逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - พระยาห์เวห์ลงโทษข้าพเจ้าอย่างหนัก แต่ไม่ถึงตาย
- 新标点和合本 - 耶和华虽严严地惩治我, 却未曾将我交于死亡。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 耶和华虽严严地惩治我, 却未曾将我交于死亡。
- 和合本2010(神版-简体) - 耶和华虽严严地惩治我, 却未曾将我交于死亡。
- 当代译本 - 耶和华虽然重重地惩罚我, 却没有置我于死地。
- 圣经新译本 - 耶和华虽严厉地管教我, 却没有把我置于死地。
- 中文标准译本 - 耶和华虽严厉地管教我, 但没有把我交于死亡。
- 现代标点和合本 - 耶和华虽严严地惩治我, 却未曾将我交于死亡。
- 和合本(拼音版) - 耶和华虽严严地惩治我, 却未曾将我交于死亡。
- New International Version - The Lord has chastened me severely, but he has not given me over to death.
- New International Reader's Version - The Lord has really punished me. But he didn’t let me die.
- English Standard Version - The Lord has disciplined me severely, but he has not given me over to death.
- New Living Translation - The Lord has punished me severely, but he did not let me die.
- Christian Standard Bible - The Lord disciplined me severely but did not give me over to death.
- New American Standard Bible - The Lord has disciplined me severely, But He has not turned me over to death.
- New King James Version - The Lord has chastened me severely, But He has not given me over to death.
- Amplified Bible - The Lord has disciplined me severely, But He has not given me over to death.
- American Standard Version - Jehovah hath chastened me sore; But he hath not given me over unto death.
- King James Version - The Lord hath chastened me sore: but he hath not given me over unto death.
- New English Translation - The Lord severely punished me, but he did not hand me over to death.
- World English Bible - Yah has punished me severely, but he has not given me over to death.
- 新標點和合本 - 耶和華雖嚴嚴地懲治我, 卻未曾將我交於死亡。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 耶和華雖嚴嚴地懲治我, 卻未曾將我交於死亡。
- 和合本2010(神版-繁體) - 耶和華雖嚴嚴地懲治我, 卻未曾將我交於死亡。
- 當代譯本 - 耶和華雖然重重地懲罰我, 卻沒有置我於死地。
- 聖經新譯本 - 耶和華雖嚴厲地管教我, 卻沒有把我置於死地。
- 呂振中譯本 - 永恆主 雖嚴嚴懲罰我, 卻未曾將我交於死亡。
- 中文標準譯本 - 耶和華雖嚴厲地管教我, 但沒有把我交於死亡。
- 現代標點和合本 - 耶和華雖嚴嚴地懲治我, 卻未曾將我交於死亡。
- 文理和合譯本 - 耶和華懲我以嚴、惟未致我於死兮、
- 文理委辦譯本 - 耶和華督責我、惟不置我於死地兮。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 主雖嚴以懲治我、仍未曾交我於死亡、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 主之懲我。允其厲矣。未至於死。亦其慈矣。
- Nueva Versión Internacional - El Señor me ha castigado con dureza, pero no me ha entregado a la muerte.
- 현대인의 성경 - 여호와께서 나를 엄하게 벌하셨으나 나를 죽게 하지는 않으셨다.
- Новый Русский Перевод - Открой мне глаза, чтобы мне увидеть чудеса Закона Твоего.
- Восточный перевод - Открой мне глаза, чтобы мне увидеть чудеса Закона Твоего.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Открой мне глаза, чтобы мне увидеть чудеса Закона Твоего.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Открой мне глаза, чтобы мне увидеть чудеса Закона Твоего.
- La Bible du Semeur 2015 - L’Eternel m’a châtié ╵avec sévérité, mais sans me livrer à la mort .
- リビングバイブル - 主は私を懲らしめましたが、 死には渡されませんでした。
- Nova Versão Internacional - O Senhor me castigou com severidade, mas não me entregou à morte.
