逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - พระองค์ก็มองพวกเขา แล้วพูดว่า “ไปแสดงตัวให้พวกนักบวช ดูสิ” ในระหว่างทางที่ไปนั้น พวกเขาก็หายจากโรค
- 新标点和合本 - 耶稣看见,就对他们说:“你们去把身体给祭司察看。”他们去的时候就洁净了。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 耶稣看见,就对他们说:“你们去,把身体给祭司检查。”他们正去的时候就洁净了。
- 和合本2010(神版-简体) - 耶稣看见,就对他们说:“你们去,把身体给祭司检查。”他们正去的时候就洁净了。
- 当代译本 - 耶稣看见他们,就说:“去让祭司察看你们的身体。” 他们去的时候,就洁净了。
- 圣经新译本 - 他看见了,就对他们说:“你们去给祭司检查吧。”他们去的时候就洁净了。
- 中文标准译本 - 耶稣看见了,就对他们说:“你们去,让祭司检查你们吧!”结果在他们去的时候,就被洁净了。
- 现代标点和合本 - 耶稣看见,就对他们说:“你们去,把身体给祭司察看!”他们去的时候就洁净了。
- 和合本(拼音版) - 耶稣看见,就对他们说:“你们去,把身体给祭司察看。”他们去的时候就洁净了。
- New International Version - When he saw them, he said, “Go, show yourselves to the priests.” And as they went, they were cleansed.
- New International Reader's Version - Jesus saw them and said, “Go. Show yourselves to the priests.” While they were on the way, they were healed.
- English Standard Version - When he saw them he said to them, “Go and show yourselves to the priests.” And as they went they were cleansed.
- New Living Translation - He looked at them and said, “Go show yourselves to the priests.” And as they went, they were cleansed of their leprosy.
- The Message - Taking a good look at them, he said, “Go, show yourselves to the priests.” They went, and while still on their way, became clean. One of them, when he realized that he was healed, turned around and came back, shouting his gratitude, glorifying God. He kneeled at Jesus’ feet, so grateful. He couldn’t thank him enough—and he was a Samaritan.
- Christian Standard Bible - When he saw them, he told them, “Go and show yourselves to the priests.” And while they were going, they were cleansed.
- New American Standard Bible - When He saw them, He said to them, “Go and show yourselves to the priests.” And as they were going, they were cleansed.
- New King James Version - So when He saw them, He said to them, “Go, show yourselves to the priests.” And so it was that as they went, they were cleansed.
- Amplified Bible - When He saw them, He said to them, “Go and show yourselves to the priests.” And as they went, they were [miraculously] healed and made clean.
- American Standard Version - And when he saw them, he said unto them, Go and show yourselves unto the priests. And it came to pass, as they went, they were cleansed.
- King James Version - And when he saw them, he said unto them, Go shew yourselves unto the priests. And it came to pass, that, as they went, they were cleansed.
- New English Translation - When he saw them he said, “Go and show yourselves to the priests.” And as they went along, they were cleansed.
- World English Bible - When he saw them, he said to them, “Go and show yourselves to the priests.” As they went, they were cleansed.
- 新標點和合本 - 耶穌看見,就對他們說:「你們去把身體給祭司察看。」他們去的時候就潔淨了。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 耶穌看見,就對他們說:「你們去,把身體給祭司檢查。」他們正去的時候就潔淨了。
- 和合本2010(神版-繁體) - 耶穌看見,就對他們說:「你們去,把身體給祭司檢查。」他們正去的時候就潔淨了。
- 當代譯本 - 耶穌看見他們,就說:「去讓祭司察看你們的身體。」 他們去的時候,就潔淨了。
- 聖經新譯本 - 他看見了,就對他們說:“你們去給祭司檢查吧。”他們去的時候就潔淨了。
- 呂振中譯本 - 耶穌看見了,就對他們說:『你們去,把本身指給祭司看。』他們去的時候,就得潔淨了。
- 中文標準譯本 - 耶穌看見了,就對他們說:「你們去,讓祭司檢查你們吧!」結果在他們去的時候,就被潔淨了。
- 現代標點和合本 - 耶穌看見,就對他們說:「你們去,把身體給祭司察看!」他們去的時候就潔淨了。
- 文理和合譯本 - 耶穌目之曰、爾往示身於祭司、往時即潔矣、
- 文理委辦譯本 - 耶穌視之曰、往示祭司、往時即潔矣、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 耶穌視之曰、爾往見祭司、使彼驗爾身、往時即潔矣、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 耶穌見而諭之曰:『第回、可往示司祭。』方退、而身已潔。
- Nueva Versión Internacional - Al verlos, les dijo: —Vayan a presentarse a los sacerdotes. Resultó que, mientras iban de camino, quedaron limpios.
