逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - บรรพบุรุษของเราไว้วางใจในพระองค์ และพระองค์ช่วยกู้พวกเขา
- 新标点和合本 - 我们的祖宗倚靠你; 他们倚靠你,你便解救他们。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 我们的祖宗倚靠你; 他们倚靠你,你解救他们。
- 和合本2010(神版-简体) - 我们的祖宗倚靠你; 他们倚靠你,你解救他们。
- 当代译本 - 我们的祖先信靠你, 他们信靠你, 你就解救他们。
- 圣经新译本 - 我们的列祖倚靠你, 他们倚靠你,你就救他们。
- 中文标准译本 - 我们的祖先依靠你; 他们依靠你,你就解救他们。
- 现代标点和合本 - 我们的祖宗倚靠你, 他们倚靠你,你便解救他们。
- 和合本(拼音版) - 我们的祖宗倚靠你。 他们倚靠你,你便解救他们。
- New International Version - In you our ancestors put their trust; they trusted and you delivered them.
- New International Reader's Version - Our people of long ago put their trust in you. They trusted in you, and you saved them.
- English Standard Version - In you our fathers trusted; they trusted, and you delivered them.
- New Living Translation - Our ancestors trusted in you, and you rescued them.
- Christian Standard Bible - Our ancestors trusted in you; they trusted, and you rescued them.
- New American Standard Bible - In You our fathers trusted; They trusted and You rescued them.
- New King James Version - Our fathers trusted in You; They trusted, and You delivered them.
- Amplified Bible - In You our fathers trusted [leaned on, relied on, and were confident]; They trusted and You rescued them.
- American Standard Version - Our fathers trusted in thee: They trusted, and thou didst deliver them.
- King James Version - Our fathers trusted in thee: they trusted, and thou didst deliver them.
- New English Translation - In you our ancestors trusted; they trusted in you and you rescued them.
- World English Bible - Our fathers trusted in you. They trusted, and you delivered them.
- 新標點和合本 - 我們的祖宗倚靠你; 他們倚靠你,你便解救他們。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 我們的祖宗倚靠你; 他們倚靠你,你解救他們。
- 和合本2010(神版-繁體) - 我們的祖宗倚靠你; 他們倚靠你,你解救他們。
- 當代譯本 - 我們的祖先信靠你, 他們信靠你, 你就解救他們。
- 聖經新譯本 - 我們的列祖倚靠你, 他們倚靠你,你就救他們。
- 呂振中譯本 - 我們祖宗所倚靠的是你; 他們倚靠 你 ,你便解救了他們。
- 中文標準譯本 - 我們的祖先依靠你; 他們依靠你,你就解救他們。
- 現代標點和合本 - 我們的祖宗倚靠你, 他們倚靠你,你便解救他們。
- 文理和合譯本 - 我之列祖、惟爾是恃、彼倚賴爾、爾救援之兮、
- 文理委辦譯本 - 我之列祖、惟爾是賴、蒙爾拯救兮、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 我儕列祖皆倚賴主、倚賴主即蒙救援、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 夫主固吾族之所口碑兮。精靈夙彪炳乎歌詩。
- Nueva Versión Internacional - En ti confiaron nuestros padres; confiaron, y tú los libraste;
- 현대인의 성경 - 우리 조상들이 주를 신뢰하고 의지했을 때 주께서는 그들을 구해 주셨습니다.
- Новый Русский Перевод - Пусть пойду в темноте долины смерти, не устрашусь я зла, потому что Ты со мной; Твой жезл и Твой посох – они успокаивают меня.
- Восточный перевод - Пусть пойду и долиною тёмной, как смерть, не устрашусь я зла, потому что Ты со мной; Твой жезл и Твой посох – они успокаивают меня.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Пусть пойду и долиною тёмной, как смерть, не устрашусь я зла, потому что Ты со мной; Твой жезл и Твой посох – они успокаивают меня.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Пусть пойду и долиною тёмной, как смерть, не устрашусь я зла, потому что Ты со мной; Твой жезл и Твой посох – они успокаивают меня.
- La Bible du Semeur 2015 - Pourtant, tu es le Saint qui sièges sur ton trône, ╵au milieu des louanges d’Israël.
- Nova Versão Internacional - Em ti os nossos antepassados puseram a sua confiança; confiaram, e os livraste.