- Hoffnung für alle - Er hat mich hart bestraft, doch er ließ nicht zu, dass ich umkam.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Chúa Hằng Hữu trừng phạt tôi nặng biết bao, nhưng không để cho tôi phải chết.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตีสอนข้าพเจ้าอย่างหนัก แต่ไม่ได้ทรงมอบข้าพเจ้าให้แก่ความตาย
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พระผู้เป็นเจ้าลงโทษข้าพเจ้าอย่างหนัก แต่พระองค์ไม่ได้ปล่อยให้ข้าพเจ้าตาย
- Thai KJV - พระเยโฮวาห์ทรงตีสอนข้าพเจ้าอย่างหนัก แต่พระองค์ไม่ทรงมอบข้าพเจ้าไว้กับมัจจุราช
交叉引用
- 2 ซามูเอล 16:1 - เมื่อดาวิดผ่านยอดเขาไปได้ระยะหนึ่ง ศิบาคนรับใช้ของเมฟีโบเชทกำลังคอยเขาอยู่ที่นั่น เขามีลาที่ผูกอานไว้แล้วคู่หนึ่ง บรรทุกขนมปังไว้สองร้อยก้อน เค้กองุ่นแห้งหนึ่งร้อยก้อน เค้กผลไม้ฤดูร้อนหนึ่งร้อยก้อนและถุงหนังใส่เหล้าองุ่นอีกหนึ่งถุง
- 2 ซามูเอล 16:2 - กษัตริย์ถามศิบาว่า “เจ้านำของเหล่านี้มาทำไม” ศิบาตอบว่า “ลาพวกนี้สำหรับครอบครัวของกษัตริย์ขี่ ขนมปังและผลไม้ไว้ให้คนเหล่านี้กินและเหล้าองุ่นสำหรับคนที่เหนื่อยดื่มให้เกิดความสดชื่นในทะเลทราย”
- 2 ซามูเอล 16:3 - กษัตริย์จึงถามว่า “เมฟีโบเชท หลานของนายเจ้าอยู่ที่ไหน” ศิบาบอกเขาว่า “เขายังอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม เพราะเขาคิดว่า ‘วันนี้ครอบครัวอิสราเอลจะคืนอาณาจักรของพ่อเราให้กับเรา’”
- 2 ซามูเอล 16:4 - กษัตริย์จึงพูดกับศิบาว่า “ตอนนี้ทุกอย่างที่เคยเป็นของเมฟีโบเชทก็ตกเป็นของเจ้าแล้ว” ศิบาพูดว่า “ข้าพเจ้าขอกราบท่าน ขอให้ข้าพเจ้าได้รับความกรุณาในสายตาของท่าน กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า”
- 2 ซามูเอล 16:5 - เมื่อกษัตริย์ดาวิดมาถึงเมืองบาฮูริม ชายคนหนึ่งที่มาจากตระกูลเดียวกับครอบครัวซาอูลออกมาจากที่นั่น เขาชื่อชิเมอีลูกชายเกรา เขาเดินไปและสาปแช่งดาวิดไปด้วย
- 2 ซามูเอล 16:6 - เขาขว้างปาก้อนหินใส่ดาวิดกับเจ้าหน้าที่ของเขา แต่มีกองทหารป้องกันอยู่ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของดาวิด
- 2 ซามูเอล 16:7 - ชิเมอีสาปแช่งดาวิดว่า “ออกไป ออกไป ไอ้ฆาตกร ไอ้คนถ่อย
- 2 ซามูเอล 16:8 - พระยาห์เวห์ได้ตอบแทนเจ้าแล้ว ที่เจ้าทำให้เลือดของครอบครัวซาอูลต้องไหลนองในที่ที่เจ้าได้ปกครอง พระยาห์เวห์มอบอาณาจักรนั้นให้กับอับซาโลมลูกชายเจ้าแล้ว เจ้าถูกทำลายแล้วเพราะเจ้ามันเป็นไอ้ฆาตกร”
