逐节对照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แต่พวกเขาก็ยังขัดขืน และทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์เศร้าใจ พระองค์จึงกลับเป็นศัตรูของพวกเขา และพระองค์ต่อสู้กับพวกเขาเอง
- 新标点和合本 - 他们竟悖逆,使主的圣灵担忧。 他就转作他们的仇敌, 亲自攻击他们。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 他们竟然悖逆,使他的圣灵忧伤。 他就转变,成为他们的仇敌, 亲自攻击他们。
- 和合本2010(神版-简体) - 他们竟然悖逆,使他的圣灵忧伤。 他就转变,成为他们的仇敌, 亲自攻击他们。
- 当代译本 - 他们却叛逆,使祂的圣灵忧伤。 于是,祂转而与他们为敌, 亲自攻击他们。
- 圣经新译本 - 可是,他们竟然悖逆, 使他的圣灵忧伤; 所以他转作他们的仇敌, 亲自攻击他们。
- 中文标准译本 - 然而他们悖逆, 使他的圣灵忧伤; 他就转成他们的仇敌, 亲自与他们争战。
- 现代标点和合本 - 他们竟悖逆,使主的圣灵担忧。 他就转做他们的仇敌, 亲自攻击他们。
- 和合本(拼音版) - 他们竟悖逆,使主的圣灵担忧; 他就转作他们的仇敌, 亲自攻击他们。
- New International Version - Yet they rebelled and grieved his Holy Spirit. So he turned and became their enemy and he himself fought against them.
- New International Reader's Version - But they refused to obey him. They made his Holy Spirit sad. So he turned against them and became their enemy. He himself fought against them.
- English Standard Version - But they rebelled and grieved his Holy Spirit; therefore he turned to be their enemy, and himself fought against them.
- New Living Translation - But they rebelled against him and grieved his Holy Spirit. So he became their enemy and fought against them.
- The Message - But they turned on him; they grieved his Holy Spirit. So he turned on them, became their enemy and fought them.
- Christian Standard Bible - But they rebelled and grieved his Holy Spirit. So he became their enemy and fought against them.
- New American Standard Bible - But they rebelled And grieved His Holy Spirit; Therefore He turned Himself to become their enemy, He fought against them.
- New King James Version - But they rebelled and grieved His Holy Spirit; So He turned Himself against them as an enemy, And He fought against them.
- Amplified Bible - But they rebelled And grieved His Holy Spirit; Therefore He changed into their enemy, And He fought against them.
- American Standard Version - But they rebelled, and grieved his holy Spirit: therefore he was turned to be their enemy, and himself fought against them.
- King James Version - But they rebelled, and vexed his holy Spirit: therefore he was turned to be their enemy, and he fought against them.
- New English Translation - But they rebelled and offended his holy Spirit, so he turned into an enemy and fought against them.
- World English Bible - But they rebelled and grieved his Holy Spirit. Therefore he turned and became their enemy, and he himself fought against them.
- 新標點和合本 - 他們竟悖逆,使主的聖靈擔憂。 他就轉作他們的仇敵, 親自攻擊他們。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 他們竟然悖逆,使他的聖靈憂傷。 他就轉變,成為他們的仇敵, 親自攻擊他們。
- 和合本2010(神版-繁體) - 他們竟然悖逆,使他的聖靈憂傷。 他就轉變,成為他們的仇敵, 親自攻擊他們。
- 當代譯本 - 他們卻叛逆,使祂的聖靈憂傷。 於是,祂轉而與他們為敵, 親自攻擊他們。
- 聖經新譯本 - 可是,他們竟然悖逆, 使他的聖靈憂傷; 所以他轉作他們的仇敵, 親自攻擊他們。
- 呂振中譯本 - 然而他們竟悖逆, 使他的聖靈憂傷; 他就轉變為他們的仇敵, 親自攻打他們。
- 中文標準譯本 - 然而他們悖逆, 使他的聖靈憂傷; 他就轉成他們的仇敵, 親自與他們爭戰。
- 現代標點和合本 - 他們竟悖逆,使主的聖靈擔憂。 他就轉做他們的仇敵, 親自攻擊他們。
- 文理和合譯本 - 惟民叛逆、使其聖神懷憂、故轉為讐、而自攻之、
- 文理委辦譯本 - 斯民違逆、使聖神懷憂、故耶和華視若讎民、而攻擊之。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 惟彼悖逆、使主之聖神懷憂、主則視之如敵而攻擊之、
- Nueva Versión Internacional - Pero ellos se rebelaron y afligieron a su santo Espíritu. Por eso se convirtió en su enemigo, y luchó él mismo contra ellos.
- 현대인의 성경 - 그들이 여호와를 거역하고 그의 성령을 근심하게 하였다. 그래서 그가 그들의 대적이 되어 그들과 싸우셨다.
- Новый Русский Перевод - Но они восстали и огорчили Святого Духа Его. И Он стал им врагом, и Сам воевал с ними.
- Восточный перевод - Но они восстали и огорчили Святого Духа Его. И Он стал им врагом, и Сам воевал с ними.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Но они восстали и огорчили Святого Духа Его. И Он стал им врагом, и Сам воевал с ними.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Но они восстали и огорчили Святого Духа Его. И Он стал им врагом, и Сам воевал с ними.
- La Bible du Semeur 2015 - Mais eux, ils se sont rebellés et ils ont attristé ╵son Esprit Saint. Dès lors, il s’est changé ╵pour eux en ennemi, et les a combattus.
- リビングバイブル - ところが、彼らは神に反抗し、 神の御霊を悲しませたのです。 それで神は、彼らの敵となり、彼らと戦ったのです。
- Nova Versão Internacional - Apesar disso, eles se revoltaram e entristeceram o seu Espírito Santo. Por isso ele se tornou inimigo deles e lutou pessoalmente contra eles.
