逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - ยูดาห์ เราพูดกับเจ้าตอนที่เจ้ารู้สึกมั่นคงและปลอดภัย เจ้าพูดว่า ‘ฉันจะไม่ฟังหรอก’ นิสัยเจ้าเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะว่าเจ้าไม่เคยเชื่อฟังเราเลย
- 新标点和合本 - 你兴盛的时候,我对你说话; 你却说:‘我不听。’ 你自幼年以来总是这样, 不听从我的话。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 你兴盛的时候,我对你说话; 你却说:“我不听。” 你从年轻时就是这样, 不肯听我的话。
- 和合本2010(神版-简体) - 你兴盛的时候,我对你说话; 你却说:“我不听。” 你从年轻时就是这样, 不肯听我的话。
- 当代译本 - 在你们兴盛的时候, 我曾警告过你们, 你们却不听。 你们从小就叛逆, 不听我的话。
- 圣经新译本 - 你安定的时候,我曾警告过你, 你却说:‘我不听!’ 从你幼年以来,你就是这样, 不听从我的话。
- 现代标点和合本 - 你兴盛的时候,我对你说话, 你却说:“我不听!” 你自幼年以来总是这样, 不听从我的话。
- 和合本(拼音版) - 你兴盛的时候,我对你说话, 你却说:‘我不听。’ 你自幼年以来总是这样, 不听从我的话。
- New International Version - I warned you when you felt secure, but you said, ‘I will not listen!’ This has been your way from your youth; you have not obeyed me.
- New International Reader's Version - When you felt secure, I warned you. But you said, ‘I won’t listen!’ You have acted like that ever since you were young. You have not obeyed me.
- English Standard Version - I spoke to you in your prosperity, but you said, ‘I will not listen.’ This has been your way from your youth, that you have not obeyed my voice.
- New Living Translation - I warned you when you were prosperous, but you replied, ‘Don’t bother me.’ You have been that way since childhood— you simply will not obey me!
- Christian Standard Bible - I spoke to you when you were secure. You said, “I will not listen.” This has been your way since youth; indeed, you have never listened to me.
- New American Standard Bible - I spoke to you in your prosperity; But you said, ‘I will not listen!’ This has been your way from your youth, That you have not obeyed My voice.
- New King James Version - I spoke to you in your prosperity, But you said, ‘I will not hear.’ This has been your manner from your youth, That you did not obey My voice.
- Amplified Bible - I spoke to you in your [times of] prosperity, But you said, ‘I will not listen!’ This has been your attitude and practice from your youth; You have not obeyed My voice.
- American Standard Version - I spake unto thee in thy prosperity; but thou saidst, I will not hear. This hath been thy manner from thy youth, that thou obeyedst not my voice.
- King James Version - I spake unto thee in thy prosperity; but thou saidst, I will not hear. This hath been thy manner from thy youth, that thou obeyedst not my voice.
- New English Translation - While you were feeling secure I gave you warning. But you said, “I refuse to listen to you.” That is the way you have acted from your earliest history onward. Indeed, you have never paid attention to me.
- World English Bible - I spoke to you in your prosperity; but you said, ‘I will not listen.’ This has been your way from your youth, that you didn’t obey my voice.
- 新標點和合本 - 你興盛的時候,我對你說話; 你卻說:我不聽。 你自幼年以來總是這樣, 不聽從我的話。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 你興盛的時候,我對你說話; 你卻說:「我不聽。」 你從年輕時就是這樣, 不肯聽我的話。
- 和合本2010(神版-繁體) - 你興盛的時候,我對你說話; 你卻說:「我不聽。」 你從年輕時就是這樣, 不肯聽我的話。
- 當代譯本 - 在你們興盛的時候, 我曾警告過你們, 你們卻不聽。 你們從小就叛逆, 不聽我的話。
- 聖經新譯本 - 你安定的時候,我曾警告過你, 你卻說:‘我不聽!’ 從你幼年以來,你就是這樣, 不聽從我的話。
- 呂振中譯本 - 你優游興盛時、我對你說過話, 你卻說:「我不聽。」 從你幼年以來你的行徑總是這樣: 不聽從我的聲音。
- 現代標點和合本 - 你興盛的時候,我對你說話, 你卻說:「我不聽!」 你自幼年以來總是這樣, 不聽從我的話。
- 文理和合譯本 - 爾興盛時、我與爾言、惟爾曰、我不聽、爾自幼時、所為若是、不從我言、
- 文理委辦譯本 - 平康之時、我曾語爾、惟爾不聽、自肇造邦國、以迄於今、爾不從我言、所為若是。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 爾平康之時、我曾諭爾、乃爾云、我不願聽、自爾幼年以來、爾不聽我言、此爾故習、
- Nueva Versión Internacional - Yo te hablé cuando te iba bien, pero tú dijiste: “¡No escucharé!” Así te has comportado desde tu juventud: ¡nunca me has obedecido!
- 현대인의 성경 - 너희가 안전할 때에 내가 너희에게 경고하였으나 너희는 ‘내가 듣지 않겠습니다’ 하였다. 너희는 어렸을 때부터 나에게 순종하지 않는 것이 습관화되어 있었다.
- Новый Русский Перевод - Я предупреждал тебя, когда ты благоденствовал, но ты сказал: «Я не стану слушать!» Таков твой путь с самой юности, ты Меня не слушал.
- Восточный перевод - Я предупреждал тебя, когда ты благоденствовал, но ты сказал: «Я не стану слушать!» Так ты поступал с самой юности; ты Меня не слушал.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Я предупреждал тебя, когда ты благоденствовал, но ты сказал: «Я не стану слушать!» Так ты поступал с самой юности; ты Меня не слушал.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Я предупреждал тебя, когда ты благоденствовал, но ты сказал: «Я не стану слушать!» Так ты поступал с самой юности; ты Меня не слушал.
- La Bible du Semeur 2015 - Je t’avais avertie ╵au temps de ta prospérité mais tu as déclaré : ╵« Je n’écouterai pas. » C’est ainsi que tu t’es conduite ╵dès ta prime jeunesse : et tu ne m’as pas écouté !
- リビングバイブル - おまえに勢いがあった時、わたしは警告したが、 おまえは『干渉しないでください』と言った。 おまえは子どものころから、 わたしのことばを聞いたためしがない。
- Nova Versão Internacional - Eu a adverti quando você se sentia segura, mas você não quis ouvir-me. Esse foi sempre o seu procedimento, pois desde a sua juventude você não me obedece.
- Hoffnung für alle - Ich habe dich gewarnt, als du noch in Sicherheit lebtest, aber du hast dich geweigert, auf mich zu hören. Von Anfang an war es deine Art, meine Worte zu missachten.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Ta đã cảnh cáo ngươi trong thời bình an, nhưng ngươi nói: ‘Đừng làm phiền tôi.’ Từ tuổi thanh xuân, tính ngươi vẫn thế— chẳng bao giờ chịu vâng lời Ta!