- 2 ซามูเอล 16:9 - อาบีชัยลูกชายนางเศรุยาห์จึงพูดกับกษัตริย์ว่า “ทำไมถึงปล่อยให้เจ้าหมาตายตัวนี้มาสาปแช่งกษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า ให้ข้าพเจ้าออกไปตัดหัวมันเถิด”
- 2 ซามูเอล 16:10 - แต่กษัตริย์พูดว่า “พวกลูกชายนางเศรุยาห์เอ๋ย มันเรื่องอะไรของพวกเจ้า ใช่แล้วชิเมอีกำลังสาปแช่งเรา แต่อาจจะเป็นเพราะพระยาห์เวห์บอกเขาว่า ‘ไปสาปแช่งดาวิดซะ’ แล้วมีประโยชน์อะไรที่จะไปถามเขาว่า ‘ทำไมเจ้าถึงทำอย่างนี้’”
- 2 ซามูเอล 16:11 - ดาวิดจึงพูดกับอาบีชัยและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของเขาว่า “ขนาดลูกชายของเราที่เป็นเลือดเนื้อของเราเอง ยังพยายามจะเอาชีวิตเราเลย แล้วนับประสาอะไรกับชาวเบนยามินคนนี้ ปล่อยเขาไปเถิด ให้เขาสาปแช่งไป เพราะพระยาห์เวห์บอกให้เขาทำอย่างนั้น
- 2 ซามูเอล 16:12 - ไม่แน่ บางทีพระยาห์เวห์อาจเห็นความทุกข์ของเราและตอบแทนเราด้วยสิ่งดีๆแทนคำสาปแช่งที่เราได้รับในวันนี้ก็ได้”
- 2 ซามูเอล 16:13 - ดังนั้นดาวิดกับคนของเขาจึงเดินทางต่อไปตามถนน ในขณะที่ชิเมอีก็เดินไปตามข้างเนินเขาด้านตรงข้ามเขา ขว้างก้อนหินดินทรายไปและสาปแช่งดาวิดไป
- 2 ซามูเอล 16:14 - กษัตริย์และประชาชนทั้งหมดมาถึงแม่น้ำจอร์แดนด้วยความเหนื่อยล้า และพวกเขาก็ได้พักผ่อนกันที่นั่น
- 2 ซามูเอล 16:15 - ในขณะนั้นอับซาโลมและคนอิสราเอลทั้งหมดมาถึงเยรูซาเล็มและอาหิโธเฟลก็อยู่กับเขาด้วย
- 2 ซามูเอล 16:16 - แล้ว หุชัยชาวอารคี เพื่อนของดาวิดก็ไปหาอับซาโลมและพูดกับเขาว่า “กษัตริย์จงเจริญ กษัตริย์จงเจริญ”
- 2 ซามูเอล 16:17 - อับซาโลมถามหุชัยว่า “เจ้าแสดงความจงรักภักดีต่อดาวิดเพื่อนของเจ้าอย่างนี้หรือ ทำไมเจ้าถึงไม่ไปกับเพื่อนของเจ้า”
- 2 ซามูเอล 16:18 - หุชัยพูดกับอับซาโลมว่า “ไม่ไปหรอก ข้าพเจ้าจะอยู่กับคนที่พระยาห์เวห์เลือก ประชาชนและคนอิสราเอลเหล่านี้เลือกท่าน ข้าพเจ้าก็จะอยู่กับท่านตลอดไป
- 2 ซามูเอล 16:19 - ในอดีต ข้าพเจ้าเคยรับใช้พ่อของท่าน ตอนนี้ ข้าพเจ้าก็สมควรจะรับใช้ท่าน ลูกชายของดาวิด ไม่ใช่หรือ”
- 2 ซามูเอล 16:20 - อับซาโลมพูดกับอาหิโธเฟลว่า “ช่วยแนะนำหน่อย ว่าพวกเราควรจะทำอย่างไร”
- 2 ซามูเอล 16:21 - อาหิโธเฟลตอบว่า “ไปนอนกับเมียน้อย ของพ่อท่านที่ยังอยู่ดูแลวังสิ แล้วอิสราเอลทั้งหมดจะได้รู้ว่าท่านทำตัวเป็นศัตรูกับพ่อของท่าน แล้วพวกเขาทุกคนที่อยู่กับท่านจะได้กล้าขึ้นและสนับสนุนท่านอย่างเต็มที่”