- Hoffnung für alle - Sie aber lehnten sich auf und beleidigten immer wieder seinen Heiligen Geist. Darum wurde er ihr Feind und kämpfte nun selbst gegen sie.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Nhưng họ đã nổi loạn chống nghịch Chúa và làm cho Thánh Linh của Ngài buồn rầu. Vì vậy, Chúa trở thành thù địch và chiến đấu nghịch lại họ.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ถึงกระนั้นพวกเขาก็กบฏ และทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์เสียพระทัย ดังนั้นพระองค์จึงทรงกลับกลายเป็นศัตรูของพวกเขา และพระองค์เองก็ทรงต่อสู้พวกเขา
交叉引用
- เอเสเคียล 20:13 - แต่พงศ์พันธุ์อิสราเอลขัดขืนเราในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาไม่ได้ดำเนินชีวิตตามกฎเกณฑ์ของเรา และไม่ยอมรับคำบัญชาของเรา ซึ่งถ้าผู้ใดกระทำตาม เขาจะมีชีวิตอยู่ พวกเขาดูหมิ่นวันสะบาโตของเรายิ่งนัก เราจึงกล่าวว่า เราจะกระหน่ำการลงโทษของเราลงบนพวกเขาในถิ่นทุรกันดารให้พินาศเสีย
- เนหะมีย์ 9:29 - พระองค์เตือนพวกเขาเพื่อให้กลับมาปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระองค์ แต่พวกเขาก็ยังยโส และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ แต่กลับทำผิดต่อคำบัญชาของพระองค์ ถ้าผู้ใดกระทำตาม ผู้นั้นก็จะมีชีวิต และพวกเขาหันหลังให้พระองค์ และดื้อด้านไม่ยอมเชื่อฟัง
- เพลงคร่ำครวญ 1:20 - โอ พระผู้เป็นเจ้า ดูเถิด ข้าพเจ้าเป็นทุกข์ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าว้าวุ่น ส่วนลึกในใจข้าพเจ้าบอบช้ำ เพราะข้าพเจ้าดื้อดันมาก ที่ถนนมีการรบราฆ่าฟัน ส่วนภายในบ้านก็มีแต่ความตาย
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:19 - พระผู้เป็นเจ้าเห็นการกระทำเช่นนั้น พระองค์โกรธและปฏิเสธบรรดาบุตรชายบุตรหญิงของพระองค์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:20 - และพระองค์กล่าวว่า ‘เราจะซ่อนหน้าจากพวกเขา เราจะดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขาในที่สุด เพราะพวกเขาเป็นคนในยุคที่บิดเบือน เป็นบุตรที่ไม่ภักดี
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:21 - พวกเขาได้ปลุกให้เราเกิดหวงแหนด้วยสิ่งที่ไม่ใช่เทพเจ้า พวกเขาทำให้เราโกรธด้วยรูปเคารพซึ่งไร้ค่าของเขา ฉะนั้นเราจะกระตุ้นให้พวกเขาอิจฉาบรรดาผู้ที่ไม่ได้เป็นชนชาติ เราจะทำให้พวกเขาโกรธด้วยประชาชาติที่โง่เขลา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:22 - เพราะเพลิงไฟลุกขึ้นจากความโกรธของเรา และมันเผาไหม้ถึงก้นบึ้งของแดนคนตาย เผาผลาญแผ่นดินโลกกับพืชผล และทำให้ฐานรากของภูเขาลุกโพลง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:23 - เราจะสุมความวิบัติไว้กับพวกเขา และเราจะยิงลูกธนูใส่เขา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:24 - ชีวิตของเขาจะดับลงด้วยความหิวโหย และถูกกลืนกินด้วยความร้อนดั่งเพลิงและโรคระบาดร้ายแรง และเราจะทำให้เขาถูกรังควานด้วยสัตว์ป่า และด้วยพิษของสัตว์เลื้อยคลานที่อยู่บนดิน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:25 - จะมีการฆ่ารันฟันแทงในที่แจ้ง สิ่งอันน่าสะพรึงกลัวจะเกิดขึ้นในเรือน ทำให้ชายหนุ่มและหญิงสาวล้มตาย รวมทั้งเด็กเล็กและคนชราด้วย
- เนหะมีย์ 9:26 - แม้กระนั้น พวกเขาก็ยังดื้อดึงและขัดขืนต่อพระองค์ และหันหลังให้กฎบัญญัติของพระองค์ และฆ่าบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระองค์ ซึ่งได้เตือนพวกเขาให้หันกลับเข้าหาพระองค์ และพวกเขาพูดหมิ่นประมาทมาก
- เลวีนิติ 26:17 - เราจะไม่ยอมรับพวกเจ้า และพวกเจ้าจะถูกฆ่าต่อหน้าพวกศัตรู ผู้ที่เกลียดชังก็จะมีอำนาจเหนือพวกเจ้า และพวกเจ้าจะหนีเตลิดไปแม้ในขณะที่ไม่มีผู้ใดไล่ล่าก็ตาม
- เลวีนิติ 26:18 - และถ้าหลังจากสิ่งเหล่านี้แล้วยังจะไม่ฟังเราอีก เราก็จะสั่งสอนอีกให้เป็น 7 เท่าเพราะบาปของพวกเจ้า
- เลวีนิติ 26:19 - และเราจะลงโทษให้สำนึกถึงความยโสในอำนาจของตน และเราจะทำให้ท้องฟ้าของพวกเจ้ากระด้างดุจเหล็ก และแผ่นดินจะแห้งเหือดดุจทองสัมฤทธิ์
- เลวีนิติ 26:20 - และพวกเจ้าจะลงแรงโดยไร้ประโยชน์ เพราะแผ่นดินจะไม่ผลิตพืชผล และต้นไม้ในแผ่นดินจะไม่ออกผล
- เลวีนิติ 26:21 - และถ้าพวกเจ้าดำเนินชีวิตในทางตรงกันข้ามกับเรา และไม่ยอมฟังเรา เราก็จะเพิ่มโทษอีกเป็น 7 เท่าของบาปที่พวกเจ้ากระทำ
- เลวีนิติ 26:22 - และเราจะทำให้สัตว์ป่าเข้าไปเพ่นพ่านในหมู่พวกเจ้า มันจะปลิดชีพลูกหลานเสีย และจะกำจัดสัตว์เลี้ยงของพวกเจ้า และทำให้จำนวนคนน้อยลง ถนนหนทางก็จะพลอยร้างไปด้วย
- เลวีนิติ 26:23 - และถ้าหลังจากสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว พวกเจ้ายังไม่กลับมาหาเรา แต่ยังดำเนินชีวิตในทางตรงกันข้ามกับเรา
- เลวีนิติ 26:24 - เราก็จะเดินในทางตรงกันข้ามกับพวกเจ้าด้วย และจะเป็นตัวเราเองที่ลงโทษให้เป็น 7 เท่าเพราะบาปของพวกเจ้า
- เลวีนิติ 26:25 - และเราจะให้มีการฆ่าฟันเกิดขึ้นกับพวกเจ้า เพื่อลงโทษที่ไม่ทำตามพันธสัญญา ถ้าพวกเจ้ามารวมกันอยู่ในเมือง เราก็จะให้เกิดโรคระบาดร้ายแรงที่นั่น และพวกเจ้าจะตกอยู่ในมือของศัตรู