- Hoffnung für alle - Du bist doch der heilige Gott! Du bist es, dem das Volk Israel seine Loblieder singt.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Các tổ phụ ngày xưa tin tưởng Chúa. Ngài đưa tay giải thoát lúc nguy nan.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายวางใจในพระองค์ เขาเหล่านั้นวางใจในพระองค์ และพระองค์ทรงช่วยกู้พวกเขา
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - บรรพบุรุษของเราไว้วางใจในพระองค์ ท่านเหล่านั้นไว้วางใจ และพระองค์ช่วยให้รอดพ้น
- Thai KJV - บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายวางใจในพระองค์ เขาทั้งหลายวางใจ และพระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้น
交叉引用
- ปฐมกาล 32:9 - แล้วยาโคบจึงพูดว่า “พระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัคพ่อของข้าพเจ้า พระยาห์เวห์ พระองค์บอกกับข้าพเจ้าว่า ‘กลับไปยังประเทศและครอบครัวของเจ้า แล้วเราจะทำให้เจ้าเจริญรุ่งเรือง’
- ปฐมกาล 32:10 - ข้าพเจ้าไม่สมควรที่จะได้รับความรัก ความซื่อสัตย์ ที่พระองค์มอบให้กับข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์เลย เพราะตอนที่ข้าพเจ้าข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้ไปนั้น ข้าพเจ้ามีแค่ไม้เท้าอันเดียว แต่เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าเจริญขึ้นจนเป็นสองกลุ่ม
- ปฐมกาล 32:11 - ได้โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของเอซาวพี่ชายของข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะข้าพเจ้ากลัวว่าเขาจะมาฆ่าข้าพเจ้า รวมทั้งแม่ทั้งหลายกับเด็กๆด้วย
- ปฐมกาล 32:12 - แต่พระองค์บอกว่า ‘เราจะทำให้เจ้าเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอน และเราจะทำให้เจ้ามีลูกหลานมากมาย เหมือนเม็ดทรายในทะเลที่ไม่มีวันนับได้หมด’”
- สดุดี 44:1 - ข้าแต่พระเจ้า พวกเราได้ยินกับหูของพวกเราเอง ถึงเรื่องราวต่างๆที่บรรพบุรุษเล่าให้พวกเราฟัง พวกเขาเล่าถึงสิ่งต่างๆที่พระองค์ทำในชั่วชีวิตของเขา ในสมัยก่อนโน้น
- สดุดี 44:2 - พวกเขาเล่าให้ฟังว่า ด้วยมือของพระองค์ พระองค์ขับไล่ชนชาติต่างๆออกไป และปลูกฝังบรรพบุรุษของเราแทน พระองค์ทำลายชนชาติเหล่านั้น และปล่อยให้บรรพบุรุษของพวกเราเป็นอิสระ
- สดุดี 44:3 - พวกเขาเล่าว่าไม่ใช่ดาบหรือแขนอันแข็งแกร่งของพวกเขาหรอกนะ ที่ทำให้พวกเขาชนะและได้แผ่นดินมา แต่เป็นมือขวาและแขนของพระองค์ และรัศมีจากใบหน้าของพระองค์ต่างหาก เพราะพระองค์พอใจในพวกเขา
- สดุดี 44:4 - ข้าแต่พระเจ้า พระองค์เป็นกษัตริย์ของข้าพเจ้า ขอพระองค์ออกคำสั่งที่จะทำให้ยาโคบชนะ