- 2 ซามูเอล 16:22 - พวกเขาจึงตั้งเต็นท์ให้อับซาโลมบนดาดฟ้า และอับซาโลมก็นอนกับเมียน้อยของพ่อเขาท่ามกลางสายตาของชาวอิสราเอล
- 2 ซามูเอล 16:23 - ในสมัยนั้นคำแนะนำที่มาจากอาหิโธเฟล ถือกันว่าเป็นเหมือนคำแนะนำที่มาจากพระเจ้า นั่นเป็นเหตุที่ทั้งดาวิดและอับซาโลมให้ความเคารพนับถือในคำแนะนำทั้งหมดของอาหิโธเฟล
- 2 โครินธ์ 1:9 - เราคิดอยู่ในใจเหมือนว่าเราถูกตัดสินให้ประหารชีวิตแล้ว แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นก็เพื่อเราจะได้ไม่พึ่งตนเอง แต่พึ่งพระเจ้าผู้ทำให้คนตายฟื้นขึ้นมา
- 2 โครินธ์ 1:10 - พระเจ้าช่วยให้เราพ้นจากอันตรายอันใหญ่หลวงและพระองค์ก็จะช่วยชีวิตเราต่อไป เรามีความหวังในพระองค์ว่า พระองค์จะช่วยชีวิตเราต่อไปในอนาคต
- 2 โครินธ์ 1:11 - พวกคุณก็ช่วยเราได้ด้วยการอธิษฐาน แล้วคนจำนวนมากก็จะขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ได้ช่วยชีวิตเรา ตามที่คุณอธิษฐานนั้น
- สดุดี 66:10 - ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ได้ทดสอบพวกเรา พระองค์ได้หลอมพวกเราให้บริสุทธิ์เหมือนช่างเงินหลอมเงิน
- สดุดี 66:11 - พระองค์นำพวกเราไปติดกับดัก และเอาภาระหนักใส่หลังของเรา
- สดุดี 66:12 - พระองค์ทำให้รถรบของศัตรูวิ่งทับหัวเราไป พวกเราลุยน้ำลุยไฟ แต่ในที่สุด พระองค์นำพวกเราไปสู่ที่โล่งกว้างอันปลอดภัย
- โยนาห์ 2:6 - ข้าพเจ้าจมลึกลงไปถึงรากของภูเขา ข้าพเจ้าไปถึงโลกของคนตาย กลอนประตูนั้นปิดขังข้าพเจ้าไว้ตลอดกาล ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ยกข้าพเจ้าขึ้นมาจากหลุม
- 2 ซามูเอล 12:10 - ดังนั้น ตอนนี้ ดาบเล่มนั้นจะไม่มีวันหายไปจากบ้านของเจ้า เพราะเจ้าดูหมิ่นเราและเอาเมียของอุรียาห์ชาวฮิตไทต์มาเป็นเมียของเจ้าเอง’
- ฮีบรู 12:10 - พ่อของเราที่เป็นมนุษย์จะตีสอนเราแค่ชั่วคราวตามที่เห็นว่าควร แต่พระเจ้าจะตีสอนเราเพื่อประโยชน์ของเรา เพื่อเราจะได้มีลักษณะเหมือนพระองค์
- ฮีบรู 12:11 - ตอนที่ถูกตีสอนนั้น ไม่มีใครชอบหรอกเพราะมันเจ็บ แต่ภายหลังการตีสอนนั้นจะฝึกฝนเรา แล้วผลที่ออกมาก็คือสันติสุข และชีวิตที่พระเจ้าชอบใจ
- 2 ซามูเอล 13:1 - ดาวิดมีลูกคนหนึ่งชื่ออับซาโลม อับซาโลมมีน้องสาวที่สวยมากคนหนึ่งชื่อทามาร์ ในเวลานั้น ลูกชายอีกคนหนึ่งของดาวิดชื่ออัมโนน ได้หลงรักทามาร์