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เราได้เตือนเจ้าตั้งแต่ครั้งที่เจ้ายังรู้สึกมั่นคงปลอดภัย แต่เจ้าตอบว่า ‘ข้าพระองค์จะไม่ฟัง!’ เจ้าเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก คือไม่ยอมเชื่อฟังเรา
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เราพูดกับเจ้าเมื่อเวลาที่เจ้าอยู่อย่างสุขสบาย แต่เจ้ากลับพูดว่า ‘ข้าพเจ้าไม่ฟัง’ นั่นก็เป็นวิถีทางของเจ้าตั้งแต่ครั้งยังเยาว์ ที่เจ้าไม่ได้เชื่อฟังเรา
- Thai KJV - เราได้พูดกับเจ้าเมื่อเจ้าอยู่เย็นเป็นสุข แต่เจ้ากล่าวว่า ‘เราจะไม่ฟัง’ นี่เป็นวิธีการของเจ้าตั้งแต่ยังหนุ่มๆ คือเจ้าไม่เชื่อฟังเสียงของเรา
交叉引用
- เนหะมียาห์ 9:16 - แต่พวกบรรพบุรุษของพวกเราทำตัวเย่อหยิ่งจองหองและหัวแข็งดื้อรั้น พวกเขาไม่ยอมฟังคำสั่งต่างๆของพระองค์
- เนหะมียาห์ 9:17 - พวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังและพวกเขาไม่ได้จดจำ ถึงการอัศจรรย์ต่างๆของพระองค์ที่พระองค์ได้ทำไปท่ามกลางพวกเขา แต่พวกเขากลับหัวแข็งดื้อรั้นและได้แต่งตั้งหัวหน้าขึ้นมา เพื่อนำพวกเขากลับไปเป็นทาสในอียิปต์อีก แต่พระองค์เป็นพระเจ้าที่ให้อภัย มีใจเมตตาและกรุณา มีความอดทนและมีความรักอันมั่นคง ดังนั้นพระองค์จึงไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:18 - ถึงแม้พวกบรรพบุรุษของพวกเราจะหล่อโลหะรูปลูกวัวขึ้นมาสำหรับพวกเขาเอง และบอกว่า ‘นี่คือพระเจ้าของเจ้าที่นำเจ้าออกมาจากอียิปต์’ ถึงแม้การกระทำนี้จะดูหมิ่นพระองค์อย่างยิ่ง
- เนหะมียาห์ 9:19 - แต่พระองค์เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา พระองค์ก็เลยไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขาไว้ในทะเลทราย เสาเมฆไม่ได้หยุดนำทางพวกเขาในการเดินทางตอนกลางวันและเสาไฟในตอนกลางคืน ก็ไม่ได้หยุดส่องแสงให้กับพวกเขาในทางที่พวกเขาควรจะไป
- เนหะมียาห์ 9:20 - พระองค์ได้ให้พระวิญญาณอันดีของพระองค์เพื่อสอนพวกเขา พระองค์ไม่ได้เอาอาหารทิพย์ ไปจากปากของพวกเขา และพระองค์ได้ให้น้ำเพื่อดับกระหายกับพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:21 - พระองค์ดูแลพวกเขาเป็นเวลาสี่สิบปีในทะเลทราย โดยที่พวกเขาไม่ขาดอะไรเลย เสื้อผ้าของพวกเขาก็ไม่ฉีกขาด และเท้าของเขาก็ไม่บวม
- เนหะมียาห์ 9:22 - พระองค์มอบอาณาจักรต่างๆและชนชาติต่างๆให้กับพวกเขา พระองค์ได้ให้แผ่นดินเหล่านี้กลายเป็นแนวชายแดนให้กับพวกเขา พวกเขาได้ยึดครองแผ่นดินของกษัตริย์สิโหนแห่งเมืองเฮชโบน และแผ่นดินของกษัตริย์โอกแห่งแคว้นบาชาน
- เนหะมียาห์ 9:23 - พระองค์ทำให้พวกเขามีลูกหลานมากมายมหาศาลเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า พระองค์นำพวกเขามายังแผ่นดินที่พระองค์บอกบรรพบุรุษของพวกเขาให้เข้าไปยึดครอง
- เนหะมียาห์ 9:24 - ดังนั้น พวกลูกหลานของพวกเขาจึงเข้าไปยึดครองแผ่นดินนั้น และพระองค์ได้ปราบพวกชาวคานาอันที่อาศัยอยู่เดิมให้พ่ายแพ้ไป และให้พวกชาวคานาอันตกอยู่ในกำมือของบรรพบุรุษของพวกเรา รวมถึงพวกกษัตริย์ และประชาชนของแผ่นดินนั้น พวกบรรพบุรุษของพวกเราสามารถจัดการกับพวกเขาได้ตามใจชอบ
- เนหะมียาห์ 9:25 - พวกเขายึดเมืองที่มีป้อมปราการและแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ พวกเขายึดบ้านต่างๆที่เต็มไปด้วยของดีๆที่มีทั้งบ่อน้ำที่ขุดไว้แล้ว ไร่องุ่น ต้นมะกอกและต้นผลไม้มากมาย พวกเขากินกันจนอิ่มแปล้และอ้วนท้วน และพวกเขาต่างก็มีความสุขในความดีงามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
- เนหะมียาห์ 9:26 - แต่พวกเขากลับไม่เชื่อฟัง และกบฏต่อพระองค์ และโยนบัญญัติของพระองค์ทิ้งไป นอกจากนั้นพวกเขายังฆ่าพวกผู้พูดแทนพระองค์ที่ได้ตักเตือนพวกเขาให้กลับมาหาพระองค์ พวกเขาได้ดูหมิ่นพระองค์อย่างใหญ่หลวง
- เนหะมียาห์ 9:27 - ดังนั้นพระองค์จึงมอบพวกเขาให้ตกไปอยู่ในกำมือพวกศัตรู และศัตรูพวกนั้น ได้ข่มเหงพวกเขาอย่างทารุณโหดร้าย ในยามที่พวกเขาทุกข์ยาก พวกเขาต่างร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ และพระองค์ได้ยินเสียงพวกเขาจากสวรรค์ พระองค์ก็ส่งผู้กู้ชาติมาช่วยพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกศัตรู เพราะพระองค์เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา
- เนหะมียาห์ 9:28 - แต่ทันทีที่พวกเขาได้รับการปลดปล่อยจากพวกศัตรู พวกเขาก็ได้ทำในสิ่งที่พระองค์ถือว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายอีก ดังนั้นพระองค์จึงปล่อยให้พวกเขาตกไปอยู่ในกำมือของพวกศัตรูอีก แล้วพวกศัตรูเหล่านั้นก็ได้ปกครองเหนือพวกเขา แต่แล้วเมื่อพวกเขาร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ พระองค์ก็ได้ยินพวกเขาจากสวรรค์ แล้วช่วยกู้พวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะพระองค์เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา
- เนหะมียาห์ 9:29 - พระองค์เตือนพวกเขาเพื่อให้พวกเขากลับมาหาคำสอนของพระองค์ แต่พวกเขากลับเย่อหยิ่งจองหองและไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งต่างๆของพระองค์ พวกเขาทำบาปต่อกฎของพระองค์ซึ่งเป็นกฎที่นำชีวิตมาให้กับคนที่รักษากฎเหล่านั้น พวกเขายักไหล่อย่างดื้อรั้นและหัวแข็งดื้อดึง และไม่ยอมฟัง
- เนหะมียาห์ 9:30 - พระองค์อดทนกับพวกเขาอยู่หลายปี และพระองค์ได้เตือนพวกเขาด้วยพระวิญญาณผ่านทางพวกผู้พูดแทนพระองค์ แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมฟัง จนในที่สุดพระองค์ได้มอบพวกเขาให้กับพวกชนชาติต่างๆ
- เนหะมียาห์ 9:31 - แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม พระองค์ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา พระองค์ไม่ได้ทำลายพวกเขาอย่างสิ้นซาก และไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าผู้ทรงพระคุณและความเมตตากรุณา
- เนหะมียาห์ 9:32 - ข้าแต่พระเจ้าของพวกเรา พระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ผู้มีฤทธิ์อำนาจและน่าเกรงขาม พระองค์รักษาคำมั่นสัญญาด้วยความรักอันสัตย์ซื่อ ขอพระองค์อย่าได้ถือว่าความทุกข์ยากทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับพวกเราตั้งแต่สมัยของกษัตริย์อัสซีเรียจนถึงตอนนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยเลย คือ ความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นกับพวกกษัตริย์ของเรา กับพวกผู้นำเรา กับเหล่านักบวชของเรา กับคนเหล่านั้นที่พูดแทนพระองค์ให้กับเรา กับพวกบรรพบุรุษของเรา และกับประชาชนทุกคนของพระองค์
- เนหะมียาห์ 9:33 - ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรานั้น พระองค์ทำอย่างยุติธรรมแล้ว พระองค์ทำในสิ่งที่ซื่อสัตย์ ในขณะที่พวกเราทำแต่ความผิด
- เนหะมียาห์ 9:34 - พวกกษัตริย์ พวกผู้นำ พวกนักบวช และพวกบรรพบุรุษของเรา ไม่ได้รักษากฎบัญญัติของพระองค์ พวกเขาไม่ใส่ใจกับคำสั่งต่างๆและคำตักเตือนที่พระองค์ให้กับพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:35 - แม้แต่ตอนที่พวกเขาอยู่ในอาณาจักรของพวกเขาเอง และมีความสุขกับความเจริญรุ่งเรืองอันยิ่งใหญ่ และแผ่นดินอันกว้างใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ที่พระองค์มอบให้กับพวกเขา พวกเขาก็ไม่ได้รับใช้พระองค์และไม่ได้หันไปจากการกระทำอันชั่วร้ายของพวกเขา
- เนหะมียาห์ 9:36 - ดูสิ วันนี้พวกเราได้ตกเป็นทาส พระองค์ได้ยกแผ่นดินนี้ให้กับบรรพบุรุษของพวกเรา เพื่อพวกเขาจะได้กินผลไม้และสิ่งดีๆจากแผ่นดินนี้ แต่พวกเรากลับตกเป็นทาสอยู่ในแผ่นดินนี้
- เนหะมียาห์ 9:37 - แล้วผลผลิตมากมายของแผ่นดินนี้ ตอนนี้ได้ตกไปเป็นของพวกกษัตริย์ที่พระองค์ได้ตั้งไว้เหนือเราเนื่องจากบาปที่เราทำ พวกเขาใช้อำนาจเหนือเราและฝูงสัตว์ของเราตามความพอใจของพวกเขา ในขณะที่เราต้องทนทุกข์อย่างใหญ่หลวง
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:15 - แต่เยชุรุน อ้วนขึ้นและเริ่มเตะเจ้าของ เจ้าเริ่มอ้วน หนาและตะกละ เยชุรูนทอดทิ้งพระเจ้าที่สร้างเขาขึ้นมา และเขาไม่ให้เกียรติพระศิลาที่ช่วยชีวิตเขา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:16 - พวกเขาทำให้พระองค์หึงหวงด้วยพระแปลกหน้า พวกเขาทำให้พระองค์โกรธด้วยรูปเคารพที่น่ารังเกียจ
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:17 - พวกเขาบูชาวิญญาณที่ไม่ใช่พระเจ้า พวกเขาบูชาพระที่พวกเขาไม่รู้จักมาก่อน เป็นพระใหม่ มาถึงไม่นาน บรรพบุรุษของเจ้าไม่เคยเคารพยำเกรงพระเหล่านั้นมาก่อน
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:18 - เจ้าลืมพระศิลาที่ให้กำเนิดเจ้า เจ้าลืมพระเจ้าที่คลอดเจ้ามาด้วยความเจ็บปวด
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:19 - พระยาห์เวห์เห็นสิ่งนี้และทอดทิ้งพวกเขา เพราะลูกชายและลูกสาวของพระองค์ทำให้พระองค์โกรธ
- เฉลยธรรมบัญญัติ 32:20 - และพระองค์พูดว่า ‘เราจะหลบหน้าจากพวกเขา เราเห็นจุดจบของพวกเขา เพราะพวกเขาคือคนอกตัญญู เป็นลูกหลานที่ไม่ซื่อสัตย์
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:7 - จำไว้ให้ดี อย่าลืมว่าท่านเคยทำให้พระยาห์เวห์โกรธ ตอนที่อยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง พวกท่านไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์ตั้งแต่วันที่พวกท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์จนกระทั่งมาถึงที่นี่