- สดุดี 44:5 - เราสามารถผลักดันคนเหล่านั้นให้ถอยล่นไปโดยพึ่งในพระองค์ เราเหยียบย่ำคนเหล่านั้นที่ลุกฮือขึ้นต่อต้านเราโดยพึ่งชื่อของพระองค์
- สดุดี 44:6 - ข้าพเจ้าไม่ได้ฝากความไว้วางใจไว้กับธนูของข้าพเจ้า และมันก็ไม่ใช่ดาบของข้าพเจ้าที่นำชัยชนะมาให้กับข้าพเจ้า
- สดุดี 44:7 - ข้าแต่พระองค์ พระองค์ทำให้เรามีชัย พระองค์ทำให้คนพวกนั้นที่เกลียดพวกเราอับอายขายหน้า
- อพยพ 14:31 - ชาวอิสราเอลได้เห็นพระยาห์เวห์ใช้มือที่เต็มไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ ต่อต้านชาวอียิปต์ พวกเขาจึงเกรงกลัวพระยาห์เวห์ และไว้วางใจในพระองค์ และในโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ด้วย
- ฮีบรู 11:8 - เป็นเพราะอับราฮัมไว้วางใจนี่เอง เมื่อพระเจ้าเรียกเขาออกเดินทางไปที่แผ่นดินที่เขาจะได้รับเป็นมรดก เขาก็เชื่อฟังและออกเดินทางไป แม้ไม่รู้ว่ากำลังจะไปไหน
- ฮีบรู 11:9 - เป็นเพราะอับราฮัมไว้วางใจนี่เอง เขาถึงได้มาอยู่อย่างคนต่างด้าวในแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญาไว้ เขาได้พักอยู่ในเต็นท์เหมือนกับอิสอัคและยาโคบลูกหลานของเขา ผู้ที่จะได้รับมรดกร่วมกันกับอับราฮัมตามสัญญาอันเดียวกันที่พระเจ้าให้นั้น
- ฮีบรู 11:10 - ที่อับราฮัมทำอย่างนี้ ก็เพราะเขากำลังรอคอยเมือง ที่มีรากฐานมั่นคงถาวร เป็นเมืองที่พระเจ้าออกแบบและสร้างเอง
- ฮีบรู 11:11 - เป็นเพราะอับราฮัมไว้วางใจนี่เอง เขาถึงเชื่อว่าพระเจ้าซื่อสัตย์และจะทำตามสัญญา พระเจ้าถึงให้อับราฮัมมีลูกได้ ถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะแก่เกินกว่าที่จะมีลูกได้แล้ว และซาราห์เองก็เป็นหมัน
- ฮีบรู 11:12 - ด้วยเหตุนี้ จากชายคนเดียวกันนี้ที่มีสภาพเหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว ยังสามารถที่จะมีลูกหลานเกิดขึ้นมากมายเท่ากับดวงดาวในท้องฟ้า และมากมายเท่ากับเม็ดทรายบนฝั่งทะเลที่นับไม่ถ้วน
- ฮีบรู 11:13 - คนพวกนี้ทั้งหมดตายไปในขณะที่ยังไว้วางใจอยู่ ถึงแม้พวกเขายังไม่ได้รับสิ่งที่พระเจ้าได้สัญญาไว้ เพียงแค่ได้เห็นแต่ไกลและยินดีต้อนรับสิ่งที่พระเจ้าได้สัญญานั้นไว้ พวกเขายังยอมรับอีกว่าตัวพวกเขาเองเป็นแค่คนแปลกหน้าและคนต่างด้าวในโลกนี้
- ฮีบรู 11:14 - ที่เขาพูดอย่างนี้แสดงว่าพวกเขากำลังแสวงหาบ้านเมืองที่จะเป็นของเขาเอง
- ฮีบรู 11:15 - ถ้าพวกเขาคิดถึงบ้านเมืองที่พวกเขาจากมา เขาก็ยังมีโอกาสที่จะกลับไปได้
- ฮีบรู 11:16 - แต่พวกเขากำลังใฝ่ฝันถึงบ้านเมืองที่ดีกว่านั้น คือเมืองแห่งสวรรค์ พระเจ้าถึงไม่อับอายที่ได้ชื่อว่าเป็นพระเจ้าของพวกเขา เพราะพระองค์ได้เตรียมบ้านเมืองไว้สำหรับพวกเขาแล้ว