- 현대인의 성경 - 예수님은 그들을 보시고 “제사장들에게 가서 너희 몸을 보여라” 하고 말씀하셨다. 그들은 가는 도중에 몸이 깨끗하게 되었다.
- Новый Русский Перевод - Когда Иисус их увидел, Он сказал: – Пойдите и покажитесь священникам. Те пошли и по дороге были исцелены.
- Восточный перевод - Когда Иса их увидел, Он сказал: – Пойдите и покажитесь священнослужителям. Те пошли и по дороге были исцелены.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Когда Иса их увидел, Он сказал: – Пойдите и покажитесь священнослужителям. Те пошли и по дороге были исцелены.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Когда Исо их увидел, Он сказал: – Пойдите и покажитесь священнослужителям. Те пошли и по дороге были исцелены.
- La Bible du Semeur 2015 - Jésus les vit et leur dit : Allez vous montrer aux prêtres ! Pendant qu’ils y allaient, ils furent guéris.
- リビングバイブル - イエスはそちらに目をやり、「さあ、祭司のところへ行き、ツァラアトが治ったことを見せてきなさい」と言われました。彼らがそのとおり出かけて行くと、途中でツァラアトはきれいに治りました。
- Nestle Aland 28 - καὶ ἰδὼν εἶπεν αὐτοῖς· πορευθέντες ἐπιδείξατε ἑαυτοὺς τοῖς ἱερεῦσιν. καὶ ἐγένετο ἐν τῷ ὑπάγειν αὐτοὺς ἐκαθαρίσθησαν.
- unfoldingWord® Greek New Testament - καὶ ἰδὼν, εἶπεν αὐτοῖς, πορευθέντες ἐπιδείξατε ἑαυτοὺς τοῖς ἱερεῦσιν. καὶ ἐγένετο ἐν τῷ ὑπάγειν αὐτοὺς, ἐκαθαρίσθησαν.
- Nova Versão Internacional - Ao vê-los, ele disse: “Vão mostrar-se aos sacerdotes”. Enquanto eles iam, foram purificados.
- Hoffnung für alle - Er sah sie an und forderte sie auf: »Geht zu den Priestern und zeigt ihnen, dass ihr geheilt seid!« Auf dem Weg dorthin wurden sie gesund .
- Kinh Thánh Hiện Đại - Khi thấy họ, Chúa phán: “Cứ đến trình diện với thầy tế lễ.” Họ vừa lên đường, bệnh phong hủi liền sạch và biến mất.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เมื่อพระองค์ทรงเห็นพวกเขาก็ตรัสว่า “จงไปแสดงตัวต่อปุโรหิต” ขณะกำลังเดินไป พวกเขาก็หายโรค
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - เมื่อพระเยซูได้เห็นดังนั้นก็กล่าวว่า “จงไปแสดงตัวแก่บรรดาปุโรหิตเถิด” และขณะที่เขาทั้งหลายไปก็หายจากโรค
- Thai KJV - เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นแล้วจึงตรัสแก่เขาว่า “จงไปแสดงตัวแก่พวกปุโรหิตเถิด” ต่อมาเมื่อกำลังเดินไป เขาทั้งหลายก็หายสะอาด
交叉引用
- อิสยาห์ 65:24 - เราจะตอบพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะร้องเรียกเราเสียอีก พวกเขายังพูดไม่ทันขาดคำ เราก็จะตอบแล้ว
- ยอห์น 9:7 - พระองค์บอกเขาว่า “ไปล้างโคลนออกที่สระสิโลอัม” (คำว่าสิโลอัม หมายถึงส่งไป) ชายคนนั้นไปล้างโคลนออก เมื่อล้างแล้วกลับมา เขาก็สามารถมองเห็นได้
- ยอห์น 4:50 - พระเยซูบอกว่า “กลับบ้านไปเถอะ ลูกคุณหายดีแล้ว” เขาก็เชื่อในคำพูดของพระเยซู แล้วกลับไป