- 2 ซามูเอล 13:2 - ทามาร์เป็นสาวบริสุทธิ์ อัมโนนรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำอะไรกับนาง แต่เขาหลงรักนางมาก จนเป็นไข้ใจ
- 2 ซามูเอล 13:3 - อัมโนนมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อโยนาดับเป็นลูกชายชิเมอาห์ ชิเมอาห์เป็นพี่ชายของดาวิด โยนาดับเป็นคนฉลาดเจ้าเล่ห์
- 2 ซามูเอล 13:4 - เขาถามอัมโนนว่า “บอกเราหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมลูกกษัตริย์อย่างท่านจึงดูซูบซีดลงทุกวันๆ” อัมโนนบอกกับเขาว่า “เราหลงรักทามาร์ น้องสาวของอับซาโลมน้องชายเรา”
- 2 ซามูเอล 13:5 - โยนาดับบอกว่า “ไปนอนที่เตียงแล้วแกล้งทำเป็นไม่สบายสิ แล้วเมื่อพ่อของท่านมาเยี่ยม ให้บอกเขาว่า ‘ลูกอยากให้ทามาร์น้องสาวลูกมาเยี่ยม และเอาของมาให้ลูกกิน ขอให้น้องมาทำอาหารต่อหน้าลูก เพื่อลูกจะได้ดูน้องทำ และได้กินจากมือของน้อง’”
- 2 ซามูเอล 13:6 - อัมโนนจึงนอนลงและแกล้งทำเป็นไม่สบาย เมื่อกษัตริย์มาเยี่ยมเขา อัมโนนพูดว่า “ลูกอยากให้ทามาร์น้องสาวลูกมาเยี่ยม และมาทำขนมปังพิเศษให้ลูกดู เพื่อลูกจะได้กินจากมือของน้อง”
- 2 ซามูเอล 13:7 - ดาวิดจึงสั่งคนไปบอกทามาร์ที่วังว่า “ให้ไปที่บ้านของอัมโนนพี่ชายของเจ้า และไปทำอาหารให้เขากิน”
- 2 ซามูเอล 13:8 - ทามาร์จึงไปบ้านอัมโนนพี่ชายของนางซึ่งกำลังนอนอยู่ นางเอาแป้งดิบ ไปด้วย นางนวดมัน ทำเป็นขนมปังให้เขาดูและอบมัน
- 2 ซามูเอล 13:9 - แล้วนางก็เอากระทะนั้นออกมาและยกขนมปังไปให้เขา แต่เขาไม่ยอมกิน อัมโนนบอกว่า “ให้ทุกคนออกไปจากที่นี่” ทุกคนจึงออกไป
- 2 ซามูเอล 13:10 - แล้วอัมโนนพูดกับทามาร์ว่า “นำอาหารมาให้พี่ในห้องนอนของพี่ พี่จะได้กินมันจากมือของน้อง”
- 2 ซามูเอล 13:11 - แต่เมื่อนางนำมันเข้ามาเพื่อจะให้เขากิน เขาจับนางเอาไว้และพูดว่า “น้องพี่ มานอนกับพี่เถิด”
- 2 ซามูเอล 13:12 - “อย่านะพี่” นางพูดกับเขา “อย่าบังคับน้องเลย เรื่องอย่างนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในอิสราเอล อย่าทำสิ่งชั่วร้ายอย่างนี้เลย
- 2 ซามูเอล 13:13 - ตัวน้องเอง จะขจัดความน่าละอายนี้ไปได้อย่างไรกัน ส่วนตัวพี่ พี่จะเป็นเหมือนคนบ้าที่ชั่วร้ายในอิสราเอล ได้โปรดไปพูดกับกษัตริย์เถิด เขาจะไม่ยั้งน้องไว้จากพี่หรอก”
- 2 ซามูเอล 13:14 - แต่เขาไม่ยอมฟังนาง และเพราะเขาแข็งแรงกว่านาง เขาจึงข่มขืนนาง