- ฮีบรู 11:17 - เป็นเพราะอับราฮัมไว้วางใจนี่เอง เมื่อพระเจ้ามาลองใจเขา เขาก็ได้ถวายอิสอัคลูกชายเพียงคนเดียวเป็นเครื่องบูชา เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พระเจ้าได้สัญญากับอับราฮัมว่า “ลูกหลานของเจ้าจะสืบเชื้อสายมาจากอิสอัค” อับราฮัมรับคำสัญญาแล้ว แต่ก็ยังพร้อมที่จะถวายลูกชายเพียงคนเดียว
- ฮีบรู 11:19 - เพราะอับราฮัมถือว่าพระเจ้าสามารถทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้ อาจจะพูดได้ว่า เขาก็ได้รับอิสอัคกลับคืนมาจากความตาย
- ฮีบรู 11:20 - เป็นเพราะอิสอัคไว้วางใจนี่เอง เขาถึงได้ให้พรกับทั้งยาโคบและเอซาว แก่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
- ฮีบรู 11:21 - เป็นเพราะยาโคบไว้วางใจนี่เอง เมื่อเขากำลังจะตาย เขาถึงได้ให้พรกับลูกทั้งสองคนของโยเซฟ และได้นมัสการพระเจ้าขณะที่พิงอยู่ที่ปลายไม้เท้าของเขา
- ฮีบรู 11:22 - เป็นเพราะโยเซฟไว้วางใจนี่เอง ในบั้นปลายชีวิตเขาได้พูดถึงเรื่องที่ประชาชนอิสราเอลจะอพยพออกจากอียิปต์ และสั่งเสียให้เอากระดูกของเขาไปด้วย
- ฮีบรู 11:23 - เป็นเพราะพ่อแม่ของโมเสสไว้วางใจนี่เอง เมื่อโมเสสเกิดมา พวกเขาถึงได้ซ่อนตัวเด็กไว้ถึงสามเดือน เพราะพ่อแม่เห็นว่าเขาเป็นเด็กที่มีหน้าตาโดดเด่น และพวกเขากล้าขัดคำสั่งของกษัตริย์
- ฮีบรู 11:24 - เป็นเพราะโมเสสไว้วางใจนี่เอง เมื่อเขาโตขึ้น เขาถึงได้ยอมสละฐานะลูกของลูกสาวฟาโรห์
- ฮีบรู 11:25 - เขาเลือกที่จะถูกกดขี่ข่มเหงร่วมกับประชาชนของพระเจ้า แทนที่จะมีความสนุกสนานชั่วคราวกับความบาป
- ฮีบรู 11:26 - เขาถือว่าความอับอายขายหน้าเพื่อพระคริสต์ มีค่ามากกว่าทรัพย์สมบัติของประเทศอียิปต์ เพราะเขามองไปข้างหน้าถึงรางวัลที่จะได้รับ
- ฮีบรู 11:27 - เป็นเพราะโมเสสไว้วางใจนี่เอง เขาถึงได้ออกจากประเทศอียิปต์โดยไม่เกรงกลัวความโกรธของฟาโรห์ เขามีใจมานะอดทนราวกับว่าเขาได้เห็นพระเจ้าผู้ที่ไม่สามารถมองเห็นได้
- ฮีบรู 11:28 - เป็นเพราะโมเสสไว้วางใจนี่เอง เขาถึงได้จัดตั้งเทศกาลวันปลดปล่อย และสั่งให้ประพรมเลือดที่ประตู เพื่อไม่ให้ทูตแห่งความตาย มาแตะต้องลูกชายหัวปีของประชาชนอิสราเอล
- ฮีบรู 11:29 - เป็นเพราะคนอิสราเอลไว้วางใจนี่เอง พวกเขาถึงได้เดินข้ามทะเลแดงเหมือนกับเดินอยู่บนพื้นดินแห้ง แต่เมื่อพวกอียิปต์พยายามที่จะทำอย่างนั้นบ้าง พวกเขาก็จมน้ำตายหมด
- ฮีบรู 11:30 - เป็นเพราะคนอิสราเอลไว้วางใจนี่เอง หลังจากที่พวกเขาเดินรอบกำแพงเมืองเยริโคเป็นเวลาเจ็ดวัน กำแพงนั้นก็พังลงมา
- ฮีบรู 11:31 - เป็นเพราะราหับหญิงโสเภณีไว้วางใจนี่เอง เธอถึงไม่ถูกฆ่าตายไปพร้อมๆกับคนที่ไม่เชื่อฟังพวกนั้น เพราะเธอได้ต้อนรับและช่วยคนสอดแนมอย่างเป็นมิตร
