逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - กษัตริย์เฮโรดเสียใจมาก แต่เพราะเขาได้สาบานไว้แล้วต่อหน้าแขกของเขา เฮโรดจึงสั่งให้ทำตามที่เธอต้องการ
- 新标点和合本 - 王便忧愁,但因他所起的誓,又因同席的人,就吩咐给她;
- 和合本2010(上帝版-简体) - 王就忧愁,然而因他所发的誓,又因同席的人,就下令给她;
- 和合本2010(神版-简体) - 王就忧愁,然而因他所发的誓,又因同席的人,就下令给她;
- 当代译本 - 希律感到为难,但既然在众宾客面前起了誓,只好下令给她。
- 圣经新译本 - 王就忧愁,但因为誓言和在座的宾客,就下令给她。
- 中文标准译本 - 王就忧忧愁愁,但因所起的誓,又因一同坐席的人,就下令给她。
- 现代标点和合本 - 王便忧愁,但因他所起的誓,又因同席的人,就吩咐给她。
- 和合本(拼音版) - 王便忧愁,但因他所起的誓,又因同席的人,就吩咐给她。
- New International Version - The king was distressed, but because of his oaths and his dinner guests, he ordered that her request be granted
- New International Reader's Version - The king was very upset. But he thought of his promise and his dinner guests. So he told one of his men to give her what she asked for.
- English Standard Version - And the king was sorry, but because of his oaths and his guests he commanded it to be given.
- New Living Translation - Then the king regretted what he had said; but because of the vow he had made in front of his guests, he issued the necessary orders.
- Christian Standard Bible - Although the king regretted it, he commanded that it be granted because of his oaths and his guests.
- New American Standard Bible - And although he was grieved, the king commanded it to be given because of his oaths and his dinner guests.
- New King James Version - And the king was sorry; nevertheless, because of the oaths and because of those who sat with him, he commanded it to be given to her.
- Amplified Bible - The king was distressed, but because of his oaths, and because of his dinner guests, he ordered it to be given her.
- American Standard Version - And the king was grieved; but for the sake of his oaths, and of them that sat at meat with him, he commanded it to be given;
- King James Version - And the king was sorry: nevertheless for the oath's sake, and them which sat with him at meat, he commanded it to be given her.
- New English Translation - Although it grieved the king, because of his oath and the dinner guests he commanded it to be given.
- World English Bible - The king was grieved, but for the sake of his oaths, and of those who sat at the table with him, he commanded it to be given,
- 新標點和合本 - 王便憂愁,但因他所起的誓,又因同席的人,就吩咐給她;
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 王就憂愁,然而因他所發的誓,又因同席的人,就下令給她;
- 和合本2010(神版-繁體) - 王就憂愁,然而因他所發的誓,又因同席的人,就下令給她;
- 當代譯本 - 希律感到為難,但既然在眾賓客面前起了誓,只好下令給她。
- 聖經新譯本 - 王就憂愁,但因為誓言和在座的賓客,就下令給她。
- 呂振中譯本 - 王很憂愁,只因有了起誓的話和一同坐席的人,就發命令要給;
- 中文標準譯本 - 王就憂憂愁愁,但因所起的誓,又因一同坐席的人,就下令給她。
- 現代標點和合本 - 王便憂愁,但因他所起的誓,又因同席的人,就吩咐給她。
- 文理和合譯本 - 王憂、然以誓故、又以同筵者在、乃命予之、
- 文理委辦譯本 - 王憂、然既誓、又以同席者在、乃命賜之、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 王憂、奈已發誓、又因同席者在、乃命予之、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 王愀然不樂、然礙於所誓、及在席諸賓、乃准其所請、
- Nueva Versión Internacional - El rey se entristeció, pero, a causa de sus juramentos y en atención a los invitados, ordenó que se le concediera la petición,
- 현대인의 성경 - 왕은 몹시 괴로웠으나 자기가 한 맹세와 잔치 자리에 앉아 있는 손님들 때문에 그녀의 요구를 들어주라고 명령하고
- Новый Русский Перевод - Царь опечалился, но, так как он поклялся перед возлежавшим за столом гостями, то велел исполнить ее желание.