- 2 ซามูเอล 13:15 - แล้วความรู้สึกของอัมโนนกลับเปลี่ยนเป็นเกลียดนางอย่างรุนแรง อันที่จริงแล้ว ความเกลียดของเขานั้นมากยิ่งกว่าความรักที่เขามีต่อนางในตอนแรก อัมโนนพูดกับนางว่า “ออกไปซะ”
- 2 ซามูเอล 13:16 - แต่นางตอบเขาไปว่า “อย่าทำอย่างนั้นเลยพี่ ถ้าพี่ไล่น้องไป พี่จะยิ่งมีความผิดมากกว่าสิ่งที่พี่ได้ทำกับน้องมาแล้ว”
- 2 ซามูเอล 13:17 - เขาเรียกคนรับใช้ส่วนตัวของเขามาและบอกว่า “เอาหญิงคนนี้ออกไปจากที่นี่และลงกลอนประตูเสียด้วย”
- 2 ซามูเอล 13:18 - คนรับใช้ของเขาจึงเอาตัวนางออกไปและลงกลอนประตูตามหลังนาง
- 2 ซามูเอล 13:19 - ทามาร์เอาขี้เถ้าโปรยบนหัวของนางและฉีกเสื้อที่มีเครื่องประดับที่นางกำลังสวมอยู่นั้นออก นางเอามือกุมหัวไว้แล้วเดินจากไปและร้องไห้ด้วยเสียงอันดัง ไปด้วย
- 2 ซามูเอล 13:20 - อับซาโลมพี่ชายของนางพูดกับนางว่า “อัมโนนพี่ชายของน้องนอนกับน้องหรือ เงียบเสียเถิด น้องของพี่ เขาเป็นพี่ชายของน้อง อย่าไปคิดมากในเรื่องนี้” และทามาร์ก็อาศัยอยู่ในบ้านของอับซาโลมพี่ชายนาง เป็นหญิงที่ถูกทอดทิ้ง
- 2 ซามูเอล 13:21 - เมื่อกษัตริย์ดาวิดได้ยินเรื่องนี้ เขาโกรธมาก แต่ไม่ยอมลงโทษอัมโนนลูกชายของเขาเพราะดาวิดรักเขามาก และเขาเป็นบุตรหัวปี
- 2 ซามูเอล 13:22 - ส่วนอับซาโลมไม่ได้พูดกับอัมโนนแม้แต่คำเดียว ไม่ว่าจะพูดดีหรือพูดร้าย เขาเกลียดอัมโนนมาก เพราะอัมโนนได้ข่มขืนทามาร์น้องสาวของเขา
- 2 ซามูเอล 13:23 - ผ่านไปสองปีเต็ม อับซาโลมได้จัดงานตัดขนแกะของเขาขึ้นที่บาอัล-ฮาโซร์ใกล้เขตแดนเอฟราอิม เขาเชิญลูกชายทุกคนของกษัตริย์มาที่งานนั้น
- 2 ซามูเอล 13:24 - อับซาโลมไปหากษัตริย์และพูดว่า “ลูกผู้รับใช้ของพ่อได้จัดงานตัดขนแกะขึ้น ขอเชิญท่านพ่อ และเจ้าหน้าที่ของท่านพ่อมาร่วมงานกับลูกด้วยเถิด”
- 2 ซามูเอล 13:25 - กษัตริย์ตอบว่า “ไม่ได้หรอกลูก อย่าให้พวกเราไปกันหมดทุกคนเลย จะไปเป็นภาระของลูกเปล่าๆ” แม้ว่าอับซาโลมจะรบเร้าต่อ กษัตริย์ยังคงไม่ยอมไป แต่ได้ให้พรเขาไป
- 2 ซามูเอล 13:26 - อับซาโลมจึงพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ขออนุญาตให้อัมโนนพี่ชายของลูกไปกับลูกด้วยเถิด” กษัตริย์ถามเขาว่า “ทำไมเขาต้องไปกับลูกด้วย”
- 2 ซามูเอล 13:27 - แต่อับซาโลมก็คงรบเร้าดาวิด ดาวิดจึงส่งอัมโนนและลูกชายที่เหลือของดาวิดไปกับอับซาโลม และอับซาโลมได้จัดงานเลี้ยงเหมือนกับงานเลี้ยงของกษัตริย์