- 2 พงศาวดาร 36:16 - แต่พวกเขากลับล้อเลียนพวกผู้ส่งข่าวพระเจ้าเหล่านั้น พวกเขาดูถูกคำพูดของพระองค์ เย้ยหยันพวกผู้พูดแทนพระเจ้า จนในที่สุดพระยาห์เวห์ก็ทนไม่ไหว พระองค์โกรธประชาชนของพระองค์จนไม่มีอะไรสามารถหยุดความโกรธของพระองค์ได้
- 2 พงศาวดาร 36:17 - พระองค์ได้ยกกษัตริย์ของชาวบาบิโลนขึ้นมาต่อต้านเขา กษัตริย์บาบิโลนได้ฆ่าพวกคนหนุ่มของพวกเขาตายด้วยดาบในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และไม่ไว้ชีวิตใครเลยแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มคนสาว คนชราหรือแม้แต่คนแก่ พระเจ้าได้มอบพวกเขาทั้งหมดไว้ในเงื้อมมือของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์
- เอเสเคียล 20:21 - แต่ลูกๆพวกนั้นได้กบฏต่อเราอีก พวกเขาไม่ยอมทำตามข้อบังคับทั้งหลายของเรา พวกเขาไม่ได้รักษากฎของเราอย่างเคร่งครัด ทั้งๆที่การเชื่อฟังกฎเหล่านั้นทำให้มีชีวิต พวกเขายังทำให้วันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ด้วย ดังนั้น เราจึงบอกว่า ‘เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขา และแสดงความโกรธใส่พวกเขาในทะเลทราย’
- เอเสเคียล 20:13 - แต่ประชาชนชาวอิสราเอลได้กบฏต่อเราในทะเลทราย พวกเขาไม่ยอมทำตามข้อบังคับทั้งหลายของเรา พวกเขาไม่ยอมรับกฎต่างๆของเรา ทั้งๆที่การเชื่อฟังกฎเหล่านั้นทำให้มีชีวิต พวกเขาทำให้พวกวันหยุดพักผ่อนที่เราให้เขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป เราจึงบอกว่า ‘เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขา และทำลายพวกเขาในทะเลทราย’
- เยเรมียาห์ 2:31 - พวกเจ้าที่เป็นคนในรุ่นนี้ ให้สนใจสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดกับเจ้า ‘เราเป็นเหมือนทะเลทรายให้กับอิสราเอลหรือยังไง เราเป็นเหมือนแผ่นดินที่มืดมิดให้กับพวกเขาหรือยังไง’ ทำไมคนของเราถึงได้พูดว่า ‘พวกเราเป็นอิสระไปไหนก็ได้ พวกเราจะไม่มาหาพระองค์อีกแล้ว’
- เยเรมียาห์ 36:21 - แล้วกษัตริย์ก็ส่งเยฮูดี ไปเอาหนังสือม้วนนั้น แล้วเขาก็ไปเอามันมาจากห้องของเอลีชามาครูสอนศาสนานั้น แล้วเยฮูดีก็อ่านมันให้กับกษัตริย์ และพวกเจ้านายทุกคนที่ยืนอยู่ต่อหน้ากษัตริย์ฟัง
- เยเรมียาห์ 36:22 - เวลานั้นตรงกับเดือนเก้าของปี กษัตริย์นั่งอยู่ในวังฤดูหนาวของพระองค์ กระถางไฟที่อยู่ตรงหน้าพระองค์จุดอยู่
- เยเรมียาห์ 36:23 - เมื่อเยฮูดีอ่านหนังสือม้วนไปได้สามสี่แถบ พระองค์ก็เอามีดกรีดหนังสือเป็นชิ้นๆแล้วโยนลงไปในกระถางไฟ พระองค์ตัดหนังสือไปเรื่อยๆจนพระองค์ได้เผาหนังสือม้วนทั้งเล่มในกระถางไฟนั้น
- เยเรมียาห์ 36:24 - ทั้งกษัตริย์และพวกผู้รับใช้ของพระองค์ที่ได้ฟังถ้อยคำทั้งหมดนี้ของพระยาห์เวห์ ไม่ได้แสดงความเกรงกลัวหรือสำนึกผิดด้วยการฉีกเสื้อผ้าของตัวเองเลย
- เยเรมียาห์ 36:25 - ถึงแม้เอลนาธัน เดไลยาห์และเกมาริยาห์จะขอร้องไม่ให้พระองค์เผาหนังสือม้วน แต่พระองค์ก็ไม่ฟังพวกเขา
- เยเรมียาห์ 36:26 - กษัตริย์สั่งเยราเมเอล ลูกชายของพระองค์ และเสไรอาห์ลูกชายของอัสรีเอล และเชลามิยาห์ลูกชายของอับเดเอลให้ไปจับตัวบารุคที่เป็นเสมียน และเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า แต่พระยาห์เวห์ซ่อนพวกเขาไว้
- สดุดี 106:6 - พวกเราทำผิดบาปเหมือนกับบรรพบุรุษของเรา พวกเราทำผิดและทำตัวชั่วร้าย
- สดุดี 106:7 - พวกบรรพบุรุษของเราในอียิปต์ ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยจากการอัศจรรย์ของพระองค์ พวกเขาไม่ได้คิดถึงสิ่งทั้งหลายที่พระองค์ได้ทำไปด้วยความรักที่มั่นคงของพระองค์ พวกเขากบฏต่อพระองค์ที่ทะเลแดง
- สดุดี 106:8 - แต่พระองค์ก็ยังช่วยเหลือพวกเขาเพื่อเห็นแก่หน้าของพระองค์เอง และเพื่อแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
- สดุดี 106:9 - เมื่อพระองค์ตะโกนใส่ทะเลแดง ทะเลแดงก็เหือดแห้งไป และพระองค์ก็นำพวกเขาเดินผ่านทะเลลึกเหมือนเดินผ่านทะเลทราย
- สดุดี 106:10 - พระองค์ช่วยพวกเขาให้พ้นจากคนที่เกลียดชังพวกเขา พระองค์ไถ่พวกเขาให้เป็นอิสระจากศัตรูของพวกเขา
- สดุดี 106:11 - แล้วพระองค์ก็ทำให้น้ำกลบท่วมศัตรูของพวกเขา ไม่มีใครรอดสักคนเดียว
- สดุดี 106:12 - แล้วพวกเขาก็เชื่อในสิ่งทั้งหลายที่พระองค์สัญญา และร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
- สดุดี 106:13 - แต่ไม่นานนักพวกเขาก็ลืมสิ่งทั้งหลายที่พระองค์ได้ทำให้กับพวกเขา และไม่ยอมคอยฟังว่าพระองค์จะให้พวกเขาทำอะไร
- สดุดี 106:14 - พวกเขาก็ใคร่อยากจะกินเนื้อจนตัวสั่นในทะเลทรายนั้น และท้าทายพระเจ้าในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนั้น
- สดุดี 106:15 - ดังนั้นพระองค์จึงให้สิ่งที่พวกเขาร้องขอ แต่พระองค์ก็แถมโรคร้ายมาให้ด้วย