- ยอห์น 4:51 - ในระหว่างทางนั้นเขาก็ได้พบกับพวกคนใช้ของเขาที่มาส่งข่าวว่าลูกชายของเขาหายเป็นปกติแล้ว
- ยอห์น 4:52 - เขาถามพวกคนใช้ว่าลูกชายของเขาหายป่วยตอนไหน พวกคนใช้ตอบว่า “หายไข้เมื่อวานนี้ตอนบ่ายโมงครับ”
- ยอห์น 4:53 - พ่อของเด็กก็รู้ว่าเป็นเวลาเดียวกับที่พระเยซูพูดว่า “ลูกคุณหายดีแล้ว” ดังนั้นตัวเขาและทุกคนในบ้านเขาได้ไว้วางใจในพระเยซู
- ยอห์น 2:5 - แล้วแม่ของพระเยซูก็ไปบอกกับพวกคนใช้ว่า “เขาสั่งอะไร ก็ให้ทำตามนั้น”
- มัทธิว 8:3 - พระองค์ยื่นมือออกไปแตะตัวเขา และพูดว่า “เราอยากช่วย หายเถิด” แล้วเขาก็หายทันที
- มัทธิว 8:4 - พระเยซูจึงบอกเขาว่า “อย่าไปเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง แต่ไปให้นักบวชตรวจดูและให้ถวายเครื่องบูชาตามที่โมเสสสั่งไว้ คนอื่นจะได้รู้ว่าเจ้าหายแล้ว”
- เลวีนิติ 14:1 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า
- เลวีนิติ 14:2 - “ต่อไปนี้จะเป็นกฎสำหรับคนที่เคยเป็นโรคผิวหนังร้ายแรงแต่หายดีแล้ว เขาต้องถูกนำตัวมาหานักบวช
- เลวีนิติ 14:3 - นักบวชต้องออกไปพบคนๆนั้นที่นอกค่าย และถ้าเขาตรวจดูคนๆนั้นแล้วพบว่า โรคผิวหนังของคนๆนั้นหายดีแล้ว
- เลวีนิติ 14:4 - นักบวชต้องสั่งให้เขานำนกป่าบริสุทธิ์มาสองตัว ไม้สนซีดาร์หนึ่งชิ้น เชือกสีแดงหนึ่งเส้น กิ่งหุสบ หนึ่งกิ่ง สำหรับใช้ในพิธีชำระล้างให้เขาบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 14:5 - นักบวชต้องสั่งให้เอานกตัวหนึ่งมาฆ่าและให้เลือดของมันไหลลงไปในชามดินเผาที่อยู่เหนือน้ำที่ไหลอยู่
- เลวีนิติ 14:6 - แล้วสั่งให้เอานกอีกตัวที่เหลือ มาพร้อมกับ ไม้สน เชือกแดง และกิ่งหุสบ แล้วเอานกตัวนั้นจุ่มลงในเลือดของนกตัวที่ถูกฆ่า ที่อยู่เหนือน้ำที่กำลังไหลนั้น
- เลวีนิติ 14:7 - ให้พรมเลือดลงไปเจ็ดครั้งบนตัวคนที่เข้าพิธีชำระจากโรคผิวหนังนั้น แล้วประกาศว่าคนๆนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วนักบวชจะปล่อยนกตัวที่เหลืออยู่นั้นเป็นอิสระกลางท้องทุ่ง
- เลวีนิติ 14:8 - แล้วคนที่ได้รับการประกาศให้เป็นคนบริสุทธิ์แล้ว ต้องเอาเสื้อของเขาไปซักล้าง โกนผมให้เกลี้ยงและอาบน้ำ แล้วเขาจะกลายเป็นคนบริสุทธิ์ หลังจากนั้นเขาจะได้รับอนุญาตให้เข้ามาในค่ายได้ แต่ต้องอยู่นอกเต็นท์เป็นเวลาเจ็ดวัน
- เลวีนิติ 14:9 - ในวันที่เจ็ดเขาต้องโกนผม โกนหนวดและขนคิ้วออกให้หมด และต้องซักเสื้อผ้าใหม่ และอาบน้ำชำระร่างกาย แล้วเขาจะเป็นคนบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 14:10 - ในวันที่แปด คนๆนั้นต้องเอาลูกแกะตัวผู้สองตัวที่ไม่มีตำหนิ และลูกแกะตัวเมียอายุหนึ่งปีที่ไม่มีตำหนิมาตัวหนึ่ง แป้งสาลีอย่างดีประมาณหกลิตรครึ่งผสมกับน้ำมันสำหรับเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร
- เลวีนิติ 14:11 - นักบวชที่จะทำพิธีชำระล้าง ต้องนำคนที่จะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ พร้อมกับเครื่องบูชาเหล่านี้ มาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ
- เลวีนิติ 14:12 - แล้วนักบวชต้องเอาลูกแกะตัวผู้มาตัวหนึ่ง ถวายเป็นของถวายชดใช้ และนำน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร มายกขึ้นให้เป็นเครื่องยื่นบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์
- เลวีนิติ 14:13 - เขาต้องฆ่าลูกแกะตัวนั้นในบริเวณพื้นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ใช้สำหรับฆ่าเครื่องบูชาชำระล้างและเครื่องเผาบูชา เพราะของถวายชดใช้นี้เป็นเหมือนเครื่องบูชาชำระล้าง มันจะเป็นของนักบวช เป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
- เลวีนิติ 14:14 - นักบวชจะเอาเลือดส่วนหนึ่งจากของถวายชดใช้ มาแต้มที่ติ่งหูข้างขวา พร้อมกับหัวแม่มือกับหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง
- เลวีนิติ 14:15 - นักบวชจะแบ่งน้ำมันมะกอกที่มีอยู่ประมาณหนึ่งในสามลิตรนั้น แล้วเทใส่ฝ่ามือซ้ายของตัวเขาเอง
- เลวีนิติ 14:16 - แล้วนักบวชจะเอานิ้วข้างขวาของเขาจุ่มลงในน้ำมันที่อยู่บนฝ่ามือซ้ายของเขา แล้วเอาไปพรมต่อหน้าพระยาห์เวห์เจ็ดครั้ง
- เลวีนิติ 14:17 - น้ำมันที่เหลือบนฝ่ามือนักบวช เขาก็จะเอาไปแต้มที่ติ่งหูด้านขวา นิ้วหัวแม่มือด้านขวา และนิ้วหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง โดยแต้มทับรอยเลือดจากของถวายชดใช้ที่แต้มไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
- เลวีนิติ 14:18 - น้ำมันที่เหลือทั้งหมดบนฝ่ามือของนักบวช เขาก็จะเอาไปลูบบนหัวของคนที่จะรับการชำระล้าง ด้วยวิธีนี้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ นักบวชจะกำจัดบาปหนึ่งบาปใดแทนคนๆนั้นที่เขาได้ทำไปต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์
- เลวีนิติ 14:19 - แล้วนักบวชจะถวายเครื่องบูชาชำระล้าง เพื่อชำระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แทนคนๆนั้นที่กำลังได้รับการชำระจากความไม่บริสุทธิ์ของเขา หลังจากนั้น นักบวชก็จะฆ่าเครื่องเผาบูชา
- เลวีนิติ 14:20 - แล้วนักบวชก็จะถวายเครื่องเผาบูชา และเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชบนแท่นบูชา และด้วยวิธีนี้นักบวชจะทำให้เกิดการคืนดีขึ้นสำหรับคนนั้น และคนนั้นก็จะบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 14:21 - แต่ถ้าคนที่จะรับการชำระล้างนั้นยากจน ไม่สามารถหาของถวายพวกนั้นมาได้ ก็ให้เขาเอาลูกแกะมาตัวหนึ่ง เป็นของถวายชดใช้ มันจะเป็นเครื่องยื่นบูชาสำหรับเขา เพื่อกำจัดบาปหนึ่งบาปใดที่เขาทำต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์ เขาต้องเอาแป้งอย่างดีมาประมาณสองลิตร ผสมน้ำมัน เป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช พร้อมกับน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร
- เลวีนิติ 14:22 - และเอานกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว อย่างใดอย่างหนึ่งที่เขาสามารถให้ได้ ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง อีกตัวใช้เป็นเครื่องเผาบูชา
- เลวีนิติ 14:23 - คนที่จะรับการชำระล้าง ต้องนำเครื่องบูชาเหล่านี้มาให้นักบวชในวันที่แปด เพื่อนักบวชจะทำพิธีชำระล้างให้กับเขา ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบต่อหน้าพระยาห์เวห์
- เลวีนิติ 14:24 - แล้วนักบวชจะเอาลูกแกะมาเป็นของถวายชดใช้ พร้อมกับน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร และนักบวชจะถวายพวกมันเป็นเครื่องยื่นบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์
- เลวีนิติ 14:25 - แล้วนักบวชก็จะฆ่าลูกแกะที่เป็นของถวายชดใช้ตัวนั้น นักบวชจะเอาเลือดส่วนหนึ่งของมัน มาแต้มที่ติ่งหูข้างขวา หัวแม่มือข้างขวา และหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง
- เลวีนิติ 14:26 - จากนั้นนักบวชจะเทน้ำมันส่วนหนึ่งใส่ฝ่ามือซ้ายของตนเอง
- เลวีนิติ 14:27 - แล้วใช้นิ้วมือข้างขวาจุ่มน้ำมันที่อยู่ในฝ่ามือซ้ายของเขา แล้วเอาไปพรมต่อหน้าพระยาห์เวห์เจ็ดครั้ง
- เลวีนิติ 14:28 - แล้วนักบวชจะเอาน้ำมันส่วนหนึ่งจากฝ่ามือ ไปแต้มที่ติ่งหูข้างขวา หัวแม่มือข้างขวาและหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง โดยแต้มทับไปบนรอยเลือดที่มาจากของถวายชดใช้ ที่แต้มอยู่ก่อนแล้ว
- เลวีนิติ 14:29 - น้ำมันที่เหลือบนฝ่ามือของนักบวช เขาจะเอาไปลูบบนหัวของคนที่จะรับการชำระล้าง เพื่อกำจัดบาปหนึ่งบาปใดที่เขาทำต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์แทนเขาต่อหน้าพระยาห์เวห์
- เลวีนิติ 14:30 - จากนั้นนักบวชจะถวายนกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่คนนั้นสามารถให้ได้
- เลวีนิติ 14:31 - ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง อีกตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องเผาบูชา พร้อมๆกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ด้วยวิธีนี้ ต่อหน้าพระยาห์เวห์ นักบวชจะทำให้เกิดการคืนดีกันขึ้นเพื่อเขาคนนั้นที่กำลังได้รับการชำระล้าง
- เลวีนิติ 14:32 - นั่นคือกฎสำหรับคนที่เป็นโรคผิวหนังร้ายแรง ที่ไม่สามารถหาเครื่องบูชาที่ใช้กันตามปกติสำหรับพิธีการชำระล้างของเขา”
- เลวีนิติ 13:1 - พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า
- เลวีนิติ 13:2 - “ถ้าคนๆหนึ่งเกิดมีแผล ตกสะเก็ดหรือตุ่มน้ำใสๆขึ้นบนผิวหนัง และลุกลามกลายเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง เขาต้องถูกนำตัวมาพบอาโรนหรือลูกชายอาโรนที่เป็นนักบวชคนใดคนหนึ่ง
- เลวีนิติ 13:3 - นักบวชจะตรวจดูแผลที่ผิวหนังตามร่างกายของเขา ถ้าขนที่แผลเปลี่ยนเป็นสีขาว และแผลก็กินลึกเข้าไปในเนื้อชั้นในแล้ว นั่นหมายถึงเขาเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง เมื่อนักบวชตรวจดูเสร็จแล้ว เขาต้องประกาศออกมาว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:4 - แต่ถ้าผิวหนังตามร่างกายของคนๆนั้นเป็นจุดขาวๆแต่ไม่มีแผลที่กินลึกเข้าไปในเนื้อ และขนก็ไม่เปลี่ยนเป็นสีขาว นักบวชจะต้องแยกคนๆนั้นออกจากประชาชนเป็นเวลาเจ็ดวัน