- Восточный перевод - Царь опечалился, но так как он поклялся перед возлежавшими за столом гостями, то велел исполнить её желание.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Царь опечалился, но так как он поклялся перед возлежавшими за столом гостями, то велел исполнить её желание.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Царь опечалился, но так как он поклялся перед возлежавшими за столом гостями, то велел исполнить её желание.
- La Bible du Semeur 2015 - Cette demande attrista le roi. Mais à cause de son serment et de ses invités, il donna l’ordre de la lui accorder.
- リビングバイブル - 王は後悔しましたが、自分が誓ったことでもあり、また並み居る客の手前もあって、引っ込みがつきません。しかたなく、それを彼女に与えるように命令しました。
- Nestle Aland 28 - καὶ λυπηθεὶς ὁ βασιλεὺς διὰ τοὺς ὅρκους καὶ τοὺς συνανακειμένους ἐκέλευσεν δοθῆναι,
- unfoldingWord® Greek New Testament - καὶ ἐλυπήθη ὁ βασιλεὺς διὰ τοὺς ὅρκους καὶ τοὺς συνανακειμένους, ἐκέλευσεν δοθῆναι.
- Nova Versão Internacional - O rei ficou aflito, mas, por causa do juramento e dos convidados, ordenou que lhe fosse dado o que ela pedia
- Hoffnung für alle - Der König war bestürzt. Aber weil er sein Versprechen gegeben hatte – noch dazu vor allen Gästen –, willigte er ein und befahl,
- Kinh Thánh Hiện Đại - Hê-rốt tỏ vẻ buồn phiền, nhưng đã lỡ thề, vua không thể rút lời trước mặt quan khách, đành ra lệnh làm theo ý cô gái.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - กษัตริย์ก็เป็นทุกข์ แต่ขัดไม่ได้เพราะได้ปฏิญาณไว้และเห็นแก่หน้าแขกเหรื่อ จึงบัญชาให้เป็นไปตามที่นางขอ
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แม้เฮโรดจะเศร้าใจ แต่เป็นเพราะคำมั่นสัญญาของท่านและแขกในงาน ท่านจึงสั่งให้นำมาให้
- Thai KJV - ฝ่ายกษัตริย์เฮโรดก็เศร้าใจ แต่เพราะเหตุที่ได้ปฏิญาณไว้และเพราะเห็นแก่พวกที่เอนกายลงรับประทานด้วยกันกับท่าน จึงออกคำสั่งอนุญาตให้
交叉引用
- ลูกา 13:32 - แล้วพระเยซูก็ตอบว่า “ไปบอก ไอ้หมาจิ้งจอก นั้นด้วยว่า เราจะขับผีชั่ว และรักษาโรคต่อไปในวันนี้ พรุ่งนี้ แล้วในวันที่สามเราก็จะทำงานจนเสร็จหมด
- 1 ซามูเอล 28:10 - ซาอูลสาบานต่อหญิงคนนั้นในนามของพระยาห์เวห์ว่า “พระยาห์เวห์มีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่าเจ้าจะไม่ถูกลงโทษที่ได้ทำสิ่งนี้”