- เลวีนิติ 26:26 - เวลาเราทำให้พวกเจ้าขาดแคลนอาหาร หญิง 10 คนจะใช้เตาอบขนมปังเพียงเตาเดียว เขาจะชั่งขนมปังแจกตามน้ำหนักให้พวกเจ้ารับประทาน แต่ก็จะไม่อิ่ม
- เลวีนิติ 26:27 - และถ้าหลังจากสิ่งเหล่านี้แล้วยังจะไม่ฟังเรา แต่กลับดำเนินชีวิตในทางตรงกันข้ามกับเรา
- เลวีนิติ 26:28 - เราก็จะเดินในทางตรงกันข้ามกับพวกเจ้าด้วยความโกรธ และจะสั่งสอนอีกให้เป็น 7 เท่าด้วยตัวเราเองเพราะบาปของพวกเจ้า
- เลวีนิติ 26:29 - พวกเจ้าจะต้องกินเนื้อลูกชายและลูกสาวของตน
- เลวีนิติ 26:30 - และเราจะทำลายสถานบูชาบนภูเขาสูงของพวกเจ้า และพังแท่นทั้งหลายที่ใช้สำหรับเผาเครื่องหอมลง และโยนศพของพวกเจ้าทิ้งไว้บนรูปเคารพที่ผุพัง และจิตวิญญาณของเราจะชิงชังพวกเจ้า
- เลวีนิติ 26:31 - เราจะทำลายเมืองของพวกเจ้าไม่ให้เหลือซาก และทำให้สถานที่บูชาต่างๆ พังทลายสิ้น เราจะไม่ดมกลิ่นหอมจากเครื่องบูชาของพวกเจ้า
- เลวีนิติ 26:32 - และเราจะทำลายแผ่นดินของพวกเจ้าจนพวกศัตรูที่จะมาตั้งรกรากใหม่พากันตกตะลึง
- เลวีนิติ 26:33 - เราจะทำให้พวกเจ้ากระจัดกระจายไปในท่ามกลางบรรดาประชาชาติ และเราจะให้ดาบไล่ล่าพวกเจ้าไป แผ่นดินจะเป็นที่ร้าง และเมืองของพวกเจ้าจะไม่มีซากเหลือทิ้งไว้เลย
- เลวีนิติ 26:34 - จากนั้นแผ่นดินจะยินดีกับปีสะบาโตนานตราบที่ยังเป็นที่ร้าง ขณะที่พวกเจ้าอาศัยอยู่ในแผ่นดินของศัตรู เมื่อนั้นแหละแผ่นดินจะได้หยุดพักและยินดีกับปีสะบาโต
- เลวีนิติ 26:35 - ตราบที่แผ่นดินเป็นที่ร้าง มันจะได้หยุดพัก ซึ่งเป็นการหยุดพักที่มันไม่ได้รับจากพวกเจ้าในระยะปีสะบาโตเมื่อเจ้าอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น
- เลวีนิติ 26:36 - สำหรับพวกเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่ เราจะทำให้ใจพวกเขาหวาดผวาในแผ่นดินของพวกศัตรู แม้ใบไม้ปลิวไปกับสายลมก็ยังทำให้พวกเขาเผ่นหนีได้ และจะหนีไปอย่างกับหนีจากคมดาบ จนถึงกับจะล้มลงแม้ในขณะที่ไม่มีผู้ใดไล่ล่า
- เลวีนิติ 26:37 - พวกเขาจะสะดุดชนกันราวกับว่ากำลังหนีจากคมดาบแม้ไม่มีผู้ใดไล่ล่า ฉะนั้นพวกเจ้าจะไม่มีพลังยืนต่อสู้กับศัตรู
- เลวีนิติ 26:38 - พวกเจ้าจะตายในท่ามกลางบรรดาประชาชาติ และจะถูกกลืนกินในแผ่นดินของศัตรู
- เลวีนิติ 26:39 - ส่วนบรรดาพวกที่ยังมีชีวิตอยู่จะเปื่อยเน่าในแผ่นดินของศัตรูเพราะบาปของพวกเขา และเป็นเพราะบาปของบรรพบุรุษด้วย พวกเขาจะเปื่อยเน่าไปเหมือนกัน
- เลวีนิติ 26:40 - แต่ถ้าพวกเขาสารภาพบาปของตนและบาปของบรรพบุรุษที่ไม่ภักดี ด้วยการฝ่าฝืนเราและดำเนินชีวิตในทางตรงกันข้ามกับเรา
- เลวีนิติ 26:41 - ถึงกับทำให้เราเดินในทางตรงกันข้ามกับพวกเขา และนำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินของศัตรู แต่ถ้าใจของพวกเขาที่แข็งต่อพระเจ้าถูกทำให้ถ่อมลงและยอมรับโทษบาปของตน
- เลวีนิติ 26:42 - เราก็จะระลึกถึงพันธสัญญาของเราที่ทำไว้กับยาโคบ และเราจะระลึกถึงพันธสัญญาของเราที่ทำไว้กับอิสอัค และพันธสัญญาของเราที่ทำไว้กับอับราฮัม และเราจะระลึกถึงแผ่นดินนั้น
- เลวีนิติ 26:43 - แต่แผ่นดินจะถูกทิ้งไว้และจะยินดีกับปีสะบาโตขณะเป็นที่ร้างเพราะไม่มีพวกเขาอยู่ และพวกเขาจะยอมรับโทษบาปของตน เพราะปฏิเสธคำบัญชาของเรา และจิตวิญญาณก็ละเลยต่อกฎเกณฑ์ของเรา
- เลวีนิติ 26:44 - ถึงกระนั้นก็ตาม เมื่อพวกเขาอยู่ในแผ่นดินของศัตรู เราก็จะไม่ปฏิเสธและทอดทิ้งพวกเขาจนถึงกับต้องกำจัดจนราบคาบ และยกเลิกพันธสัญญาของเรากับพวกเขา เพราะเราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา
- เลวีนิติ 26:45 - แต่เป็นเพราะพวกเขา เราจะระลึกถึงพันธสัญญาที่เราทำไว้กับบรรพบุรุษ ซึ่งเราได้นำออกไปจากแผ่นดินอียิปต์ต่อหน้าบรรดาประชาชาติเพื่อเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา เราคือพระผู้เป็นเจ้า’”
- เลวีนิติ 26:46 - สิ่งเหล่านี้เป็นกฎเกณฑ์ คำบัญชาและกฎบัญญัติซึ่งพระผู้เป็นเจ้าได้ทำไว้ระหว่างพระองค์กับชาวอิสราเอลโดยผ่านโมเสสที่ภูเขาซีนาย
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:15 - แต่ถ้าท่านไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน หรือไม่ปฏิบัติตามพระบัญญัติและกฎเกณฑ์ของพระองค์อย่างระมัดระวัง ตามที่เราบัญชาท่านในวันนี้ คำสาปแช่งเหล่านี้จะอยู่กับท่านเสมอไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:16 - ท่านจะถูกแช่งสาปไม่ว่าจะอยู่ในตัวเมืองหรือนอกเมือง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:17 - ตะกร้าและภาชนะนวดแป้งของท่านจะถูกแช่งสาป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:18 - ลูกหลานที่เกิดจากท่านจะถูกแช่งสาป รวมทั้งพืชผลที่ได้จากไร่นา ลูกโคและลูกแกะจากฝูง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:19 - ท่านจะถูกแช่งสาป ไม่ว่าท่านจะทำอะไรอยู่ที่ไหน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:20 - พระผู้เป็นเจ้าจะให้สิ่งร้ายๆ เกิดขึ้นกับท่าน ทำให้เกิดความว้าวุ่นชุลมุนและความลำเค็ญในทุกสิ่งที่ท่านทำ จนท่านถูกกำจัดและสิ้นชีวิตโดยเร็วเนื่องจากการกระทำอันชั่วร้ายของท่านที่ทอดทิ้งพระองค์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:21 - พระผู้เป็นเจ้าจะให้ภัยพิบัติเกิดขึ้นกับท่านจนกระทั่งพระองค์ทำลายล้างให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินที่ท่านกำลังจะเข้าไปยึดครอง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:22 - พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านประสบกับโรคระบาด เป็นไข้สูง เกิดอาการอักเสบ ร้อนราวกับไฟ แล้งฝน ลมร้อนแห้ง เชื้อราระบาดในพืช สิ่งเหล่านี้จะตามรังควานท่านจนกว่าชีวิตจะหาไม่
