเมืองดามัสกัส
- 2 พงศาวดาร 16:3 - เขาพูดว่า “เรามาเป็นพันธมิตรกันเถิด ให้เหมือนกับที่พ่อของเรากับพ่อของท่านเคยทำกันไว้ ดูสิ เราส่งของขวัญเป็นเงินและทองมาให้ท่าน ขอท่านช่วยเลิกเป็นพันธมิตรกับกษัตริย์บาอาชาของอิสราเอลด้วยเถิด เพื่อเขาจะได้ยกทัพกลับไปจากเรา”
- 2 พงศาวดาร 16:4 - เบนฮาดัดยอมทำตามที่กษัตริย์อาสาขอ และส่งพวกแม่ทัพของกองทัพทั้งหลายของเขาไปโจมตีเมืองต่างๆของชนชาติอิสราเอล พวกเขาเอาชนะเมืองอิโยน เมืองดาน เมืองอาเบลมาอิม และเมืองเก็บเสบียงทั้งหลายของนัฟทาลี
- 2 พงศาวดาร 16:5 - เมื่อบาอาชาได้ยินเรื่องนี้เข้า เขาก็หยุดการสร้างป้อมรามาห์และงานทั้งหมด
- 2 พงศาวดาร 16:6 - แล้วกษัตริย์อาสาก็นำชาวยูดาห์ออกมาที่ป้อมรามาห์เพื่อขนเอาหินและไม้ที่บาอาชาทิ้งไว้ในการสร้างป้อม และพวกเขาก็ขนเอาไปสร้างเมืองเกบาและเมืองมิสปาห์
- 2 พงศาวดาร 16:7 - ในตอนนั้นฮานานีผู้ที่เห็นนิมิตมาพบกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์และพูดว่า “เป็นเพราะท่านไปพึ่งกษัตริย์ของอารัม แทนที่จะพึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน กองทัพของกษัตริย์แห่งอารัมได้หนีไปจากมือของท่านแล้ว
- 2 พงศาวดาร 16:8 - จำไม่ได้หรือ ตอนนั้นพวกชาวคูชและชาวลิเบียก็มีกองรถรบ และทหารม้าที่มีพละกำลัง และมีจำนวนมากมายเหมือนกันไม่ใช่หรือ แต่ตอนนั้นท่านได้พึ่งในพระยาห์เวห์ พระองค์จึงได้มอบคนเหล่านั้นไว้ในกำมือของท่าน
- 2 พงศาวดาร 16:9 - เพราะตาของพระยาห์เวห์มองไปทั่วทั้งพื้นโลก เพื่อที่จะทำให้คนมีใจสัตย์ซื่อกับพระองค์เข้มแข็ง แต่เที่ยวนี้ท่านได้ทำเรื่องโง่เขลา และต่อไปนี้ท่านจะต้องทำสงคราม”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 6:32 - กษัตริย์ก็เลยส่งคนตามหาเอลีชา ตอนนั้นเอลีชากำลังนั่งอยู่ในบ้านของตัวเอง และพวกผู้ใหญ่ก็นั่งอยู่กับเขาด้วย แต่ก่อนที่คนๆนั้นจะมาถึง เอลีชาพูดกับพวกผู้ใหญ่เหล่านั้นว่า “พวกท่านรู้หรือเปล่าว่า เจ้าฆาตกรคนนี้ได้ส่งคนมาตัดหัวของเรา ดูเอาไว้ เมื่อคนที่เขาส่งมานั้นมาถึง ให้ปิดประตูและขวางเขาไว้ เราได้ยินเสียงฝีเท้าของเจ้านายเขาตามหลังเขามา”
- ผู้วินิจฉัย 15:8 - เขาก็ฆ่าฟันชาวฟีลิสเตียตายเป็นจำนวนมาก แล้วเขาก็ลงไปอาศัยอยู่ในถ้ำหินของเอตาม
- 1 ซามูเอล 17:51 - ดาวิดวิ่งไปยืนบนตัวของเขา และดึงดาบของคนฟีลิสเตียคนนั้นออกจากฝัก แล้วดาวิดก็ใช้ดาบนั้นฆ่าเขาและตัดหัวของเขาไป
- 1 ซามูเอล 17:52 - คนอิสราเอลกับคนยูดาห์ก็โห่ร้องไล่ตามคนฟีลิสเตียไปถึงทางเข้าเมืองกัทและไปถึงประตูเมืองเอโครน คนฟีลิสเตียล้มตายเกลื่อนกลาดตามทางจากถนนธาราอิมไปจนถึงเมืองกัทและเมืองเอโครน
- 2 ซามูเอล 10:15 - หลังจากที่ชาวอารัมเห็นว่าพวกเขาถูกอิสราเอลตีแตก พวกเขาจึงรวมตัวกันอีกครั้ง
- 2 ซามูเอล 10:16 - ฮาดัด-เอเซอร์ นำชาวอารัมมาจากอีกฝั่งของแม่น้ำ พวกเขาไปที่เฮลามโดยมีโชบัคแม่ทัพของกษัตริย์ฮาดัด-เอเซอร์เป็นผู้นำทัพ
- 2 ซามูเอล 10:17 - เมื่อมีคนมาบอกดาวิดถึงเรื่องนี้ ดาวิดจึงรวบรวมอิสราเอลทั้งหมดข้ามแม่น้ำจอร์แดน และไปที่เฮลาม