- 1 ซามูเอล 25:32 - ดาวิดพูดกับอาบีกายิลว่า “ขอสรรเสริญพระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ได้ส่งท่านมาพบเราในวันนี้
- 1 ซามูเอล 25:33 - ขอให้ท่านได้รับพร เพราะท่านคิดรอบคอบและได้ยับยั้งเราจากการนองเลือดในวันนี้ และจากการแก้แค้นด้วยมือของเราเอง
- 1 ซามูเอล 25:34 - พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลได้ยับยั้งเราจากการทำลายท่าน เพราะถ้าท่านไม่ได้มาพบเราเร็วๆอย่างนี้ พระองค์มีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่าชายทุกคนในครัวเรือนของนาบาล จะไม่เหลือรอดชีวิตสักคนถึงพรุ่งนี้เช้าแน่”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 6:31 - กษัตริย์พูดว่า “ถ้าหัวของเอลีชาลูกชายของชาฟัทยังอยู่บนบ่าของเขาในวันนี้ ขอให้พระเจ้าลงโทษเราอย่างแสนสาหัส”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 6:32 - กษัตริย์ก็เลยส่งคนตามหาเอลีชา ตอนนั้นเอลีชากำลังนั่งอยู่ในบ้านของตัวเอง และพวกผู้ใหญ่ก็นั่งอยู่กับเขาด้วย แต่ก่อนที่คนๆนั้นจะมาถึง เอลีชาพูดกับพวกผู้ใหญ่เหล่านั้นว่า “พวกท่านรู้หรือเปล่าว่า เจ้าฆาตกรคนนี้ได้ส่งคนมาตัดหัวของเรา ดูเอาไว้ เมื่อคนที่เขาส่งมานั้นมาถึง ให้ปิดประตูและขวางเขาไว้ เราได้ยินเสียงฝีเท้าของเจ้านายเขาตามหลังเขามา”
- 2 พงศ์กษัตริย์ 6:33 - ในขณะที่เขากำลังคุยอยู่กับผู้ใหญ่เหล่านั้น คนที่กษัตริย์ส่งมานั้น ก็มาถึง และกษัตริย์ก็พูดว่า “เหตุร้ายในครั้งนี้มาจากพระยาห์เวห์ แล้วเราจะยังฝากความหวังไว้กับพระยาห์เวห์อีกทำไม”
- ยอห์น 19:12 - เมื่อปีลาตได้ยินอย่างนั้น เขาก็พยายามที่จะปล่อยพระเยซูอีก แต่พวกยิวร้องตะโกนว่า “ถ้าท่านปล่อยมัน ท่านก็ไม่ใช่เพื่อนของซีซาร์ เพราะคนที่อ้างตัวเองเป็นกษัตริย์นั้นเป็นศัตรูกับซีซาร์”
- ยอห์น 19:13 - เมื่อปีลาตได้ฟังอย่างนั้นจึงพาพระเยซูออกมา และเขาก็นั่งลงบนบัลลังก์พิพากษาตรงที่เรียกว่า “ลานหิน” (ซึ่งในภาษาอารเมค เรียกว่า “กับบาธา”)
- ยอห์น 19:14 - วันนั้นเป็นวันศุกร์ เป็นวันจัดเตรียมสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อย ประมาณเที่ยงวัน ปีลาตได้บอกกับพวกยิวว่า “นี่ไง กษัตริย์ของพวกคุณ” พวกยิวร้องตะโกนว่า
- ยอห์น 19:15 - “เอาตัวไป เอาตัวไปตรึงที่กางเขน” ปีลาตจึงถามพวกเขาว่า “จะให้เราตรึงกษัตริย์ของพวกคุณหรือ” พวกหัวหน้านักบวชตอบว่า “เราไม่มีกษัตริย์อื่น นอกจากซีซาร์”