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:23 - และท้องฟ้าที่อยู่เหนือศีรษะท่านจะเป็นดั่งแผ่นทองสัมฤทธิ์ พื้นดินที่อยู่ใต้ท่านจะเป็นดั่งแผ่นเหล็ก
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:24 - พระผู้เป็นเจ้าจะให้ฝุ่นและผุยผงปลิวลงบนแผ่นดินของท่านแทนหยาดฝน ซึ่งจะปกคลุมเคลือบติดแน่นอยู่กับท่านจนกว่าท่านจะถูกกำจัดไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:25 - พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านพ่ายแพ้ต่อหน้าต่อตาพวกศัตรู ไม่ว่าท่านจะเข้าโจมตีจากทิศใดทิศหนึ่ง แต่ท่านก็จะเตลิดหนีไปทั่วทุกทิศทุกทางต่อหน้าพวกเขา และทุกๆ อาณาจักรทั่วโลกจะหวาดหวั่นเมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:26 - และศพของท่านจะเป็นเหยื่อแก่นกในอากาศและพวกสัตว์ป่าในโลก และจะไม่มีใครหลงเหลืออยู่เพื่อขับไล่สัตว์เหล่านั้นไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:27 - พระผู้เป็นเจ้าจะให้ท่านรับทุกข์ทรมานจากฝีอียิปต์ จากเนื้องอก และโรคผิวหนังซึ่งคันและรักษาไม่หายขาด
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:28 - พระผู้เป็นเจ้าจะให้ท่านรับทุกข์ทรมานจากโรควิกลจริต ตาบอด และจิตใจสับสน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:29 - ท่านจะคลำไปในเวลาเที่ยงวันอย่างคนตาบอดคลำในที่มืด ท่านจะทำสิ่งใดก็ไม่เจริญ และท่านจะถูกผู้คนบีบบังคับและถูกปล้นเรื่อยไป ไม่อาจมีที่พึ่งพิง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:30 - แม้ท่านจะหมั้นหญิงไว้คนหนึ่ง แต่ชายอื่นจะเป็นผู้แต่งกับเธอ ท่านจะสร้างบ้าน แต่ก็จะไม่ได้อาศัยอยู่ ท่านปลูกสวนองุ่น แต่ท่านก็จะไม่ได้กินผลของมัน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:31 - โคของท่านจะถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาท่าน แต่ท่านกลับไม่ได้กินเนื้อของมัน ลาของท่านจะถูกจับไปต่อหน้าท่าน แต่ก็จะไม่ถูกส่งกลับมาให้ท่านอีก แพะแกะของท่านจะเป็นของศัตรูของท่าน โดยไม่มีใครช่วยท่านได้
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:32 - บุตรชายบุตรหญิงของท่านจะไปเป็นของชนชาติอื่น นัยน์ตาของท่านจะเฝ้าอาลัยรอคอยพวกเขาจนอ่อนใจวันแล้ววันเล่า และท่านไม่อาจช่วยเหลือพวกเขาได้เลย
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:33 - ชนชาติที่ท่านไม่รู้จักมาก่อนจะเก็บกินพืชผลจากไร่นาและสิ่งที่ท่านลงแรงทำไว้ ท่านจะมีแต่ถูกบีบบังคับและข่มเหงเรื่อยไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:34 - ท่านจะเห็นสภาพเหล่านั้นด้วยตาของท่านเองจนอาการคลุ้มคลั่ง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:35 - พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านมีความทุกข์อันเกิดจากฝีร้ายที่หัวเข่าและขาซึ่งท่านไม่สามารถรักษาให้หายขาด มันจะลามจากฝ่าเท้าขึ้นไปจนถึงกระหม่อม
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:36 - พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านและกษัตริย์ที่ท่านแต่งตั้งให้อยู่เหนือท่าน ไปอยู่ใต้การควบคุมของประชาชาติหนึ่งซึ่งท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่รู้จักมาก่อน และ ณ ที่นั้นท่านจะบูชาบรรดาเทพเจ้าซึ่งทำด้วยไม้และหิน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:37 - ท่านจะเป็นที่น่าหวาดกลัว จะเป็นดั่งคำเปรียบเปรยในสุภาษิต และเป็นที่หัวเราะเยาะในท่ามกลางชนชาติทั้งมวลที่พระผู้เป็นเจ้าจะนำท่านไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:38 - ถึงท่านจะหว่านเมล็ดในนามากมาย แต่จะเก็บเกี่ยวได้เพียงน้อยนิด เพราะฝูงจักจั่นจะกัดกินเสีย
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:39 - ถึงท่านจะเพาะปลูกและตัดแต่งสวนองุ่น แต่ท่านจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นหรือกินผลของมัน เพราะหนอนกินมันหมด
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:40 - ถึงท่านจะมีต้นมะกอกอยู่ทั่วอาณาเขตของท่าน แต่ท่านจะไม่ได้ชโลมตัวท่านเองด้วยน้ำมันมะกอก เพราะผลของมันจะร่วงหล่น
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:41 - ถึงท่านจะมีบุตรชายบุตรหญิง แต่พวกเขาจะไม่เป็นของท่านเพราะเขาจะถูกจับไปเป็นเชลยศึก
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:42 - ต้นไม้ทุกต้นและพืชผลจากแผ่นดินทั้งหมดของท่านจะตกเป็นของฝูงตั๊กแตน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:43 - คนต่างด้าวที่อยู่ท่ามกลางพวกท่านจะเจริญและก้าวหน้ากว่าท่านยิ่งๆ ขึ้น และท่านจะตกต่ำลงเรื่อยๆ