- เลวีนิติ 13:5 - ในวันที่เจ็ดนักบวชต้องกลับมาตรวจดูคนๆนั้นอีกครั้ง ถ้ารอยแผลนั้นไม่เปลี่ยนแปลงและไม่ลุกลามไปบนผิวหนัง นักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกจากประชาชนอีกเจ็ดวัน
- เลวีนิติ 13:6 - ในวันที่เจ็ดกลับมาตรวจดูอีกครั้ง ถ้ารอยแผลจางลงและแผลไม่กระจายลุกลามบนผิวหนัง นักบวชต้องประกาศให้คนๆนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ รอยแผลนั้นเป็นเพียงสะเก็ดแผล คนๆนั้นต้องซักล้างเสื้อผ้าของเขา หลังจากนั้นเขาก็จะเป็นผู้บริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:7 - แต่ถ้าสะเก็ดแผลนั้นเกิดลุกลามไปบนผิวหนัง หลังจากที่นักบวชป่าวประกาศให้คนๆนั้นบริสุทธิ์แล้ว เขาต้องกลับไปพบนักบวชอีกครั้ง
- เลวีนิติ 13:8 - ถ้านักบวชตรวจดูแล้วพบว่าแผลลุกลามจริง นักบวชต้องประกาศใหม่ว่าคนๆนั้นเป็นคนไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคผิวหนังเรื้อรัง
- เลวีนิติ 13:9 - เมื่อคนๆหนึ่งเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง คนๆนั้นจะถูกนำตัวมาพบนักบวช
- เลวีนิติ 13:10 - ถ้านักบวชตรวจดูและพบแผลพุพองสีขาวบนผิวหนัง ขนบางส่วนรอบๆกลายเป็นสีขาวและมีแผ่นเนื้อสดอยู่ในแผลพุพองนั้น
- เลวีนิติ 13:11 - มันคือโรคผิวหนังชนิดเรื้อรัง นักบวชจะต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ โดยไม่ต้องแยกออกมาคอยดูอาการ เพราะเขาเป็นคนที่ไม่บริสุทธิ์อยู่แล้ว
- เลวีนิติ 13:12 - ถ้าโรคผิวหนังเรื้อรังนั้น เกิดลุกลามไปบนผิวหนังส่วนอื่น จนเกิดเป็นโรคติดเชื้อไปทั่วผิวหนังของคนๆนั้น ตั้งแต่หัวจรดเท้า นักบวชต้องตรวจดูทุกส่วนของร่างกาย
- เลวีนิติ 13:13 - นักบวชต้องดู ถ้าหากโรคมันลุกลามจนทั่วร่างกายของคนผู้นั้น จนตัวเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวทั้งหมด นักบวชต้องประกาศให้คนที่ติดเชื้อนั้น เป็นผู้บริสุทธิ์เพราะตัวเขาบริสุทธิ์แล้ว เพราะผิวหนังได้เปลี่ยนเป็นสีขาวหมดแล้ว
- เลวีนิติ 13:14 - แต่ทันทีที่มีแผลสดเกิดขึ้น เขาจะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์ทันที
- เลวีนิติ 13:15 - นักบวชต้องตรวจดูแผลสด และประกาศว่าคนๆนั้นเป็นคนไม่บริสุทธิ์ เพราะแผลสดเป็นสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ มันคือโรคผิวหนังเรื้อรัง
- เลวีนิติ 13:16 - ถ้าแผลสดนั้นหายดีแล้วเหลือแต่จุดขาว คนๆนั้นต้องไปพบนักบวช
- เลวีนิติ 13:17 - ถ้านักบวชตรวจดูและพบว่าแผลนั้นได้เปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว นักบวชต้องประกาศให้คนที่ติดเชื้อนั้นเป็นคนบริสุทธิ์และคนๆนั้นก็จะบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:18 - เมื่อมีฝีเกิดขึ้นบนผิวหนังตามร่างกายของคนๆหนึ่ง และมันก็ได้รับการรักษาจนหาย