- ยอห์น 19:16 - แล้วปีลาตได้ส่งตัวพระเยซูไปให้กับทหารเพื่อเอาไปตรึงที่ไม้กางเขน แล้วพวกทหารก็มาเอาตัวพระเยซูไป
- ผู้วินิจฉัย 11:30 - เยฟธาห์สาบานต่อพระเจ้าว่า “ถ้าพระองค์ยอมให้ชาวอัมโมนตกอยู่ในกำมือของข้าพเจ้า
- ผู้วินิจฉัย 11:31 - เมื่อข้าพเจ้ากลับมาอย่างมีชัยจากอัมโมนนั้น ข้าพเจ้าจะยกสิ่งแรกที่ออกมาจากประตูบ้านข้าพเจ้าเพื่อมาพบข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะถวายสิ่งนั้นให้กับพระยาห์เวห์เป็นเครื่องเผาบูชา”
- 1 ซามูเอล 14:39 - เราขอสาบานต่อพระยาห์เวห์ ผู้ช่วยชีวิตคนอิสราเอล ถ้าแม้แต่โยนาธานลูกชายของเราเองทำบาป เขาก็ต้องตาย” ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ
- 1 ซามูเอล 14:40 - ซาอูลพูดกับคนอิสราเอลทั้งหมดว่า “พวกท่านทั้งหลายยืนอยู่ที่นั่น เราและลูกชายจะยืนอยู่ที่นี่” ประชาชนก็ตอบว่า “ทำในสิ่งที่ท่านเห็นว่าดีเถิด”
- 1 ซามูเอล 14:41 - จากนั้นซาอูลก็อธิษฐาน “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล ได้โปรดตอบข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ในวันนี้ด้วยเถิด ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล ถ้าเป็นตัวข้าพเจ้าหรือโยนาธานลูกชายข้าพเจ้าที่ได้ทำบาป ก็ขอให้สลากออกมาเป็นอูริม แต่ถ้าอิสราเอลคนของพระองค์ได้ทำบาป ก็ขอให้สลากออกมาเป็นทูมมิม”
- 1 ซามูเอล 14:42 - ซาอูลพูดว่า “โยนสลากอีกครั้งหนึ่ง ดูสิว่าระหว่างเรากับโยนาธานลูกของเรา ใครเป็นคนทำผิด” แล้วโยนาธานก็ถูกเลือก
- 1 ซามูเอล 14:43 - แล้วซาอูลได้พูดกับโยนาธานว่า “บอกพ่อซิว่า เจ้าทำอะไรลงไป” โยนาธานตอบว่า “ลูกเพียงแค่ชิมน้ำผึ้งที่ติดอยู่ที่ปลายไม้เท้าเท่านั้น ตอนนี้ ลูกก็พร้อมที่จะตายแล้ว”
- 1 ซามูเอล 14:44 - ซาอูลพูดว่า “ขอพระเจ้าลงโทษเราอย่างหนักถ้าเราไม่รักษาคำพูด โยนาธาน เจ้าจะต้องตาย”
- 1 ซามูเอล 14:45 - แต่ประชาชนพูดกับซาอูลว่า “โยนาธานสมควรจะตายอย่างนั้นหรือ เขาคือผู้นำชัยชนะอันยิ่งใหญ่มาสู่อิสราเอล ไม่มีทาง พระยาห์เวห์มีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า จะไม่มีผมสักเส้นบนหัวของเขาต้องตกพื้น เพราะเป็นพระเจ้าเองที่ช่วยเขาให้รบชนะในวันนี้” ดังนั้นประชาชนได้ช่วยชีวิตโยนาธานไว้ เขาจึงไม่ตาย
- 1 ซามูเอล 14:28 - ตอนนั้นมีทหารคนหนึ่งบอกเขาว่า “พ่อของท่านบังคับให้เหล่าทหารสาบานว่า ‘ใครที่กินอาหารวันนี้จะถูกสาปแช่ง’ นั่นเป็นเหตุที่ทำให้ผู้คนอ่อนเพลีย”