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:44 - เขาจะให้ท่านขอยืม และท่านจะไม่เป็นฝ่ายผู้ให้ยืม เขาจะเป็นเบี้ยบน และท่านจะเป็นเบี้ยล่าง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:45 - คำสาปแช่งดังกล่าวจะเกิดแก่ท่าน จะไล่ล่าและปราบท่านจนกว่าท่านจะหายนะ เพราะท่านไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และไม่รักษาพระบัญญัติและกฎเกณฑ์ซึ่งพระองค์บัญชาไว้
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:46 - สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นและเป็นสิ่งมหัศจรรย์แก่ท่านและบรรดาผู้สืบเชื้อสายของท่านตลอดไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:47 - เพราะท่านไม่ได้รับใช้พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านด้วยความยินดีและใจเปรมปรีดิ์ทั้งๆ ที่ท่านบริบูรณ์ด้วยทุกสิ่ง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:48 - ฉะนั้นท่านจะรับใช้พวกศัตรูที่พระผู้เป็นเจ้าจะส่งมาต่อต้านท่าน ด้วยความหิวและความกระหาย ด้วยความเปลือยเปล่าและความขัดสนในทุกสิ่ง พระองค์จะวางแอกเหล็กไว้บนคอท่านจนกว่าพระองค์จะกำจัดท่านจนสูญสิ้นไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:49 - พระผู้เป็นเจ้าจะนำประชาชาติหนึ่งจากแดนไกลจากสุดขอบโลกมาต่อต้านท่าน เป็นประชาชาติที่ใช้ภาษาที่ท่านไม่เข้าใจ พวกเขามาอย่างรวดเร็วราวกับนกอินทรีที่บินโฉบลง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:50 - เป็นประชาชาติหนึ่งที่มีหน้าตาโหดเหี้ยมและไม่นับถือคนชรา ไม่เมตตาคนหนุ่มสาว
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:51 - เขาจะกินลูกสัตว์เลี้ยงและพืชผลไร่นาของท่านอย่างตะกละตะกลามจนกระทั่งตัวท่านเองก็ถูกกำจัด อีกทั้งเมล็ดข้าว เหล้าองุ่น น้ำมันมะกอก หรือลูกโค หรือลูกแกะจากฝูงของท่าน พวกเขาก็จะไม่ให้มีเหลือไว้ให้ท่าน จนกว่าพวกเขาจะทำให้ท่านย่อยยับ
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:52 - พวกเขาจะใช้กำลังล้อมทุกเมืองในแผ่นดินของท่าน แม้ท่านมั่นใจในกำแพงเมืองที่สูงและมีการคุ้มกันอย่างแข็งแกร่ง แต่กำแพงเหล่านั้นก็จะถูกพังทลายลงทั้งแผ่นดินของท่าน แล้วพวกเขาจะใช้กำลังล้อมท่านไว้ทุกเมืองทั่วแผ่นดินของท่าน อันเป็นที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้มอบให้แก่ท่านแล้ว
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:53 - และท่านจะกินลูกหลานที่เกิดจากท่านเอง เนื้อลูกชายและลูกสาวของท่านซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้ให้แก่ท่าน ในยามที่ศัตรูของท่านใช้กำลังล้อมและก่อให้ท่านเกิดความทุกข์ยากลำบาก
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:54 - แม้แต่ชายที่อ่อนโยนและใส่ใจต่อความรู้สึกของผู้อื่นมากที่สุดในหมู่พวกท่านก็ยังจะหวงอาหารไม่ยอมแบ่งปันให้แก่พี่น้อง แก่ภรรยาสุดที่รักของตน หรือแก่ลูกๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่เลย
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:55 - เขาจะไม่แบ่งเนื้อของลูกตนเองที่เขากำลังกินอยู่ให้แก่ใครเลย เพราะเขาหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว เหตุก็เพราะศัตรูของท่านจะใช้กำลังล้อมและก่อความทุกข์ยากให้กับทุกๆ เมือง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:56 - หญิงที่อ่อนโยนและใส่ใจต่อความรู้สึกของผู้อื่นมากที่สุดในหมู่พวกท่าน นางเป็นคนไม่ยอมเหยียบย่างไปที่ไหนๆ เพราะนางบอบบางและอ่อนโยนยิ่งนัก นางก็ยังหวงอาหารกับสามีสุดที่รัก และกับบุตรชายบุตรหญิงของนาง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:57 - ไม่ยอมแบ่งปันรกที่ออกมาจากหว่างขาของนางและทารกที่นางคลอดด้วย เพราะนางจะแอบกินเพียงผู้เดียวในขณะที่ศัตรูก่อความทุกข์ยากในเมืองของท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:58 - ถ้าท่านไม่ระวังที่จะปฏิบัติตามคำกล่าวทั้งสิ้นในกฎบัญญัติซึ่งเขียนไว้ในหนังสือฉบับนี้ และถ้าท่านไม่เกรงกลัวพระนามอันควรแก่การยกย่องและเกรงขามคือ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:59 - แล้วพระผู้เป็นเจ้าจะให้ภัยพิบัติอันร้ายแรงเกิดแก่ท่านและลูกหลานของท่าน เป็นภัยพิบัติที่รุนแรงและต่อเนื่องเป็นเวลานาน รวมถึงโรคระบาดร้ายที่ยากต่อการยับยั้ง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:60 - และพระองค์จะให้โรคภัยทุกชนิดของอียิปต์ที่ท่านหวาดกลัวเกิดแก่ท่านอีก โดยที่ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:61 - พระผู้เป็นเจ้าจะให้การเจ็บป่วยทุกชนิดและภัยพิบัติที่ไม่ได้ระบุไว้ในหนังสือกฎบัญญัติฉบับนี้เกิดกับท่าน จนกระทั่งท่านถูกกำจัดไป
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:62 - จากจำนวนของพวกท่านเคยมีมากมายดุจดวงดาวบนท้องฟ้า ท่านจะมีเหลืออยู่เพียงไม่กี่คน เพราะท่านไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:63 - พระผู้เป็นเจ้ายินดีที่ทำให้พวกท่านเจริญและทวีจำนวนมากขึ้น ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้ายินดีที่จะทำให้พวกท่านพินาศลงและกำจัดท่านเสียด้วย และท่านจะถูกถอดถอนไปเสียจากแผ่นดินที่พวกท่านกำลังจะเข้าไปยึดครอง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:64 - แล้วพระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านกระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางชนชาติทั้งปวง คือจากสุดขอบโลกด้านหนึ่งจรดสุดขอบโลกอีกด้านหนึ่ง และท่านจะนมัสการบรรดาเทพเจ้าซึ่งทำด้วยไม้และหิน ซึ่งท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่เคยรู้จักมาก่อน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:65 - และท่านจะไม่มีสันติสุขอยู่ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ และฝ่าเท้าของท่านจะไม่ได้พัก พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านหวาดหวั่น หมดหนทาง และสิ้นหวังอยู่ที่นั่น