- สดุดี 106:16 - บางคนในค่ายพักอิจฉาริษยาโมเสส และอาโรนนักบวชผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์
- สดุดี 106:17 - ดังนั้นแผ่นดินได้แยกออกดูดกลืนดาธานลงไป และกลบพรรคพวกของอาบีรัม
- สดุดี 106:18 - มีไฟลุกลามใหญ่โตท่ามกลางพรรคพวกที่เหลือของเขา เปลวไฟได้เผาผลาญคนชั่วเหล่านั้น
- สดุดี 106:19 - แล้วบรรพบุรุษก็สร้างลูกวัวทองคำขึ้นมาที่ภูเขาโฮเรบ และก้มกราบนมัสการรูปที่หล่อจากโลหะนั้น
- สดุดี 106:20 - พวกเขาเอาพระเจ้าผู้เต็มไปด้วยบารมี ไปแลกกับรูปหล่อของวัวตัวผู้ที่กินหญ้า
- สดุดี 106:21 - พวกเขาลืมพระเจ้าผู้ที่ช่วยชีวิตพวกเขาให้รอด และผู้ที่ทำสิ่งยิ่งใหญ่ทั้งหลายในอียิปต์
- สดุดี 106:22 - พระเจ้าทำสิ่งที่น่าทึ่งทั้งหลายในดินแดนของฮาม และทำสิ่งที่น่ายำเกรงหลายอย่างที่ทะเลแดง
- สดุดี 106:23 - พระเจ้าบอกว่าพระองค์จะทำลายอิสราเอล แต่โมเสส ผู้นำที่พระองค์เลือกมาได้มายืนขวางไว้ ทำให้อารมณ์โกรธแค้นของพระองค์สงบลง พระองค์ก็เลยไม่ทำลายล้างอิสราเอล
- สดุดี 106:24 - แล้วพวกเขาก็ปฏิเสธไม่ยอมเข้าไปในดินแดนคานาอันที่น่าอยู่ พวกเขาไม่เชื่อคำสัญญาของพระองค์ที่จะช่วยเขา
- สดุดี 106:25 - พวกเขานั่งบ่นต่อว่าพระเจ้าอยู่ในเต็นท์ของพวกเขา และไม่ยอมฟังเสียงของพระยาห์เวห์
- สดุดี 106:26 - ดังนั้นพระองค์จึงยกมือขึ้นสาบานว่า พระองค์จะทำให้พวกเขาล้มตายไปในทะเลทราย
- สดุดี 106:27 - และพระองค์ทำให้ลูกหลานของพวกเขากระจัดกระจายไปตามชนชาติต่างๆ และไล่พวกเขาให้ไปอยู่ตามดินแดนต่างๆที่ห่างไกล
- สดุดี 106:28 - แล้วพวกเขาก็ไปร่วมนมัสการพระบาอัลที่เมืองเปโอร์ และกินเครื่องเซ่นไหว้คนตาย
- สดุดี 106:29 - การกระทำของพวกเขาทำให้พระยาห์เวห์โกรธ พระองค์จึงทำให้เกิดโรคระบาดขึ้นในหมู่พวกเขา
- สดุดี 106:30 - แล้วฟีเนหัสได้จัดการกับคนที่ทำผิด แล้วโรคระบาดนั้นก็หยุดลง
- สดุดี 106:31 - สิ่งที่ฟีเนหัสทำนี้ ทำให้พระเจ้าพอใจ และเป็นที่จดจำไปตลอดชั่วลูกชั่วหลาน
- สดุดี 106:32 - แต่แล้ว พวกอิสราเอลก็ทำให้พระองค์โกรธอีกที่ตาน้ำเมรีบาห์ และพวกเขาก่อปัญหาให้กับโมเสสด้วย
- สดุดี 106:33 - คนพวกนั้นทำให้โมเสสโกรธ เขาจึงพูดโดยไม่ได้ยั้งคิด
- สดุดี 106:34 - แล้วพวกอิสราเอลก็ไม่ได้ทำลายชนชาติอื่นๆ ตามที่พระยาห์เวห์บอกให้พวกเขาทำ
- สดุดี 106:35 - แต่พวกเขากลับไปคลุกคลีอยู่กับคนพวกนั้น และไปหัดทำตามสิ่งที่คนพวกนั้นทำ
- สดุดี 106:36 - พวกเขาเริ่มไปบูชาพวกเทวรูปทั้งหลายของคนพวกนั้น และสิ่งนี้ได้กลายเป็นกับดักที่ทำให้พวกเขาล้มไป
- สดุดี 106:37 - พวกเขายอมแม้กระทั่งเอาลูกชายลูกสาวของตัวเอง มาบูชายัญพวกปีศาจ
- สดุดี 106:38 - พวกเขาทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์ต้องหลั่งไหล คือเลือดของลูกชายลูกสาวของพวกเขาเอง ที่เอามาบูชายัญต่อพวกเทวรูปของคานาอัน และแผ่นดินของพวกเขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไปเพราะเลือดของคนเหล่านั้น
- สดุดี 106:39 - และพวกเขาเองก็เป็นมลทินเพราะการกระทำของพวกเขา พวกเขาไม่สัตย์ซื่อเหมือนกับหญิงโสเภณี
- สดุดี 106:40 - ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงโกรธคนของพระองค์ และสะอิดสะเอียนพวกเขา
- สดุดี 106:41 - พระองค์จึงมอบคนพวกนั้นให้กับชนชาติอื่นๆ และคนเหล่านั้นที่เกลียดพวกเขาเริ่มปกครองเหนือพวกเขา
- สดุดี 106:42 - พวกศัตรูข่มเหงพวกเขา และปราบพวกเขาให้ตกอยู่ใต้อำนาจ
- สดุดี 106:43 - พระองค์ช่วยกู้พวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกเขาก็กบฏและทำตามใจตัวเอง พวกเขาตกต่ำลงเพราะความผิดบาปของพวกเขา
- สดุดี 106:44 - แต่เมื่อพวกเขาตกอยู่ในความทุกข์ยากและอธิษฐานต่อพระองค์ พระองค์ก็ฟังและดูแลพวกเขา
- สดุดี 106:45 - พระองค์ระลึกถึงข้อตกลงที่ทำกับพวกเขา และด้วยความรักอันมั่นคงของพระองค์ พระองค์จึงสงสารพวกเขา
- สดุดี 106:46 - พระองค์ทำให้ทุกคนที่กวาดต้อนพวกเขาไป เกิดความเมตตากับพวกเขา
- สดุดี 106:47 - ตอนนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา โปรดช่วยกู้พวกเราด้วยเถิด รวบรวมพวกเราจากชนชาติต่างๆ เราจะขอบคุณชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ และโอ้อวดถึงสิ่งที่น่าสรรเสริญทั้งหลายที่พระองค์ได้ทำ
- สดุดี 106:48 - ขอสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้เป็นอยู่ตลอดมาและจะคงอยู่ตลอดไป ขอให้ชนชาติทั้งหมดพูดว่า “อาเมน” สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
- ผู้วินิจฉัย 2:11 - คนอิสราเอลได้ทำสิ่งชั่วร้ายในสายตาของพระยาห์เวห์ และไปรับใช้พวกพระบาอัล