- มัทธิว 14:1 - เมื่อกษัตริย์เฮโรด ผู้ปกครองแคว้นกาลิลีได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซู
- กันดารวิถี 30:5 - แต่ถ้าพ่อของนางห้ามนาง ตอนที่ได้ยินนางสาบาน นางก็ไม่ต้องทำตามคำสาบานนั้น พระยาห์เวห์จะยกโทษให้นาง เพราะพ่อของนางได้ห้ามนางตั้งแต่แรก
- กันดารวิถี 30:6 - แต่ถ้านางได้สาบานหรือสัญญาต่อพระยาห์เวห์ แล้วไปแต่งงาน
- กันดารวิถี 30:7 - เมื่อสามีของนางรู้เข้า แต่ไม่ได้ว่าอะไรในวันที่เขาได้ยินเรื่องนี้ นางก็ต้องรักษาคำสาบานนั้น
- กันดารวิถี 30:8 - แต่ถ้าสามีของนางห้ามนาง ในวันที่เขาได้ยินเรื่องนี้ เขาก็ได้ยกเลิกคำสาบานหรือคำสัญญานั้นของนาง และพระยาห์เวห์ก็จะยกโทษให้นาง
- มัทธิว 14:5 - เฮโรดจึงอยากจะฆ่ายอห์น แต่เขาก็กลัวประชาชน เพราะประชาชนถือว่ายอห์นเป็นผู้พูดแทนพระเจ้า
- กิจการ 25:3 - ให้ช่วยส่งเปาโลมาให้กับพวกเขาที่เมืองเยรูซาเล็มด้วย (พวกเขาวางแผนที่จะซุ่มฆ่าเปาโลในระหว่างทาง)
- กิจการ 25:4 - เฟสทัสตอบว่า “เปาโลถูกควบคุมตัวอยู่ที่เมืองซีซารียา และอีกไม่กี่วันเราก็จะเดินทางไปที่เมืองนั้นแล้ว
- กิจการ 25:5 - ให้ผู้นำของท่านบางคนเดินทางลงไปกับเราสิ แล้วไปฟ้องร้องเขาที่นั่นถ้าเขาทำอะไรผิด”
- กิจการ 25:6 - หลังจากที่พักอยู่กับพวกเขาได้แปดหรือสิบวัน เฟสทัสก็เดินทางลงไปที่ซีซารียา วันรุ่งขึ้นเขานั่งบนบัลลังก์พิพากษาและสั่งให้นำเปาโลเข้ามา
- กิจการ 25:7 - ทันทีที่เปาโลมาถึง พวกคนยิวที่เดินทางมาจากเยรูซาเล็มก็มายืนล้อมเขาไว้และกล่าวหาว่าเปาโลทำผิดร้ายแรงหลายอย่าง ทั้งๆที่พวกเขาพิสูจน์ไม่ได้สักอย่าง
- กิจการ 25:8 - เปาโลต่อสู้คดีด้วยตัวเองว่า “ผมไม่ได้ทำอะไรผิดต่อกฎปฏิบัติของชาวยิว ต่อวิหาร หรือต่อซีซาร์เลย”
- กิจการ 25:9 - แต่เพราะเฟสทัสอยากจะเอาใจชาวยิว เขาจึงถามเปาโลว่า “เจ้าเต็มใจจะเดินทางไปเมืองเยรูซาเล็ม เพื่อชำระคดีนี้ต่อหน้าเราที่นั่นไหม”
- 1 ซามูเอล 25:22 - ขอให้พระเจ้าลงโทษดาวิดอย่างหนัก ถ้าถึงพรุ่งนี้เช้าข้ายังปล่อยให้ชายแม้แต่คนเดียวของมันรอดชีวิต”
- ปัญญาจารย์ 5:2 - อย่าเป็นคนปากไว ใจร้อน พูดอะไรโพล่งๆออกไปต่อหน้าพระเจ้า เจียมตัวเสียบ้างเพราะพระเจ้าอยู่บนสวรรค์ แต่เจ้าอยู่บนโลก เพราะฉะนั้นเจ้าควรจะพูดให้น้อยๆเข้าไว้
- มาระโก 6:26 - กษัตริย์เฮโรดเสียใจมาก แต่เพราะเขาได้สาบานไว้แล้วต่อหน้าแขกเป็นจำนวนมาก เฮโรดจึงไม่กล้าที่จะผิดคำพูดกับเธอ
- ผู้วินิจฉัย 21:1 - คนอิสราเอลได้สาบานกันที่มิสปาห์ว่า “พวกเราทุกคนสาบานว่าจะไม่ยกลูกสาวให้เป็นเมียของคนเบนยามิน”