- เลวีนิติ 13:19 - และมีรอยแผลพุพองหรือจุดขาวออกสีแดงเรื่อๆเกิดขึ้นในที่ที่เคยเป็นฝี คนๆนั้นต้องไปพบนักบวช
- เลวีนิติ 13:20 - นักบวชจะตรวจดู ถ้าแผลนั้นกินลึกเข้าในผิวหนัง และขนบริเวณรอบๆเปลี่ยนเป็นสีขาว นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ มันคือโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดจากฝี
- เลวีนิติ 13:21 - แต่ถ้านักบวชตรวจดูแผลแล้ว ไม่พบขนสีขาว แผลก็ไม่กินลึกลงไปและยังเริ่มจางลง นักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกเป็นเวลาเจ็ดวัน
- เลวีนิติ 13:22 - ถ้าแผลยังลุกลามไปตามผิวหนัง นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือแผลติดเชื้อ
- เลวีนิติ 13:23 - แต่ถ้าจุดใสๆนั้นยังมีอยู่ที่เดิมและไม่กระจายลุกลาม มันเป็นเพียงสะเก็ดแผลจากฝี นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:24 - หรือเมื่อคนใดคนหนึ่งมีแผลไฟไหม้บนผิวหนัง และเกิดแผลรอยไหม้เป็นจุดสีขาวหรือสีออกแดงเรื่อๆ
- เลวีนิติ 13:25 - นักบวชต้องตรวจแผลดู ถ้าขนที่บริเวณแผลเปลี่ยนเป็นสีขาวและมันเกิดเป็นแผลลึกเข้าไปในเนื้อ มันคือโรคผิวหนังอันตราย ที่เกิดจากแผลไฟไหม้ นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคผิวหนังอันตราย
- เลวีนิติ 13:26 - แต่ถ้านักบวชตรวจดูแล้ว ไม่มีขนสีขาวบริเวณแผลและแผลก็ไม่กินลึกลงในเนื้อ ทั้งยังค่อยๆจางลง นักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกมาเป็นเวลาเจ็ดวัน
- เลวีนิติ 13:27 - ในวันที่เจ็ดถ้านักบวชไปตรวจดูคนๆนั้นอีก แล้วถ้าเห็นว่าแผลลุกลามไปบนผิวหนัง นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคผิวหนังเรื้อรัง
- เลวีนิติ 13:28 - แต่ถ้าแผลนั้นยังอยู่แบบเดิมไม่ลุกลามออกไป และเริ่มจางลง มันเป็นเพียงแผลพุพองจากไฟไหม้ นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์ เพราะนั่นคือสะเก็ดแผลที่เกิดจากแผลไฟไหม้
- เลวีนิติ 13:29 - ถ้าผู้ชายหรือผู้หญิงมีแผลติดเชื้อบนหนังหัวหรือที่คาง
- เลวีนิติ 13:30 - แล้วนักบวชดูที่แผลติดเชื้อนั้น แล้วพบว่ามันกินลึกลงไปถึงเนื้อ และผมเริ่มบางลงและกลายเป็นสีเหลือง นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นเป็นคนไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคหิด เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังต่อหนังหัวและคาง
- เลวีนิติ 13:31 - ถ้านักบวชตรวจดูแผลหิดนั้น แล้วพบว่ามันไม่ถึงกับเป็นแผลลึกเข้าไปในหนัง และไม่มีผมสีดำในแผล นักบวชต้องแยกคนติดเชื้อคนนั้นออกจากประชาชนเป็นเวลาเจ็ดวัน
- เลวีนิติ 13:32 - ในวันที่เจ็ดนักบวชจะมาตรวจดูแผลอีกครั้ง ถ้าเห็นแผลไม่ลุกลาม ไม่มีผมสีเหลืองๆในแผล อีกทั้งเชื้อหิดไม่ได้กินลึกเข้าไปในเนื้อ
- เลวีนิติ 13:33 - คนๆนั้นต้องโกนผมหรือหนวดทิ้ง แต่อย่าให้ถูกแผล แล้วนักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกมาเป็นเวลาอีกเจ็ดวัน