- ผู้วินิจฉัย 2:12 - พวกเขาได้ละทิ้งพระยาห์เวห์ พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา พระเจ้าที่นำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ พวกเขาไปติดตามพระอื่นๆที่เป็นพวกพระของชนชาติที่อยู่รอบข้างพวกเขา และกราบไหว้พระเหล่านั้น ทำให้พระยาห์เวห์โกรธ
- ผู้วินิจฉัย 2:13 - พวกเขาได้ละทิ้งพระยาห์เวห์ และไปรับใช้พระบาอัลและพวกพระอัชทาโรท
- ผู้วินิจฉัย 2:14 - ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงโกรธคนอิสราเอล พระองค์จึงยกพวกอิสราเอลให้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของโจร โจรได้มาปล้นทรัพย์สินของพวกเขา และขายพวกเขาให้ไปอยู่ในมือของพวกศัตรูที่อยู่รอบด้านพวกเขา และพวกเขาก็ไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้พวกศัตรูของพวกเขาได้
- ผู้วินิจฉัย 2:15 - ทุกครั้งที่พวกอิสราเอลออกรบ มือของพระยาห์เวห์ก็ต่อต้านพวกเขา ทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ อย่างที่พระองค์ได้สาบานไว้แล้วว่าจะทำกับพวกเขา และพวกเขาเดือดร้อนมาก
- ผู้วินิจฉัย 2:16 - แล้วพระยาห์เวห์ก็ได้เลือกพวกผู้นำขึ้นมา และคนพวกนี้ได้มาช่วยกู้คนอิสราเอลให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกที่ปล้นพวกเขานั้น
- ผู้วินิจฉัย 2:17 - แต่ชาวอิสราเอลก็ไม่เชื่อฟังแม้แต่พวกผู้นำของพวกเขา เพราะคนอิสราเอลได้ขายตัวให้กับพวกพระต่างๆและไปกราบไหว้พวกพระเหล่านั้น คนอิสราเอลได้หันไปจากทางที่พวกพ่อของเขาเคยเดินมานั้นอย่างรวดเร็ว พวกพ่อของเขาเชื่อฟังคำสั่งของพระยาห์เวห์ แต่คนรุ่นใหม่นี้ไม่ได้ทำตาม
- ผู้วินิจฉัย 2:18 - เมื่อไหร่ก็ตามที่พระยาห์เวห์ได้ตั้งผู้นำคนหนึ่งขึ้นมาให้กับพวกเขา พระยาห์เวห์ก็จะอยู่กับผู้นำคนนั้น และพระองค์ก็ได้ช่วยพวกอิสราเอลให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกศัตรู ตลอดชั่วชีวิตของผู้นำคนนั้น เพราะพระยาห์เวห์สงสาร เมื่อได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญของพวกอิสราเอล เพราะถูกกดขี่ข่มเหง
- ผู้วินิจฉัย 2:19 - แต่เมื่อผู้นำคนนั้นตายไป พวกอิสราเอลก็หันกลับไปทำชั่วยิ่งกว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเสียอีก พวกเขาไปติดตามรับใช้และกราบไหว้พวกพระอื่นๆ พวกอิสราเอลไม่ยอมทิ้งสิ่งชั่วร้ายที่พวกเขาทำกันอยู่หรือการกระทำที่ดื้อดึงของพวกเขา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 9:24 - พวกท่านได้ขัดขืนพระยาห์เวห์มาตลอด ตั้งแต่วันที่เรารู้จักพวกท่านเป็นครั้งแรก
- เฉลยธรรมบัญญัติ 31:27 - เพราะเรารู้ดีว่า พวกท่านชอบแข็งข้อและหัวแข็ง นี่ขนาดเรายังมีชีวิตอยู่กับพวกท่าน พวกท่านยังแข็งข้อพระยาห์เวห์เลย แล้วถ้าเราตายไป พวกท่านจะยิ่งกว่านี้อีกขนาดไหน
- เอเสเคียล 20:28 - เราได้นำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่เราได้สาบานไว้ว่าจะให้กับพวกเขา แต่พอพวกเขาเห็นเนินเขาสูงลูกใดหรือต้นไม้ต้นไหนที่ให้ร่มเงา พวกเขาก็จะถวายเครื่องบูชาของพวกเขาที่นั่น พวกเขาได้ยั่วยุให้เราโกรธ ด้วยการถวายเครื่องบูชาอันมีกลิ่นหอม และเทเครื่องดื่มบูชาให้กับพระปลอมที่นั่น
- 2 พงศาวดาร 33:10 - พระยาห์เวห์พูดกับมนัสเสห์และประชาชนของเขา แต่พวกเขาไม่สนใจฟัง
- เยเรมียาห์ 35:15 - เราส่งพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่เป็นพวกผู้รับใช้เราไปหาเจ้าอย่างไม่หยุดหย่อน ให้พวกเขาบอกกับเจ้าว่า ‘พวกเจ้าแต่ละคน ให้หันกลับจากทางชั่วๆของเจ้าและทำตัวให้ดีๆได้แล้ว ถ้าพวกเจ้าไม่ไปติดตามรับใช้พระอื่นๆ พวกเจ้าจะได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินที่เราได้ให้กับเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้าไว้’ แต่เจ้าก็ทำหูทวนลม ไม่ยอมฟังเรา
- เยเรมียาห์ 6:16 - นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด คือ “ยืนอยู่ริมถนน ให้มองดูแล้วถามหาทางเก่าแก่ ถามดูว่า ‘ถนนที่ดีสายนั้นอยู่ที่ไหน’ จากนั้นให้เดินไปบนถนนสายนั้น และจะพบกับความสงบสุขให้ตัวเอง แต่พวกเขากลับพูดว่า ‘พวกเราจะไม่ไปบนถนนสายนั้น’
- เอเสเคียล 20:8 - แต่พวกเขากลับกบฏต่อเราและไม่ยอมฟังเรา พวกเขาไม่ยอมโยนพวกรูปปั้นชั่วที่ขยะแขยงทิ้ง ที่พวกเขาจ้องมองเพื่อขอความช่วยเหลือนั้น และไม่ยอมละทิ้งพวกรูปเคารพขี้ๆของอียิปต์ ดังนั้นเราจึงพูดว่า ‘เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขาและแสดงความโกรธใส่พวกเขาในแผ่นดินอียิปต์’
- อิสยาห์ 48:8 - เจ้าไม่เคยได้ยินหรือรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ หูของเจ้าไม่ได้เปิดตั้งนานมาแล้ว เพราะเรารู้ว่าเจ้านั้นชอบหักหลัง และเรารู้ว่าตั้งแต่เกิดแล้ว เจ้าได้ชื่อว่า “ไอ้กบฏ”