- กิจการ 24:23 - เขาสั่งนายร้อยให้เฝ้าดูแลเปาโลไว้ แต่ปล่อยให้เปาโลมีอิสระพอสมควร และให้เพื่อนๆจัดหาสิ่งที่จำเป็นมาให้ได้
- กิจการ 24:24 - หลายวันต่อมา เฟลิกส์มากับดรูสิลลาภรรยาของเขาซึ่งเป็นชาวยิว เขาได้เรียกเปาโลไปพบ และฟังเปาโลพูดเกี่ยวกับความเชื่อในพระเยซูคริสต์
- กิจการ 24:25 - แต่เมื่อเปาโลพูดถึงการทำตามใจพระเจ้า การควบคุมตนเอง และการพิพากษาที่กำลังจะมาถึง เฟลิกส์ก็เกิดความกลัวขึ้นมา จึงตัดบทว่า “วันนี้พอแค่นี้ก่อน ไปได้แล้ว ไว้เรามีเวลาแล้วจะเรียกมาใหม่”
- กิจการ 24:26 - ในขณะเดียวกัน เฟลิกส์ก็หวังว่าเปาโลจะให้เงินติดสินบนเขา จึงเรียกเปาโลมาพูดคุยด้วยบ่อยๆ
- กิจการ 24:27 - สองปีผ่านไป ปอรสิอัส เฟสทัส ก็มารับตำแหน่งผู้ว่าแทนเฟลิกส์ แต่เนื่องจากเฟลิกส์อยากจะเอาใจคนยิว จึงยังคงปล่อยให้เปาโลติดอยู่ในคุก
- มัทธิว 27:17 - เมื่อประชาชนมาชุมนุมกันแล้ว ปีลาตถามพวกเขาว่า “อยากให้เราปล่อยใคร บารับบัสหรือเยซูที่เรียกกันว่าพระคริสต์”
- มัทธิว 27:18 - ปีลาตรู้ดีว่าที่พวกหัวหน้านักบวชและพวกผู้นำอาวุโสจับพระเยซูส่งมาให้กับเขานั้นมันเกิดจากความอิจฉา
- มัทธิว 27:19 - ขณะที่ปีลาตนั่งอยู่บนบัลลังก์ตัดสินคดี ภรรยาของเขาได้ส่งข้อความมาให้เขาว่า “อย่าไปยุ่งกับผู้ชายที่บริสุทธิ์คนนี้เลย เพราะเมื่อคืนฉันฝันร้ายถึงเขา ทำให้ฉันกลุ้มทั้งวัน”
- มัทธิว 27:20 - แต่พวกหัวหน้านักบวชและพวกผู้นำอาวุโสได้ยุยงประชาชนให้ขอปีลาตปล่อยบารับบัส และให้ฆ่าพระเยซู
- มัทธิว 27:21 - เจ้าเมืองถามประชาชนว่า “จะให้ปล่อยใครดีระหว่างสองคนนี้” ประชาชนตะโกนว่า “บารับบัส”
- มัทธิว 27:22 - ปีลาตถามว่า “แล้วจะให้ทำอะไรกับเยซูที่คนเรียกกันว่าพระคริสต์” พวกเขาทุกคนก็ตะโกนว่า “ตรึงมันซะ”
- มัทธิว 27:23 - ปีลาตถามว่า “ทำไม เขาทำผิดอะไรหรือ” แต่ประชาชนกลับยิ่งตะโกนดังขึ้นว่า “ตรึงมันซะ”
- มัทธิว 27:24 - เมื่อปีลาตเห็นว่าเขาทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ และเริ่มเกิดความวุ่นวายขึ้นแล้ว เขาจึงเอาน้ำมาล้างมือต่อหน้าประชาชน และพูดว่า “เราไม่เกี่ยวกับการตายของชายคนนี้ พวกคุณรับผิดชอบกันเอาเองก็แล้วกัน”
- มัทธิว 27:25 - ประชาชนทั้งหมดบอกว่า “พวกเราและลูกๆของเราจะรับผิดชอบต่อการตายของเขาเอง”
- มัทธิว 27:26 - ปีลาตก็เลยปล่อยบารับบัสให้พวกเขา จากนั้นเขาสั่งให้เฆี่ยนตีพระเยซู และส่งตัวพระองค์ไปให้กับทหารเพื่อเอาไปตรึงที่ไม้กางเขน