- 2 ซามูเอล 13:28 - แล้วอับซาโลมสั่งคนของเขาว่า “ฟังให้ดี เมื่ออัมโนนดื่มเหล้าองุ่นจนเมาได้ที่แล้ว และเราสั่งกับพวกเจ้าว่า ‘ฆ่ามัน’ ให้ฆ่ามันซะ อย่ากลัวเลย เพราะเราเองเป็นคนสั่งให้พวกเจ้าทำ ให้เข้มแข็งและกล้าหาญไว้”
- 2 ซามูเอล 13:29 - คนของอับซาโลมทำกับอัมโนนตามที่อับซาโลมสั่งพวกเขาไว้ แล้วพวกลูกชายกษัตริย์ที่เหลือต่างก็ขึ้นล่อของตนหนีไป
- 2 ซามูเอล 13:30 - ในขณะที่พวกเขาเดินทางอยู่ ก็มีรายงานมาถึงดาวิดว่า “อับซาโลมฆ่าลูกชายของกษัตริย์จนหมดไม่เหลือแม้แต่คนเดียว”
- 2 ซามูเอล 13:31 - กษัตริย์ยืนขึ้น ฉีกเสื้อผ้าของเขาและลงนอนกับพื้นดิน และคนรับใช้ทั้งหมดของเขาที่ยืนอยู่ข้างเขาก็ฉีกเสื้อผ้าด้วย
- 2 ซามูเอล 13:32 - แต่โยนาดับลูกชายชิเมอาห์ที่เป็นพี่ชายของดาวิดบอกว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า อย่าได้คิดว่าพวกเขาฆ่าเจ้าชายทุกคน เพราะมีแต่อัมโนนเท่านั้นที่ตาย นี่เป็นความตั้งใจของอับซาโลมตั้งแต่อัมโนนข่มขืนทามาร์น้องสาวเขาแล้ว
- 2 ซามูเอล 13:33 - กษัตริย์ เจ้านายของข้าพเจ้า อย่าได้คิดมากเลยที่ว่า ลูกชายทุกคนของท่านตายหมด เพราะมีแต่อัมโนนเท่านั้นที่ตาย”
- 2 ซามูเอล 13:34 - ในขณะเดียวกัน อับซาโลมได้หลบหนีไป
- 2 ซามูเอล 13:35 - โยนาดับบอกกษัตริย์ว่า “ดูเถิด พวกลูกชายของท่านมาแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามที่ข้าพเจ้าผู้รับใช้ท่านได้บอกไว้”
- 2 ซามูเอล 13:36 - เมื่อเขาพูดจบ พวกลูกชายของกษัตริย์ก็มาถึง ต่างร้องไห้คร่ำครวญด้วยเสียงอันดัง กษัตริย์และคนรับใช้เขาทั้งหมดก็ร้องไห้อย่างขมขื่นเหมือนกัน
- 2 ซามูเอล 13:37 - กษัตริย์ดาวิดไว้ทุกข์ให้กับลูกชายของเขาทุกวัน
- 2 ซามูเอล 13:38 - หลังจากอับซาโลมหลบหนีไปเมืองเกชูร์ เขาอยู่ที่นั่นสามปี
- 2 ซามูเอล 13:39 - และกษัตริย์ดาวิดก็คิดถึงอับซาโลมมาก เพราะเขาเริ่มสบายใจขึ้นแล้วในเรื่องการตายของอัมโนน
- สดุดี 94:12 - ข้าแต่พระยาห์เวห์ คนที่พระองค์ตีสอนนั้น ถือว่ามีเกียรติจริงๆ คือคนที่พระองค์ต่อว่าด้วยกฎของพระองค์
- สดุดี 94:13 - พระองค์ให้เขาได้รับการบรรเทาในช่วงที่มีปัญหา จนกว่าพระองค์จะขุดหลุมของคนชั่วให้เสร็จ
- สุภาษิต 3:11 - ลูกเอ๋ย อย่าดูหมิ่นการตีสอนของพระยาห์เวห์ และอย่าได้ขุ่นเคืองเมื่อพระองค์ตักเตือน
- สุภาษิต 3:12 - เพราะพระยาห์เวห์จะตักเตือนคนที่พระองค์รัก เหมือนกับพ่อที่เตือนลูกที่เขาภาคภูมิใจ
- โยบ 33:16 - ในเวลานั้นเอง พระองค์เปิดหูพวกเขา และเตือนพวกเขา ทำให้พวกเขาตกใจกลัว