- สุภาษิต 30:9 - ไม่อย่างนั้น ข้าพเจ้าอาจมีมากเกินไป แล้วปฏิเสธพระองค์โดยพูดว่า “พระยาห์เวห์เป็นใครกัน” หรือข้าพเจ้าอาจจะมีน้อยเกินไป แล้วไปขโมยเขากิน ซึ่งจะทำให้ชื่อเสียงของพระเจ้าของข้าพเจ้าเสื่อมเสียไป
- เอเสเคียล 23:3 - พวกนางกลายเป็นโสเภณีอยู่ในอียิปต์ ไปขายตัวตอนที่พวกเขายังเป็นเด็กในแผ่นดินนั้น ที่นั่นพวกนางยอมให้ผู้ชายเคล้าคลึงเต้านม และลูบไล้หน้าอกอันแรกแย้มของพวกนาง
- เอเสเคียล 23:4 - คนพี่ชื่อโอโฮลาห์ และคนน้องชื่อโอโฮลีบาห์ พวกนางกลายเป็นเมียเรา และคลอดลูกชายและลูกสาวให้กับเรา โอโฮลาห์มีอีกชื่อหนึ่งว่าสะมาเรีย โอโฮลีบาห์มีอีกชื่อหนึ่งว่าเยรูซาเล็ม
- เอเสเคียล 23:5 - โอโฮลาห์ไปขายตัวในขณะที่ยังเป็นเมียของเรา และนางได้ลุ่มหลงพวกชู้รักของนาง คือชาวอัสซีเรียพวกนักรบ
- เอเสเคียล 23:6 - ที่ใส่ชุดสีน้ำเงิน มีทั้งนายทหารชั้นสูงและผู้บังคับบัญชา พวกเขาล้วนเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาและเป็นทหารม้า
- เอเสเคียล 23:7 - โอโฮลาห์เสนอตัวเองให้กับพวกเขา คือชายอัสซีเรียทุกคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางได้ทำตัวให้เสื่อมเสียไปกับพวกรูปเคารพของคนเหล่านั้นทั้งหมดที่นางลุ่มหลงอยู่นั้น
- เอเสเคียล 23:8 - นางไม่ยอมเลิกขายตัว ที่นางได้เริ่มทำมาตั้งแต่วัยสาวในประเทศอียิปต์ ตอนที่ชายหลายคนร่วมหลับนอนกับนาง พวกเขาลูบไล้หน้าอกที่แรกแย้มของนางและเทความใคร่ของพวกเขาไว้บนตัวนาง
- เอเสเคียล 23:9 - ดังนั้นเราได้มอบนางให้กับพวกอัสซีเรียชู้รักที่นางลุ่มหลง
- เอเสเคียล 23:10 - พวกเขาได้จับนางเปลื้องผ้าออก แล้วเอาตัวพวกลูกชายลูกสาวของนางไป และพวกเขาก็ฆ่านางด้วยดาบ และพวกผู้หญิงใช้ชื่อนางในการแช่งด่าชาวบ้าน นั่นคือโทษที่เราได้กำหนดไว้สำหรับนาง
- เอเสเคียล 23:11 - โอโฮลีบาห์น้องสาวของนางได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่นางกลับเลวทรามยิ่งกว่าพี่สาวของนางในเรื่องความใคร่และการขายตัว
- เอเสเคียล 23:12 - นางยังได้ลุ่มหลงพวกชาวอัสซีเรียที่เป็นทหารชั้นสูง ผู้บังคับบัญชา นักรบที่แต่งตัวเต็มยศและทหารม้า พวกเขาทั้งหมดล้วนแต่เป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา
- เอเสเคียล 23:13 - เราเห็นว่านางทำตัวเสื่อมเสีย พี่น้องสองคนนี้เดินในแนวทางเดียวกัน
- เอเสเคียล 23:14 - โอโฮลีบาห์ยังขายตัวหนักยิ่งขึ้น นางไปเห็นภาพของพวกชาวเคลเดีย ที่วาดด้วยสีแดงอยู่บนกำแพง
- เอเสเคียล 23:15 - พวกเขามีเข็มขัดคาดอยู่รอบเอว และมีผ้าโพกหัวอยู่ พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนนายทหารชาวบาบิโลน ที่มีบ้านเกิดมาจากเมืองเคลเดีย
- เอเสเคียล 23:16 - ทันทีที่นางเห็นพวกเขา นางก็ลุ่มหลงพวกเขาและได้ส่งคนไปตามหาพวกเขาในเคลเดีย
- เอเสเคียล 23:17 - แล้วชาวบาบิโลนก็ได้มาพบนางเพื่อร่วมรักกับนางบนเตียง และพวกเขาได้ทำให้นางเสื่อมเสียด้วยความใคร่ของพวกเขา หลังจากที่นางทำตัวเสื่อมเสียกับพวกเขาแล้ว นางก็ตีจากพวกเขาไปด้วยความขยะแขยง
- เอเสเคียล 23:18 - โอโฮลีบาห์ยังขายตัวอย่างเปิดเผย และเผยความเปลือยเปล่าของนาง เราได้ตีจากนางไปด้วยความขยะแขยงเหมือนกับที่เราเคยตีจากพี่สาวนางไป
- เอเสเคียล 23:19 - เมื่อนางหวนคิดถึงครั้งที่นางยังเป็นสาวอยู่ ตอนที่นางเป็นโสเภณีอยู่ในประเทศอียิปต์ นางกลับยิ่งสำส่อนมากขึ้น
- เอเสเคียล 23:20 - นางลุ่มหลงชู้รักของนางที่นั่นที่มีอวัยวะเพศเหมือนลา และมีการหลั่งน้ำกามเหมือนม้า
- เอเสเคียล 23:21 - โอโฮลีบาห์ อย่างนี้ เจ้าได้หวนหาการร่านสวาทแห่งวัยสาวของเจ้า เมื่อครั้งอยู่ในประเทศอียิปต์ ที่เต้านมของเจ้าถูกเคล้าคลึงและหน้าอกของเจ้าถูกลูบไล้
- เอเสเคียล 23:22 - ดังนั้น โอโฮลีบาห์ นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ‘เราจะปลุกปั่นพวกชู้รักของเจ้าให้ต่อต้านเจ้า
- เอเสเคียล 23:23 - ทั้งชาวบาบิโลนและชาวเคลเดียทั้งหมด พวกผู้ชายในเปโขด โชอาและโคอา รวมทั้งชาวอัสซีเรียทั้งหมด คือพวกชายหนุ่มที่หล่อเหลา ที่เป็นทหารชั้นสูง ผู้บังคับบัญชา นายทหาร และวีรบุรุษผู้กล้า ทุกคนล้วนขี่ม้า
- เอเสเคียล 23:24 - พวกเขาจะมาต่อต้านเจ้าด้วยอาวุธ รถรบ เกวียน และฝูงชนเป็นจำนวนมาก พวกเขาจะมาจากทุกๆด้าน เพื่อต่อต้านเจ้าด้วยโล่ขนาดใหญ่และเล็ก กับหมวกเหล็ก เราจะปล่อยให้พวกเขาลงโทษเจ้า ตามที่พวกเขาเห็นสมควร
- เอเสเคียล 23:25 - เราจะหันความโกรธอันหึงหวงของเราใส่เจ้า และพวกเขาจะจัดการกับเจ้าอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาจะตัดจมูกและหูของเจ้า คนของเจ้าที่ยังเหลืออยู่จะล้มลงด้วยดาบ พวกเขาจะเอาตัวพวกลูกชายและลูกสาวของเจ้าไป ส่วนพวกที่เหลือจะถูกไฟคลอกตาย
- เอเสเคียล 23:26 - พวกเขาจะเปลื้องผ้าเจ้าออกและเอาเครื่องเพชรดีๆของเจ้าไป