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:66 - ชีวิตของท่านจะอยู่ในอันตรายเสมอ ท่านจะหวั่นวิตกทั้งวันและคืน และมีชีวิตที่ปราศจากความแน่นอน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:67 - ในยามเช้า ท่านจะพูดว่า ‘อยากให้ตกเย็นเสียที’ และในยามเย็น ท่านจะพูดว่า ‘อยากให้ถึงรุ่งเช้าเสียที’ เพราะใจของท่านหวั่นหวาดกับสิ่งที่จะเผชิญ และภาพที่ท่านจะเห็น
- เฉลยธรรมบัญญัติ 28:68 - และพระผู้เป็นเจ้าจะนำท่านกลับไปยังประเทศอียิปต์ทางเรือ ซึ่งเป็นการเดินทางที่พระองค์สัญญาไว้ว่าท่านไม่ควรต้องกลับไปอีก และที่นั่นท่านจะประกาศขายตัวเองแก่เหล่าศัตรูเพื่อเป็นทาสชายและทาสหญิง แต่ก็ไม่มีใครอยากซื้อท่านไป”
- สดุดี 78:8 - พวกเขาไม่ควรเป็นเหมือนบรรพบุรุษของเขาคือ เป็นยุคที่ดื้อรั้นและฝ่าฝืน เป็นยุคที่มีใจโลเล มีจิตวิญญาณที่ไม่ภักดีต่อพระเจ้า
- เอเสเคียล 6:9 - แล้วบรรดาผู้ที่หนีรอดไปได้จะระลึกถึงเราในท่ามกลางบรรดาประชาชาติที่จับพวกเขาไปเป็นเชลย เราเสียใจเพียงไรกับการนอกใจของพวกเขา ที่ได้หันหลังให้เรา และสิ่งที่เขามองเห็นทำให้เกิดกิเลสกับรูปเคารพของพวกเขา พวกเขาจะเกลียดตนเองที่ได้กระทำสิ่งชั่วร้ายและประพฤติอย่างน่ารังเกียจทั้งสิ้น
- อพยพ 16:8 - โมเสสพูดต่ออีกว่า “การที่พระผู้เป็นเจ้าให้เนื้อสัตว์แก่พวกท่านรับประทานในเวลาเย็นและขนมปังในเวลาเช้าจนอิ่มหนำ ก็เป็นเพราะพระผู้เป็นเจ้าได้ยินท่านบ่นไม่พอใจต่อว่าพระองค์ เราทั้งสองเป็นใครหรือ เวลาท่านบ่นไม่พอใจก็มิใช่เป็นการต่อว่าเรา แต่เป็นการต่อว่าพระผู้เป็นเจ้า”
- เอเสเคียล 2:7 - แต่เจ้าจงบอกพวกเขาถึงสิ่งที่เราพูด ไม่ว่าพวกเขาจะฟังหรือไม่ยอมฟังก็ตาม เพราะพวกเขาเป็นพงศ์พันธุ์ที่ขัดขืน
- อิสยาห์ 65:2 - ตลอดวันเวลาเรายื่นมือของเรา ให้แก่ชนชาติที่ดื้อกระด้าง ที่เดินในทางไม่ดี เดินตามวิธีการของตนเอง
- เอเสเคียล 2:3 - พระองค์กล่าวดังนี้ “บุตรมนุษย์เอ๋ย เราส่งเจ้าไปยังชาวอิสราเอล ยังบรรดาประชาชาติที่ขัดขืนซึ่งได้ขัดขืนต่อคำบัญชาของเรา ทั้งพวกเขาและบรรพบุรุษของเขาได้กระทำบาปต่อเรามาจนถึงทุกวันนี้
- สดุดี 51:11 - อย่าขับไสข้าพเจ้าไปให้พ้นจากพระองค์ และอย่าพรากพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ไปจากข้าพเจ้า
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:7 - จงจำไว้ และอย่าลืมว่าในถิ่นทุรกันดาร ท่านยั่วโทสะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน นับจากวันที่ท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ จนกระทั่งพวกท่านมาถึงที่แห่งนี้ ท่านก็ได้ขัดขืนพระผู้เป็นเจ้าเรื่อยมา
- เพลงคร่ำครวญ 2:4 - พระองค์โก่งคันธนูประดุจศัตรู มือขวาของพระองค์เล็งประดุจปรปักษ์ พระองค์ได้สังหารทุกคนที่พวกเรารัก ความกริ้วของพระองค์ได้พลุ่งขึ้นดั่งเปลวไฟ ในกระโจมของธิดาแห่งศิโยน
- เพลงคร่ำครวญ 2:5 - พระผู้เป็นเจ้าเป็นประดุจศัตรู พระองค์ได้ทำให้อิสราเอลพินาศ พระองค์ได้ทลายวังทั้งหลาย และป้อมปราการอันแข็งแกร่งลง พระองค์ทำให้มีการร้องรำพันและร้องคร่ำครวญมากยิ่งขึ้น ในเขตแดนของธิดาแห่งยูดาห์
- อิสยาห์ 1:2 - โอ ฟ้าสวรรค์ โปรดฟัง โอ แผ่นดินโลก โปรดเงี่ยหู เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวดังนี้ว่า “เราได้เลี้ยงดูลูกๆ จนเติบโตขึ้น แต่พวกเขากลับขัดขืนเรา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:22 - พวกท่านยั่วโทสะพระผู้เป็นเจ้าที่ทาเบราห์ ที่มัสสาห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:23 - เมื่อพระผู้เป็นเจ้าให้พวกท่านไปจากคาเดชบาร์เนียโดยกล่าวว่า ‘จงขึ้นไปยึดครองแผ่นดินที่เรามอบให้พวกเจ้าแล้ว’ แต่แล้วท่านก็ขัดขืนต่อคำบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน พวกท่านไม่ไว้ใจและไม่เชื่อฟังพระองค์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:24 - ตั้งแต่วันที่เรารู้จักพวกท่าน พวกท่านก็ขัดขืนพระผู้เป็นเจ้าเสมอมา
- เพลงคร่ำครวญ 1:18 - พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ยุติธรรม ข้าพเจ้านั่นแหละที่ได้ดื้อดึงต่อคำสั่งของพระองค์ ทุกคนเอ๋ย ดูสิว่า ข้าพเจ้ารับทุกข์ทรมาน บรรดาหญิงสาวและชายหนุ่มของข้าพเจ้า ถูกจับไปเป็นเชลย
- เยเรมีย์ 30:14 - มิตรสหายทุกคนของเจ้าก็ลืมเจ้าแล้ว พวกเขาไม่ห่วงใยเจ้าเลย เพราะเราได้กระทำต่อเจ้าอย่างศัตรูกระทำ การลงโทษของศัตรูที่ปราศจากความเมตตา เพราะความผิดของเจ้ามากนัก เพราะบาปของเจ้าร้ายแรงนัก
- อพยพ 23:21 - จงตั้งใจและเชื่อฟังเขา อย่าขัดขืนต่อเขา เพราะเขาจะไม่ยกโทษการล่วงละเมิดของพวกเจ้า เพราะเขามีสิทธิอำนาจในนามของเรา