- เลวีนิติ 13:34 - ในวันที่เจ็ดนักบวชจะตรวจดูแผลหิดอีก ถ้าเห็นเชื้อไม่ลุกลามไปบนผิวหนังและไม่มีแผลกินลึกไปในเนื้อ นักบวชจะต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์ เขาต้องเอาเสื้อผ้าไปซักล้าง แล้วเขาจะกลายเป็นคนบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:35 - แต่ถ้าเชื้อหิดนั้นเกิดลุกลามหลังจากที่นักบวชได้ประกาศว่าเขาเป็นคนบริสุทธิ์แล้ว
- เลวีนิติ 13:36 - นักบวชจะต้องตรวจสอบคนๆนั้น และถ้าพบว่าเชื้อหิดนั้นลุกลามกระจายไปบนผิวหนังจริง นักบวชไม่จำเป็นต้องตรวจหาผมสีเหลืองอีกต่อไป คนๆนั้นจะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:37 - แต่ถ้าเชื้อหิดไม่มีการเปลี่ยนแปลงและมีผมสีดำเกิดขึ้นในนั้น แสดงว่าเชื้อนั้นกำลังจะหาย คนๆนั้นจะเป็นผู้บริสุทธิ์และนักบวชจะต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:38 - ถ้าผู้ชายหรือผู้หญิงเกิดมีจุดขาวๆขึ้นเต็มตัว
- เลวีนิติ 13:39 - นักบวชต้องตรวจสอบดู ถ้าพบว่าจุดขาวเหล่านั้นเป็นเพียงสีขาวหม่นๆแสดงว่าเป็นผื่นคันธรรมดาที่ไม่เป็นอันตรายบนผิวหนัง และคนๆนั้นก็ยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์
- เลวีนิติ 13:40 - ถ้าผู้ชายผมร่วงจนหัวล้าน เขาจะยังคงบริสุทธิ์อยู่
- เลวีนิติ 13:41 - ถ้าผมเขาร่วงจากด้านหน้าไปจนหัวเขาเถิก เขาจะยังคงบริสุทธิ์อยู่
- เลวีนิติ 13:42 - แต่ถ้าเกิดมีแผลออกสีแดงเรื่อๆเกิดขึ้นบนหัวหรือบริเวณที่ผมร่วงบนหน้าผาก มันคือโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดบนหัวและหน้าผาก
- เลวีนิติ 13:43 - นักบวชต้องตรวจดูแผลเหล่านั้น ถ้าพบว่ามีแผลสดเกิดขึ้นบนหัวหรือบนหน้าผาก ที่กลายเป็นสีแดงเรื่อๆและมีลักษณะเหมือนแผลของโรคผิวหนังชนิดอันตรายที่เกิดบนร่างกายแล้ว
- เลวีนิติ 13:44 - แสดงว่าชายผู้นั้นเป็นโรคผิวหนังอันตราย เขาคือคนที่ไม่บริสุทธิ์ นักบวชต้องประกาศว่าเขาคือคนไม่บริสุทธิ์ เพราะเขาติดเชื้อที่หัว
- เลวีนิติ 13:45 - ถ้าคนๆหนึ่งเป็นโรคผิวหนังชนิดอันตราย เขาต้องฉีกเสื้อผ้าตัวเองให้ขาดและต้องไว้ผมยาว และปล่อยให้หนวดยาวรุงรัง และคอยตะโกนว่า ‘ไม่สะอาด ไม่สะอาด’
- เลวีนิติ 13:46 - คนๆนั้นจะไม่บริสุทธิ์ตลอดเวลาที่เขายังมีแผลติดเชื้อ เขาจะเป็นคนไม่บริสุทธิ์ และต้องไปอยู่คนเดียวที่นอกค่าย
- 2 พงศ์กษัตริย์ 5:14 - เขาจึงลงไปจุ่มตัวในแม่น้ำจอร์แดนถึงเจ็ดครั้ง ตามที่คนของพระเจ้าได้บอกกับเขาไว้ และผิวหนังของเขาก็กลับคืนเป็นเหมือนกับเด็ก และเขาก็หายจากโรค
- ยอห์น 11:10 - แต่ถ้าใครเดินในตอนกลางคืนก็จะสะดุดล้มเพราะไม่มีแสงสว่าง”
- มัทธิว 3:15 - แต่พระเยซูตอบว่า “ตอนนี้ ให้เป็นอย่างนี้ไปก่อน เพราะพวกเราควรทำทุกอย่างตามที่พระเจ้าต้องการ” ยอห์นถึงยอมทำพิธีจุ่มน้ำ ให้พระองค์
- ลูกา 5:14 - แล้วพระเยซูสั่งว่า “อย่าไปเล่าให้ใครฟัง แต่ไปให้นักบวชตรวจดู และถวายเครื่องบูชาตามที่โมเสสสั่งไว้ให้คนที่หายจากโรคผิวหนังร้ายแรงต้องทำเพื่อคนอื่นจะได้รู้ว่าคุณหายแล้ว”