- เอเสเคียล 23:27 - แล้วเราทำให้การร่านสวาทและการขายตัวของเจ้าที่เจ้าได้ริเริ่มไว้ในประเทศอียิปต์นั้นจบสิ้นไป เจ้าจะได้ไม่หวนหาสิ่งเหล่านี้ หรือคิดถึงประเทศอียิปต์อีกต่อไป’”
- เอเสเคียล 23:28 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
- เอเสเคียล 23:29 - พวกเขาจะจัดการกับเจ้าด้วยความเกลียด และเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าทำงานได้มา พวกเขาจะทิ้งเจ้าให้เปลือยเปล่าล่อนจ้อน และความอับอายของการขายตัวของเจ้าจะถูกเปิดเผย การร่านสวาทและการขายตัวของเจ้า
- เอเสเคียล 23:30 - ได้นำพาสิ่งนี้มาสู่ตัวเจ้า เพราะเจ้าได้ไปขายตัวกับชนชาติต่างๆและทำให้ตัวเจ้าเสื่อมเสียกับรูปเคารพของพวกเขา
- เอเสเคียล 23:31 - เจ้าได้ทำตัวเหมือนกับพี่สาวของเจ้า ดังนั้นเราจะเอาถ้วยที่นางถูกบังคับให้ดื่มนั้นใส่ไว้ในมือของเจ้า”
- เอเสเคียล 23:32 - พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนี้ “เจ้าจะดื่มจากถ้วยของพี่สาวเจ้า เป็นถ้วยขนาดใหญ่และลึก มันจุได้เยอะ เจ้าจะถูกเยาะเย้ยและถากถาง
- เอเสเคียล 23:33 - เจ้าจะเต็มไปด้วยความมึนเมาและความเศร้าโศก จากถ้วยแห่งความน่าสะพรึงกลัวและน่าสยดสยองซึ่งคือถ้วยของสะมาเรียพี่สาวของเจ้า
- เอเสเคียล 23:34 - เจ้าจะดื่มมันหมดเกลี้ยง เจ้าจะทำมันแตกและดูดเศษชิ้นๆของมัน เจ้าจะฉีกอกของเจ้า เราได้ลั่นคำพูดไปแล้ว” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
- เอเสเคียล 23:35 - ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เจ้าจะต้องรับผลแห่งการร่านสวาทและการขายตัวของเจ้า เพราะเจ้าได้ลืมเราและโยนเราไปไว้ข้างหลังเจ้า”
- เอเสเคียล 23:36 - พระยาห์เวห์พูดกับผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์
- เอเสเคียล 23:37 - พวกนางได้เล่นชู้ และเลือดของผู้บริสุทธิ์ก็ตกอยู่ในมือของพวกนาง พวกนางเล่นชู้กับพวกรูปเคารพ พวกนางได้เอาลูกๆที่นางได้คลอดให้กับเรา ไปสังเวยในไฟให้เป็นอาหารกับรูปเคารพพวกนั้น
- เอเสเคียล 23:38 - แล้วในวันเดียวกันนั้น พวกนางยังทำอย่างนี้กับเราด้วย คือพวกนางได้ทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราเสื่อมไป และทำให้พวกวันหยุดทางศาสนาของเราเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป
- เอเสเคียล 23:39 - ในวันที่พวกนางได้เอาลูกๆไปสังเวยรูปเคารพเหล่านั้น พวกนางได้เข้ามาในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา ซึ่งทำให้มันเสื่อมไป นี่คือสิ่งที่พวกเขาทำภายในบ้านของเรา
- เยเรมียาห์ 7:22 - ตอนที่เราพาบรรพบุรุษของพวกเจ้าออกมาจากอียิปต์นั้น เราไม่ได้สั่งอะไรพวกเขาเลยเกี่ยวกับเรื่องเครื่องเผาบูชาและเครื่องเซ่นไหว้ เราไม่ได้บอกบรรพบุรุษของพวกเจ้าให้ทำอย่างนั้น
- เยเรมียาห์ 7:23 - แต่สิ่งที่เราสั่งให้พวกเขาทำ คือ ‘ให้ฟังเสียงของเรา แล้วเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า และเจ้าจะเป็นคนของเรา ให้เจ้าเดินในทางที่เราสั่งเจ้า นั่นจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเจ้า’”
- เยเรมียาห์ 7:24 - “แต่พวกเขาไม่ยอมฟัง และทำเป็นหูทวนลม กลับไปทำตามความต้องการชั่วๆของตัวเอง พวกเขากลับเดินถอยหลังแทนที่จะเดินไปข้างหน้า
- เยเรมียาห์ 7:25 - ตั้งแต่วันนั้นที่บรรพบุรุษของเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ จนถึงวันนี้ เราได้ส่งพวกผู้รับใช้ของเรา พวกผู้พูดแทนพระเจ้า ไปหาพวกเจ้าทุกวัน
- เยเรมียาห์ 7:26 - แต่พวกเขาไม่ยอมฟังเรา และไม่ยอมเงี่ยหูฟัง พวกเขาดื้อดึงหัวแข็ง พวกเขาชั่วร้ายยิ่งกว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเสียอีก”
- เยเรมียาห์ 7:27 - “เยเรมียาห์ เจ้าจะเอาคำพูดทั้งหมดนี้ไปบอกกับพวกเขา แต่พวกเขาจะไม่ฟังเจ้า เจ้าจะเรียกพวกเขา แต่พวกเขาจะไม่ตอบเจ้า
- เยเรมียาห์ 7:28 - เจ้าจะต้องบอกกับพวกเขาว่า ‘นี่คือชนชาติที่ไม่ยอมฟังเสียงของพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเขา และไม่ยอมรับการตีสอนจากพระองค์ ความจริงได้ตายไปเสียแล้ว และมันก็หายไปจากปากของพวกเขา’”
- เยเรมียาห์ 3:25 - ขอให้เรานอนลงในความอับอายของตัวเอง และปล่อยให้ความอับอายขายหน้าคลุมตัวเราไว้ เพราะว่าเราได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา ทั้งเราและบรรพบุรุษของเรา ตั้งแต่เรายังเป็นหนุ่มสาวจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ เราไม่ได้เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราเลย”
- เยเรมียาห์ 32:30 - เพราะชาวอิสราเอลและยูดาห์ทำสิ่งที่เราถือว่าชั่วร้ายจริงๆมาตั้งแต่เด็กๆเพราะชาวอิสราเอลได้สร้างรูปเคารพขึ้นมากับมือ ซึ่งทำให้เราโกรธ” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น