- ฮีบรู 11:32 - จะให้พูดอะไรมากกว่านี้อีกหรือ มีเวลาไม่พอที่จะเล่าถึงเรื่องกิเดโอน บาราค แซมสัน เยฟธาห์ ดาวิด ซามูเอล และพวกผู้พูดแทนพระเจ้า
- โรม 4:18 - เมื่อพระเจ้าสัญญากับอับราฮัมว่าเขาจะได้เป็นบรรพบุรุษของคนหลายชนชาติ ท่านก็ไว้วางใจและมีความหวังอย่างเต็มที่ ทั้งๆที่คำสัญญานั้นเหลือเชื่อ แต่ในที่สุดท่านก็ได้เป็นบรรพบุรุษของคนหลายชนชาติจริงตามที่พระเจ้าบอกกับท่านว่า “ลูกหลานของเจ้าจะมีมากมายเหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้า”
- โรม 4:19 - ความไว้วางใจของอับราฮัมก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย ทั้งๆที่อับราฮัมรู้ว่าร่างกายของท่านหมดสภาพเหมือนตายแล้ว (เพราะท่านมีอายุประมาณหนึ่งร้อยปี) และท่านยังรู้อีกด้วยว่าครรภ์ของนางซาราห์เมียของท่านเป็นหมันเหมือนกับตายไปแล้ว
- โรม 4:20 - แต่อับราฮัมไม่เคยสงสัยในคำสัญญาของพระเจ้าเลย กลับมีความไว้วางใจมากขึ้น ซึ่งเป็นการให้เกียรติกับพระเจ้า
- โรม 4:21 - อับราฮัมเชื่ออย่างแน่วแน่ว่า พระเจ้าสามารถทำในสิ่งที่พระองค์ได้สัญญาไว้
- โรม 4:22 - “พระเจ้าจึงนับว่าความไว้วางใจของท่านนั้นเป็นสาเหตุเพียงพอที่จะยอมรับท่าน”
- ปฐมกาล 15:6 - แล้วอับรามก็ไว้วางใจในพระยาห์เวห์ และเพราะความไว้วางใจของอับรามนั่นเอง พระองค์ถึงได้ยอมรับเขา
- ปฐมกาล 32:28 - ชายคนนั้นพูดว่า “ชื่อของเจ้าจะไม่ใช่ยาโคบอีกต่อไป แต่จะเป็นอิสราเอล เพราะเจ้าได้ต่อสู้กับพระเจ้าและมนุษย์ และเจ้าก็ชนะด้วย”
- 1 ซามูเอล 7:9 - ซามูเอลจึงเอาลูกแกะที่ยังไม่หย่านมมาถวายเป็นเครื่องเผาบูชาให้กับพระยาห์เวห์ ซามูเอลร้องขอต่อพระยาห์เวห์แทนชาวอิสราเอล และพระยาห์เวห์ก็ตอบเขา
- 1 ซามูเอล 7:10 - ขณะที่ซามูเอลกำลังเผาเครื่องบูชาอยู่นั้น คนฟีลิสเตียได้บุกเข้ามาใกล้แล้วเพื่อสู้รบกับคนอิสราเอล แต่วันนั้นพระยาห์เวห์ทำให้เกิดฟ้าร้องสนั่นหวั่นไหวใส่คนฟีลิสเตีย ทำให้พวกเขาตกใจขวัญหนีดีฝ่อ และถอยหนีไปจากคนอิสราเอล
- 1 ซามูเอล 7:11 - คนอิสราเอลรีบออกมาจากเมืองมิสปาห์ และไล่ล่าฆ่าฟันคนฟีลิสเตีย ไปตลอดทางจนถึงบริเวณที่อยู่ใต้เมืองเบธคาร์
- 1 ซามูเอล 7:12 - จากนั้นซามูเอลก็นำก้อนหินก้อนหนึ่งมาตั้งไว้ระหว่างเมืองมิสปาห์และเมืองเยสชานาห์ และตั้งชื่อหินก้อนนั้นว่า “เอเบนเอเซอร์” และพูดว่า “พระยาห์เวห์ได้ช่วยเหลือพวกเรามาจนถึงที่นี่”
- อพยพ 14:13 - โมเสสพูดกับประชาชนว่า “ไม่ต้องกลัว ให้ยืนดู พระยาห์เวห์จะช่วยเหลือพวกท่านในวันนี้ ส่วนชาวอียิปต์ที่ท่านเห็นในวันนี้ ท่านก็จะไม่ได้เห็นพวกเขาอีกตลอดกาล
- อพยพ 14:14 - พระยาห์เวห์จะต่อสู้ให้กับพวกท่านเอง ขอให้พวกท่านอยู่เฉยๆ”