- มาระโก 6:20 - เพราะกษัตริย์เฮโรดกลัวยอห์น พระองค์รู้ว่ายอห์นเป็นคนที่ทำตามใจพระเจ้า และเป็นคนของพระเจ้าจริงๆ จึงปกป้องยอห์นไว้ ทุกครั้งที่เฮโรดฟังยอห์นสอนก็ลำบากใจ แต่ก็ยังชอบฟัง
- มาระโก 6:14 - กษัตริย์เฮโรด ได้ยินชื่อเสียงของพระเยซูเพราะคนพูดกันไปทั่ว บางคนพูดว่า “เขาต้องเป็นยอห์นคนทำพิธีจุ่มน้ำที่ฟื้นขึ้นจากความตายแน่ๆถึงทำการอัศจรรย์พวกนี้ได้”
- 1 ซามูเอล 14:24 - แต่ซาอูลได้ทำผิดอย่างใหญ่หลวงในวันนั้น คนอิสราเอลทั้งเหน็ดเหนื่อยและหิวจัด เพราะซาอูลได้บังคับประชาชนให้สาบานว่า “ใครก็ตามที่กินอาหารก่อนค่ำและก่อนที่เราจะได้แก้แค้นศัตรูของเรา ขอให้ถูกสาปแช่ง” ดังนั้นจึงไม่มีใครในกองทัพได้กินอาหารเลย
- ผู้วินิจฉัย 21:7 - เราจะทำยังไงดีที่จะหาเมียให้กับคนเบนยามินที่เหลือ เพราะพวกเราได้สาบานไว้กับพระยาห์เวห์ว่า เราจะไม่ยกลูกสาวของพวกเราให้เป็นเมียของพวกเขา”
- ผู้วินิจฉัย 21:8 - แล้วชาวอิสราเอลก็ถามกันว่า “มีคนในเผ่าไหนบ้างของอิสราเอล ที่ไม่ได้ขึ้นมาเฝ้าพระยาห์เวห์ที่มิสปาห์” จริงๆแล้วไม่มีคนจากเมืองยาเบช-กิเลอาดมาประชุมที่ค่ายเลยสักคนเดียว
- ผู้วินิจฉัย 21:9 - เมื่อประชาชนขานชื่อกัน ไม่มีชาวเมืองยาเบช-กิเลอาดอยู่ที่นั่นเลยสักคนเดียว
- ผู้วินิจฉัย 21:10 - ที่ชุมนุมชนจึงได้ส่งทหารหนึ่งหมื่นสองพันคนไปที่นั่น และสั่งพวกทหารว่า “ไปฆ่าชาวเมืองยาเบช-กิเลอาดด้วยดาบให้หมด รวมทั้งผู้หญิงและเด็ก
- ผู้วินิจฉัย 21:11 - ให้พวกเจ้าทำอย่างนี้ คือ พวกเจ้าจะต้องฆ่าผู้ชายทุกคน และผู้หญิงทุกคนที่เคยร่วมหลับนอนกับผู้ชายมาแล้ว เหลือไว้แต่หญิงสาวบริสุทธิ์เท่านั้น” และพวกเขาก็ได้ทำตามนั้น
- ผู้วินิจฉัย 21:12 - พวกเขาได้พบหญิงสาวชาวเมืองยาเบช-กิเลอาดสี่ร้อยคนที่ยังบริสุทธิ์ไม่เคยร่วมหลับนอนกับผู้ชายมาก่อน พวกเขาจึงพาพวกเธอมาที่ค่ายในชิโลห์ ซึ่งตั้งอยู่ในแผ่นดินคานาอัน
- ผู้วินิจฉัย 21:13 - แล้วที่ชุมนุมชนทั้งหมดก็ได้ส่งข่าวไปให้กับคนเบนยามินที่อยู่ที่ก้อนหินริมโมน และประกาศสงบศึกกับพวกเขา
- ผู้วินิจฉัย 21:14 - แล้วคนเบนยามินก็ได้กลับมา ชาวอิสราเอลก็ได้ยกผู้หญิงที่พวกเขาได้ไว้ชีวิตจากพวกผู้หญิงที่ยาเบช-กิเลอาด ให้กับคนเบนยาบิน แต่ก็มีผู้หญิงไม่พอ
- ผู้วินิจฉัย 21:15 - ประชาชนสงสารคนเบนยามิน เพราะพระยาห์เวห์ได้ทำให้เผ่าหนึ่งโหว่หายไปท่ามกลางเผ่าต่างๆของอิสราเอล
- ผู้วินิจฉัย 21:16 - พวกผู้นำอาวุโสของชุมนุมชนได้พูดว่า “เราจะทำยังไงดีเพื่อหาเมียให้กับพวกผู้ชายที่เหลืออยู่ เพราะพวกผู้หญิงของเบนยามินถูกฆ่าตายหมดแล้ว”