- โยบ 33:17 - เพื่อพระองค์จะได้หันพวกเขาไปเสียจากการกระทำชั่วของพวกเขา และเพื่อไม่ให้พวกเขาหยิ่งยโส
- โยบ 33:18 - เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาตกลงไปในหลุมลึกนั้น เพื่อชีวิตของพวกเขาจะได้ไม่ต้องข้ามแม่น้ำแห่งความตายนั้น
- โยบ 33:19 - อาจมีคนหนึ่งถูกตีสอนด้วยความเจ็บปวดอยู่บนเตียงของเขา และด้วยความปวดร้าวเรื้อรังในกระดูกของเขา
- โยบ 33:20 - จนเขาเบื่ออาหาร และไม่อยากกินแม้แต่อาหารที่เอร็ดอร่อยที่สุด
- โยบ 33:21 - เนื้อหนังของเขาเหี่ยวไป ไม่เห็นอีกเลย แต่กระดูกที่เมื่อก่อนมองไม่เห็น ก็โผล่ออกมา
- โยบ 33:22 - เขาก็คืบเข้าใกล้หลุมลึกนั้น ชีวิตของเขา ก็เข้าใกล้ความตาย
- โยบ 33:23 - แล้วสมมุติว่ามีทูตสวรรค์องค์หนึ่ง จากหลายพันองค์ของพระองค์มาพูดให้กับเขา และบอกว่าคนนี้ซื่อตรง
- โยบ 33:24 - ทูตองค์นั้นเมตตากับเขาและพูดกับพระเจ้าว่า ‘ช่วยปกป้องคนนี้ด้วย อย่าให้เขาต้องลงไปสู่หลุมลึกนั้น ข้าพเจ้ามีค่าไถ่ตัวเขาแล้ว
- โยบ 33:25 - ขอเนื้อหนังของเขากลับไปเหมือนเด็ก ขอให้กำลังของเขากลับคืนมาเหมือนวัยหนุ่ม’
- โยบ 33:26 - แล้วต่อจากนั้นคนนั้นอธิษฐานต่อพระเจ้าและพระองค์ยอมรับเขา เขาเข้าเฝ้าพระองค์ ด้วยความชื่นชมยินดี และพระองค์ทำให้เขากลับไปอยู่ในฐานะดีเหมือนเดิม
- โยบ 33:27 - เขาร้องเพลงให้คนฟังว่า ‘ข้าทำบาป และเห็นผิดเป็นชอบ แต่มันไม่คุ้มค่าเลย
- โยบ 33:28 - พระองค์ไถ่ชีวิตข้า ไม่ให้ลงไปสู่หลุมลึกนั้น เพื่อชีวิตของข้าจะได้พบแสงสว่างอีก’
- โยบ 33:29 - พระเจ้าเคยทำแบบนี้ในชีวิตของคนบางคน ครั้งแล้วครั้งเล่า
- โยบ 33:30 - เพื่อนำชีวิตของเขากลับจากปากหลุมลึกนั้น เพื่อเขาจะได้เห็นแสงสว่างแห่งชีวิตอีก
- โยบ 5:17 - คนที่พระเจ้าตักเตือนนั้นได้รับเกียรติจริงๆ ดังนั้นอย่าดูถูกการตีสอนจากพระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
- โยบ 5:18 - เพราะพระองค์ทำให้เกิดบาดแผลและพระองค์ก็พันแผลให้ พระองค์ทำให้บาดเจ็บและมือของพระองค์เยียวยาให้
- 2 โครินธ์ 6:9 - คนมองว่าไม่มีใครรู้จักเราทั้งๆที่เราเป็นที่รู้จักกันดี คนมองว่าเราใกล้จะตายแล้ว แต่ดูสิ เรายังมีชีวิตอยู่ คนมองว่าเราถูกพระเจ้าลงโทษ แต่ดูสิ เรายังไม่ตาย
- 1 โครินธ์ 11:32 - เวลาที่องค์เจ้าชีวิตลงโทษเรานั้น พระองค์กำลังตีสอน เพื่อเราจะได้ไม่ถูกตัดสินลงโทษพร้อมกับคนอื่นๆในโลกนี้