- สดุดี 78:49 - พระองค์ปลดปล่อยความกริ้วอันร้อนแรงของพระองค์ลงบนพวกเขา ความโกรธเกรี้ยว ความขัดเคือง และความแค้น ซึ่งมาในรูปของกลุ่มทูตสวรรค์แห่งความวิบัติ
- มัทธิว 22:7 - กษัตริย์ผู้นั้นโกรธมาก จึงส่งกองทหารไปทำลายพวกฆาตกรเหล่านั้นแล้วเผาเมืองเสีย
- อพยพ 32:8 - พวกเขาหันหลังให้กับวิถีทางที่เราสั่งให้ปฏิบัติอย่างรวดเร็ว เขาหล่อรูปลูกโคขึ้นตัวหนึ่งให้พวกเขาเอง แล้วยังนมัสการและถวายเครื่องสักการะแก่ลูกโค พวกเขาพูดว่า ‘โอ อิสราเอล นี่คือบรรดาเทพเจ้าของเจ้าที่นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์’”
- กันดารวิถี 16:1 - โคราห์บุตรอิสฮาร์ ผู้เป็นบุตรโคฮาท ผู้เป็นบุตรเลวี ดาธานและอะบีรามบุตรของเอลีอับ (โอนบุตรเปเลท) และบรรดาบุตรรูเบน ทุกคนต่างก็บุ่มบ่าม
- กันดารวิถี 16:2 - และพากันมาประท้วงโมเสส พวกเขามาพร้อมกับชาวอิสราเอล 250 คนซึ่งเป็นหัวหน้าของมวลชนที่คัดเลือกมาจากคณะประชุมและเป็นที่รู้จักดี
- กันดารวิถี 16:3 - พวกเขามาประชุมร่วมกันเพื่อประท้วงโมเสสและอาโรน โดยกล่าวกับท่านทั้งสองว่า “พวกท่านกระทำเกินเหตุแล้ว เพราะมวลชนทั้งปวงบริสุทธิ์ ไม่เว้นแม้คนเดียว และพระผู้เป็นเจ้าอยู่ท่ามกลางพวกเขา แล้วทำไมท่านยกตัวเองเหนือคณะประชุมของพระผู้เป็นเจ้า”
- กันดารวิถี 16:4 - ครั้นโมเสสได้ยินก็ซบหน้าลงกับพื้น
- กันดารวิถี 16:5 - และท่านพูดกับโคราห์และพวกของเขาว่า “ตอนรุ่งเช้าพระผู้เป็นเจ้าจะแสดงว่าใครเป็นของพระองค์และใครบริสุทธิ์ และพระองค์จะให้คนนั้นเข้ามาใกล้พระองค์ พระองค์จะให้คนที่พระองค์เลือกเป็นผู้มาใกล้พระองค์
- กันดารวิถี 16:6 - โคราห์และพรรคพวกจงกระทำอย่างนี้คือ จงเอากระถางไฟของตนมา
- กันดารวิถี 16:7 - ตักถ่านที่ลุกแดงใส่กระถางและวางเครื่องหอมไว้บนถ่าน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าในวันพรุ่งนี้ และชายใดที่พระผู้เป็นเจ้าเลือก ก็จะเป็นผู้บริสุทธิ์ บรรดาบุตรของเลวีเอ๋ย พวกท่านกระทำเกินเหตุไปเสียแล้ว”
- กันดารวิถี 16:8 - โมเสสพูดกับโคราห์ว่า “ขอให้บรรดาบุตรของเลวีฟังเถิด
- กันดารวิถี 16:9 - เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับพวกท่านนักหรือ ที่พระเจ้าของอิสราเอลได้แยกท่านออกมาจากมวลชนชาวอิสราเอล เพื่อนำท่านมาอยู่ใกล้พระองค์และปฏิบัติงานในที่พำนักของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อที่จะยืนอยู่ต่อหน้ามวลชน เพื่อช่วยเหลือรับใช้พวกเขา
- กันดารวิถี 16:10 - พระองค์ได้นำท่านและพี่น้องชาวเลวีของท่านทุกคนมาใกล้พระองค์ แล้วท่านจะแสวงหาตำแหน่งปุโรหิตด้วยอย่างนั้นหรือ
- กันดารวิถี 16:11 - ฉะนั้นที่ท่านและพวกของท่านมาชุมนุมกันก็เพื่อมาต่อว่าพระผู้เป็นเจ้า แล้วอาโรนเป็นอะไรเล่าที่ท่านจะบ่นพึมพำต่อว่าเขา”
- กันดารวิถี 16:12 - ครั้นแล้วโมเสสให้ไปเรียกดาธานและอะบีรามบุตรเอลีอับมา แต่เขาทั้งสองกลับพูดว่า “พวกเราจะไม่ขึ้นไป
- กันดารวิถี 16:13 - ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยหรืออย่างไรที่ท่านพาพวกเราออกมาจากดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง เพื่อจะฆ่าเราในถิ่นทุรกันดาร ท่านมาทำตนเป็นเจ้านายเหนือพวกเรา
- กันดารวิถี 16:14 - ยิ่งกว่านั้นท่านก็ยังไม่ได้พาเราเข้าไปในดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง และแม้แต่จะให้เราได้รับนาหรือสวนองุ่นเป็นมรดก ท่านจะยังนำชายเหล่านี้ให้หลงผิดต่อไปอีกหรือ พวกเราจะไม่ขึ้นไป”
- กันดารวิถี 16:15 - โมเสสโกรธมาก ท่านพูดกับพระผู้เป็นเจ้าว่า “ขอพระองค์อย่ารับของถวายจากพวกเขาเลย ข้าพเจ้าไม่ได้เอาลาสักตัวจากพวกเขา และไม่ทำอันตรายแก่พวกเขาสักคน”
- กันดารวิถี 16:16 - โมเสสพูดกับโคราห์ว่า “ท่านและพรรคพวกของท่านจงแสดงตน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าในวันพรุ่งนี้ คือทั้งตัวท่านเอง พรรคพวก และอาโรนด้วย
- กันดารวิถี 16:17 - แต่ละคนควรนำกระถางไฟของตนไปพร้อมกับเครื่องหอม ทุกคนจงนำกระถางไฟของตนไป ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า รวมจำนวน 250 กระถาง ตัวท่านเองและอาโรนด้วย แต่ละคนถือกระถางไฟของตนเอง”
- กันดารวิถี 16:18 - ดังนั้นทุกคนจึงเอากระถางไฟของตนไป ตักถ่านที่ลุกแดงใส่กระถาง วางเครื่องหอมไว้บนถ่าน แล้วยืนที่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมายพร้อมกับโมเสสและอาโรน
- กันดารวิถี 16:19 - เมื่อโคราห์เรียกมวลชนมาประชุมกันเพื่อประท้วงท่านทั้งสองที่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมาย พระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าก็ปรากฏขึ้นแก่มวลชนทั้งปวง
- กันดารวิถี 16:20 - และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสและอาโรนว่า
- กันดารวิถี 16:21 - “จงแยกตัวออกมาจากมวลชนเหล่านี้ เราจะได้เผาพวกเขาเสียภายในพริบตา”
- กันดารวิถี 16:22 - ทั้งสองจึงซบหน้าลงกับพื้นและพูดว่า “โอ พระเจ้า พระเจ้าของวิญญาณมนุษย์ทั้งปวง ใยพระองค์จะกริ้วโกรธกับมวลชนทั้งปวงในเมื่อมีเพียงคนคนเดียวกระทำบาป”
- กันดารวิถี 16:23 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 16:24 - “จงบอกมวลชนว่าให้ออกไปจากบริเวณรอบๆ ที่พักของโคราห์ ดาธาน และอะบีราม”