- 2 ซามูเอล 10:18 - แต่ดาวิดรบชนะพวกเขา และพวกเขาหลบหนีไปต่อหน้าอิสราเอล ดาวิดได้ฆ่าคนขับรถรบของพวกเขาไปเจ็ดร้อยคนและทหารเดินเท้า อีกสี่หมื่นคน ดาวิดได้ทำให้โชบัคแม่ทัพของชาวอารัมบาดเจ็บ เขาจึงตายที่นั่นด้วย
- 2 ซามูเอล 10:19 - เมื่อกษัตริย์ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้อำนาจของฮาดัดเอเซอร์ เห็นว่าพวกเขาพ่ายแพ้ต่ออิสราเอลแล้ว พวกเขาจึงทำสัญญาสงบศึกและยอมตกเป็นทาสของอิสราเอล ชาวอารัมจึงกลัวและไม่กล้าช่วยชาวอัมโมนอีกต่อไป
- ผู้วินิจฉัย 7:19 - ดังนั้นกิเดโอนกับทหารหนึ่งร้อยคนที่อยู่กับเขา ก็ไปถึงด้านนอกสุดของค่าย เพิ่งเลยเที่ยงคืนไป เพิ่งเปลี่ยนเวรยาม
- ผู้วินิจฉัย 7:20 - กิเดโอนและคนที่อยู่กับเขาก็เป่าแตร และทุบหม้อที่อยู่ในมือพวกเขาจนแตก และทั้งสามกลุ่มก็เป่าแตร และทุบหม้อจนแตก พวกเขาถือคบเพลิงในมือซ้ายและถือแตรที่เป่าในมือขวา และต่างก็ตะโกนว่า “ดาบสำหรับพระยาห์เวห์และกิเดโอน”
- ผู้วินิจฉัย 7:21 - แต่ละคนต่างยืนประจำที่ของตนรอบค่าย และพวกทหารในค่ายทั้งหมดต่างก็กระโดดขึ้นมา แล้วร้องตะโกนวิ่งหนีไป
- ผู้วินิจฉัย 7:22 - เมื่อคนของกิเดโอนเป่าแตรพร้อมๆกันทั้งสามร้อยอัน พระยาห์เวห์ก็ทำให้กองทัพของมีเดียนทั้งหมดเอาดาบฆ่าฟันกันเอง พวกทหารได้หนีไปไกลถึงเบธ-ชิทธาห์ ทางไปเมืองเศเรราห์ พวกเขาหนีไปไกลจนถึงพรมแดนของเมืองอาเบล-เมโฮลาห์ ที่อยู่ใกล้กับเมืองทับบาท
- ผู้วินิจฉัย 7:23 - คนอิสราเอลจากเผ่านัฟทาลี เผ่าอาเชอร์ และเผ่ามนัสเสห์ ถูกเรียกให้ไล่ตามชาวมีเดียนไป
- ผู้วินิจฉัย 7:24 - กิเดโอนส่งพวกผู้ส่งข่าวไปทั่วหุบเขาเอฟราอิม ไปแจ้งว่า “ลงมาโจมตีพวกมีเดียน และให้ยึดแหล่งน้ำจากพวกเขาไปไกลถึงเบธ-บาราห์และแม่น้ำจอร์แดน” ดังนั้นทหารของเอฟราอิมทั้งหมดถูกเรียกมา และพวกเขาก็ได้ยึดแหล่งน้ำต่างๆไปไกลถึงเบธ-บาราห์และแม่น้ำจอร์แดน
- ผู้วินิจฉัย 7:25 - พวกเขาจับแม่ทัพของมีเดียนได้สองคน คือโอเรบและเศเอบ พวกเขาฆ่าโอเรบที่หินแห่งโอเรบ และฆ่าเศเอบที่บ่อย่ำองุ่นแห่งเศเอบ พวกเขายังคงไล่ตามพวกมีเดียนต่อไป และได้นำหัวของโอเรบและเศเอบข้ามแม่น้ำจอร์แดนมาให้กิเดโอน
- 2 พงศ์กษัตริย์ 6:16 - ผู้พูดแทนพระเจ้าคนนั้นตอบว่า “ไม่ต้องกลัว พวกที่อยู่ฝ่ายเรามีมากกว่าพวกที่อยู่ฝ่ายนั้นเสียอีก”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 6:17 - เอลีชาอธิษฐานว่า “ข้าแต่ พระยาห์เวห์ ได้โปรดเปิดตาของเขาเพื่อเขาจะได้เห็น” แล้วพระยาห์เวห์ก็ได้เปิดตาของคนรับใช้คนนั้น และเขาเห็นว่าเนินเขาเหล่านั้นเต็มไปด้วยทหารม้าและรถรบที่ลุกเป็นไฟอยู่รอบๆตัวเอลีชา
- 2 พงศ์กษัตริย์ 6:18 - เมื่อศัตรูตรงมาที่ตัวเอลีชา เขาก็อธิษฐานกับพระยาห์เวห์ว่า “ช่วยโจมตีคนพวกนี้ให้ตาบอดด้วยเถิด”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 19:3 - เอลียาห์กลัว จึงวิ่งหนีเอาตัวรอดไป เมื่อเขามาถึงเมืองเบเออร์เชบาในยูดาห์ เขาทิ้งคนใช้เขาไว้ที่นั่น
- สดุดี 144:10 - พระองค์เป็นผู้ให้ชัยชนะกับพวกกษัตริย์ พระองค์กู้ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์จากดาบที่ฆ่าฟัน