- ผู้วินิจฉัย 21:17 - พวกเขาทั้งหลายพูดว่า “ขอให้ชาวเบนยามินที่รอดตายพวกนี้ได้สืบเชื้อสายต่อไป เพื่อเผ่านี้จะได้ไม่ถูกลบล้างไปจากอิสราเอล
- ผู้วินิจฉัย 21:18 - แต่เราก็ไม่สามารถยกลูกสาวให้เป็นเมียพวกเขาได้” เพราะคนอิสราเอลได้สาบานไว้แล้วว่า “ใครก็ตามที่ให้ผู้หญิงไปเป็นเมียกับคนเบนยามินจะต้องถูกสาปแช่ง”
- ผู้วินิจฉัย 21:19 - แล้วพวกเขาก็พูดว่า “ดูสิ จะมีเทศกาลประจำปี เพื่อถวายเกียรติให้กับพระยาห์เวห์ที่ชิโลห์ ซึ่งอยู่ทางเหนือของเมืองเบธเอล ไปทางตะวันออกของถนนสายหลักจากเบธเอลถึงเชเคม และอยู่ทางตอนใต้ของเลโบนาห์”
- ผู้วินิจฉัย 21:20 - เขาจึงแนะนำคนเบนยามินว่า “ให้ไปซุ่มคอยอยู่ตามสวนองุ่น
- ผู้วินิจฉัย 21:21 - เมื่อลูกสาวชาวชิโลห์ออกมาเต้นรำในงานเต้นรำ พวกเจ้าก็ออกมาจากสวนองุ่น และเข้าไปฉุดลูกสาวของชาวชิโลห์ไปเป็นเมียของพวกเจ้าแต่ละคน แล้วให้กลับไปที่แผ่นดินเบนยามินซะ”
- ผู้วินิจฉัย 21:22 - เมื่อพ่อและพี่น้องของพวกเขามาบ่นต่อพวกเรา พวกเราจะตอบว่า “สงสารคนเบนยามินด้วยเถอะ คิดว่าเห็นแก่พวกเราก็แล้วกัน ในช่วงสงครามนั้น พวกเราได้ผู้หญิงมาไม่พอให้กับพวกเขา และพวกท่านเองก็ไม่ได้ยกลูกสาวให้กับพวกเขาซะหน่อย เพราะถ้าทำอย่างนั้นพวกท่านก็จะมีความผิด”
- ผู้วินิจฉัย 21:23 - แล้วคนเบนยามินก็ทำตามนั้น พวกเขาก็หาเมียของแต่ละคนจากพวกนางเต้นรำที่พวกเขาฉุดมา แล้วพวกเขาก็จากไปและกลับไปยังแผ่นดินที่เป็นมรดกของพวกเขา และพวกเขาก็ได้สร้างเมืองขึ้นใหม่และตั้งรกรากอยู่ที่นั่น
- ดาเนียล 6:14 - เมื่อกษัตริย์ได้ยินอย่างนั้นก็กลุ้มใจมาก พระองค์รีบหาทางช่วยชีวิตดาเนียลทันที พระองค์พยายามอยู่จนตะวันตกดิน
- ดาเนียล 6:15 - หลังจากนั้น คนกลุ่มเดิมก็เข้ามาเฝ้ากษัตริย์และพูดว่า “ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์ก็รู้อยู่แล้วถึงกฎของคนมีเดียและคนเปอร์เซียว่า กฎและข้อห้ามทุกอย่าง ที่ออกโดยกษัตริย์ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”
- ดาเนียล 6:16 - ดังนั้นกษัตริย์จึงสั่งให้พวกเขาไปจับตัวดาเนียลโยนลงไปในถ้ำสิงโต กษัตริย์พูดกับดาเนียลว่า “ขอให้พระเจ้าที่เจ้ารับใช้อยู่ตลอดเวลานั้น ช่วยชีวิตของเจ้าด้วยเถอะ”
- ผู้วินิจฉัย 11:39 - เมื่อครบสองเดือนเธอก็กลับมาหาพ่อ และเขาก็ทำกับลูกสาวตามที่เขาได้สาบานไว้ ขณะนั้นลูกสาวเขายังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหนเลย และมันได้กลายเป็นธรรมเนียมในอิสราเอล