- กันดารวิถี 16:25 - โมเสสจึงลุกขึ้นไปหาดาธานและอะบีราม บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของอิสราเอลก็ตามท่านไป
- กันดารวิถี 16:26 - และท่านพูดกับผู้คนทั้งปวงว่า “เราขอให้พวกท่านออกจากกระโจมของคนชั่วร้ายเหล่านี้ และอย่าแตะต้องสิ่งของที่เป็นของเขา มิฉะนั้นท่านจะถูกกำจัดไปพร้อมกับบาปทุกชนิดของพวกเขา”
- กันดารวิถี 16:27 - ดังนั้นเขาทั้งหลายจึงออกไปจากบริเวณรอบๆ ที่พักของโคราห์ ดาธาน และอะบีราม แล้วดาธานกับอะบีรามก็ออกมายืนอยู่ที่ทางเข้ากระโจมกับบรรดาภรรยา บุตร และเด็กเล็กของเขา
- กันดารวิถี 16:28 - แล้วโมเสสพูดว่า “ด้วยเหตุการณ์เช่นนี้พวกท่านจะรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ส่งเรามาเพื่อปฏิบัติงาน และไม่ใช่ความคิดของเราเอง
- กันดารวิถี 16:29 - ถ้าหากคนพวกนี้ตายเหมือนๆ กับที่คนทั่วๆ ไปตายและประสบกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเหมือนคนทั่วไป ก็นับว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ส่งเรามา
- กันดารวิถี 16:30 - แต่ถ้าพระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ทำให้เรื่องที่เกิดขึ้นต่างไปจากนี้ แผ่นดินจะเปิดปากและกลืนพวกเขาเข้าไปพร้อมกับทุกสิ่งที่เป็นของเขา พวกเขาจะลงไปที่แดนคนตายทั้งเป็น และพวกท่านจะได้รู้ว่าคนเหล่านี้ได้ดูหมิ่นพระผู้เป็นเจ้า”
- กันดารวิถี 16:31 - เมื่อท่านพูดจบ พื้นดินเบื้องล่างก็แยกออก
- กันดารวิถี 16:32 - และแผ่นดินได้ดูดกลืนเขาเหล่านั้นลงไปพร้อมกับครอบครัวและทุกคนที่เป็นของโคราห์อีกทั้งข้าวของทุกอย่างที่เป็นของเขาด้วย
- กันดารวิถี 16:33 - ฉะนั้นเขาเหล่านั้นและทุกสิ่งที่เป็นของเขาถูกดูดลงไปในแดนคนตายทั้งเป็น แล้วแผ่นดินก็พลิกกลบพวกเขา เขาเหล่านั้นได้ตายไปในท่ามกลางมวลชน
- กันดารวิถี 16:34 - แล้วชาวอิสราเอลทุกคนที่อยู่แถวนั้นได้ยินเสียงร้องของเขาเหล่านั้นก็พากันหนี พูดกันว่า “กลัวว่าแผ่นดินจะดูดกลืนพวกเราลงไปด้วย”
- กันดารวิถี 16:35 - เปลวไฟพุ่งออกมาจากพระผู้เป็นเจ้าและไหม้ตัวชาย 250 คนที่กำลังมอบเครื่องหอมอยู่
- กันดารวิถี 14:9 - แต่อย่าขัดขืนพระผู้เป็นเจ้า และอย่ากลัวประชาชนของดินแดนนั้น เพราะเขาเป็นเสมือนอาหารของเราและไม่มีที่คุ้มกันอีกแล้ว แต่พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับพวกเรา อย่ากลัวพวกเขาเลย”
- กันดารวิถี 14:10 - แต่มวลชนทั้งปวงบอกให้ใช้หินขว้างพวกเขา ครั้นแล้วพระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าก็ปรากฏที่กระโจมที่นัดหมายให้ชาวอิสราเอลเห็น
- กันดารวิถี 14:11 - และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “ประชาชนพวกนี้จะดูหมิ่นเราอีกนานแค่ไหน และเขาจะไม่เชื่อในตัวเรานานแค่ไหนทั้งๆ ที่เราได้แสดงปรากฏการณ์อัศจรรย์ทั้งหลายท่ามกลางพวกเขา
- เอเสเคียล 20:21 - แต่บรรดาบุตรหลานขัดขืนเรา พวกเขาไม่ได้ดำเนินชีวิตตามกฎเกณฑ์ของเรา และไม่ระมัดระวังเชื่อฟังคำบัญชาของเรา ถ้าผู้ใดกระทำตาม เขาจะมีชีวิตอยู่ แต่พวกเขากลับดูหมิ่นวันสะบาโตของเรา เราจึงกล่าวว่า เราจะกระหน่ำการลงโทษของเราลงบนพวกเขา และเราจะให้ความกริ้วของเราลงที่พวกเขาในถิ่นทุรกันดาร
- เยเรมีย์ 21:5 - เราเองที่จะต่อสู้กับพวกเจ้าด้วยอานุภาพและพลานุภาพ ด้วยความกริ้วและความฉุนเฉียว และด้วยการลงโทษอย่างหนัก
- อพยพ 15:24 - ผู้คนจึงพากันบ่นไม่พอใจต่อว่าโมเสสว่า “พวกเราจะดื่มอะไรได้”
- สดุดี 95:9 - เวลาบรรพบุรุษของเจ้าได้ลองดีกับเราโดยการทดสอบเรา แม้ว่าเขาได้เห็นสิ่งที่เรากระทำแล้วก็ตาม
- สดุดี 95:10 - เราขยะแขยงชนยุคนั้นอยู่ 40 ปี เราจึงกล่าวว่า ‘จิตใจของเขาเหล่านั้นหลงผิดเสมอ และเขาไม่รู้วิถีทางของเรา’
- สดุดี 95:11 - เราจึงประกาศให้คำปฏิญาณด้วยความกริ้วว่า ‘พวกเขาจะไม่มีวันเข้าสู่ที่พำนักของเรา’”
- เอเสเคียล 20:8 - แต่พวกเขาขัดขืน และไม่ยอมเชื่อฟังเรา ไม่มีใครในหมู่พวกเขาทิ้งสิ่งอันน่ารังเกียจที่พวกเขาเชยชม และไม่ละทิ้งรูปเคารพของอียิปต์’ ดังนั้น เรากล่าวว่า เราจะกระหน่ำการลงโทษของเราลงบนพวกเขา และเราจะให้ความกริ้วของเราลงที่พวกเขาในแผ่นดินอียิปต์
- เนหะมีย์ 9:16 - แต่พวกเขาและบรรพบุรุษของเราต่างยโสและดื้อด้าน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์
- เนหะมีย์ 9:17 - พวกเขาไม่ยอมฟัง และไม่ระลึกถึงสิ่งอัศจรรย์ที่พระองค์กระทำในหมู่พวกเขา แต่หัวดื้อและแต่งตั้งหัวหน้าเพื่อให้นำพวกเขากลับไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระองค์เป็นพระเจ้าพร้อมจะยกโทษ พระองค์มีพระคุณและความสงสาร ไม่โกรธง่าย เปี่ยมด้วยความรักอันมั่นคง และไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา
- สดุดี 78:56 - แม้กระนั้น พวกเขาก็ยังลองดี และดื้อดึงต่อพระเจ้าผู้สูงสุด และไม่รักษาคำสั่งของพระองค์
- สดุดี 78:40 - บ่อยครั้งเพียงไรที่พวกเขาดื้อดึงต่อพระองค์ในถิ่นทุรกันดาร และทำให้พระองค์เศร้าใจในที่ร้างอันแร้นแค้น
- กิจการของอัครทูต 7:51 - พวกคนหัวรั้นเอ๋ย ท่านใจแข็งต่อพระเจ้า ทั้งยังทำหูทวนลม พวกท่านเหมือนกับบรรพบุรุษของท่านที่ไม่เชื่อฟังพระวิญญาณบริสุทธิ์เลย
- เอเฟซัส 4:30 - อย่าทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเศร้าใจ ท่านได้รับตราประทับแล้วโดยพระวิญญาณเพื่อวันแห่งการไถ่